ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

อ่านฝันของคุณชยุตแล้ว

รู้สึกถึง... การเดินทาง (การผจญภัย) ของจิตวิญญาณเลย

ตอนแรก ๆ ไม่ชำนาญ ก็ต้องลำบากหน่อย

เมื่อถึงจุดหนึ่ง ที่จบกิจแล้ว ก็จบเลย

แต่อาจจะมีเรื่องที่ต้องเรียนรู้ต่อไป แต่ก็ไม่ได้ยากลำบากอีกต่อไปแล้ว

(ปล.เขียนไปตามความรู้สึก เพราะกำลังตีความฝันของตัวเองอยู่เหมือนกัน อิอิ)

 

สวัสดีค่ะ ช่วงนี้ติดงานอีกแล้ว เดี๋ยวเคลียร์เสร็จแล้วจะกลับมาต่อบทความที่แปลค้างไว้นะคะ ^^

พูดถึงฝัน เมื่อคืนฝันแปลกมากเหมือนกันค่ะ แต่มันออกโหดๆยังไงไม่รู้เลยยังไม่กล้าเล่า แต่เล่นเอาตอนตื่นขึ้นมาแล้ว ทั้งเพลียทั้งอึมครึมเลยค่ะ

วันนี้ก็นั่งทำงานไปเรื่อยๆมันก็ค่อยๆดีขึ้นเอง แต่มันก็ยังรู้สึกแปลกๆอยู่ ยังไงไม่รู้ บอกไม่ถูกเหมือนกันค่ะ

ส่วนตัวปกติจะชอบอ่านหนังสือการ์ตูนขำๆนะคะ ยิ่งเวลาที่รู้สึกไม่ดี ก็จะนั่งอ่านผ่อนคลายไปเรื่อยๆ จนบางทีแทบจะลืมไปหมดเลยกลายเป็นอารมณ์ดีแทน เดี๋ยววันนี้ก่อนนอนก็จะอ่านค่ะ ส่วนตัวคงถูกชะตากับการ์ตูนญี่ปุ่นน่ะค่ะ บางทีเวลามีปัญหาแล้วรู้สึกแย่ก็จะซื้อเรื่องใหม่ๆมาอ่าน แล้วกลายเป็นว่าตัวละครในเรื่องก็ดันมีปัญหาหรืออารมณ์คล้ายๆเราพอดี พออ่านแล้วคิดอะไรได้เยอะค่ะ คงเพราะเวลาที่เรามองเรื่องของตัวเอง บางทีก็มีมุมที่เราหลงลืมละเลยไป อาจจะถูกบดบังด้วยทิฐิหรืออารมณ์ แต่พอมองเรื่องที่ค้ลายๆกันในมุมมองของผู้ดู ก็อาจจะเห็นอะไรที่ต่างออกไปช่วยให้คิดอะไรได้น่ะค่ะ และส่วนมากคนเขียนก็สอดแทรกข้อคิดดีๆและกำลังใจมาให้อีก

บางคนมองว่าการ์ตูนไร้สาระทุกเรื่อง แต่สำหรับเรามันไม่ใช่เลยค่ะ เพราะถ้าเรารู้จักเลือกมันก็เหมือนได้เรียนรู้มุมมองผ่านประสบการณ์ชีวิตของคนอื่น เหมือนที่เค้าว่าหนังสือคือจักรวาลน่ะค่ะ เราเองได้เห็นคำว่า "หนึ่งเดียวคือทุกสิ่ง ทุกสิ่งคือหนึ่งเดียว" หรือมุมมอง "อนาคตโลกคู่ขนาน" "มีชีวิตเป็นจุดไม่ใช่เป็นเส้น" และอีกมากมายที่คล้ายๆกับข้อความต่างมิติมาจากการ์ตูนนี่ล่ะค่ะ จนบางทีแอบสงสัยว่าคนเขียนนี่ใช่มนุษย์ธรรมดาหรือเปล่า ฮ่าๆ

ปล. ช่วงนี้หายจากอาการตัวร้อนแล้ว แต่ว่าเปลี่ยนมาง่วงทั้งวันจนมึนแทนค่ะ จำได้ว่าท่าน Hilarion เคยบอกว่าให้ลองหาอาหารเสริม เช่น พวกสาหร่ายสไปรูลินามาทานก็ดี ดังนั้นเวลามีอาการเหมือนที่ท่าน Hilarion บอกก็จะทานด้วยค่ะ ช่วงที่ตัวร้อนนี่ช่วยได้เยอะเลย แต่ว่าเราทานสาหร่ายสดด้วยเพราะว่าป็นของโปรดอยู่แล้วค่ะ ท่านไหนเพลียๆลองหามาทานดูนะคะ อาจจะพอช่วยได้บ้างค่ะ

 

ฝันที่2ของคุณชยุต ความหมายน่าจะคล้ายกับว่า การเลื่อนระดับมันต้องใช้ความพยายามและความมุ่งมั่นสุดกำลังนะครับ ถึงจะสำเร็จ และต้องยังมีระดับอื่นๆให้ได้ไปต่ออีกนะครับ (เคยฝันคล้ายๆทำนองนี้มาบ่อยๆนะครับ)

 

ฝันสนุกสนานกันใหญ่เลยนะครับ
ท่าทางต่อไปพวกเราจะได้รับข้อมูลจากฝันกันบ่อยขึ้นเรื่อยๆ
รวมทั้งมีความเปลี่ยนแปลงในทางบวกกันมากยิ่งขึ้นนะครับ
ช่วงนี้ก็เปลี่ยนหลายอย่างเหมือนกัน รู้สึกมีความสุข สงบมากกว่าแต่ก่อน
อาหารการกินก็เปลี่ยนรูปแบบไปเลย ทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นจนรู้สึกได้เลยครับ

-------------------------------------------------------------------------
พอดีมีข่าวเด่นจะแจ้งให้พวกเราทราบกันไว้อีกเรื่องนึงด้วย
งานนี้ดูเหมือนเรื่องราวขักจะเข้มข้นขึ้นอีกแล้วล่ะครับ




Russia Orders Obama: Tell World About Aliens, Or We Will

รัสเซียเตือนให้ "โอบาม่า" บอกโลกเกี่ยวกับเรื่องมนุษย์ต่างดาว
ไม่เช่นนั้นเราจะแถลงข่าวเอง

