พระโพธิสัตว์ อวโลกิเตศวร ปัทมปาณี ที่บ้านผมบูชา

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 12 กันยายน 2012.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    [​IMG]
    พระโพธิสัตว์ปัทมปาณี หรืออวโลกิเตศวร องค์นี้ พ่อผมได้มาตั้งแต่ก่อนรับผมมาเลี้ยงได้มาตอนบวชเป็นพระ พ่อท่านเล่าว่า หลวงปู่บาง หลงปู่เฒ่า หลวงปู่แจ๋ว หลวงปู่เตี้ย(วัดสามเอก) ทั้งสี่องค์นี้ท่านได้เล่าให้บิดาผมฟังว่า มักจะเจอองค์ท่านพระอวโลกิเตศวรมาสอนธรรมบ่อย พอหลวงปู่บางอาจารย์พ่อผมมรณะภาพ ก็ยกรูปสมมติอันนี้ให้บิดาผม ทั้งบ้านก็เคารพและกราบไหว้ตลอดมา มีครั้งหนึ่งผมอยากลองหลวงปู่อั้น วัดโรงโค ว่าท่านจะตาทิพย์ดั่งคำร่ำลือหรือไม่ จึงขึ้นไปจุดธูป9ดอก บอกพระองค์ว่า ขอปู่พระโพธิสัตว์เจ้าดลบันดาลหากพระที่ลูกจะไปกราบเป็นพระแท้สุปฏิปันโน ก็ขอปู่ท่านโปรดแสดงฤทธานุภาพด้วย พอตอนบ่ายไปกราบหลวงปู่อั้นที่วัดสุทัศน์ ท่านมาในพิธีไหว้ครู ปรากฏพอจะเข้าไปครอบเศียรฤาษี ท่านก็หัวเราะ ท่านบอกว่าจะครอบเศียรพ่อปู่ทำไม ที่เอ็งจุดธูปบอกเมื่อเช้าท่านทรงมเหสักข์ใหญ่มากในบรรดาเทพพุทธทั้งมวล เป็นผู้รักษาพระศาสนา ทั้งที่เจอครั้งแรก หลวงปู่อั้นทักถูกมากเพราะ พระอวโลกิเตศวรเป็นพระโพธิสัตว์ผู้ใหญ่ทรงเมตตาต่อพุทธทั้งมวลไม่เลือกนิกาย และไม่เลือกศาสนาด้วยปกติที่บ้านจะบูชาด้วยมาลัยดาวเรือง ผมมีทุกข์ไรก็จะไปปรับทุกกข์กับท่าน เจริญ คาถาบท โอม มณี ปัทเม หุมก็จะเกิดปัญญาฟันฝ่าปัญหาไปได้และท่านเป็นปฐมเหตุให้ผมอยากสร้างพระแจก ในเว็บSanggadjai.com - หน้าแรก เพราะปณิธานของพระโพธิสัตว์เจข้าท่านจะใช้รูปพุทธปฏิมาในการดึงคนเข้ามาเขต ศาสนา และเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้รูปเคารพพระองค์ท่านแบบธิเบตมาอีก เป็นความปิติใจที่ผมได้มีโอกาสบูชาพระปัทมปาณีอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์แบบสอง ปางสององค์
    ที่เขียนก็ไม่ใช่อยากอวหรือว่าอยากโชว์แต่เป็นความปลื้มใจเหมือนได้ใกล้ชิดIdolนะครับ ก็ขอจบบันทึกเรื่องนี้ไว้
    โอม มณี ปัทเม หุม
     
  2. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    สาธุๆๆ ดีจังครับ ท่านมาสอนธรรม ผมก็อยากให้ท่านมาสอนธรรมบ้างเหมือนกัน
     
  3. woraeak19

    woraeak19 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2019
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +30
    พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ถ้าแปลเป็นภาษาจีน คือ กวนซีอิมผ่อสัก ตอนหลังตัดเหลือแค่ กวนอิม จริง ๆ เป็นชายแต่ทางจีนแต่งนิยายพื้นบ้านจีนเรื่ององค์หญิงเมี่ยวซ่านว่าเป็นภาคหนึ่งของท่านเรียกสั้นว่า กวนอิมเนี้ย แปลว่าแม่กวนอิม เมื่อคนจีนอพยพไปนอกประเทศนำลัทธิบูชากวนอิมภาคสตรีไปเผยแพร่ด้วย ซึ่งจริงแล้วก็มีกวนอิมภาคบุรุษอยู่แล้วอย่างเช่นประเทศไทย เช่น พระอวโลกิเตศวรสมัยศรีวิชัย พระอวโลกิเตศวรสมัยทรวาราวดี พระอวโลกิเตศวรที่ปราสาทขอมต่าง ๆ นี่ล้วนเป็นกวนอิมต้นฉบับเลยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.7 KB
      เปิดดู:
      328
    • 15275951.jpg
      15275951.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.6 KB
      เปิดดู:
      115
  4. woraeak19

    woraeak19 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2019
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +30
    ประวัติความเป็นมาในคัมภีร์ฝ่ายมหายาน
    พระไตรปิฎกของพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาทไม่มีปรากฏเรื่องราวหรือแม้แต่พระนามของพระอวโลกิเตศวรอยู่เลย ทว่าในส่วนของนิกายมหายานแล้ว พระอวโลกิเตศวรมีบทบาทปรากฏอยู่มากในพระสูตรสำคัญ ๆ และยังมีเรื่องราวปรากฏในพระสูตรมหายานว่าพระพุทธเจ้าและพระสาวกยังได้เคยตรัสสนทนาธรรมกับพระโพธิสัตว์พระองค์นี้อยู่บ่อยครั้งทีเดียว ในพุทธศาสนามหายานยกย่องพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ว่าเป็นพระผู้ได้รับธรรมจักรมาโดยตรงจากพระพุทธเจ้า และเป็นผู้นำในการรักษาพระพุทธศาสนาและหมุนธรรมจักรต่อไป
    การอุบัติของพระอวโลกิเตศวรนี้สันนิษฐานว่ามีขึ้นภายหลังการเกิดนิกายมหายานขึ้นแล้วในราวพุทธศตวรรษที่ ๖-๗ ภายหลังพุทธปรินิพพาน ซึ่งเมื่อตรวจสอบจากวรรณคดีสันสกฤตยุคต้น ๆ ของมหายานอย่าง ชาดกมาลา ทิวยาวทาน หรือลลิตวิสตระ ก็ยังไม่ปรากฏนามพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์แต่อย่างใด แต่มีปรากฏขึ้นครั้งแรกพร้อม ๆ กับพระมัญชุศรีโพธิสัตว์ในพระสูตรปรัชญาปารมิตาซึ่งถือว่าเป็นพระสูตรมหายานรุ่นเก่าที่สุด และในพระสูตรรุ่นต่อ ๆ มาก็ได้มีเรื่องราวเกี่ยวกับพระโพธิสัตว์พระองค์นี้ปรากฏขึ้นมากมาย
