ท่านที่สวดพระคาถามหาจักรพรรดิ์ เป็นวัตร เชิงแบ่งบันความรู้ประสบการณ์ครับ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย prom20, 3 กรกฎาคม 2012.

  1. prom20

    prom20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3,086
    ค่าพลัง:
    +8,975
    ผมพูดได้คำเดียวเเบบคนใต้ว่า...สุดยอดครับพี่
     
  2. prom20

    prom20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3,086
    ค่าพลัง:
    +8,975
    ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อครับพี่...ผมก็นับถือหลวงพ่อเล็กวัท่าขนุนเป็นครูบาอาจารย์เหมือนกันครับ...ผมก็ไปรับยันต์เกราะเพชรที่นั่นครับ...แต่พักหลังนี้ไม่มีเวลาครับตั้งแต่มาทำงานที่ยะลาผมเลยรับที่บ้านครับ... พระรุ่นนี้ของพี่สุดยอดมากๆครับพิธีนี่การันตี ความศักดิ์สิทธิ์ได้เลยครับ ...
     
  3. prom20

    prom20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3,086
    ค่าพลัง:
    +8,975
    ขอบคุณครับพี่นอร์ที่มาทักทายกันครับ
     
  4. Arrowhead

    Arrowhead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    206
    ค่าพลัง:
    +638
    วันนี้ (15 ต.ค. เวลา 19.00น.) มีถ่ายทอดสดภาพและเสียงตอบปัญหาธรรมและสวดพระคาถามหาจักรพรรดิ์กับหลวงตาม้าครับ

    วัดถ้ำเมืองนะ (วัดพุทธพรหมปัญโญ) : สมเด็จองค์ปฐม หลวงปู่ทวด, หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ, หลวงตาม้า
     
  5. apichayo

    apichayo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    488
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,936
    ผมจบ ม.3 โรงเรียนชะอวดหลายปีมาแล้ว ประมาณปี 2525(ตอนนั้นมีแค่ ม.1-ม.3) แล้วย้ายไปเรียนที่โรงเรียนจังหวัดพัทลุง.. ปัจจุบัน
    ได้มาทำงานที่อิสาน เกือบยี่สิบปีแล้ว..แหล่งบริเวณภาคอิสานตอนบนมีพระปฏิบัติสายหลวงปู่มั่น หลายๆท่าน เป็นเนื้อนาบุญที่ประเสริฐ ..

    ขออนุโมทนาด้วย ที่น้องเอก หันมาปฏิบัติธรรม และมีหลวงปู่เป็นครูอาจารย์ ประเสริฐสุดแล้ว ท่านเมตตามากจริงๆ และดูแลเราทุกอย่างทั้งทางโลกและทางธรรม ต้องประสบด้วยตัวเองจึงจะทราบได้ ประสบการณ์ที่น้องเอกและเพื่อนๆสมาชิกเขียนมีประโยชน์มาก เข้าไปอ่านแล้วมีปิติในเมตตาธรรมของหลวงปู่ ..และขออนุโมทนาในผลการปฏิบัติด้วย ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป จนถึงที่สุดแห่งธรรม...สาธุครับ<!-- google_ad_section_end -->
     
  6. jacky57

    jacky57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +1,863
    กราบพระรัตนตรัย หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้าครับ แวะมาทักทายครับคุณเอก
     
  7. kwich

    kwich เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    532
    ค่าพลัง:
    +6,855
    ตอนที่ผมได้ฝากพระผงจักรพรรดิ์ ให้แม่ชีท่านถวายขอให้หลวงตาท่านอธิษฐานจิต แม่ชีท่านก็บอกแ้ล้วว่า หลวงตาท่านได้อธิษฐานผงจักรพรรดิ์ที่แจกมาให้แล้วเมื่อนำมาผสมสร้างพระ จริงๆแล้วไม่ต้องนำเข้าพิธีอีกก็ได้
    แต่เพื่อความสบายใจของผู้รับพระ เมื่อมีโอกาศผมจึงมักนำพระเข้าพิธีพุทธาภิเษก เท่าที่สามารถไปได้เสมอ เช่นวัดไสหร้า วัดพระมหาธาตุ วัดดอนศาลา พัทลุง วัดภูเขาทองพัทลุง บางส่วนก็ส่งถวายให้หลวงตาท่านอธิษฐาน หรือเข้าพิธีวัดท่าขนุน
    ส่วนมากพระที่เข้าพิธีแล้วก็จะถวายวัด หรือนำบรรจุในองค์พระใหญ่ หรือในเจดีย์มุจลินทราวาส(บ่อจิก) ที่อ.ปากพนัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2012
  8. kwich

    kwich เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    532
    ค่าพลัง:
    +6,855
    วันหนึ่ง มีลูกจ้างผู้หญิงที่ทำงานทำความสะอาดบ้าน ได้มาปรึกษากับคนรู้จัก เธอชอบเรื่องไปวัด หาหวยเบอร์ และดูเรื่องเกี่ยวกับสิ่งแปลกๆ เธอมีอาการนอนไม่หลับติดต่อมาเป็นเดือนแล้ว หน้าตาดำคล้ำ และจะเจ็บที่ขา และที่ไหล่ โดยไม่รู้สาเหตุ ไปหาหมอรักษา ก็ไม่หาย มีอาการมึนหัวและนอนไม่หลับ ทั้งที่เธอสวดมนต์และคาถาหลายบท ก็ไม่ดีขึ้นแต่อย่างไร

