คนตายแล้วอีก 7 วันจะรู้ตัว อันนี้จริงไหมครับ ?

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย วิญญาณนิพพาน, 10 มิถุนายน 2013.

  1. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,469
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,012
    สวัสดีครับ พอดีผมกําลังค้นหาข้อมูลในหัวข้อ คนตายแล้วอีก 7 วันจะรู้ตัว อันนี้จริงไหมครับ ? คือจากที่ผมศึกษามา ก็คงจะเป็นแบบนี้ แต่มันจะมีไหมครับแบบที่ตายแล้วก็รู้ตัวเลยว่า เราตายแล้ว ? คือผมก็เคยฟังหลาย ๆ clip มาบ้าง บางคนพอตายแล้วก็รู้ัตัวเลยว่าตาย ผมไปอ่านในบางกระทู้มา เห็นบางท่านก็บอกว่า คนที่รู้ตัวหลังจากที่ตายแล้ว 7 วัน มันน่าจะเป็นเพราะตอนที่เค้าตาย เค้าตายโดยไม่รู้ตัว เช่น ตายเพราะอุบัติเหตุ และยังไม่ถึงเวลาตาย ยังไงถ้าใครมีข้อมูลทางด้านนี้ รบกวนช่วยแนะนําหน่อยครับ ขอบคุณมากครับทุกคน
     
  2. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    มันเป็นคำถามที่ยากมาก
    เพราะยังไม่มีประสบการณ์ตรง
    แปลง่ายๆว่า ยังไม่ตาย

    พยายามคุยกับผีเยอะๆแล้วจะรวบรวมข้อมูลมาให้นะครับ
     
  3. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ถ้าเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะบริบูรณ์ รู้แน่นอนครับ
     
  4. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    รู้ตัวบ้างไม่รู้บ้าง
    แต่วันที่เจ็ดเป็นวันที่สามารถรับผลบุญได้
    ที่ไม่รู้ตัวก็เลยจำเป็นต้องรู้ ไม่งั้นอดหม่ำ
     
  5. Drew610

    Drew610 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +190
    ไม่ทราบเหมือนกันครับ แต่ตอนที่คุณยายของผมเพิ่งเสียหมาดๆ ยายทวด(ยังมีชีวิตอยู่)ของผม เห็นยายมานอนที่เตียง จริงเท็จเช่นใดไม่ทราบเหมือนกันครับ
     
  6. krasin

    krasin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    395
    ค่าพลัง:
    +2,821
    ปริศนา 49 วัน ชีวิตหลังความตาย

    มนุษย์และสัตว์มิได้สิ้นสุดที่ความตาย เพราะการ 'ตาย' หมายถึงสภาพร่างกายที่ไม่สามารถให้บริการแก่ จิตวิญญาณ ใช้งานต่อไปได้อีก “วิญญาณ” ยังคงอยู่ ถึงแม้ร่างกายจะหมดอายุขัยไปแล้วทั้งนี้สภาพการตายจะบ่งบอกให้รู้ว่าจิตวิญญาณนั้นไป สุคติ หรือลงสู่นรกภูมิ
    1. ตอนตายใหม่ ถ้าหากสีหน้าปกติ ร่างกายอ่อนนิ่ม สีหน้าเหมือนคนมีชีวิตอยู่ เนื่องจากได้ บรรลุธรรม ดวงวิญญาณจะไปสู่สุคติ
    2. ตอนตายใหม่ๆ หน้าตาซีดผาด เหมือนคนตกใจ แสดงว่าวิญญาณได้ตกสู่นรกแล้ว
    3. ตอนตายใหม่ๆ ร่างกายแข็งทื่อ หน้าตาน่ากลัว เพราะความตกใจ
    บางคนจะกรีดร้องเสียงคล้ายสัตว์ คนเหล่านี้จะไป เกิด เป็นสัตว์ 4 ชนิดสังเกตได้จาก ตา หู จมูก ปาก ตาจะมีน้ำตาออก หูจะมีขี้หู จมูกจะมีน้ำมูก ปากจะมีน้ำลายฟูมปาก เป็นทวารที่ไม่สะอาด 4 ช่องทาง เมื่อจิตวิญญาณออกทางนี้ จะเกิดเป็นสัตว์ 4 ประเภท
    - ตา ชอบดูสิ่งเหลวไหล ลุ่มหลงในรูปต่างๆ คนเหล่านี้เวลาใกล้ตาย ดวงตาจะเบิกกว้าง จะไปเกิดเป็นสัตว์ปีก (เกิดออกจากไข่)
    - หู ชอบฟังเรื่องเหลวไหล เรื่องซุบซิบนินทา คนเหล่านี้เวลาตายหูจะชันขึ้น จะไปเกิดเป็นสัตว์ที่เกิดจากครรภ์ เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย
    - จมูก ชื่นชมกลิ่นคาวโลกีย์ เช่น เงินทอง สุรา นารี การพนัน ชื่อเสียงลาภยศ และค่านิยมที่ผิดศีลธรรม ฯลฯ จะไปเกิดเป็นแมลง มด ยุง แมลงวัน ฯลฯ บาปหนักมาก วิญญาณจึงถูกตีเป็นเศษวิญญาณ
    - ปาก ชอบพูดเรื่องเหลวไหล พูดนินทา พูดวิจารณ์ พูดกล่าวร้ายป้ายสี ด่าคำหยาบคาย

