ขนหัวลุก!!! ตกดึกเห็นสาวชุดไทยมาร่ายรำ-กุมารทองวิ่งเล่นที่สุสานตุ๊กตาเสียกบาล

ชวนขนหัวลุกพบสุสานตุ๊กตาเสียกบาลหลังบ้าน
ตกดึกมีนางรำมาร่ายรำให้ดูและมีเด็กกุมารทองวิ่งเล่นจำนวนมาก




เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 30 ม.ค.ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายสุนทร แก้วสว่าง อายุ 71 ปี ประธานสภา องค์การบริหารส่วนตำบลในคลองบางปลากด
แจ้งว่ามีบ้านเลขที่ 31 หมู่ 9 ซอยวัดคู่สร้าง ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ แจ้งมาว่าขอให้ทาง อบต.ในคลองบางปลากด
มาช่วยขนย้ายตุ๊กตาเสียกบาล จำนวนนับหมื่นตัวที่วางอยู่หลังบ้านออกไปไว้ทีวัดให้ด้วย
เนื่องจากเจ้าของตุ๊กตาดังกล่าวได้เสียชีวิตไปแล้ว และรู้สึกหวาดกลัวเพราะเคยเห็นตุ๊กตานางรำชุดดังกล่าวขึ้นมาร่ายรำบนบ้าน และเห็นเด็กคล้ายกุมารทอง มาวิ่งเล่นบ่อยมาก




หลังรับแจ้งผู้สื่อข่าวจึงรีบไปตรวจสอบเรื่องชวนขนหัวลุกดังกล่าว
เมื่อเดินทางไปถึงบ้านเลขที่ดังกล่าวปลูกอยู่ห่างจากถนนวัดคู่สร้าง - ประชาอุทิศ เดินทางเท้าเข้าไปประมาณ 40 เมตร

พบปลูกเป็นบ้านชั้นเดียวใต้ถุนสูง อยู่ท่ามกลางป่าหญ้าและบ่อปลาหลังเดียวโดดๆ บรรยากาศเยือกเย็น และได้พบกับป้าจู ยังตรง อายุ 75 ปีน้องสาวเจ้าของบ้าน
พาไปดูหลังบ้านที่มีลักษณะคล้ายสุสานรูปปั้นตุ๊กตาเสียกบาลที่ถูกวางไว้ในกล่องโฟมขนาด 40 x 40 เซ็นติเมตร อย่างเป็นระเบียบนับร้อยกล่องรวมแล้วเกือบหมื่นตัว
มีทั้งรูปปั้นคล้ายกุมารทอง รูปปั้นนางรำ พระบูชาที่ชำรุด รูปปั้นตายาย และรูปปั้นลักษณะอื่นๆอีกจำนวนมาก ดูแล้วเป็นที่น่าชวนขนหัวลุก

นอกจากนี้ยังพาไปดูกระต๊อบของนายจิน มีฉลาด อายุ 90 ปี ที่อาศัยหลับนอนและเจ้าเป็นเจ้าของสุสานรูปปั้นตุ๊กตาดังกล่าวที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา


ป้าจู ยังตรง เล่าให้ฟังว่า ที่บ้านหลังนี้พักอาศัยอยู่รวมกัน 3 คน มีพี่แหวน ยังตรง อายุ 89 ปีอดีตภรรยานายจิน มีฉลาด และนางอิ่ม ยังตรง อายุ 74 ปี น้องสาว
ส่วนนายจิน หลังเลิกลากับพี่สาวก็มาขออาศัยปลูกกระต๊อบอยู่หลังบ้าน หลังปลูกกระต๊อบเสร็จ
ช่วงเช้าทุกวันนายจิน อดีตพี่เขย จะเดินออกไปเก็บรูปปั้นตุ๊กตาลักษณะรูปลักษณ์ต่างๆ ที่มีคนนำไปวางไว้ที่บริเวณทางสามแพ่ง และที่ริมถนน
นอกจากนี้คนที่นำรูปปั้นต่างๆที่หักชำรุดมาทิ้งไว้ที่วัด
นายจิม ก็ไปเก็บมาใส่กล่องโฟมอย่างเป็นระเบียบ ไว้ที่ข้างกระต๊อบเป็นประจำทุกวัน ว่ากล่าวตักเตือนอย่างไรก็ไม่ฟัง แถมยังบอกอีกว่าของดีๆทั้งนั้น


