บูชา... โดเรมอน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อุรุเวลา, 4 กันยายน 2012.

  1. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    <iframe src="http://www.youtube.com/embed/k64DZg9NR5I" allowfullscreen="" frameborder="0" height="320" width="420"></iframe>

    วัดสำปะซิว เมืองสุพรรณฯไอเดียเก๋อีกแล้ว ทำล็อกเก็ตโดเรม่อนสวมชฎา และเทพไอแพด แจกนักท่องเที่ยวกับเด็กๆ
    ผุ้สื่อข่าวรายงานว่า (2 ก.ย.) ที่วัดสำปะซิว ต.สนามชัย อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พระมหาอนันต์ กุสลาลงกาโร เจ้าอาวาสวัดสำปะซิว ได้จัดทำล็อกเก็ตเข็มกลัดโดเรม่อนสวมชฎา มีข้อความว่า “โลโกปตฺถมฺภิกา เมตตา เมตตาเป็นเครื่องค้ำจุนโลก” และล็อกเก็ตเข็มกลัด เทพประจำวันพฤหัสหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า เทพไอแพค มีข้อความว่า “พฺรหฺมหาติ มาตาปิโต บิดามารดา เป็นพรหมของบุตร” ซึ่งทางวัดได้นิมนต์พระเกจิชื่อดังใน จ.สุพรรณบุรี จำนวน 9 รูป มาประกอบพิธีปลุกเสก
    เจ้าอาวาสวัดสำปะซิว กล่าวว่า ล็อกเก็ตนี้เพื่อนำมาแจกให้กับนักท่องเที่ยวที่มาทำบุญกราบไหว้ขอพรพระ และเที่ยวชมศึกษาภาพจิตกรรมฝาผนังพุทธประวัติทางศาสนาในโบสถ์ เก็บเอาไว้เป็นสิริมงคลและเป็นที่ระลึก นอกจากนี้จะแจกให้กับเด็ก ๆ แต่มีกติกาว่าจะต้องตอบปัญหาเกี่ยวกับวัดสำปะซิวหรือประวัติทางพระพุทธศาสนา ให้ได้
    ทั้งนี้ วัดสำปะซิวเป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดัง จากภาพจิตกรรมฝาผนังเล่าเรื่องราวพุทธประวัติทางศาสนา มีภาพการ์ตูนชื่อดังแฝงไปด้วยปริศนาธรรม


    คัดลอกมาจาก ฮือฮา! วัดสำปะซิวแจกล็อกเก็ตโดเรม่อน และเทพไอแพด
     
  2. ตาดำดำ

    ตาดำดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +732
    - เป็นที่ระลึกก็ได้อยู่ แต่คงไม่ถึงขั้นเป็นสิริมงคลหรอกครับ
    ดีไม่ดีอาจโดนเรื่องกฎหมายลิขสิทธิ์อีกด้วย (บริษัทเค้าคงไม่ขอให้พระมาช่วยโฆษณาหรอกมั้ง)

    - ธรรมมะพระพุทธเจ้าเป็นของสูงควรแก่การบูชา แต่กลับเอามาไว้กับรูปโดเรมอน เทวดาแบกไอแพด แบบนี้ผมคิดว่าไม่เหมาะสมนะ ไม่รู้เด็กๆจะเข้าใจว่าพระบอกให้บูชาโดเรม่อนกับไอแพดด้วยรึเปล่า และหวังว่าคงไม่ได้หมายถึงทำบุญด้วยไอแพดแล้วตายไปจะได้เป็นเทวดาที่มีไอแพดใช้นะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2012
  3. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +1,919
    ก็ดีนะ เพราะโดเรมอนยังมีของวิเศษ ก็คงเป็นการสร้างความแตกต่างซินะ
    ยังดูดีกว่าคนสมัยก่อนหรือสมัยนี้ที่สร้าง ศิวลึงค์ หรือ ปลัดขิก หรืออะไรทำนองนี้ ไว้กราบไหว้บูชา 55555+
     
  4. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234
    เมิง ไทย ม๊ากกกกก 55555+
     
  5. วิหคอิสระ

    วิหคอิสระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    758
    ค่าพลัง:
    +1,318
    :cool::cool::cool::cool:
     
