พญานาคกับอดีตที่ผ่านมา

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย คุรุวาโร, 1 กันยายน 2012.

  1. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440

    เอามาฝากเพิ่มเติมค่ะ สวยจริงๆ... (ชุดเดียวกันค่ะ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Buddha1.jpg
      Buddha1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      76.7 KB
      เปิดดู:
      68
    • Buddha2.jpg
      Buddha2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      107.8 KB
      เปิดดู:
      79
    • Buddha3.jpg
      Buddha3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      86 KB
      เปิดดู:
      67
    • Buddha4.jpg
      Buddha4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      97.4 KB
      เปิดดู:
      74
    • Buddha5.jpg
      Buddha5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      81.1 KB
      เปิดดู:
      120
    • Buddha6.jpg
      Buddha6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      100.8 KB
      เปิดดู:
      70
    • Buddha8.jpg
      Buddha8.jpg
      ขนาดไฟล์:
      78.6 KB
      เปิดดู:
      73
    • Buddha9.jpg
      Buddha9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      61 KB
      เปิดดู:
      91
    • Buddha10.jpg
      Buddha10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.9 KB
      เปิดดู:
      68
    • Buddha11.jpg
      Buddha11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      60.6 KB
      เปิดดู:
      64
  2. 9999nui

    9999nui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    167
    ค่าพลัง:
    +675
    หวยรับประทานหนอ---ขอพักใจสักครู่หนอ------
    ลาแล้วหนอ :'(
    พรุ่งนี้จะมาใหม่หนอ
     
  3. เจมี่

    เจมี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +273
    ตำนานของหนองหลวงเชียงราย

    [​IMG]
    ประวัติหนองหลวงเชียงราย
    หนองหลวง เป็นอ่างเก็บน้ำตามธรรมชาติที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดเชียงราย มีพื้นที่ประมาณ 9000 ไร่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ 3 ตำบล 2 อำเภอ คือ ตำบลเวียงชัย อำเภอเวียงชัย จำนวนกว่า 1000 ไร่ ตำบลดอนศิลา อำเภอเวียงชัย จำนวนกว่า 1000 ไร่ และตำบลห้วยสัก อำเภอเมืองเชียงรายกว่า 6000 ไร่ ทั้งนี้บริเวณรอบปากอ่างเก็บน้ำหนองหลวงเชียงราย มีเกาะปรากฎอยู่ทั้งหมด คือ เกาะแม่หม้าย เกาะดงมะเฟือง เกาะสันป่าเป้า เกาะสันกลาง เกาะทองกวาว เกาะไหมเย็บ(เกาะแม่หยิบ)เกาะขนุน และเกาะไผ่เหมย โดยที่ผ่านมามีชาวบ้าน และกลุ่มนักสำรวจตรวจพบเสาวิหาร วัด โบราณสถาน ปากถ้ำ อยู่เลยจากฝั่งอ่างเข้าไปในเขตเกาะแม่หม้าย ถึงเกาะดงมะเฟือง อีกทั้งยังขุดพบฆ้องโบราณขนาดใหญ่ จำนวน 12 ใบในบริเวณหน้าศาลเจ้าแม่หนองหลวงเชียงราย จึงสันนิษฐานกันว่าอ่างเก็บน้ำหนองหลวงเชียงราย เป็นเมืองโยนกไชยบุรี ซึ่งล่มจมลงไปในสมัยพระเจ้ามหาไชยชนะ เมื่อพุทธศักราช 370 โดยเหตุอาถรรพ์ที่ชาวเมืองฆ่าและพากันกินเนื้อปลาไหลเผือก จนเกิดอาเพศแผ่นดิน ทำให้เมืองจมหายไปในสมัยอาณาจักรเชียงแสน
     
  4. เจมี่

    เจมี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +273
    จุดกำเนิดหนองหลวงในสมัยก่อน ในบริเวณหนองน้ำหรือหนองหลวงในสมัยก่อนเป็นเพียงที่ราบลุ่มแต่ก็มีน้ำขัง อยู่ตลอดปีและในบริเวณรอบๆข้างเป็นที่ที่ชาวบ้านจับจองที่ดินไว้เพื่อทำมาหา กิน แต่ในวิสัยทัศน์และทรรศนคติของบรรพบุรุษและผู้นำของชาวหนองหลวง ที่เห็นว่าลุ่มน้ำแห่งนี้คงจะมีประโยชน์เกี่ยวกับน้ำกินน้ำใช้ใจอนาคตจึง ได้พากันเสียสละที่ดินของตนเองในบริเวณรอบๆของหนองน้ำนี้ให้เป็นของสาธารณะ เพื่อที่จะใช้หนองน้ำบริเวณนี้ให้เป็นที่รองรับน้ำฝนไว้ใช้ในการอุปโภค บริโภคของชุมชน และความคิดนี้ก็ได้สร้างหนองน้ำที่มีขนาดใหญ่มาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันนี้ซึ่งสมควรอย่างยิ่งในการช่วยกันอนุรักษ์สภาพน้ำของหนองหลวง ที่บรรพบุรุษได้สร้างทิ้งไว้ให้เป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นหลังของชาวหนองหลวง
     
