ด่วน!! รีบจองที่นั่งเฝ้าระวัง: เดี่ยวภัยพิบัติ1 เเสดงแล้ววันนี้ทุกประเทศทั่วโลก

-ช่วงดึกครับยังมีการเขย่า ในแนวของวงแหวน รอยเลื่อน ครับ

​

 

ไต้ฝุ่นโบพาหวนคืนถล่มฟิลิปินส์อีกรอบ



พายุไต้ฝุ่นโบพาที่เพิ่งถล่มเกาะมินดาเนา ทางใต้ของฟิลิปปินส์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายเกือบ 1,000 คน ล่าสุดกำลังหสนคืนสู่ฟิลิปปินส์อีกรอบ คาดว่าจะขึ้นฝั่งทางเหนือเกาะลูซอนช่วงเช้าตรู่วันอาทิตย์


วันนิ้ (8 ธ.ค.) สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ว่า พายุไต้ฝุ่นโบพาที่เพิ่งคร่าชีวิตประชาชนนับพัน และกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัยอีกกว่า 2 แสนคน ทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ล่าสุดกำลังหันเหทิศทาง หวนคืนกลับสู่แดนตากาล็อกอีกรอบ คาดว่าจะขึ้นฝั่งทางเหนือสุดของเกาะลูซอน ช่วงเช้าตรู่วันอาทิตย์ (8 ธ.ค.)
โดยนายเบนิโต รามอส ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันภัยพลเรือนฟิลิปปินส์ แถลงข่าวที่กรุงมะนิลา ในวันนี้ว่า พายุไต้ฝุ่นโบพาจะพัดกระหน่ำเข้าสู่ชายฝั่ง ทางเหนือสุดของเกาะลูซอน ซึ่งเป็นเกาหลักของประเทศ ด้วยความเร็วลม 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าพายุจะทำให้เกิดฝนตกหนัก พร้อมกับเตือนประชาชนที่อยู่ในเส้นทางผ่านของพายุ ให้ใช้ความระมัดระวัง
นายรามอส เผยอีกว่า จุดศูนย์กลางพายุไต้ฝุ่นโบพา อยู่ห่างจากเมืองไซนาอิท ทางเหนือของเกาะลูซอน ไปทางทิศตะวันตกราว 230 กิโลเมตร เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น (15.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย) และกำลังเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
พายุไต้ฝุ่นโบพาเพิ่งพัดถล่มเกาะมินดาเนา ทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ด้วยกำลังแรงของลม 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ล่าสุดหน่วยกู้ภัยพบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 548 ราย ยังสูญหายอีกประมาณ 500 คน นอกจากนั้นยังทำให้ประชาชนในพื้นที่ กลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัยอีกราว 212,000 คน.

ที่มาจาก เดลินิวส์

 

พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 9 ธ.ค. 255 เวลา 07.00 น.


กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้แล้ว ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส

อนึ่ง เมื่อเวลา 0400 น. วันนี้ (9 ธ.ค.55) พายุไต้ฝุ่น “โบพา” (BOPHA) มีศูนย์กลางอยู่บริเวณทะเลจีนใต้ ด้านตะวันตกของเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ โดยคาดว่าจะมีแนวโน้มอ่อนกำลังลงและสลายตัวในระยะ 1-2 วันนี้ สำหรับพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

พยากรณ์อากาศตั้งแต่เช้าวันนี้ (9 ธ.ค. 55) จนถึงเช้าวันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ทางตอนบนของภาค อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-19 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 20-21 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-15 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาคอุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียสสำหรับบริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-18 องศาเซลเซียส

ภาคกลางอากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร อ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป:ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
สภาวะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ คำนวณโดยกรมอุทกศาสตร์
วันนี้ น้ำขึ้นเต็มที่ เวลา 01.23 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 39 เซนติเมตร และเวลา 12.58 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 1 เมตร 32 เซนติเมตร
น้ำลงเต็มที่ เวลา 05.31 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 24 เซนติเมตร และเวลา 22.43 น. ต่ำกว่าระดับทะเลปานกลาง 23 เซนติเมตร
วันนี้ ที่ประภาคารกาญจนาภิเษก แหลมพรหมเทพ จังหวัดภูเก็ต ดวงอาทิตย์ตกเวลา 18.10 น.
กรุงเทพมหานคร ดวงอาทิตย์ตกเวลา 17.51 น.


ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : วรรณิภา ภู่ทอง / สวท. วรรณิภา ภู่ทอง / สวท.
Rewriter : กัลยา คงยั่งยืน / สวท. กัลยา คงยั่งยืน / สวท.
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

 

13-14 ธ.ค.นี้ เตรียมชม “ฝนดาวตก” ส่งท้ายปี




วันนี้ (7 ธ.ค.) ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า ฝนดาวตกเจมินิดส์หรือฝนดาวตกกลุ่มดาวคนคู่ (Geminids Meteor Shower) ที่จะเกิดขึ้นประมาณกลางเดือนธันวาคมของทุกปี ในปีนี้จะเกิดขึ้นมากที่สุดในวันที่ 13-14 ธันวาคม นี้ และนับเป็นโอกาสดีที่ชาวไทยจะได้ชมความสวยงามของฝนดาวตกเจมินิดส์กันอย่างเต็มอิ่ม

เนื่องจากในวันดังกล่าวเป็นช่วงคืนเดือนมืด ข้างแรม 15 ค่ำ ไม่มีแสงจากดวงจันทร์มารบกวน นักดาราศาสตร์คาดการณ์ว่าในปีนี้จะสามารถสังเกตเห็นฝนดาวตกเจมินิดส์ได้มากถึง 120 ดวงต่อชั่วโมง ซึ่งจะสังเกตได้ง่ายกว่าฝนดาวตกลีโอนิดส์ เนื่องจากมีความเร็วของดาวตกไม่มากนัก ประมาณ 35 กิโลเมตรต่อวินาที สามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่าทางทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณใกล้กับกลุ่มดาวคนคู่ซึ่งเป็นศูนย์กลางการกระจายของฝนดาวตกเจมินิดส์ มีลักษณะเป็นริ้วสีขาวพาดผ่านท้องฟ้า ตั้งแต่เวลา 22:00 น. ของวันที่ 13 ธันวาคม ถึงเช้ามืดประมาณ 05:00 น. ของวันที่ 14 ธันวาคม ตามเวลาในประเทศไทย

“ จากการคาดการณ์ว่าในปีนี้จะสามารถสังเกตเห็นฝนดาวตกเจมินิดส์ได้มากกว่า 120 ดวงต่อชั่วโมงนั้น เนื่องจากตามเวลาในประเทศไทยที่คาดว่าจะเห็นดาวตกมากที่สุดเป็นเวลาหลังเที่ยงคืนของคืนเดือนมืด หากรอชมฝนดาวตกในสถานที่ที่มีท้องฟ้ามืดสนิท ไม่มีแสงรบกวน หรือพื้นที่บนดอยสูงที่มีทัศนวิสัยของท้องฟ้าที่มืดสนิท อาจสังเกตดาวตกได้มากถึง 200 ดวงต่อชั่วโมงเลยทีเดียว”ดร.ศรัณย์ กล่าว
สำหรับฝนดาวตกเจมินิดส์ มีศูนย์กลางการกระจายอยู่ระหว่างดาวพอลลักซ์ (Pollux) กับคาสเตอร์ (Caster) ในกลุ่มดาวคนคู่ เกิดจากสายธารเศษฝุ่น ของแข็ง และน้ำแข็งจำนวนมาก ที่ยังหลงเหลืออยู่ในวงโคจรของดาวเคราะห์น้อย 3200 เฟธอน (3200 Phaeton) ตัดผ่านวงโคจรของโลก ทำให้เศษฝุ่นของดาวเคราะห์น้อยเหล่านั้นเสียดสีกับชั้นบรรยากาศของโลก เกิดการเผาไหม้จนเห็นเป็นแสงสว่างวาบคล้ายลูกไฟวิ่งพาดผ่านท้องฟ้า
ทั้งนี้การชมฝนดาวตกควรเลือกสถานที่ท้องฟ้ามืดสนิทไม่มีแสงไฟรบกวน จะสังเกตเห็นดาวตกที่มีความสว่างและสวยงามน่าตื่นตาตื่นใจมาก แต่ก็ควรระมัดระวังถึงความปลอดภัยด้วย ส่วนวิธีการชมฝนดาวตกให้สบายที่สุดนั้น เนื่องจากการชมฝนดาวตกต้องอาศัยระยะเวลานานหลายชั่วโมง และจุดศูนย์กลางการกระจายของฝนดาวตกจะอยู่กลางท้องฟ้า ส่วนใหญ่จึงมักใช้วิธีนอนรอชมเพื่อไม่ให้เกิดอาการเมื่อยคอ