  6. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    เขร้ ! @#$%^&*()
     
  7. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512
    บางทีกุสโรบายให้คนทำความดี ก็เยอะเกินไปนะ-.-
    ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันเพราะกุสโรบาย ทำให้มีความบิดเบียนในพุทธเยอะแค่ใหนแล้ว

    เดี่ยวก็แตกออกมากเป็นนิกายนู้ยนิกายนี้ แล้วก็หลายเป็น เซน มหายาน หินยาน เถรวาร
    ความเชื่อไปคนละทางกันเลย
    พระสังทัมจั๋ง เดินทางจากจีนไปดินเดียวโดยผ่านไทยนั่งเรือไปอินเดีย
    มีลิง มีหมู มีมังกร มีปีศาจสารพัด
    ดูกันมันส์กันหมด เชื่อกันไปทั่ว
    แต่ทำไมในไทยไม่เห็นมีบันทึกเลย
     
  8. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002

    พุทธวัชรยาน(ตันตระ)กับ...เรื่องของพุทธโลกที่พุทธไทยไม่ค่อยรู้ : เรื่อง / ภาพ ไตรเทพ ไกรงู

    การกระทำที่ถือว่าเป็นการลบหลู่พระพุทธศาสนาของบุคคลบางกลุ่มในช่วงปัจจุบัน มักปรากฏให้เห็นผ่านโลกอินเทอร์เน็ตบ่อยครั้ง สำหรับผู้ท่องโลกอินเทอร์เน็ต หากใส่คำว่า "yab yum" ลงในเว็บไซต์สำหรับค้นหาข้อมูลและรูปภาพ จะได้เห็น "พระพุทธรูปที่มีหญิงสาวนั่งคร่อมบนตัก อยู่ในอาการกำลังเสพสังวาส" อาจทำให้พุทธศาสนิกชนชาวไทย รู้สึกโกรธว่า "เป็นการหมิ่นพระพุทธศาสนาอย่างสุดที่จะทนทาน และสาปแช่งว่า ใครหนอที่ใจบาปหยาบช้า ดูหมิ่นพระพุทธศาสนาได้ถึงขนาดนี้" ทั้งนี้กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) คงต้องทำงานหนักกว่าที่เป็นอยู่หลายพันเท่า
    ภาพพระพุทธรูปที่มีหญิงสาวนั่งคร่อมบนตัก อยู่ในอาการกำลังเสพสังวาส นั้น อ.ราม วัชรประดิษฐ์ นักประวัติศาสตร์ด้านพุทธศิลป์ และสุดยอดแฟนพันธุ์แท้พระเครื่อง บอกว่า ในความรับรู้ของคนทั่วไปนั้น "ลัทธิตันตระ" หรือ "ตันตริก" เป็นนิกายหนึ่งของพุทธศาสนาแบบมหายานที่เผยแพร่อยู่ทั่วไปในทิเบต ภูฏาน และจีน ซึ่งจะมีการสร้างรูปเคารพในลักษณะแปลกประหลาดกว่าทางหินยานหรือเถรวาท เช่น มักผนวกเอาเรื่องราวของความศักดิ์สิทธิ์ อิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ ให้ปรากฏในการสร้างพระพุทธรูป พระโพธิสัตว์ พระนางตาราอันเป็นชายาของพระโพธิสัตว์ จนบางกลุ่มถูกเรียกว่า "นิกายมนตรยาน" ก็มี

    คำว่า "ตันตระ" (Tantra) หมายถึง ความรู้และการริเริ่ม ซึ่งจะให้ความสำคัญต่อการแสดงออกทางร่างกายในท่าทางต่างๆ ที่เรียกว่า "ปาง" เป็นสำคัญ ความเชื่อในตันตระนั้นเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ยุคพระเวทของอินเดียโบราณ นอกจากการที่พราหมณ์จะรจนา คัมภีร์ฤคเวท ยชุรเวท สามเวท แล้วยังเพิ่มส่วนที่เรียกอาถรรพเวทขึ้นมาอีก ซึ่ง "อาถรรพเวท" นี่เองเป็นจุดกำเนิดของแนวคิดแบบตันตระ

