ปู่ใหญ่ ท่านเป็นใคร หนังสือเขียนไว้จริงเท็จประการใด

ซื้อ...ด้วย...อุดหนุน

 

เห็นหลวงปู่ครูบาอาจารย์ ท่านบอกว่า แม้เราจะกินข้าว เคี้ยวหมากหรือสูบยาสูบก็ต้องภาวนาพระคาถาตลอด พระคำข้าวทำไมจึงมีค่ามากก็เพราะว่าคำข้าวคำนั้นท่านรู้ทันกิเลสว่ามันหลุดออกมา ว่า อร่อยจัง ท่านจึงคายมาเก็บไว้ แล้วรวมมาสร้างพระคำข้าว
ชานหมานก็เช่นกัน หากท่านได้เคยไ ปพบหลวงพ่อคูณ หากถามท่านว่าตอนที่ท่านสูบยาสูบนั้นท่านภาวนาว่าอะไร ทำไมถึงไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของท่าน .....คงจะเป็นพระคาถาเมตตามหานิยม แน่เลย
จะทำอะไรซักอย่าง ก็ควรจะภาวนากำกับไปด้วย กิจการก็จะพบกับความราบรื่น ได้ง่ายขึ้น
สาธุ กับความดีงาม ทางจิต ของทุกคนครับ การปฏิบัติธรรม เป็นเรื่องของจิตใจ ล้วนๆครับ จิตใจจะดีหรือชั่วก็จิตใจดวงนี้แหละครับ
ขอให้เจริญในธรรมนะครับ

 

ท่านผู้เจริญในธรรม

ใด ๆ ในโลกล้วนอนิจจัง
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
แต่คุณความดี และ ความไม่ดีนั้น
จักคงอยู่ตลอดไป ตราบจน
มนุษย์เข้าสู่นิพพานจนหมดสิ้น
ก็จักเหลือแต่ความผาสุขสถิตย์อยู่

ผู้ใดที่ทำงานให้กับธรรมะ แม้งานเล็กน้อย
แม้จะช่วยยกกองหนังสือธรรมะ
กวาดถูพื้นสำหรับวางของถวายพระ
เก็บเศษกรวดบนโบสถ์
ก็เท่ากับได้ช่วยงานบุญใหญ่
เพราะทุกสิ่งต่างต้องใช้ปัจจัยเกื้อหนุนกันอยู่เนือง ๆ

ยินดีกับคุณยายผีป่าด้วย
ที่กำลังจะผลิตเพชรอีกเม็ด
เพชรที่กำลังจะฉายแสงแห่งพระธรรม
ขอให้เพชรเม็ดนี้จงมีค่าต่อไป
จนกว่าจะถึงเวลาที่ควรจะเป็น

ลูก มิกล่าวต่อไปให้มากความ
ขอกราบลาทุกท่าน

 

อนุโมทนา แบบอมยิ้ม แถมให้ด้วย ถูกใจจริง ๆ มีเค้าครับ .....

สำหรับยาย ผมเปลี่ยนคำเชียร์ใหม่
จาก มือถือดาบอีกมือไกวเปล
เป็น

มือถือดอกบัว อีก มือถือขวดนม
แต่ตอนนี้ มี 4 มือ
งั้นอีกสองมือ ไหว้พระ แล้วกัน

อุปสรรคจะได้หมดไป ... โอม .... เพี้ยงงงงงงงงงงงง

 