ด้านนายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์อาวุโส ผู้เชี่ยวชาญการถ่ายภาพทางดาราศาสตร์กล่าวแนะนำเพิ่มเติมในการเตรียมความพร้อมสำหรับการดูดาวและฝนดาวตกว่า ก่อนเริ่มต้นกิจกรรมดูดาว ควรงดใช้ไฟฉายเพื่อให้ดวงตาปรับสภาพประมาณ 2-3 นาที ให้ม่านตาขยายเพื่อสามารถรับแสงในที่มืดได้ดีขึ้นและมองเห็นดวงดาวที่มีแสงน้อยได้ จากนั้นเริ่มทำความรู้จักกับทิศและดาวเหนือ
ทั้งนี้ควรเริ่มต้นจากการดูกลุ่มดาวที่มีลักษณะเด่นหรือมีความสว่างมาก เช่น กลุ่มดาวนายพราน กลุ่มดาวสุนัขใหญ่ กลุ่มดาวสุนัขเล็ก และสามเหลี่ยมฤดูหนาว ส่วนผู้ที่ต้องการถ่ายภาพฝนดาวตก ควรใช้กล้องที่สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้ และใช้ความไวแสงสูงๆ ตั้งแต่ ISO 1600 ขึ้นไป เพื่อให้กล้องมีความไวแสงในการบันทึกภาพฝนดาวตก รวมทั้งการตั้งกล้องบนขาตั้งกล้องที่มั่นคง ตั้งขาตั้งกล้องให้ต่ำพร้อมกับเงยหน้ากล้องขึ้นเพื่อเก็บภาพท้องฟ้าให้ได้กว้างที่สุด โดยหันหน้ากล้องไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทิศที่เป็นศูนย์กลางการเกิดของฝนดาวตก (Radiant) บริเวณกลุ่มดาวคนคู่ซึ่งจะเริ่มโผล่ขึ้นจากขอบฟ้าตั้งแต่เวลาประมาณสองทุ่ม ของวันที่ 13 ธันวาคม เป็นต้นไป —ISN 07

ที่มา : เดลินิวส์ | อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์

 

แผนภูมิของ "หอสังเกตุการณ์ฮ่องกง" (Hong Kong Observatory) ออกเวลา 18.01 (17.01 น.เวลาในประเทศไทย) แสดงให้เห็นไต้ฝุ่นระดับ 1 ฟาดงวงฟาดงาอยู่ริมตะวันออกสุดทะเลจีนใต้ใกล้เกาะลูซอน (Luzon) พัดเอาไอน้ำฟุ้งกระจายเป็นทางยาวหลายร้อยกิโลเมตร ด้วยอัศจรรย์แห่งธรรมชาติ "บุปผาอมหิต" กำลังมุ่งหน้ากลับไปถล่มฟิลิปปินส์อีกครั้งหนึ่งในช่วงเวลาห่างกัน5 วัน และในวันเสาร์นี้สำนักพยากรณ์อากาศชั้นนำแห่งต่างๆ เริ่มจับทิศทางได้ถูกต้องเป็นเอกภาพกัน หลังจากเฉียดเข้าฟิลิปปินส์ ไต้ฝุ่นชื่อเขมรจะหันหัวลงใต้อีกครั้งไปสิ้นฤทธิ์ทางตอนใต้ของทะเลจีนใต้ตอนปลายๆ สัปดาห์หน้า.. อายุยืนยาวกว่าที่คาด เป็นการหักปากกาเซียนอีกครั้งหนึ่ง.


จากเกาะมินดาเนา บุปผาพัดเข้าสู่ทะเลจีนใต้เล่นเอาเถิด ทำให้บรรดานักพยากรณ์อากาศชั้นนำของโลกมีความเห็นไปคนละทิศละทางกับทิศทางการเคลื่อนตัวของมัน จนกระทั่งตอนสายวันเสาร์นี้ ทุกสำนักจึงได้ออกแผนภูมิพยากรณ์ไปในทิศทางเดียวกัน

ใครที่เคยสบประมาทพายุฤดูหนาว หรือ “พายุหลงฤดู” เอาไว้เห็นทีจะต้องคิดใหม่ ไม่เพียงแต่บุปผาจะยังคงความแรง และความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางในระดับไต้ฝุ่นเท่านั้น หากอายุจะยืนยาวขึ้นอีก 2 วัน ขณะเคลื่อนตัวไปช้าๆ ด้วยความเร็ว 5-10 กม./ชม. คาดว่าจะปักหัวลงทิศใต้ และท่องไปในทะเลจีนใต้ต่อไปอีกในช่วง 3 วันข้างหน้า ขณะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน และจะกลายเป็นดีเปรสชันขณะอยู่ตอนใต้สุดของทะเลจีนใต้ในวันอังคารหน้า