กระทรวงการต่างประเทศ (MFA) รายงานว่านายกรัฐมนตรี Medvedev ของรัสเซีย
กล่าวในวาระการประชุมเศรษฐกิจโลก (WEF) เมื่อสุดสัปดาห์นี้ว่า.....
รัสเซียขอเตือนประธานาธิบดีโอบามาว่า "เวลานั้นมาถึงแล้ว"
สำหรับที่จะบอกให้โลกรู้ถึงความจริงเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว
และถ้าประเทศสหรัฐอเมริกาจะไม่เข้าร่วมในการประกาศล่ะก็
เครมลินจะทำด้วยตัวเอง..........

http://www.eutimes.net/2013/01/russia-orders-obama-tell-world-about-aliens-or-we-will/

 

อ่านเรื่องความฝันของคุณชยุตแล้ว
เลยนึกถึงความฝันของตัวเองเมื่อหลายวันก่อน
เป็นฉากที่ดิฉันยืนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่
เหมือนกับดิฉันกำลังกำหนดเหตุการณ์ในกระจกนั้น
ให้ปรากฏเป็นสิ่งที่ตัวเองต้องการ
ดิฉันใช้ความรู้สึกสั่งโน้นสั่งนี่หลายอย่าง
แต่เหตุการณ์ในกระจกก็ไม่ค่อยเป็นไปตามที่ต้องการนัก
บางครั้งก็ได้บ้าง บางครั้งก็ไม่ได้ (แฮ่ๆ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้)
ความรู้สึกขณะนั้นอึดอัด พยายามและพยายาม

(ใช่!!! ความพยายามเหมือนตอนอ่านหนังสือของโนวา อนาลัยเลย
ซึ่งบางตอนอ่านไม่เข้าใจก็พยายามอ่าน อ่าน อ่าน อยู่นั่นหล่ะ)

แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองในตอนฝันนั้นถึงได้มั่นใจลึกๆว่าเราสั่งได้
(ความรู้สึกคล้ายรู้ว่าเรากำหนดได้ แต่เหมือนเรากำลังฝึกอยู่)
ทั้งๆที่พยายามทำก็ยังทำไม่ได้ดีนัก แต่ลึกๆรู้ว่าทำได้

เพื่อนๆคงอยากรู้ว่าดิฉันสั่งอะไรไปบ้าง
ตัวดิฉันเองก็จำเป็นเรื่องชัดเจนไม่ค่อยได้
แต่รู้ว่าออกคำสั่งให้เหตุการณ์ในกระจกเป็นไปตามที่ต้องการ
ซึ่งเดี๋ยวตัวดิฉันก็หลุดเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ในกระจก
พอรู้สึกตัวอีกทีก็ยืนอยู่หน้ากระจกกำลัง…สั่ง…. สลับกันจนตื่น

อยากกลับไปที่ฝันตอนนั้นอีกจัง มั่นใจว่าคราวต่อไปจะทำได้ดีขึ้นแน่ๆ อิอิอิ

อยากอ่านความฝันที่คุณชยุตค้างไว้เร็วๆนะคะ

 

อยากตอบคุณชยุตว่าดิฉันเป็นค่ะ
อารมณ์ลบๆที่ยังผุดขึ้นมาเป็นระยะๆ
เมื่อก่อนโน้นเวลามีอารมณ์แย่ๆผุดขึ้นมาจะหงุดหงิดค่ะ
โกรธตัวเอง ตำหนิตัวเอง คิดว่าเพราะอะไรเรารู้ถูกรู้ผิดมาขนาดนี้
ฝึกฝนตัวเองมาขนาดนี้ ยังต้องมีความรู้สึกแย่ๆอีก
เหมือนเราเป็นคนไม่ดี น้อยใจตัวเอง อยากหยิกตัวเองมากๆ(บางทีก็หยิกจริงๆ อิอิ)

แต่หลังมาได้อ่านบทความมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็น
ข้อความจากกระทู้นี้หล่ะค่ะ ทำให้ทราบว่ามันยังมีเศษตะกอน
ที่ตกค้างอยู่ในจิตใต้สำนึกลึกๆที่ต้องผุดขึ้นมาให้เรามีโอกาส
ได้ชำระให้หมด พอทราบเช่นนั้นจึงไม่หงุดหงิดอีก
เต็มใจต้อนรับอารมณ์ลบๆของตัวเองมากขึ้น
พอรู้สึกปุ๊บว่ามันมา ก็จะไม่พยายามหลบ
จะพยายามไม่หันเหความรู้สึกของตัวเองโดยการคิดแง่บวกในทันทีค่ะ
แต่จะสังเกตอารมณ์นั้นๆ หยุดพิจารณาว่ามันจะไปต่ออย่างไร
แค่สังเกตค่ะ แล้วปล่อยให้มันเป็นไป
โอ้พระเจ้า!!!! พอเราไม่เข้าไปเล่นด้วย สักพักอารมณ์นั้นมันก็จบลง
ที่น่าสังเกตคือ มันน่าแปลกใจอ่ะค่ะ
เพราะอะไรมันถึงไม่…โลกแตก…เหมือนเมื่อก่อน
เพราะอะไรมันจึงผ่านได้ง่ายๆล่ะ
(บางที ฮ่ะ..หายแล้วหรอเนี่ย หายไปไงว่ะ เมื่อกี้เรายังปิ๊ดอยู่เลย)
มันแตกต่าง มันไม่เหมือนเดิม
มันคล้ายๆกับ เราเจอสิวเม็ดเป้งตอนอายุ 18
กับอารมณ์เราเจอสิวเม็ดเท่าเดิมตอนเราอายุ 50
ใช่!!!!!!มันอย่างงั้นเลย

ฮืมใช่…..มันผ่านกลับมาเพื่อให้เราได้เคลียร์
มันย้อนกลับมาเพื่อให้เราได้เลือกจุดตัดใหม่

มันเจ๋งสุดเลยอ่ะ

เราได้โอกาสที่จะเลือกจุดตัดใหม่
เราได้โอกาสที่จะแก้ไขความผิดพลาด
โดยไม่ต้องเปลี่ยนชาติภพให้เสียเวลา
ไม่ต้องเสียเวลาเกิดใหม่ สร้างบทละครใหม่
เพื่อนๆพอเข้าใจที่ดิฉันอธิบายใช่ไหมคะ
ดิฉันก็เพิ่งเข้าใจตอนที่นั่งพิมพ์นี่แหละค่ะ

..........................