ยังไม่จบครับ แต่ส่งไม่ผ่าน สองครั้งแล้ว น่าสงสัย....?
จากนั้นผมได้ร่วมทำบุญกับยายผีป่า และได้รับความอนุเคราะห์จากยายผีป่าด้วยดีเสมอมา(ในยามที่มีปัญหา ยายได้ส่งวัตถุมงคลที่คิดว่าสามารถช่วยได่มาให้ แม้กระทั้งผ้ายันต์ที่หวงแหนมากก็ยินดีให้ยืม หวังเพียงให้ผมได้หลุดพันจากปัญหาเหล่านั้น เป็นความรู้สึกที่ดีและเป็นกำลังใจที่ดีมาก ทำให้ผมผ่านอุปสรรคเหล่านั้นมาได้ ผมพยายามที่จะส่งคืนด้วยตนเอง(ไม่ส่งทางไปรษณีย์) แต่ติดขัดหลายประการในที่สุดยายผีป่าตัดใจยกผ้ายันต์ผืนนั้นให้ผม น้ำใจในครั้งกระนั้นยังตราตรึงอยู่ในหัวใจมิรู้ลืมครับ แม้ในปัจจุบันยังไม่เคยพบหน้ากันสักครั้ง แต่เหมือนญาติสนิท ทำให้ผมเชื่อในความจริงใจในการทำนิตยสารพลังจิตครั้งนี้ และขอสนับสนุนครับ..........
อยากเห็นหลายท่านที่เขียนเก่งๆมาช่วยกันบันทึกสิ่งดีๆลงในนิตยสารเล่มนี้
อยากให้มีการรวบรวมกระทู้ที่น่าสนใจให้เก็บไว้อ่านได้นานๆ เพราะกระทู้ต่างๆไม่นานก็หายไป.........ตามกาลเวลา
ที่จริงเรื่องของหลวงปู่ใหญ่......พระครูเทพโลกอุดร......ก็มีผู้เขียนถึงมากมาย สามารถรวบรวมในส่วนที่ไม่เหมือนกับหนังสือเล่มอี่นที่เขาเขียนไว้ เพราะเป็นประสบการณ์ส่วนตัว (อย่างเช่นเรื่องของผม เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงเฉพาะตัว เป็นเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยที่พอจะเสริมให้บารมีของหลวงปู่ท่านเป็นที่รู้จักได้กว้างขวางขึ้น )
ผมว่าอย่าไปตีความว่าเอาเรื่องท่านมาหากินดีกว่าครับ

 

เพียงแต่เป็นการตามหาร่องรอยและญาณสัมผัสจากท่าน สำหรับสานุศิษย์รุ่นหลังได้มีโอกาสรับรู้ความเป็นมาของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ อย่างเช่นผม อ่านเรื่องของท่านมานานกว่า 20 ปีแล้วครับ เพิ่งมาได้แรงกระตุ้น และตื่นตัวจนมีความปราถนาอันแรงกล้าขอเป็นเจ้าภาพหล่อหลวงปู่ใหญ่ ทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองยังไม่พอ เป็นครั้งแรกที่พยายามทุ่มเทความคิดที่จะหาวิธีบอกบุญและวิธีหาเงินมาเพื่อให้ได้ครบ และจากนั้นจึงได้รู้ว่า...........ญาณสัมผัสของหลวงปู่นั้นท่านมีจริง..........ท่านช่วยให้ตามวาสนา.........ก่อนบวชผมจุดธูป 16 ดอกอธิษฐานถึงท่าน ขอให้ท่านเป็นผู้นำพา......จนกระทั้งสึก.....ผมซาบซึ้งในหัวใจอย่างเต็มเปี่ยมถึงบารมีและความเมตตาของท่าน......ผมไม่มีสัมผัสพิเศษ หูทิพย์ ตาทิพย์ หรืออะไรที่ต่างไปจากคนธรรมดาหรอกครับ รู้แต่เพียงว่าทุกอย่างที่ปรารถนาจะทำ ต้องทำ อยากพบ ควรพบ จะได้หมด ได้บวชที่ใต้ต้นโพธิท่ามกลางพระธิเบตมาชุมนุมเป็นพัน(พอดีเป็นช่วงมีสังฆยนาพระไตรปิฎก)กลับมาเหยียบแผ่นดินไทยวันแรก ได้รับนิมนต์เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช แม้เวลาจะลาสิขาก็ได้รับความเมตตาจากท่านอาจารย์เปลี่ยน(แม่แตง เชียงใหม่) ลำพังตัวเองแล้วไม่กล้าที่จะขอให้ท่านศึกให้และไม่คิดที่จะกราบเรียนกับท่าน แต่โดยกึ่งบังคับจากท่านเจ้าอาวาส และท่านยังบังคับว่าบวชครั้งต่อไปต้องมาบวชกับท่าน ท่านบอกให้กลับมาบวชใหม่หลังจากหมดภาระครอบครัวแล้วมาบวชประเดิมเป็นพระองค์แรกของพระอุโบสถที่จะสร้งขึ้นเพื่อฉลองในหลวง 80 พรรษา(ได้รับงบประมาณจากรัฐบาลเป็นวัดเฉลิมพระเกียรติ์) แต่ปัจจุบันยังไม่ได้วางศิลาฤกษ์เลยครับ