เป็นอีกครั้งหนึ่งที่บรรดานักไล่จับพายุได้เห็น “ไต้ฝุ่นเต้นร็อก” ในทะเล และผู้ที่ติดตามมาตั้งแต่ต้นจะเห็นการทำ “ยูเทิร์น” อันสวยงามของไต้ฝุ่นบุปผาในสัปดาห์นี้

เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันพลเรือนของฟิลิปปินส์กล่าวในวันเสาร์นี้ว่า ไต้ฝุ่นบุปผาจะตีวงโค้งเข้าถึงเขตเกาะลูซอนในเช้าวันอาทิตย์ 9 ธ.ค.นี้ ซึ่งจะทำให้เกิดฝนตกหนักครอบคลุมรัศมี 400 กิโลเมตร ซึ่งหมายถึงในกรุงมะนิลา เมืองหลวงด้วย






"บุปผา" ไต้ฝุ่นชื่อไพเราะและอ่อนหวานในภาษาเขมรอึดมหาอึด ภาพดาวเทียมขององค์การบริหารผืนมหาสมุทรและห้วงอวกาศแห่งชาติ (National Oceanic and Atmospheric Administration) ของสหรัฐแสดงให้เห็นไต้ฝุ่นระดับ 1 หมุนคว้างอยู่ขอบตะวันออกทะเลจีนใต้ ขณะเคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ข้อมูลของหน่วยงานสหรัฐทุกหน่วยระบุว่า บุปผาจะมีอายุยืนยาวไปจนถึงวันพฤหัสบดี 13 ธ.ค. โดยจะเริ่มอ่อนแรงลงเป็นพายุโซนร้อนต้นสัปดาห์หน้า.






วันเสาร์นี้ศูนย์ร่วมแจ้งเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center) หน่วยงานของกองทัพเรือสหรัฐ ตั้งหลักได้ แผนภูมิที่ออกโดย JTWC ในตอนสายวันนี้แสดงให้เห็นทิศทางใหม่ของไต้ฝุ่นบุปผา (Bopha) ที่กำลังบ่ายหน้ากลับไปถล่มเกาะเหนือของฟิลิปปินส์ และคาดว่าจะวกลงใต้หลังจากนั้น อ่อนแรงลงและมลายไปในปลายสัปดาห์ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมามีไต้ฝุ่นไม่กี่ลูกที่เคยหลอกล่อให้นักพยากรณ์อากาศชั้นนำของโลก "หลงทาง" ได้ขนาดนี้.



แผนภูมิอพยากรณ์ของศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางในกรุงฮานอยออกเวลา 17.30 น. วันเสาร์นี้ แสดงทิศทางการเคลื่อนที่ของไต้ฝุ่นบุปผา (Bopha) จนถึงวันอังคาร 11 ธ.ค. สำนักฯ อุตุฯ แห่งนี้ ชี้เส้นทางของไต้ฝุ่นชื่อเขมรถูกต้องมาตลอด และสั่งให้ท้องถิ่นต่างๆ เตรียมรับมือมาตั้งแต่ต้น ขณะเดียวกันก็ป้อนข้อมูลการเปลี่ยนแปลงให้สังคมได้รับทราบทุกๆ 3 ชั่วโมง.






แผนภูมิที่ออกในตอนสายวันเสาร์ 8 ธ.ค.นี้ แสดงให้เห็นการพยากรณ์ของสำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งต่างๆ ซึ่งแทนที่ด้วยแต่ละเส้นสี ทุกแห่งเริ่มเป็นเอกภาพกันมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางการเคลื่อนที่ของไต้ฝุ่นบุปผา (Bopha) หลังจากหลงทิศหลงทางกันมากมายในช่วงวันพฤหัสบดี-วันศุกร์ที่ผ่านมา คาดว่าบ่ายวันอาทิตย์นี้ไต้ฝุ่นชื่อเขมรจะมุ่งหน้าลงทางทิศใต้และตะวันตกเฉียงใต้ ก่อนจะไปสิ้นฤทธิ์อยู่แถบตอนใต้ของทะเลจีนใต้ปลายสัปดาห์หน้า.

