เรื่องเด่น เวรกรรมมีจริง! เจน ญาณทิพย์ สแกนกรรม ในวู้ดดี้เกิดมาคุย

WTmedia
siamblogza


เชื่อว่าชั่วโมงนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก เจน ญาณทิพย์ หญิงสาวที่สร้างความประหลาดใจและพิศวงให้กับผู้คนมากมาย หลังจากที่เธอเคยปรากฏตัวออกสื่อในรายการต่าง ๆ มาแล้ว พร้อมกับแสดงญาณทิพย์ ทั้งสัมผัสจิตวิญญาณ ตรวจกรรมด้วยสมาธิ และเห็นภพชาติอย่างน่าทึ่ง และที่สำคัญเธอยังเคยใช้ญาณทิพย์ของเธอในการค้นหาผู้เสียชีวิตจมน้ำ 11 วัน จนพบได้อย่างน่าอัศจรรย์ ดังนั้น เมื่อค่ำคืนวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา รายการวู้ดดี้เกิดมาคุย จึงไม่รอช้า เชิญคุณ เจน ญาณทิพย์ มาพูดคุยเจาะลึกทุกเรื่องราวและท้าพิสูจน์ให้ผู้ชมได้ชมกัน

เจน ญาณทิพย์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชาชนเริ่มรู้จักมากขึ้น ณ ตอนนี้ กับเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปมาก เวลาเดินไปไหนก็เริ่มมีคนรู้จักมากขึ้น บางคนก็มาขอลายเซ็นต์ แต่ส่วนใหญ่คนจะมาถามเราถึงเรื่องชีวิตเขา บางคนถึงกับร้องไห้ให้ตนช่วยดูให้เขาหน่อย




siamblogza


ก่อนที่จะมาเป็น เจน ญาณทิพย์ ย้อนกลับไปตอนที่เธออายุได้ 9 ขวบ ด.ญ.เจนจิรา เรียบร้อยเจริญ เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ จนศีรษะกระแทกอย่างแรง และทำให้เธอเริ่มเห็นในสิ่งลี้ลับต่าง ๆ มากมาย ทั้งนี้ เจน ญาณทิพย์ เล่าต่อไปว่า ตอนแรกที่เห็นเธอรู้สึกตกใจ และคิดว่าตัวเองเป็นบ้า ไม่ปกติ ทำไมคนอื่นไม่เห็นแต่ตนเห็น จนกระทั่งเห็นบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ รู้สึกไม่ไหวแล้วจึงหนีพ่อแม่ไปบวชชีพราหมณ์ตอนอายุ 10 กว่าขวบ เนื่องจากท่านไม่ให้เราไปเพราะเห็นว่ายังเด็กมาก แต่เมื่อไปถึงวัด แม่ชีก็ไม่ให้บวชเพราะอายุน้อยและมาคนเดียว เมื่อพิธีกรถามว่า เคยรู้สึกไหมว่าทำไมต้องเป็น เจน ญาณทิพย์ เจ้าตัว กล่าวว่า ตนเชื่อว่าคนบนโลกนี้หลาย ๆ ล้านคนจะต้องมีคนที่มีความสามารถเช่นนี้ ซึ่งตนก็เคยถามตัวเองว่าทำไมต้องเป็นเรา ทุกอย่างในโลกนี้มีเหตุมีผลเสมอ

...มาสัมภาษณ์ผู้ที่มาขอความช่วยเหลือจาก เจน ญาณทิพย์ กันบ้าง โดยเริ่มที่ ป้าสุบรรณ ซึ่งประสบอุบัติเหตุรถทัวร์พลิกคว่ำจนเกือบเสียแขนข้างซ้าย เนื่องจากผลกรรมจากการตีไก่ ซึ่งคุณป้าเล่าว่า เป็นเรื่องจริงค่ะ เนื่องจากไก่ขึ้นบ้านจึงไล่ตีตอนประมาณ 4-5 ขวบ ทั้งนี้ เจน ญาณทิพย์ กล่าวว่า ด้วยบุญกศลที่ป้าได้ทำมาในอดีตชาติและปัจจุบัน ทำให้เจ้ากรรมนายเวรไม่สามารถทำอะไรได้ก่อนหน้านี้ แต่พอผลบุญเริ่มหมดหรือได้ช่องว่าง เขาก็จะมาเล่นงานเราทันที และทางด้าน คุณวรพจน์ หนุ่มนักเรียนนอกที่ชีวิตเปลี่ยนกะทันหันหลังจากที่พบว่าเป็นมะเร็งลำไส้ขั้นแพร่กระจาย โดยคุณวรพจน์เล่าว่า หลังเรียนจบมาก็ทำงานคิดว่าทำดีมาโดยตลอด เมื่อเป็นมะเร็งตนก็ได้แต่โทษตัวเองว่าทำไมต้องเกิดขึ้นกับเรา และตนรู้สึกสำนึกว่าคนเรามีบาปกรรมตามเรามาตลอด จึงไปหาคุณ เจน ญาณทิพย์ ให้ช่วยเหลือ