 

ไม่ได้เขียนเชียร์นะครับ แต่เขียนออกมาจากความรู้สึก ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยทุกท่านด้วยครับ
เป็นธรรมดาครับ คนที่ทำมากก็เสียมาก ไม่ทำก็ไม่เสีย (เมื่อตั้งใจจะทำอะไรแล้วก็ต้องทำใจ) อยู่ที่เจตนาของการกระทำ การสร้างบารมีไม่มีมารบารมีไม่เกิด และบารมีก็ไม่ได้สร้างกันง่ายๆ..........กว่าจะสำเร็จเฮ่อ.......เหนื่อย
สาธุ......กับความตั้งใจจริงของยายผีป่าครับ ขอให้สำเร็จ......จะรออ่านครับ.......ร่ายซะยาวเลย ขอบพระคุณมากครับที่สละเวลามาอ่าน

 

ใจจริงผมอยากรบกวนให้คุณ mc ร่วมเขียนในประสบการณ์เกี่ยวกับหลวงปู่เทพโลกอุดร ความคิดผมในเว็บนี้ คุณ mc คงมีประสบการณ์อย่างมากเลยเกี่ยวกับหลวงปู่เทพโลกอุดร ถ้าหนังสือของคุณยายผีป่ามีประสบการณ์ของคุณ mc ลงไปด้วย ในความคิดของผมน่าติดตามมากครับ อย่างไรขอแสดงความคิดต่อคุณยายผีป่า และคุณ mc ด้วยครับ ตอนนี้ ผมมีความคิดว่า หนังสือที่คุณยายผีป่าจะจัดทำนั้น ขอให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และผมจะติดตามอ่านเสริมความเข้าใจต่อประวัติของหลวงปู่เทพโลกอุดร อย่างไรแล้วอยากให้คุณ mc ช่วยลงประสบการณ์ จิตสัมผัส ปาฏิหารย์ และแนวคำสอนของหลวงปู่เทพโลกอุดร ลงไปด้วยครับ ขอเสนอความเห็นต่อคุณยายผีป่า และคุณ mc ถ้าเป็นการไม่ควรอย่างไรต้องขออภัยต่อคุณยายผีป่าและคุณ mc ด้วยครับ

 

จากพลังจิตแนวฟิสิกส์คำนวณโมเดล "รูปหล่อ" ของผม
ทำนายได้ว่า คุณ nong music ได้พบหลวงปู่เทพฯ จริง
และได้เรียนวิชชาบางอย่างจากท่านมาด้วย


กำลังทดลองโมเดลฟิสิกส์ ถ้าทฤษฎีผิดก็ขออภัย

 

ผมว่าคุณคิดผิดแล้วครับ ในความคิดผมคุณ mc มีประสบการณ์มากครับ แต่คุณ mc ไม่นำมาเปิดเผยเท่านั้น คนเจอจริงจะพยายามไม่เอ่ยถึง เหมือนหลาย ๆ ท่านในเว็บนี้ ที่มีประสบการณ์สัมผัสกับหลวงปู่เทพโลกอุดร หลายท่านออกมาแนะนำว่าให้ปฏิบัติจะได้สัมผัสจริง ๆ ส่วนตัวผมนั้นเพียงสนใจ และศรัทธาต่อหลวงปู่เทพโลกอุดร ไม่เคยได้เรียนอะไรหรอกครับ เป็นเพียงผู้อ่านคนหนึ่งเท่านั้น