    ผมจึงแนะนำ ให้พระผงจักรพรรดิ์ที่หลวงตาท่านอธิษฐานจิตให้พร้อมน้ำมนต์จักรพรรดิ์ ซึ่งผมได้นำน้ำมนต์จากวัดถ้ำผสมและอธิษฐานทำน้ำมนต์ไว้ตามวิธีที่หลวงตาท่านสอน ให้นำไปสวดมนต์ตอนสองทุ่มครึ่ง และดื่มน้ำมนต์ อธิษฐานขอให้รักษาอาการที่เป็นอยู่ให้หาย

    วันรุ่งขึ้น เธอรีบมาบอกว่า เมื่อคืนเป็นครั้งแรกที่ได้นอนหลับสนิทตลอดคืน อาการปวดที่มีอยู่ก็ดีขึ้น ต่อมาก็หายดี ทำให้เธอศรัทธามาก และสวดมนต์ตอนสองทุ่มครึ่งทุกวัน
     
  9. ใจแอ้น

    ใจแอ้น Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +47
    กระทู้นี้ให้ความรู้สึกเหมือนเวปถ้ำเมืองนะ สมัยแต่ก่อนนู้นๆๆจังเลย เสียดายจริงๆเข้าทุกวันวันละสามเวลา ฮ่าๆๆ
     
  10. prom20

    prom20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3,086
    ค่าพลัง:
    +8,975
    สาธุครับขอบพระคุณครับพี่Survival หลวงปู่ท่านเมตตาไม่มีประมาณจริงๆครับขนาดเรื่องโลก ท่านยังสงเคาระห์ผมขอเรื่องทางโลกนะหลวงปู่ท่านยังสงเคราะห์ท่านคงอยากให้กำลังใจเราครับ ให้รู้ว่าท่านรู้ท่านอยู่ทุกเวลาหากเรื่องโลกนั่นๆไม่เกินสิสัยไม่เกินธรรมดาและเป็นเรื่องเกี่ยวกับกำลังใจและมีผล ทำให้มีกำลังใจส่งผลถึงทางธรรมหรือการปฏิบัติผมว่าหลวงปู่ท่านคงสงเคราะห์(ความคิดส่วนตัว)...
    พี่ครับนี่ผมได้เจอคนบ้านเดียวและยังได้เจอรุ่นพี่อีกด้วยครับ ผมจบม.6โรงเรียนชะอวดปี2545 และปี2545ก็มาเรียนรามที่กรุงเทพฯ ยินดีที่ได้รู้จักพี่บ่าวครับ(นับอายุอาจเป็นน้า เพราะผมเกิดปี2526 )แต่ผมขอเรียกพี่นะครับยินดีครับพี่มีอะไรแวะมาทักทายหรือเอาธรรมะครูอาจารย์มาเผยแพร่นะครับ สาธุครับ

    สวัสดีครับ พี่เเจ็ค ยินดีครับ...ผมคุ้นๆพี่นะ ไม่ทราบที่เคยมาบอกบุญผมหรือเปล่าผมขออภัยเป็นอย่างสูงครับผมยังไม่ได้ทำเลยครับ...ช่วงนั้นยุ่งๆจนลืมไปเลยครับนี่มาเห็นชื่อพี่คุ้นๆนะ...นึกได้ไม่คุ้นแล้วใช่เลยครับ...ผมต้องขออภัยพี่เป็นอย่างสูงที่ครับไว้คราวหน้านะครับ...ว่างๆมาทักทายหรือจะมาบอกบุญใดๆ ที่เป็นเรื่องบุญ หรือพุทโธ ธัมโม สังโฆ เรียนเชิญครับยินดีครับได้ตลอดครับ ขออนุโมสาธุด้วยครับ
    ผมขออนุโมทนาสาธุทั้งหมดทั้งมวลกับพี่และคณะด้วยครับ สาธุๆๆ อนุโมทามิสาธุ
    สวัสดีครับพี่ใจแอ้น ยินดีที่ได้รู้จักครับมีคำสอนหลวงปู่หลวงตา หรือเรื่องเล่าประสบการณ์ เรื่องเกี่ยวกับอานิสงค์บุญ หรือพุทโธ ธัมโม สังโฆ เชิญนะครับพี่ใจแอ้น...ยินดีครับสาธุล่วงหน้าครับ
    สาธุครับ
    สวัสดีทุกๆท่านนะครับ ผมไม่ได้เเวะมาสองสามวัน ช่วงนี้งานที่ทำไม่ค่อยได้มีเวลาพัก พอมีบ้างก็ต้องมีอย่างอื่นเข้ามาอีก ช่วงนี้ผมเข้าเวร12 ชม พัก24ชม และเข้า14 ชม พัก24ชม เเละสลับไปอย่างนี้ครับ เวลาพักจึงน้อยหน่อย เพราะพอมีก็มีเรื่องอื่นมาให้ต้องทำครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 ตุลาคม 2012
  11. prom20

    prom20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3,086
    ค่าพลัง:
    +8,975
    ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 5 คน ( เป็นสมาชิก 5 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน )
    promwihar, ลิปโป้, ถวายบูชา, nawin2530, plahang