siamblogza


การเห็นสิ่งลี้ลับต่าง ๆ เป็นการแสดงหรือไม่นั้น เจน ญาณทิพย์ กล่าวว่า ไม่ได้แสดงละครค่ะ ตนยืนยันและสาบานได้ ไม่มีการเตี๊ยม อย่างรายการคนอวดผี ที่ตนไปเป็นพิธีกรภาคสนาม ตนก็ไม่เคยรู้ประวัติบ้านร้างแต่ละหลังมาก่อน ซึ่งทางทีมงานจะนัดตนว่าให้ไปที่ไหน ขับรถนำไป พอไปถึงตนก็เข้าไปเลย

หลังจากนั้น พิธีกรวู้ดดี้ จึงพา เจน ญาณทิพย์ ไปพิสูจน์ ณ บ้านหลังหนึ่งโดยไม่มีการบอกล่วงหน้าว่าเจ้าของบ้านเป็นใคร ซึ่ง เจน ญาณทิพย์ ก็ทำนายลักษณะเจ้าของบ้านได้ว่า เป็นผู้หญิง ผมยาว ดูเซ็กซี่หน่อย หน้าอกโต ตาคม จมูกโด่ง ปากกว้าง ทาลิปสติกสีชมพูบาง ๆ นอกจากนี้ ยังสัมผัสได้ว่า เขามีสัมผัสที่ 6 เหมือนตน เป็นคนที่ครอบครัวไม่อบอุ่น มีความเหงา ความเศร้าในเรื่องของพ่อแม่ ความพลัดพรากจากกันไปนาน และเป็นคนที่ทำบุญคนไม่ขึ้น นอกจากนี้ เมื่อพา เจน ญาณทิพย์ ไปยังห้องพระ ซึ่งเธอทำสมาธิก่อนที่จะกล่าวว่า เห็นอดีตชาติของเจ้าของบ้านซึ่งทำผิดในเรื่องความรัก ผิดศีลข้อ 3 เป็นคนเจ้าชู้ ดังนั้นต้องนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมบ่อย ๆ จะดี ไม่งั้นชีวิตจะวุ่นวาย




siamblogza

เมื่อถึงเวลาเฉลย เจ้าของบ้านก็คือ เปิ้ล-ไอริณ นักแสดงและนักร้องสุดเซ็กซี่ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า ตอนที่นั่งดูอยู่ที่มอนิเตอร์รู้สึกขนลุกมาก ๆ เพราะว่าลักษณะหลาย ๆ อย่างที่บอกมาถูก 95 เปอร์เซ็นต์เลย โดยเฉพาะเรื่องที่บอกว่าตนมีซิกเซ้นส์ เพราะครั้งแรกตนเห็นวิญญาณคุณตาในบ้าน ตอนที่พระมารดน้ำมนต์ เห็นกลุ่มควันสีเทาก้อนใหญ่ลอยหายเข้าไปในเสาเอก







และเมื่อ เจน ญาณทิพย์ ตรวจกรรมโดยใช้สมาธิ เธอระบุว่า สิ่งที่สัมผัสได้คือ ชะตาของคุณเปิ้ลไม่ค่อยจะได้พบพ่อกับแม่เลย เขาต้องยืนด้วยลำแข้ง ทำบุญคนไม่ขึ้น และมักจะผิดหวังในความรักบ่อยครั้ง มีหลายคนมาชอบแต่จะไม่สมหวังสักคน

ทั้งนี้ เปิ้ล-ไอริณ ถามด้วยว่า ตนอยากรู้ว่ากระดูกของแม่ตนควรจัดการอย่างไรดี เขาต้องการไปอยู่ที่ไหน ก่อนที่คุณแม่จะเสีย ท่านมาพักที่นี่ ซึ่งตนก็ได้ดูแล ส่วนท่านจะนั่งนอนอยู่ที่โซฟาตลอด ตนตั้งใจจะซื้อที่ให้แม่ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ที่กาญจนบุรี แต่แม่ก็บอกว่าแม่ไม่อยากมาให้เป็นห่วง แล้วก็กลับไปเสียชีวิตอย่างโดดเดี่ยวในบ้านไม่กี่วันต่อมา ซึ่ง เจน ญาณทิพย์ ยืนยันว่า คุณแม่ยังไม่ไปเกิด และมีห่วงด้วยก่อนตาย ดังนั้นต้องทำบุญและจุดธูปบอกว่าไม่ต้องห่วง
siamblogza

