สงสัยเกี่ยวกับบูชาพระ เอาพระซื้อมาแล้วขายแพงกว่า

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ballbeamboy2, 17 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    สมมุติ มีคนเจอพระ ซื้้อมาราคาหนึ่ง แล้วคิดว่าจะขายต่อเพื่อเอากําไร แบบนี้ปรามาสพระรัตนตรัยไหม แล้วถ้าปรามาส จะขายเพื่อเอากําไรอย่างไงไม่ให้บาป
     
  2. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,572
    ค่าพลัง:
    +4,560
    พอดี ผมบูชาพระมาเก็บบนหิ้งบูชา และหาราคาหลักร้อย ไม่เคยขาย..
    ...คนเก็บพระน่าจะร้อยทั้งร้อย สะสมเพราะชอบและหวังพึ่งพุทธคุณ บางรายเป็นงานอดิเรก บางรายเป็นพุทธพาณิชย์ บางรายเป็นอาชีพ....บางรายเก็บเฉพาะที่ตนเองชอบ บางรายเก็บมั่วไปหมดฯลฯ
    ...แค่คุณบูชาด้วยการเช่ามานี่ก็ไม่บริสุทธิ์แล้ว...อย่าว่าแต่ซื้อถูกขายแพงเลย.....
    ...พระที่ศักดิ์สิทธิ์นั้น(พระเครื่อง)อ่านในประวัติแล้วส่วนใหญ่เป็นพระแจกสมนาคุณทั้งนั้น
    เช่นไปทำบุญที่วัด แล้วพระท่านแจกสมนาคุณให้ฟรีๆ พระราคาหลักสิบได้ แต่สามารถคุ้มครองป้องกันภัยได้ เพราะเจตนาผู้สร้าง เจตนาวัด เจตนาคนทำบุญบริสุทธิ์หมด ไม่มีบาป พระจึงมีอานุภาพ...แต่ถ้าซื้อ จิตมีกิเลศ วื้อทุกประเภท ส่วนใหญ่คนห้อย...ตายหรือบาดเจ็บ..
    ถามว่าปรามาสรัตนตรัยไหม ไม่ต้องตอบ...เพราะคำตอบคือความตายหรือบาดเจ็บ และจะซื้อขายอย่างไรไม่ให้บาปนั้น ไม่มี เพราะกิเลศสะสมสมบัติทางโลกเมื่อใด....การเวียนว่ายตายเกิด นรกถามหาทันที แต่ถ้าจิตสะสมอริยะทรัพย์ ทาน ศีล ภาวนา นั่นแม้เวียนว่ายตายเกิด แต่ก็จะเป็นสุคติภพแน่นอน ดีไม่ดีหลุดไปนิพพานโน่นเลย
     
  3. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    ปรามาสมั้ย
    ผมว่าไม่
    การซื้อขายนี่อยู่ที่การพอใจของทั้งสองฝ่าย คือคนซื้อ กับคนขาย
    ไม่ใช่การหยามหยันพระ ไม่น่าจะปรามาสอะไรนะครับ

    เรื่องพวกนี้คิดมากก็เท่านั้นครับ เราไปเช่าบูชาพระ เราก็ไม่ได้คิดจะปรามาสอะไรพระอยู่แล้ว
    พระหรือวัดที่ให้บูชา ก็ไม่ได้คิดปรามาสพระ
    ส่วนคนที่อยู่ในวงการธุรกิจพวกนี้ ผมไม่ทราบไม่แน่ใจ เพราะไม่เคยสนิทด้วย
    แต่สุดท้ายก็อย่างที่ว่ามาตอนต้น ก็อยู่ที่ความพอใจในเรื่องราคา ไม่เกี่ยวกับปรามาสอะไรเลย
     
  4. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    โดยปกติบุคคลที่มีจิตใจที่ละเอียดและมีความมั่นคงในคุณพระรัตนตรัยมากแล้วก็จะรับรู้ถึงความปรามาสที่ละเอียดนั้นมากกว่าบุคคลที่มีจิตที่หยาบและมีความมั่นคงในคุณพระรัตนตรัยที่น้อยกว่า

