เขาเรียกว่า "ผีอำ" หรือ "ฝันไป"

55555555555 ยังไงก็ได้คะ เรื่องอะมีเยอะคะแต่บางเรื่องก็ลงไม่ได้คะ

 

.... วันนี้ของดเล่าเรื่องผีนะคะ .. เพราะวันนี้มีภาระกิจเหนื่อยจนเล่าพร้อมกันสองเรื่องไม่ไหว .. สำหรับเรื่องผีบางเรื่องเราเองก็ไม่เข้าใจ และ หาคำตอบไม่ได้สักที ..

 

ให้กำลังใจต่อสู้กับความเหนื่อยค่ะ จะรอติดตามนะคะ

 

เรื่องที่ 12 .... ห้อง 106 โชคชัย 4 ห้องนี้มีเรื่องเล่า ..

ตอนที่ 1 ... มาทำความรู้จักห้องนี้กันเถอะ !!

...... บางคนอาจแปลกใจว่าทำไมต้องเขียนแบบนี้นะคะ เพราะตลอดเวลาที่เราอยู่ห้องนี้มาตั้งแต่ปี พ.ค 51 จนเมื่อ มี.ค 56 เรายกห้องนี้ให้น้องเราอีกคนไปเพราะเราไม่อยากเช่าห้องไว้หลายห้องเพราะเรามีห้องที่หน้ารามเอาไว้เก็บของ ... จึงยกกรรมสิทธิ์ห้องนี้ให้น้องที่รู้จักกันไป ....

..... เรามาเช่าอยู่ห้องนี้น้องที่รุ้จักกันเขาย้ายกลับบ้านเก่าเลยยกห้องต่อให้เรา .. เราย้ายเข้ามาพร้อมของเยอะมาก ๆ เพราะเรามัน " บ้าหอบฟาง " เมื่อมาถึงเราก็จัดการเรื่องเอกสารเสร็จแล้วก็เอารูปพระเข้าห้องก่อนบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง หลังจากนั้นเราก้จัดแจงของในห้องให้เรียบร้อย หลังจากนั้นก็อาบน้ำอาบท่าจุดธูปไหว้พระและบอกกล่าวในห้องแต่มีสิ่งหนึ่งที่เราตั้งใจไว้ และ ได้กล่าวว่าจาออกไปว่า

" ลูกขอยกห้องนี้ไว้เพื่อเป็นวิหารของแม่ ฯ ที่ไว้สำหรับเป็นที่พักพิงของผู้ตกทุกข์ได้ยากไร้ที่พึ่งพา ผู้ที่ท่านเห็นว่าสมควรแล้ว "

.... นี้คือที่มาของเรื่องแปลก ๆ หลาย ๆ เรื่องที่เกิดในห้องนี้ ... ขอเล่าแบบไม่เรียงลำดับเอาที่จำได้แล้วกันนะคะ ... เพราะเราย้ายออกมาจากที่นั้นช่วงปลายปี 53 แล้วปล่อยห้องว่างไว้นาน ๆ จะมาทีหนึ่ง พักหลังเลยให้น้องที่เขาเรียนแต่เดือดร้อนเรื่องที่พักมาแชร์ค่าห้องอยู่ถือว่าเฝ้าห้องให้เราแต่ทุกคนจะรู้กฏของห้องดีอยู่แล้ว

" ที่ห้องนี้ไม่ให้ผู้ชายเข้ามานอนโดยไม่ได้รับอนุญาติ และ อย่าทำอะไรที่มันไม่ถูกไม่ควรในห้องนี้ โดยเฉพาะยาเสพติด และ คนที่เป็นแฟนกันห้ามทะเลาะกันในห้องนี้ ถ้าใครมีของอะไรเข้ามาก็ให้ยกมือบอกหิ้งที่ห้องนี้ด้วย เพราะคนที่มาพักอาศัยที่นี้ถ้าไม่ให้เกียรติ และ เคารพเจ้าของมักเจอเรื่องแปลก ๆ เสมอ ๆ ส่วนคนที่ทำตัวเป้นคนดีมักจะโชคดี และ สมปราถนาเสมอเช่นกัน เรื่องนี้ทุกคนทราบดีอยู่แล้ว "

 

ตอนที่ 2 .. กุมารทองของใคร !!