นอกจากนี้ เปิ้ล-ไอริณ บอกด้วยว่า ตนหวังและอธิษฐานมาตลอดชีวิตว่าอยากเจอพ่อ จึงพยายามจะใช้ชื่อเสียงและความโด่งดังในการตามหาพ่อ แต่กลับถูกสื่อโจมตีหาว่าอยากดัง ซึ่งเรื่องนี้ เจน กล่าวว่า เป็นกรรมของเราในอดีตชาติ เราเคยทำให้ครอบครัวอื่นเขาพลัดพรากและแตกแยกมา เราก็เลยต้องเกิดมาในครอบครัวที่พลัดพรากบ้าง ทางหลุดพ้นก็คือธรรมะ ซึ่งหลังจากที่คุณเปิ้ลสูญเสียแม่ไป จะต้องรู้สึกจิตตก เศร้า แต่ถ้านั่งสมาธิปฏิบัติธรรมก็จะปล่อยวางได้ ส่วนอัฐิแนะนำว่าแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนหนึ่งเก็บไว้บูชา เก็บไว้ที่บ้านเกิดท่าน และนำไปลอยอังคาร

เมื่อกลับมาที่ห้องส่ง พิธีกรถาม เจน ญาณทิพย์ ว่า รู้สึกอย่างไรที่คนหาว่างมงาย หลอกลวง ซึ่ง เจน กล่าวว่า ก็เข้าใจค่ะว่ามีคนทั้งเชื่อและไม่เชื่อ เหมือนเหรียญที่มี 2 ด้าน จะให้คนเห็นเหมือนเราก็คงไม่ได้ ทุกคนที่เกิดมายังไงก็ต้องตาย พอตายก็เป็นวิญญาณ ซึ่งโลกหลังความตายมีจริง ตนเคยถูกด่าว่าเหมือนกันว่า เล่นละครบ้าง หลอกลวง โกหกบ้าง ซึ่งตนขอยืนยันว่าไม่ได้โกหก แต่ถ้าหากตนโกหกจริง กฎแห่งกรรมก็จะมาลงโทษตนเอง สำหรับค่าใช้จ่ายที่คนมาขอความช่วยเหลือนั้น เจน กล่าวว่า เราไม่เอาค่ะ เพราะคนที่มาขอความช่วยเหลือเขาก็ทุกข์อยู่แล้ว เราไม่เคยเอาเงินเขาแม้แต่บาทเดียว

siamblogza
WTmedia


และเพื่อเป็นการพิสูจน์อีกครั้ง วู้ดดี้ จึงขอให้ เจน ญาณทิพย์ ช่วยตรวจกรรมให้วู้ดดี้แบบสด ๆ ออกกลางรายการเลย ซึ่ง เจน ญาณทิพย์ กล่าวว่า สิ่งที่เห็นและอยากจะบอกคือเรื่องความรัก ซึ่งเหมือนคุณวู้ดดี้จะยังขาดอยู่ รักแท้ที่คุณวู้ดดี้อยากจะมีและอาจจะหาไม่ได้สำหรับตัวคุณ ซึ่งเป็นกรรมที่ติดตัวมาตั้งแต่อดีต และตั้งแต่เด็กจนโตคุณวู้ดดี้ไม่เคยลำบาก ชีวิตสบายแต่อาจจะเหนื่อยนิดนึง และชีวิตในอนาคตข้างหน้าอาจจะดี แต่ยกเว้นเรื่องความรัก ส่วนสิ่งที่ควรทำคือ ไม่ควรประมาท เพราะเราไม่รู้ว่าใครจะตายเมื่อไร แต่สิ่งที่ทุกคนทำได้นั่นคือ ความดี ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่คุณจะเอาไปได้
WTmedia

และทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของ เจน ญาณทิพย์ กับโจทย์สุดหินในรายการ วู้ดดี้เกิดมาคุย ซึ่งเธอก็ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงสัมผัสพิเศษที่น่าทึ่งของเธอแล้ว ..แต่จะเชื่อหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณส่วนบุคคลนะจ๊ะ




วู้ดดี้เกิดมาคุย 1/5 เจน ญาณทิพย์ 10 Jun 2012 - YouTube


[ame="http://www.youtube.com/watch?v=Sa7ocmQoY8o&feature=related"]วู้ดดี้เกิดมาคุย - เจน ญาณทิพย์ 2/5 - YouTube[/ame]


[ame="http://www.youtube.com/watch?v=aF0ki8rSvp4&feature=relmfu"]วู้ดดี้เกิดมาคุย - เจน ญาณทิพย์ 3/5 - YouTube[/ame]


[ame="http://www.youtube.com/watch?v=uREpaMaq7Lc&feature=relmfu"]วู้ดดี้เกิดมาคุย - เจน ญาณทิพย์ 4/5 - YouTube[/ame]


[ame="http://www.youtube.com/watch?v=wl-_gTA8X_c&feature=relmfu"]วู้ดดี้เกิดมาคุย - เจน ญาณทิพย์ 5/5 - YouTube[/ame]



siamblogza
WTmedia

 

ขอบคุณจ่ะ

 

รายการนี้ อ.เจน เคยไปออกหนนึงแล้วค่ะ (เมื่อ 2 เดือนก่อน)

