ว่าด้วยพระโคธิกะทำอัตตวินิบาตปรินิพพาน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย หลบภัย, 14 กันยายน 2012.

  1. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    หากเราจะทำเพื่อพิจารณาสังขารจะบาปไหม
    โคธิกสูตรที่ ๓
    ว่าด้วยพระโคธิกะทำอัตตวินิบาตปรินิพพาน

    [๔๘๘] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวัน อันเป็นสถานที่พระราชทานเหยื่อแก่กระแต เขตกรุงราชคฤห์ ฯ ก็สมัยนั้นแล ท่านโคธิกะ อยู่ที่กาลศิลาข้างภูเขาอิสิคิลิ ฯ
    [๔๘๙] ครั้งนั้นแล ท่านโคธิกะเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีจิตมั่นคงอยู่ ได้บรรลุเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์ ภายหลังท่านโคธิกะได้เสื่อมจากเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์นั้น แม้ครั้งที่ ๒ ท่านโคธิกะเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีจิตมั่นคงอยู่ ได้บรรลุเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์แม้ในครั้งที่ ๒ ก็ได้เสื่อมจาก เจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์นั้น แม้ครั้งที่ ๓ ท่านโคธิกะเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีจิตมั่นคงอยู่ ได้บรรลุเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์ แม้ในครั้งที่ ๓ ก็ได้เสื่อมจากเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์นั้น แม้ครั้งที่ ๔ ท่านโคธิกะเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีจิตมั่นคงอยู่ ได้บรรลุเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์ แม้ในครั้งที่ ๔ ก็ได้เสื่อม จากเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์
    นั้น แม้ครั้งที่ ๕ ท่านโคธิกะเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีจิตมั่นคงอยู่ ได้บรรลุเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์ แม้ในครั้งที่ ๕ ก็ได้เสื่อม จากเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์นั้น แม้ครั้งที่ ๖ ท่านโคธิกะเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีจิตมั่นคงอยู่ ได้บรรลุเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์ แม้ในครั้งที่ ๖ ก็ได้เสื่อม จากเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์นั้น แม้ครั้งที่ ๗ ท่านโคธิกะเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรมีจิตมั่นคงอยู่ ก็ได้บรรลุเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์อีก ฯ ครั้งนั้นแล ท่านโคธิกะได้เกิดความคิดอย่างนี้ว่า เราได้เสื่อมจากเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์ถึง ๖ ครั้งแล้ว ถ้ากระไรเราพึงนำศัสตรามา ฯ
    [๔๙๐] ลำดับนั้นแล มารผู้มีบาปทราบความปริวิตกแห่งจิตของท่าน โคธิกะด้วยจิตแล้วจึงเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่าข้าแต่พระองค์ผู้มีจักษุ มีเพียรใหญ่ มีปัญญามาก รุ่งเรืองด้วยฤทธิ์และยศ ก้าวล่วงเวรและภัยทั้งปวง ข้าพระองค์ขอถวายบังคมพระบาททั้งคู่