 

อืม Model ยังไม่แม่นยำต้องไปพัฒนาใหม่
สงสัยเรื่อง "ตัวบุคคล" จะคลาดเคลื่อนครับ


ขอบคุณที่บอกครับ
จะได้เก็บข้อมูลไปพัฒนาโมเดล

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ physigmund_foid
จากพลังจิตแนวฟิสิกส์คำนวณโมเดล "รูปหล่อ" ของผม
ทำนายได้ว่า คุณ nong music ได้พบหลวงปู่เทพฯ จริง
และได้เรียนวิชชาบางอย่างจากท่านมาด้วย


กำลังทดลองโมเดลฟิสิกส์ ถ้าทฤษฎีผิดก็ขออภัย
</TD></TR></TBODY></TABLE>


อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ physigmund_foid
อืม Model ยังไม่แม่นยำต้องไปพัฒนาใหม่
สงสัยเรื่อง "ตัวบุคคล" จะคลาดเคลื่อนครับ


ขอบคุณที่บอกครับ
จะได้เก็บข้อมูลไปพัฒนาโมเดล
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ขอเสนอ ลองพัฒนา Model "รูปไม่หล่อ" ฮะ เผื่อจะ Work (verygood)

(b-smile) (b-smile) [b-hi] (b-cap)

 

เรื่องชื่อของท่านนั้น "หลวงปู่เทพโลกอุดร" ผมว่าถูกต้องนะคับ
ส่วนจะมีชื่ออื่น ๆ ที่เรียกก้ออีกเรื่องหนึ่ง
เนื่องจากว่า
มีพระที่เป็น ลูกศิษย์ทาง ครูบาศรีวิชัย ได้ ไปธุดงค์ ที่เนปาล
ได้พบท่าน (( หลวงปู่เทพโลกอุดร)) แบบตาเนื้อ ไม่ใช่นิมิตร
ท่านมาเล่า ถ่ายทอดให้ฟัง ท่านยังเรียก ว่า " หลวงปู่เทพโลกอุดร " เลยคับ

อีกอย่างผมเคยเห็นรูปท่านที่ถ่าย ขณะที่ท่านนั่งทำพิธี มาแล้ว
เป็นรูปที่ถ่ายปัจุบัน ด้วยกล้องแบบที่เรา ๆ มีกันนั่นแหละคับ
ในมือท่านถือปากกาเมจิกเขียนยันต์ด้วย
คนที่ให้ดูรูป ก็ยังเรียกว่าหลวงปู่เทพโลกอุดร นะคับ

ฉะนั้น เรียก หลวงปู่เทพโลกอุดร ได้คับ และคิดว่าถูกต้องด้วยคับ

 

สำหรับผมคือ หลวงปู่เทพโลกอุดรครับ ที่ติดใจ ก็คือ ชื่อของหนังสือน่ะครับ ที่มีชื่อว่า หลวงปู่ใหญ่ พระธรรมเทพโลกอุดรน่ะครับ ส่วนเรื่องที่มีพระท่านไปธุดงค์ที่เนปาล ใช่เหตุการณ์เดียวกันหรือเปล่าครับ ที่เป็นอย่างนี้ ก็มีพระสงฆ์องค์หนึ่งไปกับเณรอีกองค์หนึ่ง ไปธุดงค์ประเทศไหน สถานที่ใด ผมจำไม่ได้ เณรติดใจกับหินก้อนหนึ่ง ที่มีอักษรภาษาอะไรผมก็จำไม่ได้แล้ว (ความจำไม่ค่อยดี) เณรอ่านไม่ออก พระสงฆ์รูปนั้นก็อ่านให้ฟัง ปรากฏว่า พออ่านเสร็จได้มีพระออกมาจากก้อนหิน ก้อนนั้นครับ ออกมาเป็นพระที่ชราภาพแล้ว พระสงฆ์องค์นั้น ก็พูดทักทายเป็นภาษากูโบฐ (เขียนถูกหรือเปล่าไม่แน่ใจ) เป็นภาษาที่ใช้สนทนากับเทวดาน่ะครับ พระสงฆ์องค์นั้นก็สามารถพูดภาษานั้นได้ และก็มีคณะขอถ่ายรูปเอาไว้ แต่รูปที่ออกมา กลับกลายเป็นรูปคนแก่หน้าตาเป็นไปทางอินเดียมีผ้าพันบนศีรษะ อันนี้ผมก็เรียกไม่ถูกครับ และถือไม้เท้าด้วยครับ แต่จริง ๆ เป็นภาพของพระสงฆ์แต่รูปที่ปรากฎเป็นรูปของคนชราชาวอินเดียมีผ้าพันบนศีรษะและถือไม้เท้าครับ ก็อยู่ที่หลวงปู่เทพโลกอุดร ท่านจะปรากฎเป็นรูปร่างอย่างไรครับ