... ตอนนั้นห้องนี้เราให้น้องสมมติชื่อ แนน เป็นคนเฝ้าเพราะแนนมีปัญหาเรื่องที่อยู่พอดี และ มารู้อีกทีว่าที่บ้านแนนก็มีกุมารของที่บ้านเลี้ยงไว้แถมกุมารตนนี้รักแนนเสียด้วยสิ ..

... เราลงไปกรุงเทพเพื่อทำธุระซึ่งตอนนั้นเราเอาของที่ห้องนี้ออกไปแล้วมีเพียงหิ้งพระเล็ก ๆ ที่ห้อง ตอนเราลงไปพอดีมีน้องอีกคนขอมาพักอยู่ด้วยที่ห้องซึ่งน้องคนนี้ก็แวะเวียนมาใช้บริการที่พักบ่อย ๆ สมมติว่าชื่อ ใบเตย (พอดีชอบดาราคนนี้) สองคนนี้เคยมีเรื่องไม่เข้าใจกันทำให้ไม่กินเส้นกันเท่าไหร่ แต่ด้วยความเกรงใจเราเขาเลยไม่กล้าแสดงออกให้เรารุ้ มารู้ตอนหลังว่าสองคนนี้ไม่ถูกใจกันเท่าไหร่ ...

... เราออกไปทำธุระกลับมาที่ห้องก็เย็นแล้วเลยได้มานั้นงกินข้าวด้วยกันสามคน พอกินข้าวเสร็จก็ได้มานั้งคุยกันแล้วจู่ ๆ ใบเตยก็พูดขึ้นมาลอย ๆ ว่า

" ตั้งแต่ที่หิ้งแม่ ฯ ไม่อยู่ ห้องนี้ก็ดูไม่น่าอยู่เลยเน๊อะ !! ดูไม่อบอุ่นเหมือนแต่ก่อน เหมือนห้องนี้มีสิ่งไม่ดีเข้ามาอยู่แทนที่เลยอ๊ะ "

... เราตกใจมากว่าทำไมใบเตยถึงพูดแบบนี้แถมทำหน้าตาไม่ดีใส่แนนด้วย แต่โชคดีที่แนนปกติเป็นคนที่วีนแตกถึงไหนถึงกันชีไม่มีกลัวใครวันนี้กลับมีความอดทนเงียบสงบปากสงบคำไม่ปะทะกันไม่งั้นมีบ้านแตก ... แต่เรารู้สึกไม่สบายใจที่เด็ก ๆ ไม่ค่อยจะรักกันแบบนี้ .. มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเรื่องแบบนี้ .. เหมือนแม่ที่มีลูกหลายคน และ ต่างคนต่างอยากเป็นที่รัก ...

... ดึกแล้วพวกเราพากันเข้านอนที่นอนเราเป็นเตียงขนาดใหญ่หกฟุตนอนสามคนสบายมาก เรานอนริมในสุดติดกำแพง ใบเตย นอนตรงกลาง แนน นอนริมสุดด้านติดตู้เสื้อผ้าใกล้หิ้งพระเรา ทุกคนหลับไปแล้วแต่เรากำลังเคลิ้มจะหลับพอดี .. มีอาการกึ่งลอย ๆ แต่ขยับไม่ได้ไม่หนักอึ้งเท่าไหร่เราเลยไม่ค่อยกลัวมันบางเบากว่านั้น มันเป็นสัมผัสที่อธิบายลำบากอาศัยว่าเราโดนผีอำบ่อย ๆ ว่าสัมผัสนี้มาดีไม่ใช่ร้ายแน่นอน ..