    สวัสดีครับพี่ๆทุกๆท่าน...ผมเข้ามาสักพกเเล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ เพิ่งว่างครับขอไปทักทายตามกระทู้ต่างๆก่อนครับ...เดี๋ยวต้องไปธุระข้างนอกอีกแล้วyimmchearr
     
  12. jacky57

    jacky57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +1,863
    กราบพระรัตนตรัย หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้าและคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านครับ แวะมาทักทายครับคุณเอก ผมเคยมาถามวิธีสวดพระคาถามหาจักรพรรดิครับ ไม่เคยบอกบุญครับ และเมื่อรู้ว่าทำงานอยู่ทางภาคใต้(ยะลา)ผมก็เลยใช้วิธีส่งบุญหลังการภาวนาให้ปกป้องคุ้มครองรักษาคนที่ปฏิบัติธรรมอย่างคุณเอกให้ปลอดภัยครับ ทุกวันนี้ผมก็นำพระผงสูตรหลวงปู่ดู่ที่ขอรับจากเว็บนี้แหละครับ แจกให้ผู้ที่สวดมนต์ประจำอยู่แล้ว ให้สวดพระคาถามหาจักรพรรดิเพิ่ม เป็นการเผยแพร่กิตติคุณของหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่และหลวงตาม้าไปในตัวด้วยครับ<!-- google_ad_section_end -->
     
  13. prom20

    prom20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3,086
    ค่าพลัง:
    +8,975
    ผมต้องขออภัยพี่jacky57 เป็นอย่างสูงครับ...ผมจำผิดเสียเเล้วครับ ชื่อเหมือนกันครับ แต่พอดูดีไม่ใช่คนเดียวกันครับ
    ขออภัยจริงๆครับอย่างน้อยๆครั้งนี้และอีกหลายๆร้อยหลายๆพัพันครั้งในความจำที่ไม่ถูกต้องนั้นย้ำให้ผมตระหนักว่า สัญญาไม่เที่ยงครับ สัญญาก็เป็นอนัตตา ทุกๆอย่างในโลกนี้ล้วน อนิจจัง ไม่เที่ยง และล้วนอนัตตาไม่มีตัวตนสุดท้ายแล้วก็ค่อยเสื่อมถอยไปตั้งเเต่เเรกเริ่มและก็สลายไปในที่สุดครับ (ผมว่าเอาเนียนเลยครับ(f)(f)(f)
     
  14. jacky57

    jacky57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +1,863
    กราบพระรัตนตรัย หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้าและคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านครับไม่ต้องขอโทษครับ เพราะไม่ได้โกรธนะครับ ชี้แจงให้ทราบเท่านั้นครับ ถือว่าเป็นเพื่อนทางธรรมกัน ถ้าทางโลกก็เป็นพี่เป็นน้องกัน ขอให้พระคุ้มครองคุณเอกให้ปลอดภัยนะครับ
     
  15. prom20

    prom20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3,086
    ค่าพลัง:
    +8,975
    ขอบคุณครับพี่เเจ็คกี้ ยินดีครคับ
     
  16. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    กระทู้นี้เนื้อหาดีๆเยอะครับ มีประโยชน์ และโมทนาบุญ
    กับการนำบารมีธรรม หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า มาแบ่งปัน
    เผยแพร่ ตามแนวทางท่าน ดีแล้วครับ

    ธรรมรักษา
     
  17. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    ย้อนรอย คาถามหาจักรพรรดิ . . .

    [​IMG]

    “นะโมพุทธายะ พระพุทธะ ไตรรัตนะญาณ มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา
    พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
    อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลี จะมหาเถรัง อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย  
    อะหังวันทามิ สัพพะโส พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ”


    “พระคาถามหาจักรพรรดิ” เป็นพระคาถาที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก“ชมพูปติสูตร” ในตอนที่พระพุทธเจ้าทรงเนรมิตพระองค์เป็นพระเจ้าจักรพรรดิเพื่อกำราบทิฐิพญา ชมพูบดีพระมหากษัตริย์ผู้มากด้วยอิทธิฤทธิ์ โดยผู้ที่รจนาพระคาถาบทนี้ขึ้นมาก็คือ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ แห่งวัดสะแก จ.อยุธยา พระผู้เป็นดั่งร่มโพธิ์แก้วที่แผ่กิ่งก้านใบบุญบารมีมอบความร่มเย็นเป็นสุข ให้แก่ลูกศิษย์ทั่วทุกชนชั้นอย่างไม่มีประมาณตามแนวทางแห่งพระศรีอาริยเมตไตรย์โพธิสัตว์และหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ซึ่งพระคาถานี้เป็นพระคาถาหลักที่หลวงปู่ดู่ใช้ในการรวมบารมีแผ่เมตตาช่วย เหลือภพภูมิทั้งหลายทั่วสามแดนโลกธาตุ และใช้ในการอธิษฐานจิตปลุกเสกพระเครื่องทุกชนิดของท่าน โดยท่านได้ถ่ายทอดความรู้ทั้งหลาย รวมทั้งพระคาถามหาจักรพรรดินี้ ไว้ให้แก่ลูกศิษย์ผู้เป็นหน่อโพธิ์แก้วต้นใหม่ที่จะทำหน้าที่สร้างความร่ม เย็นเป็นสุขให้แก่ลูกศิษย์ในรุ่นหลังต่อไปก็คือ พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร หรือ หลวงตาม้า แห่งวัดถ้ำเมืองนะ นั่นเอง