 

คนนี้เค้าก็เจอจริง ๆ

พอดีไปอ่านเจอที่
http://www.pantown.com/board.php?id=9706&name=board2&topic=327&action=view

เป็นข้อมูลที่ชัดเจนแล้วและผมว่าเค้าเจอจริง ๆ ครับ เลยเอามาเป็นข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับผู้สนใจและถามผมมามากก็ติตตามข้อมูลตามนี้ครับ อนุโมทนากับเจ้าของความเห็นนี้

ความคิดเห็นที่ 17
หลวงปู่เทพโลกอุดร ไม่ได้มีพระองค์เดียว มีหลายพระองค์ แต่หลวงปู่ใหญ่มีพระองค์เดียว ท่านจะมาลักษณะปรากฎกาย เป็นได้ทั้งกายหยาบ และกายละเอียด มีกลิ่นหอมมาก หลวงปู่ใหญ่เวลาปรากฎกายหยาบจะถือไม้เท้าอันใหญ่ ท่านเป็นพระชรา รูปร่างสูงใหญ่ มีเคราที่คางแต่ไม่ยาวมากนัก ผมยาวถักเปียถึงตาตุ่ม นุ่งห่ม คลุมศรีษะด้วยผ้า บ้างครั้งใส่ถุงเท้ามาด้วย ตามที่พวกเราเห็นเหมือนกับว่าท่านมาจากที่หนาว มาก จึงต้องห่มผ้าลักษณะนี้ แต่มองไม่เห็นหน้า มองหน้าท่านเห็นแต่เป็นสีดำนิล ไม่เห็นตา ไม่เห็นจมูก ปาก ว่าเป็นอย่างไร เพราะอย่างที่ดิฉันบอกคือมองที่หน้าท่าน จะเป็นสีดำนิลเลย ส่วนหลวงปู่เทพโลกอุดรองค์อื่น ๆ จะแก่บ้าง หนุ่มบ้าง บางองค์ก็ถือไม้เท้าแต่เล็กกว้าไม้เท้าปู่ใหญ่ มองไม่เห็นหน้าเหมือนกัน ที่บอกว่าหลวงปู่เทพโลกอุดร มีหลายพระองค์ นั้นเพราะว่าเมื่อปี 2542 ที่คำตากล้า พวกเราเห็นท่านปรากฎกายพร้อมกันหลายพระองต์ เพราะหลวงปู่ ครูบาอาจารย์ท่านมาประชุมกันที่ศาลาพิพิธภัณฑ์ ที่วัดเสนานฤมิตร (วัดโนน) ดิฉันได้กราบท่านครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2535 วันนั้นเป็นวันทอดกฐิน ปัจจุบันท่านก็ยังปรากฎกายให้ลูกหลายได้กราบบ้าง แต่ก็ไม่บ่อยเหมือนกับเมื่อก่อน ซึ่งดิฉันก็ไม่ขอยืนยันว่าถ้าไปที่คำตากล้าแล้ว จะได้พบท่าน เพราะท่านมาแบบปรากฎกาย ไม่ใช่มาแบบร่างทรง ดิฉันคิดว่าหากใครเคยเป็นลูกหลานท่าน สักวันก็จะได้พบท่านเอง เมื่อถึงเวลา

