ยาคูลท์... เรื่องที่หลายคนยังไม่รู้

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย Red-X, 18 มกราคม 2013.

  1. Red-X

    Red-X เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    370
    ค่าพลัง:
    +1,217
    [​IMG]

    ปัจจุบัน มีเครื่องดื่มน้ำสีส้มขวดขาวขุ่นออกมาวางแข่งกับยาคูลท์หลายยี่ห้อ ดิฉันก็เคยซื้อกินเหมือนกัน ด้วยเหตุผลที่ว่ามันถูกดี กินทีอิ่มไปหลายชั่วโมง หลอดก็ใหญ่กว่าดูดได้สะใจ หรือจะยกซดก็ไม่เลว แต่จะว่าไปแม้จะพยายามเลียนแบบอย่างไร (ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้าอื่นเขาจงใจเลียนแบบหรือแค่บังเอิญ) ยาคูลท์ก็ยังไม่มีผู้ใดเทียบเทียมได้

    มีข้อน่าสังเกตคือ ยาคูลท์ไม่ควรดื่มเกินวันละ 2 ขวด เนื่องจากแท้จริงแล้วยาคูลท์นั้นมิใช่ขนม แต่เป็นนมที่ผ่านการหมักบ่มกับน้ำตาลและน้ำ และผสมกับเชื้อแบคทีเรียฝ่ายธรรมะ ที่ชื่อว่า Lactobacillus casei shirota strain ที่เราคุ้นๆหูกันอยู่นั่นเอง ดังนั้นถ้ามีไอ้ เลคโตบาสิลัสมากไป มันอาจจะแย่งที่อยู่ ทีนี้ละก็บ้านที่มันอาศัย หรือก็คือท้องของเราเองก็จะถูกแลคโตบาสิลัสพันธุ์นักการเมืองปู้ยี่ปู้ยำ ผลสุดท้ายเป็นอย่างไรคงไม่ต้องบอก

    [​IMG]
    Lactobacillus casei shirota

    ยาคูลท์ทำงานอย่างไร

    หากมองลงไปในพุงกะทิของเราเองจะเห็นว่าลำไส้เล็กนั้น จะบีบขย้ำกดขี่ข่มเหงและแปลงอาหารที่เรากินเข้าไปให้เป็นสารที่เป็นประโยชน์ เพื่อรอการดูดซึมแต่ในขณะเดียวกันก็จะมีสารที่เป็นโทษหลุดรอดออกมาด้วย เมื่อร่างกายก่อเกิดความสมดุลของแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ ระบบย่อยอาหารของเราก็จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

    เฉลี่ยแล้ว แลคโตบาซิลัสมีมูลค่าตัวละ 0.00000000075 บาท
    แต่ถ้าสมดุลเสียไป สารพิษและสารอันตราย อาจถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้โดยง่าย ดังนั้นไอ้เจ้าแลคโตบาสิลัสก็เลยคิดใหม่ทำใหม่กลายเป็นพระเอกม้าขาว(ออกสี นวลๆส้มๆหน่อย) เข้ามาแก้ปัญหาดังกล่าวโดยการปรับสมดุลของลำไส้ ช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของช่องท้องให้ สม่ำเสมอ ลดสารที่จะก่อให้เกิดความเสียหายที่ถูกผลิตโดยแบคทีเรียฝ่ายค้าน(ฝ่ายย่อย สลาย)


    จุดเริ่มต้น

    หากใครคิดว่ายาคุลท์มีแค่เมืองไทยละก็ผิดถนัด เพราะยาคูลท์มีสัญชาติญี่ปุ่นเต็มตัว นับว่าเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับโกโบริก็น่าจะได้ เพราะเมื่อ 70 กว่าปีก่อนหรือปี คศ.1930 ดร.มิโนรุ ชิโรตะ (คศ.1899-1982) จากคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยเกียวโตประเทศญี่ปุ่น ได้เริ่มต้นวิจัยพัฒนายาคูลท์ขึ้นเป็นครั้งแรก ด้วยเหตุที่ว่าในช่วงเวลานั้น ชาวญี่ปุ่นประสบกับปัญหาเกี่ยวกับโรคที่เกี่ยวกับระบบย่อยอาหารเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เนื่องจากขาดสารอาหาร การสาธารณะสุขและสภาพเศรษกิจ และในระหว่างปี คศ. 1930-1935 ดร.ชิโรตะสามารถจำแนกแยกแบคทีเรียจากลำไส้คนได้ถึง 300 ชนิด

    เป้าหมายหลักคือจำแนกแบคทีเรียที่สามารถอยู่รอดปลอดภัยจากการเดินทาง ของมันผ่านช่องท้องและน้ำดีที่มีฤทธิ์เป็นกรด ไปสู่ลำไส้เล็ก ที่ๆมันสามารถทำงานได้ในระบบย่อย แบคทีเรียแต่ละชนิดถูกทดสอบความทนทานต่อกรดและน้ำดี และแบคทีเรียตัวที่หนังเหนียวที่สุดก็คือ Lactobacillus casei และถูกตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่เขาว่าShirota strain