    ข้าแต่พระองค์ผู้มีเพียรใหญ่ สาวกของพระองค์อันมรณะครอบงำแล้วย่อมคิดจำนงหวังความตาย ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงไว้ซึ่งความรุ่งเรือง ขอพระองค์จงห้ามสาวกของพระองค์นั้นเสียเถิด ฯข้าแต่พระผู้มีพระภาคผู้ปรากฏในหมู่ชน สาวกของพระองค์ยินดีในพระศาสนา ยังไม่ได้บรรลุพระอรหันต์อันตัดเสียซึ่งมานะ ยังเป็นพระ
    เสขะอยู่ ไฉนจะพึงกระทำกาลเสียเล่า ฯก็เวลานั้น ท่านโคธิกะได้นำศัสตรามาแล้ว ฯ
    [๔๙๑] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคทรงทราบว่า ผู้นี้เป็นมารผู้มีบาป จึง ได้ตรัสกะมารผู้มีบาปด้วยพระคาถาว่า
    ปราชญ์ทั้งหลายย่อมทำอย่างนี้แล ย่อมไม่ห่วงใยชีวิต โคธิกะภิกษุ ถอนตัณหาพร้อมด้วยราก นิพพานแล้ว ฯ
    [๔๙๒] ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาแล้วตรัส ว่า ภิกษุทั้งหลายเรามาไปสู่กาลศิลา ข้างภูเขาอิสิคิลิ อันเป็นที่โคธิกกุลบุตร นำศัสตรามาแล้ว ฯ
    ภิกษุเหล่านั้น กราบทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคแล้ว ฯ
    ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคพร้อมด้วยภิกษุหลายรูปได้เข้าไปยังกาลศิลาข้างภูเขาอิสิคิลิ ฯ
    พระผู้มีพระภาคได้ทอดพระเนตรเห็นโคธิกะมีคออันพลิกแล้ว นอนอยู่ บนเตียงที่ไกลเทียว ก็เวลานั้นแล ควันหรือหมอกพลุ่งไปสู่ทิศตะวันออก ทิศตะวันตก ทิศเหนือ ทิศใต้ทิศเบื้องบน ทิศเบื้องต่ำ และอนุทิศ ฯ
    [๔๙๓] ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอเห็นไหม ควันหรือหมอกนั้นพลุ่งไปสู่ทิศตะวันออก ทิศ ตะวันตก ทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศเบื้องบน ทิศเบื้องต่ำ และอนุทิศ เมื่อภิกษุเหล่านั้นกราบทูลรับพระดำรัสแล้วจึงตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย นั่นมารผู้มีบาปเที่ยวแสวงหาวิญญาณของโคธิกกุลบุตร ด้วยคิดว่า วิญญาณของโคธิกกุลบุตรตั้ง อยู่ ณ ที่ไหน ดูกรภิกษุทั้งหลาย โคธิกกุลบุตร มีวิญญาณอันไม่ตั้งอยู่แล้วปรินิพพาน
    แล้ว ฯ
    [๔๙๔] ครั้งนั้นแล มารผู้มีบาปถือพิณมีสีเหลืองเหมือนมะตูมสุก เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า
    ข้าพระองค์ได้ค้นหาวิญญาณของโคธิกกุลบุตร ทั้งในทิศเบื้องบน ทั้งทิศเบื้องต่ำ ทั้งทางขวาง ทั้งทิศใหญ่ ทิศน้อยทั่วแล้ว มิได้ประสบ
    โคธิกะนั้นไป ณ ที่ไหน ฯ
    [๔๙๕] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่านักปราชญ์ผู้ใดสมบูรณ์ด้วยธิติ มีปรกติเพ่งพินิจ ยินดีแล้วในฌานทุกเมื่อ พากเพียรอยู่ตลอดวันและคืน ไม่มีความอาลัยในชีวิต ชนะเสนาของมัจจุราชแล้ว ไม่กลับมาสู่ภพใหม่ นักปราชญ์นั้นคือโคธิกกุลบุตรได้ถอนตัณหาพร้อมด้วยราก ปรินิพพานแล้ว ฯ
    พิณได้พลัดตกจากรักแร้ของมารผู้มีความเศร้าโศก ในลำดับนั้น ยักษ์ นั้นมีความโทมนัสหายไปในที่นั้นนั่นเอง ฯ