  5. เจมี่

    เจมี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +273
    ตำนานหนองหลวงเชียงราย

    พระเจ้าพังคราช สืบเชื้อสายมาแต่ราชวงศ์ “สิงหนะวัติ” ต้นราชวงศ์เชียงแสนโบราณ เมืองโยนกนาคบุรี มหาศักราชได้ 277 ในกาลนั้น อำนาจการปกครองอ่อนแอมาก ทำให้พวกขอมยึดเมือง จนพระเจ้าพรพรมกุมาร ราชบุตรกอบกู้เมือง กลับคืนมาได้ และเปลี่ยนเป็นเมือง”โยนกไชยบุรี” ขณะนั้นแว่นแคว้นโยนกมี 4 นครด้วยกัน คือ 1.เมืองโยนกไชยบุรี (เป็นเมืองหลวง) 2.เวียงไชยนารายณ์ (เป็นแคว้นขวา) พระยาเรือนแก้วเป็นผู้ครอง 3.เมืองไชยปราการ (เป็นแคว้นซ้าย) เจ้าพรหมกุมารเป็นผู้ครอง 4. เวียงผ่างรางคำ เจ้าทุกขิตกุมารครองลุศักราช 333 พระองค์พังคราชเจ้านครโยนกไชยบุรี ทรงพระประชวรและได้สวรรคต มหาอุปราชทุกขิตตะจึงขึ้นเสวยราชสมบัติสืบต่อไปได้ 16 พรรษา ก็ทรงสวรรคต องค์มหาวันราชโอรสจึงขึ้นครองราชสมบัติแทน เมื่อศักราช 369 ฝ่ายองค์พระเจ้าพรหมราชได้ครองราชย์สมบัติเมืองไชยปราการได้ 59 พรรษา ก็ทรงสวรรคตพระไชยศิริราชโอรสจึงขึ้นเสวยราชสมบัติแทน
     
  6. เจมี่

    เจมี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +273
    จับลูกพญานาค

    ลุศักราช 370 ได้เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นแก่นครโยนกไชยบุรี กล่าวคือ เมื่อวันเสาร์ แรมเจ็ดค่ำ มีลูกพญานาคตัวหนึ่ง ลำตัวใหญ่และยาวประมาณเท่าลำตาล ลักษณะขาวผ่องดั่งสีเงินยวง ยาวประมาณ 7 วาเล่นน้ำอยู่ในเม่น้ำกุกะนที(แม่น้ำกก)แล้วมาเกยร่างพักอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ชาวบ้านไปหาปลาในน้ำกกพบเข้า เข้าใจว่าเป็นปลาไหลเผือกยักษ์ได้ใช้อุบายที่จะฆ่า โดยหากว่าการจะเข้าไปทุบตีปลาไหลขนาดใหญ่นั้น หากไม่ตายทันทีเกรงจะเป็นอันตราย จึงชวนกันไปกลิ้งขอนไม้ใหญ่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่ลูกพญานาคอยู่ เมื่อกลิ้งขอนไม้มาใกล้ระยะแล้ว คนทั้งหลายจึงดันท่อนไม้ที่มีขนาดใหญ่หล่นลงไปทับหัวลูกพญานาค เสียงดังสนั่น หัวลูกพญานาคจึงถึงกับแหลกเหลวจึงพากันแจ้งข่าวกับพวกในเมืองชักชวนกันหลาย ร้อยคนพากันเอาเถาวัลย์และเชือกมาฉุดลากเข้าไปในเมืองพร้อมกับกราบทูลพระ เจ้ามหาไชยชนะว่า พวกเขาได้ไปหาปลาในน้ำลำกก พบปลาไหลเผือกยักษ์ตัวโตมากนอนเกยตลิ่งอยู่ จึงช่วยกันฆ่าและชักลากลำตัวมา ถวายจะทรงโปรดประการใด

    พระเจ้ามหาไชยชนะ ได้ทราบเรื่องเช่นนั้นมิได้เฉลียวพระทัย คิดว่าคงเป็นปลาไหลธรรมดาแต่มีขนาดใหญ่ จึงทรงอนุญาตและดำรัสให้แล่เนื้อปลาแจกจ่ายกันกินทั่วเมือง พวกชาวบ้านจึงพากันออกมาทำการแล่เนื้อลูกพญานาคแบ่งกัน ปรากฎว่าขณะนั้นฝูงชนทราบเรื่องได้พากันยื้อแย่งเนื้อพญานาคกันและแม้จะแบ่ง กันไปสักเท่าไหร่เป็นที่น่าอัศจรรย์เนื้อปลาไหลเผือกตามที่ชาวบ้านเข้าใจกัน ก็หาหมดไม่ กองเนื้อก็ยังคงเหลือมากมาย
     
