ผิดมากไหมที่ผมจะไม่บวช?

บวชก็เพื่อทดแทนบุญคุญพ่อแม่นะครับ อย่าคิดมากเลยครับ อย่างน้อยไม่เชื่อก็เอาแค่ท่านสบายใจก็ยังดี ส่วนจะบวชกี่วันกี่เดือนกี่ปีก็สุดแท้แต่ แต่ตอนที่บวชก็รักษาศีล ภาวนา ทำความดีให้เต็มที่ แค่นี้คงไม่เหนือบ่ากว่าแรงหนิใชไหมครับ ^^

 

ขออภัยครับ. จขกท. เขลามากเกิดมาเป็นชายทั้งทีไม่บวชหรือว่าท่านไม่ใช่ลูกผู้ชาย ไม่แทนคุณพ่อแม่เลย ภ้าแม่รู้งี้ไม่คลอดให้เสียแรงหรอก

 

คุณ dioma619 คะ ถ้าถามว่าผิดมั้ย ไม่ผิดหรอกค่ะ ถ้าจิตยังไม่พร้อมขณะนี้ ก้อค่อยๆอธิบายให้ท่านฟังถึงเหตุผล ท่านก้อน่าจะรับฟังได้ เพราะถ้าบวชไปแล้วจิตไม่ได้มุ่งมั่นในการปฏิบัติตามข้อวัตรที่ควรปฏิบัติก้อไม่น่าจะเกิดบุญกุศลและอานิสงส์กับผู้บวชและพ่อแม่อย่างเต็มที่ แต่อาจจะกลายเป็นบาปเป็นเวรไปเลยก้อได้

แต่จะขอบอกเล่าความรู้สึกในฐานะที่พี่เป็นผู้หญิงที่มีความรู้สึกเคยแอบน้อยใจในวาสนาว่าทำไม จึงเกิดมาเป็นผู้หญิง แล้วแอบอิจฉาบุรุษเพศชายที่มีโอกาสจะได้บวชเป็นพุทธบุตรและเพื่อทดแทนพระคุณพ่อแม่ แต่พอหลังๆ มาคิดได้ถึงวาสนาบารมีแต่ละคนที่สร้างมาไม่เหมือนกัน จิตมันก้อเปลี่ยนมาเป็นอนุโมทนาและปิติทุกครั้ง เวลาที่ได้ช่วยปัจจัย (ซองบอกบุญหรือทำบุญตามเว็ป) หรือไปร่วมงานบวชคนรู้จักหรือรู้ว่าจะมีผู้บวช (ทั้งในและนอกเว็บ)

ส่วนประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของพี่ก้อคือ (เคยเล่าหลายรอบแล้วนะเนี่ย แต่ขอเล่าอีกรอบ)น้องชายคนเล็กทำงานและลางานไม่ได้ซักที จนไม่ได้บวชขณะที่พ่อมีชีวิตอยู่ เพราะพ่อหวังจะให้ลูกชายได้บวช (อันนี้พี่ว่าเป็นกันเกือบจะทุกครอบครัวของคนไทยที่นับถือพุทธศาสนา ที่อยากให้ลูกชายได้บวช) จนกระทั่งพ่อพี่เสียชีวิตได้เกือบเดือน น้องชายจึงลางานที่บริษัทเพื่อตั้งใจบวชอุทิศบุญกุศลใหพ่อ (คราวนี้ทางบริษัทต้องยอมให้ลา)

ในฐานะลูกสาวและพี่สาวก้อนำเงินของพ่อที่ทิ้งไว้ให้ ตั้งจิตอธิษฐานให้ท่านเป็นเจ้าภาพงานบวชลูกชาย เพื่อให้ท่านได้รับอานิสงส์จากการบวชครั้งนี้เต็มๆ ปรากฎว่าได้ผล (จะใช่เรื่องปาฏิหารย์รึป่าวก้อไม่ทราบนะคะ ?!?!?) คืนแรกที่น้องชายเป็นพระ พระน้องชายเล่าให้ฟังว่า ขณะครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่ประมาณหลังเที่ยงคืน เหมือนเห็นพ่อมายืนยิ้มกริ่มอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าอิ่มเอิบ แล้วก้อพูดอะไรอยู่ข้างๆ ไม่ทราบ (พระบอกว่าสัมผัสได้ถึงความสุขใจและปิติ ) รุ่งเช้าพระน้องชายมาเล่าให้ฟัง สมาชิกในครอบครัวก้อเลยรับรู้ว่าท่านคงมาอนุโมทนาบุญและรับบุญกุศลที่ลูกชายตั้งใจบวชให้ท่านเป็นแน่

