เมื่อถึงเวลา พระศรีอริยะเมตไตรย์ ท่านจะโปรดสัตว์ด้วยเรื่องอะไร?

เป็นความสงสัยส่วนตัว แต่ไม่ได้ลบหลู่ เหตุที่พระพุทธเจ้า พระสมณะโคดม ออกบวช ก็เนื่องด้วยความกลัวจากการเห็น การเจ็บ การแก่ การตาย และโปรดสัตว์ด้วยระยะเวลาที่เหมาะสมกับเวลา แต่
พระศรีอริยเมตไตรย์ จักเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๕ ในภัททกัปป์นี้ จะมีอายุถึง ๘ หมื่นปีในยุคพระศรีอริยเมตไตรย์นั้น สภาพสังคมมนุษย์จะอุดมสมบูรณ์พูนสุขมาก เพราะผู้คนมีศีลธรรมอยู่กันด้วยความเมตตาธรรม มีศีล ๕ บริสุทธิ์ทุกคน จึงมีทรัพย์สมบัติมาก มีอายุยืนยาว ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ มีรูปร่างหน้าตาสวยสดงดงาม ผ่องใสเบิกบานด้วยศีลธรรมกันหมดและเพราะบารมีของพระพุทธเจ้า
ศรีอริยเมตไตรย์ ที่สั่งสมบารมีเพื่อความสุขสันติของโลก ซึ่งมีพระเจ้าสังขจักพรรดิทรงปกครองบ้านเมืองโดยชอบธรรมในเมืองเกตุมวดีนคร แผ่ธรรมจักรพรรดิให้คนรักษาศีล ๕ ทั้งโลก เมื่อพระศรีอริยเมตไตรย์ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้วผู้คนจึงได้ฟังพระธรรมจักร ได้ดื่มรสอมตะธรรมแห่งพระศรีอริยเมตไตรย์ ได้บรรลุธรรมถึงสวรรค์นิพพานโดยแท้ ผู้คนในยุคนั้นจึงโชคดีที่สุดเกิดมาเพื่อสันติสุข เข้าถึงศีลธรรมอันดีงามทั้งหมด
ผมอ่านดูแล้ว น่าจะเป็นโลกและสังคมที่ดีงาม "แล้วท่านจะโปรดและชี้ให้เห็นเกี่ยวกับ การ เกิด แก่ เจ็บ ตาย" ยังไง เพราะ ไม่ว่าจะเป็นด้านอายุ ก็อายุยืนนาน ความลำบากในด้านการหาทรัพย์สิน ก็ไม่มี การเบียดเบียนซึ่งกันและกันก็ไม่มี โรคภัยไข้เจ็บก็ไม่มี
อันนี้แหละครับที่ผมสงสัย เพราะปัญญาผมมีแค่นี้ เลยอยากถามเพื่อน ๆ ดู เพราะไม่แน่ว่า พระพุทธเจ้าที่ท่านโปรดสัตว์ในโลกแบบนี้ น่าจะเคยมีมาแล้ว

 

เจ้าชายสิทธัตถะไม่ได้กลัวนะครับ แต่หลังจากเห็วทูตทั้งสี่แล้วเกิดดำริได้ว่าทางที่สรรพสัตว์ทั้งหลายจะพ้นทุกข์ได้คือสมณะ จึงได้ออกจากการครองเรือนแล้วครองเพศเป็นสมณะตามที่เราเรียนมานั่นแล ส่วนพระโพธิสัตว์ที่จะได้ตรัสรู้เป็นพระศรีอริยเมตไตรย์ ท่านก็ต้องมีเหตุที่ทำให้ท่านดำริได้ว่าทางที่สรรพสัตว์ทั้งหลายจะพ้นทุกข์ได้คือสมณะด้วยเช่นกัน

 

ชาตินี้ต้องเข้าพระนิพพานให้ได้ ถ้าไม่ได้ก็ต้องไปเกิดในยุคพระศรีอริยะเมตไตรย์ จริงไหม ครับ

 

ในยุคนั้นก็มีการเกิดแก่เจ็บตายเหมือนกันครับ เพียงแต่อายุยืนกว่าเท่านั้นเอง การเกิดเป็นทุกข์ การแก่เป็นทุกข์ การตายเป็นทุกข์ อายุ8หมื่นปีก็อาจจะต้องตายเพราะความเจ็บป่วย ใช่ทุกคนจะอยู่ถึง8หมื่นปี ลองคิดดูว่าบั่นปลายชีวิตที่เราเป็นคนชรา2หมื่นปีจะลำบากขนาดไหน ตอนเป็นเด็ก2หมื่นปีจะเป็นยังไง พระองค์คงเห็นทุกข์ในข้อนี้เหมือนกับพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ครับ

 

