รวมสุดยอดสายวิชาแหวนนพสูรย์+ปรอทกินทอง

และแล้วพรุ่งนี้ก็เป็นวันพุทธาภิเษกแหวนอย่างเป็นทางการครั้งแรก
(แต่เป็นพิธีพุทธาภิเษกครั้งที่ 2 เพราะครั้งแรกพุทธาภิเษกพร้อมพระกริ่งปวเรศฟ้าลั่น ของสำนักบัวแปดกลีบ ชลบุรี)
ณ วัดถ้ำตะโกพุทธโสภา ลพบุรี เวลา 15.55 น.
ซึ่งเป้นการเสกแหวนโดยเฉพาะ เพราะทางวัดจัดพิธีพุทธาภิเษกแหวนของลป.เภา พุทธสโร อดีตปฐมเจ้าอาวาสวัดถ้ำตะโกฯ
เห็นทางวัดนิมนต์ ลพ.รวย วัดตะโก ลพ.เพิ่ม วัดป้อมแก้ว ลพ.พูน วัดบ้านแพน
ลพ.เพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน ลป.ศรี วัดหน้าพระลาน หลวงตาม้า ถ้ำเมืองนะ
แต่หลวงตาม้าท่านลงมาเสกให้ก่อนในวันนี้แล้ว
ส่วนลพ.เพิ่ม วัดป้อมแก้วติดกิจนิมนต์ที่อื่นแล้ว
เลยยังไม่รู้ว่าทางวัดจะนิมนต์องค์ไหนมาแทน

 

เมื่อวันเสาร์ 5 (20 ตุลาคม 2555) ที่ผ่านมาได้นำแหวนไปเข้าพิธีพุทธาภิเษก
ณ วัดถ้ำตะโกพุทธโสภา ลพบุรี ซึ่งเป้นพิธีพุทธาภิเษกแหวนโดยเฉพาะมาเรียบร้อยแล้ว
สำหรับท่านที่รออ่านความคืบหน้า ก็ต้องอดใจรออีกหน่อยเพราะกำลังรอรูปจากช่างภาพมืออาชีพ(คุณธรรมประทีป)
ถ้าได้รูปมาเมื่อไรจะนำมาให้ชมกันครับ

และตอนนี้แหวนที่ถวายลป.ดีไว้ได้หมดลงไปแล้ว
และก็มีโทรศัพท์มาหาผมทุกวันเพื่อถามเรื่องแหวนว่าพอมีใครที่จองไว้หลายวงจะสละสิทธิ์บ้าง
ใครได้ไปก็ถือว่าโชคดี เพราะผมตั้งใจทำอย่างเต็มที่ ครูบาอาจารย์แต่ละท่านก็ตั้งใจเสกให้อย่างเต็มที่เช่นดียวกัน
ราคาแหวนที่ให้เช่าบูชาเทียบไม้่ได้กับคุณค่าทางจิตใจ

หลังจากวันเสาร์หน้าที่จะนำแหวนไปเสกแถวนครสวรรค์แล้ว
วันเสาร์ 3 พ.ย. จะทำพิธีสมโภชแหวนอีกครั้งหนึ่ง
แล้ววันที่ 5 พ.ย. ก็จะเริ่มทะยอยส่งแหวนให้กับทุกท่านที่ได้จองเอาไว้ หลังจากรอกันมานาน
ถ้าใครได้ไปแล้วมีประสบการณ์อะไรมาเล่าสู่กันฟังบ้าง คนสร้างจะได้ปลื้มใจ

 

อนุโมทนา สาธุ กับ ทุกสถานที่ที่พี่หมอไป และหลวงพ่อ หลวงปู่ที่พี่หมอไปร่วมทำบุญด้วย ขออนุโมทนาบุญใหญ่ นี้ด้วยครับ

 

วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม เป็นวันดี วันขลัง เพราะตรงกับวันเสาร์ 5 (วันเสาร์ขึ้น 5 ค่ำ)
ซึ่งทางไสยศาสตร์ถือว่าเป็นวันขลัง วันแรง ของที่เสกในวันนี้จะขลังกว่าวันอื่นๆ
ในวันนี้หลายๆ วัด จึงได้จัดพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลขึ้น
ซึ่งก็แน่นอนว่าบรรดาเกจิคณาจารย์ที่เก่งๆ มีชื่อ ต่างก็มีกิจนิมนต์ไปเสกตามวัดต่างๆ กันทั้งนั้น

