จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    ขออนุโมทาน กับ"ท่านผู้ว่าง"เหมือนกันค่ะ เพราะท่านเล่ามาเราก็มีความยินดีกับท่านที่ท่านได้ปฏิบัติดีและปฏิบัติชอบ เราได้พบกับหลวงปู่จรัญ ก็ ๓ ครั้งแล้วหลังจากการได้พบท่านในครั้งแรก เราก็เลยได้ไปกราบท่านที่วัด อัมพวัน ๒ ครั้งก็เลยเป็นการได้พบ ๓ ครั้งด้วยกัน แต่ที่ท่านได้ฝันนั้นเราก็เชื่อ... เพราะเกิดขึ้นกับเราเหมือนกัน เราจึงได้เข้าใจในเจตนาของท่านเพราะถ้าไม่เกิดขึ้นกับใคร ก็ไม่รู้ จึงต้องรู้เอง เห็นเอง ส่วนหลวงปู่ที่อยู่แถวชัยภูมิ และท่านบอกว่าอยู่ถํ้าพญา...(ในที่นี่ใช่วัดถํ้าพญาช้างเผือกหรือเปล่า?ท่านชื่อ หลวงพ่อวิไล)เพราะผู้เขียนเคยได้เจอท่านแล้ว แต่ก็ไม่รู้จะเป็นองค์เดียวกัน ที่ท่านหมายถึงหรือเปล่านะ!!! แต่ถึงอย่างไร... ก็ต้องขอขอบคุณท่านไว้ในนะโอกาสนี้ที่ท่านได้นําธรรมดีๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ท่านได้นําธรรมะของครูบาอาจารย์ที่เราศรัทธาท่าน เป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงขอกล่าวคํา"อนุโมทนาสาธุ"ค่ะ.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2013
  2. อุษาวดี

    อุษาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    531
    ค่าพลัง:
    +12,151
    จิตพาล จิตบัณฑิต

    "... เครื่องขยายเสียงมันจะมีเสียงมันก็ต้องมีไฟ การที่จะไปต่อไฟได้ก็ต้องมีปลั๊กเสียบอีก นี่มันหลายขั้นตอนมาก ถ้าเปรียบเทียบถึงเครื่องขยายเสียงนะ ... มันก็เหมือนคนเราเนี่ยแหละ ถ้าไม่มีกัลยาณมิตร คือไม่มีเพื่อนดีๆ นะ ไม่มีบัณฑิตคอยสั่งคอยสอนคอยอบรมคอยบอก ชี้ทางนั้นถูกทางนี้ผิด ก็ไปยากไปลำบากอยู่เหมือนกัน กลับไปได้คนพาล พาลชน ชี้ทางที่ผิด สอนทางผิด ก็เดินผิดทาง ก็เลยกลายเป็นโมฆะเลยชาตินี้ เดินผิดทาง

    อย่างมงคล ๓๘ ประการ ขึ้นต้นก็ อเสวนา จ พาลานัง ปณฺฑิตานญฺจ เสวนา ... อย่าคบคนพาลนะ ถ้าคบก็ควรคบบัณฑิต เพราะว่าบัณฑิตพาแต่ประโยชน์อย่างเดียว ถ้าคนพาลพาแต่บาปกรรม มีแต่ทุกข์โทษ ให้ทุกข์ให้ยากให้ลำบาก

    กับคนพาลนี่ พาลหลายอย่างนะคำว่าพาลนี่นะ จิตใจเราก็เป็นพาลนะ ถ้าเรายังไม่ได้ปรับปรุงให้มันดี ยังไม่ได้ทำให้จิตใจของเรานี่เป็นบัณฑิตเป็นปราชญ์ชน คือคิดเรียนรู้อะไรมันดี อะไรมันไม่ดี อะไรมันเป็นบุญ อะไรมันไม่เป็นบุญ อะไรมันเป็นของที่เรียกว่าฉลาด อะไรเป็นของที่เรียกว่าไม่ฉลาด

    นี่ใจเราของเราก็เหมือนกัน เรามัวแต่มองคนพาลคือมองคนอื่นที่เขาทำไม่ดีทำชั่ว แต่เราไม่เคยมองพาลจิตมันมี พาลชนก็อย่างหนึ่ง คือชนชาติชนชั้นหรือคนนั้นเป็นคนพาล แต่ไม่เคยมองจิตนั้นจิตนู้นจิตเรานี้เป็นพาลหรือเป็นบัณฑิต นี่เรียกว่ามองพระธรรมของพระพุทธเจ้า แต่ไม่ได้มองออกไปข้างนอกนะ มองเข้ามาสู่ตัวสู่จิตสู่ใจของเรา ดูที่ใจของเรามันเป็นพาลมั้ย มันพาลมั้ยน่ะพิจารณาดูที่ใจของเรา..."

