รบกวนถาม อ.อาชวิน และสมาชิกทุกท่านครับ

สวัสดีครับ อ. อาชวิน และสมาชิกบอร์ดทุกท่าน (ผมเข้ามาแอบอ่านตั้งเกือบปีแล้ว เพิ่มสมัครสมาชิกนี่แหละครับ ^_^)
<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
ผมโจ้ครับ คนที่ช่วงตอนปีใหม่ไปกับเพื่อนอีกสองคน ไปหา อ. อาชวิน ที่ซอยละลายทรัพย์น่ะครับ (ที่เราคุยเรื่องที่ London กันน่ะครับ- อ คงจำไม่ได้เพราะคนไปหาเยอะมาก) แล้ว อ ก็ได้แนะนำหนังสือ Hands of Light ให้ หลังจากไปหา อ อีกสองวันพวกผมก็กลับไปเรียนต่อที่อังกฤษเลย ไม่ได้ติดต่อ อ อีกเลย
ผมมีคำถามข้อเดียวเองครับ คือตอนที่ อ ให้เอามือขึ้นมาแล้ว อ ดันพลังมาที่มือผม ตอนนั้นผมรู้สึกถึงกระแฟไฟอ่อนๆ ที่เกิดขึ้น กับตอนที่ อ วัดพลังวัตถุมงคล แล้วให้ผมเอามือมาแทรกด้วย ความรู้สึกทีได้คล้ายๆ กัน ต้องยอมรับว่าตั้งแต่เกิดมาเพิ่งเคยรู้สึกแบบนี้
หลังจากนั้นผมลองกลับมาฝึกที่บ้าน ลองเอามือมาอังกันเองก่อน จนรู้สึกแปร๊บๆ อุ่นๆ เหมือนมีก้อนอะไรอยู่ แล้วลองเอามือไปวางเหนือวัตถุมงคล หรือหิน ตอนแรกๆ ก็สัมผัสได้แบบอ่อนๆ คิดว่าอุปทาน
ทีนี้ผมเลยให้เพื่อนช่วยโดยการ วางหินคริสตัล ไว้ตรงไหนก็ได้ของโต๊ะ ส่วนผมหลับตา แล้วให้เอามือลากผ่านไปมา ผมสามารถบอกได้ว่าหินตั้งอยู่ตรงไหน ลองหลายทีก็ยังทำได้ หลังจากนั้นผมก็วัดพลังทั้งพระเครื่อง หินทิเบตได้จากแรงสั่นสะเทือนแบบถี่ๆ ที่มากระแทกตรงกลางมือครับ ก็ฝึกมาเรื่อยๆ บางทีเดินไปยืนอยู่ห่างห้าเมตรก็รู้สึกได้ (เฉพาะบางวัตถุที่แรงจริงๆ)
จนตอนหลังบางทีมือมันแปร๊บๆ สั่นสะเทือนเอง บางทีกำลังจะนอนมันก็สั่นแปร๊บๆ ถี่มากๆ ตรงกลางผ่ามือ สั่นแรงนานเหมือนกัน หรือบางทีถ้านั่งเงียบๆ มั่นก็สะเทือนเอง จนผมสงสัยว่ามันคืออะไรเหรอครับ <o></o>
ผมสงสัยว่าตอนนั้นมีวิญญาณหรือพลังงานอะไรอยู่แถวนั้นเหรอครับ
อ้อแต่ที่สำคัญผมทำได้เฉพาะมือซ้ายนะครับ ผมฝึกอยู่ข้างเดียว
<o></o>
หมดคำถามแล้วครับ หนังสือ Hands of Light ผมหาได้แล้วนะครับ เหลือเล่มสุดท้ายในร้านด้วย อ่านไปได้ไม่กี่บทเอง เกี่ยวกับฟิสิกส์เยอะมาก ช่วงแรกๆ ไอ้ตัวผมก็เรียนแผนศิลป์มา เลยกะว่าไว้ค่อยอ่านจริงจังหลังเรียนจบละกันครับ เดือน กย ผมก็จบแล้ว และคงไปหา อ แน่นอนครับ
อีกเรื่องนะครับ คือตอนนั้นที่ อ ทำนายเรื่องการเรียนของผมกับเพื่อนๆ ปรากฏว่าตรงมากกก ตรงอย่างเหลือเชื่อจนเพื่อนผมยัง งง ด้วยเลย
<o></o>
ขอบคุณมากครับ

