เรื่องเด่น เรื่องเร้นลับที่เคยเจอกับตัวเองที่ไม่เคยเล่าที่ไหนมาก่อน

ท่านผู้เขียนมีจิตคิดดีได้กรุณาเล่าประสบการณ์ในชีวิตเพื่อเป็นวิทยาทาน ถ้าเข้ามาอ่านแล้วคิดดีจิตใจก็ดีตามเจ้าของกระทู้ไปด้วย ถ้าคิดในแง่ลบก็ไม่ต้องอนุโมทนาแล้วก็เลยผ่านไปเสียไม่ต้องแวะเข้ามาอ่านให้เสียเวลาเปล่า ไปทำสิ่งดี ๆ ที่คิดว่าตนเองปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบแล้วเสียเถิด

 

ค่ะท่าน เรื่องที่เล่านี้ต้องขอย้ำว่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นและผ่านมาแล้วกว่าสิบปี
นำมาเล่าเป็นอุทาหรณ์ เล่าสู่กันฟัง ท่านรับฟัง(อ่าน)แล้วได้รับความเพลิดเพลิน หรือได้ข้อคิดเป็นอุทาหรณ์ ผู้เขียนก็ขออนุโมทนาด้วย ส่วนท่านใดที่บังเอิญผ่านเข้ามาอ่าน แล้วมีข้อคิดห็นอยากวิเคราะห์วิจารณ์ หรืออยากให้คำแนะนำใดๆ เห็นด้วยว่า เอาไว้ตอนจบ ท่านสามารถวิเคราะห์วิจารณ์ได้เต็มที่ผู้เขียนเอง ก็แค่นำมาเล่าให้ฟังเท่านั้น

 

ขออนุโมทนาด้วยค่ะ

 

รออย่างใจจดใจจ่อ เพื่อเป็นวิทยาทานให้ความรู้กับคนทั่วๆไป ในเรื่องของการใช้ชีวิต ผมอ่านเรื่องนี้ กลัวเลย เพิ่งเอ่ยปากขอพระจากพ่อของเพื่อน มาช่วยค้ำช่วยคูณตัวเอง หนาวเลย

 

มาปูเสื่อนั่งรอนะคะ เชื่อว่า กระทู้นี้เป็นประโยชน์ เป็นอุทาหรณ์เตือนใจที่ดีค่ะ

เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้นะคะ ^^

 

เริ่มงอล จขกท. ละ ทำให้อยากอ่านต่อหนอ แล้วก็หาบแซบ:'(

 

อยากอ่านของดีก็ต้องใจเย็น ๆ เจ้าของกระทู้กำลังปั่นต้นฉบับอยู่ :z16

 

มาเล่าต่อค่ะ อย่าเพิ่งงอลล กันเลยนะคะ ท่านผู้อ่านที่เคารพ

ระหว่างนี้ ผู้เขียนก็ยังได้ติดต่อกับพี่นกอยู่เนืองๆ ก็มีบางวันที่ไม่ใช่วันพระ ที่ผู้เขียนได้ไปนอนค้างที่บ้านพี่นก

มีอยู่วันหนึ่งในขณะที่ผู้เขียน นอนอยู่นั้น ก็ปรากฏว่า ฝันเห็นวิญาณมากมายในบ้านของพี่เขา ในความมืดนั้น มีทั้งผีโหงพราย (ความรู้สึกบอก) ลอยไปลอยมา ผีผู้หญิงแต่งชุดไทย ผ้าซิ่นสีเขียวสไบสีชมพูอ่อนๆ และมีกุมารด้วย เป็นเด็กผู้ชายผมจุก เดินอยู่ในบ้าน แต่จำไม่ได้ว่าได้คุยกันว่าอย่างไรบ้าง แต่ตอนนั้น ก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร จึงได้แผ่เมตตาให้เค้าไป พอตื่นตอนเช้าก็ยังคิดเลยว่า เราคงคิดมาก อุปาทานไปเองมั้ง ... หลังจากพูดคุยสนทนากันแล้วผู้เขียนก็กลับบ้าน