    เคยมีลูกศิษย์ที่ทันสังขารหลวงปู่ดู่ท่านหนึงสนทนากับหลวงปู่ถึงเรื่อง 'คาถามหาจักรพรรดิ'

    ลูกศิษย์ "หลวงพ่อเป็นผู้แต่งคาถาบูชาพระ คาถามหาจักรพรรดิ ใช่มั้ยครับ"

    หลวงปู่ "สำเภาเขาสร้างพระพุทธรูป อยากได้คาถาบูชาพระ
    ก็เลยมานึกเอาเอง มันจะผิดอยู่หน่อยหนึ่งตรงคำบูชาที่มี นะโมพุทธายะ
    แล้วก็ ยะธาพุทโมนะ หรือแกว่าไง" หลวงปู่ท่านถามเป็นนัยๆ

    ลูกศิษย์ "ปกติ การตั้งองค์พระ การอธิษฐานให้เป็นพระ โบราณเขาใช้กันว่า
    นะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ ดังการที่หลวงพ่อกล่าวเช่นนี้
    ต้องการให้บูชาคาถาเกิดเป็นพระพุทธเจ้าปางมหาจักรพรรดิใช่ไหมครับ"

    หลวงปู่ดู่ท่านพยักหน้ารับ ทั้งหลวงปู่ดู่ยังกล่าวต่อไป
    เกี่ยวกับบทบูชาพระที่นิยมนำมาเรียกกันว่าคาถาจักรพรรดิในปัจจุบันนี้อีกว่า

    "คาถา บทนี้เป็นของดี หมั่นท่องไว้ทุกวัน ปกติเขาไม่ให้กันหรอกเพราะเขากลัวลูกศิษย์จะดีกว่าอาจารย์ แต่ข้าไม่เคยกลัวและไม่ปิดบัง ท่องให้ดีนะอีกหน่อยจะรวย เพราะมีการกล่าวถึงพระสิวลีผู้เป็นเลิศทางลาภไว้ด้วย อาบไปเสกไปก็ได้ กินข้าวก็ได้ ดีทั้งนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้ามาบอกพวกแก ข้าทดลองมาแล้วทั้งนั้น เมื่อดีแล้วจึงมาบอก ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ศรัทธาและหมั่นฝึกฝนปฏิบัติ คนเราอยู่ดีๆจะให้รวยได้อย่างไร ต้องปฏิบัติเสียก่อน ดูอย่างข้าเมื่อก่อนต้องไปยืมเงินเขามาซื้อธูปเทียนใบชามาเลี้ยงแขก เดี๋ยวนี้ของกินของใช้มีใช้เกลื่อนกลาดไป เรามาพบไม้งามเมื่อขวานบิ่น แกว่าจริงไหมของดีของอร่อยกินก็ไม่ได้ ฟันไม่มี" หลวงพ่อหัวเราะ และยังเสริมอีกว่า

    "คนเราต้องทำให้ดีเมื่อดีแล้วจึงรวย แล้วจะได้ไม่ซวย พระจะดีต้องหมดอยาก
    ถ้ายังอยากอยู่ก็ไม่ใช่พระดี"


    คาถาบูชาพระที่หลวงปู่ดู่ท่านย้ำเอาไว้ให้หมั่นท่องไว้ทุกวันนั้น ต่อมาภายหลังมีลูกศิษย์นำไปสวด
    แล้วเห็นว่ากายทิพย์ทรงเครื่องเป็นมหาจักรพรรดิ และมีพลังงานขับเคลื่อนเป็นพิเศษทำนองนั้น
    จึงได้นำมากราบเรียนถามหลวงตาม้าในโอกาสที่หลวงตาลงมา กทม. วันหนึ่ง
    หลวงตาจึงไขความลับให้ฟังทั่วกันว่า ขณะที่สวดคาถามหาจักรพรรดินั้น
    ถ้าเทวดาผ่านมาก็จะเห็น แม้แต่ หนู หมา แมว บางครั้งก็สามารถเห็นมิตินี้ได้เช่นกัน