... เราปล่อยสภาวะนั้นไว้เฉย ๆ ไม่สนใจเพราะตัวเราเองก็เหนื่อยแล้วด้วยอยากหลับพักผ่อนมากกว่า .... ทั้งที่เราคิดว่าเราหลับตาอยุ่แต่ทำไมเราสามารถมองเห็นรอบห้องได้ชัดเจนเอาแล้วไงจะเล่นกันเสียแล้วสินะ .. ไม่สนไม่สนใจจะอาไรก็ช่างอย่ามายุ่งกะฉันนะฉันจะนอน !! คงเป็นโชคร้ายของเราอีกตามเคยเขาอยากให้เราเจอ .. เห้อ ๆ

... ภาพเริ่มมาแบบแสง สี เสียง สมจริงมาก .. มันคือภาพห้องนอนเราเอง หูเราได้ยินเสียงกระดิ่งดัง กรุงกริ๊ง ๆ ๆ ใจเราเริ่มหายละ เอ๊ะเรานอนตะแคงหันหน้าเข้าฝานี้หว่าทำไมเราเห็นภาพเพดานห้องนอนเราได้นะ แล้วเราก็เห็นเป็นภาพเจ้าของเสียงกระดิ่งนั้นนั้งกันตรงหน้าตู้เสื้อผ้าสามคนเป็นเด็กอายุไม่ถึงสิบขวบ .... เด็กที่ไหนมาอยุ่ในห้องนอนเรา .. มาได้ไง !! แถมชุดที่ใส่ก็เป็นชุดแบบกุมารทองครบเครื่องสีทองอร่ามสุกใสจนแสบตาเลยทีเดียว .. กำลังนั้งเล่น " หมากเก็บ " กันสามคนเรียกว่า สามตนดีกว่า เป็นเด็กชายไว้ผมจุกน่ารักสอง เป็นเด็กผู้หญิงผมสั้นเสมอหูไว้จุกด้านบน .. แล้วคนโตสุดก็ลุกขึ้นมาแล้ววิ่งกระโดดขึ้นมาบนเตียงของพวกเรา กุมารตนนั้นกระโดดข้ามน้องเราสองคนมาหาเรา ... น่านงานเข้าเราอีกแล้วอย่านะคนกำลังเหนื่อย ๆ จะเป็นกุมารเทพที่ไหนก้เหอะเราง่วงนอน .. ฮื่อ ๆ ๆ ตอนนั้นอยากจะร้องไห้มากเลยเพราะถ้าเขามาทำร้ายอะไรเรานี้ไม่มีแรงไปสู้กะเขาแน่เลย ..

" เราจะมาบอกว่าเราไม่ใช่ของใครนะ อย่ามาว่าเราแบบนี้เราไม่ชอบ .. เราอยากมาเราก็มาของเราเอง !! "

... น่านเอาแล้วไงโดนเด็กด่า .. แถมเป็นกุมารทองเสียด้วยสิ พอตื่นมาแล้วเราก็เล่าให้น้อง ๆ ฟังตามที่เขามาบอก แต่ดูเหมือนมีคนหนึ่งเชื่ออีกคนไม่เชื่อ .. แต่เราคงไปบังคับใครให้เชื่อไม่ได้พวกคุณว่าจริงไหม๊คะ !!

 

เชื่อที่สุดค่ะเรื่องกุมารทอง เลี้ยงเอง เจอเอง คนในครอบครัวที่เหลือไม่เคยเจอกันเลย แต่คนอื่นจะเจอกัน มีอีกเรื่องค่ะ แม่กับป้าจะตื่นตีสี่ออกมาขายหมูปิ้งหน้าบ้าน ขายมาได้เกือบปีแล้ว ประมาณ 4 - 5 เดือนที่แล้ว ป้าต้องเลิกขายกับไปดูแลยายที่บ้าน ทีนี้มีลูกค้าหมูปิ้งมาเล่าให้คนขายกาแฟโบราณฟัง ว่าตอนเช้าๆที่ป้าออกมาก่อถ่านในเตาปิ้งหมู เขาชอบเห็นเด็กผู้ชายมาวิ่งเล่นแถวนั้นตลอดเลย เรื่องนี้ยังคาใจเราอยู่ ตอนตีสี่เด็กที่ไหนจะมาวิ่งเล่นใกล้ๆกับป้าเรา จะเป็นน้องชายก็ไม่ใช่นานๆๆๆๆๆทีมันจะออกไปช่วย อีกอย่างป้าเราก็ไม่เห็น และยังไม่รู้เรื่องนี้

ปล.เคยอยากเห็นลูกตัวเองเหมือนกัน แต่ไม่เคยได้เห็นสักที เคยได้ยิน เคยฝันถึง แต่ในฝันมีตั้ง 3 ตน

 

