ภัยระเบิดนิวเคลียร์! เกาหลีเหนือขู่นิวเคลียร์ถล่ม USA หากคว่ำบาตรครั้งใหม่

เกาะในเกาหลีใต้ยังสงบแม้เกาหลีเหนือขู่โจมตี

By สำนักข่าวไทย TNA News | 17 มี.ค. 2556 15:10

ประชาชนบนเกาะในเกาหลีใต้ซึ่งอยู่ใกล้เขตแดนติดเกาหลีเหนือมากที่สุด ไม่ค่อยสนใจคำเตือนจากรัฐบาลเกาหลีเหนือ กรณีให้อพยพออกก่อนที่จะมีการโจมตีรุนแรง

เกาะในเกาหลีใต้ยังสงบแม้เกาหลีเหนือขู่โจมตี | MCOT.net

 

ก็อ้วนกะลาครอบนี่เค้าแค่ข่มขู่ไปงั้นแหละครับ ใจจริงก็อยากให้เป็นฝ่ายโดนโจมตีก่อน จะได้กลายเป็นฝ่ายถูก อย่างว่าแหละครับ อยู่แต่ในกะลา คนรอบตัวเอาแต่ชมว่าทรงปรีชานักหนา เหมือนฮ่องเต้จีนยุคนึงสมัยก่อนเลยครับ มีแต่พวกขันทีกับพวกตงฉิน สุดท้ายโดนเปิดกะลาทีถึงได้รู้ว่า กูเป็นแค่หัวเชิดไว้ให้โดนเชือดเท่านั้นเอง

ถ้าประเทศเกาหลีรวมกันได้เมื่อไหร่ และใต้เป็นฝ่ายรวมเหนือเข้ามา ไอ้อ้วนนี่คงได้เป็นแค่ขี้ข้าขัดรองเท้าเท่านั้นแหละครับ ออกนอกเกาะจะทำอะไรเป็น ทุกวันนี้จะออกไปจะมีใครต้อนรับหรือเปล่ายังไม่รู้เลย เลยต้องตระเวณสร้างภาพในกะลาเพื่อล้างสมองประชาชนในประเทศตัวเองเรื่อย ๆ อย่างเดียว

<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/_OZ3SOFJOGk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

เป็นห่วงสถานการณ์เกาหลีเหนือ เกรงว่าจะเป็นชนวนจุดสงครามโลกครั้งที่ 3

ท่านผู้มีศีลมีธรรมทั้งหลาย โปรดพิจารณาชี้แนะ แสดงความเห็น ด้วยครับ

คนเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นเกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ ต่างทราบดีว่า เหตุที่ทำให้มีการแบ่งแยกประเทศเกาหลี ออกเป็น 2 ส่วน คือ เกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ นั้นเป็นเพราะลัทธิอุดมการณ์การเมือง ที่ต้องการให้โลกแบ่งข้างแบ่งฝ่าย เข้ามาเป็นพวกของตน ก็คือ สหรัฐอเมริกา และสหภาพโซเวียต ซึ่งได้แก่ เสรีนิยมประชาธิปไตย และคอมมิวนิสต์

สหรัฐอเมริกา และสหภาพโซเวียตนี่เอง ที่มีบทบาทเข้าไปแทรกแซง ทำให้หลายๆประเทศต้องแบ่งแยกเป็น 2 ส่วน เช่น เวียตนามเหนือ เวียตนามใต้ เกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ เป็นต้น ในขณะที่เวียตนามเหนือและเวียตนามใต้ ได้รวมเป็นประเทศเดียวกันไปนานแล้ว แต่เกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ ยังไม่มีทีท่าว่าจะรวมกันได้ง่ายๆ

สงครามในเวียตนามก็ดี สงครามในเกาหลีก็ดี ล้วนมีประเทศอเมริกาและโซเวียตหนุนหลัง มีการขอกำลังสนับสนุนจากประเทศต่างๆทั้ง 2 ค่าย ให้เข้ามาช่วยทำการรบ และผู้ที่ได้ผลประโยชน์ก็คงหนีไม่พ้นพ่อค้าอาวุธ หรือเป็นการนำเอาอาวุธอันทันสมัยมาทดลองใช้ในสมรภูมินี้