    ตอนหนึ่งของพระธรรมเทศนา เรื่อง ใจบัณฑิต
    โดย หลวงพ่อครูบาเจ้าเพชร วชิรมโน
    ที่มา fb ธรรมคำสอน หลวงพ่อครูบาเจ้าเพชร วชิรมโน
     
  3. อุษาวดี

    อุษาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    531
    ค่าพลัง:
    +12,151
    “..สิ่งใดที่มันล่วงมาแล้ว เลยมาแล้ว เราไม่สามารถ
    ไปตัด ไปปลงมันได้อีกแล้ว สิ่งที่เราทำไปนั้น
    ถ้ามันดีมัน ก็ดีไปแล้ว ผ่านไปแล้ว พ้นไปแล้ว
    ถ้ามันชั่ว มันก็ชั่วไปแล้ว ผ่านไปแล้ว เช่นกัน

    อนาคตยังมาไม่ถึง สิ่งที่ยังไม่มาถึง เราก็ยังไม่รู้เห็น
    ว่ามันจะเป็นอย่างไร อย่างมากก็เป็นแต่
    เพียงการคาดคะเนเอาเอง ว่าควรเป็นยังงั้น เป็นยังงี้
    ซึ่งมันอาจจะเป็น ไม่เป็น ไปอย่างที่เราคาดคะเนก็ได้

    ปัจจุบัน คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง เราได้เห็นจริง ได้สัมผัสจริง
    เพราะฉะนั้น ความดีต้องทำในปัจจุบัน ทานก็ดี ศีลก็ดี
    ภาวนาก็ดี ต้องทำเสียในปัจจุบันที่เรายังมีชีวิตอยู่
    เราต้องการความดี ก็ต้องทำ ให้เป็นความดีในปัจจุบันนี้
    ต้องการความสุข ต้องการความเจริญ ก็ต้องทำ
    ให้เป็นไปในปัจจุบันนี้...”

    หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
    ที่มา fb ธรรมโอสถ
     
  4. ◎

    เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    428
    ค่าพลัง:
    +5,154
    (^_^)
    _/\_

    ......
     
  5. ◎

    เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    428
    ค่าพลัง:
    +5,154
    ดังนั้น ก็ไม่ต้องสับสนในแนวทางหรอก

    จับภาพพระอย่าง อ.ภู แนะนำก็ดีแล้ว

    เอามาเป็นฐานในการทำความสงบของใจ

    พอจะเจริญปัญญา ก็อาศัยพื้นฐานในธรรมครูบาอาจารย์ที่เราเคยได้ศรัทธาเป็นทุนเดิม นั่นแหละ
    นำไปพิจารณาธาตุ พิจารณาขันธ์ อายตนะ ลงสู่ไตรลักษณ์

    แล้ว อ.ภู จะนั่งยิ้มอยู่เบื้องหลัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2013
  6. UncleGee

    UncleGee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +10,246
    ใดใดในโลกล้วน อนิจจัง

    คงแต่บาปบุญยัง เที่ยงแท้

    คือเงาติดตัวตรัง ตรึงแน่น อยู่นา

    ตามแต่บาปบุญแล้ ก่อเกื้อรักษา

    (จาก ลิลิตพระลอ)
     
  7. มณีตรี

    มณีตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2013
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +1,201
    Cr.ท่านขิปฺปสิทฺโธภิกฺขุ เชียงใหม่