... ตัวเราเองก็ไม่เคยเลี้ยงจร้า ... มีแต่ประสบการณ์เคยเจอหลาย ๆ ครั้ง .. แต่แม่เราเคยมีเหมือนกันก็ไอ้ตัวที่เราต่อยตกเตียงนั้นแหละคะ .. เพราะพอแม่เลิกกับพ่อแล้วย้ายมาที่บ้านแกมาเปิดร้านขายอาหารเวลาดึก ๆ ก็จะมีคนเห็นเป็นเด็กเล่น ๆ มานั้งเล่นดินเล่นทรายในบริเวณร้านบ่อย ๆ ไม่รู้ลุกใครซึ่งตอนนั้นลูกชายเราก็ยังเล็กมาก และ ไม่ได้อยู่ที่ร้านกับแม่เราด้วย ... ตอนนี้ก็ไม่รู้หายไปไหนเพราะตลับที่ใส่กุมารก็ไม่เห็นแล้วหายไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ ..

 

ตอนที่ 3 .. เมื่อเราโดนผีลากลงจากเตียง ..

... สมัยนั้นเรามีน้องมาอยู่ด้วยคนหนึ่งเป็น้องคนแรกที่เราให้มาอยู่ด้วย .. และพอดีน้องมีแฟนที่เจอในเน็ตนัดเจอกันที่กรุงเทพเรากับน้องเลยไปรับที่หมอชิต .. จำได้ว่าน้องคนนี้ตอนแรกที่เจอเราเขาเข้ามากอดเราเลยนะ บอกว่าพี่ดูใจดีจังอยู่ใกล้แล้วอบอุ่นเหมือนแม่เลย ..

... เราเลยมาพักร่วมกันในห้องตัวเราเองนอนบนเตียงน้องกับแฟนนอนด้วยกันที่ด้านล่างของเตียง .. เราหลับไปแล้วแล้วอยุ่ ๆ ก็เหมือนตื่นขึ้นมาขนาดนอนตะแคงยังจะเล่นชั้นอีกเหรอ .. อะไรอีกละเนี๊ยะ !! แล้วเจ้าตัวปัญหาก็ปรากฏตัวในห้องเป็นเงาผู้หญิงสาวหุ่นดีผมยาวตรงสลวย .. แต่เป็นสีดำทั้งตัว ....

... เธอคนนั้นลุกขึ้นมาจากข้างเตียงของเราพร้อมกับเอื้อมมือมาดึงขาเรา !! มือนั้นเย็นเจี๊ยบ ... จับหมับเข้าที่ข้อเท้าของเราแล้วกระชากจนตัวเราถไหลลงจากเตียงดีนะเราตื่นทันไม่งั้นตกลงไปทับแฟนน้องเราแน่เลย ... เรายังไม่รู้เลยว่าเธอคนนั้นมาปรากฏตัวทำไมเพื่ออะไรกันแน่ .. แต่คำตอบที่เราได้มาตอนที่เราเล่าความฝันให้น้องฟังคือ แฟนคนนี้มีวิญญาณของผู้หญิงตามอยู่ตั้งแต่เกิดแล้ว .. จึงน่าจะเป็นไปได้ว่าจะเป็นวิญญาณเธอคนนั้นเพราะในห้องเราปกติมักไม่มีอะไรแบบนี้ให้เราได้เจอเลย .. มีแต่คนอื่นนำเข้ามาในห้องมากกว่า ...

 

เรื่องรูดทรัพย์นี่เคยได้ยินเหมือนกันค่ะ น้องสาวของเด็กที่บ้านเดินไปขึ้นรถเมล์แถวตลาดบางกะปิ แล้วมีผู้หญิงคนหนึ่งมาแกล้งถามอะไรก็ไม่ทราบ อยู่ดีๆก็ถอดสร้อยทองที่ใส่อยู่ให้เขาไปเฉยเลย

 

