เพี้ยนจัด! “ธรรมชโย”อ้างเห็น“สตีฟ จ็อบส์”หลังตายเกิดเป็นเทพกึ่งยักษ์

โอ้ว๊าว... คุณสตีฟจ๊อบ ท่านเป็นเทพบุตรแล้วหรือเนี้ยะ ต่อไปนี้ ไปไหนมาไหน อย่าลืม เอาไอแฟดไอโฟนห้อยคอและระลึกถึงท่าน...ท่านจะได้ดูแลคุ้มครองเราตลอดไป และดลบรรดาลความร่ำรวยจากการขาย ipad iphone accesory & application และธุรกิจที่เกี่ยวข้องมหาศาลตราบนานเท่านาน (แล้วถ้าได้เยอะอย่าลืมะอุทิศบุญไปให้นะจะได้ เฮง เฮง ขึ้นแล้วจะถวายอะไรดี.....) หุ้น Apple + ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องต้องดีขึ้นแน่ หลังจากฟ้องคู่แข่งชนะ ใครเปิดร้านขายอะไรพวกเนี๊ยะเตรียมรวยเละ รวย รวย ....แล้วท่านบอกห่วยได้ด้วยป่าว อันนี้ต้องลองพิสูจน์ดูเองแล้วล่ะ น่าจะผ่าน App ที่เกี่ยวข้อง

 

ดูจากพุทธวจน อันเป็นคำสอนที่แท้ของพระพุทธเจ้า

เจ๊...โล้นซ่า เค้าแหกทุกข้อเลยอะ

 

มันหลอก กันมานาน ตั้งแต่ วิชา ธรรมกายแล้ว

ตั้งชื่อ เอาโก้ๆ..คน ก็ งมงายไปกับมัน ที่แท้ มัน แสวงหา เพื่อ ปากท้อง และ ชื่อเสียง..เป็นมานาน ตั้งแต่ วัด ภาษีเจริญ แล้ว...สืบทอดมานาน

คน ที่ ไปนับถือเพราะว่า เขา(ธรรมกาย) เอาการทำทาน เป็น ตัวตั้ง และ บอก ผล ของทาน เป็น ตัวรางวัล คน ไทย ที่ พอ จะมีกิน ก็ โง่ เพราะ คิดว่า ชีวิต ตนเอง ขณะ ยังไม่ตาย ก็ พอมีเงิน กินใช้สุขสบาย แต่ หาก ตายไป ภายหลัง ชีวิตหลังความตาย จะเป็นอย่างไร ไม่แน่นอน พวก ธรรมกายมันเลย เอาจุดนี้มา หลอก คนไทยโง่ๆ ให้หลงทำบุญมากๆ เพราะเมือ ตายไป จะได้สู่สวรรค์....มันหลอก กันมา อย่างนี้..ไง

หลวงพ่อ สด จะเก่งแค่ไหน ผม ไม่รู้ แต่ การบอกว่า นิพพาน นั้น จิต ออก ที่ เหนือ สะดือ 2 นิ้ว...แค่ นี้ ก็ รู้แล้วว่า มันหลอก กันมานาน.....

การ กำหนด เหนือสะดือ 2 นิ้ว...มันคือ กรรมฐาน หลอกลวง..ครับ
นิพพาน คือ การปล่อยวาง ที่ สุด แม้แต่จิต แล้ว มาบอกว่า การออก จาก สะดือ นั้นคือ การเข้านิพพาน....มันผิด ไปจากตำรา มานาน แล้ว...

 

๑๑๔] ๑. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา
เช่นอย่าง สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพ
โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้ คือ ทายอวัยวะ ทายนิมิต ทายอุปบาต ทำนายฝัน
ทำนายลักษณะ ทำนายหนูกัดผ้า ทำพิธีบูชาไฟ ทำพิธีเบิกแว่นเวียนเทียน ทำพิธีซัดแกลบบูชาไฟ
ทำพิธีซัด รำบูชาไฟ ทำพิธีซัดข้าวสารบูชาไฟ ทำพิธีเติมเนยบูชาไฟ ทำพิธีเติมน้ำมันบูชาไฟ
ทำพิธีเสกเป่า บูชาไฟ ทำพลีกรรมด้วยโลหิต เป็นหมอดูอวัยวะ ดูลักษณะที่บ้าน ดูลักษณะที่นา
เป็นหมอปลุกเสก เป็นหมอผี เป็นหมอลงเลขยันต์คุ้มกันบ้านเรือน เป็นหมองู เป็นหมอยาพิษ
เป็นหมอแมลงป่อง เป็นหมอรักษาแผลหนูกัด เป็นหมอทายเสียงนก เป็นหมอทายเสียงกา
เป็นหมอทายอายุ เป็นหมอเสกกันลูกศร เป็นหมอทายเสียงสัตว์ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๙ หน้าที่ ๖๔/๓๘๓<!-- google_ad_section_end -->