    การไม่ตกเป็นทาสของอารมณ์ จะเป็นไปได้ก็มีแต่การใช้ชีวิตด้วยสติและปัญญาเท่านั้น
    และบันไดเริ่มแรกสำหรับผู้ที่มุ่งสู่ชัยชนะนั้นก็คือ ความเข้าใจในเรื่องกรรม ผลของกรรม
    หากเราเข้าใจได้ว่า สิ่งดีและไม่ดีที่พบนั้นคือผลของกรรมที่เราทำมาเอง เราก็จะไม่โทษใคร และก็พร้อมที่จะสร้างกรรมใหม่ที่จะไม่ให้ผลเร่าร้อนอย่างที่ได้รับ
    และก็จะไม่หวังในความประพฤติของใคร เพราะรู้ว่าแต่ละคนแตกต่างกันด้วยกรรมและผลของกรรม
    เพราะความที่ไม่รู้ จึงทำให้เกิดความหวังในเรื่องราวและบุคคลต่างๆ ซึ่งก็จะมีความผิดหวังรออยู่เป็นส่วนใหญ่
    และด้วยความคิดที่แตกต่างจึงทำให้มีพฤติกรรมที่แตกต่าง ซึ่งไม่สามารถบังคับได้
    จึงต้องฝึกที่ตน ทำที่ตน และที่สำคัญก็คือ “อย่าหวังผล” ขอเพียงอาศัยศรัทธาในการฝึกตนและมั่นคงในเจตนาที่ขับเคลื่อนด้วยวิริยะก็พอแล้ว.....
     
  8. มณีตรี

    มณีตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2013
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +1,201
    ขออนุโมทนา สาธุ กับท่าน ◎ ด้วยนะค่ะ ต้องขออนุญาติ ชมท่านอีกครั้งค่ะ ท่านนักธรรมผู้มีความ มั่นคง มั่นใจ ดุจดั่งหินผา....แท้ที่จริงแล้ว ในส่วนลึก ลึกๆๆๆๆ มาก ทำให้เรามองเห็น รู้สึก สำผัส ได้ถึงความมีจิตใจอ่อนโยน และมีเมตตาสูงมากๆๆ (ขอติดตามผลงานท่านเรื่อยๆนะค่ะ)
    (ส่งผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กไปให้ด้วย เผื่ออ่านไป นำ้ลายย้อยไป ตกใจหนะค่ะ55)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2013
  9. sweetwhiterose

    sweetwhiterose Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +77
    หนูเป็นน้องใหม่เพิ่งติดตามกระทู้ค่ะ กำลังแอบไล่อ่านโพสต์เก่าๆ แต่WoW!!!!!เห็นข้อความล่าสุด ของคุณท่าน ◎ วันนี้!!!!แล้วทำให้หนูยิ้มมมมม :D:D......"ท่านนักธรรมผู้มีความ มั่นคง มั่นใจ ดุจดั่งหินผา....แท้ที่จริงแล้ว ในส่วนลึก ลึกๆๆๆๆ มาก ทำให้เรามองเห็น รู้สึก สำผัส ได้ถึงความมีจิตใจอ่อนโยน และมีเมตตาสูงมากๆๆ" แอบเห็นด้วยกับคุณมณีตรีค่าาา :D ขออนุญาตมีส่วนร่วมในการอนุโมทนา กับคุณท่าน ◎ ด้วยคนนะคะ :D สาธุๆๆๆๆๆๆๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มกราคม 2013
  10. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    เสี้ยนหนาม ๑๐
    ๑.อสังวร โลเล ขาดระเบียบ เรียบงามของตน
    ๒.สุภโร ติดงาม หลงไหลในวัตถุกามไม่ห้ามใจ
    ๓.อัตตาสัญญา ตามตน ชอบทํา พูด คิดตามใจหวัง
    ๔.เพลิดเพลิน กังวนหญิง นิยมเที่ยวสําส่อนเสเพล
    ๕.กามสัญญา หยิ่งกาม ผวาในกามคุณ ๕ ขาดสติ
    ๖.วิตกวิจาร งามตรึก คิดนึกในอกุศลวิตกเสมอ
    ๗.ปิติสุข นึกสบาย นิยมยึดติดมักง่าย
    ๘.ราคะ หมายรัก ยกย่องรูป เสียง ผัสสะ อารมณ์
    ๙.โทสะ หนักร้าย ทํา พูด คิดอะไรตามอุปกิเลส
    ๑๐.โมหะ นายหลง ให้ความหลงครอบงํากายใจ
    เสี้ยนแทง อนุสัย แทงจิต
    หนามทิ่ม ตัณหาใจ ติดอุระ
    ลิ่มภัย ไฟราคะ ชนะยาก
    หลาวใหญ่ มานะหลาว จากลําบาก
    ให้ทุกข์ ก้าวร้าวทุกข์ ทนตรากตรํา
    ต้องปราบเสี้ยน หนาม ลิ่ม หลาว ทุกข์ ออกไปจาก กาย วาจา ใจ .
    ที่มา หนังสือ ธรรมะสาระของชีวิต(หลวงปู่ทองใบ ปภัสฺสโร) จ.อุดรธานี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2013
  11. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    ขอกราบขอบพระคุณ "ท่านผู้ว่าง"ที่ท่านได้แนะนําสั่งสอนเรา... เราจะน้อมนํามาปฏิบัติด้วยความเคารพอย่างยิ่งๆค่ะ สาธุ ขอให้ท่านจงเจริญในธรรมของท่านยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ.
     