    ที่มา : พระสุตตันตปิฏก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
     
  2. อภิราม

    อภิราม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    532
    ค่าพลัง:
    +9,005
    ฆ่าตัวตายไม่ควรตำหนิเสมอไป


    ปัญหา เรื่องมีอยู่ว่า พระฉันนะอาพาธหนัก และคิดจะฆ่าตัวตายด้วยศาสตรา
    พระสารีบุตรได้เทศนาสั่งสอนและห้ามปรามไว้ แต่ในที่สุดพระฉันนะก็ฆ่าตัวตายจนได้
    และได้รับคำตำหนิติเตียนจากญาติมิตรและคนเป็นอันมาก
    พระสารีบุตรจึงทูลถามพระพุทธเจ้าถึงเรื่องนี้ พระพุทธองค์ทรงมีทรรศนะว่าอย่างไร ?


    พุทธดำรัสตอบ “ดูก่อนสารีบุตร พระฉันนะยังมีสกุลมิตร สกุลสหายและสกุลที่คอยตำหนิอยู่ก็จริง
    แต่เราหาเรียกบุคคลว่า ควรถูกตำหนิด้วยเหตุเพียงเท่านี้ไม่......
    บุคคลใดแลทิ้งกายนี้และยึดมั่นกายอื่น บุคคลนั้นเราเรียกว่า ควรถูกตำหนิ
    ฉันนะภิกษุหามีลักษณะนี้ไม่ ฉันนะภิกษุหาศาสตรามาฆ่าตัว อย่างไม่ควรถูกตำหนิ”


    ฉันโนวาทสูตร อุ. ม. (๗๕๓)
    ตบ. ๑๔ : ๔๗๙ ตท. ๑๔ : ๔๐๗
    ตอ. MLS. III : ๓๑๘-๓๑๙
     
  3. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123


    น่าจะมีแต่ท่าน พระโคธิกะท่านเดียวแน่ๆ เลย
     
  4. Bull_psi

    Bull_psi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +1,445
    หากยังมีความกังวลใจ กลัวแม้น้อยนิดก็นับว่ายังมีความหลงเน้อ
    อยู่พิจารณานานๆเอาให้หมดเชื้อเสียก่อง

    กลัวเช็คเด้ง กลัวหุ้นตก กลัวผี กลัวอดนี่ตัวหัวหน้าเลย อยากรู้ลองลาออกจากงานประจำมารับงานโปรเจคครับ 55
     
  5. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    เข้าท่าแฮะ ลาออกการงานประจำมาวัดดวงข้างนอก แต่งานประจำหรืองานข้างนอก มันอยู่กับว่าเราอีกนั้นแระ ทำงานประจำไม่เก่งจริงก็อยู่กับที่ ทำงานข้างนอกขยันๆ รวย ก้าวหน้า
     
  6. sazukia007

    sazukia007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    350
    ค่าพลัง:
    +711
    ดูกำลังใจครับ เคยได้ยิน คนที่เผาตัวเอง ตัดคอตัวเองถวายเป็นพุทธบูชาใหมครับ นั้นเขากำลังใจเด็ดขาด ไม่กลัว ไม่สงสัย

    ท่านโคธิกะได้ฌาน ดังนั้นกดนิวรได้แน่ และได้หลายๆรอบ ท่านจึงเบื่อ ว่าเดี๋ยวได้เดี๋ยวเสื่อม แต่ไม่ได้ละความเพียร

    ที่ท่านฆ่าตัวตาย ท่านไม่ได้หนีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น กำลังใจน่าจะเกาะในส่วนนี้อยู่ พอตาย จึงไปนิพพาน

    ทั้งหมดนี้อาจจะนะ ลองใช้หลักเหตุและผลคิดดู
     
  7. 12345*

    12345* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +332
    ได้แล้วเสื่อม ได้แล้วเสื่อมถึง6ครั้ง พิจารณาตรงนี้แหละแต่คงมากกว่านี้ ความเบื่อหน่ายใน...ก็เกิดขึ้น อาจเกิดก่อนนำศาสตรามา...ซะอีก
     
  8. Bull_psi

    Bull_psi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +1,445
    เอ ว่าแต่มีเบื่อไม่มีเบื่อนี่ยังมีสมมติอยู่เปล่าน๊า :boo:
     
  9. 12345*

    12345* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +332
    เบื่อหน่าย แค่เริ่มต้นวิปัสนาญาณ16 หลังจากนั้นก็นำศาสตรามา... ญาณต่อๆไปก็ตามมาจนจบกิจ...
    ก็เดาๆกันไป:boo:
     