    คนเหล่านี้เวลาตาย ปากจะอ้าค้างอยู่ตลอดจะเกิดเป็น สัตว์น้ำ ไปอยู่กับรสชาติที่โสโครกและสกปรก

    เมื่อออกจากร่าง วิญญาณจะไปที่ไหน?


    ดวงวิญญาณที่ออกจากร่างในตอนแรก จะวนเวียนอยู่บริเวณนั้น พอได้สติก็จะมีท่านมัจจุราชทำหน้าที่มานำเอาวิญญาณของมนุษย์หรือสัตว์ที่ชะตาถึงฆาต พาไปยังยมโลกเพื่อตรวจสอบบาปบุญความดีความชั่วในขณะที่มีชีวิตอยู่
    วิญญาณบาปจะถูกนำตัวส่งไปนรก 8 ขุมใหญ่ แต่ละขุมแบ่งย่อยขุมละ 36 แห่ง แต่ละแห่งมีการลงทัณฑ์และทรมานอีก 800 ด่าน แต่ละด่านมีเครื่องทรมานนับไม่ถ้วน วิญญาณบางดวงอาจตกนรกทั้ง 8 ขุมเลยก็มี โดยเฉพาะคนที่ทำกรรมชั่วมหันต์ หรือเรียกว่า 'อนันตริยกรรม' มีอยู่ 5 อย่าง คือ
    1. ฆ่าพ่อ
    2. ฆ่าแม่
    3. ฆ่าพระอรหันต์
    4. ยุยงสงฆ์ให้แตกแยก
    5. ทำร้ายพระพุทธเจ้าห้อเลือด

    หลังจากที่คนเราตายประมาณ 1-2 วัน ปกติแล้วเขาจะไม่รู้ว่าตัวเองตาย
    7 วันให้หลังเขาจึงรู้ว่าตนเองตายแล้ว วิญญาณจะถูกกักบริเวณไว้ 49 วันเพื่อรอพิจารณาคดี
    ในระหว่างนั้นผู้ตายก็กำลัง รอบุญกุศลจากลูกหลานทางโลกที่กำลังง่วนอยู่กับงานศพ

    เรามาดูปรากฏการณ์ 49 วัน ชีวิตหลังความตาย

    ขณะที่วิญญาณของผู้ตายออกจากร่าง ชีวิตหลังความตายก็เริ่มต้น เปิดฉากขึ้นในโลกที่ผู้ตายต้องเข้าไปเพียงลำพังเท่านั้น ไม่มีสิ่งใดเลยที่สามารถเอาติดตัวจากโลกมนุษย์ได้ เว้นเสียแต่ บาป กับ บุญ เท่านั้น

    เจ็ดวันรอบแรก วิญญาณผู้ตายต้องเดินผ่านดงหมาป่า ซึ่งมีฝูงหมาป่าดุร้ายเหมือนเสือขวางทาง
    · เมื่อวิญญาณบาปไปถึง ก็เกิดหวาดกลัวไม่กล้าเดินต่อไป ฝูงหมาป่าเห็นดังนั้นก็กระโจนเข้าขย้ำขบกัดวิญญาณบาปจนเลือดท่วมตัว กรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดทุกขเวทนา

    · ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึงดงหมาป่าก็จะมีหมู่เทวทูตคอยพิทักษ์คุ้มครอง

    พวกหมาป่าได้แต่นิ่งเฉยไม่กล้าทำอะไร จึงผ่านไปได้โดยปลอดภัย

    เจ็ดวันรอบที่สอง เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงด่านประตูผี เจ้าหน้าที่ผู้รักษาด่าน...
    · เมื่อเห็นเป็นวิญญาณบาป ก็จะทุบตีอย่างไม่ปรานี และยังมีพวกเจ้ากรรมนายเวร พากันมาทวงหนี้เวลานั้น

    · ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึงด่านประตูผีจะได้รับการต้อนรับและสามารถผ่านด่านนี้ไปโดยปลอดภัย

    เจ็ดวันรอบที่สาม เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงยมโลก

    · ถ้าเป็นวิญญาณบาปก็จะถูกโซ่ตรวนไว้ และถูกบังคับนำไปอยู่ตรงหน้าหอกระจกส่องกรรม

    ยามมีชีวิต...ทำชั่วอะไร ภาพก็จะปรากฏขึ้นเองอย่างอัตโนมัติ เสร็จแล้วก็จะถูกคุมตัวไปรับการพิจารณาโทษ ถึงวิญญาณบาปจะเริ่มสำนึกผิดตอนนี้ แต่ก็สายเสียแล้ว
    · ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึงจะได้รับการต้อนรับ มีเจ้าหน้าที่พาไปท่องเที่ยวนรกขุมต่างๆ และพาไปดูสภาพของบรรดาญาติพี่น้องที่ทำบาป กำลังรอคอยการพิจารณาตัดสินความผิด

    เจ็ดวันรอบที่สี่ เมื่อมาถึงด่านภูเขากระดาษเงินกระดาษทอง

    · การจะขึ้นไปบนภูเขาลูกนี้ยากลำบากมาก กระดาษเหล่านี้ได้มาจากลูกหลานญาติพี่น้องในเมืองมนุษย์หลงงมงายเผาส่งไปให้ ทับถมกันจนเป็นภูเขาเลากา

    · ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วแม้ผู้ตายจะได้รับก็ไร้ประโยชน์

    เจ็ดวันรอบที่ห้า วิญญาณผู้ตายมาถึงหอดูบ้านเดิม

    · ได้เห็นลูกหลาน คนในครอบครัวต่างไว้ทุกข์ด้วยความเศร้าโศกเสียใจกับการตายของตน

    · ถึงตอนนี้จึงได้รู้ว่าตนเองตายแล้ว ไม่อาจกลับบ้านได้อีก ได้แต่เสียใจอาลัยอาวรณ์

    เจ็ดวันรอบที่หก เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงด่านคุมบัญชี

    · ยมบาลจะสั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจดูบาปบุญที่ผู้ตายได้สร้างสมตอนมีชีวิต หลังจากหักลบกันแล้ว

    · ถ้าบุญมีมากกว่าบาปก็จะให้ไปเกิดยังสุคติภูมิ

    · ถ้าบาปมีมากกว่าบุญ จะส่งไปยังนรกภูมิ รับทุกข์อย่างน่าเวทนา

    เจ็ดวันรอบที่เจ็ด เมื่อวิญญาณผู้ตายไปถึงด่านตรวจสอบ

    · ยมบาลก็จะสั่งเลขาให้ตรวจสอบดูว่า ผู้ตายตอนมีชีวิตอยู่ได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตหรือไม่

    · ถ้าได้ถือศีลกินเจ ละเว้นจากการฆ่าสัตว์ก็จักลหุโทษ

    · ถ้ามัวหลงผิดฆ่าสัตว์เพื่อความสุขของปากท้องก็จะเพิ่มโทษเป็นเท่าตัว.
     
