จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ผมเปิดเมล์ไม่ได้ขอตอบครูวิทย์ ครูเพ็ญบนกระทู้นะครับ จิตมองเห็นแล้วครับ จิตรู้ปัญญาเกิดพิจารณาเองแล้ว แต่สติผมไม่ทันครับต้องฝึกสติให้ยิ่งขึ้นสาธุ สาธุครับ

 

ท่านอาจารย์ภูเทศทีไรเหมือนอยู่ตรงหน้าทุกทีเลย ตอนนี้ทําสมาธิวันละ๓ครั้งค่ะ บ่ายๆเดิน๑ชม และนั่ง๑ช ม และก่อนนอน๑ชม วันนี้ตอนเดินก็คิดว่า ทุกๆก้าวที่เราเหยียบก็มีคนตายทั้งนั้น เราก็เหมือนกันในที่สุดก็ต้องคืนสู่ดิน พอนั่งลงซิคะยังไม่ทันไรเลย เกือบสะดุ้งมีแต่หน้าตาบูดเบี้ยวผลัดกันโผล่ขึ้นมาเต็มเลย เลยนึกขึ้นมาได้เลยขอยกบุญที่เรามีให้เขาั้ทั้งหมดก็หายไปกลายเป็นภาพพระสลับกันสีทองทั้งหน้าหลังมากมายรวมทั้งlogoท่านอาจารย์ค่ะ catt1

 

ขอกราบขอบคุณ คุณลูกพลัง และทุกท่านที่ช่วยตอบคำถามของผมครับ
เมื่อตั้งสติ จดจ่อ ต่อเนื่อง ในกายวาจาใจ แล้วจะเกิดความรู้ (ซึ่งยากที่จะบรรยายให้ถูกต้อง)
เหมือนการเคลื่อนไหวของผมจะช้าลงมาก
รู้ว่ากายที่เคลื่อนไหวเป็นเปลือกนอก
มีใจส่วนหนึ่งคอยรู้ว่าเคลื่อนไปแค่ไหน
ใจอีกส่วนหนึ่งสั่งให้ขยับไปมาตามที่ตั้งใจไว้
ใจอีกส่วนก็รู้ถึงภาพ เสียง ต่างๆ ที่อยู่รอบๆ
แต่รู้สึกถึงความสงบ มั่นคง ในการทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ด้วยครับ
ที่เขียนมานี้ก็ไม่ค่อยตรงกับที่รู้ครับ แต่หาถ้อยคำที่ดีกว่านี้ไม่ได้ครับ
ผมไม่ทราบว่าความรู้แบบนี้คืออะไรครับ

 

สาธุ๊ ขออนุโมทนาบุญกับจิตบุญดวงที่ 34 ครับ.. สาธุ๊ จิตบุญคนนี้ใครเอย???เจ้าครับ..(f)black_pig;aa2;aa17

 

โมทนา สาธุสักล้านๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆครั้งเน้อเจ้าครับ.. สาธุ สาธุ สาธุ
catt7;aa2;aa2;aa2

 

ขอร่วมเป็นกำลังใจให้น้อง gibbgubb อีกคนนะค่ะ


ขอให้น้องวางกำลังใจ สบายๆ ไม่ต้องพยายามไปยัดเยียดอะไรให้จิต เราสั่งจิตไม่ได้ ต้องให้เขายอมรับเอง

การวางกำลังใจสบายๆ คืออย่าไปคาดหวังอะไรมาก หรือไปกังวล รู้สึกกดดัน รู้สึกไม่ไหวแล้ว ทำไมคนอื่นทำได้ ทำไมฉันทำไม่ได้ ถ้าอารมณ์เหล่านี้เกิดก็ให้รู้เท่าทันว่าเราโดนกิเลสหลอกอีกแล้ว ถามจิตดู เราจะยอมเป็นทาสของมันเหรอ

ในขณะเดียวกัน ก็อย่าปล่อยจนหลุดญาณ

ทั้ง 2 ทางคือ ตึงเดินไป หรือหย่อนเกินไป ไม่ใช่ทางสายกลาง เดินมรรคไม่ได้ วางกำลังใจสบายๆ แต่ไม่ละทิ้งความเพียร