    โดยปกติผู้ที่มีจิตใจละเอียดมากแล้วย่อมรู้ชัดว่าพระรัตนตรัยนั้นมีค่าประมาณไม่ได้ด้วยเงินตรา แม้แต่รูปเคารพอันเนื่องเกี่ยวกับพระรัตนตรัยนั้นก็ตาม(อาจเรียกได้ว่าเป็นเจดีย์อย่างหนึ่งในพระศาสนา ที่เรียกว่า อุทเทสิกเจดีย์) การกำหนดเงินตรานั้นขึ้นมา ก็จะเป็นการเปรียบเทียบและตีราคาเป็นสิ่งของไปโดยปริยาย ซึ่งของเหล่านั้นที่ควรเคารพเนื่องจากเป็นเจดีย์ ก็จะกลับกลายเป็นประติมากรรม ซึ่งดูแล้วอาจไม่มีค่าใดเลย หรือมีค่าน้อยไปเลย หรืออาจมีค่าแค่เงินตราที่แลกเปลี่ยนกันไป ในปัจจุบันที่เขาเรียกกันว่าพุทธพานิชย์อย่างนั้นหละครับ กลายเป็นธุรกิจ กันไป...

    ฉะนั้นจิตใจของบุคคลที่หยาบอยู่ก็จะเห็นเพียงแค่เป็นสิ่งของที่สามารถนำมาสะสม เป็น ประติมากรรม อย่างนั้นหละครับ.....เราสามารถดูได้จาก จริยวัตร จากประวัติของครูบาอาจารย์ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) หลวงปู่มั่น หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ก็ตาม ท่านเหล่านี้มีจิตใจที่ละเอียดแล้วเห็นรูปเคารพเหล่านั้นเป็นเจดีย์ในพระศาสนา แม้ยังสร้างไม่เสร็จ หรือยังไม่ได้ผ่านพิธีกรรมพุทธาภิเษกใดๆ ท่านก็ก้มกราบได้สนิทใจ อันนี้คือจิตของท่านที่ละเอียดแล้ว.....

    ยอมรับว่าในปัจจุบันพุทธพานิช นั้นมีอยู่มาก เพราะเป็นเรื่องของกิเลสและเรื่องของเงินตรา แต่เราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเอาเรื่องที่เป็นเรื่องที่หยาบในสังคม หรือ เรื่องที่เห็นว่าเป็นปกติในสังคม ที่เป็นเรื่องที่ผิด แต่เห็นว่าเป็นเรื่องปกติที่ทำกันมาและยอมรับว่าไม่ผิดนั้น จนกลายเป็นเรื่องที่คิดว่าปกติและทำกันได้ ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าจิตใจเรานั้นยังหยาบอยู่ และมีความมั่นคงในพระรัตนตรัยยังน้อยอยู่.....

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2013
  5. apichayo

    apichayo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    488
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,936
    ตอบได้ดีครับ โมทนาสาธุด้วยครับ..
     
  6. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +18,998
    มีพี่คนหนึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อพุธ ท่านชอบสะสมรูปเหมือนขนาดตั้งบูชา โดยท่านให้เหตุผลว่า ท่านเอาเงินทำบุญให้กับวัด และรับเอารูปหล่อบูชามา เพื่อบูชาและระลึกถึงพระคุณของหลวงพ่อ อาจทำไม่ค่อยถูกหน่อยที่ให้หลวงพ่อจารให้ เพราะการไปใช้พระนั้นบาปเหมือนกัน แต่ท่านชอบของท่าน และท่านยังให้แง่คิดว่า เวลาไปเที่ยวที่จังหวัดไหน หากซื้อของกินมา กินแล้วก็ลงส้วม หากซื้อของใช้ของที่ระลึกมา เก่าไปก็ทิ้ง แต่ถ้าทำบุญเป็นแล้วได้เป็นรูปเหมือนมานั้น ไม่ว่าเก่าอย่างไรก็ไม่ทิ้งแน่นอน รู้สึกว่าจะดีกว่าซื้อของกินและของที่ระลึกอื่นๆ ส่วนเรื่องนำไปขายนั้นท่านนี้ไม่ทำ เว้นแต่ว่าจะให้กับทางวัดเวลามีงานจะมีคนมาประมูลไปเพื่อนำไปบูชาเงินก็เข้าวัดทั้งหมดอันนี้ท่านนี้ก็ทำอยู่บ้าง นอกนั้นก็แจกกันสำหรับสหธรรมิกทั่วๆไปครับ...ส่วนเรื่องการขายพระนั้น อ่านเจอจากที่หลวงปู่ดู่บอกไว้คือ อย่าทำเลย "บาป" ส่วนซื้อหามานั้น ถ้าไม่มีเงินไปซื้อหามาก็รับรองว่าเดี๋ยวนี้คงไม่มีใครเอาพระหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ มาแจกให้คุณฟรีๆเสียแล้วสิ...ท้ายที่สุดแล้ว หลวงพ่อ หลวงปู่ ทุกรูป ท่านก็หวังให้ลูกศิษย์ทุกคนได้สร้างพระขึ้นในดวงจิตของตัวเองให้ติดจิต ติดใจ ไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะนิพพานด้วยกันทุกรูปนะครับ หลายท่านในนี้ก็เพียรพยายามกันอยู่สินะครับ เพียงแต่ว่าเบื้องต้นบารมียังอ่อนอยู่ก็ต้องอาศัยวัตถุมงคลสวมคอไว้เพื่อเป็นเครื่องระลึกเตือนใจกันบ้าง เอาให้ถึงวันที่เกิดพระขึ้นในใจได้แล้ว คงจะสบายกันหมดแหละครับ...สวัสดี
     