 

ดีใจด้วยที่ได้ไปเรียนที่ อังกฤษ
เข้าใจว่า คงอยู่ในกรุงลอนดอน ทั้งสองคน

ดีใจที่จะได้เป็น สมาสชิกนักเรียนเก่า อังกฤษด้วยกัน
ผมเคยเรียนที่ แมนเชสเตอร์ ในสาขา นิวเคลียร์เทคโนโลยี

เมืองแมนเชสเตอร์ คือ ที่ตั้งของ ทีมฟุตบอลล์ แมนเชสเตอร์ซิตี้
ที่อดีตนายกทักษิณ ได้ ซื้อ ไว้ เมื่อ เร็วๆๆนี้

ผมเป็นสมาชิกของทีมแมนยู ครับ

 

หนังสือ Hands of Light ที่ซื้อไว้ เป็นหนังสือ Best Seller
เขียนโดย นักวิทยาศาสตร์ของ องค์การ นาซ่า
หรือการบินอวกาศของ อเมเริกา

ตั้งแต่หน้าที่ 165 เป็นต้นไป เข้มข้นมาก

เขาบอกวิธีเปิดตาที่สาม

บอกวิธี ย่อตัวเราให้เล็ก เท่าปลายเข็มแล้วเข้าไปในเส้นเลือดของเพื่อน
เที่ยวตรวจร่างกายของเพื่อนได้

บอกวิธี ทำตาเอกซ์เรย์ มองทะลุร่างกายมนุษย์ เพื่อ ตรวจอวัยวะได้

บอกวิธี ส่งพลังที่เป็นแสงเข้ารักษา คนป่วยได้

การที่ได้ฝึกนั่งทำสมาธิ จนจักระเปิด จะทำให้ พลังเข้าตัวได้
ที่ฝ่ามือ เมื่อพลังเข้า จึงมีอาการยิบๆๆ
เวลาพลังเข้าในตัวมากๆๆ จะกระตุ้นให้เกิด พลังที่เรียกว่า
Bio-electrical Field
ลองสังเกตุดู เม่อใดที่หงายมือขึ้น พลังจะเข้าตัว
เมื่อใด คว่ำมือ ลง พลังที่เข้าจะหยุด เท่ากับ ปิดสวิชไฟฟ้า

ขอให้ฝึกแล้วสำเร้จ แล้วจะช่วยคนได้มาก

ส่งข่าวมาถึงสมาชิกได้ทุกเวลา ทุกคนยินดี ที่ จะอ่านสาร ที่ส่งมา
ครับ

 

น่าจะมีใครแปลเป็นภาษาไทยด้วยน่ะครับ ขายดี แน่ ๆ

 

ขอบคุณ อ. อาชวิน และพี่ๆ เพื่อนๆ สามชิกทุกคนนะครับ
ถ้าใครสนใจหนังสือ hands of light เดี๋ยวอีกสองสามวันผมจะ scan หน้าที่เป็นรูปประกอบมาให้นะครับ เพราะถ้าจะให้แปลให้ทั้งหมด ตายแน่เลยครับ ไม่รู้ต้องใช้เวลาขนาดไหน ศัพท์เฉพาะทางเยอะเหมือนกัน (ฟิสิกส์)

ไว้กลับเมืองไทยแล้วผมจะไปเยี่ยม อ. ครับ และคงไปร่วมกิจกรรมต่างๆ ด้วย

 

ผมลอง scan รูปจากบทที่ 7 "The Human Energy Field, or Human Aura" (สนามพลังของมนุษย์ หรือ ออร่า) บางส่วนมาก่อนนะครับ ที่เหลือเดี๋ยวทยอยมาครับ ผมอ่านถึงบทที่ 6 เองเลยไม่สามารถอธิบายเรื่องนี้ได้