พี่ไม่ทราบว่า น้อง gibbgubb อยู่ในขั้นไหน ขอพูดโดยทั่วๆไปนะค่ะ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับท่านอื่นด้วย

1. สำรวจศีลตัวเองก่อน ศีลอยู่ที่เจตนา ถ้าผิดศีลโดยเจตนาคงไม่สามารถฝึกให้ได้ผลดีได้

ศีลอยู่ที่เจตนา วันก่อนพี่ไปเหยียบ หอยทากเปลือกแตกดังกร๊อบ ที่พื้นมืดมองไม่เห็นจริงๆ จิตไม่หวั่นไหว เพราะรู้ว่าไม่เจตนา คงมีเหตุปัจจัยของหอยทากที่ต้องโดนเหยียบ แต่ก็อุทิศบุญให้เขาไป กรณีแบบนี้อย่าจิตตก จะเป็นนิวรณ์ ขัดขวางการปฎิบัติ
ถ้าท่านใดทำกรรมหนักมาก่อน พี่ภูเคยบอกวิธีแก้ไขแล้ว อย่าลืมไปขอขมา พ่อแม่ผู้มีพระคุณ พี่ภูเคยบอกไว้แล้วเช่นเดียวกัน


2.ถ้าเป็นการผิดศีลโดยความประมาท พลั้งเผลอ ก็ขอขมาพระรัตนตรัย ต่อไปลูกจะพยายามสำรวมระวังในครั้งต่อไป ศีลเราก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ


3.จิตบำเพ็ญ ปัญหาเรี่องผิดศีลคงไม่มี ให้ระวังอกุุศลจิต การจับผิดเพ่งโทษผู้อื่น ถ้าคอยสำรวจจิตตัวเอง ก็จะเห็นว่า อกุุศลจิต จะลดลงเรื่อยๆ


4.มีสติ จะดูกายหรือดูจิตแล้วแต่พอดีของแต่ละคนแต่ละเวลา ถ้าสิ่งที่มากระทบเกิดในจิตก็ดูขบวนการที่เกิดขึ้นในจิต อย่างเป็นกลาง ถ้าสิ่งที่มากระทบ เกิดที่กาย เช่นเดินอยู่ก็รู้เวลาเท้ากระทบพื้น ทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรฝึกไปเรื่อยๆ


5.ต่อไปก็ฝึกแยกกายแยกจิต

อีกอย่างแผ่ส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรเป็นระยะ โดยเฉพาะช่วงอยู่ในญาณ


รายละเอียดในแต่ละเรื่อง พี่ภู พี่เพ็ญ คุณครู จิตบุญ ท่านอื่นๆ ได้พูดไว้แล้ว
ถ้าท่านใดกำลังตามอ่านแต่ละหน้าอยู่จะมาช่วยบอกหน้า หมายเลขกระทู้ที่พูดถึงแต่ละเรื่องก็จะเป็นประโยชน์กับท่านอื่น และเป็นบุญกุศลกับท่านเองด้วย
ขออนุโมทนาล่วงหน้า


ถ้าบทความนี้ล่วงเกินต่อท่านใด ก็ขอขมา
เนื่องจากอินทรีย์ยังอ่อน ผิดถูกประการใดรบกวนชี้แนะด้วยค่ะ

 

โมทนาสาธุด้วยครับ ...

 

ขอบพระคุณคุณหมอค่ะ ข้อสามนี่ยังแย่แต่ก็จะพยายามค่ะ ({)

 

สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนากับคุณ Linda และคุณครูทุกท่านด้วยนะเจ้าครับ..-cool day-;aa2;aa2;aa2

 

และแล้วท่านพ่อก้อจัดสรรให้คุณได้เกิดบนกระทู้แล้ว ... ขอแสดงความยินดีด้วย

จิตของคุณปรีชานั้นวิปัสสนาแล้ว
ขอให้ทรงฌาณสูงให้ต่อเนื่องตลอดเวลา
มีสติเท่าทันทุกอารมณ์
พิจารณาทุกสิ่งที่มากระทบ ... รู้ แต่ อย่าไปจับเอามาไว้กับเรา ของหนักทั้งนั้น ไม่ดี
ทำให้สบายๆ พิจารณาตัวเองสิ มีอะไรติดขัดไหม ใน รอารมณ์ต่างๆ รูป รส กลิ่น เสียง ยังห่วงกายไหม ห่วงอะไรอีกไหม