  10. Bull_psi

    Bull_psi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +1,445
    เดาๆนี่คือไม่รู้ แล้วแถมสงสัยอีก จะเกิดโมหะจิต เกิดอุทธัจจะ กุกกุจจะ ฟุ้งซ่านรำคาญใจ

    ถ้าเดาแล้วไม่ฟุ้งซ่าน ทางเทคนิคคือต้องเดาแบบไม่มีอกุศลจิต
     
  11. blank123

    blank123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +229
    อืม...อันเรื่อง พระโคธิกะ กระทำอัตตวินิบาตกรรม จนได้ปรินิพพานนั้น
    มันก็คงต้อง ดูบริบทแวดล้อม และ เหตุปัจจัยต่าง ๆ ให้ดี ๆ ด้วยมั้ง
    ไม่งั้น เด๋ว มันจะกลายเป็น แฟชั่นฆ่าตัวตายตามหานิพพาน
    เลียนแบบพระโคธิกะ กันไปซะหมด
    เฮ้ออ พวกพุทธมามะกะจ๋า แบบไทย ๆ เนี่ย
    มันยิ่งเป็นพวก ศรัทธาจริตจ๋าหน้าโง่
    ที่ชอบทำอะไรโดยไม่รู้จักใช้ปัญญามา โยนิโสฯซะด้วยดิ อิอิ



    และ สำหรับเจ้เอง ก็ไม่ชัวร์ นักหรอกนะว่า
    ไอ้เรื่อง ฆ่าตัวตายตาม หานิพพาน ของ พระโคธิกะเนี่ย
    มัน ชัวร์ หรือ มั่ว นิ่ม เพราะ เจ้ไม่มีปัญญา
    จะไปล่วงรู้สภาวะจิตสุดท้าย ของใครได้ว่าเป็นยังไง
    ดวงจิตสุดท้ายปล่อยวางละสังโยชน์ได้จริง
    หรือยังมีปฏิฆะอะไรติดอยู่ในใจ
    ตายแล้วมันจะไปที่ชอบ ๆ ที่ไหน ?ฯลฯ


    และถึงมีเจโต จริง ๆ เจ้ก็มารยาทดี
    พอที่จะไม่ไปสอดรู้สอดเห็น เรื่องของชาวบ้านอ่ะ อิอิ
    ไอ้ครั้นจะให้เชื่อ ขี้ฟันสมณะโคดม แบ่บตะพืดตะพือ
    ชี้นก เป็นไม้ แล้วก็ว่าตามกัน หรือ มันก็กระไรอยู่



    อืม...บางที ไอ้ตำนานฆ่าตัวตาย
    เพื่อตามหานิพพาน ของ พระโคธิกะ เนี่ย
    ีมันอาจจะเป็นแค่ ปาหี่วิถีพุทธ
    หรือ เป็น แค่แคมเปญหวือหวาเอาไว้หลอกเด็กน้อย
    ประมาณ เดียวกับนิยายเรื่องยักษ์ลักไป ลิงลักมา ใน รามายณะ
    กะ ชาดกเรื่อง เอี้ย พูดได้ ก็ได้มั้ง ใครจะรู้
    สมัยนั้นน่ะ การแข่งขันทางการตลาดเพื่อขยายฐานแฟนคลับ
    ระหว่าง พุทธ กับ พราหมณ์ มันก็ดุเดือดจะตายไปนิ



    ดังนั้น ถ้า ใครคิดจะอินเทรนด์
    ปาดคอหอยตัวเอง เพื่อ พิณา สังขาร
    อันดับแรก ก็ต้อง สำเหนียก
    ถึง ศักยภาพของตัวเอง ก่อนอ่ะ
    ว่า เจ๋ง สู้ พระโคธิกะ ได้ป่ะ
    ถ้า แค่โดนชาวบ้านกระแหนะกระแหน ในห้อง อภิญญา
    ยังถึงกับ ไมเกรนกำเริบ อ่ะนะ
    ท่าทางจะหมดสิทธิได้นิพพาน
    ในลักษณะเดียวก๊ะ พระโคธิกะ แระอ่ะ