จากหนังสือ
Brennan, B., A. (1988), "Hands of Light; A Guide to Healing Through the Human Energy Field", Bantam Books, London

 

แล้วฝึกไงคับ เพื่อนสมาชิกช่วยอธิบายที

 

สามรูปนี้เป็นรูปต่อเนื่องกันนะครับ
รูปแรกเป็น ออร่าของผู้ป่วย ก่อนการรักษา สังเกตเห็นออร่าที่ถูกบล็อค และรูปร่างผิดส่วนไป

รูปสอง ปรับสมดุลย์

รูปสาม ออร่าของผู้ป่วยหลังการรักษา

 

นี่ก็หมดบทที่ 7 พอดีครับ ^_^ มี 27 บท แต่บางบทก็ไม่รูปประกอบนะครับ

 

ทั้งหมดเขียนโดย แอน แบรนเน่น แห่งองค์การนาซ่า
การบินอวกาศของ อเมริกา
ใครที่สนใจ ควรจะพิมพ์เก็บไว้เพื่อการศึกษา

ในการใช้ ตาที่สาม มองทะลุตัว คน รักษาโรคโดยใช้พลังจิต
และรายละเอียดเกี่ยวกับ จักระ หรือ ใบพัดหมุนดูดพลังเข้าตัวคน

อีกเรื่องหนึ่งที่ นาซ่า กำลังฝึก นักบินอวกาศ คือ การกินแดด
ตามหลักของอาจารย์ โยคีของ อินเดีย
เพราะการเดินทางในอวกาศ นานนับปี
จะขนอาหารไปมากๆๆไม่ได้ เพราะเนื้อที่ในยานอวกาศจะไม่พอ

ได้ข่าวว่า หนังสือ เรื่องฝึกกินแดด
ได้มีการพิมพ์ออกมาเผยแพร่แล้ว
ขอคุณ OjO ช่วยมองๆๆ ในร้านหนังสือ ที่ อังกฤษ
แล้วส่ง ข่าวมาด้วย..

เชื่อว่าคงจะมีคนไทยหลายคนอยากจะฝึกกินแดด
จะได้ลดค่าใช้จ่ายในการกิน เพราะ แดด เป็นของฟรี
และเป็นอาหารที่สะอาด จะลด การเจ็บป่วยโรคทางเดินอาหาร
ได้มาก และ คงจะไม่มีโรคอ้วนอีกต่อไป

 

อืม..น่าสนใจมากครับ

 

สุดยอดเลยครับ คุณ ojo
save เก็บไว้ศึกษา มีประโยชน์มากครับ
ได้เห็นสีสัน ยิ่งเยี่ยมเข้าไปใหญ่

ขอบคุณครับและขอโมทนาสาธุ
(verygood) (f)

 

(verygood)
ยอดเยี่ยมครับ คุณ ojo

 

ได้ประโยชน์กันทุกคนเลยน่ะท่านๆทั้งเลย
แต่ระวังนาซ่ามาทวงค่าลิขสิทธ์น่ะ
เอาหนังสือเขามาสแกนอ่ะ อิอิอิ

 

สวัสดีครับ
คืออยากขออธิบายนิดนึงอะครับ ^_^
การ quotation, citation (การนำข้อความ รูปภาพ ข้อมูลของคนอื่นมาใช้) ถ้าเราใส่ที่มา เช่นชื่อผู้เขียน ปีที่เขียน ชื่อหนังสือ สำนักพิมพ์ ไม่ผิดกฎหมายลิขสิทธ์นะครับ เพราะผมไม่ได้บอกว่าผมคิดเอง หรือทำภาพประกอบเอง และผมไม่ได้ใช้เพื่อการค้า หรือธุรกิจอะครับ (ถ้าใช้เพื่อการค้าต้องทำเรื่องขอจากสำนักพิมพ์นั้นก่อน)
ที่สำคัญคือผม scan แค่รูปไม่ได้เอามาทั้งหน้า ทุกหน้า ทั้งเล่มอะครับ
เพราะตั้งแต่ข้อความแรกที่ผม scan รูปมา ผมก็ใส่ reference ไว้แล้ว
อันนี้อะครับ