อลัชชีสถาน ธรรมกาย เหตุไฉนยังมีแต่คนไปกันนะ นับถือกันนะมันสอนไสย์เวทหรือพระพุทธศาสนาล่ะ คุณต้องนึกเอาดีๆๆ นะครับ ต่อไปนี้เป็นข้อมูลความเลวร้ายบางส่วนนะครับที่คนพุดถึง ผมก็อปปี้ที่เขาไปปฏิบัติและวิจารณ์มาให้อ่านเล่น


เจ้าลัทธิเขามีชื่อมานานแล้วเรื่อง "ดูดเงิน" เวลาไปไหนนั่งรถคันละหลายสิบล้าน
อยู่ได้เพราะเงินหนาที่หลอกจากลูกศิษย์ และสร้างภาพเหมือนธุรกิจแชร์ัพันล้านผ่านเครือข่าย......อย่าว่าแต่ภพหน้าเลย ภพนี้ยังไม่รู้ว่าเขาจะออกหัว ออกก้อยยังไง(ความเห็นที่1)


เป็นลัทธิอุบาทว์ ที่ไม่มีใครกล้าแตะต้อง เป็นมานานแล้วด้วย ไม่เคยศรัทธา 20 กว่าปีที่แล้ว ทางวัดให้นักเรียน ไปนั่งสมาธิ แต่ขอค่า ปักกรด 500. ตอนนี้ลามไปทั่วประเทศ จัดบวชพระ แสนรูป ไปทำให้วัดอื่นๆยุ่งยากใจ คนในพื้นที่ไม่ชอบ .....(ความเห็นที่2)

ผมอ่านแล้ว ไม่เห็นด้วยกับคำสอนของเขาเลยครับคงได้แต่หวังว่าให้ลูกศิษย์ของเขา โชคดีแล้วบรรลุในระดับหนึ่งที่เห็นซึ้งแล้วว่าคำสอนที่ได้รับจากที่นี่ มันไม่ใช่ทางที่จะหลุดพ้นครับ .....(ความเห็น3)


....กิเลสตัวสำคัญของไชยบูลย์ คือ ความบ้าอยากดัง อยากเป็นใหญ่ครองภพทั้งหมด คิดว่าตนเองเหนือกว่าบรรดาพระพุทธเจ้าทั้งหลายที่ดับขันธ์ไปก่อนหน้านั้นทั้งหมด ใช้คำกล่อมบรรดาลูกศิษย์ใกลชิดที่โง่เขลาทั้งหลายว่า ในอนาคตเขาจะมาเกิดเป็นพระพุทธเจ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวัฏฏะสงสาร สามารถใช้อำนาจธรรมกายเสก บันดาลให้สัตว์หมดวัฏฏะสงสารเข้านิพพานกันหมด ไม่เหลือวัฏฏะสงสารอีกเลย ... โอ้โห ๆๆ..