  7. tyoukerd@hotmail.com

    tyoukerd@hotmail.com เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +293
    สรรพสัตว์ทั้งหลายที่ยังมีกิเลสที่ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร ยกเว้นพระอรหันต์แล้ว เมื่อตาย คือหมายถึงเมื่อจิตเคลื่อนออกจากกายหรือธาตุขันธ์ปัจจุบันแล้ว เกิดทันทีครับ เร็วยิ่งกว่าเสี้ยวของเสี้ยววินาที สิ่งที่กล่าวนี้มีในพระไตรปิฎกครับไม่ได้พูดหรือนึกคิดขึ้นเอง เพราะฉนั้นพวกที่ชอบพูดว่า ตายแล้ววิญญาณยังไม่ไปผุดไปเกิดยังห่วงลูกหลานอยู่นั้น จริง ๆ แล้วเขาเกิดหรือเปลี่ยนภพภูมิแล้วครับ มักจะเกิดเป็นเปรตประเภทหนึ่งอันเนื่องมาจากจิตที่ยังผูกพันกับญาติพี่น้อง หรือไม่ก็ทรัพย์สินเงินทอง ทำความเข้าใจใหม่ให้ถูกต้องนะครับ
     
  8. chaokhun

    chaokhun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +5,701
    คนตายแล้ว น่าจะรู้ตัวทันทีว่าตัวเองตายแล้ว เพราะเมื่อตายแล้ว วิญญาณจะออกจากร่างทันที วิญญาณจะออกมายืนข้าง ๆ ร่างของตัวเอง เมื่อกายหยาบนั้นหมดสภาพก็ไม่สามารถกลับเข้าร่างเดิมได้

    ถ้าตายแบบชะตาขาด ยมฑูต ก็ต้องมารับตัวไปรับคำตัดสินจากพญามัจจุราช

    แต่ถ้าตายก่อนกำหนดเวลา ก็ต้องกลายเป็นสัมภเวสี เป็นวิญาณเร่รอน ทันที
     
  9. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    บางพวก เปลี่ยนภพภูมิไปตกค้างเป็นพวกที่เราเรียกรวมๆ กันว่าวิญญาณนั่นแหละ เรียกเหมารวมกันหมดเลย เป็นพวกขันธ์ 4 ที่ไม่ใช่ระดับสูง และไม่ใช่ระดับต่ำมาก
     
  10. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941

    คำถามนี้ตั้งอยู่บนความเห็นที่ไม่ถูกต้อง เพราะคิดว่า เมื่อตายแล้วจะมีร่างบางๆลอยออกจากตัวเที่ยวเร่ร่อนอะไรๆอยู่เพื่อรอเกิด อันเป็นความเชื่อนอกศาสนาคือบรรดาลัทธิที่เชื่อว่ามีอัตตาตัวตนอยู่ ซึ่งไม่ปรากฏในคำสอนของพระพุทธศาสนาเลย..มีแต่เรื่องของขันธ์ ธาตุ อายัตตนะ ฯลฯที่ไหลเลื่อนไปด้วยอำนาจของเหตุปัจจัยเท่านั้น...เมื่อทำความเห็นให้ถูกตรงได้ คำถามทำนองนี้จะไม่ปรากฏอีก..

    หากได้สดับพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ามาบ้างจะทราบว่า ทันที่ที่สัตว์(ใช้เรียกสิ่งที่มีชีวิตจิตใจทุกชนิดรวมถึงอสัญญสัตตาพรหม)ตายลง(จุติ) จะเกิดต่อทันที(ปฏิสนธิ)ไม่มีระยะเวลาระหว่างคั่นด้วยความรวดเร็วยิ่งกว่ากระพริบตา..

    ทีนี้มาว่าเฉพาะเรื่องที่"คน"ตายบ้าง..แม้คนเมื่อตายลงปุ๊บก็เกิดใหม่ทันทีด้วยความรวดเร็วเช่นกัน ไม่ได้มีร่างกายทิพย์ลอยไปมาอย่างที่เล่าขานกันมานานจนฝังรากลึกในบรรดาชนผู้ไม้ได้สดับ..

    ส่วนที่จะไปเกิดเป็นอะไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับกรรมที่ตนทำไว้แล้วผนวกกับตัณหาที่ยังอยากได้อยากมีอัตภาพที่เป็นตัวส่งให้ได้เกิดอีก ..