ปัจจุบันประเทศเกาหลีเหนือ ได้มีความก้าวหน้าในการพัฒนาขีปนาวุธวิสัยไกลติดหัวรบนิวเคลีย ซึ่งได้มีการทดลองยิงไปแล้วถึง 2 ครั้ง และประสบความสำเร็จ และล่าสุดได้มีการซ้อมรบโดยใช้กระสุนจริง ขณะที่เกาหลีใต้กับสหรัฐก็ได้ร่วมซ้อมรบในเวลาไล่เลี่ยเช่นเดียวกัน ยิ่งกว่านั้น เกาหลีเหนือยังได้ขู่ว่าจะยิงขีปนาวุธวิสัยไกลติดหัวรบนิวเคลียไปยังสหรัฐ ถ้าสหรัฐยังไม่เลิกแทรกแซงในภูมิภาคนี้ ทำให้สหรัฐต้องเร่งพัฒนาโครงการต่อต้านขีปนาวุธ หรือ สตาร์วอร์

เกาหลีเหนือนั้นมีความพยายามจะรวมประเทศเกาหลีให้เป็นประเทศเดียว แต่ก็ยังหาหนทางไม่ได้ นอกจากการใช้กำลัง และที่สำคัญมันสายไปมากแล้ว เพราะ 2 ประเทศนี้ในปัจจุบันมีองค์ประกอบที่แตกต่างกันมากยากที่จะรวมกันได้ แต่ลึกๆแล้ว ประชนของทั้ง 2 ประเทศนี้ ต่างก็มีความปรารถนาที่จะรวมประเทศ แต่ก็ได้เป็นแค่ความหวังเท่านั้น และนับวันความเป็นประเทศพี่ประเทศน้องก็กลายเป็นความหวาดระแวง

คนรุ่นใหม่ในเกาหลีใต้ มีไม่น้อยที่นึกดูถูกคนในประเทศเกาหลีเหนือ ว่าไม่ทันสมัย ผู้คนอดยาก ก็จะบอกว่าที่ประชนชาวเกาหลีเหนืออดยาก เพราะสหรัฐชวนประเทศอื่นคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ ไม่มีการส่งเครื่องอุปโภคบริโภคไปยังเกาหลีเหนือ ทำให้ประชาชนชาวเกาหลีเหนืออดยาก

คิดว่าอีกไม่นานเกาหลีเหนือ ต้องบุกเกาหลีใต้แน่ๆ

ถ้าเกาหลีเหนือบุกเกาหลีใต้ เกาหลีเหนือคงต้องเตรียมพร้อมและคิดการณ์มาเป็นอย่างดี และเกาหลีใต้คงส่งกำลังทหารออกไปต้าน และเกาหลีเหนือก็พร้อมที่จะยิงขีปนาวุธวิสัยไกลติดหัวรบนิวเคลีย ไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา หรือประเทศอื่นๆ ที่เข้ามายุ่ง ถ้าถึงตอนนั้นอเมริกาอาจโดนขนาบซ้ายขวา ทั้งเกาหลีเหนือ และอิหร่าน ที่จะจ่อยิงขีปนาวุธนิวเคลียไปยังอเมริกา สำหรับจีน คงจะไม่ขอยุ่ง เพราะมองว่า เกาหลีเขาจะรวมเป็นประเทศเดียวกัน และญี่ปุ่นเองก็กลัวนิวเคลียเกาหลีเหนือ ถ้าเข้าไปยุ่งด้วย

ที่เป็นห่วง เพราะถ้าเกิดขึ้นจริง จะมีผู้คนจำนวนมากที่ล้มตาย และที่สำคัญ อเมริกาก็คงจะร้องเรียกหาพวก เพื่อให้ส่งทหารเข้าไปช่วยรบ ซึ่งได้แก่ ประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วย

ไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเลย

ขอความกรุณา ท่านผู้ทรงศีล ท่านผู้ทรงธรรม พระโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลาย ได้โปรดอธิฐานจิตแผ่บารมี ให้เกิดความสงบ ร่มเย็นด้วยเทอญ สาธุ

 

โสมแดงขู่โจมตีเกาะหน้าด่านโสมขาว แนะประชาชนอพยพ
วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2556 เวลา 14:13 น.

