วิจัยพบบทสวดโพชฌงค์แก้'โรคซึมเศร้า'ได้

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย aprin, 20 กันยายน 2012.

  1. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    [​IMG]

    'มจร'วิจัยพบบทสวดโพชฌงค์ แก้'โรคซึมเศร้า'จากภัยพิบัติได้จริง : สำราญ สมพงษ์รายงาน

    น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งสำหรับคนไทยเนื่องจากมีผู้ป่วยเป็นโรคทางจิตสูงถึงกว่า 3 ล้านราย ทั้งโรคจิต โรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า โรคลมชัก และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะโรคซึมเศร้า ทั้งนี้จากการเปิดเผยของนายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2555ที่ผ่านมา

    ปัญหาเกิดจากโลกร้อนเกิดภัยพิบัติต่างๆ ตามมาทั่วโลก ประเทศไทยก็มีการเปลี่ยนเป็นสภาพสังคมเมืองมากขึ้น เกิดภัยพิบัติ ทั้งน้ำท่วม สุโขทัยระทม คนกรุงขวัญผวาฝนตกหนักทุกวันกลัวว่าน้ำจะท่วมอีก และสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้าอีกอย่างหนึ่งก็คือ "น้ำลาย" จากนักการเมืองที่ด่ากันผ่านสื่อทุกวัน

    เมื่อสภาพสังคมไทยป่วยเป็นโรคจิตเช่นนี้จะอาศัยเพียงโรงพยาบาลโรคจิตก็คงจะไม่เพียงพอ แล้วบุคคลหรือหน่วยงานใดที่จะเป็นอาสาเข้ามาช่วย มองไปทั่วประเทศไทยก็เห็นมีแต่ลูกศิษย์ "นักจิตบำบัดที่เก่งที่สุดในโลก" ตามที่ ดร.เมล กิลล์ (Dr.Mel Gill) นักจิตบำบัด ผู้รับขนานนามว่า "นักพูดพันล้าน กูรูผู้สร้าง แรงบันดาลใจ" ประกาศยกย่องนั้นก็คือ " พระพุทธเจ้า"

    พุทธวิธีบำบัดโรคจิตโดยเฉพาะโรคซึมเศร้านั้นก็มีทั้งการฝึกสมาธิ ฝึกอานาปานสติ และการสวดบทพระปริตร

    การสวดนั้นจะใช้บทใด เพราะบทสวดที่พระสวดนั้นก็มีทั้งเจ็ดตำนานและสิบสองตำนาน ซึ่งเรื่องนี้นางเบญญาภา กุลศิริไชย นักศึกษาปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ได้ทำการวิจัยในการทำวิทยานิพนธ์เรื่อง "การลดภาวะซึมเศร้าในผู้ประสบภัยพิบัติด้วยการรับบทสวดโพชฌงคปริตรเข้าจิตใต้สำนึก" และได้นำเสนอในการบรรยายสาธารณะเมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่บัณฑิตวิทยาลัย "มจร" วัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ กทม.

    ผู้วิจัยได้นำเสนอว่า ลักษณ์ของผู้ประสบภัยพิบัติที่เกิดภาวะซึมเศร้าจะมีทัศนคติที่บิดเบือนไปในทางลบ และมีจิตใต้สำนึกจะต้านทานทุกอย่างที่เข้ามา ฉะนั้นถ้ามีวิธีการที่สามารถส่งข้อมูลเชิงบวกเข้าจิตใต้สำนึกได้โดยตรงที่ปราศจากการต้านทานจากจิตสำนึก น่าจะช่วยฟื้นฟูจิตใจลดภาวะซึมเศร้าได้เป็นอย่างดี

    ผู้วิจัยได้ค้นคว้าข้อมูลพบว่า มีหลักการนี้เรียกว่า "ซับลิมินอล แมสเซส" (subliminal messages) เป็นการส่งข้อมูลต่างๆ เข้าจิตใต้สำนึกโดยที่จิตไม่สามารถต้านทานได้ และขั้นตอนของการวิจัยด้วยวิธีนี้ได้ใช้บทสวดโพชฌงคปริตรในการทดลอง เพราะถือกันมาว่าเป็นพุทธมนต์สำหรับสวดสาธยายเพื่อให้คนป่วยหายจากโรคทางกายและใจได้