    ต่อมา ว่าด้วยอาการเกิดของสัตว์ มี๔ อย่างคือ ..

    1. อัณฑชะ คือ เกิดจากไข่ หมายถึง พวกนก ไก่ สัตว์เลื้อยคลาน งู จรเข้ ปลา หมายถึง สัตว์ที่เกิดมาเป็นไข่ก่อน จึงจะฟักเป็นตัวภายหลัง
    2. ชลาพุชชะ คือเกิดจากโพรงมดลูก เช่น คน หรือสัตว์บางชนิด เช่น วัว ควาย ช้าง ฯลฯ คือ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เกิดออกมาจากมดลูกก็เป็นตัวเลย
    3. สังเสทชะ คือ เกิดจากคราบไคล หมายถึงพวกสัตว์ชั้นต่ำ เช่น เชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส ฯลฯ เป็นต้น
    4. โอปปาติกะ คือ พวกผุดขึ้นโดยไม่ต้องมีพ่อแม่ ได้แก่ นางฟ้า เทพธิดา เทพบุตร พระอินทร์ พระพรหม เป็นต้น

    อ่านเพิ่มที่นี่ครับ
    http://www.84000.org/tipitaka/read/?12/169/147

    ถ้าว่า คนนั้นตายลง มีบุญจะด้วยทาน ศีลหรือภาวนา ก็ได้เกิดเป็นเทวดาหรือพรหม ซึ่งอยู่ในฐานะที่จะรู้ตัวได้ทันทีที่ได้อัตภาพใหม่ ดังมีแสดงไว้ในพระสูตรหลายแห่งเช่นเรื่องมัฐกุณฑลีที่ตาย ด้วยจิตเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า พอตาบปุ๊บเกิดเป็นเทวดา เห็นวิมานและทิพย์สมบัติก็ทยทวนว่ามาด้วยเหตุไร พอทราบว่าตนตายจากมนุษย์ได้ทิพยวิมานเพราะมีจิตเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า ก็มาเฝ้าพระพุทธองค์ พอได้ฟังธรรมก็บรรลุเป็นพระโสดาบัน..เป็นต้น..

    ส่วนคนที่ตาย หากบาปนำเกิดทันทีในนรก ย่อมไม่มีเวลาจะทบทวนอะไรเพราะทันที่ที่ผุดเกิด ก็เจอไฟนรกบ้าง อาวุธประหาร
    ต่างๆนานาแล้ว เวลานั้นคิดได้แต่ว่าจะเอาตัวรอดได้อย่างไรเท่านั้น..

    หากตายด้วยจิตโลภ มีการติดข้องห่วงใยลูกหลาน ห่วงทรัพย์ อาจได้เกิดเป็นเปรต ย่อมวนเวียนอยู่ใกล้ที่ๆติดข้อง แต่จะนานเท่าใดที่จะทราบว่าตนตาย ยังไม่เห็นหลักฐานในพระคัมภีร์ ท่านใดพบช่วยนำมาแสดงด้วยครับ..
    เปรตมากรายสามารถบอกกล่าวถึงบุพกรรมของตนได้ หาอ่านจาก"เปตวัตถุ"สูตรในพระไตรปิฎกครับ

    หากตายด้วยโมหะ หลงตาย คติคือเดรัจฉานย่อมหวังได้ เมื่อมีโมหะเเล้วก็บอดเขลาไม่รู้อะไรสนิท แม้ยังไม่ตายก็หลงแล้ว ป่ววกล่าวไปไยถึงความที่จะรู้ว่าตนตายหรือไม่ในสภาพลูกหมาน่ารักนั้น....

    ทีนี้ถ้าได้กำเนิดด้วยบุญไปเกิดเป็นคนล่ะ..มีแสดงไว้ในพระไตรปิฎกดังนี้...


    สัตว์บางพวกในโลกนี้ ก้าวลงสู่ท้องมารดาก็ไม่รู้ตัว ตั้งอยู่ในท้องมารดาก็ไม่รู้ตัว ออกจากท้องมารดาก็ไม่รู้ตัว นี้เป็นการก้าวลงสู่ครรภ์อย่างที่ ๑.