สื่อกระบอกเสียงของเกาหลีเหนือ เตือนโสมแดงโจมตีหมู่เกาะหน้าด่านของเกาหลีใต้ แนะให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บนเกาะเหล่านี้ อพยพออกจากพื้นที่

เว็บไซต์โฆษณาชวนเชื่อของเกาหลีเหนือที่ชื่อว่า The Uriminzokkiri เตือนเกาหลีเหนือเตรียมปฏิบัติการโจมตีหมู่เกาะหน้าด่านของเกาหลีใต้ พร้อมแนะนำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บนเกาะเหล่านี้ อพยพออกไป โดยเว็บไซต์ดังกล่าว ซึ่งเชื่อมโยงกับรัฐบาลโสมแดง อ้างถึงเป้าหมายต่าง ๆ ที่จะมีการโจมตี ซึ่งรวมถึงเกาะยอนเปียง ที่เคยถูกกองทัพเกาหลีเหนือยิงถล่มมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2553


เกาหลีเหนือขู่คุกคามเกาหลีใต้หลายครั้งตั้งแต่ทดลองนิวเคลียร์ครั้งสุดท้ายในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งกระตุ้นให้สหประชาชาติ หรือยูเอ็น ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงยิ่งขึ้นต่อเกาหลีเหนือ


ขณะที่ สหรัฐแถลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า จะติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธบริเวณชายฝั่งด้านตะวันตก เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามของเกาหลีเหนือ โดยนายชัค ฮาเกล รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ กล่าวว่า สหรัฐจะติดตั้งฐานยิงต่อต้านขีปนาวุธเพิ่มอีก 14 แห่งในอะแลสกา ภายในปี 2560 รวมกับที่มีอยู่เดิม 30 แห่งที่ติดตั้งตามแนวชายฝั่งอยู่ก่อนแล้ว


สื่อมวลชนเกาหลีเหนือทำสงครามน้ำลายตอบโต้เกาหลีใต้อย่างเผ็ดร้อน เว็บไซต์ดังกล่าว ระบุว่า การซ้อมรบของสหรัฐและเกาหลีใต้ ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อต้นสัปดาห์ อาจจุดชนวนให้สถานการณ์ลุกเป็นไฟ และประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวพรมแดน และบนเกาะทางตะวันตก 5 แห่ง ตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายอย่างยิ่ง โดยคำขู่ดังกล่าวมีขึ้นไม่นานหลังจากนายกรัฐมนตรีชุง ฮอง-วอน ของเกาหลีใต้ เดินทางเยือนเกาะยอนเปียง

โสมแดงขู่โจมตีเกาะหน้าด่านโสมขาว แนะประชาชนอพยพ | เดลินิวส์

 

แค่ขู่กันไปเท่านั้นแบบง้างม้ดค้างไว้ยังไม่กล้าเอาจรีงกันหลอกครับเพราะยังอยู่สุขสบายกันอยู่ไม่อยากลำบากในภาวะสงคราม

 

แยกกันเพราะอุดมการ์ณทางการเมือง

 

ท่านที่กล่าว่าถ้าเกาหลีเหนือและใต้ทำสงครามกันประเทสไทยไม่ได้รับผลกระทบ ท่านคงคิดผิดถนัดแล้วครับ เพราะอย่างไรเสียพันธมิตรของแต่ละประเทสจะต้องส่งแรงสนับสนุนทั้งสิ่งของและบุคลากรใน้านต่างๆร่วมทำสงคราม แม้จะไม่ได้เช้าร่วมแต่ผลกระทบจากสงครามก็อาจขยายมาสู่ไทยไม่มากก็น้อย แต่สำหรับผมคิดว่าที่ไหนมีสงครามที่ต่างๆย่อมมีผลกระทบด้วยเช่นกันและมากด้วย

 

ผมคิดว่าถ้าเกิดขึ้นจริง ถ้า เมกาบุกก่อน น่าจะไม่เกิน 1-3 เดือน ชนะแบบรวดเร็ว ปัจจัยที่ทำให้ชนะ หมายถึงรบเต็ฒรูปแบบนะครับ

1.อาวุธ ที่ทันสมัย ลองคิดถึงสงครามอิรัก หรือแม้แต่สงครามอ่าวเปอร์เซีย สงคราม 7วันที่อิสราเอล สภาพสนามรบ เกาหลีเหนือ บอกตรงๆ เล็กมากๆ
สงครามพวกที่ว่ามาจบอย่างรวดเร็ว และความสูญเสียของ เมกา หรืออิสลาเอล น้อยมาก แต่ผลที่ตามมานี่แหละครับ ที่เมกาเป็นห่วง จีนจะยอมเฉยมั้ย คนในเกาหลีเหนือจะยอมรับมั้ย เหมือนที่เกิดในอิรัก และแอฟกานิสถาน

2.ปัจจัยกระแสโลก ทุนนิยมแพร่ไปทุกที่ แม้แต่ท่านผู้นำหัวกะลาเอง ยังชอบบาสเลย ชอบรองเท้าไนท์กี้เลย สตรีหมายเลขนึง ยังใช้แบรนเนมเลย ปัจจัยพวกนี้ส่งผล ต่อกำลังใจทหาร เพราะโลกทั้งใบ ทุนนิยมหมดแล้ว เหลือ แค่ท่านผู้นำคนเดียวที่บ้าอยู่