อริยสัจ 4

พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ตรัสเรื่องเดียวกันคือ อริยสัจ 4 และท่านได้พิจารณาแล้วว่าในยุคที่ท่านอุบัติขึ้นนั้นเหมาะสมที่จะแสดงธรรม ทุกอย่างที่ท่านกล่าวนั่นหมายถึงท่านพิจารณาด้วยสัพพัญญุญาณแล้วว่าเราเข้าใจและปฏิบัติตามได้ การตรัสโดยไม่พิจารณาด้วยญาณย่อมไม่มีในพระองค์

 

ตอบ คุณ makcloud
เหนือโลกที่มีธรรมต้องใฝ่หาข้อเท็จจริงให้ได้ ด้วยอารมณ์ของธรรมที่มีอยู่จริงในจักรวาล อย่าใช้ความรู้สึกที่ยังติดสมมุติในโลก ทั้งที่ยังไม่ได้เปิดกว้างอย่างแท้จริง สิ่งใดที่เราท่านทั้งหลาย ยังรู้ไม่แจ้งด้วยปัญญาธรรมยังมีอีกมากหลายที่เหล่าคนธรรมยังรู้ไม่ครบองค์รวม เพราะในธรรมชาตินั้น กว้างใหญ่เกินกว่าที่มนุษย์จะรู้หรือสัมผัสได้ยังมีอยู่มาก และก็มีทั้งคุณและโทษถ้านำมาใช้ในโลกของมิติที่เราท่านเป็นอยู่ทุกวันนี้ ขอให้ธรรมที่พระผู้มีประภาคเจ้าองค์ปัจจุบันนำมาแสดงไว้นั้น สามารถนำพาเหล่าสาวกที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบทั้งหลายพ้นจากทุกข์ได้ก็ประเสริฐสุดแล้ว แต่ถ้าเป็นธรรมในยุค "ศรีอริยร์เมตไตร" แล้ว ต้องมีเรื่องฤทธิ์เข้ามาเป็นส่วนประกอบเป็นส่วนใหญ่ เหตุที่ต้องใช้ฤทธิ์ก็เพราะมนุษย์เข้าสู่ยุคของอธรรมมากกว่าคุณธรรม และพึ่งพาสิ่งที่ให้ประโยชน์แก่ตนมากกว่าคุณธรรม เช่น ไปเคารพสิ่งที่เราท่านเรียกว่า "ภูตผีปีศาจ อาคมมนต์ดำ ธรรมจึงถูกจำกัดความว่าเป็นต้นแบบของเวทมนต์ไปหมดสิ้นความหมายที่จะเป็นธรรมที่หลุดพ้นจากบาปกรรมทำเวร หรือเรียกอีกอย่างว่า "ก่อกรรมทำเข็น" ผู้มีความหมายแห่งอารยธรรม จึงต้องกำจัดเหล่าหมู่มารด้วยฤทธิ์แห่งพลังของจักรวาล ไม่เช่นนั้นพวกหมู่มารก็จะทำการลบล้างคุณธรรมที่ดีงาม ของพระพุทธองค์ลงได้เช่นกัน ขอเราท่านทั้งหลายอย่าได้ประมาทว่า มารจะชนะพุทธะได้อย่างไร ในเมื่อน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ ถ้าสิ่งที่ดีถูกลบล้างด้วยความชั่วได้ แล้วคนที่ทำดีจะมีที่ให้ยืนอยู่ได้หรือไม่ นอกจากยอมให้ความชั่วกัดกินใจเราท่านให้หมองไหม้ จนกว่าเราท่านจะตายไปอย่างนั้นหรือ เมื่อความจริงยังไม่ปรากฏชัดแจ้ง หมู่เหล่าชาวพระศรีอริยร์ ก็ต้องลงมาทำหน้าที่ปกป้องเหล่าคุณธรรม ในกาลครั้งนี้อย่างหลีกเลี่ยงมิได้ และจะสร้างโลกให้หน้าอยู่โดยใช้ธรรมปกครองโลก ให้โลกยอมรับว่า ถ้าธรรมมะไม่กลับมาโลกาจะวินาศ และการเป็นอยู่ของชาวโลกให้ใช้ความจริงว่า ควรยอมรับกับสังคม ที่นำพาเหล่าสาวกของทุกศาสนาให้เป็นศาสนาแห่งความรัก มีจิตที่แน่วแน่กับธรรม สร้างสันติภาพคืนสุขให้กับสิ่งดี ๆ ที่อยู่ร่วมกันในโลกใบนี้ ดั่งคำสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งรัชกาลที่ 9 ของปวงชนชาวไทย ที่สอนให้รู้จักคำว่า พอเพียง และเป็นคำตรัสสอนให้ชาวโลก ได้เห็นคุณค่าของเศรษฐกิจพอเพียงว่าหล่อเลี้ยงคนทั้งโลกได้จริง และไม่สร้างข้อขัดแย้ง หรือเอารัดเอาเปรียบใคร ๆ ในสาระประโยชน์จึงมีมากเกินกว่าจะพรรณนาได้ทั้งหมด และขอให้ผู้ที่คิดร้ายทำลายล้าง อย่ามองข้้ามกุศลที่พระองค์ทำมาตลอดการครองราชอันยาวนานกว่ากษัตริย์องค์ใดในโลก แสดงถึงพระองค์นั้น เป็นสมมุติเทพพรหมมาจุติแล้วยิ่งใหญ่เพียงใด แล้วผู้ที่คิดร้ายกับพระองค์จงรีบสำนึกให้เร็วไว ไม่เช่นนั้นบาปกรรมก็ไม่อาจจะลบล้างได้เลย ขอความสุขทุกสถานจงมีแก่ผู้ที่มีธรรมเป็นนิจ และโอกาสที่เราท่านสามารถมีกระแสธรรมที่เป็นมิตรซึ่งกันและกันได้ ทำให้ท่านเหล่านั้น พ้นจากเหตุเภทภัยทั้งหลายทั้งปวง ด้วยธรรมที่สะอาดหมดจดและคงคุณค่าไว้แก่เหล่าสาวกสืบต่อไป สาธุ..บุญรักษาพ้นภัยเถิด นมัสการองค์ธรรม...