หลังจากนั้นอีกหลายวัน พี่เขาก็ได้นิมนต์พระจากกาฬสินธุ์สองรูป มาถอนคุณไสยที่บ้าน วันที่พระมาถึงพี่นกกับผู้เขียนไปรับ ขณะที่นั่งรถมาด้วยกัน เหมือนพี่เขาจะพยายามควบคุมตัวเองอย่างมาก เพราะสังเกตเห็นว่า พี่แกทำหน้าเหยาะยันหลวงพ่อสองรูปนั้น (รูปหนึ่งอายุราวๆ50กว่าๆ อีกรูปยังหนุ่มอยู่ )มองท่านด้วยหางตาแล้วหัวเราะหึๆเบาๆ พร้อมกับถุยน้ำลาย ปิดๆ แล้วทำตาขวางๆ แล้วถามพระสองรูปนั้นว่า ท่านจะไหวเหรอ หลวงพ่อท่านก็ไม่ได้ตอบกระไร

ครั้นมาถึงบ้าน เป็นช่วงสายๆหน่อย หลวงพ่อท่านก็เริ่มทำพิธีเลย ท่านก็เริ่มสวดๆมนต์ไป พี่ผู้หญิงเค้าก็หัวเราะหึๆ สักพักพี่แกก็ร้องไห้ ดิ้นๆเหมือนเจ็บปวด แล้วหลวงพ่อที่อายุมาก ก็บอกให้เอาสายสิญจน์ไปมัดที่มือพี่เขาไว้ เพื่อไม่ให้พี่เขาอาละวาดกว่านี้ และเพื่อถามวิญญาณที่สิงในร่างพี่นกด้วย สักพักใหญ่ๆ ท่านก็พูดขึ้นว่า(ภาษาอีสาน) ‘’ พากันมาแต่ไสหลายแท้ ทั้งในบ้าน นอกบ้าน กุมารน้อยกะมีเนาะ อืมมๆ พุ้นน่ะ ข้างนอกกะมีเต็มนึง (ข้างนอกก็มีเต็มไปหมด) พากันมานี่ อยากได้อีหยัง เดี๋ยวสิบอกเขาเฮ็ดบุญไปให้เด้อ ให้ปล่อยเขาเสีย มันเป็นบาป’’ ตอนนี้พี่นกเลิกร้อง เลิกดิ้นแล้ว แต่ก็ยังคงยิ้มหยันๆหลวงพ่ออยู่ และบอกว่าหลวงพ่อช่วยอะไรเขาไม่ได้หรอก ขณะนั้น ผู้เขียนสังเกตเห็นว่า หลวงพ่อท่านก็เหงื่อแตกไปเหมือนกัน และบอกว่า ของเขาแรงมาก หลวงพ่อช่วยได้เท่านี้ จากนั้นก็นิมนต์ท่านกับวัด และทราบต่อมาว่า ท่านได้มรณภาพลง หลังจากวันที่ท่านมาถอนคุณไสยให้พี่นกได้ไม่นาน แต่อันนี้ผู้เขียนก็ไม่กล้าฟันธงว่าท่านมรณภาพด้วยเหตุใด ....

หลังจากวันนั้นที่พระมาถอนคุณไสย ทางครอบครัวพี่นกเลยให้ญาติคือน้าสาว มาอยู่เป็นเพื่อนที่บ้าน ส่วนตัวผู้เขียนเองก็ยังคงเข้าๆออกๆบ้านพี่นกเหมือนเดิม แต่ก็ไม่บ่อยเหมือนเมื่อก่อนเท่าไร และผู้เขียนเองก็ต้องทำงานด้วย

..... เหตุการณ์ต่อจากนี้
อีกหลายสัปดาห์ต่อมา เป็นเหตุการณ์ที่คนในละแวกบ้านพี่นก เห็นพี่แกออกมาคลุ้มคลั่ง อยู่หน้าบ้านตอนกลางวันแสกๆ ผู้เขียนถูกเรียกตัวมาอีกครั้ง ( ทราบภายหลังจากคนในครอบครัวพี่นกว่า ทุกครั้งที่เกิดเรื่อง หากผู้เขียนไม่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ทุกคนจะลงความเห็นว่าให้ตามตัวผู้เขียน เพราะผู้เขียนสนิทกับพี่นก น่าจะเข้าใจความต้องการพี่นกและช่วยเหลืออะไรกันได้มาก)