เรื่องของคุณกาลีนะสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านจนเกือบบบจบ แต่!! หนูขอหยุดไว้ก่อน เนื่องจากหนูเกิดอาการนอนไม่ได้มา2คืนแล้วค่ะ สงสัยบางเรื่องที่อ่านเหมือนมันเคยเกิดขึ้นกับหนู ตอนนี้หนูหลอนตัวเองมากค่ะ แต่ก็ได้รับประโยชน์อย่างมากค่ะ จากเรื่องการรับขันธ์ หนูเคยโดนขู่ค่ะ ว่าถ้าไม่รับจะมีอันเป็นไป ตัดสินใจอยู่หลายครั้งว่าจะรับ แต่ก็มีเหตุให้ต้องติดขัดตลอดค่ะ ถือว่าโชคดี เพราะรับมาอาจเป็นแบบคุน อ. สงสัยท่านคงมาดลใจ ได้อ่านบทความนี้แล้วเหมือนตาสว่างเลยค่ะ ไม่รับแล้ว ถ้าจะเป็นอะไรคงมาจากบุญกรรมกับตัวเรา หากเราทำดี ท่านก็คงช่วยเหลือเราอย่างแน่นอน แต่ที่แน่ ๆ หนูไม่กล้านั่งสมาธิเลยค่ะ เพราะกลัว ไม่อยากรับรู้ไม่อยากมีญาน เพราะเป็นคนกลัวผีมาก อ่านแค่นี้หนูยังนอนไม่หลับมาสองคืน ถ้าได้เห็นซักครั้งกลัวว่า รพ คงมาเอาตัวหนูไป ^_^

( นอนไม่หลับจริงๆนะค่ะ ต้องเปิดเพลงสวดมนต์ถึงเคลิ้มๆ พอเพลงหยุดก็ตื่นอะ เป็นเอามากแล้วค่ะ )

 

... เพื่อนแฟนเราที่ทำงานธนาคารก็โดนคะ หมดไปแปดหมื่นกว่าบาท ... มีทั้งเงินทั้งทองทั้งโทรศัพท์มือถือ ... แค่เดินสวนกับผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งก็เบลอจำไรไม่ได้มารู้ตัวอีกทีนั้งบนรถแท็คซี่แหละ ... น่ากลัวมากคะ แถว ๆ ฝั่งตรงข้ามเดอะมอลล์บางกะปินี้แหละคะ ...

 

.... ขอบคุณนะคะ .. แต่เราว่าไม่น่าจะขนาดนั้นหรอกคะถ้าเอาจริง ๆ เพราะเราเองใช่ว่าจะเป็นคนไม่กลัวผี ... กลัวชนิดขี้ขึ้นหัวเลยก็ว่าได้ต่างหาก .. แต่พอโตขึ้นมามันก็เริ่มถามตัวเองว่า " เพราะอะไรเหรอเราถึงกลัวผี ? .. ทั้งที่ตั้งแต่ไหนแต่ไรที่เจอแบบนี้ พวกเขาไม่เคยทำร้ายเราได้เลยสักครั้งเดียว " ก้เลยเริ่มหาคำตอบให้ตนเองเรื่อยมาจนกลายเป็นว่าตัวเองกลัวน้อยลง .. ไม่ใช่เอ๊ะอะอะไรก็กลัวไว้ก่อน " ตั้งสติ " ก่อนทุกครั้ง .. จำไว้ว่าถ้าเรามีสติอะไรก้ทำร้ายเราไม่ได้หรอกคะ ....

... ส่วนการรับขันธ์ที่เอามาลงมันเป็นเพียงรายละเอียดปลีกย่อยเท่านั้นคะ ถ้าศึกษาจริงจังจะรู้อะไรที่มันลึกซึ้งกว่านี้คะ ... แต่เราบอกเลยว่าอย่ารับเป็นดีที่สุดเพราะตัวเราเองคงพอทราบว่าตนเองสามารถรักษากฏได้ไหม๊ .. เพราะถ้าองค์ท่านต้องการเราจริง ๆ ไม่ต้องรับขันธ์ท่านก็มาคะ ... เชื่อเราเถอะ .. " คนดีผีคุ้ม "

 

... เหมือนเราจะทำให้หลาย ๆ คนนึกกลัวผีขึ้นมา หรือ ว่าหลอนมากขึ้น .. แต่เรื่องที่เราเล่ามายังไม่ใช่ทุกเรื่องที่หลอนที่สุดในชีวิตเรายังมีอีหลายเรื่องที่น่ากลัวมมากกว่านี้ .. บางเรื่องเราเองก้ไม่สามารถเอามาเปิดเผยได้ ..แต่จะพยายามเล่าในเรื่องที่เราสามารถเล่าได้แล้วกันนะคะ ..