  7. nai_Prathom

    nai_Prathom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +694
    สำหรับผมแล้ว เป็นการปรามาสพระรัตนตรัยอย่างแน่นอน
    จำได้ว่าครูบาอาจารย์หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน ท่านเคยพูดเปรยๆไว้ว่า
    อย่าพระพุทธที่เปรียบเสมือนพ่อแม่ไปค้าขายทำมาหากิน

    ผมเชื่อว่าผู้ที่ปฏิบัติธรรมได้ก้าวหน้า มีจิตใจน้อมไปในคุณแห่งพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ คงจะไม่มีท่านใดนำเอาพระไปทำมาหากินหรอกครับ
     
  8. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405
    ก็ต้องดูความหมายของคำว่า ปรามาส นะครับว่า..แปลว่าอะไร
    และถ้าไม่ผิดศีลข้อที่ ๒ ก็ไม่เป็นไรนะครับ ตามยุคตามสมัยนะครับ
     
  9. jinso

    jinso เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    423
    ค่าพลัง:
    +659
    หากเป็นพระที่เราเดินไปแล้ว......สภาพจมดินนานแล้วแบบเหรียญต้องเก็บเลยใช่ป่าวครับ
     
  10. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    :cool:ถ้าอยากจะรู้มันต้องลงมือทำเอง ถึงจะรู้ ว่าผิดหรือถูก ต้องเรียนรู้เอง เอาแต่พูด กับเรียนไม่ได้เกิด ประโยชน์ อะไรหรอกครับ ทุกอย่าง อยู่ที่เจตนา ของใครของมัน ตาบใด ยังมีโลภโกรธ หลงกันอยู่ มันก็มีทั้งถูกและผิด แต่ใครล่ะ จะเลือกเอาแบบไหน ครูบาอาจารย์แต่ละองค์ ท่านมีกุตสโลบาย อันแยบคาย ไม่เหมือนกัน จึงมองต่างมุม จงดู ความดีความชั่ว ของตัวเอง น่ะจะดีกว่าครับ คนอื่นแม้จะดีหรือชั่ว เรามิอาจเอาของเขามาได้ นอกจากไปยินดีกับเขา ชั่วกับดีมันก็ได้รับมา ๒๐ เปอร์เซ็นครับ ถ้าเรายังไม่รู้โดยแยบคาย พูดไปเท่าไหร่ มันก็ผิดมากเปล่าๆ

    มีคนไปฟ้อง หลวงพ่อคูณ ว่า คนที่ขายพระ ข้างวัดท่าน มีแต่ ของ นอกวัด ไม่ใช่พระออกภายในวัด ท่านตอบมาว่า มันไม่ไปขโมย จี้ ปล้นเขาก็ดีแล้วครับ ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน อยู่ที่การตกลงกัน คนเรามันไม่ได้ มีอาชีพเหมือนกัน ถ้าเรามีความเห็น ต่าง แน่จริง แน่จริงก้ไปเลี้ยง ครอบครัว เขาเหล่านั้น ให้หมด สิ ดูแลให้ทุกหย่อมหญ้า พระโพธิสัตว์ที่มีกำลัง มากๆ ยังทำไม่ได้เลย แม้พระพุทธองค์ ยังไม่สามารถ เอาคนไปนิพพานได้หมด และทำให้ทุกคนรวยได้ ฉนั้นเราต้องมอง เปิดใจให้กว้าง ดูให้ไกล อย่าพูดแบบพ่อยๆ จะเกิดโทษแก่เรา เองเปล่าๆ คนเรา ต้องดูที่เจตนา มันไม่เสมอไปหรอกนะครับ ไม่ใช่ผมทำอาชีพนี้แล้ว จะค้าน