พี่ก้อเล่าให้ฟังไว้เผื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ค่อยๆ ศึกษาและค่อยๆพิจารณาไปก้อได้ค่ะว่า ถ้าบวชแล้วจะได้อะไร ชาตินี้มีโอกาสได้เกิดมาเป็นมนุษย์ผู้ชาย มีโอกาสพบพระพุทธศาสนา เกิดในครอบครัวที่เป็นสัมมาทิฐิและมีความพร้อมทางฐานะ ที่สำคัญมีโอกาสได้รักษาศีลปฏิบัติธรรม นับว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่ง(กว่าอีกหลายๆคน) ค่ะ

 

สาธุๆๆๆ ...

บางทีคุณ จขกท ก็คงตั้งใจจะบวชอยู่แล้วใช่ไหมคะ แต่คงเป็นเพราะรำคาญ(ขอนุญาตใช้คำนี้) คนรอบข้างหรือเปล่า ประมาณว่ามาตั้งกระทู้นี้เหมือนจะหงุดหงิดหรือเปล่าค่ะ ...
คนรอบข้างเราและแม่ของเรา ท่านคงตั้งใจกับเรื่องนี้มาก เลยพูดบ่อยๆ พูดอยู่นั่นแหละ กลายเป็นเซ้าซี้อยู่ได้ (หรือเปล่า) ...

ขอให้ลดสิ่งที่เป็นปฏิกูลในใจออกไปนะคะ ในเมื่อการบวชเป็นการตอบแทนพระคุณพ่อแม่ และมีอานิสงค์มากมายขนาดนี้ ดิฉันว่าบวชเถอะค่ะ ค่อยๆคิดนะคะ ค่อยๆคิด .. ดิฉันและคนอื่นๆๆๆๆ หลายๆๆๆๆๆ คนในนี้ ไม่มีวาสนาในผ้าเหลือง ได้แต่คอยโมทนาบุญกับคนที่ได้บวช และถวายปัจจัยในการบวชบ้างตามโอกาส ในเมื่อคุณมีโอกาสแล้วก็ขออย่าได้ปล่อยมันไปเลยค่ะ

อีกหนึ่งเสียงนะคะ บวชเถอะค่ะ

 

อีกรอบค่ะ ถ้าเกิดเปลี่ยนใจ หรือจิตพร้อมที่จะบวชเมื่อไหร่ ก้ออย่าลืมมาแจ้งให้ชาวสมาชิกพลังจิต ได้ร่วมอนุโมทนานะคะ

พี่ขออนุโมทนาบุญล่วงหน้าค่ะ ^-^

 

แรงไปนิดครับ ... ใจเย็น ๆ

.

 

ให้โอกาสแลกเปลี่ยนทัศนานะครับ

1. คนที่ไม่บวชเป็นสมมติสงฆ์ก็เข้าถึงธรรมได้เช่นกัน ปัจจุบันก็มีตัวอย่างของฆราวาสที่มีเขี้ยวตั้งแต่เขี้ยวเดียวยันสามเขี้ยวก็มี เป็นพระอริยะเจ้าในคราบของฆราวาส อันนี้ ฆราวาสก็ทำได้ ที่รองลงมาก็ได้ฌานสมาบัติก็เยอะแยะ กิเลสเบาบาง พร้อมประหัดประหารตามลำดับอย่างสบายๆ

2. การบวชยุคนี้สมัยนี้
2.1 บางส่วนเป็นประเพณีนิยม บางส่วนสึกออกมาก็ทำความเสร้าหมองให้ใจเหมือนเดิม แต่ที่บวชแล้วปฏิบัติตามคำสอนของพระอุปัชฌาย์แล้วเจริญก็มี
2.2 บางส่วนบวชเพราะใจอยากบวชจริง เพราะรู้ว่าจริงๆแล้ว บวชเพื่ออะไร กลุ่มนี้เป็นพวกนักปฏิบัติตัวยง มีความคิดแหวกแนว เข้าข่ายของสัมมาทิฏฐิ เพราะมีเป้าหมายที่ชัดเจน ตรงตามมรรคมีองค์ 8

3. บวชเพื่อทดแทนบุญคุณพ่อแม่หรือบวชเพื่อปฏิบัติธรรม
3.1 บารมีหรือบุญที่ได้ก็ต่างระดับกัน บวชแล้วใจไปกำหนดถึงพ่อแม่ ถือว่าไม่ใช่ผู้บวชสำเร็จ เพราะยังมีห่วง มีกังวลอยู่