เกาะพระให้แนบแน่น ไม่เห็นภาพ ก้อ ระลึกว่าพระอยู่กับเราก้อได้(ขณะที่ทำงาน) แล้วค่อยแอบเช็คเป็นระยะว่าพระอยู่หรือไม่ ถ้าอยู่ท่านก้อทำภาะกิจท่านต่อไป

ก่อนนอนทรงภาพพระให้ได้ แล้ว นอน ..
ตื่นนอน ทรงภาพพระ แล้วก้อไปทำการทำงานต่อไป
แค่นี้จิตคุณก้อจะอยู่กับพระได้ตลอด 24 ชั่วโมง

พยายามนะครับ
มีอะไรรายงานบนนี้เลยครับ จะได้เป็นธรรมทานให้ผู้ฝึกทุกท่านด้วย

ทำจิตให้มั่นคง กลางๆ อย่ามีความอยาก สบาย ... เราทำได้

ขอให้เจริญในธรรม

วิทย์ จบ.11

 

เห็นอะไรไหมคุณคมวรรณ
ด้านดี เมื่อทำแล้ว จิตเราเบ่งบานเป็นสุขยิ่งนัก
ด้านมืด(ที่คุณเคยคิดจะทำ) เมื่อทำแล้ว เพียงแค่รู้สึกสะใจในตอนแรก แต่หลังจากนั้น บรมทุกข์รอรับคุณอยู่

เห็นทางแล้วสินะ ว่า เรา(จิต) ควรจะไปทางไหนดี

มาเดินทางสายเอกนี้ด้วยกัน เพียร พยายาม ตั้งมั่นในธรรม

สาธุ

วิทย์ จบ.11

 

สู้ สู้ ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ทุกท่านด้วยนะค่ะ

 

โมทนาสาธุกับธรรมาทานของคุณหมอ
ที่ท่านมีเมตตาแบ่งเวลามาช่วยยกจิตพวกเรา สาธุๆๆ
ขอขอบใจแทนน้องgibbgubb(มีคนส่งแรงใจเชียร์เธอเยอะเลย)
และพวกเราด้วย
จิตของคุณหมอรอดแล้วไป แต่ก็ยังไม่ทิ้งกัน
คุณหมอกำลังสร้างบารมีแห่งจิตตนเอง
นั่นก็คือ แสงแห่งดวงจิตของตนเอง (แสงในกาย แสงในจิต)
ไม่ทราบว่ารู้ความหมายกันหรือยัง?
สำหรับจิตวิญญาณที่บนโลกทิพย์ เขาจะดูได้จากตรงนี้กัน
แต่แสงในดวงจิตที่แผ่ไพศาลกว้างไกลมาก ก็คือ พระพุทธเจ้า
แสงจะมีลักษณะเป็น แสงฉัพพรรณรังสี คือ สีรุ้ง(7สี)
แต่ถ้าใครอยากความหมายของสีออร่า ผมเคยลงไปทีแล้ว
หรือไปค้นหาจาก Google Search

คุณหมอไม่ต้องห่วงว่าอินทรีย์ของตนเองอ่อนหรอกนะ
จิตสามารถทะลุมาถึงที่นี่ ไม่ธรรมดาแน่ แต่ยังใหม่อยู่
รอให้ธาตุปรับเข้ากับจิตให้ได้ก่อน เดี๋ยวคุณหมอจะพร่ำมากกว่าผมซะอีก ฮ่าๆ
แต่ถ้าคุณหมออยากรับสื่อธรรมะจากท่านพ่อ หรือพระพุทธเจ้า
ขอให้ขออาราธนาบารมีจากท่านพ่อบ่อยๆนะครับ
โดยทำจิตให้นิ่งมากที่สุดก่อน เดี๋ยวจิตก็จะไปรับธรรมะจนพูดไม่หวาดไม่ไหว

 