    สัตว์บางพวกในโลกนี้ ก้าวลงสู่ท้องมารดารู้ตัว ตั้งอยู่ในท้องมารดาไม่รู้ตัว ออกจากท้องมารดาก็ไม่รู้ตัว นี้เป็นการก้าวลงสู่ครรภ์อย่างที่ ๒.

    สัตว์บางพวกในโลกนี้ ก้าวลงสู่ท้องมารดารู้ตัว ตั้งอยู่ในท้องมารดาก็รู้ตัว แต่ออกจากท้องมารดาไม่รู้ตัว นี้เป็นการก้าวลงสู่ครรภ์อย่างที่ ๓.

    สัตว์บางพวกในโลกนี้ ก้าวลงสู่ท้องมารดาก็รู้ตัว ตั้งอยู่ในท้องมารดาก็รู้ตัว ทั้งออกจากท้องมารดาก็รู้ตัว นี้เป็นการก้าวลงสู่ครรภ์อย่างที่ ๔..


    อ่านเพิ่มที่นี่ครับ..
    http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=14&i=357

    จึงพึงวินิจฉัยด้วยหลักการที่ยกมา.. ย่อมได้แนวทางที่เข้าใจได้
     
  11. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    พวกที่รู้ตัวตอนลงสู่ท้องมารดา กับตอนอยู่ในท้องมารดา ปกติเป็นผู้ที่มีพื้นฐานเจริญสติมาเยอะมากแล้ว มักจะเป็นพวกที่ชาติภพใกล้หมดแล้วครับ
     
  12. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    ตายแล้ว เกิดทันทีค่ะ จะภพภูมิไหน นั่นอีกเรื่องที่เป็นส่วนของกรรมและจิตสุดท้าย
     
  13. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    จริงครับจริง แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นทุกคนไหม แต่จริงแน่แท้ มีเรื่องเล่า มี ผู้ชายคนหนึ่งอาชีพฆ่าปลา ฆ่าปลาอย่างเดียว พอตอนใกล้จะตาย เห็นว่าตัวเองโดนทําร้าย โดนไฟเผาตัวเอง จริงๆแล้วเป็นนิมิตร ว่าจะไปอบายภูมิ แล้วชาวบ้านคิดว่าเป็นบ้า แล้วพอใกล้จะตาย ญาตินิมนตร์ พระสงฆ์มา เพื่อให้ช่วยได้ พระท่านก็บอกว่า ภาวนาพุทโธ แล้วผู้ชายคนนั้นบอกว่า ไอ้ช่อน(ปลาช่อน) แล้วสัมมาอรหัง ผู้ชายคนนั้นบอกว่า ไอ้ช่อน ชื่อปลาไรพวกนี้ แบบนี้หมดทางช่วยตกนรกอย่างเดียว เพราะจิตเสร้าหมองก่อนตาย แต่มีอีกเรื่องแปลกดีเหมือนกัน สมัพพุทธกาล มีคนทําบาปทุกอย่างผิดศีลทุกข้อ กลบเสียงเวลาคนจะฟังธรรมด้วย (เพราะตระกูลรวยตระกูลชั้นสูงด้วยเป็นเหมือนนักการเมือง) แต่พอตอนจะตาย นึกถึงพระพุทธเจ้า เพราะตอนนั้นพระพุทธเจ้าศาสนาพุทธนั้น ดังมาก ใครลือๆกันว่าพระพุทธเจ้านี่ท่านเก่ง ช่วยเหลือผู้คนได้ ไปไหนที่นั้นมีแต่ความสุข แล้วผู้ชายคนนั้นอยากให้พระพุทธเจ้า แล้วตายทันที ไปสวรรค์ แล้วฟังเทศน์พระพุทธเจ้า เป็นพระโสดาบันเลย (อ่านมาเพราะว่า ผู้ชายคนนี้ เคยสร้างพระพุทธรูป มาแต่กาลก่อน เลย รอดไปอย่างหวุดหวิด)

    พูดแล้วนึกถึง บาลีบอกว่า พุทโธอัปปมาโณ คุณของพระพุทธเจ้านี่หาประมาณมิได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2013

แชร์หน้านี้

Loading...