ผมถามจริงๆ เถอะครับ อยากให้ล้างโลก เพราะโกรธเกลียด อิจฉา หมันไส้ด้วยปล่าครับ

1.เหมือนจะมีหลายคนอยากให้ล้างโลก ให้เกิดภัย ให้คนตายไปเยอะๆ นะครับ
2.เหมือนจะมีบางคนอยากให้พินาศหมด ที่สร้างๆ กันมาให้ฉิบหายหมด เริ่มต้นใหม่ คล้ายๆ ว่ามันสะใจดี กลับมาเป็นไม่มีเหมือนๆ กัน คนรวยหมด เพราะิฉิบหาย ให้กลับมาเท่าๆ กันหมด

 

คนปกติคงไม่มีใครอยากให้ล้างโลกแน่
แต่มีคนกลุ่มหนึ่ง คือกลุ่มคนพ้ายแพ้ผิดหวังตกอับอ่อนแอ
พ้ายแพ้ในการเรียน การงาน ความรัก ชีวิตความเป็นอยู่
เลยเรียกร้องหาความยุติธรรมให้กับตัวเอง แตัปัญหาที่เกิดขึ้น
ส่วนใหญก็เกิดจากการกระทำของตัวเอง ความรักสนุก
ไม่เอาการเอางาน ไม่ตั้งใจเรียน เลยล้มเหลวในโลกของความจริง

คนกลุ่มนี้แหละที่เรียกร้องปรารถนาอยากให้เกิดการล้างโลก
เหมือนเดินเกมส์แพ้แล้วชวนล้างกระดานเริ่มกันใหม่

 

"เงินจะไม่มีความหมาย" ประโยคนี้คงมีคนชอบกันเยอะนะครับ กลายเป็นเท่าๆ กันหมด คนรวยเป็นเหมือนอีโง่ ทำงายแทบตายเก็บเงินตู้มเดียวไม่มีความหมาย ต้องตรู นี่รู้อยู่แล้ว แต่ความเป็นจริงมันจะเป็นแบบนั้นหรือเปล่าครับ

เป็นไปได้เหรอที่ "คนรวยจะไม่มี" มันไม่มีวันเท่าเทียมกันหรอกครับ เขา้ก็เ็ป็นกันอย่างนี้มาตั้งนานแ้ล้ว มีรวย มีจน ไม่รวยเงิน ก็รวยทรัพย์อย่างอื่นก็ได้ รวยอาหาร รวยเพชร รวยที่ดิน ก็ว่าไป

 

ผมเห็นอาจารย์ดังๆ ก็ไม่เห็นจะทายถูกเสียที แต่ก็ยังเฝ้ารอภัยใหญ่จะมากวาดล้าง เริ่มต้นใหม่ เอาให้มันเท่าๆ กัน จริงๆเรื่องล้างโลก ความเชื่อแนวนี้มีประวัติมาเป็นพันปีแล้วครับ เขาเชื่อกันมานานแล้ว เรื่อง apocalypse, second coming แล้วก็แห้วกันมาตลอด บางทีเราก็ต้องมีเหตุมีผลบ้างนะครับ

ัคนส่วนใหญ่เขาไม่อยากให้เกิดหรอกครับ แต่เหมือนมีแถวๆ นี้อยากให้เกิดจัง เฝ้ารอเหมือนเป็นความหวัง กลายเป็นเรื่องดี เรื่องที่อยากให้เกิดไป หรือไม่อยากหน้าแตกด้วยส่วนหนึ่งเพราะรอมานาน

 

ผู้ที่กำลังได้เปรียบหรือถือไพ่เหนือกว่าก็ไม่ต้องการล้างกระดาน^^

 

แล้วผมเห็นหลายท่านแล้วที่ออกมาพูดเรื่องภัย ว่าจะเกิด ว่ารู้ว่าเห็น แล้วสุดท้ายก็มายอมรับว่าเป็นคนไข้ทางจิต พอไม่ทานยาก็กำเริบ คิดว่าจะมีภัย จะต้องช่วยโลก เป็นพระศรีอาริย์ เป็นผู้สร้าง แล้วที่ไม่ยอมรับและที่ไม่รู้ตัวละครับ บางทีมันก็น่ากลัวน่าครับเรื่องแบบนี้ถ้าเอามาทำจริงจัง อาจจะทำให้ชีวิตพินาศได้นะครับ