    ผู้วิจัยได้ทดลองจากผู้ประสบภัยพิบัติจากเหตุการณ์อุทกภัยในประเทศไทยปี พ.ศ.2554 ที่อพยพไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงจังหวัดนครปฐม โดยแบ่งคนที่มีภาวะซึมเศร้าออกเป็น 3 กลุ่ม โดยกลุ่มที่ 1 ให้ฟังเสียงเพลงธรรมชาติที่ซ่อนบทสวดโพชฌงคปริตรและคำแปล กลุ่มที่ 2 ฟังเสียงเพลงธรรมชาติเท่านั้น และกลุ่มที่ 3 ไม่ได้ฟังทั้งสองอย่าง ตลอด 7 วัน

    หลังจากนั้นทำการประเมินปรากฏว่ากลุ่มที่ 1 มีสภาวะซึมเศร้าลดลงและเพิ่มความรู้สึกสุขภาวะทางจิตได้ อีกทั้งยังส่งผลต่อเนื่องในระยะยาวนาน ส่วนกลุ่มที่ 2 มีสภาวะซึมเศร้าลดลงและเพิ่มความรู้สึกสุขภาวะทางจิตได้ แต่ไม่ส่งผลต่อเนื่องเหมือนกลุ่มที่ 1 ส่วนกลุ่มที่ 3 มีภาวะคงที่ไม่เปลี่ยนแปลงอะไร

    ทั้งนี้ผู้ที่ฟังบทสวดโพชฌงคปริตรนั้นมีความรู้สึกสุขภาวะทางจิตด้านความรู้สึกผ่อนคลาย เป็นมิตร ร่าเริง มีจิตใจเข้มแข็ง มีสมาธิเพิ่มขึ้น

    จากผลการทำ "ซับลิมินอล แมสเซส" ด้วยฟังบทสวดโพชฌงคปริตรดังกล่าวสอดคล้องกับการทดลองของนักจิตบำบัดในต่างประเทศเช่น สตาร์ค(Stark) ไคล์น โฮลท์ และคีย์

    อย่างไรก็ตามผู้วิจัยได้ตั้งข้อสังเกตว่าผู้สวดโพชฌงคปริตรก็ต้องมีองค์ประกอบคือ มีจิตเมตตา มุ่งประโยชน์แก่ผู้ฟัง (ไม่ใช่มุ่งหวังแต่สตางค์) สวดไม่ผิด และรู้ความหมายของบทสวดด้วย ขณะที่ผู้ฟังก็ต้องมีองค์ประกอบเช่น ไม่เคยทำกรรมหนักหรืออนันตริยกรรม ไม่มีมิจฉาทิฏฐิอย่างเช่นรับได้กับผู้บริหารที่ทุจริต โกงกินเป็นต้น และมีความเชื่อมั่นในอานุภาพของโพชฌงคปริตร

    จากผลการวิจัยดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าคำสอนสามารถนำไปแก้ปัญหารักษาโรคซึมเศร้าได้เจริง นับเป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างพระพุทธศาสนากับศาสตร์สมัยใหม่ ตามที่ สกอ.ได้ตั้งความหวังเมื่อคราวเดินทางไปประเมินผลการจัดการศึกษาของ "มจร" ระหว่างวันที่ 12-14 ก.ย.ที่ผ่านมา

    แต่หากต้องการที่จะทราบพุทธวิธีในการบำบัดทางจิตมากยิ่งขึ้นวันที่ 27 ก.ย.ที่จะถึงนี้ทาง "มจร" จะจัดงาน 65 ปีของคณะพุทธศาสตร์ ที่ "มจร" อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยจะมีการปาฐกถาพิเศษและเสวนาวิชาการเรื่อง "เหลียวหลังแลหน้าพุทธศาสตร์ในประชาคมอาเซียน" ซึ่งมีผู้ร่วมเป็นวิทยากรประด้วยพระธรรมโกศาจารย์อธิการบดี พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต และมีนายกฤษณะ ไชยรัตน์ แห่งเครื่องเนชั่นเป็นผู้ดำเนินรายการ

    วิจัยพบบทสวดโพชฌงค์แก้โรคซึมเศร้าได้ คมชัดลึก : ศาสนาพระเครื่อง : ข่าวทั่วไป
     
  2. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,254
    อนุโมทนา สาธุ ๆ
    ในบุญกุศลทุกอย่าง
    กับทุกท่านในกาลนี้ด้วยครับ
     
  3. พรรณนา

    พรรณนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +1,178
    ๛โพชฌังคปริตร ล้านนา๛
    คุณครู กัญญนัทธ์ ศิริ
    เจ้าของผลงาน / ประพันธ์ทำนอง / ขับร้อง ​

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=ApKwFnqsP6I"]๛โพชฌังคปริตร ล้านนา๛ - YouTube[/ame]