แต่ตอนนั้นเหมือน คุณวู๊ดดี้ไม่ค่อยเชื่อด้วยล่ะ ไม่ได้ถามแบบเจาะลึก มีแต่สัมภาษณ์ทั่วๆไปเหมือนสัมภาษณ์ดาราอ่ะ ><

รอบนี้สงสัย อ.เจน กระแสมาแรงมาก เลยเชิญไปสัมภาษณ์อีกรอบ

เหอๆๆ ^^

 

ผมว่า อ.เจนเธอกล้าดีครับ กล้าแบบนี้ต้องมีอะไรดีๆในตัวแน่

 

Jane is

 

ขออนุโมทนาที่รายการแบบนี้ จะทำให้หลายคนระมัดระวัง ในการทำผิดต่อศีล




ตรวจศีลข้อ1

ศีลข้อ 1 ปาณาติปาตา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ
ศึกษาสมาทานเพื่อการลด งด เว้นขาดจากโทสะ
เจตนารมณ์ศีลข้อ 1 เพื่อล้างโทสะ ละเบียดเบียน

ศีลขาด
คือ เจตนาทำชีวิตสัตว์ให้ตกร่วง และแสดงออกซึ่งอาการโทสะทางกาย เช่น เตะหมา ตีแมว ต่อยคน ประทุษร้ายใครด้วยความโกรธ ฯลฯ (อริยกันตศีลเป็นศีลละเอียดกว่าศีลสามัญญตา)

ศีลทะลุ
คือ เจตนากล่าววาจาด้วยโทสะ หรือโกรธ เช่น สั่งฆ่า สั่งทำร้าย หรือพูดกระแทกแดกดัน ยั่วกันด้วยโทสะ ด้วยความไม่ชอบใจ หมั่นไส้ และวาจาใดอันอดมิได้ต่อโทสะภายใน

ศีลด่าง
คือ มีใจโกรธ อึดอัด ขัดเคือง อาฆาต พยาบาท ถือสาชิงชัง รังเกียจ ไม่ชอบใจหรือปรุงใจเป็นไปด้วยโทสะ (ยังครุ่นคิดแค้น คิดทำร้าย คิดทำไม่ดีไม่งามกับผู้อื่นอยู่)

ศีลพร้อย
คือ มีใจเบื่อ ซึม เซ็ง ซังกะตาย ถดถอย ท้อแท้ ไม่ยินดี โลกนี้เป็นสีเทา (อรติ)

เป็นไทโดยศีล
คือ ขัดเกลาตนจนอิสระเสรี ไม่มีความพร้อย ความด่าง ความทะลุ หรือขาดทางศีลธรรม โดยเฉพาะสายโทสะละเบียดเบียนนี้ ซึ่งจะรู้ชัดได้ดี เมื่อมีเมตตาสมาทานอย่างต่อเนื่อง



ตรวจศีลข้อ2

ศีลข้อ 2 อทินฺนาทานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ
ศึกษาสมาทานเพื่อการลด งด เว้นขาด จากโลภะ
เจตนารมณ์ศีลข้อ 2 เพื่อลดโลภะ ละตระหนี่ แม้ตน

ศีลขาด
คือ เจตนาขโมย โกง ปล้นจี้ ตีชิง ฉกฉวย แม้ที่สุดหยิบของผู้อื่นโดยมิได้รับอนุญาต

ศีลทะลุ
คือ เจตนากล่าววาจา เลียบเคียง ลวงเล็ม หลอกล่อ หรือพูดเพื่อให้ได้มาสมโลภ

ศีลด่าง
คือ มีใจเอาเปรียบ เห็นแก่ได้ คิดอยากใคร่ของคนอื่น หรืออาศัยนิมิตสมมุติ เพื่อให้ได้มาเพื่อให้ได้อยู่โดยไม่สมคุณค่าฐานะแห่งนิมิตสมมุติ (รูปแบบ, ตำแหน่งแต่งตั้ง) นั้นๆ

ศีลพร้อย
คือ มีใจยินดีทรัพย์สินของโลก ของคนอื่น หรือมอบตนอยู่บนทางแห่งการได้มาสมโลภ

เป็นไทโดยศีล
คือ ขัดเกลาตนจนอิสระเสรี ไม่หลงใหลยินดีทรัพย์สินของโลก และสิ้นความผลักใส ชิงชังทั้งไร้ตระหนี่ตน เป็นคนขวนขวายใฝ่สร้างสรร ขยันชนิดทำงานฟรี ไม่มีเรียกร้องสนองตอบ หรือไม่มีความพร้อย ความด่าง ความทะลุ หรือขาดทางศีลธรรม โดยเฉพาะสายโลภะละตระหนี่นี้ +++ (ฆราวาสครองเรือนจะพ้นศีลพร้อยได้ยากมาก แต่สามารถตรวจจับดับความยินดีในการได้มาได้...เมื่อต้องอยู่กับทรัพย์สินก็ควรอยู่เหนือทรัพย์สิน)




