ถึงเวลาโม้แล้ว คนที่ได้รับพลังไซย่าจะมีเพียงหนึ่งและต้องมีเนกขัมฯ เท่านั้น

GOD มีหลายระดับนะครับ
นั่นเป็นระดับโลก แต่เบชิต้า
เขามาจากระดับจักรวาลแล้ว
ก็อดแห่งโลกจึงสู้ไม่ได้ไงคับ

 

GOD อุตส่าห์สร้างมนุษย์มาแทบตายเพื่อมาตีกันเนี่ยนะ
ไม่รู้จักซาบซึ้งในบุญคุณ GOD บ้างเลย แต่ GOD ก็ยังให้อภัยมนุษย์อยู่เสมอ
GOD ก็รู้สึกผิดเหมือนกันที่ทำไมต้องเป็นแบบนี้ ขนาดส่งพระบุตรองค์เดียวมารับบาปแล้ว
มนุษย์ก็ยังคงก่อบาปขึ้นอีก จนบาปตัวสุดท้ายกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว คงถึงเวลาตัดสินแล้ว

 

ไม่มีใครกลางจริงหรอกค่ะ กลางได้ เพราะ ทั้งสองฝ่ายนั้นยอมรับ และยอมแต่งตั้งให้มาตัดสิน และ ต้องยอมรับในคำตัดสินด้วย นะคะ
(กลางที่ใจค่ะ)
และที่จริง ไม่ได้ให้ รู้หรือเข้าใจ ในคำตัดสินหรือ ในกรรมการหรือ คนกลางหรือไม่ หรอกค่ะ อยากให้รู้ว่า สมมุติทั้ง พากันร่วมสร้าง ขึ้นมาเพื่อ ตัดสิน เรื่องในอดีต โดย ยกเอาอดีต เมาตัดสิน ในปัจจุบัน ได้ นี่สิคะ คือ ประเด็นค่ะ

สร้างสมมุติขึ้นมาในปัจจุบัน เพื่อ ลบล้าง สมมุติเก่า ๆ ในอดีต ไงคะ

โดยไม่ต้อง ย้อนเวลา หา อดีต ไงคะ โดยดึงเอาหรือ ยกเอา หรือสร้างสมมุติเอา เรื่องในอดีต มาลบล้าง มาชำระ กันให้ มันหมดหมด ไป ในปัจจุบัน ยังไงล่ะคะ

อนุโลมได้ ก็ ปฏิโลมได้ หรือ ปฏิโลมได้ ก็ อนุโลมได้ ด้วย สติที่กล้ายอมรับ ในความจริง ทั้งของตนเองและของคนอื่นไงคะ เพื่อที่ เรื่องราวทั้งหลาย จะได้ หายไป หมดไป ชำระไป ละวางไป ทิ้งไป ผ่านไป พ้นไป หลุดไป ยังไงล่ะคะ หลุดพ้นจากพันธนาการ เก่าจากอดีตได้ นะคะ

 

เรียกว่าการบริหารมิติ ด้วยตัวตนที่หลากหลาย
ดีกว่าครับ บางตัวตน ก็ไปทำงานมิติหนึ่ง ผ่าน
อดีตไปได้ โดยให้ตัวตนอื่นทำหน้าที่แทนครับ
ถ้าเขาเจอตัวตนหนึ่งของเขา ทำหน้าที่ตรงนั้น
อยู่แล้ว เขาต้องรอให้ตัวตนนั้นไปก่อน เช่น ให้
ไปบวชพระธิเบตไปเลย อย่างนั้น ตัวตนใหม่จึง
จะเข้าไปนั่งแท่นได้ แต่ถ้าตัวตนเก่ายังอยู่ ก็เข้า
ไปไม่ได้ครับ เขายังรั้งตำแหน่งเดิม ก็ทำหน้าที่
แทนตัวตนที่จะเข้าไปเสียบก็เลยเสียบแทนไม่ได้

 

ชอบอ่านจัง แต่อ่านแล้ว..งง..งง 55...

 

ประเด็นนี้ ไม่ต้องกลัวหรือ คิดมากหรอกค่ะ เพราะ พลังที่ดีและบริสุทธิ์ นั้น ก็มีแต่คนที่ดีและบริสุทธิ์ เท่านั้นแหล่ะค่ะ ถึงจะรับได้จริง และถ้าหาก คนไม่บริสุทธิ์ ฝันรับเอา(โลภ)พลังที่บริสุทธิ์ นั้นก็ จะกลายเป็นกรรมอกุศล ของคนคนนั้น ที่ มันจะย้อนกลับ เข้าตัว หรือ กรรมใครกรรมมัน นั่นแหล่ะค่ะ