3.2 "บวช" แปลว่า สละ (โลกทั้งหมด) ถ้าบวชเพื่อถวายชีวิตแด่พระรัตนตรัยแล้ว อันนี้บารมีที่ได้ก็จะสูงขึ้นอีกหลายระดับ ทำเพราะปฏิบัติบูชา มีเป้าหมายเป็นบันไดขั้นสูงกว่า แล้วให้พ่อแม่ ญาติโยมและพุทธบริษัทที่ยังมีชีวิตอยู่ ได้โมทนาและอนุโมทนาบุญด้วย ใครฉลาดในธรรมก็รู้ดีว่า มันก็ดีทั้งคู่ แต่ดีต่างกัน

4. แล้วพ่อแม่แท้ๆที่ตายแล้วทำยังไง
4.1 เคยอ่านผ่านตาเรื่องอานิสงค์จากการที่ลูกบวช คำสอนของหลวงพ่อฤาษี ถึงพ่อแม่แท้ๆไม่เคยเห็นหน้าลูกตั้งแต่เกิด อาจจะล้มหายตายจากหรือพลักพรากกันตั้งแต่เกิด แต่ถ้าลูกบวช พ่อแม่แท้ๆคนนั้นก็ได้บุญครึ่งหนึ่งของลูกที่ได้ทำตอนบวช
4.2 ดังนั้นบุญที่จะได้จากการร่วมโมทนาบุญพระที่บวช ก็ต้องดูว่าทำได้มากน้อยแค่ไหน พระที่บวชทำได้น้อย คนที่โมทนาบุญตามด้วยก็ได้ไฟไปตามจำนวนนั้น พระที่บวชทำได้มาก คนโมทนาบุญตามก็ได้บุญมาก

แต่อย่างว่าแล่ะนะครับ จะบุญมากบุญน้อย นักปฏิบุติทั้งหลายก็ไม่เคยเกี่ยง เพราะมันคือความดี เป็นทางของสุคติภูมิเหมือนกัน

หากแต่ว่าพวกบารมีเข้มข้นแล้ว เอาใหญ่ๆไว้ก่อนเลย เพราะเดี๋ยวมันจะไม่ทันกิน ได้เวลาของเขาปุ๊บ ก็ตัดปั๊บ ไปปั๊บ ไม่ต้องรอเก็บเล็กผสมน้อยอีกต่อไป ก็มันเก็บมาเยอะแล้วนิ่เน่อะ

เจริญธรรมครับ

 

จริงๆแล้วน้องเจ้าของกระทู้เป็นคนรุ่นใหม่ที่รู้จักคิด
และมีเหตุมีผลพอสมควร
แต่ด้วยความที่เป็นคนรุ่นใหม่ ที่มีความเชื่อมั่นในตนเอง
ได้ศึกษาข้อธรรมมาบ้าง
และด้วยความที่อายุยังไม่มาก จึงยังมีความใจร้อน
และอดที่จะรำคาญเพื่อนๆของคุณแม่ไม่ได้

แม้จะมีพื้นฐานทางจิตที่ดี
มีความเลื่อมใสศรัทธาทางพระพุทธศาสนา

แต่ก็ยังอดที่จะทำตนเหมือนแมวไม่ได้
(ลักษณะของแมว ถ้าเราดึงมันมาข้างหลัง มันจะดันไปข้างหน้า
ถ้าเรากดหลังมันลง มันจะโหย่งตัวขึ้น ฯลฯ)
คือจะทำในสิ่งที่ตรงข้ามกับที่ใครๆต้องการ

เรื่องบางเรื่องนั้น ไม่สามารถบังคับกันได้
เรื่องบางเรื่องแม้บังคับได้ ก็ไม่เกิดผลดี
เรื่องบางเรื่องแม้บังคับได้ กลับเกิดผลเสียมากกว่าผลดี

การบวชนี้ก็เช่นกัน
คิดว่าน้องเป็นคนมีวาสนา สักวันต้องได้บวชแน่นอนค่ะ

 

ศึกษาธรรมมามาก

ลองปรับปรุงตัวเองดีกว่า มองดูตัวเอง

ว่าทำไม ไปยึดติดคำพูดคนอื่น

เอามาเป็น อารมณ์ ให้ตัวเอง เกิดความไม่อยากบวช

.