    พระสูตรมหายานกล่าวว่าพระอวโลกิเตศวรประทับอยู่ ณ สุขาวดีพุทธเกษตร คอยช่วยพระอมิตาภะโปรดสรรพสัตว์ที่ตกอยู่ในห้วงทุกข์ และเนื่องจากทรงเป็นพระธยานิโพธิสัตว์จึงมีความเป็นมาอันยาวนานสุดจะคาดคำนวณได้ นับแต่สมัยของ พระวิปัสสีพุทธเจ้า เป็นต้นมาก็ทรงได้โปรดสัตว์มาเป็นลำดับจนถึงบัดนี้ อันเป็นกาลสมัยของพระสมณโคดมศากยมุนีพุทธเจ้า ก็เป็นระยะเวลาเนิ่นนานสุดจะพรรณนา ใน กรุณาปุณฑริกสูตร อธิบายว่า พระอวโลกิเตศวรเป็นพระธรรมกายโพธิสัตว์ สูงกว่าพระโพธิสัตว์สามัญอื่น ๆ และเป็นเอกชาติปฏิพัทธะเช่นเดียวกับพระโพธิสัตว์อารยเมตตรัย กล่าวคือเป็นผู้ที่ยังข้องอยู่กับการเกิดอีกเพียงชาติเดียวก็จะได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ กล่าวกันว่าพระอวโลกิเตศวรจะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าภายหลังการดับขันธปรินิพพานของพระอมิตาภะ เพื่อเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป ณ แดนสุขาวดี
    นอกจากนี้ในพระสูตรมหายานอื่น ๆ ก็ยังมีปรากฏว่าอธิบายแตกต่างออกไปอีก กล่าวคือ บางพระสูตรกล่าวว่าพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์นั้นแท้จริงแล้วคืออวตารภาคหนึ่งของพระอดีตพุทธเจ้า ที่ได้ทรงบรรลุพุทธภูมิเป็นอรหันตสัมมาสัมพุทธะแล้วในอดีตกาลอันยาวไกล ก่อนสมัยพระพุทธเจ้าของเรา แต่ด้วยพระมหากรุณาที่เล็งเห็นสรรพสัตว์ยังตกอยู่ในโมหะอวิชชา ทำให้ต้องทนทุกข์อยู่ในวังวนแห่งสังสารวัฏยากจะหลุดพ้นไปได้ จึงทรงแบ่งภาคมาเป็นพระอวโลกิเตศวรเพื่อโปรดปวงสัตว์ให้เห็นธรรมพ้นทุกข์ด้วยพระเมตตากรุณา ในบางแห่งก็กล่าวว่าพระอวโลกิเตศวรเป็นพุทธโอรสของพระอมิตาภะที่ทรงบันดาลด้วยพุทธาภินิหาริย์ให้อุบัติขึ้นมาเพื่อเป็นที่พึ่งแก่โลก แต่ทางฝ่ายทิเบตเชื่อว่าพระอวโลกิเตศวรอุบัติขึ้นมาพร้อม ๆ กับพระนางตาราด้วยอานุภาพของพระอมิตาภพุทธ จากแสงสว่าง (บางแห่งว่าเป็นน้ำพระเนตรจากความกรุณาสงสารสรรพสัตว์) ที่เปล่งออกมาจากพระเนตรเบื้องขวาของพระอมิตาภะได้บังเกิดเป็นพระอวโลกิเตศวรประทับบนดอกบัวที่ปรากฏขึ้นพร้อม ๆ กับมนตร์ โอม มณี ปัทเม หูม ส่วนแสงจากพระเนตรเบื้องซ้ายก่อให้เกิดพระนางตาราโพธิสัตว์ อย่างไรก็ตาม ในพระสูตรอื่นบางแห่งก็มีกล่าวว่าแท้จริงแล้วพระอวโลกิเตศวรก็คือภาคหนึ่งขององค์พระอมิตาภะนั่นเอง
    ลักษณะทางประติมานวิทยา
    ภาพเขียนหรือรูปเคารพของพระอวโลกิเตศวรเริ่มแรกนิยมสร้างเป็นรูปบุรุษหนุ่ม ทรงเครื่องอลังการวิภูษิตาภรณ์อย่างเจ้าชายอินเดียโบราณ และมีอยู่หลายปางด้วยกัน แต่สิ่งสำคัญคือศิราภรณ์บนพระเศียรพระอวโลกิเตศวรจะต้องมีรูปของพระอมิตาภะในปางสมาธิ หากเป็นปางที่มีหลายเศียร เศียรบนสุดจะเป็นเศียรพระอมิตาภะ นับเป็นข้อสังเกตในด้านปฏิมากรรมของพระโพธิสัตว์พระองค์นี้ ส่วนดอกบัวอันเป็นสัญญลักษณ์ของพระอวโลกิเตศวร คือ บัวสีชมพู ขณะที่สีขาวคือบัวของพระมัญชุศรีโพธิสัตว์เท่านั้น และด้วยดอกบัวสีชมพูในตระกูลปัทมะนี้เอง ทำให้พระองค์ได้รับการขนานพระนามว่าปัทมปาณีโพธิสัตว์