  7. เจมี่

    เจมี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +273
    พญานาคตามลูก

    ฝ่ายพญานาคเห็นลูกหายไป จึงเที่ยวติดตามหาทั่วภิภพ ก็หาไม่เจอ จึงติดตามรอย ชำแรกพระสุธาขึ้นมาเรื่อยๆ จนพบกองเนื้อใหญ่ที่ชาวบ้านพากันแหล่เหลือทิ้งไว้อย่างมากมายจึ่งรู้แน่ว่า ลูกตนถูกฆ่าเสียแล้ว และต้องการจะทราบว่าลูกถูกฆ่าเพราะเหตุใด จึงแปลงร่างเป็นมาณพน้อย เดินทางเข้าไปในเมือง เพื่อสืบหาเรื่องราว

    ครั้นมาถึงบ้านหลังหนึ่งจึงตรงเข้าไปถามหาเจ้า ปรากฎว่าเป็นหญิงชราอายุมากแล้วมีนามว่า “จุมปาทอง”(จำปาทอง) อาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นเพียวผู้เดียว ไม่มีสามีไม่มีบุตรธิดาไว้สืบสกุล มาณพน้อยจึงถามเอาเรื่องราวของคนในเมืองว่าเขาทำอะไรกัน หญิงชราได้เล่าว่าวันนี้ชาวเมืองพากันชื่นชมกับการได้กินเนื้อปลาไหลเผือก มาณพน้อยก็ถามทำไมยายไม่ได้กินเนื้อปลาเหมือนชาวบ้านคนอื่นๆ หญิงชราตอบว่ายายเป็นคนอายุมากแล้วไม่อาจที่จะมีแรงไปยื้อแย่งกับเขาได้ จึงไม่ได้กิน มาณพน้อยได้ฟังจึงบอกยายว่าอย่าเสียใจไปเลยยายจะอยู่ดีมีสุขและบอกกับยายปิด ประตูอยู่แต่ในเรือน อย่าลงจากเรือนเป็นอันขาดครั้งล่วงราตรีคืนนั้น ในปฐมยามได้เกิดเสียงดังสนั่นสะท้านทั่วไป ด้วยแผ่นดินไหวแล้วก็สงบลง

    ต่อมาเข้ามัชฌิมยามแผ่นดินก็ดังกึกก้องสนั่นหวั่นไหวเป็นคำรบสาม เมืองโยนกไชยบุรีทั้งเมืองล่มจมหายไปในแผ่นดิน กลายเป็นหนองน้ำใหญ่ ทั้งเมืองคงเหลือแต่เรือนหญิงชราหม้ายอยู่เพียงหลังเดียว ค้าอยู่บนเกาะพระเจ้าแผ่นดินและขัติวงศาพร้อมอำมาตย์ราษฎรทั้งหลายได้ถึง กาลกิริยาไปตามกรรม

    ต่อมาครั้นรุ่งเช้าขุนพันนาพร้อมชาวบ้านได้พากันเข้ามาดูเมืองที่จมหายไป เห็นเรือนหลังหนึ่งค้างอยู่บนเกาะ จึงได้ต่อแพไปตรวจดู พบกับหญิงชราหม้ายอยู่ในเรือนคนเดียวจึงถามถึงเหตุการณ์
     
  8. เจมี่

    เจมี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +273
    หญิงชราเล่าเหตุการณ์ที่กล่าวมาข้างต้นถึงสาเหตุที่เมืองจมหายไป โดยหญิงชรา หม้ายเล่าว่าขณะที่เกิดเสียงดังขึ้นครั้งแรก นางได้ปิดประตูลงกลอนไว้แต่หัวค่ำตามคำแนะนำของมาณพน้อย พอเกิดเสียงดัง รู้สึกว่าแผ่นดินไหว สะเทือนรุนแรง เรือนไหวโยนตัวไปมาตัวแกต้องกอดเสาเรือนไว้ เพื่อมิให้กลิ้งไปมา จะลงหนีออกจากเรือน มาณพน้อยก็ห้ามไว้จึงอดทนอยู่แต่ในเรือน จนได้ยินเสียงดังลั่นเป็นครั้งที่สาม ได้ยินเสียงน้ำไหลอย่างแรงๆรอบๆเรือน แต่ความมืดทำให้มองอะไรไม่เห็น

    ครั้นรุ่งสว่างมองออกไปตามช่องฝา เห็นเมืองทั้งเมืองจมหายไป จึงเกิดความกลัวไม่กล้าลงจากเรือนจนท่านขุนพันนาได้มาพบ เมื่อขุนพันนาได้ทราบเรื่องแล้ว จึงรับตัวหญิงชราบงแพถ่อขึ้นฝั่งไปเลี้ยงดูไว้อย่างดี และได้ตั้งให้เป็นพญาหญิงต่อไป ในเรื่องบอกให้รู้ถึงประวัติความเป็นมาของเกาะแม่หม้าย เกาะๆหนึ่งที่อยู่ในบริเวณของหนองน้ำหนองหลวงเชียงราย และยังคงมีอีกหลายๆ เกาะที่ได้กล่าวมาซึ่งในแต่ละเกาะก็มีประวัติความเป็นมาเหมือนกับเกาะแม่ หม้ายเช่นกัน
     
