สมัยนี้มีคนเก่งกว่าพระพุทธเจ้า

หยดน้ำในก้นแก้ว

ผมเองก็เป็นคนโง่คนนึง ไม่ได้รู้เรื่องอะไรๆกลับเข้าเลย กระผมเป็นหยดน้ำที่อยู่ก้นแก้ว แค่ใบไม้ในหนึ่งกำมือของพระองค์ท่านผมยังไม่รู้อะไรเลย เขาเห็นนั้นเห็นนี้ กระผมก็อย่ากเห็น เห็นหวยก็อยากเห็น เห็นสวรรค์ เห็นนรกก็อยากเห็น แต่เห็นแล้วก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร เมื่อตัวกระผมเองยังมองไม่เห็นตัวเอง
เลย เอาแค่ง่ายๆแค่ศีล 5 กว้างขนาดไหนผมยังไม่รู้เลย แค่สวดมนต์ไหว้พระ เช้าเย็น ยังทำไม่ได้เลย ใครจะดีไม่ดีก็ชั่งเขายังทำไม่ได้เลย มีอริยะบุคคลที่เป็นต้นแบบ ไม่ต้องคิดเองหาวิธีเอาเอง ลอกเลียนแบบให้เหมือนสบายจะตาย รู้ทุกอย่างเห็นทุกอย่างก็ไม่รู้จะรู้จะเห็นทำไม ในเมื่อไม่ได้รู้ธรรมในตน ไม่เห็นธรรมในตน และ ยังไม่ได้รู้จักตัวเองเลย ไม่ได้เอาสิ่งที่เห็น สิ่งที่รู้ทำให้เกิดปัญญาแห่งตนเลย มีอยู่จริงหรือไม่มีอยู่จริงก็แค่ให้ถึงธรรม ธรรมให้ไปถึง ฝึกเอง เห็นเอง รู้เอง ถามด้วยตัวเองจะดีกว่า แล้วจะได้รู้ว่าผืนป่าที่พระองค์ท่านทรงยืนอยู่มันกว้างกี่ เอเคอร์ สำหรับตัวผมนะจะวิ่งไปให้ถึงไม่ว่าจะกี่ ว/ด/ป /ชาติ

 

คุณคิดว่า พระโพธิสัตว์ก่อนที่จะเป็นพระพุทธเจ้า ต้องทำและไม่ควรทำอะไรบางอย่าง เช่น ความชั่วเป็นต้น แต่คุณคิดไปเองหรือเปล่าครับ ในความเห็นของผมนะ เขาต้องทำทุกอย่างเพื่อให้รู้จริง ทำทั้งดี ทั้งชั่ว เพื่อให้รู้จริง จะได้นำความรู้ที่ได้ไปสอนบริวารของเขาได้ถูกต้องครบถ้วน เสียสละมากนะพูดง่ายๆก็คือ เขาไม่กลัวนรกหรอก เปลี่ยนจากดีที่สุดเป็นเลวที่สุด แล้วก็เปลี่ยนจากเลวที่สุดให้กลับมาดีที่สุดอีก คิดดูก็แล้วกันว่าต้องเจออะไรบ้าง สู้ๆครับพุทธภูมิ แต่ไม่ใช่ผมนะ ผมไม่เกี่ยว

 

ผมเลือกมองเจตนาที่เจ้าของกระทู้อยากจะสื่อมากกว่า

การพิมพ์ของเจ้าของกระทู้อาจจะเป็นการปรามาสแต่เค้าไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดีครับ
-----------------------
หลักธรรมที่แท้จริงคือ จิต. จิตของเราทุกคนนั่นแหละ คือหลักธรรมสูงสุด ที่อยู่ในจิตใจของเรา

 