    ยาคูลท์ถูกผลิตในห้องแลบของดอกเตอร์ชิโรตะและแจกจ่ายสู่ผู้ป่วยและผู้ที่ ต้องการในเกียวโต จนกระทั่งในปี 1935-1955 ยาคูลท์ถูกผลิตเพื่อขายทั่วทั้งญี่ปุ่นโดยผู้จำหน่ายอิสระ

    ใน ปี1955 ดร. ชิโรตะ ก่อตั้งบริษัท Yakult Honsha เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งทางธุรกิจ และควบคุมผู้จำหน่ายตั้งแต่นั้นมากลุ่มบริษัทยาคูลท์ได้ขยายตลาดสู่สากล กว่า 200 บริษัทใน 17 ประเทศ ในขณะเดียวกัน บริษัทแม่ Yakult Honsha ก็มีส่วนเกี่ยวของกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนนผสมของแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ หลายชนิด จนกระทั้งปี 1967 สถาบันวิจัยที่มีชื่อว่า Yakult Central Institute for Microbiological Research ก็ถูกก่อตั้งขึ้นในโตเกียว


    [​IMG]


    ทางบริษัท กล่าวว่าเวลานี้ ทุกๆวัน ยาคูลท์ถูก ดื่ม จิบ ดูด ซด กรอก เท หรือ กระทำการใดๆ โดยกว่า 25 ล้านคนทั่วโลก (ผมว่าอย่างน้อย โดยเฉลี่ยคนละ 2 ขวดต่อวัน) ถ้าข้อมูลนี้เป็นจริง ยาคูลท์ก็น่าจะมียอดจำหน่ายเกินกว่า 50 ล้านขวดแน่นอน เพราะผมเชื่อว่ายังมีเด็กอีกมากที่ซดยาคูลท์ เหมือนผู้ใหญ่ซดเหล้า โดยเฉพาะประเทศไทย นอกจากเด็กเล็กเด็กโตเด็กโข่ง ก็ยังมีผู้บริโภคที่สามเช่นนางกวัก ศาลเจ้าพ่อ เจ้าแม่ ต้นไม้ อีกด้วย

    นอกจากนั้น ยาคูลท์ก็ยังเป็นธุรกิจขายตรงที่ไม่ใช่ MLM ที่ยืนยงมาถึงทุกวันนี้อีกต่างหาก สมัยเด็กๆมีสาวยาคูลท์ขี่จักรยานมาขายยาคูลท์ที่บ้านทุกวัน เวลาผ่านไปกว่า 20 ปี เธอก็ยังเป็นสาวยาคูลท์ปั่นจักรยานอยู่เช่นเคย (แต่ไม่รู้ว่าคันที่เท่าไรแล้ว)...

    สาวยาคูลท์เค้าฝากบอกมา...

    ถ้าท้องผูก เพราะพฤติการการทานอาหาร ช่วงแรก ๆ ที่ทานยาคูลท์ อาจไม่เห็นผล แต่ให้ทานทุกวันต่อเนื่อง เพื่อให้จุลินทรีย์ไปปรับสภาพในลำใส้ จะดีขึ้น แล้วจะเห็นผลในที่สุด...ไม่เชื่อลองดู

    สำหรับคนที่มีอาการท้องเสีย หลังการทานอาหารพวกส้มตำ ให้ทานยาคูลท์ตาม 2 ขวด รับรองเห็นผล ถ้าเป็นบิด ก็ให้ทานสัก 5 ขวด และหากลามไปถึง อหิวา ก็ให้ทานมากขึ้นตามลำดับ (จำไม่ได้แล้วว่ากี่ขวด เธอพูดเร็วมาก) แต่ยังไม่หยุดถ่าย หรือ ถ่ายเป็นน้ำเป็นปี๊ปๆ เธอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เพราะยาคูลท์คงช่วยท่านไม่ได้แล้ว...ฮี่ๆ

    1 ขวดเก็บได้ 7 วัน ถ้าเกินจากนี้ให้เก็บในตู้เย็นจะอยู่ได้อีก 21 วัน แต่ที่กำหนดให้อายุยาคูลท์สั้น จะได้สั่งกินกันทุกวัน ไม่งั้นคนจะซื้อตุน เค้าก็ขายไม่ได้...อะคริ อะคริ (แต่ก็จริงเค้ามาส่งทุกวัน จะซื้อตุนทำไม ชิมิ)

    ถ้า เก็บที่อุณหภูมิ 10 องศา จุลินทรีย์จะหลับ แล้วช่วงที่เราเอาออกมาดื่ม ณ อุณหภูมิห้อง 37-38 องศา มันจะตื่นก็พร้อมจะทำงานให้ร่างกายเราทันที

    ถ้าตู้เก็บความเย็นไม่พอ หรือวางทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง จุลินทรีย์อาจมีปริมาณมากกว่าที่ระบุไว้ข้างขวด เพราะมันเติบโตขยายพันธุ์ไปเรื่อย ๆ แต่ตัวพ่อตัวแม่จะเริ่มอ่อนแอลง เพราะออกลูกออกหลานจนเหนื่อย ....ฉะนั้นให้รีบๆ กินซะ

    แต่ถ้าคุณปล่อยให้ยาคูลท์ตากแดด จุลินทรีย์จะตาย ยังกินได้อยู่นะ แต่ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ...