    เมื่อพระพุทธศาสนามหายานได้เข้าสู่ประเทศจีนในช่วงแรกคือสมัยก่อนราชวงศ์ถัง จีนได้แปลพระนามของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์เป็นภาษาจีนว่า กวนซีอิม"ในภาษาจีนแต้จิ๋ว แต่เนื่องจากในสมัยราชวงศ์ถัง อักษรคำว่า "ซี" ตรงกับชื่อเดิมของถังไท้จงฮ่องเต้ คือ "ลี้ซีเม้ง"จึงได้เลี่ยงมาเรียกย่อ ๆ ว่า "กวนอิม" ในยุคนั้นรูปเคารพของพระอวโลกิเตศวรยังสร้างเป็นรูปบุรุษตามแบบพุทธศิลป์ของอินเดีย หากในกาลต่อมาช่างชาวจีนได้คิดสร้างเป็นรูปสตรีเพื่อแสดงออกถึงความอ่อนโยน และแสดงถึงความเมตตากรุณาให้เด่นชัดยิ่งขึ้น ดังเช่นความรักของมารดาที่มีต่อบุตร สะท้อนถึงความรู้สึกและความเชื่อของประชาชนพื้นถิ่นที่ห่างไกลแม่แบบซึ่งมาจากอินเดีย จนอาจจะเรียกได้ว่ากวนอิมในรูปลักษณ์ของสตรีเป็นสัญลักษณ์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในจีน และแพร่หลายมากกว่าปางอื่น ๆ กระทั่งแผ่ขยายเข้าสู่ประเทศต่าง ๆ ในแถบเอเชีย ทั้งนี้เพราะรูปลักษณ์ของฝ่ายหญิงแทนค่าในเรื่องความเมตตากรุณาได้ดี ในขณะที่รูปลักษณ์อย่างบุรุษเพศจะสะท้อนเรื่องคุณธรรมมากกว่าความเมตตา เมื่อพุทธศาสนาเผยแผ่เข้าไปยังเกาหลี ญี่ปุ่นและเวียดนาม พุทธศาสนิกชนในประเทศนั้นก็พลอยสร้างรูปพระอวโลกิเตศวรเป็นสตรีตามแบบอย่างประเทศจีนไปด้วย
    พระอวโลกิเตศวร (Avalokiteśvara) หรือ พระปัทมปาณี (Padmapani) เป็นพระโพธิสัตว์ในรูปความกรุณาของบรรดาพระพุทธเจ้าทั้งปวง ปรากฏการสร้างรูปเคารพของพระองค์แตกต่างหลากหลายไปตามความเชื่อ ปรากฏทั้งในรูปสตรีเพศและบุรุษเพศ[1] ในทิเบต นับถือในพระนามเจนเรอซิก (Chenrezig) ในศาสนาพุทธแบบจีน แนวคิดของพระอวโลกิเตศวรได้พัฒนาเป็นเทพเจ้าสตรี พระแม่กวนอิม หรือ กานนอน ในเนปาลมณฑลรู้จักในนามชนะพหะทยา (Jana Baha Dyah), การุณามานา (Karunamaya), เสฌต มจิรทรนาถ
    พระอวโลกิเตศวรในฐานะเป็นพระธยานิโพธิสัตว์
    พุทธศาสนามหายานได้จำแนกพระโพธิสัตว์ออกเป็น ๒ ประเภท อันได้แก่ พระมนุษิโพธิสัตว์ และ พระธยานิโพธิสัตว์
    • พระมนุษิโพธิสัตว์ คือพระโพธิสัตว์ในสภาวะมนุษย์หรือเป็นสิ่งมีชีวิตในรูปแบบอื่น ๆ ที่กำลังบำเพ็ญสั่งสมบารมีอันยิ่งใหญ่เพื่อพระโพธิญาณอันประเสริฐ ถ้าตามมติของฝ่ายเถรวาทก็คือผู้ที่ยังเวียนว่ายอยู่ในวัฏสงสารเพื่อบำเพ็ญ ทศบารมี ๑๐ ประการให้บริบูรณ์ เหมือนเมื่อครั้งสมเด็จพระผู้มีพระภาคได้ทรงกระทำมาในอดีต โดยที่ทรงเสวยพระชาติเป็นทั้งมนุษย์และสัตว์จนได้ตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระศากยมุนีพุทธเจ้า การบำเพ็ญบารมีดังกล่าวนี้เป็นความยากลำบากแสนสาหัส สำเร็จได้ด้วยโพธิจิต อีกทั้งวิริยะและความกรุณาอันหาที่เปรียบมิได้ ต้องอาศัยระยะเวลายาวนานนับด้วยกัปอสงไขย สิ้นภพสิ้นชาติสุดจะประมาณได้
    • พระธยานิโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์ประเภทนี้มิใช่พระโพธิสัตว์ผู้กำลังบำเพ็ญบารมีเพื่อแสวงหาดวงปัญญาอันจะนำไปสู่ความรู้แจ้งเหมือนประเภทแรก แต่เป็นพระโพธิสัตว์ผู้บำเพ็ญบารมีบริบูรณ์ครบถ้วนแล้ว และสำเร็จเป็นพระธยานิโพธิสัตว์หรือพระโพธิสัตว์ในสมาธิโดยยับยั้งไว้ยังไม่เสด็จเข้าสู่พุทธภูมิ เพื่อจะโปรดสรรพสัตว์ต่อไปอีกไม่มีที่สิ้นสุด พระธยานิโพธิสัตว์นี้เป็นทิพยบุคคลที่มีลักษณะดังหนึ่งเทพยดา มีคุณชาติทางจิตเข้าสู่ภูมิธรรมขั้นสูงสุดและทรงไว้ซึ่งพระโพธิญาณอย่างมั่นคง จึงมีสภาวะที่สูงกว่าพระโพธิสัตว์ทั่วไป พระธยานิโพธิสัตว์มักจะมีภูมิหลังที่ยาวนาน เป็นพระโพธิสัตว์เจ้าที่สำเร็จเป็นพระโพธิสัตว์มาเนิ่นนานนับแต่สมัยพระอดีตพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ สุดจะคณานับเป็นกาลเวลาได้ พระธยานิโพธิสัตว์ที่พุทธศาสนิกชนมหายานรู้จักดี อาทิ พระมัญชุศรี พระอวโลกิเตศวร พระมหาสถามปราปต์ พระสมันตภัทร พระกษิติครรภ์ เป็นต้น
    * พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ในเมืองไทย
    *รูปข้างล่างล้วนเป็นพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ทั้งหมด
    ความจริงแล้วไทยเราเคยนับถือมหายานมาก่อนนับเป็นพันปี จากหลักฐานที่ค้นพบตามโบราณสถานและโบราณวัตถุสมัยศรีวิชัย เช่น พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์สมัยศรีวิชัย พระอวโลกิเตศวรดินเผาพบที่คูหาภิมุขยะลา พระอวโลกิเตศวรตามปราสาทขอมต่าง ๆ เพราะจริงๆ แล้วไทยเคยบูชาพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ในยุคสมัยที่ศาสนาพุทธนิกายมหายานเคยเจริญรุ่งเรือง ก่อนที่คนจีนโพ้นทะเลจะนำลัทธิบูชาเจ้าแม่กวนอิมซึ่งเป็นพระอวโลกิเตศวรในภาคสตรีเข้ามาเผยแพร่นั่นเอง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.7 KB
      เปิดดู:
      80
    • trdsghjkgy.jpg
      trdsghjkgy.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52.5 KB
      เปิดดู:
      112
    • 1331000923.jpg
      1331000923.jpg
      ขนาดไฟล์:
      57.5 KB
      เปิดดู:
      71

แชร์หน้านี้

Loading...