    ทุกอย่างที่หลวงปู่ตั้งใจรวบรวมเอาไว้ในพระคาถา ดังที่หลวงตาได้อธิบายเอาไว้
    จะมาปรากฏที่กายพลังงานของผู้สวดตลอดเวลาที่กำลังสวด ที่หลวงตาเรียกว่าจิตทำการบันทึกบุญเอาไว้ตลอดเวลา
    หรือหลังจากสวดแล้ว เจ้าตัวสามารถทรงอารมณ์นั้นเอาไว้ได้ กายพลังงานก็จะมีพลังงานต่างๆในพระคาถาปรากฏอยู่
    พลังงานในพระคาถาเป็นอย่างนี้เอง หลวงปู่ดู่จึงได้เน้นย้ำเอาไว้ ให้ลูกหลานหมั่นสวดเป็นประจำ
    จะกินจะดื่ม จะอาบน้ำก็ดี หรือนึกขึ้นได้เมื่อใดสวดเมื่อนั้น ด้วยเกิดพลังงานบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่มหาศาล

    ที่หลวงปู่ไม่ได้แจงรายละเอียด รอเวลาเมื่อสิ่งเหล่านี้ได้มาปรากฏในผู้สวดแล้ว
    จึงนำมาถามถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนว่าเป็นสิ่งไรกันแน่....เป็นการพิสูจน์คุณวิเศษของพระคาถา
    ที่มีคุณประโยชน์ใหญ่หลวงแก่ผู้ที่สวดช่วยทำให้ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนได้ในที่สุด
    หลวงปู่ท่านพูดน้อยแต่แฝงเอาไว้ด้วยนัยแห่งคุณประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ . . .

    [​IMG]

    หลวงปู่ดู่ท่านยังกล่าวถึงการใช้บทบูชาพระหรือคาถาพระมหาจักรพรรดิของท่านว่า
    "ข้าเป็นคนโลภมากทำอะไรก็อยากทำให้มากที่สุด ดีที่สุด เดี๋ยวนี้ใช้แค่บทนี้ทั้งนั้น
    ใครมานั่งคุมเล่าข้าเสกเขาก็รู้เองแหละว่าทำจริงหรือไม่จริง"

    หลวงปู่ดู่ท่านเคยมีลูกศิษย์คนหนึ่งเป็นพระ ต่อมาท่านไม่มาหาหลวงพ่ออีกเนื่องจากหลวงพ่อพูดว่า
    "ยังไม่ไปนิพพานเพราะต้องโปรดคน" แต่พระองค์นี้ไปตีความไปว่าหลวงพ่อยังติดอยู่กับ
    ลาภยศ ชื่อเสียง ซึ่งความจริงแล้วหลวงพ่อมีเมตตาและบอกความปราถนาของท่านให้ทราบว่าท่านเป็น พระโพธิสัตว์

    สาเหตุอันเนื่องจากการที่บทความนี้กล่าวท้าวความเกี่ยวกับบท ชมพูบดีสูตร หรือบทมหาจักรพรรดิ์ไว้เนื่องจากปัจจุบันขาดผู้สนใจ
    เห็นเป็นเรื่องเหลวไหล แม้แต่พระบางองค์ท่านยังกล่าวว่าเกินความจริง โดยท่านลืมนึกถึงคำว่า "อจินไตย"
    คือสิ่งไม่ควรคิดเพราะไม่สามารถนำเหตุผลทางโลกหรือทางทฤษฎีมาทำให้เกิดความ กระจ่างได้
    เป็นเรื่องของผู้ปฏิบัติพึงรู้ได้เอง ถ้าคิดมากอาจเป็นบ้า สิ่งเหล่านี้ได้แก่

    1. พุทธวิสัย วิสัยของพระพุทธเจ้า เช่น ทำไมท่านถึงตรัสรู้ได้ ท่านมีอิทธิปาฏิหาริย์จริงหรือ
    2.วิสัยของกรรม เช่น ทำไมคนนั้นคนนี้รวย จน สมบูรณ์ กำพร้า
    3.วิสัยของพระอรหันต์ เช่น ท่านหมดโลภ โกรธ หลงหรือ
    4.วิสัยของโลก เช่น โลกเกิดมาได้อย่างไร
    5.วิสัยของผู้ปฏิบัติธรรม เช่น ลักษณะที่สงบเป็นอย่างไร สงบจริงหรือไม่

    [size=8pt]บทความข้างต้นบางส่วนเรียบเรียงมาจากบันทึกของลูกศิษย์
    ที่ทันสังขารหลวงปู่ดู่ท่านหนึง ขออนุโมทนาบุญมา ณ ที่นี้ . . .[/size]​
     
  18. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    [​IMG]

    ย้อนรอย ครั้งหลวงตาม้าพบหลวงปู่ดู่ . . .