3.กำลังใจทหาร หรือจำนวนทหาร ไม่ค่อยมีผลกับสงคราม เท่ายุทโธปกรณ์ เหมือนสมัยก่อน คิดง่ายๆ เปิดศึกมา เมกา ใช้เครื่องบินทิ้งระเบิด สนามบิน ตามด้วยท่าเรือ ของเกาหลีเหนือ แค่นั้น ก็จบแล้ว โดนล้อมหรอบ เหมือนที่เกิดในอิรัก

4.สงครามสมัยนี้ไม่ใช่ทหารถือปืน ขุดบังเกอร์ ทำสนามเพลาะ รบกัน มันไม่มีอีกแล้ว ขุดหลุมอยู่ก็ตาย เจอระเบิดดูดอากาศ

5.เกาหลีเหนือทำได้ดีที่สุดคือตั้งรับ แทบจะโต้ตอบไม่ได้ เพราะ ที่บุกได้คือ ทางบก บุกเกาหลีใต้ ทางเรือ ออกไม่ได้แน่นอน เจอเรือรบญี่ปุ่น เมกา คงง่อย ภายในวันแรก เครื่องบินไม่ต้องพูดถึง

 

สหรัฐส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด “บี-52” ซ้อมบินเหนือน่านฟ้าเกาหลีใต้
วันอังคารที่ 19 มีนาคม 2556 เวลา 13:40 น.

กองทัพสหรัฐส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ “บี-52 สตราโตฟอร์เทรส” ขึ้นบินตรวจการณ์เหนือน่านฟ้าเกาหลีใต้ ถือเป็นการส่ง “คำเตือน” ที่ชัดเจนที่สุดไปยังเกาหลีเหนือ ในช่วงเวลาที่สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลียังตึงเครียดหนัก

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ว่า กองทัพสหรัฐส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ “บี-52 สตราโตฟอร์เทรส” ขึ้นบินตรวจการณ์เหนือน่านฟ้าเกาหลีใต้ ที่แม้จะเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการซ้อมรบร่วมประจำปีกับทางการโซล แต่ถือเป็นการส่ง “คำเตือน” ที่ชัดเจนที่สุดไปยังเกาหลีเหนือ ในช่วงเวลาที่สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลียังตึงเครียดหนัก


นายจอร์จ ลิทเทิล โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ( เพนตากอน ) แถลงว่า ภารกิจฝึกบินที่เกิดขึ้นนอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการซ้อมรบร่วมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ร่วมกับกองทัพเกาหลีใต้ ยังเป็นการแสดงให้รัฐบาลเปียงยางได้เห็นถึงศักยภาพของกองทัพสหรัฐ ในการปกป้องเกาหลีใต้ให้รอดพ้นจากการโจมตีของฝั่งเหนือ ทั้งนี้ เครื่องบิน บี-52 ลำดังกล่าว ออกเดินทางมาจากฐานทัพอากาศ แอนเดอร์สัน บนเกาะกวม เพื่อมาร่วมฝึกซ้อมกับกองทัพเกาหลีใต้โดยเฉพาะตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ภายใต้รหัส “โฟล อีเกิ้ล”


แม้จะไม่ใช่ครั้งแรก ที่สหรัฐนำเครื่องบิน บี-52 ออกมาใช้ในปฏิบัติการซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้ แต่สำหรับครั้งนี้รัฐบาลวอชิงตันมีเจตนาต้องการให้ฝั่งเหนือได้เห็นถึงแสนยานุภาพของตนอย่างเต็มที่ ท่ามกลางสถานการณ์ในภูมิภาคที่ยังไม่อาจวางใจได้เต็มร้อย เนื่องจากรัฐบาลเปียงยางยังเดินหน้าแสดงพฤติกรรมข่มขู่อยู่เป็นระยะ


เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายชัค ฮาเกล รมว.กระทรวงกลาโหมสหรัฐ แถลงเพิ่มการติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธอีก 14 จุด ตามแนวชายฝั่งของประเทศ ภายในปี 2560 เพื่อเสริมศักยภาพรับมือการโจมตีของเกาหลีเหนือ ขณะที่จีน ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของรัฐบาลเปียงยาง ออกมาเตือนว่า การประกาศของฮาเกลอาจกลายเป็นการยั่วยุ หรือแม้แต่จุดชนวนให้อีกฝ่ายตอบโต้ด้วยวิธีแข็งกร้าวอย่างคาดไม่ถึง

สหรัฐส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด “บี-52” ซ้อมบินเหนือน่านฟ้าเกาหลีใต้ | เดลินิวส์

 

เกาหลีเหนืออัพโหลดวีดีโอคลิปโจมตีสหรัฐชิ้นใหม่
วันอังคารที่ 19 มีนาคม 2556 เวลา 15:41 น.