แหล่งที่มา ผู้จัดการออนไลน์

 

สวัสดีครับ
-ความเปลี่ยนแปลงของอากาศบนโลกนี้เป็นข้อสังเกตุว่า เราจะเจอธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงขึ้นแม้นแต่พายุบุปผา ซึ่งถ้าปกติแล้วต้องมีทิศทางการเคลื่อนที่ไปตามแนวปกติก็ต้องเป็นเวียดนามและไล่ไปเรื่อยๆแต่นี่วนไปวนมา และแม้นแต่การรายงานคาดว่าจะสลายตัวแต่อาจมีชีวิตขึ้นมาได้อีก ตามรายงานของคุณengineer03 ครับ
-มาดูการสั่นไหวของแผ่นดิน เหมือนเดิมครับอยู่ที่4-5 ริกเตอร์ครับ...

​

 

พายุบุพผาเป็นเหมือนวัญญาณร้ายคืนชีพนะครับ เพราะวนไปมาหลอกหลอนชาวแปซีฟิก ส่วนวันนี้ผมขอรายงานสั้นๆว่า มีข่าวว่าประเทศจีนเทียนไขขาดแคลนหมดแล้วครับ เนื่องจากกระเเสวันสิ้นโลกครับ

 

ผมว่าในโลกนี้ คงมีไม่กี่ประเทศที่จะเข้าแถวรับของแจก
ถ้าเกิดขึ้นที่ไทยแลนด์ แดนสยาม คงยุ่งแบบนี้เป็นแน่
อย่างน้อยกลุ่มที่เตรียมตัวรับมือ น่าจะไม่ลำบากขนาดนี้ครับ

 

13:00 JTWC ประกาศการสลายตัวของดีเปรสชัน TD26W หรือ โบพา หรือบุปผา แล้ว (โดยการขึ้นคำว่า ส่วนที่หลงเหลือ หรือ RMNTS)



ภาพถ่ายจากดาวเทียม MT-SAT ในโหมดอินฟราเรด แสดงกลุ่มเมฆในเวลาล่าสุด







ที่มา เว็บภัยพิบัติ Paipibat.com

 

สวัสดีตอนค่ำแก่ๆของวันอาทิตย์ที่ 9 ครับ วันนี้ กทม เงียบสงบเพราะหลายคนยังไม่กลับจากต่างจังหวัดครับ และลมเย็นปนลมฝนพัดโชยสลับกันครับ ผมได้กลิ่นทั้งหน้าฝนและหนาวในลมหายใจเดียวกันครับ วันนี้เป้นวันที่ กทม เงียบสงบโรเเมนติคมากมายครับพี่น้อง ผมได้ออกไปแอบสำรวจที่โลตัสพระรามสี่ พบว่าของที่สำคัญต่อการรับมือหายนะภัยพิบัติหลายรายการยังคงอยู่บนชั้นวางอย่างสงบครับ ที่ผมจับตาดูเป็พิเศษคือ เทียนไขครับ ถ่านไฟฉายครับ มาม่า และ ผ้าอนามัยครับ เพราะผมเก็งว่าหากมีนักเตรียมพร้อ,ตื่นตัวว่าวันสิ้นโลก(ในเชิงทฤษฏี) เหลือเพียง สิบวันจากวันนี้ ทุกคนจะเเย่งกันซื้อสิ่งเหล่านี้หมดเป็นอันดับแรกครับ แล้วทุกท่านได้เตรียมพร้อมในโค้งสุดท้ายกันหรือยังครับ

 

-รายงายแผ่นดินไหว ช่วงค่ำครับ

​

 

อย่าลืมพกเงินสดติดตัวบ้างนะครับ
เพราะตู้เอทีเอ็มเดี้ยงแน่ๆ
บัตรเครดิตก็คงใช้ไม่ได้
และควรเตรียมเติมน้ำมันเต็มถังไว้เรื่อยๆ

 

วันนี้ไปฟังพระอาจารย์รัตน์มาน่ากลัวกว่าที่คิดวันที่๓มค.จะเดินไม่ได้ทำอะไรไม่ได้เลยไป๔๒วัน

 

เราสั่ง ห้าง C online มาแล้ว อาหาร น้ำ กลัวไม่มีน้ำ ไม่มีไฟใช้

 

01:00 หย่อมความกดต่ำที่หลงเหลือ หรือ RMNTS ของ 26W เคลื่อนไปทางตะวันออกของฟิลิปปินส์ ความกดอากาศสูงจากจีนเริ่มมีอิทธิพลต่อไทย (ภาพแผนที่อากาศจาก TMD) อากาศภาคเหนือเริ่มหนาวเย็นลง