....ลองมาใช้หลักตรรกะง่ายๆ คิดดู ..ถ้าหลักธรรมที่ว่า สามารถใช้อำนาจธรรมกายเสกได้แบบนั้นจริง ทำไมพระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีตไม่มีใครรู้หลักธรรมนี้เลยสักพระองค์เดียว (วัฏฏะสงสารจึงหมุนวนมาเรื่อยๆๆ จนบัดนี้) ทำไมหลักธรรมนี้ หลุดรอดข่ายพระสัพพัญญุตญาณของเหล่าบรรดาพระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีตไปได้ โดยไม่มีพระองค์ไหนล่วงรู้ถึงหลักธรรมนี้เลย ... แล้วทำไมคุณไชยบูลย์จึงเก่งกล้าสามารถไปล่วงรู้หลักธรรมนี้ได้ แสดงว่าเก่งกว่าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย งั้นหรือ ? จริงหรือ ?? มีอะไรมาเป็นหลักฐานแสดงว่า คุณไชยบูลย์เก่งกว่าบรรดาพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ..ก็ที่่เห็นๆในปัจจุบัน ก็แค่นั้น เคยทำฤทธิ์เดช ปาฏิหาริย์ต่างๆ แบบพระพุทธเจ้าได้ไหม เช่นยมกปาฏิหาริย์และอื่นๆอีกมากมาย ? เคยมีผลงานเทศนาให้คนเข้าถึงนิพพานคราวละนับไม่ถ้วนแบบพระพุทธเจ้าได้ไหม ? เคยสามารถไปเปลี่ยนใจ เปลี่ยนทิฏฐิบุคคลสำคัญๆ ระดับผู้นำใหญ่ๆ ทั้งหลายให้มานับถือศาสนาพุทธแบบที่พระพุทธเจ้าเคยไปเปลี่ยนใจ บรรดาศาสดาอื่นๆ และเหล่ากษัตริย์ต่างๆ ให้มาบวช มานับถือศาสนาพุทธ มากมาย..เคยทำแบบนั้นได้ไหม ? เคยเทศนาหลักธรรมที่ลึกซึ้งละเอียดในแง่มุมต่างๆ ในแนวอภิธรรมหรือแนวอื่นๆ ออกมาได้บ้างไหม ? เคยแสดงการละวางปล่อยวาง ทำตัวสมถะ ได้ไหม ? ..และอื่นๆอีกนับไม่ถ้วน ...ฯลฯ ไชยบูลย์ เหนือกว่าพระพุทธเจ้าทั้งหลายจริงรื๊อออ ? ...ฝากให้เหล่าบรรดาสาวกธรรมโกยทั้งหลายไปพิจารณาดีๆ

แต่ที่เห็นๆ ไชยบูลย์ มีนิสัยเหมือนพระเทวทัตที่สำคัญคือ อยากใหญ่ อยากดัง อันนี้แน่นอนเลย...การมีนิสัยอยากใหญ่อยากดังของพระเทวทัต พระพุทธเจ้าตรัสว่า พระเทวทัตมีความปรารถนาลามก ( ปาปิจฉตา ) .....(ความเห็นที่4)


เจ้าลัทธิ..คุณไชยบูลย์เขาขายของเก่งกว่าใครทั้งหมดในอาณาจักรธรรมกาย..
อย่าว่าแต่ สวรรค์ยังเอามาขายได้เลย..ขนาด..สมบัติมีค่าอย่างเดียวที่เขามีติดตัวมาในชาตินี้..คือ" มนุษย์สมบัติ" เขายังยอม ขาย.. แลกกับ..เศษเงิน..เศษกระดาษ..เศษของที่ไม่สามารถนำติดตัว..ติดจิตวิญญาณไปด้วยเลย .(.เวลาตายไปหน่ะ..ยัดเศษเงินใส่ปากเขาไปด้วยซิ..ยัดไปเยอะๆนะแล้วคอยดูว่า..เอาติดตัวไปได้จริงรึ...)
..
สิ่งเดียว..ที่ดีที่สุดในชีวิตที่ติดตัวเขามาและสามารถติดตัวเขาไปได้...เขาได้ขาย..แลกมันกับเศษเดนไปเสียแล้ว...ช่างเกิดมาเพื่อเป็นนักขายเสียจริงๆ....
..ขายได้ลงคอ..ขายศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ขายหน้าขายตาขายตระกูลขายบุญ ขายสวรรค์ ขายวิมานขายๆๆ ฯลฯ..ขายหมด..ช่างขายได้ลงคอ!
..เขาเกิดมาเพื่อ..สิ่งนี้ เพียงอย่างเดียวกระมัง..."เงิน เงิน เงิน ! ".....(ความเห็นที่5)