    เมื่อแนวคิดแบบตันตระก็จะเข้าไปปะปนอยู่กับลัทธินิกายต่างๆ ที่บูชาเทพเจ้า เช่น ไศวนิกาย ไวษณพนิกาย และศักตินิกาย โดยเฉพาะ "ศักตินิกาย" นั้นเป็นการเทิดทูนเทวสตรี เช่น พระแม่อุมา พระลักษมี พระสุรัสวดี เป็นใหญ่ ให้ความสำคัญต่ออิตถีเพศโดยการบูชา "โยนี" โดยเชื่อว่า เป็นสิ่งที่ให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตในจักรวาลควบคู่กับศิวลึงค์ ซึ่งพวกนับถือลัทธิศักตินั้น ได้นำเอาแนวคิดแบบตันตระเข้าไปปฏิบัติ โดยแบ่งเป็น พวกทักษิณาจาริณ คือ ผู้บูชาเทพและเทวีอย่างสุภาพ ส่วนอีกพวกหนึ่งเรียกว่า วามาจาริณ คือ พวกบูชาเทพและเทวีด้วยการประกอบพิธีลับ เช่น พิธีกาฬจักรบูชา เพื่อสรรเสริญศักติของพระแม่อุมาในปางพระแม่กาลี และพระแม่ทุรคา โดยการบูชายัญด้วยเลือดของมนุษย์และสัตว์

    นอกจากนี้ยังมีพิธีบูชาด้วยพรหมจรรย์ของหญิงสาวโดยเชื่อว่าเป็นการแสดงออกทางร่างกายให้ศักติโปรดปราน ซึ่งจะยึดหลัก ๕ ประการ ได้แก่ ๑.มัตยะ คือ การเสพรับเครื่องดองของเมา ๒.มังสะ คือ การบริโภคเนื้อสัตว์สดๆ ๓.มัสยา คือ การบริโภคเนื้อปลาสด ๔.มุทระ คือ การบริโภคข้าวโพด เมล็ดแป้งข้าวสาลีเพื่อเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย และ ๕.เมถุน คือ การเสพกาม

    อ.ราม ยังบอกด้วยว่า เมื่อพุทธศาสนาเกิดข้อขัดแย้งแบ่งออกเป็น ๒ นิกาย ได้แก่ เถรวาทหรือหินยาน และอาจารยวาทหรือมหายาน แนวคิดแบบตันตระก็เข้าไปผสมผสานกับฝ่ายที่ปรับตัวอย่างเด่นชัดซึ่งก็คือพุทธแบบมหายาน ที่ให้ความสำคัญต่อเพศสตรี เช่น การนับถือเจ้าแม่กวนอิม การยกย่องพระนางปรัชญาปารมิตา การเคารพต่อพระชายาของพระโพธิสัตว์ต่างๆ ที่เรียกว่า "นางตารา" หรือ "นางโยคินี" ก่อให้เกิดการสร้างรูปเคารพสตรีจำนวนมากในนิกายพุทธแบบมหายาน

    พุทธศาสนามหายานแบบตันตระนั้น ได้แยกออกเป็นนิกายหลายนิกาย เช่น นิกายวัชรยาน หมายถึง ชื่อเรียกรูปเคารพเพศชาย นิกายมนตรยาน ซึ่งเน้นหนักในเรื่องเวทมนตร์ไสยศาสตร์ คาถาอาคม ฯลฯ นอกจากนี้แล้วตันตระ ยังปรากฏเป็นนิกายย่อยๆ อีกมากมาย เช่น นิกายสหจยาน ซึ่งไม่เชื่อในการถวายสิ่งของให้เทพ หรือพระโพธิสัตว์ เชื่อมั่นในการบูชาด้วยร่างกาย อีกลัทธิหนึ่งคือ นิกายกาฬจักรายาน ซึ่งนับถือ ธรรมชาติ ดวงดาว โดยมีคัมภีร์ที่เน้นหนักไปทางด้านดาราศาสตร์ และโหราศาสตร์โดยเฉพาะ เป็นต้น