.... ตอนนี้จะเป็นตอนที่วิญญาณผีตายโหงในร่างพี่นกถูกปลดปล่อย โดยพระอาจารย์ที่ผู้เขียนเคารพศรัทธา ผู้มีเมตตาบารมีอันหาประมาณมิได้ สาธุ
(ที่ทราบว่าเป็นผีตายโหงเพราะ วิญญาณในร่างพี่นกบอกผู้เขียนเอง)

 

มาเล่าต่อแล้วค่ะท่าน ที่หายไปสักพัก เพราะไปเรียบเรียงความทรงจำอยู่ค่ะ
ขออภัยด้วยค่ะที่ให้รอ:boo:

 

มาแล้วนะคะ มาเล่าต่อแล้วจ้า หลบไปฟื้นความทรงจำนิดนึง ขอบคุณสำหรับน้ำอุทัยเย็น จากท่านนะคะ หายคอแห้งไปเลยค่ะ

 

ขออภัย มือใหม่หัดเล่า และอาจโพสก์สลับไปมา ไม่ว่ากันนะคะ :z2

 

ขนาดมือใหม่นะเนี่ย ยังรื้อฟื้นความทรงจำที่ดี ๆ ใน ๑๐ ปีที่แล้วเขียนออกมาเป็นบทความที่คนอ่านอ่านแล้วรู้สึกดี ๆ กับท่าน จขกท ขอปรบมือเป็นกำลังใจด้วยค่ะ :VO

 

ตามอ่านอยู่นะคะ โดนเหมือนเราเลย เฮ้อคนสมัยนี้นะ ของเราไม่ใช่สิบปีที่แล้วนะ ปัจจุบันเลย จนตอนนี้ก็ไปปฏิบัติธรรมด้วยค่ะ เราก็สามีฝรั่งเหมือนกัน แปลกใจว่าคนทัศนคติแบบนี้ยังมีอยู่อีกหรือ แต่ไม่เสียใจค่ะ ดีชั่วตัวทำ ใครจะรู้ดีกว่าเรา

จขกท เขียนดีมากเลยค่ะ ดูท่าทางเป็นคนใจเย็นด้วย อนุโมทนาด้วยนะคะ เราก็เคยอยากเขียนเล่าเรื่องเป็นอุธาหรณ์เหมือนกัน แต่เขียนไม่เก่ง แล้วก็ไม่ค่อยจำด้วย(อยากลืม)

 

ขอบคุณสำหรับคำชม และถือเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนค่ะ และขอบคุณสำหรับท่านที่ได้ติดตามอ่านนะคะ ก็แค่อยากเล่าให้ฟัง และฝากไว้เป็นอุทาหรณ์
เมื่อก่อนเจ้าของกระทู้เอง ก็มีนิสัยที่ไม่ดี คือเป็นคนออกจะใจร้อนนิดนึง แต่ตอนนี้ เข้าใจอะไรมากขึ้น หลังจากที่ได้หันหน้าเข้าสู่กระแสธรรม ได้เรียนรู้ธรรมะมากขึ้น เหตุที่หันหน้าศึกษาธรรมะ ก็เพราะเหตุข้างต้น อยากทำลายกิเลส และความโง่เขลาของตัวเอง อยากตัดภพ ตัดภูมิ และไม่อยากมาเกิดอีกเพราะการเกิดมันเป็นทุกข์อย่างยิ่ง แต่นั่นก็คงต้องฝึกไปอีกนานค่ะ อย่างน้อยเราก็ได้สร้างความดีสร้างปัญญาให้กับตัวเอง และหากอานิสงค์จากการนำเรื่องนี้มาเล่า จะเกิดกับท่านอื่นด้วยบ้าง ผู้เขียนก็ขออนุโมทนา และขอยกผลบุญอันอาจเกิดขึ้นนี้ ให้กับพี่นก ทั้งหมดทั้งสิ้น อนุโมทนาค่ะ

 