โดย: Thanyaporn [29 มิ.ย. 50 7:36] ( IP A:125.27.5.49 X: )



ความคิดเห็นที่ 25
เพิ่งเคยเข้ามาอ่านในเนทนะครับ
ผมขออธิบายอย่างชัดเจนและแจ่มแจ้งเลยนะว่า "หลวงปู่ใหญ่มีจริง"
และยังมีชีวิตอยู่จริงมานานนับพันปี ภายหลังที่พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพาน ปัจจุบันยังมีคนได้พบท่าน ท่านอยู่เหนือโลกมีชีวิตเป็นอมตะ และท่านทันสมัยตลอดเวลา ที่สำคัญบอกไว้เลยว่า ท่านไม่เข้าร่างใครเพราะสิ่งสูงที่สุดจะมาแปดเปื้อนเหมือนน้ำสะอาดตกลงในดินทำไม แล้วท่านก็ไม่ได้ตายสักหน่อยนี่ เวลาที่มีคนเจอท่านต้องเจอด้วยตาเนื้อเท่านั้น ท่านมีกายทิพย์จริง ท่านเหาะได้จริง
รูปร่างหน้าตาท่าน ใส่จีวรเหลืองหนวดเครายาวขนตามตัวยาวผอมสูงผิวขาวรูปร่างดีมาก
ถ้าอยากพบท่าน สำหรับคนที่มีจิตเคารพต้องการสักการะท่านจริงๆ สามารถไปรอพบท่านได้ถ้าบุญญาธิการถึง เพราะลูกศิษย์ท่านยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน ที่อยู่นั้น อยู่ที่ อำเภอคำตากล้า จ.อุดรธานี เป็นสถานที่ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนในเมืองไทย ทั้งสถาปัตยกรรม สิ่งก่อสร้างหลายๆอย่าง รวมถึงพระพุทธรูปที่มาจากเมืองแก้วโลกอีกโลกหนึ่งของผู้มีจิตใจบริสุทธิ์ พระอรหันต์ตาเจ้า505พระองค์ และเทพเทวดา ไม่มีเบอร์โทรให้ติดต่อ พยายามแสวงบุญเอาเอง ถ้าไปไม่ถูก ไปที่อนามัย อำเภอคำตากล้าจะพบคำตอบ มีรูปปั้นหลวงปู่ใหญ่ ยืนตระหง่านหน้าสถานี
ผมเองเพิ่งได้รู้เรื่องราวและได้ไปที่นั่น ผมไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดี ระว่าง นรก สวรรค์ หรือ วัด หรือ โรงบุญ ผมกำหนดไม่ได้
แต่ที่แน่ๆคนที่การันตีว่าสถานที่นี้มีอยู่จริงคือ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ฟ้าชาย พระเทพ และองค์พ่อนายหลวง ท่านก็ยังเสด็จมากราบหลวงปู่อยู่หลายครั้ง ที่นั่นจะไม่มีพระ ไม่มีชี ไม่มีคนจำนวนมาก มีคนดูแลปัดกวาดอยู่ไม่กี่คน เพราะคนดูแลส่วนมากไม่ใช่คน
"นี่คือของจริงที่ทุกคนต้องพิสูจน์กันเองว่า หลวงปู่ใหญ่มีจริง"
ผมได้พระเครื่องหลวงปู่ใหญ่จากผู้มีบารมีมาหนึ่งองค์ ภูมิใจมาก
คราวหน้าผมจะมาเขียนเรื่องการเหาะเหินเดินอากาศของพระอรหันต์และการมาประชุมของมนุษย์ต่างดาวที่คำตากล้า
โดย: newsnan@hotmail.com [2 ก.พ. 51 15:08] ( IP A:202.129.57.2 X: )

 

ใครตอบได้บ้างว่าคืออะไร อ่า......