  12. NOKMAM

    NOKMAM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +6,157
    เห็นด้วยกับคุณมณีตรีค่ะ นกขออนุญาติเป็น Fan Club คุณ ด้วยคนนะค่ะ

    ขอขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ



    [​IMG]
     
  13. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    จะขอเล่าถึงประเพณี การทำบุญของภาคเหนือ หมายถึงที่เชียงใหม่.

    ตั้งแต่ผู้เขียนจำความได้ และก็จำได้ว่าทุกครั้งที่ทางวัดมีงานประเพณีต่างๆ

    อย่างเช่นงานสงกรานต์ ตอนเย็นประมาน ๔ โมงเย็นของวันที่๑๔เมษายนทางวัดเขาก็จะจัดขบวน

    แห่กันไปที่แม่น้ำไปเอาพระอุปคุตมาที่วัดเพื่อให้ผู้คนได้มาร่วมทำบุญกันที่วัด

    เขาก็เตรียมสถานที่ๆจะนำพระอุปคุตมาตั้งไว้ให้ผู้คนที่มาทำบุญตักบาตรกัน

    เขาสร้างสถานที่จะนำท่านมาตั้งไว้ คือจัดสร้างขึ้นมาเหมือนกับศาลพระภูมิแล้ว

    ก็นำก้อนหินที่ไปเอามาจากแม่มาใว้ที่นั่นพอคนมาใส่บาตรก็จะได้ใสบาตรอุปคุตร่วมกัน

    ซึ่งผู้เขียนก็ได้ร่วมใส่บาตรด้วยเพราะได้ทำตามประเพณี เราก็ถือว่าทำอะไรที่ดีก็ทำตาม

    มีผู้ที่เขาไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นมาก่อนมาเห็นเข้าก็ถามว่า นั่นอะไร ใครเอาศาลผีมาไว้

    ในวัด ผู้เขียนก็เลยตอบเขาไปว่าไม่ใช่ศาลผี แต่เป็นศาลพระอุปคุต เขาถามว่ามีอะไร

    ในศาลน่ะ? ผู้เขียนก็เลยบอกว่ามีก้อนหินก้อนหนึ่ง แล้วก็มีบาตร มีเครื่องสักการะ

    พอผู้เขียนบอกเขาไปอย่างนั้น.คือตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร ผู้ใหญ่บอกว่าดีเราก็

    ทำตาม. แต่ตอนนี้พอมีปัญญาก็นำมามองให้เป็นธรรม มองในแง่ธรรมะจึงได้ทราบว่า

    คนโบราณนั้นเขาฉลาด เขาทำอะไรเป็นเครื่องเตือนใจเป็นแบบปริศนาธรรม แต่คนที่

    ไม่คิดก็ไม่เข้าใจและไม่รู้ว่าอะไร บางคนคิดว่าเป็นของขลัง เป็นไสยศาสตร์ไป

    เนื้อแท้ที่จริงนั้นเขาทำไว้เพื่อเป็นเครื่องสกิดใจ เพราะว่าเวลามีคนมาที่วัดมากๆ

    คนมากนี่ก็ต่างจิตต่างใจ ต่างความคิดความเห็น อาจจะกระทบกระทั่งกัน แล้วทะเลาะ

    เบาะแว้งกัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการเป็นเช่นนั้นขึ้นในงาน เขาทำสิ่งนั้นเป็นเครื่อง

