ฤาษีโยคีลึกลับที่ภูเขาหิมาลัย

piyaa · 14 ตุลาคม 2012

ท่านผู้อ่านจำได้ไหม? บทความสุดท้ายของเรื่อง ความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปหินสีดำข้ามประเทศ ที่ผู้เขียนบอกว่า อยากไปกราบพระพุทธรูปหินสีดำอีกครั้งถ้ามีโอกาส และในครั้งนี้อาจจะมีท่านผู้อ่านคนหนึ่งร่วมเดินทางไปกับผู้เขียนก็ได้ใครจะรู้
บทความที่พูดถึงก็เป็นเพียงแค่ความคิด ในความเป็นจริงของผู้เขียน ช่วงนี้ยังไม่มีความพร้อมที่จะเดินทางออกนอกประเทศ ความไม่แน่นอนย่อมเกิดขึ้นได้ในโลกใบนี้
วันหนึ่งกลางเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ. ๒๕๔๕ พี่วรรณได้มาพบผู้เขียนที่บ้าน พี่วรรณคนนี้คือ คนที่จัดไปอินเดียที่ผู้เขียนเคยร่วมเดินทางไปด้วยมาแล้วสองครั้ง เมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมา ไปอินเดียกับพี่วรรณได้ไหว้พระนั่งสมาธิและทำบุญบริจาคทานได้จุใจมาก เพราะพี่วรรณเป็นผู้มีจิตศรัทธา และเคารพเลื่อมใสในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า มีความเพียรวิริยะอุตสาหะในการปฏิบัติธรรมภาวนานั่งสมาธิมากคนหนึ่ง
พี่วรรณกับผู้เขียนคุยกันด้วยเรื่องสัพเพเหระต่างๆ ชั่วครู่ใหญ่ผู้เขียนก็เกิดอาการจิตรวมลงอย่างแรง พี่วรรณเห็นอาการก็รู้ได้ทันทีว่าผู้เขียนจิตรวมลงจึงรีบป้อนคำถามว่า ตอนนี้สัมผัสเห็นอะไรบ้างไหม ขณะนั้นจิตผู้เขียนกำลังมองเห็นภาพฤาษีโยคีท่านหนึ่ง มีรูปร่างสูงใหญ่มากแม้ว่าจะอยู่ในท่านั่งสมาธิ ความสูงของฤาษีโยคีท่านนั้นโดยประมาณสองเมตรห้าสิบน่าจะได้ ถ้าหากยืนคงสูงมาก ผม หนวด คิ้ว เครา ขาวโพลนเป็นประกาย ใบหน้าเปล่งปลั่ง ดวงตาออกไปทางสีน้ำตาลคล้ายสีเหล็ก ส่วนรวมโครงหน้าไม่สามารถบอกได้ชัดเจน เพราะผม คิ้ว หนวด เครา ที่ยาวปกคลุมไว้ ผู้เขียนพยายามมองก็เห็นแค่จมูกที่โด่งมากและพวงแก้ม ส่วนริมฝีปากถูกหนวดปกคลุมไว้ ทำให้บอกไม่ได้ว่ามีรูปลักษณะอย่างไร สิ่งที่ทรงพลังและทำให้จิตอ่อนยวบลงทันทีคือดวงตาที่แข็งแกร่งสีเหล็กคู่นั้น รูปร่างของท่านสมส่วนไม่มีไขมันพอกพูนออกมาให้เห็น การแต่งกายก็เหมือนฤาษีโยคีทั่วไป
ผู้เขียนจึงบรรยายรูปร่างหน้าตาของฤาษีลึกลับที่มาปรากฏให้เห็น ให้พี่วรรณฟัง พี่วรรณรีบป้อนคำถามต่อทันที
“ท่านเป็นใคร? อยู่ที่ไหน? และต้องการอะไร?”