 

เล่าต่อเป็นวิทยาทานเถอะค่ะ บางครั้งก็ยอมรับว่ากลัวเหมือนกันแต่ก็อยากอ่าน

 

ตอนที่ 4 .. กิ๊กเธอเล่นของหรือเปล่า ....

... ครั้งหนึ่งเราเคยคบคนอยู่คนหนึ่งเป็นแฟนกัน ( ไม่ใช่สามีนะคะ )กำลังตัดสินใจจะใช้ชีวิตร่วมกันด้วยเหตุผลหลายประการ .. แต่เรามารู้ว่าเขาแอบไปมีคนอื่นในช่วงที่คบกับเรา .. เพราะเรากับเขาทำงานอยู่คนละที่แทบไม่เคยได้เจอกันเลยมีเพียงโทรศัพท์คุยกันเท่านั้น แต่เราก็ทำใจอยู่ว่าเรื่องนี้คงเป็นไปได้ยาก พอเราจับได้ว่าเขามีคนอื่นจึงนัดมาตกลงกันที่ห้องนี้ .. ช่วงกลางวันเขาจะเหมือนมีสายเข้าอยู่ตลอดเวลา แต่เราทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็เฉย ๆ ไป .. แล้วเพื่อนเราก็ชวนไปเที่ยวกันแฟนเราเขาเมากลับมาแล้วเขาก็หลับไปจริง ๆ แกล้งหลับคะ เราเองอาบน้ำเสร็จก็มาล้มตัวลงนอนที่เตียง ... แล้วประมาณ 20 กว่านาทีกำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยว่าจะจัดการยังไงดีกับเรื่องนี้เพราะแฟนคนนี้มีลูกติดมาด้วย .. เรารักเโกคนนี้มากจนขอเป็นลูกบุญธรรม แม่แฟนเขาเลยอยากให้เราคบกันซึ่งเขาก็เป็นคนมาขอเราเอง แต่ทำไมเขาต้องโกหกเราด้วย .. คิดไปคิดมาตัวเริ่มหนักกระดิกไม่ได้เอาแล้วไง ... ปรากฏว่าเป็นหมอกสีขาวจาง ๆ ทั่วห้องแล้วปรากฏเป็นภาพ " ผีผู้หญิง " ใส่ชุดนอนสีขาว ๆ ลายจุดลักษณะน่าเกลียดน่ากลัว ผมหยิกยาวเลยบ่า หน้าเละ ๆ มายืนตรงใกล้ ๆ ปลายเท้าเราแล้วมันก็ " ชี้หน้าเรา " เราตกใจเล้กน้อยว่ามันเข้ามาในห้องนี้ได้ไงแสดงว่าเก่งพอตัวอยู่ ... พอชี้หน้าเสร็จแล้วเธอคนนี้ก็หายไปเราสะดุ้งเลยคะหายเคลิ้มจากที่จะหลับไม่หลับเลย .... มันเป็นใคร !! อย่าบอกนะว่ามาจากกิ๊กของแฟนเราส่งมาเพราะเราไม่มีศัตรูที่ไหนสักหน่อย .... เราถามแฟนแต่แฟนบอกว่าไม่น่าจะเล่นของหรอกแต่ผู้หญิงคนนี้เป็นคนศรีษเกศ ..

.... แล้วเรากับแฟนก็เลิกกันเพราะเราทนไม่ได้ที่เขาโกหกกับเรามากเกินไปขนาดกล้าสาบานกับเราให้ตัวเองมีอันเป็นไป .. ทั้ง ๆ ที่เรารู้อยู่ว่านั้งอยู่ด้วยกันตอนคุยโทรศัพท์กับเรา เราเลยปล่อยไปดีกว่าคนมันขนาดนี้แล้วเราสงสารแต่ ลูกบุญธรรมของเราเพราะผู้หญิงคนนั้นไม่รู้ว่าแฟนเราคนนี้มีลูกติด .. แต่เขาก็ไปกันได้ ...