    แต่ถ้ามั่นใจดีแล้ว ว่าตัวเอง เจ๋งพอ แน่พอ
    ็ก็ให้ลอง เอาหลัก สัมมัปปธาน 4 มาทวนสอบ ดิ
    ว่า กายกรรม วจี กรรม แล มโนกรรม
    ที่ได้ กระทำ นั้น มันเป็น เป็น กุศล ฤา อกุศล
    แต่อันดับแรก ที่ต้องทำให้เกิด แก่ตน เสียก่อน
    คือ ต้อง ซื่อสัตย์ต่อตัณหาและ อัตตา ตัวเอง นะ
    จึงจะสามารถนำ หลักสัมมัปธาน สี่
    ี้มา ใช้ประโยชน์ให้เกิดมรรคผลได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย


    อันบุคคลที่ชอบหนีความจริง
    ชอบหลอกตัวเอง ชอบแถก ชอบแถ
    เพื่อหลบเลี่ยงความไม่สบายใจ เป็น อาจิณกรรม นี่
    ต่อให้ เชือดคอตัวเองเพื่อดู ชาดกสิณ สัก ห้าร้อยชาติ
    มันก็ไม่ได้ประโยชน์ อะไร ขึ้นมาหรอกมั้ง


    และ ที่ สำคัญ กฏมณเฑียรบาล
    ในการเป็นนักปฏิบัติ อีกข้อ คือ
    ปฏิปทาในการปฏิบัติ
    ต้องเป็นไปในทาง ปกติวิสัย
    ทั้งทางโลกทางธรรม
    และ ไม่นำมาซึ่ง ความเดือดร้อน
    อันจะก่อให้เกิดโทษ
    ต่อทั้ง ตัวเอง และ ผู้อื่น



    จะบอกอะไรให้นะ ในฐานะ ที่เจ้เป็นบุคลากรทางการแพทย์ คนหนึ่ง
    ที่มักจะเห็น อิพวกเด็กมีปัญหามัน ฆ่าตัวตายประชดแม่มั่ง ประชดผัวมั่ง อยู่บ่อย ๆ
    เจ้ จึงมักจะรู้สึกว่า ใครก็ตามที่มันสะแหล๋นแจ๋นคิดจะไปฆ่าตัวตาย
    โดยไม่มีเหตุปัจจัยอันสมควร แก่กาลเทศะ แล้ว อ่ะนะ
    ต่อให้ มันจะอ้างว่า มันทำไปเพื่อเป็นการตามหานิพพาน อะไรก็ตาม
    แต่ถ้ามันเจื๋อกชักแหง่ก ๆ ถูกหามมาโรงบาล
    จนทำให้ตรูต้องมาวิ่งวุ่นเดือดร้อน
    ไปหาหยูกหายาให้มันแดร่กเนี่ย
    ต่อให้เป็น พระโคธิกะกลับชาติมาเกิด
    เจ้ก็จะ ก่นด่า( ในใจ ) ถึงโคตรเหง้าศักราช ของมันผู้นั้นด้วย ว่า


    แมร่ง อิลูกพ่อแม่ไม่สั่งไม่สอนพวกนี้
    ช่างไม่มีความเกรงใจ กันมั่งเลยหรือไงกันนะ
    นึกอยากจะตาย 5 ไปหานิพพาน
    มันก็ยังไม่วาย ทำตัวให้เดือดร้อนชาวบ้านอี๊ก อิพวกมักง่ายเอ๊ย


    กรูไม่สนหรอกนะจ๊ะ
    ว่า ตายแล้วเมิงจะไปนิพพาน
    หรือ ว่าไปเป็นเปรตวัดสุทัสน์ที่ไหน
    ( เพราะเมิงไม่ใช่ ลูกสาวตรู )
    ดังนั้น อย่าให้ความตายด้วยความมักง่ายของเมิง
    มาเดือดร้อนถึงกรู เข้าใจ๋