    ครั้งแรกที่หลวงตาได้พบหลวงปู่ดู่นั้น ท่านทำงานอยู่ที่ธนาคารกสิกรไทยสำนักงานใหญ่ (บริเวณซอยอารีย์) และเพื่อนคนหนึ่งได้ไปบวชที่วัดสะแก ท่านจึงได้ตามไปงานบวชของเพื่อนและได้พบกับหลวงปู่ดู่เป็นครั้งแรกเมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๕๑๙-๒๕๒o โดยหลวงปู่ดู่ได้มอบพระให้ท่าน ๑ องค์ เพื่อนำไปใช้กำไว้ขณะทำสมาธิ และสอนให้ภาวนาไตรสรณคมน์ “พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ” ซึ่งในครั้งแรกที่หลวงตานำพระมากำทำสมาธิตามที่หลวงปู่สอนนั้น ท่านก็รู้สึกว่าสามารถทำสมาธิได้นิ่งสงบเบาสบายดีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และหลังจากนั้นมาจนถึงปัจจุบัน หลวงตาไม่เคยไปศึกษากับครูบาอาจารย์ท่านใดอีกเลย มุ่งศึกษากระแสพลังเหนือพลังจากหลวงปู่ดู่เพียงองค์เดียวมาโดยตลอด โดยหลวงตากล่าวว่า “หลวงปู่จะสอนศิษย์แต่ละคนไม่เหมือนกัน ท่านจะดูจากจริตนิสัยบุญบารมีของแต่ละคน เวลาหลวงปู่อยู่กับหลวงตาเพียงลำพังก็จะสอนอีกแบบหนึ่งไม่เหมือนคนอื่น หลวงปู่ท่านมีความรู้มาก มีบุญบารมีเต็มล้นแล้ว หลวงตาเป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของท่านเท่านั้น”

    หลวงตาได้เล่าให้ฟังเรื่องบุญบารมีอันมากล้นของหลวงปู่ดู่ว่า “ในสมัยนั้น แม้หลวงปู่จะอายุกว่า๗o ปีแล้ว แต่ท่านยังมีผิวสีชมพูสวยมาก ใครไปแตะโดนตัวท่านไม่ได้ ท่านมีบุญบารมีบริสุทธิ์มาก แต่พวกเรายังมีกิเลสมาก แตะโดนแล้วตัวท่านจะบวมเลย มีครั้งหนึ่งลูกศิษย์ขอปิดทองบูชาที่ขาท่าน ท่านก็เมตตาให้ปิด แต่พอเช้าวันต่อมาขาท่านบวมทั้งสองข้างเลย ตั้งแต่นั้นมาท่านไม่อนุญาตให้ใครปิดทองตัวท่านอีกเลย” หลวงตาเล่าพลางหัวเราะเบาๆก่อนทิ้งท้ายว่า “ตอนนั้นหลวงตาเองก็เป็นคนหนึ่งที่ไปปิดทองหลวงปู่ด้วย ตอนนั้นเราไม่รู้”

    ในสมัยที่หลวงปู่ดู่ยังอยู่นั้น หลวงปู่และลูกศิษย์จะช่วยกันสร้างพระทุกวันเพื่อฝึกให้ใจอยู่กับพระเสมอและ นำพระไปใช้กำทำสมาธิภาวนา ซึ่งหลวงปู่ได้กล่าวถึงเรื่องพระเครื่องที่คนมักมองว่าเป็นเรื่องงมงายไว้ อย่างน่าคิดว่า “ติดวัตถุมงคล ก็ยังดีกว่าติดวัตถุอัปมงคล” อย่างน้อยดึงให้ใจเขาติดอยู่กับพระเครื่อง ให้เห็นพระทุกวันก็เป็นพุทธานุสติ ใจเขาก็เป็นบุญ ดีกว่าปล่อยให้ใจเขาไปติดอยู่กับเหล้ายากิเลสสิ่งไม่ดีอื่นๆ โดยลูกศิษย์ท่านหนึ่งที่ศึกษาวิธีการสร้างพระเครื่องของหลวงปู่ไว้อย่างครบ ถ้วน และช่วยท่านสร้างพระมาตลอดในสมัยนั้นก็คือ “หลวงตาม้า” นั่นเอง

    อ่านบทความประวัติหลวงตาม้าฉบับเต็มได้ที่ ประวัติหลวงตาม้า ฉบับปรับปรุงเพิ่มรายละเอียด โดย ดร.รอบทิศ ไวยสุศรี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 ตุลาคม 2012
  19. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    [​IMG]

    การสร้างพระ - หลวงปู่ดู่

    หลวงปู่เคยเล่าให้ศิษย์ฟังอยู่เสมอว่า การสร้างพระพุทธรูปนั้น จะมีอานิสงส์มาก แม้จะองค์เล็กเท่าต้นหญ้าคา ก็จะมีอานิสงส์ถึง 5 กัป หลวงปู่ยกตัวอย่างเช่น คนที่สร้างหลวงพ่อโสธร หลวงพ่อบ้านแหลม หลวงพ่อไร่ขิง ตอนนี้เขาเหล่านั้นยังเป็นเทพบุตรเทพธิดา และพรหมในชั้นต่าง ๆ เสวยความสุขอย่างไม่มีจบสิ้น เพราะผลบุญที่ได้นี้มันต่อเนื่อง เมื่อมีคนไปกราบไปไหว้หลวงพ่อที่หนึ่ง สายบุญเหล่านั้นก็จะไหลไปยังเทพบุตรเทพธิดาอย่างต่อเนื่องเหมือนสายน้ำตก แกก็ลองนึกดูเถิดว่าวัน ๆ หนึ่งมีคนไปกราบหลวงพ่อเหล่านั้นมากเพียงไร ลูกศิษย์หลวงปู่เป็นส่วนมากจึงชอบสร้างพระเพราะหลวงปู่ไม่ได้กำหนดให้ผู้ใดผู้หนึ่ง ผูกขาดในการสร้างของท่าน คณะใดกลุ่มใดมีศรัทธาจะสร้างเพื่อเป็นกุศลต่อตนเองและส่วนรวม หลวงปู่ก็จะอนุญาตอยู่เสมอและหลวงปู่จะอนุโมทนาต่อเขาเหล่านั้นเป็นอย่างดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 ตุลาคม 2012
  20. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    [​IMG]