คือเมื่อวันที่ 3-6 เดือนนี้ ญาติผู้ใหญ่ที่มาฐานะร่ำรวยมากอายุ 80 ปีแล้วผู้เป็นศิษย์วัดพระธรรมกายมา 30 ปีแล้ว ได้ขอร้องให้ดิฉันไปเป็นเพื่อนปฏิบัติธรรมร่วมกับคนวัดอีก 24 คนที่รีสอร์ทหรูแห่งหนึ่งที่เขาใหญ่โดยเขาออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ดิฉันขับรถไปกัน 2 คนป้าหลาน บรรยากาศที่นั่นแสนสบายอากาศดี ห้องพักหรู บุฟเฟต์อย่างดี 2 เวลา เช้า-กลางวัน คนวัดก็อัธยาศัยดี

มีการทำสมาธิทำใจใสๆให้เห็นดวงแก้วกลางท้องให้ได้และมีพระ 3-4 รูปผลัดกันเทศน์โน้มน้าวจิตใจคนวัดให้เลื่อมใสในวิชาธรรมกายเกิดความฮึกเหิมในการทำทานบารมีชนิดทุ่มสุดฤทธิปิดบัญชีธนาคารวันละ 3 เวลา อะไรๆดิฉันก็พอทนได้เพราะคิดว่าการมาครั้งนี้มาฟรี และได้สงเคราะห์ญาติผู้ใหญ่ให้ได้มีโอกาสมาปฏิบัติธรรมตามที่ใจเขาปรารถนา แต่ที่ดิฉันทนไม่ได้อย่างมากก็คือคำสอนของพระแต่ละรูป ดิฉันไม่รู้ว่าทานสอนไปได้อย่างไร

อย่างเช่นว่า ท่านสอนว่า ระหว่างความสุข ความทุกข์ ความไม่สุขไม่ทุกข์ พวกเราควรจะเลือกอะไร ในเมื่อพระพุทธเจ้าตรัสว่า นิพพานัง ปรมัง สุขขัง นิพพานเป็นบรมสุข แสดงว่าความสุขเป็นของดี ดังนั้นพวกเราควรเลือกเอาความสุข พระยังสอนอีกว่า ระหว่างรวย จน ไม่รวยไม่จน เราก็ต้องเลือกรวยเอาไว้ก่อน เพราะรวยทำให้เราสามารถทำทานบารมีไปจนถึงที่สุดแห่งธรรมได้

คำสอนของพระแต่ละรูปไม่ได้สอนให้คนซาบซึ้งถึงความจริงของชีวิตคืออริยสัจ 4 หรือสอนให้เห็นไตรลักษณ์ ว่าทุกสิ่งมันไม่เที่ยง มันแปรเปลี่ยนได้ตลอดเวลา เป็นอนิจังจัง ทุกขัง อนัตตา แต่ท่านกลับสอนให้ใจไปยึดติดแต่ความสุขจอมปลอม สอนให้ยึดความรวยเป็นเป้าหมาย คำสอนเน้นๆแต่เรื่องให้ทำทานยิ่งมากยิ่งบุญเยอะ ให้จิตเกิดปิติแล้วอธิษฐานจิตให้รวย ทุกคนมีเป้าหมายในชีวิตคือต้องรวยมากๆจะได้สามารถทำทานบารมีให้เต็มที่ ตายไปต้องได้ไปอยู่ดุสิตบุรีแน่นอน ถ้าไปเกิดอีกก็จะได้เป็นคนรวย

แต่ที่รับไม่ได้จริงๆก็คือ พระถามว่าใครคือผู้ยิ่งใหญ่ใน 3 ภพ ลูกศิษย์ทุกคนตอบพร้อมเพรียงกันว่า หลวงพ่อพระธัมมชโยเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในสามภพ ดิฉันฟังแล้วสลดใจและรับไม่ได้จริงๆ

ดิฉันมีเรื่องต้องเล่าเยอะมากๆ แต่ตอนนี้เวลาจำกัด ต้องออกไปข้างนอกแล้วกลับมาค่อยเล่าต่อ เพื่อนๆคิดอย่างไรกันบ้างคะ.....(ความเห็นสุดท้าย)<!--MsgFile=6-->

 

ดูๆ เจ๊เค้าล้างสมองสาวกซิ มันเอากันขนาดนั้น

 