ขอโมทนาสาธุกับจิตบุญดวงที่34 ครูจิตบุญทุกท่าน จิตบุญทุกดวงจิต จิตบำเพ็ญทุกดวง ด้วยครับกระผม ..สาูธุ

 

สวัสดีครับคุณwatjojoj
ไม่ใช่แค่สะกิดใจคุณเท่านั้นนะ จิตคุณพัฒนาไปมากกว่า
ผมจะบอกให้คนที่แอบกระกระทู้อยู่นี่ พวกเขากำลังสะสมบุญของตนเอง
คอยสังเกตดูให้ดีๆนะ แต่ถ้าบุญใกล้จะเต็มนะ เดี๋ยวพวกเขาจะปรากฎ
คือแสดงตัวตนเขาออกมาเอง
เหมือนคุณนี่แหล่ะ คนที่ขยันเกาะกระทู้ เกาะพระนี่ บุญทั้งนั้น
รวมผู้ที่คอยกดอนุโมทนา หรือ อนุโมทนาบุญในใจ เขาก็ได้บุญแล้ว
เป็นการทำบุญที่ง่ายที่สุด ไม่เสียสตังค์ ไม่เสียเวลาด้วย ได้เห็นๆจะๆ

ส่วนคุณนี่พยายามเน้นเรื่องสติให้มาก+บ่อย=ต่อเนื่องนะครับ
จนสติกับจิตรวมตัวกันเป็นหนึ่งเมื่อไหร่ละก้อ เป็นเรื่อง

 

ขอสัญนิษฐานว่าอาการคล้ายกับ"โคตรภูญาณ"..
ขอถามเพิ่มเติมหน่อยซิครับว่า:-
- เป็นแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว(กี่วันมาแล้ว?)
- เรื่องศีลของท่านเป็นอย่างไรบ้าง(รักษาศีล5บริสุทธิ์?)
- ท่านเจริญสมถะกรรมฐานกองไหน(อานาปาน+พุทโธ?)
- ท่านมีเจริญวิปัสสนากรรมฐานอย่างไรบ้าง?
- ทำสมาธิหรือทรงฌานประมาณกี่ชม.ต่อวัน?
สาธุครับ

 

เอ๊าคุณครู มาช่วยกันยกจิตท่านนี้บนกระทู้นี้กันหน่อย
เอาอย่างนี้ดีกว่า แต่ถ้าใครรู้ตัวว่า จิตบำเพ็ญแก่กล้าแล้ว
พร้อมยกแล้ว ขอให้ส่งการบ้านบนกระทู้ได้เลย
ครูจะช่วยกันยกเป็นล๊อตเลยคราวนี้ เพราะคุณwarin100จะได้มีเพื่อน
ท่านจะได้ไม่รู้สึกเขินอาย

จิตคุณpreechaniy จิตท่านกำลังเข้าสู่วิปัสสนาญาณอีกคนแล้ว
เอ๊าครูเพ็ญลับมีดให้คมๆ เขียงมีแล้ว จิตพร้อมยกกันแล้ว
เชิญครับ...

สำหรับท่านอื่นๆมีปัญหาหรือคำถาม ได้โปรดทิ้งคำถามกันไว้นะครับ
กระทู้นี้เป็นกระทู้มหาชน กระทู้24hrs กระทู้ampm
ครูเพ็ญเรานึกว่ายกกันใกล้จะหมดแล้ว ก็จะรีบปิดกระทู้หนีสักหน่อย
เหตุไฉนคนจึงเพิ่มมาเรื่อยๆ แล้วจะปิดยอดยังไงเนี๊ย!

 

การสร้างบ้าน .....