ลองเอาที่ทำนายๆ กันไปลงเว็บทั่วๆ ไปให้คนมาอ่านเยอะๆ ซิึครับ คนจะเห็นด้วยซักกี่คนมีแต่คนจะเข้ามาด่าซะมากกว่า

 

ผมอ่านมาแล้วหลายแฟนตาซี คล้ายๆ กันหมด จะมีภัย พอภัยเกิดเขาก็จะมาช่วยโลก เป็นผู้ทีทุกคนต้องกราบไหว้ และดูแลให้เงินอะไรก็ว่าไป


คือมันมีสูตรครับ ผมอ่านมาเยอะ

1. คนนั้นคือคนที่ no name ค่อนข้างไม่มีอะไร โลกไม่ให้การยอมรับ
2. เกิดภัย
3. กลายเป็นคนพิเศษทุกคนต้องเข้าหา ทุกคนรัก ทุกคนขอความช่วยเหลือ (รวมไปถึงอยากได้อะไรก็จะ็ได้เพราะคนให้ หรือด้วยพลังก็ว่าไป)​

 

ให้ทุกคนกลับมาไม่มีอะไรเท่าๆกันก็ดีไปอย่างนะ
จะได้ไม่อิจฉากัน มีเเต่จะช่วยเหลือกันเพื่อความอยู่รอด
ด้วยกัน ไม่มีการเอาเปรียบเบียดเบียนกินเเรงกัน ทำนาบนหลังคน
ก็ไม่มี มีเเต่ทำนาด้วยกัน!!!

อย่างไรก็ตามโลกจะพินาศหรือไม่พินาศนั้น
ไม่ได้เป็นไปตามอารมณ์อยาก หรือไม่อยาก
ซึ่งเป็นเเค่อารมณ์จากกิเลสของคนที่เเพ้กิเลส
หรือนักพยากรณ์สมัครเล่น!!!

หากโลกจะพินาศก็จะต้องพินาศเพราะมันถึง
กำหนดเวลาล้างโลกตะหากเล่า เมื่อไรก็เมื่อนั้นเเหละ
ที่เขียนๆอ่านๆกันอยู่ทุกวันนี้ มันเป็นข่าวบันเทิงมากกว่า
คนที่ไม่เข้าถึงความจริงข้อนี้ก็เกิดอารมณ์เครียดเป็นธรรมดา!!!

 

หุหุ เป็นอีกแนวคิดนึงที่ยอมรับได้ว่าจริงมีอยู่จริงคนที่เชื่อเรื่องภัยพิบัติมีหลากหลายจำพวกหนึ่งในนั้นเป็นแบบที่คุณว่าเป๊ะเลย. คนรวยที่เชื่อก็มีเยอะเยอะมากด้วยและมีการเตรียมการสร้างบังเก้อร์ บ้านสวยๆ อยู่บนเขาบางคนเห็นแล้วทึ่งเลยว่ามันเอาจริงเคยคุยกะเพื่อนกันรวยมากและเตรียมการไว้เยอะเลยถามถ้ามันเกิดจริงเอ็งจะอยู่ยังไง จับจอบจับเสียมก็ไม่เป็น มันตอบว่า อย่างน้อยๆก็ตายทีหลังเอ็งล่ะวะ
อีกพวกนึงน่าเกลียดที่สุดคือเอาความเชื่อความกลัวของคนอื่นมาหากินหลอกลวงเขาช่วงนี้เห็นเบาๆไปสงสัยโดนด่าเปิดโปงไปเยอะ. แต่ที่น่าสนใจในบอร์ดนี้คือการได้รับความคิดเห็น สมมุติฐาน แปลกๆบาวเรื่องก็น่าคิดน่าติดตาม บางเรื่องก็ไร้สาระทั้งเชิงวิทย์ ปาฏิหารย์. ธรรมะ UFO ได้เห็นว่าคนเรามีความคิดหลากหลายดีไงๆก็เสพข้อมูลอย่างระมัดระวังนะครับอย่าคิดมาก

 

ไม่เชื่อก็พิมพ์เงินต่อไปซิครับ ยังไงก็ไม่ได้เสียหายอะไร ไอ้คนที่แช่งก็ปล่อยเขาแช่งไป เราหาเงินเราก็ได้เงิน เพียงแต่ระวังหน่อยเปลี่ยนเงินเป็นอย่างอื่นบ้างเช่น ทอง