ไม่เอา ไม่เอา อย่าไปว่าท่านทำมะชยูตเขาสิ เขาเป็นแต่เพียงผู้แปลสารเท่านั้นแหละนะ พวกคนรับสารมันทึกทักเชื่อกันไปเอง คำทำเดาจะตรงไม่ตรงไม่สนใจขอเป็นผู้ได้เลื่อนระดับข้ามมิติเท่านั้นพอ
nigga:boo:

 

สมัยพุทธกาล ก็มีพระเทวทัต
สมัยนี้ก็คงเป็น ณ ที่แห่งนั้นและท่านองค์นั้น ที่เปรียบดั่งพระเทวทัตในสมัยพุทธกาล ซึ่งคงมีอเวจีมหานรกเป็นที่ไปเมื่อละสังขาล ซึ่งเป็นตามกรรมของท่าน
แต่ที่ห่วงคือผู้ที่มีมิจฉาทิฏฐิตามคำสอนของท่านนั้น และที่ไปของมิจฉาทิฏฐิก็มีที่ไปคือ นรก เปรต อสูรกาย เดรัชฉาน เท่านั้น

พระพุทธเจ้า ตรัสไว้ว่า เราไม่เห็นกรรมใดที่หนักเหมือนกับกรรมที่ก่อจาก มิจฉาทิฏฐิ

 

พระเทวทัต เวอร์ชั่น 2012 เจ๋งกว่าเยอะ

 

นักบวช+โป้งเหน่ง ที่ชอบยุ่งกับเงิน งามหน้าทุกรายน่ะ

 

ธุรกิจ ทุกอย่างมันต้องลงทุน
ดูความยากลำบากในการสร้างอาณาจักร

 

โห..เป็นภาพที่น่าเศร้ามาก

 

อุแหะ ที่ตีกะชาวนานั่นพกปืนด้วยใช่ไหมเนี่ย (ถ้าไม่ใช่ขออภัย) เรื่องราวเป็นอย่างไรช่วยเล่าให้ฟังหน่อยสิครับ

 

ในกระเป๋าหลังนั่นหนะ ปืน

จัดไป
แฉลิ่วล้อธรรมกาย บีบซื้อที่ไล่ร.ร.
(เดลินิวส์ 20 ม.ค. 42)


ปัญหาของวัดพระธรรมกายไม่เพียงแต่เฉพาะชาวนา อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี (ติดตามชมตอนหน้าเจ้าค่ะ)


แต่ พบพฤติกรรมโหดวัดพระธรรมกายบีบซื้อที่ดินเจ้าของโรงเรียนอนุบาล ครูเจ้าของที่ยกครอบครัวแฉแหลกถูกบีบใช้วิธีถมที่ล้อมรอบ แล้วสร้างส้วมปล่อยน้ำอึ น้ำฉี่ เข้าไป ขนาดฝกตกหนอนไหลตามน้ำต้องไปยืนกินข้าวบนเตียง ซ้ำยังให้คนมายืนฉี่หน้าบ้านให้ลูกสาวเห็น สุดท้ายตกลงขาย 1ล้าน แต่ได้มาแค่ครึ่งเดียว กรรมาธิการศาสนาตามกลิ่นข้อมูลทันที พบพฤติกรรมสุดอัปลักษณ์จนคาดไม่ถึง


เมื่อ วันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวเดลินิวส์จากจังหวัดพิษณุโลก เข้าไปสัมภาษณ์นายจันทร์ แพทย์เจริญ อายุ 70 ปี ซึ่งได้รับความเดือดร้อนถูกวัดบีบซื้อที่ดินเช่นกัน โดยนายจันทร์กล่าวว่าตนก่อตั้งโรงเรียนอนุบาลแสงเทียนมาพร้อม ๆกับการก่อตั้งวัดพระธรรมกายที่อยู่ติดกัน ระยะต่อมาปัญหาเกิดขึ้นเมื่อวัดต้องการขยายอาณาเขตโดยมีการกว้านซื้อที่ดิน จากชาวบ้าน และที่ดินโรงเรียนอนุบาลแสงเทียนก็อยู่ในเป้าหมายการกว้านซื้อด้วย บุคคลที่มาติดต่อขอซื้อที่ดินคือนายสุธรรม ตีระวนิช หรือปัจจุบันคือพระสุธรรม สุธัมโม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ระยะแรกนายจันทร์กล่าวว่าตนไม่ยอมขาย ทำให้ลูกศิษย์ของวัดไม่พอใจอย่างมาก