เงื่อนไขทั้งหมด อยู่ใน กฏแห่งกรรม ทั้งนั้นแหล่ะค่ะ ไม่ต้องกลัวนะคะว่า คนที่ไม่บริสุทธิ์ จะได้ รับพลังที่บริสุทธิ์ แล้ว เอาไปใช้ในทาง ที่ไม่ดีหรอกค่ะ

 

วันวันนึง จะมีหลายตัวตนไม๊ครับ

 

รู้ว่าอนาคตมีแต่การต่อสู้ที่ชวนปวดหัวคุณยังจะเล่นเกมนี่กันอีกเหรอ
มาหาทางปลดปล่อยจากเกมวัฎฎะสงสารนี่ทีเถอะ
ยุคพระศรีย์ดูๆไปแล้วก็ไม่ต่างจากยุคปัจจุบันนี้เลย เหมือนมันตันๆยังไงก็ไม่รู้
รออัจฉริยะมาเกิด ไม่รู้จะโดนบททดสอบอะไรอีกรึเปล่า

 

พลัง อิทธิฤทธิ์ มีกันได้ทุกคน และสามารถเคลื่อนย้าย อวตาร แยก ถ่ายเทไห้กันได้ ฟันธง 1000000%

 

ที่จริงแล้ว ที่ท่านพูดมานี้ ถ้าจะเอามาพูดให้เข้าใจ ง่ายๆ เหมือน กับ คำว่า ต้นไม้ ต้องมีการผลัดใบ ตามธรรมชาติ หรือ การเจริญ เติบโต หรือ การเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป ของเก่า ผ่านไป ก็เกิด การเกิดขึ้นตั้งอยู่ แต่ยังไม่ดับไปของ ของใหม่ บน รูปนามเดิม หรือเปล่าคะ เปรียบเทียบเหมือน ปัญญาเดิม รู้แล้ววาง เพื่อที่ จะรับปัญญาในเรื่องใหม่ๆ เข้ามาแทนที่ ในรูปนามเดิม แต่ปัญญาเดิมนั้น ไม่ได้หายไปไหน ก็ยังรู้อยู่

เหมือน การผลัดใบ ของ ใบไม้ ถ้าใบเก่า ไม่หลุดขั้ว ทิ้งไป ใบใหม่ก็เกิด ขึ้น งอกขึ้น แทนไม่ได้ แบบนี้หรือเปล่าคะ เช่น น้ำในแก้ว ที่ ต้องเททิ้งให้หมดไม่ไห้เหลือ เลย เพราะ ถ้าเหลือ น้ำใหม่ที่เทไส่ ก็จะยังมีส่วนผสมของน้ำเก่าอยู่ ดังนั้น คำว่า ใหม่จริงๆ ก็คือ ต้องไม่เจือปน ของเก่า ไงคะ

ท่านจะเรียกว่ามิติ หรือ ความเข้าใจ หรือพลังเก่า พลังใหม่ หรือ อดีต ปัจจุบัน อนาคต ก็ ว่ากันไปค่ะ เรื่องเดียวกัน แต่ เข้าใจและมุมมอง ที่รู้ ต่างกัน ยังไม่ รวมเป็นเรื่องเดียวกัน เท่านั้นเอง หรือเปล่าคะ

 

ปัญญา ที่มี ไม่ได้หมายถึง หนังสือ หรือ ตำรา หรือ สิ่งของมีค่า ที่ ต้อง พก ตัดตัว แบก สะพาย ไปด้วยนะครับ

ปัญญาคือ รู้ แล้ว อ่านแล้ว เข้าใจแล้ว วางหนังสือ วางตำราทิ้งไป เลย นะคะ

จะเก็บจะถือ จะแบก เอา ตำราหนังสือ สิ่งของ มาเพื่อ ยืนยันว่าตนเอง รู้แล้ว แบบนี้
คงจะพก จะแบก จะเอาติดตัว ไม่หมดหรอกค่ะ เยอะแยะมากไปนะคะ

เอาแค่ รู้ เก็บไว้ ก็พอนะคะ สิ่งไหน ไม่ควรรู้ ก็ ไม่ต้องรู้นะคะ ง่ายดีค่ะ

 

ผมนี่ละอัจฉริยะที่ไอสไตย์ยังชิดซ้าย สตีเฟนฮอคคิ้งยังชิดขวา แต่โดนสกัดดาวรุ่งซะก่อน
ไม่งั้นได้เห็นเครื่อง THE MATTRIX ไปแล้ว GOD คงไม่ต้องการเห็นเจ้าเครื่องนี้ใช่มั้ยครับ
ถึงทำแบบนี้กับผม ผมรู้ว่ามันคือเครื่องสร้างกิเลสที่หนาแน่นมาก ผมเข้าใจและให้อภัยกับทุกคนหมดแล้ว

 

การตัดสิน จะเป็นวิธีของมัจจุราชมาร
แต่การผ่านมิติ จะเป็นวิธีของเซียนนาจา
(เฉพาะปางที่ได้ห่วงทอง ๑ ห่วงครับ)