    แค่ ดูแลคนไข้เรื้อรังธรรมดา ๆ ในโรงบาล
    เวิร์คโหลดก็หนักหนาเอาการอยู่แระ
    ยังจะขยันหางานมาเพิ่มให้โดยไม่จำเป็นอีก
    กะอีแค่ความรับผิดชอบต่อส่วนรวมยังไม่รู้จักสำเหนียก
    งี้ ตาย5 ไปแล้ว วิญญาณมันจะไปสู่ ...
    นิพพานัง ปรมัง สุขัง ได้ยังไงกันฟระ แว้ด ๆ ฉอด ๆ :mad:


    ปอลิง

    ถ้าใครอ่านโพสนี้ แล้ว ไมเกรนกำเริบก็ขออภัยด้วยเจ้าค่ะ
    ช่วงนี้ องค์ลง ฮาร์ดคอร์เต็มสตรีม หุหุ <img src=http://drama-addict.com/wp-includes/images/smilies/icon_mrgreen.gif>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2012
  12. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    แป่ว

    สงสัย เจ้ข้างบน จะเก็บกดมาจากโรงพยาบาลแน่ๆ เลย
    แต่อ่านก็สนุกดี ^^
     
  13. naroksong

    naroksong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    412
    ค่าพลัง:
    +1,135
    ในอรรถกถาบอกไว้ว่า พระเถระรูปนี้สำคัญผิดคิดว่าตนบรรลุเป็นอริยเจ้าแล้ว(ซึ่งปิดอบาย)
    เลยคิดฆ่าตัวตายเพราะเบื่อหน่ายโรคภัย และเมื่อท่านกำลังจะตายนิมิตของปุถุชนเกิดขึ้น(นิมิตของนรก) ทำให้ท่านรู้ตัว(ว่าเวรแล้วตูยังเป็นปุถุชนอยู่)

    แต่เนื่องจากท่านเจริญวิปัสสนามาเป็นเวลานาน ทำให้ท่านล่ะนิมิตเหล่านั้นได้จนกระทั่งบรรลุเป็นพระอรหันต์

    ที่พระพุทธเจ้าตรัสสรรเสริญ ไม่ใช่ที่พระโคธิกะฆ่าตัวตายแต่เป็นเรื่องที่ท่านสามารถทำจิตให้ตั้งมั่นได้ ทั้งๆที่ยืนจรดปากนรกอยู่แล้ว

    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
  14. 12345*

    12345* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +332
    คนเดาไม่ฟุ้งหรอก คนอ่านก็เชิญเสพกันตามสบาย นะจ๊ะ นะจ๊ะ:boo:
     
  15. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    ทำไมโคธิกะ ไปพร้อมราก
    ถ้าเป็นพระสมณจะได้อะไรไป
    ผมเดาเอาแต่ว่าโคธิกะมีรากอยู่
    ไม่รู้ว่าสมณมีอะไร

    ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้ว
     
  16. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    การเข้าถึงพระนิพพาน แตกต่างกันหรือเหมือนกันอย่างไร
     
  17. อินทรี

    อินทรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    418
    ค่าพลัง:
    +562
    ถ้าเปนคนอื่นมาทำแบบท่านโคธิกะ มีหวังมีอบายภูมิเปนที่ไปแน่นอนที่สุด
    ญานขึ้นสูงหลายครั้งๆๆ ๆ แต่พอจะเข้าโลกุตระ ญานกลับตกซะงั้น และเปนเกือบทุกครั้ง
    ในช่วงที่วิปัสสนาญานขึ้น ก้น่าเหนใจ แต่สุดท้ายท่านก้หมดกิเลส ดับเชื้อไขกิเลสจากจิตได้หมด
     

แชร์หน้านี้

Loading...