ยังมีต่อครับ ถ้าสนใจจะโพสต์จนจบ

ได้รับอนุญาตจากเพจ วารุณี สวัสดิภักดิ์ | Facebook

จากหนังสือ มิติซ้อนมิติเล่ม1

piyaa · 13 ตุลาคม 2012

ใคร ที่สั่งจองไว้ เตรียมรอรับหนังสือได้เลยครับ... และใครที่ต้องการติดต่อสั่งซื้อได้ที่ สำนักพิมพ์ช่อแก้ว คุณเสาวนีย์ สวัสดิภักดิ์ 086 3247404

piyaa · 13 ตุลาคม 2012

ฤาษีลึกลับท่านนั้นได้ตอบว่า
“อยู่ที่ภูเขาหิมาลัย”
ก่อนท่านจะหายไปได้บอกว่า
“ถึงเวลาแล้วเราจะได้พบกัน…ถ้าตั้งใจ”
พอจิตถอนพี่วรรณกับผู้เขียนได้คุยกันต่อเรื่องฤาษีลึกลับท่านนั้น แต่ไม่ค่อยได้เรื่องนัก เพราะเราต่างไม่เคยมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องฤาษีโยคีมาก่อน ทั้งที่เราเคยไปอินเดียและเคยเห็นฤาษีโยคีมาบ้างแล้ว ถ้าถามว่ามีความรู้สึกอย่างไรกับนักบวชเหล่านั้นบ้าง บอกได้เลยว่าไม่สนใจ ทั้งไม่เคยรู้ว่าเขาฝึกสมาธิบำเพ็ญตะบะให้แก่กล้า ผลที่เขาได้รับเมื่อปฏิบัติจนถึงขั้นสูงสุด เขาได้อะไรเป็นสิ่งตอบแทนในความเพียรพยายามของเขา
ผู้เขียนไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า จะต้องมาเกี่ยวข้องกับนักบวชเหล่านี้ แต่เมื่อฤาษีโยคีลึกลับมาปรากฏให้เห็นและบอกว่า
“เราจะได้พบกันถ้าตั้งใจ”
จึงถามกับตนเองว่า ทำไม? เพื่ออะไร? เราจึงจะต้องพบกัน
เราสองคนมาลองสมมุติกันเล่นๆว่า ถ้าเราอยากพิสูจน์ความจริงดั้นด้นไปภูเขาหิมาลัย เราจะได้พบกับฤาษีโยคีลึกลับที่มาปรากฏให้เห็นในสมาธิไหม และถ้าเราไปภูเขาหิมาลัยเราจะไปกันได้อย่างไร ถ้าหากให้ไปกับคณะทัวร์เราคงไม่ไป เพราะทุกครั้งที่พวกเราไปอินเดียจะหนักไปทางนั่งสมาธิภาวนาให้มากที่สุด ไม่เคยคิดไปเที่ยวหรืออยากชอปปิ้ง ไปกับคณะทัวร์จึงไม่สดวกและไม่เหมาะกับเรา แต่ถ้าไม่ไปกับคณะทัวร์ แล้วใครจะเป็นคนพาเราไปและจะไปพักที่ไหน มีเพียงท่านเดียวที่เราไว้ใจ ไปกับท่านแล้วรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย คือ หลวงพ่อ ดร.วิเวก ที่เคยพาพวกเราไปอินเดียมาแล้วสองครั้งเมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมา ปัญหาก็คือ หลวงพ่อ ดร.วิเวก ท่านจำพรรษาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ละปีท่านจะกลับมาเมืองไทยเฉพาะช่วงออกพรรษา เพื่อพาญาติโยมที่ได้นิมนต์ท่านไว้ ให้เป็นผู้นำพาไปอินเดียปีละหลายคณะ ถ้าหากเราจะติดตามคณะของท่านไปก็คงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะทางที่ท่านนำพาญาติโยมไปกราบปูชนียสถานทั้งสี่แห่ง กับภูเขาหิมาลัยไม่ได้ไปทางเดียวกันหรือเป็นทางผ่าน คงเป็นไปไม่ได้ที่ผู้นำทางที่เราไว้ใจจะเป็นหลวงพ่อ ดร.วิเวก

ยังมีต่อครับ

John Lee · 14 ตุลาคม 2012

บริเวณเทือกเขาหิมาลัย ยังเป็นดินแดนอัศจรรย์อยู่
พม่าก็เช่นเดียวกัน ในป่าพม่ารกทึบไร้การสำรวจ ยังมีคนเล่าถึงเรื่อง พวกนารีผล, ผลกระจู๋(อวัยวะเพศชาย ที่มีพวงสวรรค์ครบด้วย) ป่าพม่าและลาวที่ยังรกทึบชัฏ ยังเป็นแหล่งรวมสิ่งมหัศจรรย์ราวกับจำลองป่าหิมพานต์มาบางส่วน