 

ก็ ตอนเริ่มต้นนั้น เส้นทาง ใครเส้นทางมัน จุดเริ่มต้นของใครของมันนี่คะ

แต่ พอไกล้จะเข้าถึงเป้าหมาย เป้าหมายนั้น มันอันเดียวกัน มันก็เลยดูเหมือน จะมารวมกัน กระจุกกัน แน่น เลย เหมือน ตันไงคะ

แต่ที่จริง ก็แค่ การเดินทาง ไหล้ สิ้นสุดแล้ว นั่นเองค่ะ แต่ที่พูดคือ ยังไม่สิ้นสุดนะคะ แค่ มา รวมกัน ที่ ที่ไกล้จะถึงเป้าหมาย เท่านั้นเองค่ะ

 

อาจเป็นพระประสงค์เริ่มต้นแต่ครั้งเริ่มสร้าง
ก็ได้มังครับ ที่สร้างให้ทุกตัวตนสามารถเลือก
ลองผิด ลองถูก ตามวิถีของตนเองได้ ถ้าเป็น
เช่นนั้น เราควรเชื่อใจในพระเจ้าที่สร้างตัวตน
แต่ละตัวให้สามารถเลือกลองผิด ลองถูกได้
เช่นกันครับ นั่นคือ เป็นธรรมดา ไม่ใช่เรื่องที่
ร้ายแรงอะไร (สำหรับการลองผิด ของผู้คน)

 

ไม่มีใคร สกัดคุณหรอกค่ะ แต่เป็นการ รักษา ความปลอดภัยของคุณ ไงคะ
เพราะ เครื่องที่ว่านี้ ตอนนี้ คนในโลก ยัง ไม่พร้อมไงคะ คนในโลก มีแต่ ความโลภ อยู่ ถ้าเขารู้ ว่า คุณทำได้ คนที่มีแต่ความโลก พวกนั้น มิมา รุมทึ้ง จากคุณหรือคะ คุณไม่คิด มุมนี้หรอกหรือคะ

ให้ พร้อม เมือ่ไหร่ คุณก็จะได้สร้าง แหล่ะค่ะ

 

ที่ท่านพูดมา เหมือน ตัวตนจะต่างกันโดยสิ้นเชิง
แต่มันคือ ระดับปัญญา ของแต่ละ เจตสิก ที่ มัน รู้ หลายเรื่อง ซึ่งแต่ละเรื่อง มันแยกกัน เดินปัญญา ของมันเอง (บทบาทที่ต่างกัน) จากผู้กำกับ คนเดียว คือ
ตัวเราเอง ไงคะ ว่า จะ วางเรื่องไหนได้บ้างหรือยัง จะจบ จะอวสาน เรื่องไหนได้บ้าง เพื่อจะได้ ลด เรื่องราว ใน หัว ออกไปได้ น่ะค่ะ

เรื่องราวทั้งหลาย มันอยู่

 

กรณีนี้ จะเกิดเฉพาะตัวตนที่มาจากแหล่งเดียวกันครับ
ไม่มีปัญหาการเสียบแทนกัน ของตัวตนที่ไม่ใช่ตัวตน
ที่มาจากแหล่งเดียวกันครับ เช่น ตัวตนของศรีอาร์ฯ
ถ้าปรากฏสองตัวตนเมื่อไร ก็ต้องเหลือ ๑ ตัวตนที่ทำ
หน้าที่ตำแหน่งนั้นๆ อีกตัวตนหนึ่งก็ต้องไปทำกิจอื่นๆ
ซึ่งสิ่งนี้ ไม่กระทบตัวตนที่ไม่ใช่อณูของศรีอาร์ฯ ครับ

 

จากที่ท่านพูดมา พระประสงค์ คือ ให้เชื่อ ตัวเอง ไช่หรือเปล่าคะ
เป็นเรื่องธรรมดา ที่ มีกฏแห่งกรรม เป็น ผู้ กำกับ ไงคะ
ลองผิดได้ แต่ก็ มีกรรมที่ลองผิดให้รับ ไงคะ
ลองถูกได้ ก็จะรู้ว่า ผลของการลองถูก ต่างจาก การลองผิด เป็นเช่นไร ไงคะ

ทั้งหมด ไม่ได้ให้มนุษย์เรา เรียกร้อง เอาความยุติธรรม จาก นรก สวรรค์ หรือ พระเจ้า หรือ พระพุทธเจ้า หรือ เทพเทวดา หรอกค่ะ

เพราะ เราทำอะไรไว้ ที่เราได้ เราเจอ ล้วนแล้วแต่ เป็นเพราะ เรา เคยทำเอาไว้ ต่างหาก ไช่มั้ยคะ

 

ท่านพี่ทำได้..ข้าน้อยคารวะ 10 จอก..55