 

การบวชพระ กับการบวชเณรแตกต่างกันมากค่ะ
แล้วก็ ...
การบวชนั้นไม่ใช่ได้ศึกษาธรรมอย่างเดียว
ยังมีอีกหลายๆอย่างที่ได้ทำ
ถ้อยคำของน้องบอกว่าน้องมีความขุ่นใจในเรื่องนี้มาก
จนอาจพูดในหลายๆเรื่องโดยขาดการพิจารณาอย่างรอบคอบ

ผู้ใหญ่หลายท่านในเว็บพลังจิต
ได้กรุณาชี้แนะในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
ก็ขอให้น้องศึกษาและไตร่ตรองด้วยตนเองนะคะ

ข้อความใดในโพสต์นี้ และโพสต์ก่อนหน้านี้
ที่ได้ล่วงเกินน้อง หรือพูดในสิ่งที่ผิดไปก็ขออภัยด้วยนะคะ
ด้วยความปรารถนาดี.

 

คุณครูติง และทุกท่านชี้แนะได้ดีแล้ว


ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่ที่ วาสนาเจ้าของกระทู้ และวาสนาของพ่อแม่

ว่าจะได้บุญกุศลจากการบวชพระเป็นกำลังไปพระนิพพานจากลูกชายหรือเปล่า


.

 

ขอบคุณครับท่าน ขออภัยครับ

 

ผมคิดว่าไม่บวชถูกต้องแล้วครับ

เพราะการบวชก็คือ การนำขาข้างหนึ่งแหย่ลงไปในนรกแล้ว
ในอรรถกถากล่าวว่า การทำผิดในวินัย(ศาสนา)นี้มีโทษมาก เป็นไปเพื่อความฉิบหายตลอดกาลนาน

การบวชก็เหมือนการเข้าสู่สนามรบเพื่อทำมหาสงคราม(กับกิเลส) ไม่เตรียมตัว เตรียมใจให้ดี สักแต่จะทำๆกันไปไปก็มีแต่บรรลัยเท่านั้น ดังนั้น ผมจึงสนับสนุนความคิด จขกท.

ป.ล. พระที่ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบเอง ก็ไม่ต้องการคนที่ไม่มีศรัทธาและความตั้งใจมาอยู่ร่วมกันหลอกครับ เพราะทำให้ท่านเดือดร้อนวุ่นวาย ส่วนพระที่อยากได้ลูกศิษย์มากๆ โดยไม่สนใจคุณภาพ ก็คือพวกโลภมาก อยากเด่น อยากดัง

ขอให้เจริญในธรรมครับ

 

บุญหรือบาป ดูได้ที่จิต หลังจากมีสิ่งใดมากระทบ

จิตแจ่มใส เป็นบุญ
จิตเศร้าหมองขุ่นมัว เป็นบาป

ในตอนนี้ ทำให้จิตแจ่มใสก่อน
ถึงแม้สุดท้ายจิตต้องไม่มีบุญหรือบาป

 

อ่านแล้วอย่าตีความข้างเดียวนะ

ไม่ได้ไปทำผิดวินัยที่ไหน มีบุญมาก เน้อ

.

 

ผมก็คิดเหมือนกันครับ ไปชวนเขามาบวชชักแม่น้ำทั้งห้า อยากให้เขาบวช

เจ้าของกระทู้ ใจไม่อยากจะบวช ... ไปบังคับให้บวช

เดี๋ยวเกิดไปบวชขึ้นมา ละเมิดศีล หาเรื่องลงนรกซะมากกว่า พ่อแม่ก็จะติดชายผ้าเหลืองลงนรกไปด้วย

งั้นก็แล้วแต่เขาแล้วครับ กรรมใครกรรมมันแล้วกัน

.

 

บวชเถอะนะ

 

ลองพูดอธิบายเหตุผลอย่างที่พูดนี้ให้แม่กับยายฟังดู แล้วดูว่าแม่กับยายจะพูดว่าอย่างไร แล้วค่อยตั้งกระทู้ถามอีกที

แต่การบวชนั้น จะต้องพร้อมกันทุกฝ่าย คือฝ่ายผู้บวชและฝ่ายผู้ต้องการให้บวช

ที่สำคัญพึงทำความเข้าใจความหมายคำว่า "บวช"

 