โลกจะแตก สงครามจะเกิด ช่างมัน

 

อันนี้ก็โอนะ

คุณfusion ไม่ต้องไปเครียดหรอกใช้ชีวิตปกติทำดี คิดดี ก็พอแล้ว

 

หากจะเกิดการล้างโลกจริงเราก็ยินดีนะ ไม่ใช่เพราะว่าอิจฉาคนที่รวยกว่าเราหรอก เราเองก็ไม่ได้มีปัญหาชีวิตอะไร ยังมีความสุขดี แต่ที่เรารับไม่ได้คือการที่มนุษย์เนี่ยเริ่มโหดร้ายขึ้นทุกวัน ทำร้ายทำลายสัตว์โลก จิตเมตตาเหลือน้อยเต็มที แถมเป็นเผ่าพันธุ์เดียวที่ทำลายธรรมชาติได้อย่างรวดเร็ว และน้อยคนที่จะมีจิตมาฟื้นฟูธรรมชาติ ยิ่งประชากรเยอะขึ้นอัตราการถูกทำลายก็ยิ่งเยอะ เพราะฉะนั้นหนทางแก้ไขให้ธรรมชาติกลับมาสู่สมดุลย์อีกครั้งก็คงจะเป็นการที่ธรรมชาติต้องล้างมนุษย์ออกไปก่อน เราคิดว่าเมื่อไม่มีมนุษย์แล้วความสมดุลย์และสมบูรณ์จะกลับมาอีกครั้ง

 

เหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์มันรวนๆก็เลยกดปุ่มรีเซ็ตสักครั้งมั้ย

 

บ้านคุณสกปรกเลอะเทอะต้องล้างไหม บ้านเมืองสกปรก เต็มไปด้วยคนชั่วๆ ประเทศชาติจะล้มละลาย มันต้องล้างไอ้คนเลวๆไหม โลกเกิดปัญหาหลายๆอย่างด้วยน้ำมือของมนุษย์ ถึงเวลาโลกจะปรับความสมดุลเสียที ในอดีตเคยเกิดมาแล้ว หลายยุคหลายสมัย มนุษย์ตัวเล็กๆในจักรวาล อย่าลำพองตัวเองเลย ไม่อยากให้ใครตายหรอกนะ แต่ธรรมชาติมันต้องปรับตัวมันเอง

 

บ้านคุณสกปรกเลอะเทอะต้องล้างสักครั้งไหม บ้านเมืองเละเทะเต็มไปด้วยคนเลวๆโกงกินบ้านกินเมือง ต้องมีคนจัดการไหม โลกเสียสมดุลโดยน้ำมือของมนุษย์ที่เห็นแก่ตัว ทำลายธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ ถึงเวลาธรรมชาติก็ต้องปรับความสมดุลซักครั้งหนึ่ง ในอดีดก็เคยเกิดมาหลายครั้งแล้ว มนุษย์ตัวเล็กๆเท่าเศษธุลีของจักรวาล จะอยู่รอดได้หรือ แต่ไม่อยากให้เกิดหรอกนะ ม่มีใครอยากตายหรอก แต่มันเป็นเช่นนั้นเอง

 

ผมเชื่อตามศาสนาพุทธที่ว่า ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ ไม่ว่าเราจะอยากหรือไม่อยากให้เกิดก็ไม่สำคัญต่อการจะเกิดหรือไม่เกิดของสิ่งนั้นๆ ทั้งนี้มันขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยที่สั่งสมกันมา ซึ่งผมคิดว่ามนุษย์เราได้สร้างและสัั่งสมพฤติกรรมอันเป็นลบต่อทั้งตัวเอง สังคม และธรรมชาติสิ่งแวดล้อม มาเป็นเวลานานและเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนเมื่อถึงจุดหนึ่งทุกอย่างพร้อมมูลก็จะเกิดการโผล่บังเกิด(ตาททฤษฎี Chaos)ของปรากฏการณ์ใหญ่ซึ่งเป็นผล