ไม่แน่ใจว่าดิฉันจะโรคจิตเกินไปหรือปล่าว
เมื่อ1-2วันมานี่ท่ามกลางการนอนซมเพราะพิษไข้
แต่ความรู้สึกลึกๆกลับตื่นเต้น กระดี้กระด๊า เหมือนจะมีสิ่งดีๆเกิดขึ้น อะไรอย่างนั้นเลย
เพราะรู้ว่าสิ่งแย่ๆที่จะเกิดขึ้นกับเราในช่วง...ส่งท้าย...นี้จะกลายเป็นโอกาสอันดี
เลยทำให้ชีวิตที่ยังดำเนินไป(ในมิติที่3)มีความสุขมากขึ้นไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดเรื่องแย่ๆขึ้น
เพราะถึงมันจะเกิดขึ้นมันก็จะนำโอกาสดีๆมาให้......

 

พอดีเมื่อเช้านี้ มีสมาชิกทีมแปลของพวกเราท่านหนึ่ง
ส่ง e-mail มาขอ idea จากพวกเรา ว่ามีใครพอจะนึกอะไรออก
เกี่ยวกับคำๆนี้บ้างไหม เพราะว่ามันวนเวียนอยู่ในหัวท่านผู้นี้ทั้งคืนเลย
ว่างั้นนะครับ คำๆนั้นก็คือ "Syngenatic"

ผมเลยตอบไปว่า..(ขอคัดลอกมาให้อ่านเลยนะครับ)

Syn- : Pref.= 'ด้วย','ด้วยกับ','ร่วม','เหมือนกัน', Syn. sy-,syl-,sym-,sys-

Genetic = เกี่ยวกับพันธุกรรม
Genatic => ไม่มีในพจนานุกรมครับ

ถ้า Synergistic จะแปลว่า ส่งเสริม หรือ เสริมฤทธิ์ซึ่งกันและกัน
ซึ่งถ้าเป็นคำนี้ ผมมีไอเดียเกี่ยวกับเรื่องนี้มาหลายวันแล้วหละครับ
จากความฝันหนึ่ง..

คืนก่อนหรือคืนก่อนหน้านั้นอีกก็ไม่รู้ ไม่แน่ใจครับ ผมฝันว่า
พรรคพวกของผม 3 คน ซึ่งเป็นชายล้วน และเป็นวัยรุ่นอายุราวๆ 20 ปีกันทั้งนั้น
โดนอาจารย์ขมังเวทย์คนหนึ่งกับลูกศิษย์จับตัวไปมัดไว้ข้างกองไฟ
เหมือนจะเอาไปฆ่าเสียให้ตายยังงั้นแหละ เพียงเพราะว่าพวกผม
กำลังจะแยกตัวออกมาเป็นอิสระจากที่เคยเป็นคนของแกแล้ว อะไรทำนองนั้น
เพราะพวกผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่ทางที่ถูกต้องและเหมาะสมกับตัวเองอีกต่อไปแล้ว
แกก็เลยคิดจะกำจัดพวกเราทิ้งเสียทั้งกลุ่ม ซึ่งกลุ่มของผม ดูเหมือนจะมีอยู่ 6-7 คนนี่แหละ
เป็นวัยรุ่น ชายล้วน อย่างที่บอกไปแล้วนั่นแหละครับ

ผมเลยจะไปช่วยเพื่อนๆของผม และทั้งผมเอง และตัวอาจารย์คนที่ว่านั่นด้วย
ไม่รู้ว่ารู้ได้อย่างไร แต่รู้ว่า "รู้" เท่านั้นเอง คือในฝันนั้นแกก็รู้ และ ผมก็รู้ว่า
กลุ่มของผมและเพื่อนๆนั้น เป็นผู้ที่มีความเชื่อมโยงกันแบบพิเศษอยู่
คือเมื่อใดที่รวมพลังกันได้แล้ว ไม่ว่าจะทำอะไร ก็สามารถเป็นไปได้ทั้งหมด
ดังนั้น แม้แต่อาจารย์คนนั้นเองก็ยังต้องกลัวเลยครับ ก็เลยคิดจะแยกพวกเราออกจากกัน
และทะยอยจับไปกำจัดเสียให้หมดไงหละครับ

อันที่จริงแล้ว ผมก็ชักลืมๆรายละเอียดของฝันนี้ไปบางส่วนแล้วหละครับ
แต่จำได้คร่าวๆว่า ไม่รู้ผมไปทำอีท่าไหน เลยไปเรียกเพื่อนมาอีก 3 คน
และบอกให้เพื่อนทราบว่า ไม่ต้องกลัวใครทั้งสิ้นเลยนะ
เพราะว่าพวกเราหนะมีความเชื่อมโยงกันแบบพิเศษอยู่
ซึ่งถ้าเมื่อใดที่พวกเรามาอยู่รวมกันพร้อมหน้าได้แล้ว
และรวมพลังกันทำอะไรซักอย่างแล้ว มันจะมีพลังอำนาจมหาศาลมาก
คือพลังของพวกเราจะ "เสริมซึ่งกันและกัน" จนพลังรวมที่ออกมา
มันจะมากกว่าพลังของแต่ละคนรวมกัน เป็นเท่าทวีคูณเลยทีเดียว

จากนั้นเพื่อนผมก็เข้าใจแล้ว ก็เลยวิ่งไปเลยครับ วิ่งไปตรงที่ๆเพื่อนผมอีก 3 คน
ถูกจับมัดเอาไว้นั่นแหละ แต่คราวนี้มันเหมือนไม่ใช่รอบกองไฟแล้ว
มันเหมือนเป็นศาลาที่พักริมทางแบบจีนๆหลังหนึ่ง ที่มีเสาสูงๆและมีหลังคา
แบบในรูปข้างล่างนี้นะครับ..