    เพื่อนๆสมาชิกหลายท่านน่าจะรู้จักและคุ้นๆหน้าตากันนะ อ่า
    หรือในนาม คุณโมเย ลองเข้าไปฟังกันได้นะ ตามลิ้งค์เลย...

    http://palungjit.org/threads/บทเพลงบรรเทาป่วย-โพชฌังคปริต-ล้านนาบารมี.200458/
     
  4. สุโขสุขี

    สุโขสุขี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    912
    ค่าพลัง:
    +1,469
    อนุโมทนา สาธุๆ ครับ
    เวลาผมมีโรคเบียดเบียนก็จะสวดบทนี้ ครับ
     
  5. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    :cool:วิจัยพบบทสวดโพชฌงค์แก้'โรคซึมเศร้า'ได้:cool:
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->aprin<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_6727168", true); </SCRIPT>
    สมาชิก
    <!-- google_ad_section_end -->
    ทุกอย่างมันอยู่ที่กำลังใจด้วยครับ จริงๆพระพุทธเจ้าท่านสอนมาตั้งสองพันกว่าปีแล้ว กรรมฐาน ๔๐ มหาสติปัฏฐาน ๔ ถ้าทำได้ทำถึง เรื่องโรค มันเรื่องขี้ ผงครับ แต่ส่วนใหญ่ มันทำไม่ค่อยถึง แต่ถ้าทำเป็นกิจวัตร ประจำวัน มันก็ช่วยได้ระดับหนึ่ง เท่านั้นครับ แต่ถ้าจิตเป็นสมาธิ ไม่ต้องถึงฌาณหรอก ก็ทำได้ รักษาโรคต่างๆ คนโบราณ เขาใช้ควบคู่ กับใช้ยาโบราณรักษา ตามแต่โรคๆก็จะหายไปเร็ววัน ถ้าโรคหนักกรรมหนัก อาจจะหายช้า หรือไม่หาย โรคบางอย่าง ต้องพรึ่งหมอปัจจุบัน หมอปัจจุบัน รักษาไม่หาย ต้องไปรักษาหมอโบราณ ทั้งหมอโบราณและสมัยใหม่รักษาไม่หาย ต้องพึ่ง หมอ ไสยเวท ถ้าทั้งสามอย่าง ไม่หายต้องพึ่ง ธรรมมะ จึงจะหาย บางโรคเป็นเองหายเอง โดยไม่ต้องรักษาครับ

    ถ้าโรคกรรมหนัก เคยฆ่าสัตว์มามาก ก็ไม่หาย ทรงกับทรุดเท่านั้น และเป็นๆหาย เขาทรมารเราไปจนกว่าจะตาย นั่นแหละ ฉนั้นจึงต้องทำบุญให้สุดขั้ว หนีบาปให้สุดขีด มันตามทันเมื่อไหร่มันเล่นงานแน่ เหมือน เงาตามตัวนั่นแหละ แต่พระอริยทั้งหลายท่านยอมรับกฎของกรรมครับ มันเป็นต้องรักษา หิวต้องหาอาหารมาให้ร่างกายกิน หนาวต้องห่มผ้า ร้อนต้องทำความเย็น ให้ สารพัด บำรุงบำเรอเท่าไหร่ มันไม่เคยตามใจเราเลย พระคาถาที่รักษาโรค มีมากมาย เช่นพุทโธ ธัมโม สังโฆ คนโบราณเขายึดมั่น แต่คนเราในสมัยนี้ ไม่ค่อยสนใจ เผอๆเหยียบหยามอีกต่างหาก พูดมากก็ไม่ดี แต่อยาก ให้ทุกคนพอได้รู้ เป็นกระสายยาบ้าง คนโบราณน่ะเขาเก่ง นะ

    แต่สิ่งใดดีก็ทำไปเถอะครับ มีแต่ดีครับ แต่อยากบอกว่า ถ้าทำสมาธิได้ยิ่งดีครับ สะสมวันละเล็กวันละน้อย เดี๋ยวก็มากเอง จะดีกว่านั้นเยอะ มีทั้งสติ มีทั้งปัญญาเกิด บางโรคหรือหลายๆโรคก็หายได้ แม้แต่ โรค โลภ โกรธ หลง ก็จะเบาบางลง ได้ไม่มากก็น้อยครับ แล้วแต่เราทำได้มากน้อยแค่ไหนครับ พูดมากเดี๋ยวท่านจะเกียจเอา สวัสดี:cool:
     