ขออนุญาติแสดงความคิดเห็นค่ะ

คุณ จขกท. จะมีวาสนาบารมีหรือไม่นั้น คงจะไม่มีใครทราบได้ และการมีศีลธรรมได้เป็นเรื่องดี ขอความกรุณาขยายความคำว่าศีลธรรมในความคิดของคุณได้หรือไม่คะ หากคุณตั้งกระทู้เพื่อโพส ขอความเห็นหรือคำแนะนำ คุณต้องน้อมใจของคุณเข้ามาอ่านและพิจารณาใคร่ครวญให้ดี ไม่ว่าจะอย่างไรดิฉันก็เชื่อว่าคนทำดีย่อมได้ดี โดยเฉพาะสิ่งที่คิดจะทำเพื่อพระอรหันต์ที่บ้าน จะนำพาตัวเราและบุพการีของเรา ไปสู่สุขคติสู่ภพภูมิที่ดี การบวชทดแทนผู้มีพระคุณนั้น เราได้ ท่านยิ่งได้มากโดยอัตโนมัติ

หากคุณมั่นใจว่าคุณมีศีลธรรม และศีลธรรมที่คุณมีนั้นเป็นหนทางทดแทนพระคุณบุพการี ก็คงไม่ผิด ก็คือเป็นคนดี เป็นคนที่บิดา-มารดาภาคภูมิใจ เมื่อท่านเห็นศีลธรรมของคุณแล้ว ปลาบปลื้มใจน้ำตาไหลได้พอๆ กับการที่คุณโกนหัว กราบท่านแล้วล้างเท้าให้ท่านในวันที่คุณบวช ถ้าคุณพิจารณาแล้ว สมเหตุสมผลก็สุดแท้แต่คุณจะใช้สติปัญญาที่คุณมีมาแต่อ้อนแต่ออก ปรุงแต่งดูเถิด คิดง่าย ๆ ว่าแค่วันแม่ หรือวันเกิดของดิฉันหรือพี่ชายแล้วเรานำพวงมาลัยดอกมะลิ ไห้วกราบเท้าท่านเพื่อขออโหสิกรรม และอวยพรท่านและขอพรท่านกลับ แค่นี้ท่านก็น้ำตาไหล ด้วยความปิติ ความชื่นใจ หรือแม้กระทั่งดิฉันเองในฐานะแม่ เวลาวันแม่ ไปโรงเรียนลูก ลูกคลานนำดอกมะลิมากราบที่ตักดิฉัน เพียงเท่านี้
ก็ปลาบปลื้มใจจนน้ำตาไหล ถ้าหากถึงเวลาที่ลูกชายดิฉันบวช ดิฉันจะมีความสุขอีกกี่เท่าพันทวี เพราะบุญนั้นจะไดเร็กถึงดิฉันทันทีเช่นกัน
หรือหากการบวชเพื่อให้ท่านสบายใจ แต่ขัดใจท่าน จขกท. อันนี้ดิฉันก็ไม่แนะนำให้บวช ต้องมีหลักอิทธิบาท ๔ อยู่ในใจ สุดท้ายแล้วคงต้องขึ้นอยู่กับจิตสำนึกที่คุณมีศรัทธาต่อพุทธศาสนาของเรา ศรัทธาต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม แล้วหละค่ะ

ความขัดข้องและความเข้าใจผิดพลาดใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการโพสนี้ มิได้เป็นอกุศลเจตนา และหากดิฉันได้สร้างอกุศลกรรมใด ๆ ให้เกิดขึ้นภายในใจของทุกท่านในกระทู้นี้ ดิฉันต้องกราบขออภัย และขออโหสิกรรมมา ณ ที่นี้ด้วย

ขอพระสัทธรรมดำรงอยู่ในจิตใจของทุกท่านตลอดกาลเทอญ
สาธุธรรมค่ะ ^^

 

2เรื่องเล่าจากวัดป่าแห่งหนึ่ง

เรี่องเเรก. มีพระอยู่รูปพ่อแม่เคารพศรัทธา

ครูอาจารย์องค์นี้มากพ่อเเม่ขอให้ลูกบวชให้

เอาพรรษาที่วัดนี้ เล่าว่าทั้งพรรษาไม่มีความสุขเลย

ออกพรรษาวันแรกสึกเลย.


เรื่องที่สอง. ณ...วัดแห่งเดียวกันพ่อแม่ก็ศรัทธาเช่น

เดียวกันขอให้ลูกชายบวชให้แค่เจ็ดวันก็พอ..นาคว่า

7วันเท่านั้นน๊ะถ้ามาขอหรืออ้อนวอนอย่างไรก็จะสึก

นี่ก็น่าจะ 30 กว่าพรรษาแล้วล่ะ

แต่ที่สังเกตุเห็นทั้งสองท่านที่บวช มีจิตรที่คิดจะตอบ

แทน คุณค่าน้ำนม สาธุ bubu