  9. จันทระ

    จันทระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +601

    ตามอ่านตำนานเกาะต่อไปคะ...^^


    ขอบคุณสำหรับนิทานคะคุณเจมี่
     
  10. จันทระ

    จันทระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +601
    ขอบคุณคะคุณฟ้ามุ่ย ภาพชุดนี้ดูทีไรขนลุกทุกที ทุกองค์ประกอบละเอียดมาก ขนาดรายละเอียดขอบๆรูป มือที่โผล่มานิดเดียว ยังดูสมดุลเลย
     
  11. เจมี่

    เจมี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +273
    ตำนานเกาะแม่หม้าย มี 2 เวอร์ชั่นค่ะ

    เวอร์ชั่นที่ 1

    มีตำนานว่าเจ้าเมืองเชียงแสนได้เลี้ยงเป็ดและห่านไว้ในหนองน้ำใหญ่แห่งหนึ่ง แต่มีปลาไหลเผือกตัวหนึ่งออกมากินเป็ดและห่านทุกวัน จนเจ้าเมืองทนไม่ได้ จึงขอฝ้ายบ้านละ 1 ปี๊บเพื่อมาพันหลังเป็ดและห่านทุกตัวให้เป็นสายเบ็ด เมื่อปลาไหลออกมากินเป็ดอีกจึงติดเบ็ด ชาวบ้านจึงช่วยกันจับขึ้นมาที่บ้านแม่ฮะ แล้วใส่เกวียนมายังบ้านแม่ลัวเพื่อทำเป็นอาหารแจกจ่ายไปทั่วเมือง

    วันนั้นเองลูกชายของพระอินทร์ได้มาเที่ยวบ้านแม่ม่ายคนหนึ่งและได้ถามว่า เมืองนี้มีกลิ่นอะไรหอมไปทั่ว แม่ม่ายจึงเล่าให้ฟัง ลูกชายพระอินทร์จึงถามแม่ม่ายว่าได้กินปลาไหลเผือกกับเขาด้วยไหม แม่ม่ายตอบว่าชาวเมืองไม่ได้แบ่งให้ ลูกชายพระอินทร์บอกว่าดีแล้วและสั่งว่าคืนนี้ถ้าได้ยินเสียงอะไรห้ามออกนอกเรือนเด็ดขาด

    พอตกกลางคืนก็มีเสียงดังกึกก้อง แม่ม่ายนึกถึงคำเตือนที่ได้ยินมา จึงปิดประตูบ้านเงียบอยู่ พอตอนเช้าก็ไม่เห็นเมืองเสียแล้ว มีแต่น้ำเวิ้งว้างไปทั่ว กลายเป็นทะเลสาบใหญ่โต เหลือแต่บ้านที่แม่ม่ายอยู่ซึ่งเหมือนเป็นเกาะ จึงเรียกว่า ?เกาะแม่ม่าย?
     
  12. เจมี่

    เจมี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +273
    เวอร์ชั่น ที่สอง เล่าว่า
    ในสมัยน่านเจ้า มีกษัตริย์เชื้อสายไทยน้อยครองดินแดนส่วนหนึ่งในมณฑลยูนนาน แต่ดินแดนดังกล่าวถูกรุกรานจากชาวจีนอยู่เสมอ

    ลุปีระกา พศ. ๑๑๒๐ กษัตริย์ดังกล่าวมีราชบุตรเจ็ดองค์ ราชบุตรองค์สุดท้องมีชันษาได้ ๑๗ ปี เป็นนารายณ์มหาโพธิสัตว์จุติลงมา มีความรู้ปรีชาญาณมากกว่าราชบุตรองค์อื่น พระราชบิดาจึ่งได้เลือกชัยภูมิ ณ บริเวณทะเลสาปเชียงแสนปัจจุบันให้มาสร้างบ้านแปลงเมือง ราชบุตรอพยพมากับประชาชน ๑๐๐,๐๐๐ ครอบครัว สร้างอาณาจักรศรีสัตนาคนหุตเชียงแสนขึ้น มีเมืองเชียงแสนเป็นราชธานี ได้สมโภชเป็นกษัตริย์มีพระนามว่า พญาสิงหนวัติ (ทรงเป็นพระนารายณ์มหาโพธิสัตว์องค์ที่ ๒ จุติลงมา)

    การก่อสร้างเมืองเสร็จในเจ็ดปี มีพญานาคคู่บารมีนามศรีสัตตนาคราชแปลงเป็นชีปะขาวมาช่วยวางแผนออกแบบเมืองจนสำเร็จ พร้อมมอบลูกแก้วควรเมืองให้เจ็ดลูก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • index1.jpg
      index1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      7.9 KB
      เปิดดู:
      44
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2012
  13. เจมี่

    เจมี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +273
    ต่อมาพญาสิงหนวัติมีราชบุตรเจ็ดองค์

    ราชบุตรองค์โตมีพระนามว่าพระมหาธิราช (มาบังเกิดเป็นพระโพธิสัตว์ครูบาศรีวิชัยในกาลต่อมา) ได้ครองเมืองต่อจากพระราชบิดา มีลูกแก้วใส (ขนาดเท่าลูกฟุตบอล) เป็นลูกแก้วศักดิ์สิทธิคู่เมืองจากนครใต้บาดาล ดลบันดาลให้ชาวเมืองอยู่เย็นเป็ยสุข น้ำท่าพืชพันธ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ น้ององค์อื่นๆ ไปสร้างเมืองลูกอีก ๗ เมือง หลวงปู่สิม และหลวงปู่ปาน ก็ได้เป็นน้องของพระมหาธิราชทั้งสิ้น