Brennan, B., A. (1988), "Hands of Light; A Guide to Healing Through the Human Energy Field", Bantam Books, London

คือลืมบอกไปตั้งแต่ตอนแรกว่า เผื่อถ้าใครเอาไปใช้ในอนาคต อยากให้=j;pใส่ที่มาของหนังสือด้วยครับ เพื่อเป็นการให้เกียรติผู้เขียนในฐานะเจ้าของทฤษฎี และจะได้ไม่ผิด กม. ด้วยครับ ^_^

หนังสือชื่อ "Hands of Light; A Guide to Healing Through the Human Energy Field"

ผู้เขียน Barbara Ann Brennan หรือจะเขียน แบบย่อ Brennan, B., A. หรือแค่ Brennan ก็ได้ครับ

ปีที่พิมพ์ 1998

สำนักพิมพ์ Bantam Books, London

ขอบคุณมากครับ ^_^

 

พอดีเคยอ่านกระทู้ของพี่เม้าท์ ที่คุณ ชยา เข้ามาบอกว่ามีคนส่งพลังไปหา (บางคนส่งไปกระแทก ^_^) น่ะครับ หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ที่ต่างประเทศมีการศึกษาเรื่องนี้กันจริงจังนะครับ มีหนังสือหลายเล่มพูดเกี่ยวกับการใช้พลังในระยะไกลแบบนี้เยอะมาก
ผมอ่านแล้วคิดถึงเรื่องนึง จากหนังสือCrystal Healing เคยอ่านไว้เรื่องคล้ายๆ กัน แต่อันนี้เป็นการส่งพลังในระยะไกลไปรักษา คิดว่าหลักการคงคล้ายๆ กัน เลยแปลบทนี้มาให้ครับ บทละประมาณสองหน้าเอง แปลง่าย อิอิ

 

<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
<o></o>
Absent healing (การรักษาสำหรับผู้ป่วยที่ไม่ได้อยู่ด้วย)<o></o>
<o></o>
บางครั้งเราสามารถทำการรักษาให้กับคนที่ไม่ได้อยู่ ณ ที่ตรงนั้นได้ สิ่งนี้เราเรียกว่า Absent Healing หรือ Distant Healing จริงๆ แล้ววิธีนี้ผู้ใช้ต้องมีความสามารถในการ Centering และ Grounding ในขั้นสูง (คือการทำจิตใจให้สงบและเข้าสมาธิในขั้นลึกๆ น่ะครับ ในหนังสืออธิบายว่าให้จินตนาการว่าเป็นต้นไม้ใหญ่ กิ่งก้านแผ่ออกไปรอบๆ รากหยั่งลึกไปในดิน คงประมาณว่าให้รวมเป็นหนึ่งกับพลังงานธรรมชาติ) และ ต้องระวังเป็นอย่างมาก ความผิดพลาด ล้มเหลว อาจจะทำให้ผู้ใช้ได้รับ โรค หรือสิ่งไม่ดีจากผู้ถูกรักษาได้<o></o>
<o></o>
แต่จริงๆ แล้วการคิดถึงผู้อื่นในเรื่องดีๆ ก็คือการ Absent Healing นั่นเอง การว่าร้าย นินทาผู้อื่นสามารถไปทำลายพลังงานในตัวผู้พูดเองได้ เคยมีนักเรียนถามว่า อ. (ผู้เขียน) ว่าทำอย่างไรถึงจะได้รับพลัง ฝึกได้อย่างรวดเร็ว อ ได้ตอบว่า

 

ขอโทษทีครับพิมพ์ใส่ word ก่อนแล้วมา post ตัวเล็กมากเลย

ที่มาของเรื่องนี้นะครับ
Lilly, S., (2002), "Crystal Healing", Element, London

ผมชอบข้อความที่บอกว่า
"แต่จริงๆ แล้วการคิดถึงผู้อื่นในเรื่องดีๆ ก็คือการ Absent Healing นั่นเอง" ^_^

 

ที่โพสไป ไม่ได้ตั้งใจตำหนิคุณ OjO น่ะครับอย่าคิดมากกกๆ