6-6-55

 

อนุโมทนาครับ

พระพุทธเจ้าทุกๆๆพระองค์ พระองค์ไม่กลัวอะไรครับ แต่พระพุทธเจ้าทุกๆๆพระองค์ทรงต้องการหลุดพ้นและต้องการขนเวนัยสัตว์ทั้งหลายให้ข้ามพ้นวัฏฏะฯ นะครับ


ส่วนเรื่องการโปรดเวนัยสัตว์นั้น พระพุทธเจ้าทุกๆๆๆพระองค์ จะทรงโปรดเวนัยสัตว์เหมือนๆๆๆกัน จะทรงโปรดเวนัยฯตามอัธยาศัยของแต่ละบุคคล นะครับ
​

 

พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ท่านจะโปรดสัตว์ โดยชี้ให้เห็น ทุกข์ที่จะได้รับ หากยังต้องเวียนว่ายตายเกิด ในสังสารวัฏ และชี้ทางให้พ้นทุกข์ เพื่อหลุดพ้นจากสังสารวัฏ

 

น่าจะแค่บารมีก็สุขได้ผู้คนยุคนั้นก่อเกิดจากผู้มีศิลธรรมไม่จะสอนอะไรมากเพราะเขาเกิดจากความดี ขาดแต่แสงนำทางหลุดพ้น น่าจะเป็นไปได้ค่ะที่ท่านอ่านพูดอะไรคำเดียวคนๆดีก็นิพพาน

 

พระพุทธเจ้าสมณโคดม ทรงพิจารณาที่จะมาอุบัติเป็นพระพุทธเจ้าในภทรกัปนี้เพราะ ทรงเห็นว่ามนุษย์ในยุคนี้ มีอายุที่เหมาะสม คืออายุไม่เกิน 100 ปี อย่างเฉลี่ย ไม่เกิน 75-80ปี ก็ต้องตาย จะเห็น สัจธรรมที่พระองค์ ตรัสรู้และสั่งสอน เป็นจริง คือ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ล้วนเป็นทุกข์

 

อายุยืนกี่หมื่นปี ก็เรียกได้ว่ายังคงอยู่ในสังสารวัฏอยู่ดีครับ พระพุทธเจ้าโปรดสัตว์เพื่อพ้นจากสังสารวัฏครับ

 

นานาจิตตัง....ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องธรรมดาของโลก

 

อายุแค่ 100 ปี บางคนยังรู้สึก เบื่อหน่ายกับชีวิต เลย ถึงแม้จะรวย มีทุกข์อย่างแต่ ก็ยังเบื่อหน่าย เพราะจุดอิ่มตัวของชีวิต คือ มีทุกสิ่งที่ต้องการแล้ว แล้วต่อไปจะต้องการอะไรเล่า พอหมดความต้องการ ก็กลายเป็นความว่างเปล่า เบื่อหน่ายชีวิต ไม่มีอะไรมาดึงดูดให้มีชีวิตอยู่ น่าเบื่อยิ่งนัก แต่ถ้า มีอายุ 8 หมื่อนปี จะทนกับความเบื่อหน่ายได้หรือ อีกอย่าง มนุษย์จะไม่เต็มโลกใบนี้หรือ แค่ 100 ปี ยังมีมนุษย์เยอะขนาดนี้ ตายทุกวันเกิดทุกวัน แล้ว 8 หมื่นปี มันจะเป็นอย่างไร ในความคิดผม อายุ 8 หมื่นปี ถือว่าอยู่ระดับ เซียน แล้วนะครับ น่าจะเป็น เหมือน สมัยก่อน คือ โลกมนุษย์ กับสวรรค์ ไปมาหาสู่กันได้นะครับ ....