ดังนั้นพวกเราก็เลยออกเดินทางกันแต่เช้า เพื่อที่กะว่าให้ไปถึงวัดเช้าหน่อย
เผื่อว่าบางท่านจะยังไม่ทันออกไปกิจนิมนต์
โดยวัดแรกที่ตั้งใจไปก็คือ ลป.สรวง วรสุทโธ วัดถ้ำพรหมสวัสดิ์ ลพบุรี
เจ้าตำรับไก่ฟ้าพญาเลี้ยงอันเลื่องชื่อ
แต่พอพวกเราไปถึงวัดท่านก็ปรากฏว่าท่านไปงานพุทธาภิเษกที่โคราชแล้ว
เลยตั้งใจว่าจะไปกราบ ลป.เรือง ที่เขาสามยอด ก่อนจะไปวัดถ้ำตะโก
แต่ปรากฏว่าทางวัดถ้ำตะโกโทรฯ มาบอกว่า ทางวัดจะมีพิธีสวดธรรมจักรกัปปวัตนสูตรในตอนเที่ยง
ก่อนที่จะมีพิธีพุทธาภิเษกในช่วงเย็นเวลา 15.55 น.
พวกเราจึงต้องปรับแผนกันใหม่ เอาแหวนไปเข้าพิธีสวดสวดธรรมจักรกัปปวัตนสูตรด้วย



วัดถ้ำตะโก หรือ วัดถ้ำตะโกพุทธโสภา ตำบลเขาสมอคอน อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี
เป็นวัดที่สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ.2446 โดยมีหลวงพ่อพุทธสราจารย์ (เภา พุทธสโร) ได้เดินธุดงค์มาปักกลดในพื้นที่บริเวณนี้
ต่อมามีพุทธศาสนิกชนที่เคารพเลื่อมใสในปฏิปทาของหลวงพ่อได้เริ่มก่อสร้างเป็นสำนักปฏิบัติธรรม
วัดนี้มีถ้ำวิปัสสนา เรียกว่า “ถ้ำตะโก” เนื่องจากมีต้นตะโกอยู่หน้าถ้ำ (ปัจจุบันไม่มีแล้ว)
ภายในถ้ำจะมีแท่นที่หลวงพ่อเภา พระเกจิอาจารย์อันเป็นที่เคารพนับถือของชาวลพบุรี เคยนั่งวิปัสสนา
และมีพระพุทธรูปอีกหลายองค์ นอกจากนั้นก็มีเครื่องปั้นดินเผา เครื่องลายครามต่างๆ เก็บรักษาไว้
และยังมีพระเจดีย์ ซึ่งตั้งอยู่บนเรือสำเภา ซึ่งเรียกว่า “พระเจดีย์ทรงเรือมรรคสัจจ์” อยู่บนยอดเขา คล้ายกับที่วัดเขาวงกต แต่ที่นี่สร้างก่อน



หลวงพ่อเภา พุทธสโร ปฐมเจ้าอาวาสวัดถ้ำตะโก ท่านเป็นชาว อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์
เกิดวันอังคาร เดือน 6 ปีวอก พ.ศ. 2415 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พออายุครบ 21 ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดเขาแก้ว อ.พยุหะคีรี
โดยมีพระอุปัชฌาย์องค์เดียวกันกับ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ




เมื่อบวชแล้วก้ได้ออกธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ
ได้พบและศึกษาวิปัสสนากรรมฐานและวิทยาการต่างๆ กับพระเกจิผู้มากด้วยวิทยาอาคมหลายรูป จนมีวิทยาคมเข้มขลัง
สมัยที่ท่านไปอยู่ในดงอิสลาม ได้มีชาวมุสลิมขอทดสอบท่านโดยเอาเทียนไขจุดไฟลนคางท่าน
ท่านนั่งให้ลนเฉยโดยไม่เป็นไร จนชาวมุสลิมบริเวณนั้นยอมรับนับถือถึงกับใส่บาตรท่านทุกวัน

เชื่อกันว่าท่านเป็นพระอริยเจ้าที่บรรลุคุณธรรมชั้นสูง มีอภิญญาแก่กล้ามาก
ถึงขนาดที่ว่าท่านสามารถเพ่งปรอทเหลวๆ ให้แข็งตัวได้ในพริบตา
เวลาท่านจะทำพระพิมพ์แจกให้กับผู้ใด ท่านจะหยิบก้อนตะกั่วดิบมาวางไว้บนฝ่ามือแล้วเพ่งให้ตะกั่วดิบนั้นเหลวคามือของท่าน
เมื่อตะกั่วดิบเหลวเป็นน้ำแล้ว ท่านก็จะเทลงสู่แม่พิมพ์
เมื่อสำเร็จเสร็จเป็นองค์พระก็ยื่นให้กับผู้นั้นได้ในเดี๋ยวนั้นเลย

วิธีสร้างลูกอมของท่านก็พิสดารอยู่เช่นกัน กล่าวคือ
ท่านจะหยิบก้อนดินสอพองมาบดขยี้ให้ป่นละเอียดบนฝ่ามือของท่าน
แล้วท่านก็สามารถปั้นดินสอพองป่นๆ นั่นให้แข็งเป็นก้อนขึ้นมาได้ในฉับพลัน