ตรวจศีลข้อ3

ศีลข้อ 3 กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ
ศึกษาสมาทานเพื่อการลด งด เว้นขาด จากราคะ
เจตนารมณ์ศีลข้อ 3 เพื่อลดราคะ ละกามารมณ์

ศีลขาด
คือ เจตนามีสัมพันธ์ทางเพศ หรือโลมเล้าจับต้อง เสพสุขสัมผัสกับผู้มิใช่คู่ครองของตน แม้ในคนที่ไม่ได้แต่งงานกัน (การบริโภคกามตามสถานค้าประเวณีจัดเป็นความผิดขั้นนี้)

ศีลทะลุ
คือ เจตนากล่าววาจาจีบเกี้ยว พูดแซวเชิงราคะ กระซิกกระซี้ สัพยอก หยอกเย้า เร้าให้รักใคร่ พูดไปเพื่อผูกพัน หรือบำบัดบำเรออารมณ์ โดยกามราคะขับดัน ทั้งที่ผู้นั้นมิใช่คู่ครองของตน

ศีลด่าง
คือ มีใจคิดปรุงไปในสัมพันธ์ทางเพศ หรือมีอารมณ์แปรปรวนป่วนฝันฟุ้งบำรุงกาม และเรื่องราวคาวกามลามไหล อยู่ในใจกับใครอื่นซึ่งไม่ใช่คู่ครองของตน (นัยละเอียดต้องจบจิตคิดใคร่)

ศีลพร้อย
คือ มีใจยินดีในกาม ความเป็นคู่กับผู้อื่น หรือยินดีพึงใจในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส อันชวนกำหนัดรัดรึงจากเพศตรงข้ามที่ไม่ใช่คู่ครองของตน (นัยละเอียดจบสนิทจิตยินดีในกาม)

เป็นไทโดยศีล
คือ ขัดเกลาตนจนอิสระเสรี ไร้ความยินดีในกาม ไม่มีความพร้อย ความด่าง ความทะลุ หรือขาดทางศีลธรรม โดยเฉพาะสายราคะ ละกามารมณ์นี้ (ต้องศีล 8 จึงมีสิทธิเป็นไท)



ตรวจศีลข้อ4

ศีลข้อ 4 มุสาวาท เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ
ศึกษาสมาทานเพื่อการลด งด เว้นขาด จากความเท็จ ความไม่แท้
เจตนารมณ์ศีลข้อ 4 เพื่อลดมุสา พัฒนาสัจจวาจา

ศีลขาด
คือ เจตนากล่าวคำเท็จ โกหก หลอกลวง บิดเบือนไปจากความจริง หรือสัจจะ

ศีลทะลุ
คือ เจตนากล่าววาจา ระบายโทสะ บำเรอโลภะ บำรุงราคะ เป็นคำหยาบ

ศีลด่าง
คือ มีวาจาส่อไปในทางเสียด เสียดสีเชิงโทสะบ้าง เสียดสีเชิงโลภะบ้าง เสียดสีเชิงราคะบ้าง เสียดสีเชิงมานะทิฏฐิบ้าง เสียดสีเชิงมานะอัตตาบ้าง แม้จางบางเบา หรือพูดกบคนโน้นทีคนนี้ที เพื่อให้เกิดวิวาทบาดหมาง แยกก๊ก แบ่งเหล่า ก็จัดเข้าอยู่นัยนี้ เป็นวาจาส่อเสียด

ศีลพร้อย
คือ มีวาจาเรื่อยเปื่อยเฉื่อยฉ่ำไป เพ้อไป พล่อยไป พล่ามไป จะโดยแรงเร้าจากโทสะที่จากบางเบา โลภะที่จางบางเบา ราคะที่จางบางเบา หรือมานะทิฏฐิที่จางบางเบา มานะอัตตาที่จางบางเบา ก็จัดเข้าอยู่นัยนี้ เป็นวาจาเพ้อเจ้อ

เป็นไทโดยศีล
ขัดเกลาตนจนอิสระเสรี มีวาจาประชาสัมพันธ์ เป็นไปโดยสามารถของตนไร้อิทธิพลจากโทสะ โลภะ ราคะ มานะทิฏฐิ มานะอัตตามาครอบงำ หรือไม่มีความพร้อย ความด่าง ความทะลุ หรือขาดทางศีลธรรม โดยเฉพาะเรื่องราว ลดมิจฉาสู่สัมมา หรือลดมุสา (วาจาอันเป็นเท็จจากสัจจะ) พัฒนาสัจจวาจา




ตรวจศีลข้อ5

ศีลข้อ 5 สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ
ศึกษาสมาทานเพื่อการลด งด เว้นขาด จากเสพติด ชีวิตมืดบอด
เจตนารมณ์ศีลข้อ 5 เพื่อลดโมหะ ละประมาท เพิ่มธาตุรู้หรือสติ