    แต่ด้วยประสบการณ์ อันยาวไกล ครูบาอาจราย์แต่ละองค์ บางครั้ง จะสอนไม่เหมือนกัน และแต่ละคน ก็สอนไม่เหมือนกัน ผมจะยกตัวอย่างเอาไปให้พวกท่าน เป็นอุทาหรณ์ จะไม่เกงใจใคร หลวงพ่อฤาษี ท่านได้บอก ลูกศิษย์ ลูกหา ลูกหลานทั้งหลาย หลายคน พระของข้าแก้จนได้ ลูกหลานรวย วัดก็พลอยรวยไปด้วย บางคนเอาพระมาให้ท่าน คืน คือ เขาทำบุญบ่อยๆ มีพระเยอะ นำไปถวายท่าน ท่านบอกให้นำกับบ้าน ต่อไปของข้าแก้จนได้ นี่ตัวอย่าง และคนที่ทำสมเด็จองค์ปฐม รุ่น ๓ ถวายท่าน ๓ หมื่นกว่าองค์ ตอนนั้นเขารวย หลวงพ่อให้เขานำกับไปบ้าน ประมาณตก พันองค์ บอก ต่อไปเอาไว้สร้างบ้านนะ แต่ตอนนี้ ครอบครัวนี้จนลงแล้วครับ แต่พอเขาผู้สร้างได้ตายไปแล้ว

    แม่ชี กับพระวัดกิโล ๘ ท่านรักษา ศิล ๘ ทั้งคู่ ต่อมาภายหลัง ผัวบวชพระ เมียบวชชี บริจาคบ้านที่ โรงพยาบาล ท่านกล่าวไว้ว่า พระของข้า เอาไว้ สร้างวัดนะ เพราะว่าท่านเช่าไป หลายพันองค์ ตั้งแต่ยังไม่บวช ตัวผมเองได้ยินบ่อยๆหลายแบบ หลวงพ่อท่านรู้ ว่าใคร เป็นแบบใด ท่านจะสอน ตามจริตคนครับ และตามถานะ ท่านรู้ล่วงหน้า มีอีกคน อยู่ในวัดท่าซุง แกบอกว่า หลวงพ่อสอนแก พระของข้าห้ามนำไปขาย กิน จะมีโทษ แม้คนๆนี้เจอหน้าผม เขาจะพูดใส่หน้า ผม ๆก็ได้แต่ฟัง ไว้ แล้วแต่ของใคร มีพระในวัดอีกองค์ หนึ่ง มรณะไปแล้ว ท่านพูดกับผมว่า หลวงพ่อบอก ต่อไปแกจะช่วยคนได้เยอะ เกี่ยวกับในด้านวัตถุมงคล แต่ผมก็สัมผัส ท่านมานานครับ ผมได้ประสบการณ์ จากท่านเยอะไม่ขออธิบาย ยังมีอีกนับเป็นสิบๆเรื่อง เกี่ยวกับวัตถุงมงคลครับ


    ถ้าเรารู้ไม่จริง ก้อย่า พูดเลยนะ มันจะเกิดโทษ ทั้ง ผู้พูด และผู้ที่นำไปในทางไม่ดี ทุกอย่างมีคุณก็มีโทษ ไม่เสมอไป มีคนรุ่นน้อง ศิษย์เดียวกัน พูดใส่หน้าผม ว่า ผมน่ะไม่ขายพระพ่อกินหรอกครับ พูดกระแทกนิดๆ ต่อมาไม่กี่เดือน สิบล้อ เขาพัง ไม่มีเงิน ซ่อม ต้องขาย สมบัติพ่อ พระทองคำ เงินนาค ได้เป็นแสนบาท นำมาซ่อม รถสิบล้อ หลายหมื่น ที่เหลือ นำไปลงทุนปลูกอ้อย เจ้งไปอีกครา ต่อมาอีก สาม สี่ปี ไม่มีเงินแต่งเมีย ต้องขายพระพ่อ ไปแต่งเมีย เมียมาจากพระพ่อ ว่างั้นเถอะ เงินไม่พอแต่งเมีย ต้องยืมเงินเขามาแต่ง จนมีลูก ๒ คน ยังใช้หนี้ไม่จบ ทั้งๆปลูกอ้อย หลายร้อยไร่ เดี๋ยวนี้ เขาเจอผม เขายอมรับผม ว่า จริงๆดังผมว่า ทุกอย่างมันก็แค่ สมบัติ ผัสกันชม