ป่าหิมพานต์เป็นแหล่งรวมกรรมสารพันของเหล่าสรรพสัตว์สิ่งมีชีวิตที่เป็นทิพย์
ซึ่งดวงตาของเหล่ามนุษย์ฝ่ายมืด กึ่งมึด-กึ่งสว่าง และกลุ่มกรรมนอกพระพุทธศาสนา เกือบทั้งหมดจะไม่สามารถเห็นพวกสรรพสัตว์พวกนี้ได้ พวกเขาถูกปิดอยู่

เช่น ถ้ามองออกมาก็จะเห็นเป็นอวกาศกว้างๆ แต่ไม่สามารถเห็นน้ำ, ป่า, สิ่งมีชีวิต และ เทือกเขาพระสุเมรุ อันมหึมาได้

สรุป ก็คือ ป่าหิมพานต์และเทือกเขาพระสุเมรุ ถ้ามีคนเห็นได้ ก็จะเริ่มหันเข้ามาศึกษากันมากขึ้นได้ เป็นแหล่งชีวิตหลากพันธุ์จากกรรมสารพัน ในพระพุทธศาสนา ถูกรวมอยู่ที่นี่

ถ้าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ดับสูญ จักรวาลก็ดับ ทีนี่เปรียบแหล่งจ่ายพลังงานมหาศาลที่หล่อเลี้ยงจักรวาลอยู่

เวลาที่เราเอาตาทิพย์ระดับองค์พระเจ้าท่าน มองดู ใครๆ สิ่งมีชีวิตใดก็ตาม ท่านจะไม่ได้เห็นเป็น แขน ขา ตัว หัว ท่านฯจะมองเห็นเป็นแสง(หลากหลายกรรมรวมอยู่ในตัวสิ่งมีชีวิตนั้น) เวลาเรามนุษย์ตาย เราก็ทิ้งกาย กายเราที่แตกสลาย กลับเป็นดินเช่นเดิม
พวกสิ่งมีชีวิตทิพย์ เวลาพวกเขาตาย มันก็หายวับ ! เท่านั้นเอง

เงิน ทอง แร่ธาตุ มีเกิดขึ้นเยอะแยะตามกาล กรรมและเวลาที่เปลี่ยนไป ซึ่งในป่าเขาพวกนี้ที่ยังถูกซ่อนเอาไว้ แต่ว่าเอาขึ้นมาไม่ได้ พวกเขาหวง ยกเว้นว่าฝ่ายมารตีแตก ก็เอาไป .. มันก็โผล่ขึ้นมาเอง ใครอยากได้ก็เอาไป

เทือกเขาทิเบต ยังมีอะไรต่างๆ เป็นรูปธรรมชั้นสูงทางพลังงานจิต ซ่อนอยู่ในภูเขาหินนั้น ฝังอยู่ในภูเขาหิน ไม่อยากออกมาข้างนอก พวกเขารักษาตนเองได้ แต่ช่วยเราไม่ได้ เราเองที่ต้องช่วยเหลือกันเอง

(โทษทีไม่มีอาจารย์ มีแต่พระพุทธาจารย์ ก็อ่านเองคิดเองล่ะครับ)