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เคยบอกกับลูกศิษย์ท่านว่า
หลวงพ่อเภาท่านเป็นพระแท้องค์หนึ่งเลยทีเดียว
หลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง ตอนบวชใหม่ยังเดินทางไปกราบท่านเพื่อขอเป็นศิษย์
แต่หลวงพ่อเภามรณภาพไปเสียก่อน

ในช่วงปลายชีวิตหลวงพ่อเภาได้มาสร้างวัดใหม่ชื่อ วัดเขาวงกต ซึ่งเป็นเทือกเขาเดียวกันกับวัดถ้ำตะโก
หลวงพ่อเภา พุทธสโร ได้มรณภาพ ณ วัดเขาวงกต เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2474 เวลา 02.00 น. สิริอายุ 60 ปี พรรษาที่ 40




ภายหลังจากหลวงพ่อเภามรณภาพแล้ว ได้ประชุมเพลิงปรากฏว่า
อัฐิธาตุของท่านได้แปรสภาพเป็นพระธาตุหลากหลายสีสันวรรณะอย่างน่าอัศจรรย์
แม้แต่บรรดาลูกศิษย์ที่ปฏิบัติธรรมกับท่านในยุคนั้น ทั้งพระ แม่ชี และฆราวาส อัฐิต่างก็แปรสภาพเป็นพระธาตุเช่นเดียวกัน


<O</O

 

พวกเราไปถึงวัดถ้ำตะโกก็เกือบเที่ยงพอดี
ปรากฏว่าทางวัดเลื่อนพิธีสวดธรรมจักรกัปปวัตนสูตรไปตอนบ่ายโมงครึ่ง
พวกเราก็เลยรีบไปจัดเตรียมข้าวของไว้ในพิธี



วัดถ้ำตะโก แห่งนี้อยู่ในบริเวณดอยเขาเทือกเขาเดียวกับวัดต่างๆ อีกถึง 3 วัด
รวมดอยนี้มีวัดถึง 4 วัด คือ วัดเขาสมอคอน วัดถ้ำช้างเผือก วัดถ้ำตะโก และวัดบันไดสามแสน
ในอดีตตั้งแต่ยุคสมัยทวาราวดีเป็นต้นมา
ดอยเทือกเขานี้มีความสำคัญมากมีถ้ำใหญ่น้อยเป็นร้อยๆ ถ้ำ เป็นที่อยู่ของผู้ทรงศีล สมณะ ฤาษี พราหมณ์
เป็นแห่งกำเนิดของวิชาไสยเวทย์มนต์คาถาแหล่งรวมวิชาไสยศาสตร์ เช่น วิชาขอมดำดิน ก็ก่อเกิดในที่แห่งนี้
เป็นตรรกศิลาแห่งไสยศาสตร์และเวทย์มนต์

วัดเขาสมอคอนเป็นวัดอยู่ต้นดอย
มีถ้ำพระนอนและที่พำนักของฤาษีสุกกะทันตะและถ้ำพราหมณี
พ่อขุนรามคำแหงมหาราช กษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัยก็เคยมาศึกษาที่แห่งนี้ นับว่าเป็นแหล่งรวมศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่



<O</O
เทือกเขาสมอคอน หรือ ดอยธัมมิกราช (ดอยธัมมิกราชวิทยาลัยราชะแห่งยุวทวาราวดี)
ดอยธัมมิก สาเหตุที่มีชื่อเรียกอย่างนี้เนื่องมาจาก สุกกทันตฤาษี (สุทันตะฤาษี)
ในหนังสือชินกาลมนีกล่าวว่า
สุกกทันตฤาษี พำนัก ณ ดอยธัมมิก (เขาสมอคอน) อยู่ทางทิศใต้ของกรุงหริภุญชัย (ลำพูน)
ในสมัยพระเจ้าจักรวัตติราช แห่งกรุงละโว้ สุกกทันตฤาษี ในสมัยนั้นย่อมเป็นที่รู้จักต่อฝูงชนหมู่คณาจารย์ และบรรดากษัตริย์ต่างๆ ทั่วทุกแคว้น



<O</O
ดอยธัมมิกราช เป็นดอยที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาเกี่ยวข้องกับกษัตริย์ในสมัยทวาราวดี
เพราะทั้งภาษาหนังสือและความหมายเป็นภาษาชั้นสูงของผู้คงแก่เรียนที่ได้รู้ในทางพระพุทธศาสนาอย่างมาก
จึงสถาปนายอดดอยแห่งนี้เป็นที่ปฏิบัติธรรมของบรรดาฤาษีและผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่
หรืออีกนัยหนึ่งว่าเจ้ากรุงละโว้ทรงเป็นเอกอัครศาสนูปถัมภกพระพุทธศาสนา จนได้สมญาพระนามว่า พระเจ้าธัมมิกราช