    เตือนใจไว้ แต่ว่าคนมันไม่คิด เมื่อไม่คิดก็ไม่เห็นและไม่เข้าใจ เมื่อก่อนที่ผู้เขียน

    เคยเห็นเวลามีงานที่วัดคนที่มาเที่ยวก็จะชกต่อยกัน เขาเลยเอาหินที่หนักๆมาวางไว้

    เป็นพระอุปคุต เพื่อเตือนให้ผู้คนมีใจหนักแน่นเหมือนหิน มีอะไรกระทบกระทั่งนิดๆหน่อยๆ

    ก็ไม่โกรธเคืองกัน และไม่ทะเลาะเบาะแว้งชกต่อย ตีรันฟันแทงกัน อันนี้เป็นเครื่อง

    เตือนใจอย่างนั้น เพื่อให้เราเป็นคนหนักแน่นเหมือนก้อนหิน

    แล้วก็มีคำพังเพยของคนโบราณพูดว่า ไปไหนอย่าพกนุ่น ให้พกหินไป.

    คิดอะไรคิดให้เป็นธรรม มองทุกอย่างให้ใจมีธรรมะจึงนำมาเล่าสู่กันฟัง.



    ผู้เขียนเลยนำมาเล่าสู่กันฟังเพื่อเป็นความรู้อีกอย่างหนึ่ง.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มกราคม 2013
  14. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ดาวเห็นแบบพี่ภูไหม๊ พี่ภูเห็นมีภาพหลวงปู่อีกท่านนึง ซ้อนในรูปถ่ายของหลวงปู่ดูลย์ด้วย(ตรงทรวงอก) แต่หน้าตาไม่เหมือนหลวงปู่ดูลย์นะ รู้+วางนะ แค่ถามเล่นๆ
     
  15. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ขอแสดงความยินดีและขอต้อนรับน้องปุ้ย สมาชิกจิตบุญใหม่เอี่ยมป้ายแดงด้วยนะครับ

    พี่ภูอยากให้เธอจดจำอารมณ์ที่จิตยกใหม่ๆแบบนี้ ตราบจนสิ้นอายุขัยแห่งตน
    ขอให้เจริญสติภาวนาไปให้ตลอด ประมาทไม่ได้ตราบใดที่เรายังมี/ครองขันธ์๕
    เพราะสติเท่านั้น ที่อยู่ทำหน้าที่ใกล้ชิดที่สุดกับสมองและอายตนะ
    จิตยกแล้วก็ตาม จิตรอดแล้วก็ตาม
    แต่เมื่อไหร่ เธอเผลอสติหรือตกฌาน เธอได้พบกับมันแน่ๆ ก็คือ ทุกข์
    เพราะไม่มีผู้ใดหนีทุกข์ได้ มีแต่ออกจากทุกข์ได้
    แตขอให้ถามตนเองนะว่า เกิดเกิดที่ไหน ให้ดับที่นั่น
    ทุกข์มันเกิดที่สติหรือว่า จิตของเธอ
    จิตเกาะพระ สอนเหล่าจิตบุญไปหมดแล้ว สอบผ่านวิปัสสนากันทุกคนแล้ว
    เห็นมีแต่เพียงสติไม่รอดๆ เห็นบ่นกันนักหน๋า

    อย่าลืมนะว่า เราปฎิบัติธรรมเพื่ออะไร ถ้าไม่ใช่ เพื่อความหลุดพ้น
    การปฎิบัติธรรมนั้น ก็เพื่อฝึกจิตกันใช่ไหม๊
    แต่ก่อนจะฝึกจิต เราต้องฝึกสติกันก่อน ฝึกสติเพื่อทำให้จิตนิ่ง
    จิตจะนิ่งได้นั้น ต้องฝึกสติมากๆ จิตจึงจะนิ่งได้
    สรุปแล้วนำสติ+จิต=สมาธิและเกิดปัญญา ใช่ไหม๊