    เรื่องราวที่เกี่ยวกับหลวงปู่ดู่ ที่หลวงตาม้าเคยเล่าไว้ ขอยกมาบางเรื่อง

    "หลวงพ่อดู่ท่านเป็นพระที่ยิ้ม หน้าตาผ่องใส ท่านไม่เคยว่าใครเลยนะ เราเห็นก็ยังเข้าใจว่าท่านเป็น พระอรหันต์ หลายๆคนก็เข้าใจว่าท่านเป็นพระอรหันต์ แต่ท่านบอกหลวงตาว่า ท่านไม่ใช่พระอรหันต์ ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ที่ท่านเป็นอย่างนี้เพราะบารมีท่านเยอะ"

    หลวงตาย้อนเล่าถึงสมัยฝึกอยู่กับหลวงปู่ดู่ว่า "ตอนฝึกกับ หลวงพ่อ(ดู่) ท่านก็ให้พระมา เราก็เอามานั่งกำแล้ว สวดไตรสรณคมณ์ ในใจ ใจก็อยู่ที่พระในมือและคำสวด อยู่อย่างนั้นแหละ หลวงพ่อ(ดู่) ท่านบอกว่า วิธีนี้เร็ว เรา 50% พระ 50%ไง"

    หลวงพ่อดู่ ท่านเคยกล่าวถึงครูบาอาจารย์ที่เด่นด้าน คาถาอาคมท่านต่างๆให้ หลวงตาม้า ฟัง แต่ละท่านล้วนเก่งกาจชนิดที่เรียกว่าหาตัวจับยาก หลวงตาม้าท่านเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนเคยไปศึกษาตำราของคาถาอาคมอยู่เหมือนกัน คาถาบางคาถายาวเป็นหน้าเลย

    หลวงพ่อดู่ ท่านเคยพูดกับ หลวงตาม้า ได้ใจความว่า สวดสั้นๆก็พอ ไม่ต้องไปสวดยาวหรอก (เช่น ไตรสรณคมณ์, จักรพรรดิ) รุ่นเอ็งมันไม่ได้เรื่องได้ราว ไม่ต้องไปเรียนหรอกคาถาอาคมน่ะ มาเอาพระรัตนตรัยดีกว่า

    หลวงปู่ดู่ท่านเคยกล่าวไว้ได้ใจความว่า "พระพระรัตนตรัยมีครบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นคงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม มีครบหมด!"

    หลวงตาม้า ท่านเล่าต่อให้ฟังได้ใจความว่า สมัยนั้นมีเด็กคนนึงเป็นนักศึกษา มักจะมีเรื่องประจำ ถูกเขาตีเขาต่อยประจำ หลวงพ่อดู่ให้มานั่งสมาธิ ภาวนาไตรสรณคมณ์ พอเห็นแสงปุ๊ป ท่านให้อธิษฐานขอ เหนียวๆๆๆๆ (หมายถึงฟันแทงไม่เข้า) "ทีนี้พอเด็กคนนั้นไปมีเรื่อง มันก็ไม่เป็นอะไรเลยนะ ได้ผลจริง(หัวเราะ)" หลวงตาม้ากล่าว

    สมัยนั้นตอนหลวงปู่ดู่ท่านยังไม่ละสังขาร หลังออกพรรษา หลวงตาม้าก็มากราบลาหลวงปู่ที่กุฎิเพื่อออกธุดงค์ หลวงปู่ดู่ท่านได้เทศสอนหลวงตาในการเตรียมตัวจากนั้นหลวงปู่จึงมอบเงินให้หลวงตาไว้ ๕oo บาท รวมทั้งของใช้จำเป็นต่างๆ และได้หันไปหยิบ “รูปหล่อหลวงปู่ดู่เนื้อปูน” มาให้ ๑ องค์ แล้วบอกหลวงตาว่า “เอ็งไปไหน ข้าไปด้วย... หากสงสัยอะไรในการปฏิบัติให้แกถามเอาจากพระองค์นี้” เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความเมตตาและความเกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันของหลวงปู่ที่มีต่อหลวงตาได้เป็นอย่างดี และยังแสดงให้เห็นถึงความเมตตาอันไม่มีประมาณของหลวงปู่ดู่ด้วย