เพื่อนของผมสามคนถูกมัดอยู่คนละเสา
และมีอาจารย์และลูกศิษย์ของพวกเขาเฝ้ารายล้อมอยู่
พวกผมก็วิ่งไป ไปยืนล้อมศาลานั้นเอาไว้พร้อมกัน ให้พวกเราทุกๆคน
รวมถึงคนที่ถูกมัดไว้ด้วย อยู่ในลักษณะของการยืนล้อมวงกันเป็นวงกลม
แล้วพวกผมก็พูดออกมาพร้อมกัน พร้อมกับชี้มือที่ถือมีดหรือดาบหรืออะไรซักอย่าง
ไปที่เชือกที่มัดเพื่อนอยู่ แล้วออกคำสั่งเสียงดังว่าให้มันปล่อยเพื่อนผมเดี๋ยวนี้
แล้วเชือกมันก็ขาด จากนั้นพวกผมก็ชี้อาวุธไปที่คนที่เฝ้าอยู่แล้วออกคำสั่ง
ให้เขาตาย หรือให้เป็นอะไรนี่แหละ ผมจำไม่ได้ แล้วพวกเขาก็หยุดชะงักกิจกรรมทั้งหมด
เคลื่อนไหวไม่ได้ อะไรทำนองนั้น ไม่รู้ว่าตายหรือเปล่านะครับ

แล้วสุดท้ายพวกผมก็ทำแบบเดียวกันนั้นกับอาจารย์ท่านนั้นด้วย
แต่แกก็ไม่ตายนะ แค่แกไม่ต่อสู้ด้วยเท่านั้นเอง แกก็แค่บอกว่า
ยอมแพ้แล้ว หรืออะไรทำนองนั้น ให้พวกเราพอได้แล้ว อะไรแบบนั้นหนะครับ
จำไม่ค่อยได้จริงๆ ต้องขออภัยด้วยนะครับ..แล้วก็จบฉากนี้ไปครับ

.......................................................................

 

...อยากได้ยินข่าวแบบนี้มานานแล้วครับ ท่านทางคราวนี้ของจริงแน่นอน ขอบคุณมากครับสำหรับข่าวที่แจ้งมา

 

เหมือนในหนังแฟนทาสติก 4 ภาค 2 เลยนะครับ อิอิ

"Syngenatic" อาจจะเกี่ยวกับ Dna ในมิติ 3 รวมกับDna ในมิติอื่นๆเข้าด้วยกันก็ได้นะครับ เดาๆนะ หรือว่า คนที่มียีสคล้ายๆกันมาทำงานร่วมกัน มั้งครับ

 

ช่วงนี้...ตัวเองติดดูซีรีย์งอมแงม

ที่จริงก็รู้สึกผิด แต่มันหักห้ามใจตัวเองไม่ได้

อีกทั้ง... ก่อนนี้เคยตั้งมั่นว่าจะเดินสายธรรมแบบนักปฏิบัติน่ะ จึงรู้สึกเหมือนกำลังหักหลังตัวเองยังงัยก็ไม่รู้

เมื่ออ่านข้อความนี้ของคุณRiceOnLand แล้ว

ฉุกคิดขึ้นมาว่า ... แต่เราก็สามารถเรียนรู้ ค้นพบ ได้แง่คิด หรือมีคำตอบผ่านสิ่งที่เรากำลังสนใจ

เหมือนกับว่า สัจธรรม ตามเราไปทุกแห่ง ทุกที่ ที่เรากำลังดำเนินชีวิตอยู่ ประมาณนั้น

โอว.... อะเมซซิ่ง!!!

 

OMD..พอได้กลับไปอ่านข้อความเก่าๆที่เคยโพสต์ไว้นานแล้ว
ก็ยิ่งได้ความกระจ่างมากขึ้น กับสิ่งที่กำลังเป็นอยู่นี้

http://palungjit.org/threads/ข้อควา...-เพื่อเลื่อนระดับขึ้นไปสู่มิติที่-5-a.302490/

ตอนที่แปลและโพสต์หนะ ไม่ได้คิดอะไรมาก
เพราะว่าหลายอย่างก็ยังไม่ได้เจอด้วยตัวเอง
แต่พอผ่านมาแล้วระยะหนึ่ง ถึงได้รู้ว่า ข้อความนี้ก็..อืม..
ไม่ธรรมดาเลยเหมือนกันนะ..

ตัวอย่างเช่น สังเกตเห็นพวกเราหลายคนในนี้
กำลังพากันมีปัญหาด้านสัมพันธภาพกับผู้อื่นอยู่
รวมทั้งตัวผมเองด้วย ก็เลยทำให้นึกถึงข้อความนี้ได้ว่า..

...ระดับที่ 9 จะเป็นการผสมผสานระหว่างการเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตวิญญาณในระดับที่ 7
กับการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายในระดับที่ 8 เข้าด้วยกัน ในระดับที่ 9 นี้
จะมุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงด้าน “ความสัมพันธ์” (relationship)

เพราะว่าความสัมพันธ์คือสิ่งที่พวกคุณใช้เพื่อทดสอบตัวเอง
และการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น ก็ถูกทำให้เกิดขึ้นอย่างตั้งใจ ภายในพวกคุณแล้ว

พวกคุณอาจจะพบว่า ความสัมพันธ์ใดก็ตาม
ที่มีรากฐานตั้งอยู่บนการควบคุม หรือการบงการ
จะทนรับไม่ได้อีกต่อไป ดังนั้น ความสัมพันธ์กับหลายๆคน
จึงจะจบสิ้นลงในระยะนี้

พวกคุณอาจจะพบด้วยว่า การงานของพวกคุณในโลก ก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย
เมื่อพวกคุณเปลี่ยนบุคลิกลักษณะใหม่แล้ว

ช่องว่างตรงปลายระดับที่ 9 ของกายแห่งแสงสว่างนี้ อาจจะเป็นความเจ็บปวด
เพราะว่าเป็นช่วงหลังจากที่ได้ทุ่มเทให้กับความสัมพันธ์เหล่านั้นมากจนเกินไปนั่นเอง

ช่องว่างดังกล่าวนี้ ต้องการให้พวกคุณได้อยู่คนเดียวตามลำพังในท้ายที่สุด
เพราะว่าในท้ายที่สุดแล้ว ความสัมพันธ์ที่พวกคุณมีกับตัวเอง
ก็คือความสัมพันธ์ที่มีความสัมคัญมากที่สุดอยู่ดี หรือว่าไม่ใช่?

ระดับที่ 9 นี้ จะสิ้นสุด (หรือบางครั้งก็เริ่มต้น) ด้วยการลงมาของวิญญาณครั้งค่อนข้างใหญ่
ทำให้พวกคุณยังต้องมีความสัมพันธ์อีกรูปแบบหนึ่ง ที่จะต้องเกี่ยวข้องด้วยอยู่
ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการของพวกคุณเอง...

.....................................