บางคืนช่วงดึกพวกตนนอนอยู่ที่บ้านก็ยังเคยเห็นรูปปั้นตุ๊กตานางรำ ร่ายรำอยู่เป็นประจำ และยังเคยเห็นเด็กมัดจุกคล้ายกุมารทองวิ่งเล่นกันจำนวนมาก
เคยนิมนต์พระมาทำพิธีแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลไปให้ แต่ก็ยังเห็นอยู่
จึงได้ไปซื้อผ้าใบขนาดใหญ่มากั้นปิดบังเพื่อให้ลับตา แต่ก็ยังเห็นหญิงสาวนางรำห่มผ้าสไบ มาร่ายรำที่นอกชานหน้าบ้านอีก
จึงปรึกษากันไปขอผ้ายันต์ที่เจ้าอาวาสวัดคู่สร้างมาปิดไว้ที่บนบานประตูหน้าบ้าน
ถามว่ากลัวมั้ยก็กลัวบ้างแต่ชินชาแล้วและอีกอย่างคนในบ้านก็มีอายุมากกันทุกคนจึงรู้สึกปลงกับสิ่งที่เห็น





ส่วนป้าอิ่ม ยังตรง อายุ 74 ปี เล่าให้ฟังว่า เคยเห็นหญิงสาวสวมชุดไทยมาร่ายรำ ที่หลังบ้านบ่อยครั้งมากตอนแรกนึกว่าตาฝาด เมื่อมาเล่าให้พี่สาวฟังก็บอกว่าเคยเห็นเหมือนกัน
นอกจากนี้ยังเห็นเด็กคล้ายกุมารทองมาวิ่งเล่นหลายครั้ง และได้ยินเสียงดนตรีไทยบรรเลงเพลงแผ่วเบา คนที่รู้จักกันเดินผ่านบ้านช่วงดึกก็ยังเห็นคนจำนวนมาก อยู่ที่บ้านจนบางคนคิดว่าที่บ้านจัดงาน
และหลังจากนายจิน มีฉลาด อดีตพี่เขยและเจ้าของสุสานตุ๊กตาได้เสียชีวิตลงเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาจึงปรึกษากัน และได้ไปแจ้งทาง อบต.ให้มาช่วยขนย้ายรูปปั้นตุ๊กตาทั้งหมดไปไว้ที่วัด เพราะชาวบ้านที่อยู่ในละแวกเดียวกันมีความรู้สึกกลัว จนไม่มีใครกล้าเดินผ่านหน้าบ้านในช่วงดึก

นายสุนทร แก้วสว่าง กล่าวว่า รู้จักคนในบ้านนี้ทุกคน โดยเฉพาะ นายจิน มีฉลาด อดีตเคยเป็นช่างฝีมือ ทำช่อฟ้า และทำใบฎีกาให้วัด หาตัวจับยาก
หลังจากแกมีอายุมากขึ้นจึงได้เลิกลาไปหลังจากนั้นแกก็ออกไปเก็บรูปปั้นตุ๊กตาที่ชำรุดมาไว้ที่บ้านแม้มีคนเตือนก็ไม่ฟังใคร
ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านมาเล่าให้ฟังเหมือนกันว่าเคยเห็นคนจำนวนมากอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวนึกว่ามีการจัดงานเมื่อตรวจสอบก็ไม่มี จึงเป็นที่ฉงนของคนในหมู่บ้านใกล้เคียงเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตามหลังนายจินได้เสียชีวิตไปแล้วจึงได้รับแจ้งจากนางจู และนางอิ่ม ขอความช่วยเหลือให้มาช่วยขนรูปปั้นตุ๊กตาไปไว้ที่วัด และได้นิมนต์พระไปทำพิธีที่บ้านหลังดังกล่าวแล้ว
และจะนำเจ้าหน้าที่ของ อบต.ในคลองบางปลากดไปช่วยกันขนย้ายรูปปั้นตุ๊กตาเสียกบาลเพื่อความสบายใจของคนในบ้านต่อไป

เครดิตเรื่องและภาพ ตะลึง!สุสานตุ๊กตาเสียกบาล ตกดึกขนหัวลุกเห็นสาวชุดไทยมาร่ายรำ-กุมารทองวิ่งเล่น | เดลินิวส์

 

วิญญาณมีจริง ถ้าไม่ได้อุทิศส่วนกุศลส่งให้เขาไปเกิดเขาก็ยังเวียนว่ายอยู่แบบนี้
ถ้าอยู่ใกล้แถวนั้นก็คงหนาวเหมือนกันนะ

 

เคยมีเด็กน้อยไปเก็บมาเล่นที่บ้าน เกิดไม่สบายป่วยอย่างกระทันหัน!
ยังดีที่มาเข้าฝันบอกคนในบ้านว่าไปนำของเขามาทำไม่ จึงได้นำไปคืนไว้ที่เดิม เด็กเลยหายป่วย!