    เพื่อป้องการความไม่รู้และเข้าใจผิด อ.ราม แนะนำว่า "ความจริงแล้ววิธีการที่ถูกต้องควรจะรับทราบข้อมูลอันเกิดจากการรับรู้แบบใหม่จากทุกมุมโลก แล้วใช้วิธีคัดแยก เพื่อนำไปสู่กระบวนการวิเคราะห์อย่างเป็นเหตุเป็นผล ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการเปิดความคิดและความรู้เพื่อนำไปสู่งานทางด้านวิชาการและการปรับตัวของสังคมเพื่อให้ทันต่อกระแสโลก ซึ่งจะเป็นการก้าวไปสู่อนาคตของการปรับตัวในโลกสมัยใหม่อย่างเต็มรูปแบบ"


    เรื่องของพุทธโลกที่พุทธไทยไม่รู้

    ภาพองค์ดาไลลามะ ผู้นำทางด้านจิตวิญญาณสูงสุดของชาวทิเบต ยกมือไหว้ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช เมื่อหลายปีที่แล้วมีการวิพากษ์วิจารณ์พุทธศาสนิกชนชาวไทยว่า ท่านเป็นพระไม่ควรไปยกมือไหว้ฆราวาส แต่ในมุมมองของชาวพุทธมหายาน กลับไม่รู้สึกอะไร ด้วยเหตุผลที่ว่า "การไหว้เป็นวัฒนธรรมการทักทายแบบพุทธ"

    นพ.ดร.มโน เมตตานันโท เลาหวณิช อดีตที่ปรึกษาพิเศษในกิจกรรมพระพุทธศาสนา ในเลขาธิการใหญ่ องค์การสมัชชาศาสนาเพื่อสันติแห่งโลก (WCPR) และอาจารย์ประจำ มหาธรรมศาสตร์(วิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์) บอกว่า เป็นเรื่องปกติที่พุทธศาสนิกชนทุกนิกายและทุกประเทศคิดว่าการปฏิบัติตามแนวทางการตนนั้นถูกต้องและเคร่งครัดที่สุด ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าพุทธศาสนาในประเทศญี่ปุ่น และพระเกาหลี บางส่วน ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงมาก เช่น พระมีเมียได้ กินเหล้าได้และเรียกสาเกว่า น้ำแห่งปัญญา พระเป็นอาชีพอย่างหนึ่ง (ตอนกลางวันใส่ชุดพระอยู่วัด ตอนเย็นไปอยู่กับลูกเมียที่บ้าน) วัดเป็นที่ทำงาน มีการแต่งงานระหว่างลูกของพระในนิกายเดียวกันโดยไม่ยอมรับนิกายอื่น

    ส่วนพุทธศาสนาในศรีลังกาวัดเป็นของเอกชน พระสามารถตั้งพรรคการเมือง ลงสมัครรับเลือกตั้ง รับราชการ รวมทั้งดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ ส่วนการฉันข้าว ๓ มื้อ เช่น เวียดนาม จีน ทิเบต โดยเรียกมื้อเย็น ซึ่งเป็นมื้อที่ ๓ ว่า "เภสัช" แปลวว่า "มื้อยา" ส่วนการไหว้ที่แตกต่างนั้นต้องยกให้ พุทธนิกายมหายาน ในจีน พระจะไหว้ฆราวาสก่อนเสมอเมื่อพบกัน เพราะถือการไหว้เป็นการลดทิฐิมานะอย่างหนึ่ง

    ทั้งนี้ นพ.ดร.มโนพูดทิ้งท้ายไว้อย่างน่าคิดว่า "พระพุทธศาสนาหลังพุทธปรินิพพานแล้ว ได้มีการเปลี่ยนแปลงมาตลอด พระธรรมจักรของพระองค์นั้นมิได้หยุดนิ่งเลยมา ๒,๖๐๐ ปีมาแล้ว และปัจจุบันก็ยังหมุนอยู่ รูปแบบของศาสนานั้นมีการเปลี่ยนแปลงมาตลอด เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย คือ แรงศรัทธาของประชาชน การรู้จักศาสนาโดยเฉพาะความเชื่อของเราแต่เพียงอย่างเดียวนั้น อันตรายเสมอ ในขณะที่เราเชื่อว่าศาสนาของเราถูกต้องบริสุทธิ์ ชาวพุทธวัชรยาน เขาก็เชื่อเช่นเดียวกัน ใครเล่าจะเป็นผู้ตัดสินได้ว่าใครถูกใครผิด"