ทางวัดจึงได้มีการนำคนงานนำดินมาถมบริเวณรอบ ๆ โรงเรียนจนสูง และ ยังก่อสร้างห้องน้ำเป็นแถวถึง 20 ห้องติดกับโรงเรียนทำให้น้ำจากห้องน้ำ ทั้งน้ำอาบ น้ำฉี่ น้ำอึ ไหลนองลงมาในโรงเรียน จนทำให้เด็กนักเรียนอนุบาลตัวเล็กตัวน้อยเดือดร้อนอย่างมาก ผู้ปกครองจึงย้ายเด็กออกไป


รายงานข่าวจากกรรมาธิการการศาสนา(สอบถามข้อเท็จจริงได้) เปิด เผยว่า กรรมาธิการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาการบีบซื้อที่ดินโรงเรียนอนุบาล แสงเทียนด้วย โดยข้อมูลที่ได้รับก็คือวัดได้บีบซื้อที่ดินด้วยวิธีหฤโหดหลายวิธี อาทิ แกล้งปิดทางเข้า-ออกโรงเรียน ซึ่งทำให้เด็กนักเรียนอนุบาลต้องเดินทางอ้อม 300-400 เมตร นอกจากนั้นยัง ขุดคูรอบบ้านและสูบน้ำให้ท่วมที่ดินทั้งหมด


" ทราบว่าปัญหาครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่อำเภอมาดู และขอให้วัดอย่าทำเลย ก็เลยสูบน้ำท่วมออก แต่เสร็จ แล้วครูจันทร์ก็ยังไม่ยอมขายที่ดิน ก็เลยเอาลูกจ้างชั่วคราวของพวกพิทักษ์ป่า มากลางเต้นท์รอบบ้าน เฮฮา ๆ เขาก็ไม่ขาย บอกว่าทำเพื่อเด็กไม่มีโรงเรียนไปเรียน ไม่ขาย เลยสั่งแก้ผ้าอาบน้ำตอนเย็นให้ลูกสาวดู"


นอก จากนั้นยังมีข้อมูลว่าก่อนที่นายจันทร์จะยอมขายที่ดิน ก็มีพระชั้นผู้ใหญ่ในวัดประกาศในโรงอาหารของวัดว่า"คืนนี้ลูกสาวตาจันทร์ เรียบร้อย เสร็จแน่" และรุ่งขึ้นพระรูปเดิมก็กล่าวย้ำอีกว่า"ลูกสาวตาจันทร์เรียบร้อยไปแล้ว วิ่งตามไอ้หนุ่มไปแล้ว" ต่อมานายจันทร์ก็ยอมขายที่ โดยไม่ทราบสาเหตุ แต่สุดท้ายก็มีคนมาให้ข้อมูลว่าเป็นผู้พาหน่วยพิทักษ์ป่าไปปล้ำผู้หญิง ที่โรงเรียนแสงเทียนพิทยา


ส่วน นางแสงเทียน แพทย์เจริญ ภรรยาของนายจันทร์เปิดเผยว่า เหตุการณ์ในครั้งนั้นครอบครัวเราไม่มีวันลืม เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเรื่องจริง มีบางเรื่องที่เลวกว่านี้ คนชั่วสั่งให้หน่วยพิทักษ์ป่ามาสร้างส้วมและสั่งให้ทำให้สกปรกที่สุด มีน้ำเฉอะแฉะที่เหม็นมากเพราะเป็นน้ำอึ้นำฉี่ทั้งนั้น มีหนอนตัวใหญ่ไต่กันยั่วเยี้ยเต็มไปหมด แต่ปรากฎว่าเมื่อส้วมสกปรกไม่มีใครทำความสะอาด ก็สั่งให้คนมายืนฉี่หันหน้ามาทางบ้านตน