เกาหลีเหนือเผยแพร่วีดีโอคลิปชิ้นใหม่ ที่ยังคงมีเนื้อหาโจมตีสหรัฐ โดยในครั้งนี้มีเป้าหมายเป็นทำเนียบขาว และอาคารสถานที่ราชการหลายแห่งในกรุงวอชิงตัน

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ว่า เกาหลีเหนือเผยแพร่วีดีโอคลิปชิ้นใหม่ ที่ยังคงมีเนื้อหาโจมตีสหรัฐ โดยในครั้งนี้มีเป้าหมายเป็นทำเนียบขาว และอาคารสถานที่ราชการหลายแห่งในกรุงวอชิงตัน


วีดีโอคลิปดังกล่าวมีความยาวราว 4 นาที มีชื่อเป็นภาษาเกาหลีที่แปลได้ใจความว่า “ทะเลเพลิงจะโหมกระหน่ำลงบนกองบัญชาการของผู้นำการก่อสงคราม” เผยแพร่ภาพทางช่อง “ยูริมินซอกกิริ” ซึ่งเป็นช่องทางที่รัฐบาลเปียงยางใช้เผยแพร่สื่อโฆษณาชวนเชื่อ ทั้งวีดีโอคลิปและภาพเคลื่อนไหวโจมตีรัฐบาลวอชิงตัน


ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบวีดีโอคลิป ผู้ชมจะได้ยินเสียงบรรยายซึ่งเป็นเสียงผู้หญิง มีใจความโดยสรุปว่า สงครามนิวเคลียร์กำลังอุบัติขึ้นแล้ว แต่ไม่มีอำนาจใดจะสามารถหยุดยั้งการยิงจรวดของเกาหลีเหนือได้


วีดีโอคลิปที่ออกมาสื่อให้เห็นถึงความไม่พอใจของรัฐบาลเปียงยาง ต่อมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) ที่ต้องการลงโทษเกาหลีเหนือ ฐานเจตนาฝ่าฝืนด้วยการยิงระเบิดนิวเคลียร์ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา


เมื่อช่วงต้นเดือนม.ค. ยูริมินซอกกิริ ได้เผยแพร่วีดีโอคลิปโจมตีสหรัฐชิ้นแรก ที่นำเสนอภาพนครนิวยอร์กลุกเป็นไฟจากขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ตามด้วยวีดีโอคลิปภาพประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ และเหล่าทหารอเมริกัน ถูกเผาไหม้อยู่ในกองเพลิง

เกาหลีเหนืออัพโหลดวีดีโอคลิปโจมตีสหรัฐชิ้นใหม่ | เดลินิวส์

 

เกาหลีเหนือประณามสหรัฐนำบี-52ร่วมซ้อมรบกับเกาหลีใต้
วันพุธที่ 20 มีนาคม 2556 เวลา 09:51 น.

เกาหลีเหนือประณามสหรัฐนำเครื่่องบินทิ้งระเบิดบี-52 ร่วมซ้อมรบในเกาหลีใต้

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโซลประเทศเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ว่า โฆษกกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือได้ออกแถลงการณ์ประณามสหรัฐที่นำเครื่องบินทิ้งระเบิดขนาดใหญ่บี-52 มาร่วมซ้อมรบกับเกาหลีใต้เหนือคาบสมุทรเกาหลี โดยบอกว่า เป็นการยั่วยุที่ไม่สามารถให้อภัยได้ พร้อมขู่ตอบโต้ด้วยกำลังทางทหาร หากสหรัฐยังดำเนินการต่อไป โฆษกคนเดิมกล่าวต่อไปว่า การที่สหรัฐนำเครื่องบินบี-52 ที่สามารถบรรทุกระเบิดนิวเคลียร์มาร่วมซ้อมรบมีนัยต่อคาบสมุทรเกาหลีในช่วงเวลาที่สถานการณ์เขยิบเข้าใกล้สงครามเข้าไปทุกที อย่างไรก็ตาม กระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือกำลังเฝ้าติดตามการซ้อมรบระหว่างสหรัฐและเกาหลีใต้อย่างใกล้ชิด พร้อมประกาศตอบโต้ทางทหารอย่างรุนแรง