 

ขออนุญาติตอบนะครับ

ท่านคิดยังว่าพระธรรมของพระพุทธองค์เหมือนกันทุกองค์ไหม (เหมือนครับ)

แล้วทำไมถึงมีพระพุทธเจ้ามาแล้วจำนวนมาก ( ก็เพราะว่ามันมียุคที่ รุ่งเรื่อง ดำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา และ ยุคที่ปราศจากศาสนาพุทธ เกิดขั้น ตั้งอยู่ ดับไป )

ที่พระพุทธองค์ตรัสรู้ ก็ตรงกับยุคที่ว่างจากพระพุทธศาสนา

พระปัจเจกท่านก็ตรัสรู้ ตรงกับยุคที่ว่างจากพระพุทธศาสนา

ไม่ได้มาตรัสรู้พร้อมหรือทับซ้อนกันครับ (ธรรมมะก็เช่นเดียวกัน เพราะธรรมมะ คือ ความจริง )

หากผมพูดผิดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ตอบด้วยภูมิธรรมเพียงเล็กน้อย

คิดว่าตรงประเด็นนะครับ

 

ข้อเท็จจริงก็คือ พระศรีอาริย์ตอนนี้เป็นมนุษย์เกิดอยู่ในยุคปัจจุบันนี้แหละ แต่จะมีอายุยืนยาวจนครบ 80,000 ปี จึงจะตรัสรู้เป็นพระศรีอาริย์ ซึ่งตอนนั้นทุกมิติเปิดหมดแล้วและอาศัยอยู่ในจักรวาลร่วมกันเป็นสังคมจักรวาล ซึ่งตอนนั้นพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันก็ยังอยู่ร่วมสมัยด้วย มันเป็นเรื่องของจักรวาลไม่ใช่เฉพาะโลกเท่านั้น และที่สำคัญต่อไปจักรวาลจะปกครองด้วยระบบกษัตริย์ ก็คือองค์จักรพรรดิ์นั่นเอง เรื่องของโลกเป็นแค่เรื่องจิ๊บๆ เท่านั้นถ้าเทียบกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า

 

อืมใช่ ตามแต่อัธยาศัยของแต่ละบุคคล หรือตามแต่ "เอกลักษณ์" ของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ที่แตกต่างกันไป แต่มีความเป็นพุทธเจ้าเสมอเหมือนกัน

 

เอวังๆๆ รู้น้อยๆกับปัจจุบันดีกว่ารู้มากๆ แล้วโรคประสาทถามหานะจะบอกให้ ทำจิตให้ว่างไว้ ด้วยการทำใจหยุดนิ่งๆก็ยากแล้ว เรื่องยุคพระศรีฯหากมีบุญถึง ก็รู้เองแล...เอวังๆๆๆ

 

อืม พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ก็สอนแบบนี้เหมือนๆกันหมด เพียงแต่ว่า

พระโพธิสัตว์เนี่ย คือผู้ที่ "ยังอยากที่จะช่วยเหลือสรรพสัตว์ต่อ ยอมรับความทุกข์ในการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏต่อ ท่านก็เชื่อพระพุทธเจ้าเหมือนๆกัน เพียงแต่ว่า ท่านมีเมตตาสงสารต่อสรรพสัตว์มากกว่า ก็เลยเลือกที่จะมาเกิด แล้วมารับทุกข์(เพื่อผู้อื่น) และทำเพื่อผู้อื่นอยู่เรื่อยๆ (โง่ไหมล่ะ)"

ก็เลย

ไปต่อออ...................(โง่บรมมอ่ะ)

ปล. อิฉันไม่ได้ไปต่อนะค๊ะ เพียงแต่ว่า อิฉันอ่ะ เลือกด้ายยยย 55555

แล้วในที่สุดของความโง่ขั้นสุดยอด บวกกับความเสียสละขั้นสุด ท่านจึงได้สำเร็จบรรลุเป็น พระพุทธเจ้า 555555555

(เป็นหนึ่งไม่มีใครเทียมจริงๆ) (โง่เป็นที่ 1 และก็เสียสละ เป็นที่ 1)

 

ก็นั่นแหละ แล้วจะมาตั้งกระทู้ทำไมล่ะเน๊าะะะ


ก็ไปเกิดในยุคนั้นกันเอาเอง รู้เอง

แค่เนี้ยยย..............จบข่าววว

 

ไปถามท่านเอาเองเน้อออ ว่าเรื่องที่ท่านจะโปรดเป็นเรื่องอะไร แหมมม อยากจะรู้ไปหมดก็เงี้ยยย 555