    หลายรัชกาลล่วงไป ลุพศ. ๑๓๐๗ นครเชียงแสนมีอายุ ๑๘๗ ปี ผู้ครองเมืองคือพระเจ้าศรีธราทิตย์กิตติศักดิ์ เป็นศิขรีสูร (อสูร) บนสวรรค์ลงมาเกิดจองเวรกับพระนารายณ์โพธิสัตว์ ผู้ครองเมืองมีมเหสีนามพระนางยศวดี ผู้ครองเมืองไม่อยู่ในธรรม ในปีนั้นชาวเมืองจับปลาไหลเผือกยักษ์ได้ตัวโตเท่าลำตาล เป็นสัตว์พิเศษลูกหลานพญานาคสีสัตนาคราช แทนที่จะมีปัญญาพิจารณาผู้ครองนครและชาวเมืองกลับร่วมกันแบ่งเนื้อปลาบริโภค เว้นยายหอมผู้เดียว

    ในตอนเย็นของวันดังกล่าวมียายหอมได้พบมาณพหนุ่มผู้หนึ่ง มารพหนุ่มกล่าวกับยายหอมว่า “คืนนี้ยายได้ยินเสียงอะไรอย่าออกมาดูให้อยู่แต่ในบ้าน” เหตุการณ์ผ่านไปรุ่งเช้ายายหอมออกมาหน้าบ้านพบว่าบ้านเมืองโดยรอบจมหายไป กลายเป็นทะเลสาปเชียงแสนปัจจุบัน บริเวณบ้านยายหอมที่รอดมาได้กลายเป็นดอนแม่หม้าย เป็นที่ตั้งของวัดพระธาตุศรีโยนกในปัจจุบัน
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • index.jpg
      index.jpg
      ขนาดไฟล์:
      7.6 KB
      เปิดดู:
      55
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2012
  14. เจมี่

    เจมี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +273
    สนุกมั้ยคะ ตำนานเมืองเชียงแสน ทีนี้จะขอย้อนยุคไปไกลเลย
    อยากอ่านกันมั้ยเอ่ย...? เป็นตำนานของโยนกนครนาคพันธุ์ค่ะ

    ภาพเวียงหนองหล่มในปัจจุบัน บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ขอขอบคุณภาพจาก oknation.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • yonok4.JPG
      yonok4.JPG
      ขนาดไฟล์:
      52.4 KB
      เปิดดู:
      193
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2012
  15. เจมี่

    เจมี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +273
    ตำนานสิงหนวัติ เวียงโยนกนาคพันธุ์

    ในหนังสือพงศาวดาร โยนก อันเป็นหนังสือที่แพร่หลายมาก เล่มหนึ่งเรียบเรียงโดยพระยาประชากิจกรจักร์ (แช่ม บุนนาค) ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 7 :2516 หน้า 133 และ 159 กล่าวถึงเรื่องนี้โดยเริ่มที่พระกาลเทวิฬผู้เป็นอนุชาของพระเจ้าอัญชนราช ออกทรงพรตเป็นดาบส ครั้งนั้นพระกาลเทวิฬดาบส พร้อมด้วยศากยราชทั้งสองพระนคร ลบศักราชกาลียุคเสีย แล้วตั้งศากยศักราชขึ้นเป็นศักราชใหม่ เมื่อศากยศักราชล่วงไปได้ 16 ปี

    สมัยต้นพุทธกาล ครั้งนั้นยังมีพระมหากษัตริย์ชาติไทยองค์หนึ่งทรงนามว่าพระเจ้าเทวกาลเป็นใหญ่แก่ไทยทั้งหลาย เสวยราชสมบัติ ณ เมืองนครไทยเทศ คือ เมืองราชคฤห์มหานคร พระมหากษัตริย์เจ้าพระนครนั้น มีพระราชโอรส 30 องค์พระราชธิดา 30 องค์ พระเชษฐโอรสผู้ทรงนามว่า ภาิยกุมารนั้น พระบิดาให้เถลิงอุปราชาภิเษก ดำรงตำแหน่งอุปราช เพื่อจะให้สืบราชสันตติวงศ์ ดำรงราชสมบัติในพระนครไทยเทศในภายภาคหน้า ราชกุมารองค์น้อยทรงนามว่า "สิงหนวัติกุมาร"เหตุด้วย มีกำลังมากดุจราชสีห์ ราชกุมารองค์นี้ได้พาบริวารเป็นจำนวนมากนับแสนครอบครัวออกจากเมืองนครไทยเทศ ในเดือนอาสาฬหมาส ข้ามแม่น้ำสารยูไปหนอาคเนย์ เพื่อจะแสวงหาภูมิประเทศที่สมควรตั้งพระนคร เสด็จสัญจรรอนแรมไปโดยอรัญวิถีได้สี่เดือน ก็ลุถึงแม่น้ำขละนที คือ แม่น้ำของ (แม่น้ำโขง)อันเป็นแว่นแคว้นอาณารัฐแห่งเมืองสุวรรณโคมคำขอมเขตซึ่งเป็น เมืองร้างมานานแต่ครั้งศาสนาพระพุทธกัสสป​