ช่วงนี้ข่าวดีเยอะจริงๆ .....
ขออนุญาติใช้ปัญญาอันน้อยนิดกล่าวอะไรสักนิดนึง เกี่ยวกับการสร้างบ้าน .....
ถึงกระผมจะมิได้ด้าน Civil Engineer(CE) ดังเช่นครูลุงลูกพลัง(พี่ภูตั้งให้เองนะ ผ้มมม..ไม่เกี่ยว)

แต่จิตอยากสื่อให้ทุกท่านได้อ่านแล้วพิจารณาดูนะครับ

การทำจิตเกาะพระนั้น ไม่ต่างกับการที่ท่านกำลังสร้างบ้านของท่านเอง .....
ก่อนอื่น ในการสร้างบ้าน เราต้องรู้วิธีการในการสร้างบ้านของท่านก่อนนะครับ(ไม่ตรงหรือผิดหลัการด้านโยธา ... ขออภัยท่านพี่ลูกด้วยนะครับ)

1.การสร้างบ้านนั้น เราต้องเริ่มที่ฐานราก ก็คือ ปรับพื้น ถมดิน ตอกเสาเข็ม เทคา เทพื้น ..... การทำจิตเกาะพระนั้น ฐานราก ก้อคือ ศีล
ขอให้ทุกท่านทำศีลให้ครบบริบูรณ์ หมั่นทบทวนศีลทุกวัน ข้อใดบกพร่อง ให้แก้ไข ปรับปรุง
ศีลแปลว่า ปกติ แต่คนเราทุกวันนี้เพี้ยนไป ติดสมมติไปว่า ศีล คือ เรื่องไม่ปกติ คือเรื่องที่ทำยาก คนทั่วไปทำไม่ได้
โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง"ศีล แปลว่า ปกติ"
เมื่อศีลท่านครบ การก้าวเดินต่อไป กำลังใจก้อจะดี มั่นคง ไม่วอกแวก จะทำให้เกาะพระได้ดี ... จิตเป็นสมาธิได้
ทำฐานให้แน่นก่อนนะครับ ไม่ต้องใจร้อนข้ามขั้น เพราะเดี๋ยวบ้านจะถล่มได้ถ้ามีอะไรมากระทบ .... "ศีลพร้อม"
"ทางโลก:ฐานรากเสร็จ --- ทางธรรม:ศีลพร้อมบริบูรณ์"

2.ขั้นตอนต่อมา เมื่อมีฐานรากแล้ว มีพื้นแล้ว ... เรามาตั้งเสากัน มาก่อทำหลังคาเอาไว้กันแดดกันฝนกัน
ในขั้นตอนนี้ ก้อคือ ทำจิตเกาะพระ อยู่กับพระ(ใช้ภาพ หรือ ระลึกถึงพระก้อได้ ในกรณีที่ทำงานทางโลก) การทำผนังให้บ้านเราก้อคือ การทำให้จิตเกิดสมาธิ ซึ่งทำได้โดยการเกาะพระนั่นเอง
ซึ่งการทำให้จิตเกิดสมาธินั้น ต้องทำให้ต่อเนื่องมากที่สุด จิตก้อจะมีความละเอียดมากขึ้นๆๆๆเรื่อยๆ(สังเกตเอาจากภาพพระที่เปลี่ยนไปตามความละเอียดของจิต) จิตละเอียดขึ้นก้อคือ จิตทรงฌาณ(ฌาณ เปรียบได้กับความละเอียดของสมาธิ ... ฌาณ 1-4)
หลายๆท่าน มักจะถามผมว่า จะทำอีกนานแค่ไหน ....ผมตอบได้แค่เพียงว่า ทำๆๆแล้วก้อ ทำๆๆๆๆครับ (ขออนุญาติยืมเทคนิคลุงลูกพลัง)
ขอเพียงความต่อเนื่อง ในขั้นตอนนี้ก้อจะมีอะไรมากระทบเราอยู่เสมอ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติที่ต้องเกิด เราห้ามไม่ได้ แต่เราอยู่กับมันได้โดยใช้ "สติ"
ขอให้มีสติรู้เท่าทันทุกสภาวะที่เกิด และให้พิจารณาลงไตรลักษณ์ (ทุกสิ่ง เกิดมา ตั้งอยู่ ดับไป)
ช่วงนี้จิตเป็นสมาธิ มีอะไรเกิดเยอะ ทั้งปิติ ทั้งสภาวะธรรมต่างๆ สิ่งหนึ่งที่อยากจะเตือนคือ อย่าสงสัย และ อย่าหลง
อย่าสงสัย ...ขอให้ทำหน้าที่เป็นผู้รู้เท่านั้น รู้แล้ว วาง อย่าไปทำตัวเป็นนักสืบ มันจะเสียเวลา มีอะไรสงสัย ถามครู ไม่ต้องไปหาเอง
อย่าหลง ... ช่วงนี้ จิตเป็นสมาธิดี เกิดปิติ เกิดสุขจากสมาธิ อาจทำให้หลายคนติดได้ ติดสุขนี้แกะยากกว่าติดทุกข์นะ อย่าลืม ... ขอให้พิจาราทุกสิ่ง ทั้งทุกข์และสุขว่า มันไม่เที่ยง ไม่มีอะไรเที่ยง เพราะฉะนั้น อย่าไปยึดเด็ดขาด จะทำให้เราไม่ก้าวหน้า รู้อย่างเดียว ไม่ต้องไปยึด
"ทางโลก:หลังคาบ้านเสร็จแล้ว--- ทางธรรม:จิตเป็นสมาธิ"