 

เห็นพ้องกับคุณชยุต และเหตุการณ์ของผมก็ไปพ้องกับกระทู้ของคุณชยุตอีกhttp://palungjit.org/threads/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B4-%E2%80%93-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99-light-body-%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87-12-%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-5-a.302490/
1.ตกงานต้นปี55
2.เลิกกับภรรยาหลังจากนั้น 2-3 เดือน ( จริงๆก็ก่อนหน้านั้น แต่เพิ่งมาแยกกัน )
3.ย้ายที่พักมาอยู่คนเดียวในห้องพักเล็กๆในสวน ( ทำสวนหลังจากตกงาน )
4.วิถีชีวิตเปลี่ยนไป ค่อนข้างมาก พบปะผู้คนน้อยลง
5.จิตใจสงบขึ้นเยอะ ไม่อึมครึม ฉุนเฉียว สับสนเหมือนเมื่อก่อน
6.เหตุการณ์ หรือ ปัญหา หรือ สัมผัสของสมองทีผมกำลังประสบอยู่
และยังมีปลีกย่อยอีก แต่เหล่านี้คือ ที่ผมว่ามันไปพ้อง แต่ทุกๆข้อ ผมยินดีปรีดามาก เพราะบางข้อก็คือหมดกรรม บางข้อก็ได้ทำสิ่งที่ชอบ

 

ดูให้จบนะครับ...
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=f2cwZP__E2c]พยากรณ์2556 ภัยพิบัติโลก2013 - YouTube[/ame]

 

นายกรัสเซียท่านทราบดีน่ะครับ ว่ามันถึงเวลาที่จะต้องพูดความจริงกันซะที
ปลายปีก่อนท่านก็พูดถึงเรื่องนี้ แต่มีคนนึกว่าท่านพูดเล่นๆที่ว่าพวกเค้าเดินปะปนอยู่กับมนุษย์โลกนี่แหละ ท่านบอกให้ไปดู"Men In Black" (จริงๆเล้วท่านหมายถึงวิดีโอสารคดีเรื่องนึงของรัสเซียน่ะครับไม่ใช่หนัง Holywood)

หวังว่าการกดดันครังนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของอะไรอีกหลายสิ่งหลายอย่างข้างหน้า
และคงออกมาประกาศอย่างเป็นทางการได้ในเร็วๆนี้ครับ

 

ข่าวการเมืองข้างต้น เราก็จะติดตามอัพเดทต่อไปนะครับ

ขอรายงานเรื่องเศรษกิจอีกสักเรื่องนะครับ เพราะมันเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลด้วยเหมือนกัน
ท่ามกลางข่าวการโยกย้ายการเงินจำนวนมหาศาลออกจากธนาคารใหญ่ๆในสหรัฐฯอย่างผิดปกติ
และในยามที่ธนาคารใหญ่หลายแห่งอย่างเช่น CityBank หรืออื่นๆ
ที่ประสบปัญหาที่แก้ไขไม่ได้มากมาย เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อ
ระบบการเงินที่มีแต่ตัวเลข แต่ไม่มีทองคำหนุนหลังอยู่จริงๆ ต้องปลดพนักงานออกนับหมื่นๆคน

หากเราฟังข้่าวที่ฟังดูน่าวิตกเหล่านี้ อาจทำให้มองไม่เห็นอนาคตว่าจะไปทิศทางไหนกันแน่
จริงๆแล้วในข่าวร้าย ก้จะมีข่าวดีซ่อนอยู่ ที่อาจทำให้พวกเราที่ติดตามอ่านกระทู้ต่างมิติฯ
มักจะพอรู้อะไรดีๆก่อนเสมอ และมันก็เป็นสิ่งทำให้เราเบาใจขึ้น
และยอมรับเหตุการณ์หรือวิกฤตการณ์ต่างๆได้ดีกว่า
รวมถึงเรื่องภัยพิบัติได้มากกว่าผู้ที่ไม่เคยสนใจอ่านเลยน่ะครับ

ขอเล่าให้ฟังแบบสรุปใจความ เพื่อให้พวกเราคลายความวิตกกังวลลงไป
กับเรื่องของอนาคตที่กำลังใกล้จะมาถึงนะครับ



NESARA Is Very Real .........กองทุน NESARA......

สิ่งต่อไปที่พวกเราจะค้องทำความรู้จัก ก็คือกองทุน : NESARA ครับ
เค้ามีการเตรียมความพร้อมและรอที่จะการประกาศอย่างเป็นทางการโดยประธานาธิบดีสหรัฐฯเข่นกันครับ

ทองคำจำนวนมหาศาลยังอยู่ในสถานที่ลับ ในประเทศอังกฤษและทั่วทั้งยุโรป
และมันก็ถึงเวลาแล้วก็จะมี โรบินฮู้ด กลับมายึดสมบัติที่หายไปนานจาก" เรือที่จม" เสียทีครับ

NESARA เคยลงนามในกฎหมายรึยัง ?
ก่อนหน้านั้น NESARA เคยถูกลงนามในกฎหมายเมื่อ 10 ตุลาคม 2000 โดยประธานาธิบดีคลินตัน
และมันรอที่จะประกาศและมีผลบังคับใช้ แต่อาคารตึกเวอร์เทรดที่ถล่มลงไปเมื่อ 9/11
ก็เคยมีสำนักงานตั้งอยู่ที่อาคาร 1 ที่พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงทันที
แต่พวกเขาถูกทำลายหลักฐานในการรื้อถอนสำนักงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามกฎหมาย NESARA
ซึ่งนั่นเป็นเหตุการณ์หนึ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นอย่างมีเงื่อนงำและจงใจเช่นกัน

มันถึงเวลาแล้ว กับความจำเป็นต้องมีการลงทุนหลายประการที่เกี่ยวข้อง
และพวกเขาจะจัดสรรสำหรับโครงการบางอย่าง เช่นพลังงานฟรี
และการทำความสะอาดมลพิษรวมถึงโครงการที่วางแผนไว้ทั่วโลก
สำหรับน้ำสะอาด ที่อยู่อาศัย ความต้องการทางการแพทย์,
โรงเรียน, อินเทอร์เน็ต ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐาน
ที่จะต้องใช้ร่วมกันในโครงการในระดับโลกเหล่านี้ในอนาคตอันใกล้
กับความร่วมมือกับผู้ที่มาจากกว่า 180 ประเทศทั่วโลก
มันจะเกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูลและการจับกุมฝ่ายมืดครั้งใหญ่

เมื่อไหร่ NESARA จะมีผลบังคับใช้ ?
มนุษย์ควรจะได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระเพื่อพัฒนาการทางจิตวิญญาณกันได้แล้ว
กับการเปลี่ยนแปลงในความถี่สั่นสะเทือนที่สูงขึ้น
และมาทำสิ่งที่ท้าทายใหม่ๆด้วยกันในอนาคต
และการสร้างชุมชนแสงสว่างให้เกิดขึ้นก็เป็นความฝีนของใครหลายๆคนเช่นกัน
การกระจายและการแบ่งปันกองทุนจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ครับ