ก่อนหน้านี้ นายจอร์จ ลิตเติล โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐเปิดเผยว่า เครื่องบินบี-52 ป้อมบินยักษ์ที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ของอเมริกา ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการซ้อมรบประจำปีระหว่างกองทัพสหรัฐกับเกาหลีใต้ โดยเครื่องบินบี-52 บินจากฐานทัพอากาศแอนเดอร์สันในเกาะกวม มายังเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 8 มี.ค. เพื่อร่วมการซ้อมรบที่มีชื่อว่าโฟล อีเกิ้ล นายลิตเติลกล่าวต่อไปว่า เครื่องบินบี-52 สามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างหลากหลาย รวมทั้งบรรทุกระเบิดนิวเคลียร์และจรวดนำวิถี ซึ่งกระทรวงกลาโหมสหรัฐต้องการเน้นย้ำถึงการใช้เครื่องบินบี-52 ในสถานการณ์ปัจจุบัน

เกาหลีเหนือประณามสหรัฐนำบี-52ร่วมซ้อมรบกับเกาหลีใต้ | เดลินิวส์

 

หมาเห่าไม่กัด

เห็นขู่จังเลย ล่าสุดทำคลิปวีดีโอออกมาอีกละ จะขู่ทำไม
ผมว่าถ้ากล้าทำจริงๆ ทำไปนานแล้ว แต่นี่เห็นเก่งแต่ขู่

 

สงสัยโสมแดงป่วนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทีวี-แบงก์โสมขาว
วันพุธที่ 20 มีนาคม 2556 เวลา 16:57 น.

เครือข่ายคอมพิวเตอร์ในเกาหลีใต้ ล่มครั้งใหญ่ สงสัยเจอแฮกเกอร์ป่วน สถานีโทรทัศน์และธนาคารเกาหลีใต้ ไดรับผลกระทบหนักสุด เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวน ยังไม่ทราบว่าเป็นฝีมือของใคร สงสัยอาจเป็นผลงานของเกาหลีเหนือ

โฆษกสำนักข่าวตำรวจแห่งชาติของเกาหลีใต้ เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า พวกเขากำลังทำการสอบสวนการโจมตีทางไซเบอร์ต้องสงสัย ซึ่งทำให้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ของสถานีโทรทัศน์เคบีเอส, เอ็มบีซีและวายทีเอ็น และธนาคารอีกหลายแห่ง เป็นอัมพาต สำนักข่าวยอนฮัพ รายงานว่า สถานีโทรทัศน์ทั้ง 3 แห่ง ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เครือข่ายคอมพิวเตอร์ของพวกเขาขัดข้องเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. นอกจากนี้ ยังมีธนาคาร 2 แห่ง คือชินฮัน แบงก์ และนองหยู บอกว่า เครือข่ายคอมพิวเตอร์ของพวกเขา ก็ได้รับผลกระทบด้วย


สาเหตุของปัญหาดังกล่าวยังไม่ทราบ แต่ทุกฝ่ายต่างสงสัยว่าจะเป็นฝีมือของเกาหลีเหนือ หลังจากที่เกาหลีเหนือเคยตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ 2 ครั้ง ในปี 2552 และ 2554 ซึ่งเป้าหมายอยู่ที่สำนักงานรัฐบาลเกาหลีใต้ และสถาบันการเงิน ส่วนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกาหลีเหนือก็กล่าวหาสหรัฐและเกาหลีใต้ว่า โจมตีเซิร์ฟเวอร์อินเทอร์เน็ตของตน

ส่งสัยโสมแดงป่วนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทีวี-แบงก์โสมขาว | เดลินิวส์

 

เกาหลีเหนือขู่โจมตีฐานทัพสหรัฐบนเกาะกวม-ญี่ปุ่น


วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม 2556 เวลา 11:26 น.