    เมื่อใดจิตบุญไม่สนใจการเจริญสติ จึงเท่ากับประมาทเท่านั้นเอง
    จิตบุญนะ จิตบุญ สตินะ สติ ไปท่องเอาเอง
    จิตบุญนะ ไม่ใช่ อรหันต์ ทั้งจิตบุญหรืออรหันต์นั้น ต่างก็เป็นชื่อสมมุติทั้งนั้น
    อย่าไปสนใจ สนใจแค่จิตตนเอง สนใจว่าเราละทุกข์ได้จริงๆหรือ?
    สนใจว่าจิตใจเราเยือกเย็นจริงๆหรือ? เราให้อภัยคนง่าย จริงๆหรือ?
    เอาแค่นี้ก่อนเห่อ อย่าไปพูดถึง จิตนิพพานหรือ วิตมุตติกันเลย
    เอาง่ายๆก่อน อย่าไปทำอะไรมันยากเกินไป

    พี่ภูขอแนะนำให้เธอแยกกาย แยกจิตให้ชัดเจนนะ (ถามครูเกษ ถามครูลูกพลัง)
    ถามตนเองว่า เราตั้งอยู่บนขันธ์๕ จริงๆหรือ?
    หรืออยู่เหนือความรู้สึกต่างๆ(สติ) และความนึกคิดหรืออารมณ์ของจิต(เจตสิก)ของตน จริงๆหรือ?
    จงพอใจในผลของการปฎิบัติแห่งตนเอง อย่าได้นำไปเปรียบเทียบกับบุคคลอื่น
    พยายามดูจิตตนเองเป็นหลัก ดูจิตคนอื่นได้ แต่อย่าไปพยายามแก้ไขหรือไปเปลี่ยนแปลงจิตผู้อื่น หรือไปเปรียบเทียบภายในจิตตน เพราะมันเป็นไปไม่ได้

    ขอให้พัฒนาจิตตนเอง เข้าสู่จิตพุทธต่อไป หรือทำอินทรีย์ให้แก่กล้าต่อไป
    เพราะจิตนิพพานนั้น ต้องไม่หน่อมแน้ม
    และระวังนะ พวกจิตบุญที่มีจิตละเอียด จะไปรู้ ไปเห็น ไปรับรู้ โดยเฉพาะผู้ที่มีของเก่า เช่น มโนยิทธิ ฤทธ์ทางใจหรืออภิญญา เป็น
    แต่ถ้าท่านรู้และวางไม่เป็น ก็เสร็จ เพราะท่านจะไปสร้างอัตตาตัวละเอียดเข้าไปอีก อันนี้ออกทะเลไปแร๊ะ
    จิตบุญอย่าไปหลงตนเอง อย่าไปคิดว่าเราเป็นอะไร แม้นกระทั่งเป็นครูจิตเกาะพระ วางให้หมด เพราะสมมุติทั้งนั้น

    สรุปแล้ว เผลอสติหรือตกฌาน= เสร็จ = เหยื่อกิเล ส= ทุกข์แน่ๆ

    ขอให้จิตบุญทุกท่าน ประพฤติ ปฎิบัติตามพระสุปฎิปันโน หรือพระอริยเจ้า พระอรหันต์ ก็คือ คอยหมั่นเจริญสติภาวนาให้เป็นเนืองนิจ เพื่อสร้างอินทรีย์ให้แก่กล้าต่อไป เพื่อเป็นภูมิต้านทางกิเลสตนเองและผู้อื่น
    อย่าทำเป็นเหมือนอรหันต์แบบหันซ้าย-หันขวา ขอให้จิตนิ่งหรือจิตว่างจริงๆ
    ไม่ใช่เมื่อวานนิ๊งนิ่ง แต่วันนี้ แกว๊งแกว่ง ซ้ายทีหรือขวาที อันนี้ยังใช้ไม่ได้

    ขอให้เธอและจิตบุญทุกท่าน จงมีแต่ความสุขกาย สบายใจและเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ

    เจริญพร





     
  16. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ประกาศ!