3.ขั้นตอนต่อมา เรามาทำผนัง ติดหน้าต่างประตู เพื่อเตรียมพร้อมที่จะเป็นบ้านที่สมบูรณ์พร้อมเข้าอยู่
ในขั้นตอนนี้ ก้อคือ เมื่อจิตเราเป็นสมาธิได้ดีแล้ว เราก้อทำให้เกิดความต่อเนื่อง ให้จิตทรงฌาณสูงไปเรื่อยๆ จนเกิดวิปัสสนาญาณ ตัด ละ วางทุกสิ่งที่เป็นสิ่งสมมติ โดยใช้ปัญญาพิจารณา
กลับกันนะ ทางโลก เราจะเอาทุกสิ่งมาใส่ ประตู หน้าต่าง สุขภัณฑ์ อุปกรณ์ แต่ทางธรรม เราทำให้จิตเกิดวิปัสสนาญาณเพื่อตัดออกทุกอย่าง วางทุกอย่างให้หมด จนเป็น "อนัตตา"

ให้จิตทรงฌาณสูงไปให้ต่อเนื่อง พร้อมทั้งพิจารณาทุกสิ่ง ตัดทุกสิ่งออก อารมณ์ ร่างกาย ทุกสิ่งอย่างที่เรายึดอยู่ วางให้หมด ให้จิตว่างที่สุด เบาๆที่สุด สบายที่สุด และที่สำคัญคือ อย่าอยาก ...

แล้วขั้นตอนนี้ต้องทำนานไหมครับ/คะ .... แล้วแต่บุคคลนะท่าเอ๋ย ยกตัวอย่าง จิตบุญ34 ที่พึงยกไป ท่านปฏิบัติมานานแล้ว ท่านตัด ท่านละอะไรมาไมกแล้ว เมื่อท่านได้รู้ทาง รู้วิธีเดินมรรคที่ถูก ท่านก้อจบกิจได้ไว แต่กับเราๆท่านๆที่ไม่ได้ทำอะไรมาเลย หรือทำมาบ้างแต่ไม่ได้เข้มข้นนั้น คิดเอาเองสิ ท่านะจะละ จะวางได้เร็วไหม บางคนอาจจะเร็ว บางคนอาจจะช้า ขึ้นอยู่กับความนิ่งของจิตเรา เราตัดเราละได้ไว เราก้อจบกิจไว อย่าอยาก ...ทำไปด้วยความตั้งมั่น ถึงแล้วรู้เองครับ

"ทางโลก:เอาทุกสิ่งยัดเข้าไปให้เป็นบ้าน--- ทางธรรม: ปัญญา --> ขนทุกอย่างออกให้ว่าง จนเป็น อนัตตา ให้เหลือแต่จิตแท้ ..... นิพพาน"

เราพอมองเห็นหนทางที่จะสร้างบ้านข้างบนกันแล้วใช่ไหมครับ พยายามนะครับ
ทุกขั้นตอนมีตั้งความง่ายและความยกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
แต่ทุกคนทำได้ ถ้ามีความเพียร อดทน พยายาม อย่าห่างครู ขยันส่งการบ้าน รายงานอารมณ์ อย่าสงสัย ละวางของเก่าให้หมด