ศีลขาด
คือ เจตนาเสพสิ่งเสพติดมัวเมา เที่ยวกลางคืน เที่ยวดูการละเล่น เล่นการพนัน สังสรรกับคนชั่ว ปล่อยตัวเกียจคร้านอย่างตั้งใจ

ศีลทะลุ
คือ เจตนากล่าววาจาชักชวน โน้มเหนี่ยวนำพาตน คนอื่น สู่อบายมุขหรือโน้มน้าวอบายมุขมาสู่ตน คนอื่น และกล่าววาจาพร่ำพิไรใฝ่ถึงซึ่งอบายมุข (ทั้ง6)

ศีลด่าง
คือ มีใจทะยานอยากในอบายมุข ปรุงใจถวิลไปในอบายมุข หรือเรื่องราวคราวก่อนตอนเสพอบายมุขลามไหลอยู่ในใจ เก็บสัญญาเก่าก่อนตอนเสพอบายมุขมาย้อนเสพ

ศีลพร้อย
คือ ยังมีใจยินดีในอบายมุข เห็นคนเสพอบายมุขยังยินดี มีใจริษยา มิได้เกิดปัญญา เห็นภัยในอบายมุขและการเสพอบายมุข

เป็นไทโดยศีล
คือ ขัดเกลาตนจนอิสระเสรี หมดความยินดี และสิ้นอารมณ์ชิงชังในอบายมุข หรือไม่มีความพร้อย ความด่าง ความทะลุ หรือขาดทางศีลธรรม โดยเฉพาะสายมัวเมามือบอดนี้

 

อนุโมทนาบุญกับคุณเจนครับ ทุกอย่างครับ สาธุ สาธุ
สาธุ

 

ขออนุโมทนาคุณsiamblogza ที่นำเอาเรื่องราวดีๆ มาให้ชมเป็นธรรมทานดีมากๆ เลยค่ะ และอาจารย์เจน ญาณทิพย์ ท่านก็สอนให้รู้เกี่ยวกับกฎของกรรมมีจริงในเรื่องบาป -บุญ การไปละเมิดล่วงกรรมผู้อื่นต้องระวังเพราะผลกรรมที่เราทำ สักวันมันก็ต้องกับมาหาเราไม่ว่ากรรมนั้นจะดีหรือไม่ดีก็ตาม ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

 

ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ ที่มีคนวิจารย์คุณเจน และขอรวมถึงคุณริวด้วย ทั้งในแง่บวก
หรือแง่ลบ แต่ทุกครั้งที่ดูรายการของสองท่านนี้ ผมคิดว่าทั้งสองท่านได้อานิสงค์ไปเต็มๆ
ในแง่ที่ สร้างแรงบันดาลใจให้คนส่วนหนึ่งหันมาใส่ใจในการทำความดีมากขึ้น และเกรง
กลัวต่อบาบ ดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท
ขอขอบคุณและอนุโมทนา จขกท. ด้วยครับ

 

อย่างน้อยก็ทำให้เรารู้ว่า การที่เรามีพระพุทธเจ้าอยู่ที่ใจ พระธรรมเจ้าอยู่ที่ใจ พระอริยสงฆ์เจ้าอยู่ที่ใจ จะทำให้เรารอดพ้นเวรภัยต่าง ๆ นานา ทั้งในโลกปัจจุบัน และ โลกวิญญาณ การไม่ต่อยอดเวรกรรม ที่เขาพยายามยั่วยุ ก่อกวน เพราะเราต้องการหยุดเวรกรรมชาติที่แล้ว และชาตินี้ให้จบสิ้นไป โดยคิดเสียว่า "แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร" พยายามทำใจให้สะอาดปราศจากกิเลสทั้งปวง ถึงแม้มันยาก และทุกข์ใจ แต่เป้าหมายคือ การสะสางเวรกรรมทั้งสิ้นทั้งปวง ที่ได้เคยทำ ๆ เอาไว้ ในอดีต เพราะเรารู้ว่าเวรกรรม มีจริง สวรรค์นิพพานมีจริง นั่นเอง

 

ขอบคุณนะค่ะ

 

ความเห็นชิ้นนี้ มีคนไม่เห็นด้วย ก็ควรจะมี comment อะไรต่างจากที่ไม่เห็นด้วยทุกข้อ ว่าอะไร การไม่เห็นด้วยเห็นต่างเป็นเรื่องที่สร้างแง่คิดให้เกิดการต่อยอดในส่วนที่สร้างสรร หรือหาข้อยุติที่เป็นสัจจะ นอกนั้นแล้ว ฟังไม่ได้ว่าไม่เห็นด้วยนั้น ตนจะเหนือกว่าตรงไหน เพราะแฟร์แล้ว ควรเสนอด้วย ถึงจะถูก
อันนีฝากให้ผู้ไม่เห็นด้วยในกระทู้อื่น ได้รับไว้เป็นแนวทางถึงจะสร้างสรร และก่อประโยขน์แก่ผู้เข้าชมกระทู้ นะครับ หากไม่เห็นด้วยกับผมก็ไม่เป็นไร ตามสบายได้