"ในที่สุดเราต้องตัดสินใจขายที่ดินเพราะรำคาญ และลูกชาย 3 เป็นคนอารมณ์ร้อน ไม่อยากให้เกิดการฆ่ากันตาย ตอนตัดสินใจขายก็เสนอราคาไป 1,000,000 บาท ทางวัดก็เฉยๆ และเอาเงินมาให้แค่ 500,000 บาทเท่านั้น ก็ถามว่าทำไมให้มาเท่านี้ไม่ได้ตามที่ตกลงกัน พระเผด็จบอกว่าถ้าพูดมากจะไม่ให้ "


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับกรณีที่ชาวนาโดยการนำของพระบานเย็น ชินวโร แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าอาวาสวัดและพวกรวม 5 กระทง พ.ต.อ.สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ ผกก.3ป. เปิดเผยว่าได้มีการสั่งการในทางลับให้ลงไปตรวจสอบพื้นที่และสอบปากคำชาวบ้าน รวมถึงได้มีการรวบรวมเอกสารเกี่ยวกับมูนิธิธรรมกาย โดยจะมีเรียกประชุมในวันที่ 20 มกราคมนี้

 

วิชชาธรรมกายมีจริง แต่เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายดูอนาคตตัวเองมั่งหรือเปล่าว่าตายแล้วไปอเวจีไม่ผ่านสำนักพระยายม

 

โดยเพจ ท่านผู้นำสูงสุด

 

ถ้าวัดที่เมืองอยุธยายังไม่ถูกทำลายนะ...บอกได้คำเดียวว่า..วัดเก่งเกินลิง...เนี้ยหมอง

 

กรรม จาบจ้วงพระรัตนไตรนะครับ

"ภิกษุณีแม้บวชก่อนเป็นร้อยปี ก็ต้องให้ความเคารพต่อภิกษุแม้บวชวันเดียว" แล้วท่านเป็นฆราวาส ถือศีลกี่ข้อ

หน้าที่ว่ากล่าวตักเตือนสงฆ์เป็นหน้าที่ของพระผู้ใหญ่ หรือพระที่มีสมณะศักดิ์เท่ากัน ก็ว่ากล่าวตักเตือนกันได้ในวันปวารณาออกพรรษา

 

เอ็งนี่ไร้สาระจริง การออกมาพูดมาแสดงความเห็นมาปกป้องพระพุทธศาสนา จากเปลือกจากกระพี้ จากไสยเวทย์ ติรัจฉานวิชา แต่ไม่เข้าหาเนื้อหาสาระ เป็นหน้าที่ของชาวพุทธทุกคน และ สมควรทำ ไม่ใช่มัวแต่มืดบอด
ที่ข้าพระแก่ๆๆ รูปเดียวพวกเอ็งยังด่าเอาด่าเอา กระจะให้ข้าทั้งสึกทั้งเข้าคุก ไอ้ข้าก็ไม่ว่าอะไร? อันไหนแจงได้ก็แจง อันไหน?แจงไม่ได้ก้ไม่แจงเพราะเป็นธรรมดาของโลกคนย่อมมีจุดยืนที่แตกต่าง อันนี้เป็นองค์กร มีทั้งอำนาจทางการเมือง นายทุน หนุนหลัง ทางสื่อ มีทั้งกำลังเงิน ความรู้ มีฐานพุทธพาณิชย์อยู่ต่างประเทศ แม้กระทั้งคณะสงฆ์ยังไม่อาจจะทำอะไรได้ เพราะมีผลประโยชน์ร่วมกัน ในทางไสยเวทย์ ทางวัตถุ ทางพุทธพาณิชย์
กลับนิ่งเสีย เอาว่ะ พวกเอ็งนี่มันยังไง? เรางงกับพวกเอ็งเสียเหลือเกิน

 

นมัสการ
เรื่องนี้เราต้องทุกคนใช่ไหมครับหลวงพ่อ ผมชอบแนวปล่อยวาง ง่ายดี ใครทำอะไรก็ช่างเขา อะไรทำนองนั้น ใช่ว่าเขาทำอะไรมันคือหน้าที่ของเราที่เราจะต้องแก้

นึกออกแระ ทางสายกลางไง ออกไปปกป้องบ้าง ปล่อยวางบ้าง

(วุ่นวาย จริงเน้อชีวิตมนุษย์)