สำหรับผมมันจึงไม่ใช่คำถามของการที่ว่าจะเกิดหรือไม่(เมื่อพิจารณาจากปัจจัยต่างๆที่ปรากฏให้เห็นและรับรู้ได้ในปัจจุบัน ทั้งทางธรรมชาติและความเสื่อมของสังคมมนุษย์โดยรวม) หากแต่จะเป็นเมื่อไหร่และอย่างไร และเราควรจะมีท่าทีอย่างไร เตรียมตัวเช่นไรทั้งกายภาพและจิตใจให้พร้อมรับมือให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้อย่างมีสติ มีปัญญาตามศักยภาพของตัวเราเอง แม้ว่าจะไม่อาจรอดไปได้แต่ก็ขอตายจากไปด้วยความสงบมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ส่วนเรื่องคำทำนายต่างๆผมก็แค่รับฟังไว้ไม่ได้เคร่งเครียด คล้อยตามไป ใจจึงไม่รู้สึกถูกกระทบกระแทกไปกับเรื่องเหล่านี้สักเท่าใด ไม่ได้ต่อต้านหรือสนับสนุนท่านผู้ทำนายทายทักทั้งหลาย

 

พุทธดำรัสตอบ “... ดูก่อนมาลุงกยบุตร... เธอทั้งหลายจงจำปัญหาที่เราไม่พยากรณ์ และจงจำปัญหาที่เราพยากรณ์... อะไรเล่าที่เราไม่พยากรณ์
ดูก่อนมาลุงกยบุตร ทิฐิว่า โลกเที่ยง โลกไม่เที่ยง โลกมีที่สุด โลกไม่มีที่สุด ชีพอันนั้น สรีระก็อันนั้น ชีพอย่างหนึ่ง สรีระอย่างหนึ่ง สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายไปมีอยู่ สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายไปไม่มีอยู่ สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายไปมีอยู่ก็มีไม่มีอยู่ก็มี สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายไปมีอยู่ก็หามิได้ ไม่มีอยู่ก็หามิได้ ดังนี้เราไม่พยากรณ์... ก็เพราะเหตุไร ข้อนั้นเราจึงไม่พยากรณ์ เพราะข้อนั้นไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ไม่เป็นเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์ ไม่เป็นไปเพื่อความหน่ายเพื่อความคลายกำหนัด เพื่อความดับ เพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน ดูก่อน มาลุงกยบุตร เหตุนั้น เราจึงไม่พยากรณ์ข้อนั้น”

http://www.84000.org/true/040.html

 

เลื่อนไปเรื่อย

 

เห็นด้วยครับ อย่างผมที่เข้ามาอ่านเพราะหวังว่าจะเจอคนที่สามารถรู้ถึงระยะเวลาหรือกำหนดเกิดภัยพิบัติ เพราะการรู้พวกนี้ยากกว่าถูกรางวัลที่หนึ่งแจ็คพอทหลายล้านเท่า มันไม่ใช่ความลับนะครับ แต่คนที่มีกำลังจิตพอที่จะรู้มันไม่มี กำลังน้อยก็รู้น้อย
ส่วนตัวผมรู้แค่ว่าเกิดแน่ แต่ไม่รู้เวลา ลักษณะการเกิดแน่นอน นอกจากรู้ว่าเกิดแล้ว อยากอื่นเรียกใด้เต็มปากว่าไม่รู้อะไรเลย เดาๆเอาทั้งนั้น เลยพยายามเข้ามาอ่านหาข้อมูลแต่ผมจะมีสิ่งพิเศษหน่อยตรงจะรู้ว่าสิ่งที่อ่านไปอะไรใ่ช่ไม่ใช่ ถ้าไม่ใช่บางทีก็จะรู้ว่าที่ใช่คืออะไร เกิดจากความเพี้ยนอย่างไร ร่างทรง จิตหลอน เกิดจริงแต่ในมิติอื่น ธาตุกำเริบ ฯลฯ
เพราะการเกิดภัยขนาดคนตายค่อนโลกเป็นเรื่องผิดปกตินะครับ เราไม่ใด้เป็นอยู่ตามยถากรรมอย่าอิสระเหมือนที่เราเข้าใจ ทุกอย่างมีแบบแผนของมัน เหมือนสังคมคนเรา มีการปกครอง มีชาติ กลุ่มก้อน สาย วงค์ องค์ เผ่า ขนาดที่ดินไม่มีชีวิตเกือบทุกตารางเมตรยังมีเจ้าของ แล้วเราเป็นสิ่งมีชีวิตจะอยู่โดดเดี่ยวหรือ ไปมองให้ทะลุความโง่ของตนอันเกิดจากความเชื่อศรัทธากันก่อนดีไหม ค่อยมาวิเคราะห์ธรรมชาติกัน