piyaa · 14 ตุลาคม 2012

ในเมื่อสิ่งที่เราสมมุติกันเล่นๆ ไม่มีทางเป็นจริงไปได้ เราจึงเปลี่ยนมาคุยกันต่อถึงเรื่องฤาษีโยคีอีกครั้ง ว่าแนวปฏิบัติของเขาไปทางไหน พี่วรรณนึกขึ้นมาได้ว่า ช่วงนี้หลวงพ่อ ดร. วิเวก กำลังอยู่ในประเทศไทย พี่วรรณเลยโทรศัพท์ไปที่วัดพลับพลา ที่ท่านเคยมาพักเป็นประจำเวลากลับมาเมืองไทย ท่านเจ้าอาวาสรับสายบอกว่า หลวงพ่อ ดร.วิเวก จะเดินทางกลับมาเมืองไทยในอีกสองสามวันข้างหน้า ท่านเจ้าอาวาสถามว่าจะให้บอกกับท่านว่าเรามีธุระอะไร เมื่อท่านมาถึงเมืองไทยจะบอกให้ พี่วรรณบอกว่า อยากถามเรื่องฤาษีโยคีที่อินเดีย และอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางไปภูเขาหิมาลัย ท่านเจ้าอาวาสบอกว่า หลวงพ่อ ดร.วิเวก เคยพูดกับท่านว่า อยากไปนั่งสมาธิที่ภูเขาหิมาลัย ท่านทั้งสองเคยไปมาแล้วครั้งหนึ่งและยังอยากไปอีกสักครั้ง แม้ไม่มีใครไปก็จะไปกันเพียงสององค์ ท่านยังบอกว่า อากาศดีมาก สัปปายะก็ดี ที่นั่นนั่งสมาธิดีมาก ท่านเจ้าอาวาสจึงรับเรื่องไว้ แต่ท่านก็ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับฤาษีโยคี เพราะท่านมีประสบการณ์น้อยกว่า หลวงพ่อ ดร.วิเวกเรียนจบที่นั่นและใช้ชีวิตคลุกคลีกับชาวอินเดีย เหมือนกับว่าอินเดียคือบ้านที่สองของท่านอีกแห่งหนึ่ง
สามวันต่อมาพี่วรรณก็ได้รับโทรศัพท์จากหลวงพ่อ ดร.วิเวก ท่านโทรฯมาทันทีที่ท่านเจ้าอาวาสบอกเรื่องของเรา ท่านบอกให้เราไปพบท่าน เราจึงไปพบท่านที่วัดพลับพลา พอไปถึงก็พบท่านคอยเราอยู่แล้ว เราทำความเคารพท่าน ท่านจำผู้เขียนได้ก็ทักทายถามทุกข์สุขว่าเป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้ทำอะไร ผู้เขียนจึงกราบเรียนท่านว่า ตอนนี้กำลังเขียนหนังสือเกี่ยวกับ เรื่องลึกลับแปลกประหลาดอิงธรรมะออกขาย จากนั้น พี่วรรณได้เล่าให้ท่านฟังว่า ได้มีฤาษีโยคีมาปรากฏให้เห็น พวกเราไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ จึงได้มารบกวนขอให้หลวงพ่อ ช่วยอธิบายเรื่องของฤาษีโยคีให้เข้าใจด้วย เพราะท่านเคยอยู่คลุกคลีกับชาวอินเดียมานาน
ขณะที่กำลังเริ่มต้นคุยยังไม่ได้ใจความมากนัก ก็มีโทรศัพท์เข้ามาถึงหลวงพ่อ ดร.วิเวก เพราะท่านต้องนำคณะญาติโยมเดินทางไปอินเดียวันรุ่งขึ้น ระหว่างที่รอท่านพูดโทรศัพท์ พวกเราจึงสนทนากับท่านเจ้าอาวาสเกี่ยวกับสถานที่ต่างๆที่ภูเขาหิมาลัย ที่ท่านเคยไปมาเมื่อครั้งก่อน จู่ๆ ผู้เขียนก็มองเห็นฤาษีโยคีท่านหนึ่งลอยตัวอยู่เบื้องหลังท่านเจ้าอาวาสในท่านั่งสมาธิ แต่งกายด้วยผ้าสีขาวไม่ใส่เสื้อ ใช้ผ้าขาวคลุมหัวปล่อยชายตรงลงมา ฤาษีโยคีท่านนี้รูปร่างไม่ใหญ่โตเหมือนท่านแรก เท่าที่มองเห็นจิตบอกว่า ฤาษีโยคีท่านนี้เป็นคนในยุคนี้ มากกว่าจะเป็นผู้ที่อยู่ในสภาวะอาทิสมานกาย(กายทิพย์หรือกายละเอียด) เหมือนท่านแรก ผู้เขียนจึงบอกเล่าให้พี่วรรณกับสามีฟังว่า