05:40 ฝนหนักแถวชายทะเลบางขุนเทียน กับแถวพระสมุทรเจดีย์

06:30 กรุงเทพ 26°C ลพบุรี 26°C นราฯ 25°C หาดใหญ่ 24°C พังงา 24°C อุบล 21°C ขอนแก่น 21°C พะเยา 17°C ลำพูน 15°C ลำปาง 15°C เชียงใหม่ 15°C

07:00 กาฬสินธ์ 19.8 °C เลย 20.2 °C หนองคาย 22.2 °C แพร่ 20.9 °C อุตรดิตถ์ 22 °C น่าน 19.5 °C เชียงราย 14.9 °C แม่ฮ่องสอน 14°C

07:00 ภาพดาวเทียมจาก JTWC หลังพายุโบพาสลายตัว พบหย่อมความกดอากาศต่ำใหม่ ทางแปซิฟิคใต้



ที่มาจาก เว็บภัยพิบัติ Paipibat.com

 

สวัสดีครับ
-อย่างที่บอกการสั่นไหวของแผ่นดินนี้แต่4-5 ริกเตอร์ขึ้นไปกระผมว่ามันเริ่มแรงขึ้นน่ะครับ

​

 

สวัสดีเช้าวันที่ 10 ธค 2012 นะครับทุกท่าน เหลือเวลาอีก 7 วันจะถึงวันที่ 17 หรือเป็นวันที่พระอาจารย์รัตน์ เตือนให้สังเกตุว่าจะมีความผิดปรกติต่างๆเกิดขึ้นนะครับ เมื่อคืนนี้ได้ไปอ่านข้อความที่พี่ flakman เขียนไว้อีกกระทู้เกียวกับการเตือนแบบฟันธงของอาจารย์นะครับ ผมถึงกับรู้สึกหวิวๆเพราะดูแรงมากครับ ตอนนี้เลยตั้งใจว่าจะเตรียมความพร้อมให้เสร็จภายในอาทิตย์นี้เลยครับ ในด้านอุปกรณ์เครื่องมืออำนวยการใช้ชีวิตอยู่และผมย้ายหลายสิ่งลงที่พื้นหมดแล้วครับ เพราะหากเกิดเหตุการ 42 วันจริงที่คนเราอาจจะยืนไม่ได้ คงจะต้องวุ่นวายน่าชม และนับจากตอนนี้อีก 11 วันก็จะถึงวันที่ 21 ธค 2012 นะครับ เป็นอีกวันที่คนมากกกกกกกในโลกกำลังเฝ้าดูว่าจะมีเหตุการณ์อะไรหรือไม่
ผมเองอ่านและทำความเข้าใจกับการคาดการณ์ของทั้งสองเรื่องอย่างมีสตินะครับ และผมได้ข้อสรุปว่าการเจรียมการไว้หากไม่เหนือบ่ากว่าแรงไป ก็จะดีกว่าหากเกิดแล้วไม่พร้อมรับมือนะครับ สิง่ที่เป็นสาระที่พี่ falkmann เอามาเขียนในอีกกระทู้นึงเป็นเรื่องที่ถือว่าหากว่าเกิดก็คงรุนแรงมากเลยครับ ผมเองรู้สึกเสียวหลังไปด้วยตลอดเวลาครับตั้งแต่อ่านเมื่อคืนนี้ครับ พี่ falkman เอาข้อมูลที่ดีมากมาโพสนะครับลองไปอ่านดูครับ


ส่วนวันนี้เป็นวันหยุดยาวอยู่นะครับ หากใหกำลังเดินทางกลับไปทำงานพรุ่งนี้ก็เดินทางดีดีนะครับ

 

ผมเองพออ่านข้อมูลของพระอาจารย์รัตน์ ก็ใจสั่นๆ ครับ
คงต้องเิริ่มเตรียมการไว้บ้างแล้วครับ อย่างน้อยถ้าเหตุปัจจัยไม่สามารถลางานออกนอกกรุงเทพได้ทันเวลา ก็คงต้องอาศัยการภาวนาแทนแล้วล่ะครับ

 

แล้วถ้า มันไม่มีอะไรขนาดนั้น ทำไงดีครับ

 

ถ้ามันไม่เกิด ก็เตรียมตัวไปเรื่อยๆกับ เตรียมไปเรื่อยๆๆ จนกว่าจะเบื่อกันไปเองครับ