    ไม่ผัสกันตอนนี้ก็เปลี่ยนมือ ตอนตายแน่ๆครับ หนีไม่พ้นแน่นอน แต่ยังมีอีกหลายคน แต่ไม่พูดต่อแล้วครับ แค่นี้ก็พอจะรู้กันแล้ว ทุกคนมีปัญญา จะมันออกมาใช้กันหรือเปล่าเท่านั้นเองครับสวัสดี:cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2013
  11. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ประทานโทษนะครับ ตั้งแต่ผมฟังพระธรรมเทศนาหลวงพ่อท่านมานี้ ผมทราบมาแต่ว่าหลวงพ่อท่านเคยพูดไว้ว่า วัตถุมงคลของท่านในอนาคตจะมีราคาสูง และท่านแจกให้เป็นที่ระลึกในบุญทุกครั้งที่ทำกับท่านเพื่อจะได้เป็นจาคานุสสติกรรมฐานไปในตัว เท่านี้หละครับ.....

    ผมไม่เคยได้ยินคำใหนที่หลวงพ่อท่านจะสนับสนุนให้คณะศิษย์ของท่านเก็บพระของท่านให้มากๆ เพื่อจะได้ปล่อยในอนาคต หลวงพ่อไม่เคยยินดีให้ศิษย์ท่านทำอย่างนั้น และไม่เคยสนับสนุนให้ศิษย์ท่านทำอย่างนั้น ครับ....

    เรื่องหลวงพ่อคูณนั้นผมไม่ทราบ เพราะผมไม่ได้เป็นศิษย์ท่าน ผมไม่เคยได้ศึกษาธรรมของท่าน ไม่ได้ไปอยู่กับท่าน แต่ถ้าท่านจะพูดอย่างนั้นจริง ก็คงเป็นเรื่องของท่าน.....

    เข้าใจว่าคุณมีอาชีพนี้ แต่ถ้าคุณจะอ้างครูบาอาจารย์อย่างไรนั้นช่วยระวังหน่อยนะครับ บางสิ่งบางอย่างท่านไม่ได้พูดคุณอย่าไปกล่าวว่าท่านพูดท่านสนับสนุน อาจเป็นเพราะคุณคิดไปเองก็ได้ คณะศิษย์ท่าน ไม่ได้มีแต่คุณเพียงคนเดียวนะครับ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2013
  12. ปลาแมว

    ปลาแมว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +797
    เห็นด้วยกับคุณ Phanudet ครับ ปกติผมชอบการตอบของคุณบุญทรงพระเครื่องนะครับ แต่ตอบหนนี้ผมรู้สึกว่าเป็นการตอบเพื่อปกป้องตัวเองมากเกินไปครับ ตอบเหมือนจะมีเหตุผลแต่ก็เหน็บคนที่ไม่เห็นด้วยกับการทำแบบนี้ไปในตัว

    หากคุณเชื่อว่าสิ่งที่คุณทำนั้นถูกต้อง และเจตนาคุณดี ก็ตามสบายครับ ไม่มีใครว่าอะไรคุณหรอก แต่ไม่จำเป็นที่จะต้องไปเหน็บแนมคนอื่น ๆ ที่เค้าไม่เห็นด้วยกับอาชีพขายพระเครื่องของคุณ ไม่จำเป็นที่ต้องเล่าเรื่องข่มขู่ใด ๆ เพียงเพราะคนอื่นเห็นต่างจากตัวเองหรอกครับ คนที่มีความดีติดตัวคำสาปแช่งข่มขู่มันทำอะไรไม่ได้หรอกครับ ส่วนเรื่องปัญญากับวิจารณญาณ และการดูดีชั่วของตัวเองนั้น เค้าก็ดูกันทุกคนแหละครับ คุณเองก็ควรดูเจตนาในตอนพิมพ์ของคุณด้วยนะครับ ประโยคที่พิมพ์ออกมาทั้งหมด ตกลงแล้วต้องการสื่ออะไรครับ? มันเจตนาดีหรือไม่ครับ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2013

แชร์หน้านี้

Loading...