ยังมีต่อนะครับ ถ้าอยากอ่านจะโพสต์ต่อ

เดินดง · 14 ตุลาคม 2012

รออ่านอยู่ค่ะ ขอบคุณค่ะ

nuilovemom · 14 ตุลาคม 2012

อยากอ่านต่อค่ะ ช่วยเล่าต่อด้วยนะค่ะ

piyaa · 14 ตุลาคม 2012

ภาพจากแก๊งค์ดีดอทคอม

เห็นฤาษีโยคีรูปร่างลักษณะดังที่กล่าวมาอีกหนึ่งท่าน ท่านเจ้าอาวาสได้ยินก็ทำหน้าสงสัยว่า พวกเราพูดกันถึงเรื่องอะไร เพราะท่านไม่เคยรู้จักผู้เขียนมาก่อน พี่วรรณจึงอธิบายให้ท่านเข้าใจว่า ผู้เขียนเป็นคนนั่งสมาธิ และบางครั้งจิตสามารถสัมผัสสิ่งที่ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าในบางเรื่อง และตอนนี้ผู้เขียนมองเห็นฤาษีโยคีท่านหนึ่งลอยตัวอยู่เบื้องหลังท่าน ท่านเจ้าอาวาสก็ยังแคลงใจว่าเห็นจริงหรือเปล่า พี่วรรณจึงถามท่านว่า อาศรมที่ท่านเคยไปพัก เมื่อครั้งที่เดินทางไปที่ภูเขาหิมาลัยมีฤาษีโยคีกี่ท่าน ท่านเจ้าอาวาสบอกว่ามีท่านเดียว ชื่อฤาษีพริม พี่วรรณจึงบอกลักษณะหน้าตาของฤาษีที่ลอยอยู่ข้างหลังท่านให้ฟังว่า มีรูปร่างหน้าตาอย่างไร และฤาษีท่านนี้ที่อาศรมที่ท่านเคยไปพักมีไหม ท่านเจ้าอาวาสบอกว่า ตามที่บอกมานั้นตรงกับฤาษีพริม
พอพี่วรรณรู้ว่าฤาษีท่านที่มาปรากฏให้เห็นยังมีชีวิตอยู่ พี่วรรณจึงให้ผู้เขียนสื่อจิตถามว่า ท่านต้องการอะไร ท่านฤาษีจึงชี้ไปที่พี่วรรณแล้วพูดว่า ตรงกลางหัวดำ เกี่ยวกับเรื่องนี้ผู้เขียนเคยเห็นและทักพี่วรรณมาก่อน คิดว่าคงจะมีโรคเกี่ยวกับหัวสักอย่าง ฤาษีท่านนี้ก็บอกกับผู้เขียนว่า หัวพี่วรรณดำซึ่งตรงกัน ท่านบอกว่าถ้าได้พบท่านจะสอนลมปราณให้ พูดเพียงแค่นี้แล้วก็หายไป พอดีกับหลวงพ่อ ดร.วิเวก พูดธุระเสร็จและเดินกลับมานั่งคุยกับพวกเราต่อ
พี่วรรณได้กราบเรียนท่านว่ามีฤาษีมาลอยตัวหลังเจ้าอาวาส และบอกว่าอยู่ที่ภูเขาหิมาลัย ท่านฤาษีบอกว่าถ้าได้พบกันจะสอนลมปราณให้ เพราะว่าพี่วรรณหัวดำ ซึ่งพวกเราก็ไม่เข้าใจที่ท่านบอก หลวงพ่อ ดร.วิเวก จึงอธิบายให้ฟังว่า ลมปราณก็เปรียบเหมือนกับงูที่เลื้อยไปทั่วร่างกาย งูนั้นหัวจะดำแต่ถ้าสามารถฝึกจนหัวขาว ก็ถือว่าดีมาก เมื่อฤาษีบอกว่าพบกันจะสอนลมปราณให้ ซึ่งท่านก็เคยฝึกมาบ้างแล้วเมื่อไปครั้งก่อน ท่านบอกว่าโยมควรไป และท่านจะเป็นคนพาพวกเราไปเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงเลยว่า ท่านจะออกปากชวนนำพาพวกเราไป เพราะเราได้สมมุติกันเล่นๆว่า ถ้าหากจะให้ท่านพาไปคงเป็นไปไม่ได้ แต่นี่ท่านกับจะเป็นผู้นำเราไป โดยที่พวกเรายังไม่ได้ออกปากบอกท่าน เราต่างรู้สึกว่ามันเป็นแบบนี้ได้อย่างไร พี่วรรณเลยตัดสินใจเดี๋ยวนั้นว่าต้องรับ เพราะท่านได้เมตตาพวกเราแล้ว เราก็ยังมีปัญหาเรื่องปัจจัยค่าใช้จ่าย เพราะถ้าหากพวกเราไปกันน้อย ค่ารถที่เดินทางไม่มีคนช่วยแชร์คงจะหนัก จึงขอทบทวนอีกครั้งแล้วจะมาเรียนให้ท่านทราบ
อีกสองวันต่อมา ผู้เขียนกับพี่วรรณได้นัดกันว่า

ยังมีต่อครับ จะลงให้จนจบถ้ายังสนใจอยู่นะครับ

manfullza · 14 ตุลาคม 2012

ข้อมูลดีๆ ปนโฆษณานิดๆ มีประโยชน์ หน่อยๆ ขอบคุณมากๆครับ

piyaa · 14 ตุลาคม 2012

ปรัชญาไทย said: ↑

ข้อมูลดีๆ ปนโฆษณานิดๆ มีประโยชน์ หน่อยๆ ขอบคุณมากๆครับ
Click to expand...