และเราจะไปรับเงินจากกองทุนนี้ได้อย่างไร?
เค้าบอกว่า ทุกคนจะมีบัญชีธนาคารที่เชื่อมโยงกับข้อมูลส่วนบุคคลของเราเอง
ทั้งสตรีและเด็กๆและพวกเราบนโลกใบนี้แหละครับ จะได้รับส่วนหนึ่งจากกองทุนนี้
เงินที่เค้าจะนำมามอบให้จะอยู่รูปแบบบัตรเดบิตการ์ด มันจะถูกแบ่งปันออกไปอย่างทั่วถึงในที่สุด

สหพันธ์กาแลคซี่กำลังยืนอยู่เคียงข้างพันธมิตรบนโลก และก็มีพวกเขาที่เดินปะปนอย่กับเราเพื่อทำงานเหล่านี้
และจะคอยช่วยเหลือในเรื่องต่างๆให้เข้ากับสถานการณ์ด้วยความรักและแสงสว่างอย่างที่สุด
เพื่อให้เราผ่านการทดสอบและเลื่อนระดับขึ้นไปพร้อมๆกันได้ง่ายยิ่งขึ้น.....
และทำตามความฝันหรือสิ่งที่เราปรารถนากันอย่างมีอิสระด้วย
ข้อความเหล่านี้จะเป็นความจริงได้ขนาดไหน ติดตามดูกันต่อไป
คงไม่นานเกินรอแล้วครับ

 

iBiz - Manager Online - เยอรมนีโยกทองคำกลับจับตา ศก.โลกเสี่ยง! “ไทยต้องระวัง”

สัญญาณมาแล้ว อิอิ

 

การเจริญเติบโตของจิตวิญญาณไม่สามารถเกิดขึ้นได้โดยปราศจากสิ่งที่ท้าทาย
รูปธรรมที่อาศัยอยู่ในมิติที่สูงขึ้นไปเหล่านั้นไม่ได้พบอุปสรรคดังกล่าว
หรืออย่างน้อยก็ไม่จบการศึกษาระดับปริญญาที่มีประสบการณ์ในโลกทางกายภาพเช่นคุณ

มันมีอยู่ในสถานที่ที่เฉพาะเจาะจง เช่น ห้องเรียนของโลก
ที่การเติบโตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวิญญาณสามารถจะเกิดขึ้นได้
มันเป็นสถานที่ที่วิญญาณหลายแข่งขันกันสำหรับโอกาสที่จะมาที่นี่...คุณอยู่ที่นี่แล้ว

คุณเป็นหนึ่งในคนที่ได้รับการเลือกให้ได้รับหนึ่งในตั๋วที่มีอยู่จำกัด
ในการมีส่วนร่วมบนเวทีของการพัฒนาจิตวิญญาณนี้ จงทำหน้าที่ของคุณให้ดีที่สุด

มีหลายรูปธรรมที่กำลังรับชมและเชียร์คุณอยู่
และมีหลายรูปธรรมที่รักคุณและพร้อมจะช่วยคุณ
หากคุณให้ยินยอมให้สิทธิ์นั้นของคุณ.........

Council of Nine
Ascension Earth : The Council of Nine ~ A Pathway to Understanding ~ via Tazjima ~ January 26th, 2013

 

คนรอบข้างหลายคนงง และ ไม่ค่อยเข้าใจ
เพราะว่าให้คำจำกัดความไม่ถูก
ว่าคนๆนี้ตกลงแล้วมีบุคลิกอย่างไรกันแน่
ดังนั้น หลายคนจึงพูดกันว่า
คนที่ใส่ชุดขาวที่อยู่ในรูปข้างล่างนี้หนะ
ถ้าพูดภาษาวงการบันเทิงแล้ว
ก็อาจจะเรียกว่า "ไม่แคร์สื่อฯ" เลย

เพราะว่าชอบทำอะไรพิลึกกึกกือ
เหนือความคาดหมายเสมอๆ อิอิ..

แล้วก็..ประมาณว่า..รู้จักคนนี้แค่คนเดียว
เหมือนรู้จักคนซัก 3-4 คนยังงั้นแหละ
เพราะว่านึกไม่ออกเลยว่า..คนแบบนี้
จะมาทำแบบนั้น และ แบบโน้นได้ด้วย

...555...

ชีวิตก็มีไว้เล่นสนุกๆแบบนี้เองแหละครับ
ไม่มีอะไรที่จะต้องไปจริงจังกับมันมากเลย

แล้วก็..มันไม่มีหรอกนะ..ภาพพจน์
หรือ ภาพลักษณ์อะไรนั่นหนะ
ที่ถึงขนาดจะต้องไปคอยรักษา
มันเอาไว้อยู่ตลอดเวลาหนะนะครับ




.....................................

 

Almine กล่าวไว้ในกระทู้ที่ผมแปลเป็นภาษาไทย
ตามลิงค์ข้างล่างนี้ว่า..

http://palungjit.org/threads/almine...คู่มือการเลื่อนระดับขึ้น-จากเธอ.315634/page-5
.........................................................

วิธีการเลื่อนระดับขึ้น โดยอาศัยสมองซีกซ้าย (The Left Brain Method)

http://www.ascendedmastery.com/Resources/leftbrain.pdf


C). ลบล้างความเป็นตัวตนของตนเองออกไปให้หมด


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


การชี้บ่งความเป็นตัวตน คือข้อจำกัด ถ้าเราชี้บ่งความเป็นตัวตนของเราเองว่าเป็นนั้นเป็นนี้แล้ว
คนอื่นๆก็จะเชื่อตามไปด้วย และในที่สุดเราก็จะกลายเป็นสิ่งนั้นด้วย

เป้าหมายคือการลบล้างความเป็นตัวตนออกไปให้หมด ซึ่งการชี้บ่งที่ว่านี้
ก็รวมถึง: ฉันคืออาจารย์, ฉันคือผู้บำบัดรักษา, ฉันคือฮิปปี้, ฉันคือผู้หญิง,
ฉันคือชาวอเมริกัน, ฉันคือมนุษย์, หรือฉันมาจากดาวดวงนั้นดวงนี้
หรืออะไรก็ตามแต่ ที่จะทำให้เรามีบุคลิกลักษณะเป็นแบบนั้นแบบนี้
ล้วนไม่เกิดประโยชน์ทั้งสิ้น