มาเล่าต่อนะคะ แต่ขอความเห็นนิดนึงค่ะ
ตอนนี้จะเป็นตอนที่ทำให้ทราบว่าพี่นกเคยทำกรรมอะไรไว้ก่อนที่ผู้เขียนจะมารู้จักกับพี่เขา(ทั้งดีและไม่ดี) ซึ่งผู้เขียนก็ไม่เคยทราบมาก่อนเลย และหลายๆคนที่รู้จักกับพี่เขา ก็ไม่เคยทราบมาก่อนเช่นกัน เป็นความลับของพี่เค้าค่ะ อันนี้เคยบอกไว้ก่อนหน้าว่า ‘‘กรรมดีกรรมชั่วอะไรที่พี่นกเคยทำไว้นั้นที่ผู้เขียน ไม่อยากเล่า เพราะอยากให้เกียรติผู้ล่วงลับ’’ แต่ตรงจุดนี้คือไคลแม็ก หรือผลกรรมที่ไม่ดี ที่ผู้เขียนคิดว่าเป็นผลที่ส่งให้พี่นกเค้าได้รับกรรมนี้ หากท่านใดมีความเห็นว่า ตรงจุดนี้มีประโยชน์ เพื่อที่จะได้นำไปเป็นอุทาหรณ์ เพื่อระลึกถึงผลแห่งกรรมดี กรรมชั่ว เป็นวิทยาทาน กรุณาออกความเห็นหน่อยได้ไหมคะ ว่าควรเล่าดีหรือเปล่า และขอเชิญอนุโมทนาบุญให้กับผู้ล่วงลับไปแล้ว ที่ผู้เขียนได้นำเรื่องราวของพี่เขามาถ่ายทอดให้ได้ท่านทั้งหลายได้รับทราบกัน

*** ขอตัวทานข้าวสักครู่นะคะ แล้วจะมาฟังความเห็นจากท่านผู้ติดตามอ่านกันนะคะ ***

 

เล่าก็ดีนะค่ะ จะได้เป็นอุทาหรณ์ให้ใครหลายๆคนค่ะ จะไำด้เกรงกลัวต่อบาปกรรมกันบ้าง
อนุโมทนาต่อคุณ faveur ด้วยนะค่ะ ที่นำเรื่องมาเล่าให้ฟังค่ะ

 

อย่าไป ตำหนิ ท่าน นายดอกบัวเลยคะ เท่าที่ ดิฉันเคยอ่าน กระทู้ คำตอบของ ท่านดอกบัว เขา เป็นคนพูดแรงอย่างนั้นอยู่แล้วในทุกกระทู้ แต่ใจจริงเขาไม่ได้ อะไรใครหรอกคะ ท่านดอกบัว เป็นคนคอนเซอเวทีฟ เห็น โพต์ไหน มีสาวๆมา บ่น เรื่อง แฟนทิ้ง มั้ง ทะเลาะ กะ พ่อแม่มั้ง หรือ ทำแท้งมั้ง ท่านนายดอกบัวก็จะพูดแรงๆใส่ เคยเห็นที่มีแรงกว่ากระทู้ นี้เยอะคะ ขนาดพูดกับน้องคนนึงในกระทู้ว่า "ต่อให้คุณแก้ผ้าทั้งตัวมานอนอ้าขาผมก็ไม่เอา" แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น บางเรื่องที่เวลาท่าน นายดอกบัวกล่าว มันก็เป็นความจริงนะคะ แต่ หลายคนปฏิเศท แต่ ท่านดอกบัวกล่าวด้วยความหวังดี สุดท้ายนี้ถ้าเป็นการไปพูดกระทบใครก็ขออภัยคะsleeping_rb

 

อยากให้เล่าเป็นอุธาหรณ์ค่ะ แต่ทั้งนี้ก็แล้วแต่ผู้เขียนพิจารณานะคะ เราเชื่อว่าทุกอย่างมีเหตุและมีผล หลายๆท่านที่เข้ามาอ่านและโพสต์ไว้ ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีวุฒิภาวะ ไม่น่าจะเป็นการหลบหลู่พี่เขานะคะ ในเมื่อเจตนาเราดี ผลก็ย่อมดีด้วยค่ะ และขอให้ผลบุญนี้ถึงพี่นกของคุณด้วยค่ะ

 

กำลังรอ ท่าน faveur อยู่นะคะ อยากฟังต่อนะค่ะ?

เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในใจมาก ๆ คะ

 

ท่าน faveur ไปไหน ๆ ๆ อะ...คะ?