เกาหลีเหนือข่มขู่จะโจมตีฐานทัพสหรัฐในญี่ปุ่นและเกาะกวม เพื่อตอบโต้กรณีกองทัพสหรัฐส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด“บี-52” ขึ้นบินตรวจการณ์เหนือน่านฟ้าเกาหลีใต้

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ว่า เกาหลีเหนือข่มขู่จะโจมตีฐานทัพสหรัฐในญี่ปุ่นและเกาะกวม เพื่อตอบโต้กรณีกองทัพสหรัฐส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ “บี-52 สตราโตฟอร์เทรส” ขึ้นบินตรวจการณ์เหนือน่านฟ้าเกาหลีใต้


สำนักข่าวกลางเกาหลี ( เคซีเอ็นเอ ) กระบอกเสียงของรัฐบาลเปียงยาง รายงานโดยอ้างคำกล่าวของโฆษกกองทัพประชาชนเกาหลี ( เคพีเอ ) ว่า การที่สหรัฐนำเครื่องบินทิ้งระเบิดบี-52 มาใช้ในภารกิจซ้อมรบร่วมกับฝั่งใต้ ถือเป็นพฤติกรรม “ยั่วยุ” ที่เกาหลีเหนือไม่อาจให้อภัยได้ และรัฐบาลเปียงยางไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป ที่จะปล่อยให้รัฐบาลวอชิงตันเดินหน้าฝึกซ้อมการโจมตีด้วยระเบิดนิวเคลียร์ที่เห็นชัดว่า มีเกาหลีเหนือเป็นเป้าหมาย


เคพีเอจึงขอเตือนทางการวอชิงตันด้วยความหวังดีว่า ฐานทัพอากาศแอนเดอร์เซ่นบนเกาะกวม และฐานทัพเรืออเมริกันอีกหลายแห่งบนเกาะโอกินาวา ของญี่ปุ่น ล้วนตั้งอยู่ตามแนววิถีการทำลายล้างของขีปนาวุธอันทรงประสิทธิภาพของเกาหลีเหนือ


ในวันเดียวกันนี้ ก่อนหน้าที่เคซีเอ็นเอจะนำเสนอรายงานดังกล่าวเพียงไม่กี่ชั่วโมง รัฐบาลเปียงยางประกาศผ่านสถานีวิทยุแห่งชาติ ให้ทหารทุกหน่วยเตรียมพร้อมขั้นสูงสุด อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้เชื่อว่า น่าจะเป็นเพียงการซ้อมรบเท่านั้น


บรรยากาศบนคาบสมุทรเกาหลีกำลังอยู่ในขั้นตึงเครียดที่สุดในรอบหลายทศวรรษ เมื่อเกาหลีเหนือทดลองยิงระเบิดนิวเคลียร์ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 12 ก.พ. พร้อมกับประกาศชัดว่า เพื่อตอบโต้มติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) และข่มขู่อย่างต่อเนื่องหลังจากนั้นว่า จะก่อ “สงครามเกาหลีครั้งที่ 2” กับประเทศเพื่อนบ้านทางใต้


สำหรับการนำเครื่องบินทิ้งระเบิด บี-52 ออกมาใช้ในปฏิบัติการซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้นั้น ทางการสหรัฐกล่าวชัดเจนว่า มีเจตนาต้องการให้ฝั่งเหนือได้เห็นถึงแสนยานุภาพของตนอย่างเต็มที่ในการปกป้องเกาหลีใต้ซึ่งเป็นหนึ่งในชาติพันธมิตร ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธของสหรัฐหลายรายออกมายืนยันว่า จรวดของเกาหลีเหนือมีพิสัยยิงไกลถึงญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ แต่ยังไม่ดีพอที่จะเดินทางมาถึงสหรัฐ

เกาหลีเหนือขู่โจมตีฐานทัพสหรัฐบนเกาะกวม-ญี่ปุ่น | เดลินิวส์

 

ขู่จังนะครับบบ สงสัยกะยั่วให้สหรัฐอเมริกาโจมตีก่อนจะได้เหมือนผู้ถูกระทำ

 

โสมแดงแจ้งยูเอ็นถึงสถานการณ์คาบสมุทรเสี่ยงเกิดสงครามนุก
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 มีนาคม 2556 14:12 น.

กระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือ ระบุว่า ทางกระทรวงจะแจ้งไปยังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์บริเวณคาบสมุทรเกาหลี ขณะนี้มีการกระทำที่ก่อให้เกิดเงื่อนไขอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะนำไปสู่สงครามนิวเคลียร์ เนื่องจากมีการกระทำที่เป็นการยั่วยุจากสหรัฐฯ และเกาหลีใต้
เมื่อวานนี้เกาหลีเหนือมีการออกแถลงการณ์ข่มขู่จะโจมตีฐานทัพของสหรัฐฯ ทั้งที่เกาะฮาวาย เกาะกวม รวมถึงฐานทัพในประเทศสหรัฐฯ เอง โดยกองบัญชาการสูงสุดของกองทัพประชาชนเกาหลีเหนืออ้างว่า ได้สั่งการให้หน่วยปืนใหญ่ และหน่วยปืนพิสัยไกลทุกหน่วย เตรียมพร้อมสำหรับการรบแล้ว