<O</O
ความสำคัญของดอยธัมมิกราช เขาสมอคอนได้สมญานามว่า วิทยาลัยแห่งราชา ยุคทวาราวดี
ย่อมเป็นที่แน่นอนที่สุดที่บรรดาพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องไสยเวทย์เข้มขลังเป็นที่ยอมรับในสมัยเก่าก่อนมากกว่า 150 ปีขึ้นไปนั้น
ส่วนใหญ่จะได้รับการสืบทอดเผยแพร่วิชาไสยเวทย์ มาจากแหล่งกำเนิดวิชาจากดอยธัมมิกราชแห่งนี้ทั้งสิ้น<O</O

 

พิธีพุทธาภิเษกของวัดถ้ำตะโกนี้ แม้จะจัดเล็กๆ แต่ก็ดูเข้มขลังอลังการจริงๆ
โดยพระประธานในพระอุโบสถของวัดนี้ คือ หลวงพ่อพุทธโสภา
เป็นพระพุทธรูปศิลปะเชียงแสน ที่เจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 9
แห่ง ราชวงศ์ทิพย์จักราธิวงศ์ (เจ้าเจ็ดตน) และองค์สุดท้ายแห่งนครเชียงใหม่ เป็นผู้ถวายให้กับทางวัด
เพราะเลื่อมใสศรัทธาในวัตรปฏิบัติของ ลป.เภา พุทธสโร มาก
แต่เดิมพระเนตรของหลวงพ่อพุทธโสภานี้เป็นเพชรแท้ จะเรียกว่า หลวงพ่อตาเพชร ก็ว่าได้
แต่ต่อมาได้โดนคนใจบาปหยาบช้าลักขโมยไปเสียข้างหนึ่ง
ทางวัดจึงปลี่ยนพระเนตรเสียใหม่ให้เป็นตามุกแทน



พระพุทธรูปสำคัญอีกองค์หนึ่ง คือ หลวงพ่อธรรมจักร
เป็นพระพุทธรูปยืนแกะสลักด้วยหินทรายศิลปะขอม ทรงเครื่องวิษภูษิตาภรณ์
อลังการแบบพระเจ้ามหาจักรพรรดิ
แต่เดิมประดิษฐานอยู่ในถ้ำบนเขาตะโก ต่อมาทางวัดได้อัญเชิญลงมาประดิษฐานในพระอุโบสถร่วมกับหลวงพ่อพุทธโสภา
แล้วได้ทำการบูรณะซ่อมแซมและปิดทองเสียใหม่
ได้รับประทานนามใหม่จากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ว่า พระพุทธธรรมิกราชศาสดา
อนึ่ง องค์หลวงพ่อธรรมจักรนี้ มีอภินิหารศักดิ์สิทธิ์มาก เพราะบนบานแล้วมักจะสมหวังกันทุกคน



พิธีพุทธาภิเษกนี้ ทางวัดจัดเล็กๆ เป็นการภายใน ไม่ได้บอกใคร
ทำให้มีแต่คณะของเราที่ไปกันกับชาวบ้านใกล้ๆ วัดอีก 5-6 คน รวมแล้วประมาณ 10 คน
ท่านเจ้าอาวาสเมตตาให้นำกล่องแหวนไปตั้งไว้ที่ด้านหน้าเลย
หลังจากนั้นประมาณบ่ายโมงครึ่ง ทางวัดก็ได้สวดธรรมจักรกัปปวัตนสูตร
หลังจากสวดเสร็จสักพัก ท่านพระครูภาวนาโสภณ (พร) วัดป่าธรรมโสภณ ลพบุรี ก็มาถึง
เดิมทางวัดได้นิมนต์ ลพ.รวย ลพ.เพิ่ม ลพ.พูน ลพ.เพี้ยน เอาไว้
แต่ปรากฏว่าบางท่านติดกิจนิมนต์ที่อื่นไว้ไม่สามารถมาได้
ทางวัดจึงได้นิมนต์ท่านอื่นมาแทน
แต่เนื่องจาก ลพ.พร ท่านมีกิจธุระจะต้องไปพุทธาภิเษกที่อื่นต่อ
ก็เลยให้ท่านจุดทียนชัยและนั่งปรกก่อนเลย



ลพ.พร ท่านเป็นพระภาวนาจารย์และเป็นเจ้าพิธีนพเคราะห์เทวาภิเษกชื่อเสียงโด่งดังมาก
ท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาทางด้านวิปัสสนาธุระ จากพระภาวนาจารย์ชื่อดังจำนวนมาก เช่น
ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ.ลำพูน, ลพ.บุญมี วัดป่าธรรมโสภณ, ลพ.จวน วัดหนองสุ่ม จ.สิงห์บุรี,
ลพ.แพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี, ลพ.โอน วัดโคกเดื่อ จ.นครสวรรค์