รายได้จากการขายหนังสือเข้าสถานปฏิบัติธรรมทั้งหมดครับ เป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง แจกทาน ถมสระ และอาหารการกินของผู้มาปฏิบัติธรรมครับ

John Lee · 14 ตุลาคม 2012

ลงไปเรื่อยๆเลยครับ บุญกุศลเป็นของผู้กระทำ
อนุโมทนาสาธุ

John Lee · 14 ตุลาคม 2012

โลกเรานี้ แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะหลัก
1. โลกหยาบ หรือ โลกวัตถุ (Material world)
2. โลกละเอียด หรือ โลกวิญญาณ (Fine World หรือ Spiritual world)

ประเด็นก็คือ สิ่งใดที่ปรากฏขึ้นจากพลังงาน Fine world ดิ่งลงมาเป็นชั้นๆที่โลกหยาบ Material world -> สิ่งนั้น หรือ พลังงานนั้น ก็จะถูกพิจารณาว่า เป็นสมบัติ(Treasure) ของโลกหยาบด้วย (ตรงนี้สำคัญ ท่านผู้อ่านลองช่วยกันทำความศึกษาต่อไปเอง)

ตัวอย่าง..เช่น มียักษ์ 2 ตน คิดถึงลูกชายตนที่เป็นมนุษย์เมื่อยังตกลำบากอยู่ ก็ลงมาในบอกลักษณะเชิงความฝันว่า พ่อ-แม่ นำสมบัติมาให้เจ้าแล้วนะ 10 หีบ + 1 ยานพาหนะ(ราชรถ)

ของจริงที่ ลูกชาย จะได้รับคือ เงิน ทรัพย์สิน จากช่องทางทำมาหากินที่ดีขึ้น + รถ อีก 2-3 คัน

นี่คือกรณีที่กรรมลดคลายตัวลงมาแล้วจึงทำให้
1. พ่อ-แม่ คู่ยักษ์คิดที่จะนำสมบัติมาให้
2. บุญจากการทำบุญกรรมเก่าเปิดตัว และกรรมลด

manfullza · 14 ตุลาคม 2012

piyaa said: ↑

รายได้จากการขายหนังสือเข้าสถานปฏิบัติธรรมทั้งหมดครับ เป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง แจกทาน ถมสระ และอาหารการกินของผู้มาปฏิบัติธรรมครับ
Click to expand...

อนุโมทนาครับ ดีมากๆเลย

piyaa · 14 ตุลาคม 2012

อีกสองวันต่อมา ผู้เขียนกับพี่วรรณได้นัดกันว่า ตอนค่ำจะไปกราบเรียนท่านว่าจะเอาอย่างไร ตอนกลางวันขณะที่ผู้เขียนกำลังตรวจต้นฉบับหนังสือเล่มนี้ ใจจดจ่ออยู่กับต้นฉบับเล่มนี้ รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างเป็นเงาที่หางตาจึงเงยหน้าขึ้นมอง ก็ไม่เห็นอะไรเลยถือโอกาสพักสายตา หลับตานิ่งๆก็เห็นภาพฤาษีโยคีอีกท่าน เป็นท่านที่สามนั่งสมาธิบนหิมะ ผมดำ หนวดเคราสีดำ นุ่งห่มผ้าเหลืองเห็นแค่แวบเดียวก็หายไป ในใจก็นึกรำคาญว่า ฤาษีโยคีมาจากไหนกันเยอะแยะไปหมด สงสัยต้องคอยระวังจิตให้มาก และเริ่มไม่แน่ใจว่า สิ่งที่มองเห็นจะเป็นเรื่องจริง คิดว่าครั้งนี้คงเป็นอุปทานแน่
พอสองทุ่มพวกเราก็เดินทางไปวัดพลับพลา ระหว่างทางก็ได้เล่าเรื่องฤาษีโยคีท่านที่สามให้พี่วรรณกับสามีฟัง พอถึงวัดได้พบเจ้าอาวาสพี่วรรณก็เรียนถามท่านว่า
“ฤาษีที่อาศรมใส่ชุดสีอะไร เหลืองหรือขาวเจ้าคะ!”
ท่านก็ตอบว่า
“ใส่ชุดเหลือง”
พี่วรรณก็เอะใจ เพราะครั้งที่แล้วท่านบอกว่าใส่ชุดขาว ทำไมวันนี้จึงกลายเป็นชุดเหลือง พี่วรรณจึงถามย้ำให้แน่ใจว่า
“ชุดเหลืองหรือขาวกันแน่เจ้าคะ!”
ท่านก็ตอบว่า
“เหลือง..ขาว..”
พี่วรรณก็ถามใหม่ว่า
“เอาให้แน่เลยเจ้าคะ! ท่าน”
ท่านก็ตอบว่า