 

สนุกมากๆครับ ทั้งยังได้สาระดีๆด้วย ขอขอบคุณมากครับ และขออนุโมทนาในธรรมทานครับ

 

ถ้าพูดถึงเรื่อง เจน ญาณทิพย์ เขาหมายถึงตรวจศีลข้อ4คือ มุสาวาท เวรมณี ซึ่งส่วนใหญ่ Jane จะพูดเรื่องผีวิญญาณและอดีตชาติ

คนที่ไม่เชื่อ Jane มีความสามารถพิเศษรู้อดีตชาติจะว่า Jane เป็นหลอก

คนที่ไม่เชื่อ Jane มีความสามารถพิเศษเห็นผีวิญญาณได้จะว่า Jane เป็นบ้า

แต่จริงๆแล้วคนที่มีความสามารถพิเศษไม่เพียง Jane คนเดียว

ถ้าหากพูดเรื่องพิสูจน์มีหลักฐานพิสูจน์ว่า Jane เป็นหลอกไม่

เขาบอกว่าผีวิญญาณไม่มีจริงเพราะไม่เห็นแสดงตัวเพราะฉะนั้น Jane ต้องเป็นหลอก

มีแค่ Jane เห็นผีวิญญาณอยู่ทุกวันเพราะฉะนั้น Jane ต้องเป็นบ้า

แต่เห็นเชื้อที่ลอยอยู่ในน้ำและอากาศไม่ขอจับเชื้อสักตัวให้ดูถ้าไม่สามารถจับตัวได้
เชื้อไม่มีจริงในโลก

ถ้าใครบอกว่ามีคนนั้นต้องเป็นหลอกเป็นบ้า

 

ท่านวู๊ดดี้ทำไมไม่ให้ท่านอาจารย์เจนพาไปหาพ่อคุณไอรินเพราะท่านอาจารย์เจนมีตาทิพย์มองเห็นกระทั้งคนแอบอยู่หลังกล้อง มองเห็นกระทั้งวิญญาณมองเห็นกระทั้งอดีตชาติ มองเห็นกระทั้งว่าชาติก่อนทำอะไรไว้ มองเห็นกระทั้งว่ากรรมอะไรส่งผลให้เป็นอะไร มองเห็นกระทั้งว่าคุณไอริณไม่เจอพ่อ ท่านวุ๊ดดี้ก็ให้อาจารย์เจนดูให้หน่อยว่าพ่ออยู่จังหวัดอะไร ชื่ออะไรนามสกุลอะไรบ้านเลขที่เท่าไร ตายแล้วหรือยังไม่ตาย แม่กับพ่อเจอกันตอนอายุเท่าไรเจอที่ไหน แล้วจากกันเพราะอะไร ถ้าพ่อยังอยู่ก็พาไปหา หรือประกาษหาชื่อตามที่อาจารย์เจนบอก หรือถ้าพ่อตายแล้วก็ให้อาจารย์เจนไปเรียกวิญญาณมาออกรายการ ถามว่าพ่อชื่ออะไรบ้านอยู่ไหนบ้านเลขที่เท่าไร เบอร์โทรศัพท์อะไร แล้วรายการก็ไปพิสูจน์

 

กุศล มหากุศลใดที่คุณจนทำแล้วตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน

ผมขออนุโมทนาครับ.....

 

ครับ...เรื่องวิญญาณ จิต และใจเป็นเรื่องจริง เรื่องสัมผัสพิเศษก็เป็นจริง คนที่มีความสามารถด้านนี้ไม่ได้มีแค่คุณเจนเท่านั้น เพียงแต่ว่าจะมีสัมผัสชัดเจนและมั่นคงแค่ไหนเท่านั้นครับ ในทางโลกที่มีแต่ด้านวัตถุนิยมจึงไม่มสามารถรับรู้ได้ ยิ่งความเจริญวัตถุมาก ความสามารถด้านจิตใจยิ่งลดลง จนกลายเป็นเรื่องเหลือเชื่อไป ทุกอย่างมีเหตุปัจจัยตามธรรมชาติครับ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์แบบไม่รู้เรื่องจริง ๆ ในปัจจุบันนักวิทยาศาตร์ระดับโลกได้พยายามจับอนุภาคคาร์สอยู่ ซึ่งมีผู้สันนิษฐานว่าเป็นอนุภาคของจิตใจ ยังไม่แน่ชัดว่าจะใช่หรือเปล่า แต่ก็ก้าวหน้าไปกว่าประเทศไทยอีก ไม่ได้สนับสนุนต่างประเทศ แต่ชี้ให้ดูว่าในประเทศไทยเป็นอย่างไร ? พระพุทธศาสนามีอะไรดี ๆ กว่าต่างประเทศมากมายแต่ไม่ยอมสนใจใฝ่ศึกษาเอาแต่ไปบ้าต่างประเทศครับ