 

ดีอยู่นะ ขโมยจะได้ไม่กล้ามาลักขโมยของ ถ้าสวดมนต์อุทิศบุญให้พวกเขาบ่อยๆ เขาจะได้ไปสู่ภพภูมิที่ดีๆ ถ้าพวกเขายังไม่ไปเกิดก็จะได้เป็นมิตรคอยช่วยเหลือคนในบ้าน

 

อยู่แถวนั้นรับรอง หนาว กว่า ลำปาง อิอิ

 

อ่านเรื่องนี้แล้ว ก็ชวนให้สงสัยและเกิดคำถาม 2 ข้อ ???
จะมีท่านผู้ใดช่วยตอบเป็นวิทยาทาน/ธรรมทานหน่อยค่ะ คือ

1.ทำบุญอุทิศ กุศลไปให้แล้ว ทำไมวิญญาณยังมาปรากฎให้เห็น
(อาจจะไม่ได้รับบุญที่อุทิศไปให้ หรืออย่างไร หรือจำนวนวิญญาณมีมากเกินไป
เลยรับไม่ทั่วถึง หรืออื่นๆ...สารพัดเหตุผล )

2.วิญญาณที่มาสิงอยู่ในตุ๊กตาเหล่านี้ คือวิญญาณประเภทใด
ใช่พวกสัมภเวสี เร่ร่อน รึป่าว)

ขอบคุณค่า ^^

 

น่ากลัวจัง :boo:

 

โชคดีที่บ้านอยู่ไกลจากแถวนั้น ไม่งั้นคงเสียวๆพิลึก:boo:

 

อยากได้กุมารทองสักองค์นะครับเอาที่แรง ๆ หน่อย ติดต่อที่ไหนดีครับ

 

คำถามกว้างเกินไป
ก็มีหลายเหตุผล หลายประเภท บางตนถูกเวทมนต์บังคับให้ยึดติดกับร่างนั้น บางตนไม่รู้ที่จะไป ก็แล้วแต่บุญกรรมครับ

 

ฟังเเล้วน่ากลัว เเละ ก็น่าลองเข้าอยุ่บ้าง จะได้สัมผัสวิญญาณ

 