 

มาติดตามอ่านครับ

 

หลังจาก ลพ.พร ท่านโปรยดอกไม้เสร็จกำลังจะกลับ
พระครูปกาสิตธรรมคุณ (สุวรรณ ธีรสัทโธ) วัดยาง อ่างทอง
ก็เดินทางมาถึง ท่านได้เมตตานั่งปรกให้เสร็จจนตลอดพิธีประมาณ 1 ชม.
โดยพระพิธีธรรม 4 รูป สวดพุทธาภิเษกและสวดอินทรวิเชียร




ลพ.สุวรรณ วัดยาง ท่านบวชเมื่ออายุ 42 ปี
ท่านได้ศึกษาร่ำเรียนวิทยาคมสาย ลพ.แป้น วัดบ้านไร่, ลพ.แพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี
ตะกรุดโทนของท่านดังมาก เพราะสร้างตามตำราพิชัยสงคราม
เคยถาม ลพ.ทองหยิบ วัดบ้านกลาง ว่าแถววัดท่านมีองค์ไหนที่น่ากราบอีก
ท่านยังแนะนำให้ไปหา ลพ.สุวรรณ วัดยาง เลย

 

อลังการมากๆๆๆยอดเยี่ยมครับ

 

หลังจากพระพิธีธรรมสวดพุทธาภิเษกไปได้จบแรก
พระครูสุวรรณวิโรจน์ (ชาญ ฐานมงฺคโล) วัดทอง สิงห์บุรี
ก็ได้เดินทางมาถึงพิธี




</Oข้อมูลเกี่ยวกับตัวท่านรู้น้อยมาก รู้แต่่ว่าดังในท้องถิ่น และตะกรุดของท่านมีประสบการณ์มาก
<Oท่านอายุ 57 ปี แต่ที่น่าทึ่งก็คือ ท่านนั่งปรกปลุกเสกแน่นิ่งไม่ไหวติงนานถึง 2 ชม.
<Oโดยไม่มีการปลี่ยนอิริยาบถใดๆ แถมท่านนั่งตัวตรงแหน๋ว ไม่มีการค้อมงอหรือโยกคลอนให้เห็น
แม้พระจะสวดพุทธาภิเษกจนจบ 4 รอบไปแล้วท่านก็ยังไม่ออกสมาธิ
ยังนั่งปรกต่ออีกประมาณ 1 ชม. เรียกได้ว่าท่านไม่ธรรมดาจริงๆ



</O

 

หลังจากนั้นพวกเราก็นั่งรอ ลพ.เพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน มาดับเทียนชัย
ซึ่งท่านได้โทรฯ มายืนยันว่ามาแน่แต่ช้าหน่อย
รอยู่ประมาณเกือบ 5 โมงเย็นท่านถึงได้เดินทางมาถึง



พระครูวิมลสมณวัตร (เพี้ยน อคฺคธมฺโม) วัดเกริ่นกฐิน ลพบุรี
อายุ 85 ปี ท่านได้ร่ำเรียนวิทยาคมจาก ลพ.ปาน อดีตเจ้าอาวาสวัดเกริ่นกฐิน
รวมไปถึงการได้ทบทวนสรรพวิชาเข้มขลังจากแผ่นดินกัมพูชา ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากโยมบิดาของท่าน
สุยอดวัตถุมงคลของท่าน คือ ตะกรุดโทนและผ้ายันต์แดง
ที่ท่านจะต้องเสกไตรมาสเท่านั้น ออกพรรษาถึงจะได้บูชากัน

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=23v4jDsVFWc&feature=player_embedded"]????????????? ??????????????5 - YouTube[/ame]

ลพ.เพี้ยน ท่านเมตตามาก มาถึงท่านก็นั่งปรกให้อย่างเต็มที่นานชม.กว่า เกือบชม.ครึ่งได้
เล่นเอาพระพิธีธรรมสวดจนจบ 4 ยกไปแล้ว ท่านยังไม่ออกจากสมาธิเลย
ที่จริงพิธีคราวนี้จะเรียกว่าพุทธาภิเษกก็ไม่ถูกนัก เพราะแต่ละท่านต่างมาทำให้แล้วก็กลับ
เหมือนต่างท่านต่างมาปลุกเสกเดี่ยวให้มากกว่า
ซึ่งนี่เป็นความเป็นจริงของพิธีพุทธาภิเษกของวัดต่างๆ ที่จัดพิธีในวันเดียวกัน
ก็จะมีสภาพเหมือนกันเช่นนี้
หลังจากเสร็จพิธีพุทธาภิเษกแล้ว หลวงพ่อเพี้ยนก็การันตีว่า...ดีแล้ว

 

พระครูสุวรรณวิโรจน์ (หลวงพ่อชาญ) วัดทอง ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภออินทร์บุรี ครับ

 

.



<iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/VkzCZiNaWzw" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>



.

 

เมื่อวานนี้ วันที่ 23 ตุลาคม ก็ได้กัลยาณมิตรใจดีรุ่นน้องช่วยนำแหวนไปเสกเพิ่มให้อีก 4 รูป คือ



พระครูนิพัธธรรมรัต (เกลื่อน คุตธมฺโม) วัดรางฉนวน ต.วังน้ำเย็น อ.แสวงหา จ.อ่างทอง
อายุ 88 ปี พรรษาที่ 64 ท่านได้รับการถ่ายทอดสายวิชาของ ลป.ศรี วัดพระปรางค์ สิงห์บุรี จาก ลพ.บัว วัดแสวงหา อ่างทอง
และได้ไปเรียนวิชาเพิ่มเติมจาก ลพ.ชั้น เกสโร วัดบางละแก นนทบุรี ลพ.คำ วัดหน่อพุทธางกูร สุพรรณบุรี
และได้สืบทอดวิชายันต์เกราะเพชรสาย ลพ.ปาน วัดบางนมโค อยุธยา จาก ลพ.แต้ม วัดพระลอย สุพรรณบุรี
หลังจากนั้นท่านได้ไปเรียนวิชชาธรรมกายกับ ลพ.สด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ รุ่นเดียวกับ ลป.ผาด วัดไร่
ลพ.เกลื่อน ท่านบรรลุญาณชั้นสูง มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ มีวิชาคงกระพัน เหรียญยิงไม่ออก และกำบังกายได้



วัดทั้งวัดมีท่านอยู่รูปเดียว เคยเอาวัตถุมงคลไปให้ท่านเสก
พอเราตั้งจิตอัญเชิญองค์ไหนมาท่านก็จะลืมตามาบอกว่าองค์นั้นที่เราเชิญท่านมาแล้ว
เป็นอย่างนี้ 2-3 ครั้ง เล่นเอาทึ่งในญาณรู้ของท่านเลยทีเดียว
คราวนี้เอาแหวนไปให้ท่านเสก ก็ให้รุ่นน้องกราบอาราธนาท่านบรรจุวิชชาธรรมกายให้
ท่านก็เมตตาทำให้นานราวๆ 10 นาที
หลังเสกเสร็จท่านก็บอกว่า....ดีๆๆๆ แล้วก็พรมน้ำมนต์ให้อีกที

ในภาพจะมีโหลอยู่ 2 โหล โหลนึงเป็นหนุมานไม้แกะที่ทำไว้ แช่อยู่ในน้ำมันชาตรีและน้ำมันเสกสารพัดครูบาอาจารย์
ส่วนอีกโหลหนึ่งเป็นพระพนัสบดีหินพระธาตุเขาสามร้อยยอดแกะ
ซึ่งได้นำติดไปเสกพร้อมกับแหวนด้วยทุกครั้ง

 

หลังจากนั้นก็ไปหา ลพ.มี วัดม่วงคัน อ่างทอง
ตั้งใจว่าจะขอให้ท่านลงมนต์พระสังข์ให้
แต่ปรากฏว่าท่านติดกิจนิมนต์ไม่อยู่วัด
ก็เลยไปหา ลพ.ทองหยิบ วัดบ้านกลาง แทน



ลพ.ทองหยิบ ปัชโชโต วัดบ้านกลาง หมู่ 3 ต.หนองแม่ไก่ อ.โพธิ์ทอง อ่างทอง
อายุ 84 ปี 62 พรรษา ท่านได้ศึกษาพระเวทย์วิทยาคมสายเพชรบุรี จากโยมเจียม บุญผ่อง ซึ่งเป็นโยมบิดา
ทั้งวิชาลงตะกรุดโทน ตะกรุดสามกษัตริย์ ตะกรุด 14 ดอก ตะกรุด 16 ดอก น้ำมนต์สะเดาะเคราะห์
ลพ.ทองหยิบ ท่านเป็นพระอาจารย์ท่านหนึ่งที่ ลพ.พิจารณ์ วัดโพธิ์ผักไห่ อยุธยา เคารพนับถือท่านมาก
วัตถุมงคลที่โด่งดังของท่าน คือ ตะกรุด เหนียวชนิดที่ว่าแมลงวันไม่ได้กินเลือด
ขลังชนิดที่เรียกว่าต้องลงชื่อจองกันเลยทีเดียว
เพราะวันหนึ่งท่านจะทำได้ประมาณดอกเดียว