ทุกคนครับ มาสร้างบ้านข้างบนกันนะครับ .... จิตบุญทุกท่านจะช่วยสร้าง เราจะจูงมือท่านกลับบ้านด้วยกัน

ฐานราก - ศีล
หลังคา - สมาธิ
บ้าน - ปัญญา


ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมครับ

สวัสดีครับ

ธรรมชาติสวัสดี

วิทย์ จบ.11 (11สค55) ... IE

 

สุขกายสบายจิตดีจริงๆคะ ขอโมทนาบุญกับจิตบุญ จิตบำเพ็ญ จิตเกาะพระทุกท่านคะ
วันนี้ได้ร่วมบุญสร้างพระพุทธพลังจิต (ทองคำ) ปางห้ามสมุทร

เพื่อบูชาคุณของพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ และผู้มีพระคุณทุกพระองค์บนพระนิพพาน
รวมทั้งเป็นการฉลองพุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปี (ฉลองครบ ๒,๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

**ขอบุญกุศลนี้และทุกบุญของลูกจงสำเร็จแก่ จิตบุญ จิตบำเพ็ญ จิตเกาะพระ ทุกท่านทุกดวงจิต ขอให้ทุกท่านทุกดวงจิตถึงพระนิพพานในชาตินี้ด้วยเทอญ สาธุ .......

 

ขอโมทนา สาธุๆ
สำหรับผู้ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบอีกท่านนึง ที่มีความเพียรมากขึ้น
แต่ขอให้ทำต่อเนื่องเข้าไว้ เพราะจิตนี้ต้องการเอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชิด
ขนาดลูกกับสามี พวกเรายังดูแลกันเป็นอย่างดีกันเลยใช่ไหม๊?
นี่จิต ดวงจิตของเราเอง เราจะดูแลกันไม่ได้
ร่างกายหรือสิ่งภายนอกนั้น คือสิ่งสมมุติทั้งนั้น
มีเพียงแค่จิตเท่านั้น ที่เป็นของจริง นอกนั้นไม่ใช่
แล้วพวกเรากำลังสนใจอยู่กับสมมุติหรือว่าของจริงกันแน่
แต่ถ้าพวกเรา(จิต)ไปยึดแต่สิ่งที่เราเรียกว่า สมมุติกัน
ก็อันจะนำพาแต่ความทุกข์มาให้กับเราทั้งนั้น
จะเอากันไหม๊? ความทุกข์ เห็นไหม พอเรามีสติเท่านั้น เราก็ไม่ทุกข์แล้ว
เพราะคนที่รู้สึกว่าตนเองเป็นทุกข์อยู่นั้น ก็เพราะว่า
จิตตนเองหลงไปอยู่กับกิเลสไปเรียบร้อยแล้ว จงเข้าใจกันไว้ด้วย

จิตเป็นทิพย์แล้วสำหรับคุณสุภาทร จิตเห็นอะไรไม่ดีก็ขอส่งบุญ
อุทิศบุญกุศลไปให้เขาบ่อย ในขณะที่จิตเป็นสมาธิมากๆ อันนี้จะดีมาก
เพราะในขณะที่จิตเป็นสมาธิ หรือถ้าจิตทรงฌาน พลังจิตกำลังเข้ม
บุญก็จะมากตาม เวลาอุทิศผลบุญไปให้เจ้ากรรมนายเวรของเรา
พวกเขาก็จะได้รับ และจะได้ร่วมอนุโมทนาบุญกับเรา
และโอกาสที่เจ้ากรรมนายเวรเขาจะให้อภัยแก่เราก็จะมีมากขึ้นด้วย
ขอให้พวกเราขยันแผ่/อุทิศบุญกุศลให้กับพวกเขาเยอะๆนะ
นอกจากจะปลดเปลื้องกรรมให้เบาบางลงไป จิตใจของผู้ให้
มีแต่ความเจริญ มีแต่ความสบายใจกันด้วย มีได้ กับได้
จะตรงกันข้ามผู้ที่ไม่ได้ปฎิบัติแบบพวกเรา น่าเห็นใจพวกเขาเหล่านั้นจริง
อุเบกขา อุเบกขา อุเบกขาญาณ...

ผมขอเอาใจช่วยคุณในการปฎิบัตินะครับ
ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