ผมขอตอบให้ฟังบ้างก็แล้วกัน จะได้เลิกกลัวผีซะ
ข้อ 1. ถ้าบุญไม่มากพอจะเปลี่ยนภูมิ เค้าก็ไม่ไป ก็อยู่ที่เดิม แต่อยู่ดีกินดีขึ้น หรือไม่งั้นอายุผีตนนั้นเค้าก็จะสั้นลง จะได้เปลี่ยนภูมิเร็วขึ้น แต่ถ้ามีคนมีบารมี มีกำลังบุญมาก แผ่ให้แป๊บเดียวหายวับไปเกิดเลย หรือบุญผีใกล้เต็มแล้ว ก็จะไปปุ๊บเลย ต้องขอแยกกล่าวเป็นรายละเอียด 2 กรณีดังนี้
1.1. ผีนางรำ หรือไอ้จุก นั่นนะ หรือ ปู่ ย่า ตายายนั่นนะ จริงๆแล้วเป็นภูมิที่เกิดใหม่แล้ว ไม่ใช่สัมภเวสี อยู่ประมาณภูมิเทวดา ยังคงมีหิว มีสนุก ทุกข์ เศร้า เหมือนๆคนอยู่ สามารถทานอาหารด้วยทิพย์ รับบุญกุศลด้วยทิพย์ 1 วันมนุษย์ อิ่มไปเป็นปีโลกมนุษย์ แต่แค่ วันเดียวของเค้า พวกนี้อยู่เป็นร้อยๆปี บางพวกเกิดจากพวกตายโหงเป็นสัมภเวสีมาแล้ว ได้รับการเลี้ยงดูให้บุญกุศล จนเปลี่ยนภูมิ เช่นกุมารทองนั่นแหละ หรือ ผีนางรำอะไรนั่น บ้างถูกมนต์สะกดไว้ มีให้ติดกับสิ่งหนึ่ง ได้บุญ หรือ อยู่สะสมบารมีมากขึ้น ก็เปลี่ยนภูมิ อย่างที่เราเห็น พวกนี้เราให้บุญมากๆ ยิ่งเป็นบุญจากกรรมฐาน นะ ยิ่งไปเร็ว พวกที่มีบุญน้อยๆพวกนี้ หน้าตาจะหน้ากลัว ผิวขาวซีด ตาแดงมีเลือด เดินแบบไร้กระดูก เปรียบเทียบกับคน เหมือนคนจน คนจรจัด ไม่มีเงิน ประมาณนั้น แต่ถ้าให้เงิน ให้เสื้อ ผ้า ที่อยู่ สภาพคนคนนั้นก็จะดูดีขึ้น ยิ่งมีมากยิ่งดี ในโลกแบบนั้น เงิน ก็เปรียบเสมือนบุญที่เค้าได้รับนั่นแหละ ยิ่งได้รับบุญมาก ก็อาจยังอยู่เพราะยังไม่หมดเวลา แต่หน้าตา ผิวพรรณ จะสวยมาก เหมือนนางฟ้า ยิ้มแย้มแจ่มใส่ ไอ้จุกก็จะเหมือนเด็กน่ารัก หน้าตาดี ผิวพรรณดี มีมารยาท แต่ยังคงซนเหมือนเดิม
1.2 พวกสัมภเวสี ที่ติดในรูป คือ ติดในรูปที่แทนตัวเอง อาศัยอยู่กับรูปปั้นนั้น ยิ่งมีคนมากราบไหว้ มาเซ่นไหว้ เค้าก็ได้กิน เป็นวิธีที่ง่ายดีนะ เวลาเห็นคนที่กราบไหว้บ่อยๆไปทำบุญก็ตามไปขอส่วนบุญด้วย บ้างก็ทักคนที่ผ่านไปผ่านมา เพราะอยากได้ของกิน อยากได้บุญ คนขวัญอ่อน ขี้กลัว ก็จะป่วย เป็นไข้บ้าง เพื่อเก็บสะสมกำลังบุญ จะได้หลุดจากเร่ร่อนอยู่แบบนี้ พวกที่สะสมได้มากขึ้น ก็อาจเปลี่ยนภูมิเป็นพวก 1.1. หรือถ้าถึงระดับพอก็เปลี่ยนภพภูมิ ไปเกิดใหม่เลย อาจไปเป็นสัตว์นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน มนุษย์ เทวดา แล้วแต่บุญที่ตนทำไว้ตอนเป็นคน เพราะตอนเป็นสัมภเวสี บุญตรงนั้นไม่ได้ช่วยอะไร ยกเว้นบุญจากกรรมฐาน และการภาวนา จะทำให้แม้เป็นผี ก็มีกำลังจิตมาก สามารถแสดงฤทธิ์ได้มาก การปรากฎ หรือ สื่อสารกับคนให้ส่งบุญไปให้จึงง่าย

ข้อ 2. วิญญานที่สิงอยู่ มีทั้งวิญญาณ สัมภเวสี เร่ร่อน วิญญาณที่ถูกสะกดด้วยอาคม หรือวิญญานที่ติดรูปนาม ว่ารูปปั้นนั้นเป็นตัวเอง

 

เรื่องราวสนุกดีครับ ตื่นเต้น สำหรับผมแล้วไม่กลัวเรื่องพวกนี้ เพราะก็เลี้ยงอยู่เหมือนกันครับ เจอบ่อย แต่ไม่ค่อยเจอกับตัวเอง ส่วนใหญ่จะเป็นแฟนมากกว่า ขอขอบคุณและขออนุโมทนานะครับ

 

ชัดเจน และอนุโมทนา ค่ะ
ส่วนตัวชอบอ่านเรื่องพวกนี้ หุหุ แต่ไม่ค่อยชอบ...ถ้าจะต้องเจอ

 

ขออนุโมทนาสาธุ ธรรมใดที่ท่านสำเร็จแล้ว ขอข้าพเจ้าสำเร็จด้วยเทอญ สาธุๆๆ

 

...ดิฉันสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่าง...:boo:

เดี๋ยวเจ้าของวลีนี้คงบุกมาพิสูจน์พร้อมทีมงาน

 

ขนหัวลุกเลยคะ ถึงกับหลอนเลยทีเดียว

 

เห็นข่าวทาง TV ประธานสภา องค์การบริหารส่วนตำบลในคลองบางปลากด มาเคลียร์พื้นที่เรียบร้อยแล้ว อย่าลืมทำบุญด้วยนะครับอุทิศบุญกุศลให้ด้วยละ


บอกบุญร่วมกุศล
http://palungjit.org/threads/เชิญร่วมบุญสร้างเหรียญมหามงคล-“เจ้าสัวใหญ่”.422015/

 

ผมว่าเค้าไม่ได่มีเจตนามาร้าย แต่มาเพื่อให้รู้ว่าเค้ายังคงอยู่และคงต้องการบุญกุศล