ก็ขอเล่าให้ฟังสักนิดนะครับ จะยกตัวอย่างให้ฟัง
สมัยเรียนก็เข้าไปศึกษาหาความรู้ที่ชมรมพุทธศาสน์
ก็ได้ยินบรรดาสมาชิกในชมรมพูดคุยเกี่ยวกับพุทธภูมิ สาวกภูมิ เราก็ตื่นเต้นเพราะพึ่งเคย
ได้ยินได้ฟัง ท่านโพธิสัตว์ทั้งหลายก็พยากรณ์สมาชิกด้วยกันว่าใครอยู่้สังกัดไหน พุทธภูมิ หรือสาวกภูมิ เิริ่มเก่งขึ้นไปพยากรณ์ผู้มีชื่อเสียงเช่นพระมหากษัตริย์ พระสงฆ์ สุดท้ายมาพยากรณ์กันเองในกลุ่มว่าใครได้รับพุทธพยากรณ์บ้าง เราก็อะโฮ้ ขนาดนี้เลยหรือ แล้วก็แข่งบารมีกันว่าใครมากกว่าใคร เราก็อะโฮ้บารมีเยอะกันจริงๆ เราก็โมทนาบุญด้วยกับท่านโพธิสัตว์เหล่านั้น แต่ไปๆมาๆพฤติกรรมแต่ละท่านทำไมพฤติกรรมมันขัดกับบารมีจัง นี่ละครับสาเหตุที่นำมาโพสต์เป็นตัวอย่าง ยิ่งมาอ่านในกระทู้ต่างๆ บางทีมันเกินบรรยายจริงๆ ขนาดครูอาจารย์ที่ท่านเป็นที่ยอมรับในหมู่นักปฏิบัติท่านยังไ่ม่กล่าวขนาดนี้เลย นี่ละครับที่นำมาโพสต์ให้อ่านเพื่อเป็นข้อคิดกัน เราจะได้เร่งปฏิบ้ตมากๆ ให้มีบารมีเยอะๆดังที่พูดหรือดังที่โพสต์กัน

 

เจ้าของกระทู้สับสนอะไรเปล่าวงง

 

ก็พุทธภูมิจะต้องผ่านเรื่องแบบนี้ไปทุกองค์แหละครับ โดยเฉพาะเรื่องทิฐิมานะ ถ้าบารมียังอ่อนอยู่ ที่สำคัญปัญญาบารมียังอ่อนอยู่ก็เป็นแบบนี้แหละครับไม่ใช่ของแปลก ใครจะไปตักเตือนสั่งสอนเขาได้ในเมื่อเขายังไม่ได้รู้เห็นของจริง เจ็บจริง อะไรจรจริงแบบนั้น เขาก็ย่อมแสดงความไม่รู้ด้วยการคิดเห็นว่ารู้แบบนั้นเป็นปกติ เดี๋ยวเขาเหล่านั้นศึกษาไปเรื่อยๆ ก็เจอทางเองว่าควรที่จะ ลดและละทิฐิมานะของตนลงไปตามลำดับ

สิ่งเหล่านี้แนะนำกันได้ครับ เพียงแต่แนะนำเสร็จก็อุเบกขาเยอะๆ ป้องกันตัวเราเองจะพาลคิดอกุศลซะเอง ในฐานะพุทธภูมิเหมือนกัน ก็เจอเรื่องพวกนี้มาพอสมควร รวมทั้งแต่ก่อนก็เคยเป็น พอรู้แล้วเข้าใจแล้วก็ถึงจะวางเฉยได้

อย่าลืมว่าไม่มีใครเหนือกรรม ไอ้ที่เป็นเราเป็นเขามาได้ก็กรรมทั้งนั้น จะบารมีสุดยอดแค่ไหน มันก็อยู่ในกฎของกรรมเหมือนกัน มันก็มีแค่จังหวะคนมีบุญให้ผล กับบาปให้ผลแค่นั้นเอง

 

ผมชอบกระทู้นี้มากเลยยยครับ. บอกตรงๆ

 

กฎหมายหลายฉบับ แก้แล้วแก้อีก ต่างกับของพระพุทธเจ้ารวมฉบับเดียว ใช้มา 2500 กว่าปี รึว่าจะมากกว่านั้น กี่อสงไขย นับไม่ถ้วน

ใครจะเชื่อทางโลก หรือใครจะเชื่อทางธรรม แล้วแต่กระแสบุญของผู้นั้นครับ

 

มันไม่ใช่เรื่องขำๆ หรอก แกว่งปากหานรกโดยใช่เหตุ คนที่มีคุณวิเศษจริงเขาก็นิ่งเฉย เขาวางอุเบกขาคนประเภทเหล่านี้ ถ้าอยากได้เลขเด็ดควรนั่งรถไปแถวท่าเตียนดีกว่า ที่นั้นมีนักคำนวณสถิติเพียบขายซองละ 100 ถ้าไม่แน่ใจรอดูสาธิตก็ได้ ดูแล้วก็เพลินดี (แต่แทงจริงถูกกินทุกที)