  6. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ไม่ได้มากวนหรือมาทำให้มัวหมอง แต่จะมาช่วยเสริมครับ เพราะโลกยุคปัจจุบัน เขาไม่ค่อย ให้ความสำคัญเท่าไหร่ แม้ หมอแพทย์แผนโบราณเรา แพทย์สมัยใหม่บางคน หรือหลายคนก็ยัง แอนตี้อยู่ หมอนวดก็เช่นกัน ยิ่งโดนหนัก ยิ่งเปิด ไม่ขออนุญาติ ไอ้พวกจังไรนี่ยื่งแก้ง แม้แต่ทำเป็นทางการ พวกนี้ ยังหาวิธีกลั่นแกล้ง มีข่าวอยู่เรื่อย พักนี้เงียบไปหน่อยแล้วครับ ยาสมุนไพร ไทย พ่อหลวงกับพระเทพ ท่านให้มีการส่งเสริม ยังไม่วายเลย ยิ่งอย่างที่เจ้าของกระทู้ว่า มันยิ่งโดนหนักครับ สมัยหลวงปู่ปานวัดบางนมโค ท่านใช้มีดหมอ เคาะกระดาน นั่งภาวนา ท่องพระคาถาเรียกโรคออก บางครั้ง ก็ใช้มือ กอบโรค แล้วโยนทิ้งไป กอบไม่กี่ครั้ง โรคหาย ปัจจุบันนี้แทบไม่แล้ว

    (และขอยืนยันไว้ในที่นี้ด้วย) ถ้าพวกคุณ จะเอาไปใช้ เอาใช้ได้เลยว่าทำได้จริงยิ่งกว่าจริงเสียอีก ผมทำมาแล้วจึงกล้ายืนยันนอนยัน เวลาแมลงป่องต่อยใคร แพ้หรือปวด คนที่จิตเป็นสมาธินะ ใช้พระคาถาตั้งนะโม ๓ จบ พุทโธ ธัมโม สังโฆ ได้เลย แต่ส่วนใหญ่จะใช้พุทโธครับ ตั้งนะโม ๓ จบ ท่องพุทโธ เปล่าไปที่โดนต่อย แล้วกอบไปเรื่อยๆแล้วโยนทิ้ง จนกว่าจะหายปวด ไม่เกินชั่วจุดธุป หายแน่นอน ต้องมีสมาธินะครับถึงจะหาย สำหรับคนที่ได้ ฌาณจะช่วยคนได้เยอะครับ หายเร็วด้วย ท่านจะช่วยหรือไม่ช่วยเท่านั้นเอง ปล่อยไปตามกรรม เมื่อช่วยคนอื่นที่มีโรค คนช่วยจะโดนรับกรรม ส่วนหนึ่ง เฮ่อเล่าไปแล้วยาวครับ แต่ส่วนใหญ่ คนช่วยเขาต้อง ปิดประตู ทวารไม่ให้โรคมันเข้าคนรักษาครับ วิธีลองเมื่อท่านถูกตะขาบหรือแมลงป่องต่อย ให้คนท่องพระคาถาเอามือวางที่โดนต่อยหรือกัด พิษมันจะวิ่งเข้าหาสู่ร่างกายเราทันที ไม่เชื่อลองดูได้พิสูตรมาไม่ยากครับ ถ้าท่องนานๆ พิษจะหายไปจากคนโดนกัด หรือคนโดนต่อย ครับพิสูตรมาหลายวาระครับ

    และมีอีกวิธีหนึ่งครับ เอหิรุปุนะ พระคาถากอบโรค ของพ่อครู ทัน รุจิเรข หลานหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง นนทบุรี เรียนมาจาก หลวงพ่อแฉ่งวัดบางพัง ลูกศิษย์หลวงปู่ปาน วัดบางนมโคครับ ใช้มีดหมอเคราะ ไม่เกินชั่วธูป ใช้พระคาถา ปิตทวารก่อนที่จะ รักษาผู้อื่น ไม่งั้น โรคจะวิ่งเข้าตัวผู้รักษา บางครั้งก็ระวังยากครับ ผมเลิกใช้มานานแล้วครับ โรคบางอย่างหมอโรงพยาบาลไม่รับยังหายเลยครับ ผมลืมพระคาถาจนจะไม่เหลือแล้ว ตอนนั้นอายุยังไมถึง ๒๐ ปีครับ ช่วยคนบางที ก็มีทั้งโทษ ทั้งบุญจบครับไม่ขออธิบายต่อไป มันยาวมากถ้าอธิบาย:cool:
     
  7. whitenaga

    whitenaga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    796
    ค่าพลัง:
    +2,752
    อนุโมทนาสาธุมากๆ ค่ะสำหรับข้อมูลและเรื่องราวดีๆ แบบนี้^^
     

แชร์หน้านี้

Loading...