เดินดง · 15 ตุลาคม 2012

มาต่อไวๆนะคะรออ่านค่ะ เรื่องหนังสือ อยากได้มากค่ะ เพราะได้ทำบุญด้วย แต่อยู่บาหลีค่ะ คงจะให้เพี่อนในไทยซื้อส่งมาให้ อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

piyaa · 15 ตุลาคม 2012

[FONT=&quot]
[/FONT]ใคร ที่สั่งจองไว้ เตรียมรอรับหนังสือได้เลยครับ ... และใครที่ต้องการติดต่อสั่งซื้อได้ที่ สำนักพิมพ์ช่อแก้ว คุณเสาวนีย์ สวัสดิภักดิ์ 086 3247404

รายได้ทุกบาทเข้าสถานปฏิบัติธรรมภวันตุเตทั้งหมดเพื่อก่อสร้าง บริจาคทานและอาหารการกินของผู้มาปฏิบัติธรรมครับ สาธุอนุโมทนากับท่านทั้งหลายด้วยครับ
[FONT=&quot]
[/FONT]
[FONT=&quot]
[/FONT]

piyaa · 15 ตุลาคม 2012

[FONT=&quot]
[/FONT]
[FONT=&quot]
[/FONT]
[FONT=&quot]
[/FONT]

ขอบคุณภาพเทือกเขาหิมาลัยจาก : http://www.gotogethertravel.com
[FONT=&quot]
[/FONT]
[FONT=&quot]“มีสองท่าน ใส่เหลืองท่านหนึ่ง ใส่ขาวท่านหนึ่ง ครั้งก่อนท่านนั้นลืมไปว่าฤาษีมีสองท่าน จำได้แต่ว่ามี ฤาษีพริม ท่านเดียว แต่เมื่อโยมย้ำสีเหลืองอาตมาจึงจำได้ว่า มีอีกท่านหนึ่งชื่อ ฤาษีสยาม”[/FONT]
พี่วรรณจึงบอกลักษณะรูปร่างหน้าตาฤาษีท่านที่สาม ที่ผู้เขียนเห็นเมื่อตอนกลางวันให้ท่านฟังว่า ตรงกันกับฤาษีสยามหรือไม่ ท่านเจ้าอาวาสก็บอกว่า ใช่ตรงกันเลย ผู้เขียนกับพี่วรรณก็เลยอึ้ง! และคิดว่าฤาษีโยคีทั้งสองท่านนี้คงไม่ธรรมดา เพราะสามารถปรากฏให้เห็นทางนิมิตก่อนได้เห็นตัวจริงได้ ซึ่งแปลกมาก จากนั้นพวกเราก็กำหนดวันว่า จะไปภูเขาหิมาลัยกัน วันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๔๖ เสร็จธุระแล้วก็ลาท่านเดินทางกลับ
เมื่อมีเหตุให้ต้องเดินทางไปอินเดีย ผู้เขียนจึงไปพบแพทย์ที่เคยรักษาตัว เพราะมีโรคเกี่ยวกับไทรอยด์และความดันโลหิต เพื่อขอคำแนะนำในเรื่องการดูแลสุขภาพก่อนถึงกำหนดเดินทางไปอินเดีย พอแพทย์ทราบว่าผู้เขียนจะเดินทางไปภูเขาหิมาลัยก็เอ่ยปากคัดค้านทันทีว่า สุขภาพแบบนี้ไม่ควรไป เพราะความกดอากาศแถวเทือกเขาหิมาลัย เป็นอันตรายต่อโรคความดันโลหิตสูงที่ผู้เขียนกำลังเป็นอยู่ ผู้เขียนก็คิดชั่งใจว่า ถ้าหากเกิดไปเสียชีวิตที่ภูเขาหิมาลัย ก็ขอให้เผาศพที่นั่นได้เลย เถ้ากระดูกให้ลอยลงแม่น้ำคงคา ห้ามนำศพกลับมา เพื่อที่คนที่อยู่ข้างหลังจะได้ไม่ต้องวุ่นวายจัดพิธีงานศพให้
พอข่าวเริ่มกระจายก็มีคนขอติดตามไปด้วยซึ่งเราก็เต็มใจ ไม่ว่าคนๆ นั้นจะเป็นใคร ขอเพียงให้ดูแลตนเองได้อย่าเป็นภาระของผู้ร่วมเดินทาง เพราะทุกคนที่ไปหวังจะนั่งสมาธิกันทุกคน โดยที่ไม่ต้องคอยมาห่วงกังวล ตอนนี้มีผู้ที่จะร่วมเดินทางไปด้วยทั้งหมดสิบคนแล้ว
หลวงพ่อ ดร.วิเวก นำญาติโยมไปอินเดียหลังจากที่คุยกับพวกเรา ท่านได้ไปสืบถามและหาข้อมูลว่า ช่วงเดือนเมษายนนี้ถ้าเราเดินทางไปจะมีปัญหาอะไรบ้าง ก็ได้ข้อมูลมาว่าทางการจะเปิดให้ขึ้นไปบนภูเขาหิมาลัยได้ ประมาณวันที่ ๖ พฤษภาคม แต่เดือนพฤษภาคมทางพวกเราคงไปกันไม่ได้ เพราะวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ตรงกับวันครบรอบวันมรณะภาพของท่านพ่อครูบาอาจารย์ของพวกเรา ที่ต้องจัดเป็นประจำทุกปีในวันที่ ๑๓–๑๔ พฤษภาคม จึงได้กำหนดวันเดินทางกันใหม่เป็นวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๔๖ แน่นอน