    เมื่อเจ้าสิงหนวัติกุมารกับหมู่ไทยบริวารได้ มาถึงถิ่นประเทศนี้แล้วก็ตั้งชมรมพักพลอยอยู่ริมฝั่งน้ำแม่ละว้านที คือ น้ำแม่สายในบัดนี้ ที่ตั้งอยู่นั้นไกลจากฝั่งแม่น้ำของ 7000 วา หรือ 350 เส้น ตำนานได้บันทึกไว้ ดังนี้​
     
  16. เจมี่

    เจมี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +273
    อยู่มาวันหนึ่งมีนาคราชตัวหนึ่ง ซึ่งมีถิ่นพำนักอยู่ในแม่น้ำของไม่ไกลนัก แปลงตนเป็นพราหมณ์เฒ่าเข้ามาในบริเวณถิ่นพำนักของเจ้าสิงหนวัติกุมารหลังจาก ได้ปฏิสันถารกันตามสมควรแล้ว พราหมณ์ได้แสดงตนว่าเป็นนาคราช ผู้อารักขาบริเวณนี้ มีนามว่าพันธุนาคราช เมื่อพันธุนาคราชทราบวัตถุประสงค์ของพระองค์แล้ว จึงกล่าวคำอนุญาตให้ตั้งนครขึ้นได้ตรงบริเวณนี้ แต่ขอให้ตั้งอยู่ในศีลสัตย์สุจริตธรรมแล้วนำพราราชบุรุษไปชี้สถานที่อันเป็นมงคลสมควรตั้งเป็นมหานครแห่งหนึ่งไกลจากที่พักประมาณ 1000 วา แล้วพลันพราหมณ์ผู้นั้นก็หายตัวไป ราชบุรุษทั้ง 7 เห็นเป็นอัศจรรย์ก็รีบกลับมาทูลเรื่องให้ทรงทราบ

    ครั้นราตรีกาลในวันนั้น นาคราชก็สำแดงฤทธิ์ขวิดควักพสุธาดล เป็นคูขอบรอบจังหวัด ที่อันจะให้สร้างปราการเมืองกว้าง 3000 วา โดยรอบทุกด้าน เสร็จแล้วนาคราชก็กลับคืนสูู่่่สถานที่อยู่แห่งตน ฝ่ายเจ้าสิงหนวัติกุมาร เสด็จไปตรวจเห็นสถานที่อันจะตั้งพระนคร นั้นแล้วก็ทรงปราโมทย์ จึงให้ระดมกำลังไพร่พลกะปันหน้าด่าน ให้ทำการสร้างปราการพระนคร และพระราชนิเวศน์มนเทียรสถาน ไม่นานก็แล้วเสร็จ จึงเสด็จเข้ามาครองพระนคร เป็นปฐมกษัตริย์ขัตติยวงศดำรงโยนกนาคพันธุ์ แล้วให้เรียกหาขุนมิลักขุทั้งหลายมาถวายบังคม ขุนมิลักขุทั้งหลาย และบริวารก็พากันอ่อนน้อมยอมขึ้นอยู่ในพระราชสมภาทั้งสิ้น แว้นแต่พวกขอมชาวเมือง อุมงคเสลานครหายอมไม่​
     
  17. เจมี่

    เจมี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +273
    ล่วงมาได้ 3 ปี ตั้งแต่สร้างพระนครแล้วมา เจ้าสิงหนวัติราชก็ยกพลโยธาไปผจญชาวขอม ชาวขอมสู้ไม่ได้ก็พ่ายแพ้ไป จึงตีได้เมืองอุมงคเสลานครเมืองนี้อยู่หนหรดีปลายน้ำแม่กกนที เป็นที่อยู่แห่งหมู่ขอมทั้งหลายซึ่งตั้งมานานพร้อมกับเมืองสุวรรณโคมคำ หลังจากนั้นเจ้าสิงหนวัติราชก็แต่งกองทัพออกไป เที่ยวปราบบ้านเล็กเมืองน้อยของหมู่ชาวขอมทั้งหลายในตำบลต่างๆ ที่แว่นแคว้นล้านนาไทยได้ทุกบ้านทุกตำบล ในครั้งนั้น แคว้นโยนกนาคพันธุ์ได้ตั้งมั่น มีอาณาเขตกว้างใหญ่แผ่ไพศาลไปทุกทิศ พระเจ้าสิงหนวัติคองราชสมบัติในโยนกนาคนคร โดยสุขสวัสดีมาได้ 52 ปี ศักราชล่วงได้ 68 ปี พระบรมโพธิสัตว์จึงอุบัติขึ้นในโลก พระเจ้าสิงหนวัติราช ครองราชสมบัติตั้งแต่พระชนมายุได้ 17 ปี ศักราชได้ 17 ปีดำรงอยู่ในราชสมบัติได้ 102 ปี พระชนมายุได้ 120 ปี ลุศักราชได้ 119 ปี ก็เสด็จดับขันธ์ทิวงคต