    คัดลอกมาจาก พุทธวัชรยานที่พุทธไทยไม่ค่อยรู้ คมชัดลึก : ศาสนาพระเครื่อง : ข่าวทั่วไป
     
  9. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512
    พุทธแท้เหลือแค่ใหน

    ขนาดพระไตรปิฏกก็แก้แล้วแก้อีก
    ในเว็ปก็มีคนบอกว่าพระไตรปิฏกถูกแล้ว ถ้าถูกทำไมต้องแก้กันด้วย
    แก้ทีเกือบบยกเซต
    พุทธดำรัสของพระพุทธเจ้าถูกที่สุดแล้ว
    แต่คนที่เอาคำพูดท่านมาแปลซิ
    รู้ใหมว่าศาสนาอื่นด่าพุทธว่าอะไรมั้ง เพราะมันไม่ตรงกับความจริง
    ผมฟังมาเถียงไม่ออกเลย เพราะมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
     
  10. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949
    เป็นกุศโลบาย ให้เด็กยุคใหม่หันหน้าเข้าวัด
    อย่างน้อยโดเรมอนเขาคือผู้ให้ มีจิตใจเมตตา
    สิ่งทั้งหลายทั้งปวง ล้วนแต่เป็นสิ่งสมมุติขึ้นแทบทั้งสิ้น
    หากมีศรัทธา แค่ก้อนหินก้อนเดียวยังศักดิ์สิทธิ์ได้

    โดยส่วนตัวผม ดีกว่าชูชกนะ
    เพราะมีแต่ความอยากได้ อยากมี ขออย่างเดียว
    (ความคิดเห็นส่วนตัว กระทบใครโปรดอภัยครับ)

     
  11. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002

    <table cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%" border="0"><tbody><tr><td class="intro" valign="middle" align="left">หลักแห่งพระพุทธศาสนาโดยสรุป</td> </tr> <tr> <td bgcolor="#DEDEDE">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td class="intro" valign="top" align="left"> พุทธศาสนาคือวิชาและระเบียบปฏิบัติ เพื่อให้รู้สิ่งทั้งปวงถูกต้องตามที่เป็นจริงว่าอะไรเป็นอะไร สิ่งทั้งปวง มีสภาพตามที่เป็นจริง คือ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวหรือของตัว ; แต่สัตว์ทั้งหลายยังหลงรัก หลงยึดติดสิ่งทั้งปวง เพราะอำนาจของการยึดมั่นที่ผิด ในพุทธศาสนามีวิธี ปฏิบัติเรียกว่า ศีล สมาธิ ปัญญา เพื่อใช้เป็นเครื่องมือ ตัดการติดการยึดมั่นนั้นเสีย อุปาทาน การยึดมั่นนั้นมีสิ่งที่ลงเกาะหรือจับยึด คือ ขันธ์ทั้งห้า คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
    เมื่อรู้จักขันธ์ทั้งห้า ตามที่เป็นจริง ก็จะสามารถเข้าใจสิ่งทั้งปวงจนถึงกับเบื่อหน่ายคลายความอยาก ไม่ยึดอะไร ติดอะไร และเราควรจะมีชีวิตอยู่อย่างที่เรียกว่า "เป็นอยู่ชอบ" คือให้ วันคืนเต็มไปด้วยความปีติ ปราโมทย์ อันเกิดมาจากการกระทำที่ดีที่งามที่ถูกต้องอยู่เป็นประจำ แล้วระงับความฟุ้งซ่าน เกิดสมาธิ เกิดความเห็นแจ้งได้เรื่อยๆ ไป จนกระทั่งเกิดความเบื่อหน่าย ความคลายออก ความหลุดพ้น และนิพพานได้ตามความเหมาะสมของสิ่งแวดล้อม
    ถ้าเราจะรีบเร่งทำให้ได้ผลเร็วขึ้น ก็มีแนวปฏิบัติที่เรียกว่า วิปัสสนาธุระ เริ่มตั้งแต่มี ความประพฤติบริสุทธิ์ มีใจบริสุทธิ์ มีความเห็นบริสุทธิ์ เรื่อยขึ้นไปจนถึงมีปัญญา คือความเห็นแจ้งบริสุทธิ์ ในที่สุดก็จะตัดกิเลสที่ผูกมัดคนให้ติดอยู่กับวิสัยโลกออกเสียได้ เรียกว่า การบรรลุมรรคผล</td> </tr> <tr> <td class="intro" valign="middle" align="right">ท่านพุทธทาสภิกขุ </td></tr></tbody></table>
     
  12. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    หลวงพ่อคิดจะออกเหรียญเพื่อเป็นที่ระลึกสักรุ่นหรือเปล่าครับ?