เพราะว่ามันจะฉุดรั้งเราเอาไว้ในความมีอัตตาตัวตนของเรา (ego)
เป้าหมายคือการรักษาความตระหนักรู้ส่วนบุคคลของเราเอาไว้
แต่อย่าไปชี้บ่งมัน เพราะว่าการชี้บ่งทั้งหลาย จะไปทำให้คนๆนั้น
มีนิยามบางนิยาม และมีหน้าที่บางหน้าที่เกิดขึ้น ซึ่งมันคือกับดัก
เพราะว่าเมื่อผู้คนชี้บ่งตัวเองและผู้อื่น โดยใช้คำนิยามเหล่านี้แล้ว
พวกเขาก็จะคิดว่าพวกเขารู้ว่าเราเป็นใคร และบางครั้งถึงกับคาดหวังว่า
เราจะต้องอยู่ในบทบาทหน้าที่นั้นตลอดด้วยซ้ำไป

ซึ่งตามนัยยะนี้ การชี้บ่ง ก็คือคุกที่ขังเราเอาไว้ดีๆนี่เอง

พวกเรามักจะสูญเสียพลังงานปริมาณมหาศาลไปกับการพยายามค้นหา
“ความเป็นตัวเรา” โดยการนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นๆ

ตัวอย่างเช่น “เขาคือผู้ชาย เพราะฉะนั้น ฉันก็คือผู้หญิง” เป็นต้น
มีบ่อยครั้งที่เราอาจรู้สึกภาคภูมิใจ ในการชี้บ่งว่าเราคือคนอ่อนน้อมถ่อมตน
แต่นี่ก็เป็นแค่อีกรูปแบบหนึ่งของการชี้บ่งเท่านั้นเองเหมือนกัน

ในฐานะที่เป็น Light worker พวกเราจำเป็นจะต้องหมั่นกำจัดการชี้บ่งเหล่านี้
ออกไปให้หมด เพื่อที่เราจะได้สามารถขจัดมายาการของการทะนงตนออกไปได้
ซึ่งมันจำเป็นต้องอาศัยการคอยระมัดระวังทุกย่างก้าวที่เราเดิน
เพื่อที่จะได้เห็นว่า ความเชื่อทั้งหลายของเรามาจากไหนกันแน่

เช่น ถ้าคุณเป็นอาจารย์สอนหนังสือ แล้วมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งในชั้นเรียน
กำลังทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสมในสายตาของคุณอยู่ คำถามที่จะต้องถามก็คือว่า
“ทำไมการกระทำดังกล่าวนั้นถึงไม่เหมาะสมหละ?” และคำตอบของคุณก็อาจจะเป็นว่า
“เพราะว่าการกระทำนั้นขาดความเคารพยำเกรงต่อความศักดิ์สิทธิ์ของผู้อื่น”
ซึ่งถ้าตามเงื่อนไขนี้ คุณจึงตัดสินไปว่า เธอขาดความเคารพยำเกรง

ดังนั้น ความรู้สึกว่าไม่เหมาะสมนี้มาจากไหน? มันมาจากป้ายชี้บ่งว่า
คุณคืออาจารย์ใช่หรือไม่ ดังนั้น มันจึงมีวิธีการอะไรบางอย่างที่ควรจะต้องมีตามมา
ใช่หรือไม่?

ทุกๆครั้งที่ป้ายชี้บ่งเหล่านี้ผุดขึ้นมา จงหยุด แล้วพูดว่า

“ฉันเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง ดังนั้น ทำไมฉันจะต้องมายุ่งวุ่นวายกับสถานการณ์นี้ด้วย?”

จากนั้น จงตรวจสอบป้ายชี้บ่งอันนั้น ที่กำลังส่งผลต่อพฤติกรรมของคุณอยู่เสีย
เพราะว่าเมื่อใดที่เรา “เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง” (All That Is) แล้ว
มันก็หมายความครอบคลุมกว้างไกลไปถึงทุกสิ่งทุกอย่างโดยธรรมชาติอยู่แล้ว

พวกเราจะกลายเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง สำหรับทุกๆคน
หากว่ามันสอดคล้องกับภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา
พวกเราอาจจะเลือกที่จะสวมหน้ากากหลายอันแตกต่างกัน
สำหรับคนแต่ละคนก็ได้ ดังนั้น คนแต่ละคน จึงอาจจมองเห็นเราในแบบที่แตกต่างกัน
ซึ่งนั่นก็เหมาะสมดีแล้ว เพราะว่าเราไม่จำเป็นต้องไปพิสูจน์อะไรให้ใครเห็นเลย
เพราะว่า ณ.จุดนั้น เราได้หยุดยึดเอาสิ่งต่างๆมาเป็นสมบัติส่วนตัวแล้ว

การลบล้างความเป็นตัวตนของเราเองออกไป หมายความว่า เราจะไม่ไปนิยามว่า
ตัวเราเองเป็นอะไร อีกต่อไป เราจะไม่มีน้ำหนักของความคิดที่สะท้อนถึงความเป็นตัวเราเอง
มาถ่วงไว้อีกแล้ว เพราะว่านั่นคือส่วนหนึ่งของการทะนงตน

ซึ่งเมื่อใดที่เราสามารถกำจัดการชี้บ่งและการสะท้อนความเป็นตัวเองออกไปได้แล้ว
เราก็จะโปร่งโล่งลื่นไหล และพลังงานก็จะมีให้เรามากขึ้น

การกำจัดป้ายชี้บ่งทั้งหลายออกไป จะช่วยให้เราสามารถเข้าถึงความรู้สึกอันบริสุทธิ์ของตัวเองได้
ซึ่งนั่นจะช่วยให้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เรายังไม่รู้ได้

.....................................

 

January 27 – February 3, 2013
27 มกราคม - 3 กุมภาพันธ์ 2556

Beloved Ones,
ถึงท่านอันเป็นที่รักทั้งหลาย

As each of you move deeper into the inner recesses of your Being, you are finding the opportunities to bring to the surface that which needs completion. During these times, give compassion to yourselves and all those who are involved in whatever situations come up. This is a time of bringing deeper understanding and knowledge from within you and for bringing peace and equilibrium in order that you may experience a greater lightness of being as you connect to the well of creativity and abundance that bubbles just beneath the surface.