    นับต่อนี้ไป ข้าพเจ้าจะขออยู่เบื้องหลัง จิตเกาะพระ
    เพราะจะขอไปทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด

    บ้านรากแก่นแห่งโพธิญาณ เกิดเมื่อใด ค่อยพบเจอกัน
    แต่ถ้านิมิตไม่เป็นจริงตามนั้น ก็ขอให้ทุกท่านวางใจเป็นกลาง

    ขอให้จิตบุญทุกท่าน จงทำหน้าที่ของตนต่อไป
    ขอให้ทำเพื่อสมเด็จพ่อองค์ปฐม พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ครูบาอาจารย์ทุกท่าน
    ทำเพื่อภารกิจยกจิตลูกหลานเหลนของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ หรือครูบาอาจารย์ทุกท่าน
    อย่าได้ทำเพื่อคนใด คนหนึ่ง แม้นกระทั่งตนเอง
    ผู้ใดคิดจะสร้างบารมีแห่งตนนั้น ต้องทำเพื่อพระพุทธเจ้าอย่างจริงใจ
    และสงเคราะห์หรือช่วยเหลือบุคคลอื่น โดยไม่คิดหวังผลตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น
    (ทำด้วยใจ ไม่มีข้อต่อรองใดๆ)

    การสร้างบารมีนั้น มิใช่เรื่องง่าย มิใช่จะได้ทำได้ทุกคน
    การสร้างบารมีกับการสร้างบุญแห่งตนนั้น ต่างกันราวฟ้ากับเหว

    เพราะการสร้างบุญนั้น ส่วนใหญ่จะทำเพื่อตนเอง
    แต่การสร้างบารมีนั้น ต้องทำกับคนอื่น หรือทำเพื่อบุคคลอื่น เป็นส่วนใหญ่

    ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงยิ่ง กับท่านผู้เจริญทั้งหลาย ที่สนใจจิตเกาะพระ
    และขอขอบพระคุณอย่างสูงยิ่ง สำหรับผู้ที่เข้ามาอ่าน ผู้ติ-ชม
    หรือผู้ที่ให้ธรรมะ เพื่อธรรมาทานแก่พวกเราในกระทู้นี้

    แล้วค่อยพบเจอกัน ถ้าวันหน้ามีจริง หรือ นิมิตมีจริง

    ขอให้จิตบุญ จงอย่าหยุดแต่เพียงเท่านี้ จงอย่าประมาท ตราบใดยังมีลมหายใจ
    ขอให้พัฒนาจิตใจของตนเองให้สูงยิ่งๆขึ้นไป
    โดยเฉพาะ ครูหรือผู้สอนจิตเกาะพระ จิตของท่านจะต้องบริสุทธิ์กว่าผู้ที่มารับการอบรมจิตเกาะพระ

    ขอฝากครูจิตบุญทุกท่าน และจิตบุญทุกๆท่าน ดูแลกันเอง
    โดยเฉพาะดูจิตตนเองให้รอดก่อน ค่อยไปดูแลจิตของผู้อื่น
    จิตบุญ ไม่ควรไปยึดติดในตัวบุคคล แม้นกระทั่งครูสอนจิตเกาะพระ
    แต่ขอให้เชื่อด้วยสติปัญญาแห่งตนเอง

    เจริญพรฯ
    (ยิ้ม)

     
  17. Pugsley

    Pugsley เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +4,825
    นี่คือรูปถ่าย"กายทิพย์" หลวงปู่ดูลย์ที่ถ่ายออกมาแล้วมี"รูปท่าน"นั่งสมาธิซ้อนอยู่ตรงกลางอก (หลายคนคงคิดว่าเป็นการถ่ายภาพซ้อน แต่หากทราบข้อมูลลึกๆ จะทราบว่า หลวงปู่ดูลย์ไม่เคย"เก๊กท่า" นั่งสมาธิให้ใครถ่ายรูปเลย) เมื่อมีผู้เอารูปนี้ไปให้ท่านดู ท่านบอกว่า ตอนนั้น ท่าน"กำหนดจิต" อยู่ที่กลางอกนั่นเอง เมื่อถ่ายภาพมา จึงเห็นเป็นรูปท่านนั่งสมาธิกลางอกด้วยประการฉะนี้ และรูปนี้เอง จึงเป็นที่มาของ"เหรียญกายทิพย์" พ.ศ. 2521 อันโด่งดังและมีประสบการณ์มากที่สุด