 

สถานการณ์ตึงเครียดหลังเปียงยางตัดสายด่วนทหารกับเกาหลีใต้

เปียงยางประกาศตัด “สายด่วนทางทหาร” กับโซล ซึ่งถือเป็นช่องทางสุดท้ายในการสื่อสารโดยตรงระหว่างสองประเทศ นอกจากนั้นเกาหลีเหนือยังจะจัดการประชุมกรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ เพื่อหารือกันถึง “ประเด็นที่สำคัญ” ซึ่งจะมี “การพลิกผันอย่างรุนแรง” ไม่เพียงเท่านั้น โสมแดงยังกร้าวใส่ประธานาธิบดีหญิงของเกาหลีใต้ให้ "ระวังปาก" ขณะที่ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีเพิ่มดีกรีขึ้นทุกขณะ

“ภายใต้สถานการณ์ที่สงครามอาจระเบิดขึ้นได้ทุกขณะ จึงไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปที่กองทัพเกาหลีเหนือ-ใต้จะสื่อสารกัน” สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ ของทางการเปียงยางรายงานเมื่อวันพุธ (27) โดยระบุว่าเป็นคำพูดของเจ้าหน้าที่ทางทหารอาวุโสของเกาหลีเหนือผู้หนึ่ง

ย้อนกลับไปเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน เกาหลีเหนือก็เพิ่งยกเลิกสายด่วนที่เป็นช่องทางการสื่อสารกับรัฐบาลเกาหลีใต้ ในขณะที่สองประเทศไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน

การตัดสายด่วนการทหารเช่นนี้ อาจส่งผลต่อการดำเนินงานในนิคมอุตสาหกรรมแกซอง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเกาหลีเหนือ บริเวณห่างจากพรมแดนเกาหลีใต้ไม่มากนัก และมีโสมขาวเป็นผู้สนับสนุนเงินทุน เนื่องจากมีการใช้สายด่วนนี้เพื่อจัดการเรื่องการเคลื่อนย้ายคนและยานยนต์เข้า-ออกจากนิคมแห่งนี้ ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2004

เจ้าหน้าที่ในคณะกรรมการการบริหารจัดการของแกซองเผยว่า กำลังเจรจากับเกาหลีเหนือเพื่อป้องกันปัญหาในการดำเนินงาน และเสริมว่า เกาหลีเหนือยังไม่ได้ห้ามเคลื่อนย้ายคนเข้า-ออกจากแกซองแต่อย่างใด

ด้านกระทรวงการรวมชาติของเกาหลีใต้ เรียกร้องให้เปียงยางยกเลิกการตัดสินใจนี้ เนื่องจากไม่ส่งผลดีต่อการดำเนินงานของแกซองที่มีแรงงานชาวเกาหลีเหนือทำงานอยู่กว่า 50,000 คน

ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 27 มีนาคม 2556 เวลา23:30 น.

 

เกาหลีเหนือประกาศตัดช่องสื่อสารกองทัพกับเกาหลีใต้

ทางการเกาหลีเหนือ ประกาศแถลงการณ์ว่า ภายใต้สถานการณ์ที่สงครามอาจปะทุได้ทุกเมื่อ จึงจำเป็นต้องตัดช่องทางการสื่อสารกันระหว่างกองทัพเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ โดยช่องทางการสื่อสารทั้งหมดกับเกาหลีใต้จะถูกตัดขาด
นอกจากนี้ จะแจ้งต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่า สงครามนิวเคลียร์กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งสหรัฐฯ ออกมาประณามว่า เป็นอีกขั้นของการยั่วยุ และไม่สร้างสรรค์จากเกาหลีเหนือ

ก่อนหน้านี้เกาหลีเหนือประกาศจะบุกเกาหลีใต้และทำสงครามนิวเคลียร์กับสหรัฐฯ แต่ด้านผู้เชี่ยวชาญเผยว่า คงต้องใช้เวลาหลายปีที่เกาหลีเหนือติดหัวรบนิวเคลียร์เข้ากับขีปนาวุธวิสัยไกลได้

ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 28 มีนาคม 2556 12:53 น.

 

ประเทศเกาหลีเหนือควรจะหาโอกาส ย้อนกลับไปดู  ประเทศอีรัก  อัฟกานิสถาน และอียิปต์
และอดีตผู้นำทั้งสามประเทศ  จะได้รับคำตอบที่ชัดเจนครับ