เมื่อท่านเห็นรูปลักษณ์แหวนแล้วท่านก็ชอบใจ
ยิ่งกราบเรียนอาราธนาท่านว่าขอให้ช่วยประจุเทพอาวุธทั้ง 5 ประการให้ด้วย
ก็ยิ่งโดนใจท่าน ท่านเลยให้เปิดกล่องเสก หลังเสกเสร็จท่านก็บอกว่า....ดีแล้ว

จริงๆ แล้วตอนแรกท่านจะไม่ให้ถ่ายรูปตอนท่านเสก เพราะท่านกลัวเป็นของพวกศูนย์พระสร้างมาแล้วจะเอารูปท่านตอนเสกไปหากิน
พออธิบายว่าเป็นแหวนที่ทำถวายครูบาอาจารย์ ไม่ใช่พุทธพาณิชย์ และก็ไมได้เป็นของศูนย์พระด้วย
ท่านถึงได้ยอมอนุญาตให้ถ่ายรูปท่านได้
ก่อนกลับท่านยังแนะนำให้ไปหา ลพ.สุวรรณ วัดยาง
แต่พอดีเมื่อวันเสาร์ 5 ที่ผ่านมาท่านได้ไปเสกให้แล้วที่วัดถ้ำตะโกก็เลยไม่ได้ไป

 

หลังจากนั้นก็ได้ไปหา ลพ.แป๋ว วัดดาวเรือง ต่อ
พระครูปัญญาวิมล (แป๋ว อนุตตโร) วัดดาวเรือง ต.ไม้ดัด อ.บางระจัน สิงห์บุรี
อายุ 79 ปี 59 พรรษา ท่านบวชพระตั้งแต่อายุ 20
ท่านเป็นศิษย์ ลพ.กวย วัดโฆสิตาราม และลพ.เชน วัดสิงห์
<?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:fill class=inlineimg title=Open-mouthed alt="" border="0" src="http://palungjit.org/images/smilies/teeth-smile.gif" smilieid="28" v:fill o<>โดย ลพ.กวย ได้เรียกท่านไปสักยันต์หนุมานให้อยู่ที่สีข้างซ้าย ธนูมืออยู่ที่ง่ามมือซ้ายขวา
ท่านว่า “ ฝากวิชาไว้หน่อย เราเป็นครูบาอาจารย์เขา ก็ต้องหาคนสืบทอดไว้มั่ง ท่านแป๊วถ้าอายุ 70 ค่อยทำของทำพระนะ ช่วยคนหน่อย ”
อีกทั้งยังสอนวิชาทำน้ำมนต์ให้โดยใช้แม่ธาตุผสมกับมนต์พระธรณี เสกให้ร้อนได้ ให้เย็นได้
“ ท่านแป๊ว ทำให้เก่งเหมือนหลวงพ่อเถอะ รดน้ำมนต์อย่างเดียวก็สร้างวัดได้ ต่อไปรดน้ำมนต์หัวบันไดวัดไม่แห้งแน่” <O</O
หลวงพ่อแป๊ว เคยพูดกับศิษย์ ว่า
“ กู เรียนมาจาก ลพ.กวย ก็เยอะ เรียนมาจาก ลพ.เชน วัดสิงห์ ก็ไม่น้อย
ล้วนแต่เป็นวิชาที่เหนือดวง เหนือกรรม ทั้งนั้น
กูคิดแล้วก็อดดีใจไม่ได้ที่เกิดมาไม่เสียชาติเกิด บวชเป็นพระ ก็ได้ครูดีทั้งนั้นเลย ”



ที่ตั้งใจไปหาลพ.แป๋วก็เพราะท่านมีวิชาแหวนพิรอดเสี่ยงทาย ตำรา ลป.ศรี วัดพระปรางค์
ที่ท่านเรียนมาจาก ลพ.ทอง วัดพระปรางค์ เป็นแหวนหัวตะกร้อเนื้อทองเหลือง </O
<Oหลวงพ่อบอกว่าเวลาดวงดีนะ ทองจะสุกปลั่งเหมือนกับทองคำเลยทีเดียว เวลาดวงไม่ดีทองจะหมอง
อีกทั้งยังกันเขี้ยวงา อันตรายได้อีกสารพัด
ซึ่งอิทธิคุณคล้ายๆ กับแหวนนพสิทธิ์ฯ ก็เลยกะให้ท่านใช้วิชาของ ลป.ศรี วัดพระปรางค์เสกแหวนให้ด้วย


ท่านได้รื้อแหวนออกมาดูแล้วก็ชมว่า...สวยดี แต่ใหญ่ไปหน่อยนะ
เหมือนสมับมือ ชกหัวแตกได้ (555)
ปรากฏว่าระหว่างรื้อท่านก็เสกไปด้วย แล้วก็บอกว่าเสร็จแล้ว
เล่นเอาไม่ทันถ่ายภาพเลย เพราะไม่ทันคิดว่าท่านจะเสกให้ตอนรื้อดู
หลังจากนั้นท่านก็ประพรมน้ำมนต์ให้อีกทีหนึ่ง
ก่อนกลับท่านยังถามเลยว่า แล้วไม่เอาถวายท่านไว้บ้างเหรอ
ดูท่าท่านจะชอบจริงๆ