    ครั้งหนึ่งเล่าถึง วิญญาณที่ติดภพภูมิ วิญญาณเร่ร่อน วิญญาณสัมพเวสี หลวงตาม้า ท่านได้เมตตากล่าวให้ฟังได้ใจความว่า หลวงพ่อดู่ ท่านเรียกพวกวิญญาณที่ติดภพติดภูมิ หรือวิญญาณเร่ร่อนพวกนี้ว่า ขยะวิญญาณ หมายถึงพวกที่ไม่มีประโยชน์ ท่านสอนให้ช่วยเหลือพวกนี้ โดยเอาบุญ หลวงพ่อ(ดู่) ไปช่วยเหลือ บางทีพวกนี้ก็ส่งผลกระทบต่อมนุษย์เหมือนกัน "อย่างตลาดสดนี่ เห็นไหมว่ามีคนทะเลาะกันเป็นประจำ วิญญาณอยู่เยอะไง ฆ่าทุกวัน ฆ่าสัตว์ทุกวัน พลังงานมันไม่ดี" หลวงตาม้ากล่าว

    หลวงปู่ดู่ ท่านเคยบอกลูกศิษย์ไว้ว่า "เวลาไปไหน ให้ส่งวิญญาณ ปรับภพภูมิ ถ้าเอ็งแผ่เองไม่ได้ให้นึกถึงข้านี่ ข้าแผ่ให้เอ็งได้ !"

    เรื่องการแผ่บุญปรับภพภูมินี้ เมื่อเขาได้ัรับบุญไป ถ้าหากเขาเปลี่ยนไปอยู่ในภพภูมิที่ดีหรือมีกำลัง เขาก็จะต้องมาช่วยเหลือเราอย่างแน่นอน หลวงตาม้าท่านเคยกล่าวได้ใจความว่า คุยกับมนุษย์นี่มันลำบาก คุยกับวิญญาณง่ายกว่า เราสวดมนต์ รักษาศีลให้เขาก็พอแล้ว ไปไหนเรามีผีมีเทวดาเป็นเพื่อนไม่ต้องกลัวอะไร เผลอๆให้โชคให้ลาภเราเสียด้วย(หัวเราะ)

    หลวงตาม้า ท่านเล่าให้ฟังถึงหลักสูตรการปฏิบัติธรรมตามแนวของหลวงพ่อดู่ว่า การปฏิบัติธรรมแบบ หลวงพ่อ(ดู่) นี่เป็นการปฏิบัติธรรมโดยไม่หวังผลตอบแทน อย่างถ้าเราไปแผ่บุญให้กับเจ้ากรรมนายเวรของใครบางคนที่เดินผ่านเราไปนี่ เราจะไปบอกมันได้ไหมว่า "เฮ้ย ข้าส่งวิญญาณให้เอ็งนะเว้ย (หัวเราะ)" มันพูดไม่ได้นะ ขืนพูดไป ดีไม่ดีมันจะมาไล่เตะเราด้วย !

    หลวงตาม้า ท่านเล่าให้ฟังว่า มันต้องมีความพอใจ อย่างหลวงตาเนี่ย พอใจที่จะศรัทธา หลวงพ่อดู่ ใครจะว่าอะไรก็ช่าง หลวงตาก็ยังเชื่อ หลวงพ่อดู่ จากนั้นก็ต้องมี ความเพียร เพียรสวด เพียรภาวนา ไง จากนั้นก็ต้องมีใจจดจ่อ อย่างหลวงตาเนี่ย จดจ่ออยู่กับพลังงานของหลวงพ่อดู่ อย่างเดียว แค่นี้แหละ "ถ้าทำได้อย่างนี้เอาพลังงานหลวงพ่อดู่ไปใช้ได้เลย อย่างเราเนี่ย เอาไปแผ่บุญปรับภพภูมิส่งวิญญาณได้อย่างสบายๆเลย"

    อีกครั้งหนึ่ง หลวงตาม้า ท่านเคยเล่าให้ฟังได้ใจความว่า "จะจับภาพองค์ไหนก็ได้ พระจักรพรรดิก็ได้ หลวงปู่ทวดก็ได้ หลวงปู่ดู่ก็ได้ จับองค์ใดองค์หนึ่งก็ให้จับองค์นั้นไปเลย อย่าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา จับองค์ไหนก็ย้ำอยู่ที่องค์นั้นอย่างเดียว มันถึงจะดี" หลวงตาม้าท่านยังกล่าวอีกว่า "นึกถึงองค์ไหน ก็นึกถึงองค์นั้นไปเลย มันถึงจะเจ๋ง(ยิ้ม)"

    มีผู้หญิงท่านหนึ่งมากราบ หลวงตาม้า มาบ่นให้ท่านฟังว่าหาโอกาสมากราบยาก อยากมากราบบ่อยๆ หลวงตาม้าท่านก็ให้โอวาทว่า "ไม่ต้องมาที่ถ้ำหรอก ถ้าเคารพกัน นึกถึงกันจริงๆ อยู่ที่ไหนหลวงตาก็ไปได้" คำพูดนี้เป็นกำลังใจสำหรับผู้ที่ยังไม่มีโอกาสไปกราบหลวงตาได้เป็นอย่างดี
     

แชร์หน้านี้

Loading...