 

อนุโมทนา..สาธุด้วยครับ

สิ่งนี้เป็น " ปัจจัตตัง " คือรู้ได้เฉพาะตน ทุกชีวิตที่เวียนว่ายในวัฎสงสารจงอย่าประมาท เร่งสร้างกุศลบุญเป็นเสบียงเตรียมไว้เดินทางเถิด....ประเสริฐ แล

 

แต่ก็ต้องพิจารณาสักนิดนะครับ อะไรที่ดีและเป็นประโยชน์ เหมาะสม สมควร และดีงาม ก็สามารถใช้ได้ ตามศิลธรรม คุณธรรม และจริยธรรม

คราวนี้มาเรื่อง "กรรม" กรรม แปลว่า การกระทำ ในพระพุทธศาสนาแบ่งกรรมออกเป็น 3 ประการใหญ่ ๆ คือ กรรม 2 กรรม 3 และ กรรม 12 ตัวเลขข้างท้ายคือ การแบ่งประเภทแยกออกมาอีก รายละเอียดเยอะ...รวมทั้งต้องแยก "กรรม" ออกจาก "เวรกรรม" อีก ยกตัวอย่าง เช่น

นาย A ขับรถจักรยานยนต์ขณะโทรศัพท์ไปชนผู้หญิงคนหนึ่งบาดเจ็บ ถามว่า นาย A ทำนี้เป็นกรรมหรือไม่ ?

คำตอบ

นาย A ทำนี้เป็นกรรม เพราะเกิดการกระทำ แต่จะเข้ากรรมในลักษณะไหนของกรรม 2 กรรม 3 หรือ กรรม 12 ก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ไม่ใช่เวรกรรม เพราะเกิดจากความประมาท

 

ผมยอมรับว่าครั้งหนึ่ง เคยปรามาสคุณเจน เนื่องจากว่าไปเหมารวมกับพวก อวดภูมิตนเอง อ้างว่าตัวเองเป็นผู้มีความสามารถพิเศษ เห็นกรรม สแกนกรรม หรือสัมผัส อะไรต่างๆๆแต่ดูแล้ว(ทัศนะคติส่วนตัว)ไม่พูดดีกว่า ก็ช่างเขา กรรมจะเป็นสิ่งตัดสินเอง ก็เลยเหมารวมคุณเจน เข้าไปด้วย ยังไงก็ขอโทษ มา ณ ที่นี่ด้วย แต่เมื่อได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ผมจึงเชื่อในสิ่งที่คุณ เจนเป็น ด้วยเหตุผลดังนี้
1.คุณเจนสามารถล่วงรู้ได้ในสิ่งที่คนอื่นเขาไม่รู้ ไม่เห็น ด้วยวิธีการง่ายๆของคนปฏิบัติกรรมฐาน หรือคนมีของเก่าติดตัวคือ แค่กำหนดจิตให้เป็นสมาธิ ก็ตอบได้เลย โดยไม่ต้องอ้อมแอ้ม ถามวันเดือนปีเกิด เลขที่บ้าน ทะเบียนรถ หรือเครื่องมือช่วยใดๆๆ2.คุณเจนกล้าท้าพิสุจน์ต่อหน้าธารกำนัลโดยไม่ได้หวั่นไหวว่าใครจะมองยังไง และก็สามารถพิสูจน์ว่าเห็นได้จริงๆๆ 3.การแนะนำแนวทางแก้ใขปัญหาต่างๆๆของคุณเจน จะอยู่ในแนวทางของพุทธศาสนาล้วนๆๆเช่น ให้ทำทาน รักษาศิล ภาวนา นั้นแสดงให้เห็นว่าบุคคลผู้นี้ยึดมั่นในไตรสรณคม ย่อมทำให้บุคคนั้นเจริญในธรรม ไม่เศร้าหมอง ด่างพร้อย ไม่เหมือนเจอหลายๆคน แนะ ให้ไปนอนโลงศพบ้าง ลอยผมบ้าง ไหว้กุมารทอง เทพต่างๆๆบ้าง เป็นวิถีทางของผู้ห่างไกลอยู่ ในโลกใบนี้จะมีสิ่งใดเล่าเท่าเทียม พระพุทธ พระะธรรม พระสงฆ์หรือไตรสรณคมครับ
3.คนอ้างว่ามีญาณที่เจอๆๆมา มักอ้างอดีตชาติหลายชาติที่ผ่านมาอันเจ้าทุกข์ก็ไม่อาจล่วงรู้ได้ แต่ อ.เจนบอกชาติปัจจุบันได้ด้วยนี่คือข้อพิสูจน์ทั้งสองฝ่าย ก็ขออวยพรให้ทำดีต่อไปครับ