    -ฉันไม่ออกอย่างแน่นอน หลังจากฉันตายไปก็ห้ามใครออกด้วย ซึ่งที่ผ่านมาก็มีคนเคยมาขอทำเหรียญที่ระลึกหลายครั้ง แต่ก็ปฏิเสธไปเพราะฉันไม่ใช่พระบ้า ไม่อยากให้คนยึดถือในสิ่งโง่ๆ ในสมัยพุทธกาลก็ไม่มีการทำรูปให้บูชากัน การทำเหรียญทำรูปบูชาเกิดขึ้นในระยะหลัง โดยเฉพาะในช่วงที่ศาสนาเสื่อมจากใจคน คนจึงยึดถือเอารูปเป็นหลัก ไม่ถือธรรมะเป็นหลักในเมืองไทยสมัยโบราณคนไทยต้องทำศึกกับพม่าตลอดเวลา พระจึงทำผ้าประเจียด ผ้ายันต์ และทำเหรียญ รวมเรียกว่าเครื่องรางเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการออกรบ แต่ในที่สุดแล้วทั้งพวกที่มีเครื่องรางและพวกที่ไม่มีเครื่องราง ต่างก็ต้องพบกับความตายทั้งสิ้น


    ขนาดพระระดับสมเด็จยังออกเลยทำไมหลวงพ่อจึงไม่ออกบ้าง?

    -เมืองไทยเราพระระดับสมเด็จที่โง่ๆ หลายรูป ความโง่ไม่ได้อยู่ที่พระเล็กพระน้อยเท่านั้น พระผู้ใหญ่ก็โง่ได้เหมือนกัน ในทางโลกเช่นกันอย่าว่าชาวบ้านโง่อย่างเดียว คณะรัฐมนตรีในรัฐบาลหลายคนก็โง่ ส่วนพระที่ไปร่วมพิธีปลุกเสกก็เป็นพระปัญญาอ่อน ซึ่งอาจจะเรียกว่าเป็นการร่วมประชุมของพระปัญญาอ่อน โดยผู้จัดก็ปัญญาอ่อน ผู้ไปร่วมพิธีก็ปัญญาอ่อน ไปเสกดินให้เป็นพระได้อย่างไร มันไม่ถูกต้องไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ

    หลวงพ่อปัญญานันทะภิกขุ
     
  13. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    “สมมุติเป็นพระพุทธรูปแล้วก็เสร็จกัน เราดีอย่างไรจึงจะไปบวชให้องค์ท่าน องค์ท่านบวชก่อนเราแล้ว เราดีอย่างไรจึงจะไปปลุกท่านให้ตื่น ท่านตื่นก่อนเราเข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพานแล้ว เราดีอย่างไรจึงจะไปแคะหูแคะตาให้องค์ท่าน ตานอก ตาใน หูนอก หูในขององค์ท่านดีกว่าเราแล้ว จะภิเษกภิษันให้องค์ท่านเป็นอะไรอีก องค์ท่านเป็นพระพุทธเจ้าเต็มภูมิแล้ว จะเอาไสยศาสตร์ไปพอกไปทาองค์ท่านทำไม นั้นแหละตัวบาป นั้นแหละขุมนรกขุมมิจฉาทิฏฐิ เห็นผิดเต็มภูมิแล้วยังสำคัญว่าเห็นชอบ เข้าข้างตัวแต่ไม่เข้าข้างธรรมวินัย เพียงเท่านี้ก็ยังไม่รู้จักผิดรู้จักถูกแล้ว ธรรมอันละเอียดลออก็ยังมีขึ้นไปกว่านี้มาก ไฉนจะรู้ได้”