ขณะที่เธอแต่ละคนเข้าใกล้ตัวตนที่แท้จริงมากขึ้น เธอจะมีโอกาสขัดเกลาตัวเองให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ในช่วงเวลานี้จงมีความเมตตากับตัวเธอเองและผู้อื่นที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใดๆ นี้คือช่วงเวลาที่เธอต้องนำเอาความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งจากภายในออกมาใช้ จงอยู่ในความมสงบและสมดุลย์เพื่อที่เธอจะได้ประสบกับความเบาของกาย (lightness of being) ขณะที่เชื่อมต่อกับบ่อน้ำแห่งความสร้างสรรค์และความอุดมสมบูรณ์ (well of creativity and abundance) ที่พวยพุ่งอยู่


You are in the process of reconnection with your God/Goddess aspects of the divine within you. As you do this deep work upon yourselves, there will be many moments of spontaneous feelings of joy that burst forth, seemingly out of nowhere. This is the process of recalibration and reconnection with the purity and innocence that is at the core of your true nature. Allow and enjoy these fleeting moments and store these feelings of Oneness and unity with all that exists in this World, so that you might utilize those moments and build upon those feelings, for it is these feelings which are creating the new paradigm of your new World.

เธอกำลังอยู่ในขั้นตอนเชื่อมต่อกับตัวตนอันสูงกว่าของเธอ ขณะที่เธอพยายามเชื่อมต่ออยู่นี้ หลายๆ ครั้งเธอจะรู้สึกสุขอย่างมาก (ปิติ) ขึ้นมาเฉยๆ นี้แหละคือขั้นตอนการปรับและการเชื่อมต่อเข้าสู่ความบริสุทธิ์ที่เป็นตัวตนอันแท้จริงของเธอ จงมีความสุขกับช่วงเวลานั้นและเก็บความรู้สึกแห่งความเป็นหนึ่งเดียว (Oneness) และความเป็นเอกภาพกับทุกสรรพสิ่งบนโลกนี้ไว้ เพื่อที่เธอจะได้นำความรู้สึกเหล่านี้ไปใช้ให้ประโยชน์ เพราะความรู้สึกพวกนี้แหละเป็นรากฐานในการสร้างโลกใหม่


As you uncover more of what has been keeping you from moving forward with zest, with passion and vitality, be willing to allow the insights to flow through you as you recognize and observe the patterns that have kept you a prisoner in your own consciousness. Keep a journal and record these gems of inspiration and insight. They are keys to unlock the doors to your greater remembrance. Know that you always walk enfolded in the embrace of your Family of Light and that all that occurs is a part of your greater unfolding.

ยิ่งเธอค้นพบสิ่งที่ขัดขวางไม่ให้เธอก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยความร่าเริง ความสุขและความชื่นบานมากเท่าไหร่ เธอยิ่งจะมีสติดูร่างกายของเธอมากขึ้นเท่านั้น เธอจะสังเกตเห็นและรู้ได้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่กักขังเธออยู่ในความคิดของเธอเอง จดบันทึกแรงบันดาลใจและการเข้าใจยิ่งอันมีค่านี้ไว้ มันคือกุญแจที่จะเปิดประตูเข้าสู่ความทรงจำที่ประเสริฐของเธอ (greater remembrance) จงรู้ไว้ว่าครอบครัวแห่งแสงอ้อมกอดเธออยู่ทุกฝีก้าวและทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็เป็นส่วนหนึ่งในการเรียนรู้ของเธอ

You are as beautiful rosebuds, gently unfurling and opening your petals to the Sun of a new day, a new dawn, a new beginning. As you allow the goodness of your true nature to emerge, you will blossom into a radiance that is clearly visible and discernible to those around you. Your Light is permeating your every cell and glowing with a radiance that is unmistakable. Align yourselves with this vision of a new you, a Being of Light and of Love, who is totally unafraid to let their Light shine and as One who walks their daily path with innate dignity and the highest integrity.

เธอคือดอกกุหลาบตูมที่ค่อยๆ คลี่กลีบออกอย่างนุ่มนวล เบ่งบานรับแสงอาทิตย์ของวันใหม่ ของรุ่งอรุณใหม่ ของการเริ่มต้นใหม่ เมื่อเธอปล่อยให้ความดีงามที่แท้จริงของเธอปรากฏออกมา เธอจะบานออกกลายเป็นดวงแสงอันสว่างไสวที่คนรอบๆ ตัวเธอจะสมผัสได้ แน่นอน! แสงของเธอมันกระจายผ่านสู่ทุกๆ เซลล์ในร่างกายและสว่างเรืองรองเป็นรัศมี ปรับตัวเองให้เข้ากับตัวตนอันใหม่นี้ซะ เป็นมนุษย์แห่งแสงและความรัก (Being of Light and of Love) ที่ปราศจากความเกรงกลัวใดๆ ที่ฉายแสงของเธอ และเป็นหนึ่งในผู้ดำเนินชีวิตไปด้วยจิตใจอันงดงามอย่างเต็มเปี่ยม

By following these steps, you are enabling others around you to empower themselves and open more fully to their own awakenings. It is now time for our Beloved Lightworkers around the World to let go of all inner sufferings and perceptions that no longer serve you. Enjoy the peace that abides within you, open to the new ideas and opportunities that present themselves each day and follow your own heart in all things.

การทำตามขึ้นตอนนี้ เธอกำลังช่วยคนรอบๆ ตัวเธอให้กำลังใจตัวเขาเองและเปิดใจเข้าสู่การตื่นรู้ได้อย่างเต็มที่มากขึ้น ตอนนี้แหละคือเวลาที่ผู้ทำการแห่งแสง (Lightworker) อันเป็นที่รักทั้งหลายทั่วโลกนี้ จะปลดปล่อยความเจ็บปวดทั้งหมดและความรู้ที่มันไม่ได้มีประโยชน์ออกไป จงเพลิดเพลินกับความสงบสุขที่รออยู่ภายในตัวเธอ เปิดใจให้กับความคิดและโอกาสใหม่ๆ ที่จะเข้ามาหาทุกๆ วัน และไม่ว่าสิ่งใด จงทำตามที่หัวใจเรียกร้อง

Until next week….
เจอกันอาทิตย์หน้า...

I AM Hilarion
เราคือฮิลาริออน

©2013 Marlene Swetlishoff/Tsu-tana (Soo-tam-ah) Keeper of the Symphonies of Grace
Permission is given to share this message as long as the message is posted in its entirety and nothing has been changed, or altered in any way and Scribe's credit, copyright and website is included. WELCOME! - The Rainbow Scribe