    ลำดับนั้นเจ้าคันธกุมาร ราชโอรส พระชนมายุได้ 42 ปี ได้ครองราชสมบัติในโยนกมหานครสืบไป เป็นเรื่องสัจธรรมของทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ ที่มีขึ้นแล้วก็มีลงมีความเจริญรุ่งเรืองแล้วก็ถึงกาลเสื่อมถอยร่วงโรยไปตามกาลเวลา ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน เมืองโยนกนาคนครก็เช่นเดียวกัน ตำนานกล่าวต่อไปอีกว่า รัชสมัยองค์พังคราชเจ้านครโยนกนาคบุรี มหาศักราชล่วงได้ 277 ปี ครั้งนั้นนครโยนกร่วงโรย ราชอำนาจอ่อนด้วยถอยลงพวกขอมเมืองอุมงคเสลานครกลับกำเริบตั้งแข็งเมืองขึ้น เจ้านครโยนกปราบปรามไม่ชนะ ขอมมีกำลังและอำนาจมากกว่า ก็ยกพลโยธาเข้าตีปล้นเอาพระนครโยนกได้ในวันอาทิตย์ เดือน 5 แรม 3 ค่ำ พระพุทธศาสนากลาลล่วงได้ 900 ปี​

    พญาขอมจึงไล่พระองค์พังคราชเจ้านครโยนกกับราชเทวีไปอยู่ ณ เวียงสีทวงริมน้ำแม่สาย ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือแห่งโยนกนาคนครและขอมเข้าจัดการเมืองเป็นใหญ่ในนครโยนกและแว่นแคว้นทั่วไป ต่อมาไม่นานพระเจ้าพรหมกุมารราชโอรสของพระองค์พังคราชล่วงถึงวัยฉกรรจ์ ได้ยกกองทัพไปล้อมเมืองโยนกนาคนคร จนเข้าเมืองได้แล้วขับไล่ขอมออกไปจนหมดสิ้น แล้วไปอัญเชิญพระองค์พังคราชสมเด็จพระราชบิดากลับมาครองเมืองต่อไป โดยมีเจ้าทุกขิตะกุมารพระเชษฐาเป็นมหาอุปราช ในเมื่อสักราชได้ 299 ปี ตั้งแต่นครโยนกเสียแก่ขอม เมืองอุมงคเสลานครมานานได้ 19 ปีจึงกลับคงคืนเป็นราชธานีดังเก่า จึงมีนามว่า "พระนครไชยบุรีโยนก" สืบมา​
     
  18. เจมี่

    เจมี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +273
    จนกระทั่งถึงกาลเวลาที่เมืองจะถล่มลงกลายเป็นหนองน้ำกว้างใหญ่ดังที่ปรากฏในทุกวันนี้ เหตุนั้นเกิดขึ้นในสมัยพระองค์มหาไชยชนะราชตำนานกว่าวว่า ลุมหาศักราช 467 ปีเถาะพระพุทธศาสนากาลล่วงได้ 1003 ปี พระองค์มหาไชยชนะราชเสวยราชย์ได้ 1 ปี

    อยู่มาวัน เป็นวันเสาร์เดือน 7 แรม 7 ค่ำ มีราษฎรพวกหนึ่งไปหาปลาในแม่น้ำกุกะนที (แม่น้ำกก)ได้ปลาไหลเผือกตัวหนึ่งใหญ่เท่าลำตาลยาว 7 วา ก็พากันทุบตีให้ตาย แล้วผูกด้วยเชือกลากมาตามลำห้วย ซึ่งภายหลังมีนามว่าห้วยแม่ลาก นำมาถวายพระเจ้านครโยนกมหาไชย

    พระองค์ดำรัสสั่งให้แล่เนื้อแจกกันกินทั่วทั้งเมือง ครั้นล่วงเวลาราตรีกาลค่ำวันนั้น ในปฐมยามแผ่นดินสะท้านดังสนั่นครั่นครื้นครั้งหนึ่ง ครั้นล่วงเข้ามัชฌิมยามก็ดังสนั่นลั่นเลื่อนอีกครั้งหนึ่งพอล่วงเข้า ปัจฉิมยามก็ดังกึกก้องเป็นคำรบสาม เมืองโยนกนคร ก็ทรุดล่มจมลง กลายเป็นหนองน้ำใหญ่ พระเจ้าแผ่นดินและขัตติยวงศาเสนาอำมาตย์ราษฎรบรรดาที่อยู่ในนครนั้น ก็ถึงกาลกิริยาไปตามยถากรรม

    แต่ยังเหลือแต่เรือนหญิงแม่ม่ายหลังหนึ่ง ค้างอยู่ขอบหนองและหญิงม่ายยังคงมีชีวิตอยู่ ครั้นรุ่งเช้า มีชาวบ้านชาวเมืองที่อยู่รอบนอกเมืองจำนวนมากมาย ได้เข้ามาสอบถามหญิงม่ายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า เกิดขึ้นเหตุอะไรขึ้นมา เมืองจึงจมหายไปเป็นหนองน้ำ​
     