    อัตตโนประวัติหลวงปู่หล้า เขมปัตโต ๐๗
    วัดบรรพตคีรี ( ภูจ้อก้อ ) อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร
    คัดลอกมาจาก http://www.dharma-gateway.com/monk/m...ah-hist-07.htm
     
  14. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    คำสั่งหลวงปู่เทสก์เรื่องวัตถุมงคล

    เดี๋ยวนี้ พระเจ้าพระสงฆ์ ครูบาอาจารย์นี่ ขอให้องค์ไหนดังขึ้นมาเถอะ กูขายกินสะบั้นหั่นแหลก
    ของหลวงพ่อนี่ดี หลวงปู่เทสก์ ก่อนที่ท่านจะจากไป ท่านสั่งว่า

    “เจ้าคุณ เลิกทำวัตถุมงคล”
    “ผมไม่เคยทำสักที หลวงปู่ มีแต่คนอื่นเขาทำ”
    “นั่นแหละ คนอื่นต่อไปนี้อย่าให้ทำ”

    พอท่านสั่งแล้วก็มาบอกเลิกหมด บางคนมาบอกว่าเป็นหนี้เขาอยู่แสนหกหมื่น อ้าว! เป็นหนี้เขาแสนหกหมื่น เก็บรวบรวมสิ่ง ของที่เหลือมา ทำบัญชีมา ขายไปแล้วเท่าไร ยังเหลือเท่าไร เป็นหนี้เขาเท่าไร ชำระเขาไปเท่าไร แสนหกหมื่นผมรับผิดชอบเอง ป่านนี้ก็ยังไม่นำมามอบให้ ทีแรกเขาว่า ขอทำเพื่อหาเงินมาให้วัด ทำไปทำมามันก็เป็นธุรกิจส่วนตัวไปเสีย บางรายก็... หลวงพ่อจะทำโน่นทำนี่ จะซื้อเครื่องมือแพทย์ จะช่วยหลวงพ่อ... อ้าว! ทำไปทำมา เขาไม่ให้เราหรอก แต่ว่าเขาเอาไปสร้างตึก ๔ ชั้น ๕ ชั้นโน่น
    ทำมาค้าขายอะไรมันจะดียิ่งไปกว่าขายวัตถุมงคล ภาษีก็ไม่ได้เสีย ได้เท่าไรก็เหลืออยู่เท่านั้น
    ในฐานะที่หลวงพ่อศึกษาธรรมวินัยเพื่อธรรมวินัยจริงจัง มองโดยทั่วไปแล้ว ศาสนาพุทธในเมืองไทยเหลืออยู่ไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ ใครจะทำอะไร มีแต่ผลิตสินค้าขึ้นมาขาย ในเมื่อพระสงฆ์ต้องสร้าง สินค้าขึ้นมาขายแลกเงินตรามาสร้างวัดอยู่ ก็แสดงว่าชาวบ้านเขาไม่รับผิดชอบ มันน่าจะชวนกันสึกไปเสียให้หมด
    สิ่งก่อสร้างในวัดป่าสาลวันที่มองเห็นอยู่นี่ ไม่ได้ขายอะไรแม้แต่ชิ้นเดียว แล้วหลวงพ่อเองก็ไม่เคยคิดที่จะสร้างอะไร ไปอยู่วัดแปดริ้ว (วัดป่าชินรังสี) เขาสร้างโน่นสร้างนี่ เราก็ไปนั่งอยู่เฉยๆ เออ! ญาติ โยมเอาเงินมาช่วยสร้างวิหงวิหารหน่อย ก็ไม่เคยบอก ไปนั่งอยู่เฉยๆ แต่เขาก็เอามาสร้างให้เอง

    ไปจำพรรษาที่แปดริ้ว พอไป หมอเสรีบอกว่า “วัดเป็นหนี้ผมอยู่ ๗ แสน”
    “จะเอาคืนไหมล่ะ”
    “ถ้าได้ก็เอา”
    “เดี๋ยวใจเย็นๆ เดี๋ยวจะหาให้”
    ไปอยู่ ๕ เดือน มีคนเอาเงินมาถวาย ๑๖ ล้าน นั่งอยู่เฉยๆ
    ตอนนี้เขากำลังสร้างห้องน้ำห้องท่า สร้างศาลา สร้างตึก เอา! ใครอยากสร้างอะไรสร้างไป
    ไปที่แปดริ้ว เขาก็สร้างวิมานให้อยู่ วัดหนองจรเข้เขาก็สร้างให้อยู่ วัดหนองปลิงเขาก็สร้างให้ เดี๋ยวนี้เป็นเจ้าพระยา มีปราสาทอยู่ ๓ ฤดูแล้วนะนี่