    [​IMG]

    ที่มา : http://webboard.yenta4.com/topic/401793
     
  2. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    คนที่ขับรถแล้วง่วงตอนบ่ายหลังกินข้าวกลางวัน

    แนะนำให้ให้กินยาคูลหรือโยเกิร์ตประเภทเดี๋ยวกัน 2 ขวด ครับ
    อาการง่วงจะหายไปในเวลาไม่นาน ขับรถปลอดภัย

    แล้วที่สำคัญ....ดีกว่ากินคาเฟอีนในกาแฟอีกด้วย ครับ
     
  3. Stabilo

    Stabilo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +760
    ทำข้าวหมากกินเิองถูกกว่าเยอะเลย
    เป็นแหล่งของโพรไบโอติก
    ที่มีจุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัส

    แป้งข้าวหมากก็มีขายกันอยู่
    + ข้าวเหนียว
     
  4. Stabilo

    Stabilo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +760
    กินทีละ2ขวดปีนึงขยะ 730 ขวด
    น่าจะมีแบบรีฟิวเนอะ
     
  5. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    อือมม์ น่าจะสุขภาพดีขึ้นไปตามๆกัน...
    ขอบคุณพี่Red-X ครับ..



    ท่าน Stabilo ท่าทางทำอาหารเก่ง คราวก่อนแนะนำมันเผา แทนครัวซอง ..ว่าแต่ข้าวหมากกินเเล้วเมาได้นิครับ..?
     
  6. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    ดื่มยาคูลท์เหมือนกันค่ะ แต่ไม่ได้ดื่มประจำ จะเปลี่ยนยี่ห้อไปเรื่อยๆค่ะ
    คิดว่านอกจากได้รับน้ำตาลมากไปแล้วก็ไม่น่ามีอันตรายมากมายอะไร
    ดื่มแล้วก็สดชื่นดีค่ะ (2 ขวดค่ะ ^^)
     
  7. Stabilo

    Stabilo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +760




    ข้าวหมาก ใช้เวลาหมักข้าวหมากเพียง 3 วัน เท่านั้นครับ
    จะเริ่มหวานจัดประมาณวันที่ 3 และถ้าหมักไว้นานสัปดาห์จะมีกลิ่นเหล้าอ่อน ๆ
     
  8. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    อิอิอิอิ....พอดีกินไม่ได้ เพราะเข้าข่ายเป็นเมรัย

    ผิดศีลข้อ ๕ ครับ ครูอาจารย์ห้ามไว้ เลยอดซะ....อิอิอิอิ :p
     
  9. makigochan

    makigochan ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    6,247
    ค่าพลัง:
    +68,061
    มีครั้งนึงตอนเป็นเด็ก ไปเจอขนมห่อใบตองนึกว่าข้าวเหนียวสังขยาอ่ะค่ะ
    พอเปิดดูอ้าว ข้าวหมาก ลองชิมดู เอ๊อ..กินไม่เป็น มันเหม็นเหล้าอ่ะ พยายามแล้ว
    :'(
     
  10. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    ต้องทานตอนที่มีรสหวานๆนะคะ
    ไม่งั้นจะเป็นเหมือนติง
    ติงเคยทานตอนเด็กๆ ที่เขาทำใส่ไหมา
    ใช้หลอดดูดค่ะ
    เขาเรียกว่าสาอะไรนะคะ

    ก. สามัญ
    ข. สาเอก
    ค. สาโท
    ง. สาตรี
    จ. สาจัตวา

    ด้วยความหวานจึงดื่มไปมาก
    พอเงยหน้าขึ้น หงายหลังเลยค่ะ 5555
    จำได้จนบัดเดี๋ยวนี้
     
  11. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    อย่างที่คุณครูติงดูดไปนั่น ข้อที่ถูกต้องคือ ข้อ ฉ. ครับ

    สาเมา.....อ่ะ 5555555555555 (one-eye)
     
  12. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731

    แต่ว่าติงก็ยังชอบทานข้าวหมากนะคะ
    ทานทีละนิด อร่อยค่ะ
    ด้วยความที่รสหวานมาก ต้องละเลียดทาน^^

    ถามว่าถ้ามีเป็นไหมาให้จะดื่มอีกหรือเปล่า
    ก็ขอดูรสก่อนนะคะ ถ้ายังหวานๆ ก็ไม่ปฏิเสธค่ะ
     
  13. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    5555555 ขำเพราะเห็นภาพพี่ติงอะคับcatt3catt3catt3catt3
     
  14. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,695
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,020
    ตามติดชีวิตสาวยาคูลท์ 1 วัน ทำอะไรบ้าง ? | LOCALTalk


    ดู clip ข้างบนนี้ได้เช่นกันครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...