ยังมีต่อครับ

พิทย · 16 ตุลาคม 2012

ขอบคุณมากครับ. น่าติดตามมาก

John Lee · 16 ตุลาคม 2012

ภาพหลังคาโลกสวยมากครับ

นักพรตฤๅษีนี่เป็นกลุ่มที่สูงมากว่ากันตามหลักพระพุทธศาสนา การทำบุญ(ทานบารมี)กับเหล่านักพรต และ ฤๅษี ได้อานิสงส์บุญเป็นหลายๆแสนโกฏิเท่า(หลาย ล้านล้าน เท่า)

John Lee · 16 ตุลาคม 2012

เมืองไทยไปที่หนแห่งใด ก็จะพบแต่สิ่งที่เป็นสัญลักษณ์แห่งจุดกำเนิดศาสตร์และศิลป์ในจิตของธรรมชาติ :
1. น้ำ
2. ทุ่งนา
3. วัด(จำนวนมากมีทุกหมู่บ้าน) และ พระสงฆ์วัยที่ยังหนุ่มเหลือน้อย
4. คนหาปลา และ เด็กเล่นน้ำในคลอง โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนที่ยังพรำ

ที่ไหนมีน้ำที่นั่นมีแหล่งอาหาร มีจุดเริ่มต้นแห่งชีวิตวัฏฏ์
ที่ไหนอารธรรมโบราณ และ จิตใจงามยังเหลืออยู่ ที่นั่นก็มีแหล่งเพาะบุญบารมี

พลังงานที่หาย และ ทำลายไม่ได้ก็เนื่องจากว่ามีบางสิ่งที่ พลังแสงปรกติมองไม่เห็น ดูดกลืนมันลงไป

รูปท้องนาที่ข้าวเริ่มแตกรวง มันสวยมากนะ คุณ Piyaa
(ผมไปขับรถเที่ยวมา เชิญมาเที่ยวด้วยกันไหมครับ?)

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

ฤาษีโยคีลึกลับที่ภูเขาหิมาลัย

piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

John Lee เป็นที่รู้จักกันดี

piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

เดินดง เป็นที่รู้จักกันดี

nuilovemom Active Member

piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

manfullza Active Member

piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

John Lee เป็นที่รู้จักกันดี

John Lee เป็นที่รู้จักกันดี

manfullza Active Member

piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

เดินดง เป็นที่รู้จักกันดี

piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

พิทย Active Member

John Lee เป็นที่รู้จักกันดี

John Lee เป็นที่รู้จักกันดี

ไฟล์ที่แนบมา:

paddy_field_03.jpg

แชร์หน้านี้

แชร์หน้านี้

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

ฤาษีโยคีลึกลับที่ภูเขาหิมาลัย

ไฟล์ที่แนบมา:

paddy_field_03.jpg

แชร์หน้านี้

การค้นหาที่มีประโยชน์

ติดต่อเรา