    คัดลอกมาจาก พบกับ ธรรมะหลวงพ่อพุธ ฐานิโย และ การอบรมพัฒนาจิต วัดวะภูแก้ว ใน Thaniyo.net
     
  15. TT_GOVERNMENT

    TT_GOVERNMENT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +711
    อยากได้ โดเรมอน................
     
  16. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002

    กิมัตถิยสูตร
    ประพฤติพรหมจรรย์เพื่อกำหนดรู้ทุกข์
    [๒๕] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้นแล ภิกษุมากรูปเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ
    ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า
    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอประทานพระวโรกาส พวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชก ถามพวกข้าพระองค์
    อย่างนี้ว่า ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย พวกท่านอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ในพระสมณโคดมเพื่อประโยชน์
    อะไร? พวกข้าพระองค์ถูกถามอย่างนี้แล้ว จึงพยากรณ์แก่พวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชกเหล่านั้น
    อย่างนี้ว่า ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย พวกเราอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค เพื่อกำหนด
    รู้ทุกข์ พวกข้าพระองค์ถูกถามอย่างนี้แล้ว พยากรณ์อย่างนี้ ชื่อว่ากล่าวตามพระดำรัสที่พระผู้มี
    พระภาคตรัสไว้แล้ว ไม่กล่าวตู่พระผู้มีพระภาคด้วยคำไม่จริง พยากรณ์ธรรมสมควรแก่ธรรม ทั้ง
    การคล้อยตามวาทะที่ถูกไรๆ จะไม่พึงถึงฐานะอันวิญญูชนพึงติเตียนได้ละหรือ.
    [๒๖] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ช่างเถิด พวกเธอถูกถามอย่างนั้น
    แล้ว พยากรณ์อย่างนั้น ชื่อว่ากล่าวตามคำที่เรากล่าวไว้แล้ว ไม่กล่าวตู่เราด้วยคำไม่จริง พยากรณ์
    ธรรมสมควรแก่ธรรม ทั้งการคล้อยตามวาทะที่ถูกไรๆ จะไม่ถึงฐานะอันวิญญูชนพึงติเตียนได้
    เพราะพวกเธออยู่ประพฤติพรหมจรรย์ในเรา เพื่อกำหนดรู้ทุกข์.
    [๒๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าพวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชก พึงถามพวกเธออย่างนี้ว่า
    ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย ก็หนทางมีอยู่หรือ ปฏิปทาเพื่อกำหนดรู้ทุกข์นั้นมีอยู่หรือ? พวกเธอถูกถาม
    อย่างนี้แล้ว พึงพยากรณ์แก่พวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชกเหล่านั้นอย่างนี้ว่า ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย
    หนทางมีอยู่ ปฏิปทาเพื่อกำหนดรู้ทุกข์นั้นมีอยู่.
    [๒๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็หนทางเป็นไฉน ปฏิปทาเพื่อกำหนดรู้ทุกข์เป็นไฉน.
    อริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ นี้แล คือ สัมมาทิฏฐิ ฯลฯ สัมมาสมาธิ นี้เป็นหนทาง นี้เป็น
    ปฏิปทาเพื่อกำหนดรู้ทุกข์นั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอถูกถามอย่างนั้นแล้ว พึงพยากรณ์แก่
    พวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชกเหล่านั้นอย่างนี้.

    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๙ หน้าที่ ๖/๔๖๙
     
  17. Issara

    Issara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    506
    ค่าพลัง:
    +433
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=zRq3fApeUUY]Doraemon song - YouTube[/ame]

    (kiss)
     
  18. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    [​IMG]

    หลวงพ่ออิคคิว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    โดเรม่อน น่ารัก เสียอย่างเดียว..อ้วนกลมไปหน่อย.อิอิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...