</v:fill>

 

องค์สุดท้าย คือ ลพ.ฉาบ วัดศรีสาคร
พระครูมงคลนวการ (ฉาบ มงฺคโล) วัดศรีสาคร ต.ต้นโพธิ์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี
ลพ.ฉาบ ท่านเป็นศิษย์ ลพ.แช่ม อินทโชโต วัดตาก้อง ตั้งแต่ยังเด็ก
สืบสายวิชาของลพ.พูล วัดสังฆราชาวาส จาก ลพ.ทรัพย์ ฐิตปญฺโญ วัดตลุก
เรียนวิชาสายลพ.เภา วัดถ้ำตะโก จาก ลพ.คง คงฺคปัญโญ
ได้ศึกษากสิณไฟกับ ลพ.โอภาสี
และสิบสายวิชาของ ลพ.ก๋ง จฺนทสโร วัดเขาสมอคอน จาก ลพ.บุญมี อิสสรโร


<O

ว่ากันว่า ลพ.ฉาบท่านบรรลุญาณสมาบัติชั้นสูง หูทิพย์ ตาทิพย์ ได้อภิญญา 6
ถอดกายทิพย์ไปบิณฑบาตต่างแดนในสถานที่ต่าง ๆ
มีผู้พบเห็นเดินข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาข้ามไปบิณฑบาตอีกฝั่งตรงข้าม
เข้าไปในห้องที่ปิดประตูล๊อคได้ สำเร็จวิชาแปลงธาตุ
เช่น ทำที่ทึบให้เป็นอากาศธาตุ น้ำให้เป็นดิน ลมให้เป็นไฟ เป็นต้น
อีกทั้งท่านยังเป็นสหธรรมมิกกับ ลพ.ชา วัดหนองป่าพง


เมื่อกราบเรียนท่านถึงวัตถุประสงค์แล้ว ท่านก้เมตตาเสกให้
แต่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป จึงไม่มีรูปท่านตอนอธิษฐานจิตมาให้ชมกัน
ท่านได้เมตตาเสกให้นานเกือบ 5 นาที แล้วก็บอกว่า....อ่ะ ดีแล้ว
ซึ่งถ้าใครเคยไปกราบท่านจะรู้ว่าปกติท่านเสกของให้แค่แปีบเดียว เรียกว่าอึดใจเดียวก็ว่าได้
แต่นี่ท่านนั่งทำสมาธิเสกให้นานถึง 5 นาที ซึ่งถือได้ว่านานเป็นพิเศษจริงๆ

ใครที่ได้จองบูชาไว้ก็ถือได้ว่าเป็นบุญของคนนั้นจริงๆ
เพราะตอนเปิดจองผมก็ยังสงสัย ว่าทำไมคนจองกันน้อยนัก
แต่ก็ไม่ไดคิดไรมาก ถือว่าใครเคยร่วมบุญกันมาก็ได้ไป
และจะเห็นว่าแหวนที่เอาไปเสกนั้น ไม่ได้มีมากมายอะไรเลย
แค่กล่องเดียว แต่ทุกทีที่เห็นตอนเสกกองเป็นพะเนินเทินทึกนั้น เป็นของบรรดาพรรคพวกที่ขนไปเสกแจมด้วยทั้งนั้น
แหวนรุ่นนี้ขนาดผมเองคนสร้างก็ยังเก็บไว้แค่ไม่กี่วง ไม่ได้ทำเผื่อไว้เลย เสียดายอยู่เหมือนกัน

 

ไปหาหลวงพ่อทองหยิบแล้ว น่าจะเลยเข้าไปอีกหน่อยครับที่ วัดเขาแก้ว หลวงพ่อชวน
ท่านเป็นหลานแท้ๆ ของหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้องครับ ตำราหลวงพ่อแช่มครึ่งหนึ่งอยู่กับท่าน
ท่านเคยอยู่กับหลวงพ่อเต๋ ด้วยครับ วัดท่านอยู่เลยวัดหลวงพ่อทองหยิบเข้าไปอีกหน่อยเองครับ ^^

 

ปิดท้ายที่หลวงพ่อฉาบ ประทับใจผมมากๆครับพี่หมอ อยากได้แหวนมาใส่ใจจะขาดแล้วครับพี่

 

ขออภัยครับ ผมพิมพ์สำนักสักยันต์ของอ. ธรรมนูญ ผิดไปครับ

ที่ถูกต้องเป็น สำนักสักยันต์บัวแปดกลีบ ครับ

ด้วยความเคารพ