    "ความรู้ที่ออกจากจิตที่สงบนั่นแหละ เป็นความรู้ที่ลึกซึ้งถึงที่สุด"

    หลวงปู่ดูลย์ อตุโล

    อ้างอิง --> http://palungjit.org/threads/รูปถ่าย-กายทิพย์-หลวงปู่ดูลย์.354822/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มกราคม 2013
  18. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=jV3fosv8Sss]คาถาธรรมบท ภาษาไทย ฉบับสมบูรณ์ - YouTube[/ame]
    (ฟังด้วยฌาน เวลาจะสั้นทันตาเห็น(จาก2.52 ช.ม.จะเหลือแค่ ไม่ถึงช.ม.)
    แถมได้ปัญญาเพิ่ม)

    ความสงบที่อื่นไม่มี
    อย่าไปตามหากันเลย
    เพราะความสงบที่แท้จริงนั้น ก็อยู่ที่ภายในจิตใจของตนเอง(เท่านั้น)

    ก่อนอื่นเราต้องตามหาจิตตนเองให้พบเจอก่อน หรือทำจิตให้นิ่งจนเสถียรก่อน
    จิตนิ่งเมื่อไหร่ เราก็พบสุขเมื่อนั้น

    แต่จะทำอย่างไรให้นิ่งแบบเสถียร นี่สิยาก!
    ทำได้เราต้องคอยหมั่นเจริญสติภาวนาเป็นนิจ หรือเจริญสติให้เป็นมหาสติ
    หรือพยายามทำความรู้สึกตัว+ทั่วพร้อม(สติสัมปชัญญะ) ให้เป็นชิน(วสี)

    เพราะฉะนั้น
    โลกุตรธรรม ๙ "สภาวะพ้นโลก" (มรรค๔ ผล๔ นิพพาน๑) ก็อยู่ที่จิตของตนเอง เท่านั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 มกราคม 2013
  19. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    [​IMG][/QUOTE]

    อ้อ..เป็นภาพกายทิพย์ของหลวงปู่ดูลย์เองก๊าบบผมมมม....:cool:
     
  20. ◎

    เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    428
    ค่าพลัง:
    +5,154
    เดี๋ยวๆทุกท่าน ต้องบอกก่อน เราไม่ได้เป็นผู้สอน
    เป็นได้เพียงผู้แนะนำ ทดสอบในบางจังหวะเวลา

    ดังนั้น อย่าปักใจเชื่อในสิ่งที่เล่ามา และจะยกเป็นตัวอย่างให้เป็นข้อพิจารณา ว่า
    เวลาใครจะเรียกร้องศรัทธา ให้ผู้ใดผู้หนึ่งมาศรัทธานะ ไม่ยากเลย
    ก็ใช้วิธีแบบนี้แหละ งัดเอาอาวุธลับมาโชว์ ทีนี้ล่ะ สังคมจะแกว่ง
    เกิดศรัทธาในตัวบุคคล ยึดตัวบุคคล เป็นที่ตั้ง

    ก็ลองถามตนเองดูสิว่า เมื่อรู้วิธีเหล่านั้นแล้ว แล้วเราจะเป็นแบบนั้นหรือ
    และต้องก้าวข้ามในสิ่งนี้ไปให้ได้ หากมีธรรมเป็นที่ตั้ง ด้วยความวิริยะพากเพียรเป็นแรงขับต่อไป
    จะเป็นสิ่งที่สอนใจตนได้เป็นอย่างดี คือ อัตตาหิ อัตโน นาโถ

    พวกท่าน แสดงอาการออกหน้าออกตา
    ดังนั้น อ.ภู อย่าเพิ่งด่วนประกาศขายบ้าน ผมอยู่ในฐานะนักเลงนักปริยัติ น่ะดีแล้ว

    จำสิ่งไหนได้ ก็จะเอามาแปะให้อ่าน ให้พิจารณา อยู่แบบสบายๆ ไร้หัวโขน​


    <IMG src='http://palungjit.org/customavatars/avatar106421_5.gif' width=150>​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มกราคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...