  19. เจมี่

    เจมี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +273
    หญิงม่ายเล่าว่า... ตอนพลบค่ำได้มีมาณพหนุ่มผู้หนึ่งมาขออาศัพยักอยู่ที่เรือนของตนและถามว่า ชาวเมืองนี้เอาอะไรมากินกันกลิ่นหอมยิ่งนัก แม่ม่ายตอบว่า ชาวเมืองได้จับปลาไหลเผือกตัวใหญ่เผือกตัวใหญ่เท่าลำตาลมาถวายเจ้าเมือง ทรงมีรับสั่งให้แจกจ่ายกันกินทั่วเมือง มาณพหนุ่มได้ถามหญิงม่ายอีก แล้วป้าไม่ได้กินกับเขาหรอกหรือ ตนตอบว่าตนเป็นแม่ร้างแม่ม่ายหาหลูกหลานมิไ้ด้จึงไม่มีใครนำมาให้กิน

    มาณพหนุ่มจึงบอกว่า ป้าไม่ได้กินก็ดีแล้ว พอพูดเสร็จ มาณพหนุ่มจึงบอกว่า ป้าไม่ได้กินก็ดีแล้ว พอพูดเสร็จ มาณพหนุ่มขอตัวออกไปเที่ยวในเมือง ก่อนไปได้สั่งหญิงม่ายว่า ถ้าเกิดเหตุอะไรขึ้นแล้วตนยังไม่กลับมาก็อย่าลงจากเรือนเป็นอันขาด แล้วมาณพหนุ่มก็จากไปสักครู่หนึ่งก็เกิดแผ่นดินไหวขึ้นแล้วสงบไป แล้วกลับดังขึ้นอีกประมาณ 3 ครั้งสามครา ด้วยความกลัวกอปรกับมาณพหนุ่มได้สั่งกำชับเอาไว้ ตนจึงไม่กล้าลงจากเรือนออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น

    จนรุ่งเช้าตนมองดูเข้าไปในเมืองก็เห็นแต่น้ำ ชาวบ้านชาวเมืองรอบนอกที่รอดตายจากแผ่นดินถล่มได้ประชุมหารือว่า ควรจะทำประการใดต่อไปดี ในที่สุดที่ประชุมได้เลือกนายบ้านผู้หนึ่งชื่อขุนลัง แล้วแต่งยกให้เป็นประธาน กำหนดให้สร้างเมืองใหม่ขึ้นริมน้ำแม่ของ (แม่น้ำโขง)ฟากตะวันตก แต่ก็เป็นเบื้องตะวันออกแห่งเมืองเก่าที่ล่มจมกลายเป็นหนองน้ำ ครั้นสร้างเมืองเสร็จแล้วจึงตั้งชือว่า "เวียงปฤกษา" (เวียงปรึกษา)

    เวียงปฤกษา ตั้งตามที่ได้มีการปรึกษาหารือกันที่บ้านหญิงม่ายนั้น และบริเวณเมืองโยนกไชยบุรี จึงเรียกกันว่า "เหมืองหนอง" หรือ "เวียงหนองหล่ม" ตั้งแต่บันนั้นเป็นต้นมา เชื้อราชวงศ์ของพระเจ้าสิงหนวัติที่ได้ครองเมืองโยนกรานคพันธุ์ ก็เป็นอันสิ้นสุดลงที่พระองค์มหาไชยชนะนับได้ 45 ราชวงค์ 45 พระองค์

    ตำนานกล่าวว่าเวียงปกฏษามี อายุได้เพียง 93 ปี นับแต่ขุนลังเป็นประธานครองเมือง รวมได้ชั่ว 15 เจ้าเมือง นับแต่พุทธกาลได้ 1110 ถึง 1181 พระเจ้าอนุรุธธัมมิกราชแห่งกรุงพุกาม ได้ ลบ พ.ศ. แล้วตั้ง จุลศักราชขึ้นใหม่ ข้อความในตำนานสิงหนวัติก็ยุติเพียงเท่านี้

    ขอขอบคุณหนังสือ "เกร็ดพงศาวดาร ล้านนา"หน้า 40-45 มีจำหน่ายที่ร้านหนังสือดวงกมล แต่งโดย คุณลำจุล ฮวบเจริญ
     
  20. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 16 คน ( เป็นสมาชิก 11 คน และ บุคคลทั่วไป 5 คน )
    nouk, AO_N2001, twanrat, mukmik, Tatojang, แหมบศรี, เพชร2545, oracle_Park, alline, จันทระ, dirtygirl

    ทำไมเงียบๆ เชียบๆ กันจังเยย ไว้อาลัยอยู่เหรอจ๊า...าาา
    อ่านเรื่องโยนกนาคพันธุ์แล้ว
    ทำให้นึกถึงพระพุทธรูปเชียงแสนศิลาแลงที่บ้าน
    เห็นท่านครั้งแรก ก็นึกรักและผูกพัน
    พุทธลักษณะงดงาม ใบหน้าของท่านยิ้มให้เสมอ
    รู้สึกปีติทุกครั้ง เวลาที่เข้าไปสวดมนต์และทำสมาธิ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...