... พอผ่านไปแค่ไม่กี่เดือนแฟนเราคนนี้ก้เริ่มโทกลับมาหาเรามาคุยมาปรึกษาเราหลายครั้ง และ ขอเจอเรา พอดีเราไปกรุงเทพเลยนัดเจอกันเราขอให้เขาพาลุกคนนี้เรามาด้วยเพราะเราคิดถึงมากเรียกว่านอนร้องไห้คิดถึงเด็กคนนี้ทุกคืนเลยก็ว่าได้ อันนี้เราก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงรักเด็กคนนี้มากขนาดนี้ .. แต่ไม่มีความรู้สึกอะไรกับคนที่ชื่อว่าพ่อเด็ก .. พอเจอกันแล้วเขาก็ขอตามมาที่ห้องด้วยเราเลยพามาทั้งหมดเลย .. เราก้เล่นกับลูกเราสนุกสนานไม่สนใจพวกเขาเลย ... เราลืมบอกไปวันที่จะเจอกันเราไปวัดแขกมาพอดีเราได้มะพร้ามน้ำหอมมาลูกหนึ่งจากการเสี่ยงทาย .. ปรากฏว่า ผู้หญิงคนนั้นนั้งจ้องแบบว่าเหมือนเด็กอยากกินมะพร้าวของเรามาก ๆ เราสงสารเลยยกให้แต่ไม่มีใครผ่าให้เธอกินแม้แต่แฟนเธอเอง ... เราเลยต้องมานั้งทำกับข้าว และ ผ่ามะพร้าวให้เธอคนนี้กินแทน .. จะบอกว่าการกินของเธอทำให้เราตกใจมากเหมือนคน " อดอยากเหมือนคนไม่เคยได้กินอะไรมานานมากแบบว่าซัดมูมมามมาก " เราจนไม่กล้ามองเธอคนนี้กินเลย เพื่อน ๆ เราหาว่าเราบ้าไปแล้ว เขาทำร้ายตัวเองขนาดนี้ยังจะไปดีกับเขาอีก ... ไม่รู้สิเราสงสารเธอคนนี้ขึ้นมาจริง ๆ

... พอถึงเวลานอนเราให้สองคนนั้นนอนที่ข้างเตียงเรา แล้วก็นอนบนเตียงกับลูกสองคน .. แปลกตรงที่ว่าเราเปิดแอร์นอนนะคะ ... แต่สองคนนั้นนอนไม่ได้คะ ... ถึงขนาดใส่เสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นนอน ... เหงื่อแตกอีกต่างหาก .... เราไม่รู้ว่าทำไม .. จนลุกขึ้นมาคุยกันเราเลยบอกว่า " เอาอะไรไม่ดีมาด้วยหรือเปล่า .. อย่าคิดว่าจะกลัวนะ .. โน่นของเธอมันอยู่ข้างนอกโน่นเข้ามาไม่ได้หรอก " สองคนนั้นสะดุ้งโหย่งเลยคะมองหน้ากัน ..

.... สรุปสองคนนั้นอยู่ไม่ได้คะนอนไม่หลับตอนเช้าเลยออกไปกัน .... เราเองก็เพลียมากเพราะมันรู้สึกแปลก ๆ ไม่ดีเท่าไหร่เหมื่อนไปทำอะไรที่เหนื่อยมาก ๆ มา ... พอพวกเขาเดินออกห้องไปแล้วเราก็ง่วงเหมือนจะหลับให้ได้ .. พอเรากำลังเคลิ้ม ๆ เหมือนประตูห้องเปิดอยู่แล้วมีกลุ่มควัสีดำล่องลอยออกไปจากห้องเรา ... แล้วก็เหมือนเป็นเงาหัวเด็กสีดำโผล่มาจากกำแพงตรงหัวเตียงหันหน้ามาแทบจะชนหน้าเรา ... แล้วยิ้มให้เรา พร้อมกับหัวเราะเหมือนเยาะเย้ยเรา ... " อิ อิ อิ อิ " เราทำอะไรไม่ได้เพราะตอนนี้เหนื่อมากเพลียเมื่อยจนปวดร้าวไปหมดเลยปล่อยไปไงพวกเขาก็ไปแล้ว ... แต่เรื่องนี้ยิ่งทำให้เรามั่นใจว่าเธอคนนี้ต้องมีอะไรที่เป็นไสยย์ดำติดตัวมาแน่นอน ....

.... แฟนคนนี้เขาก็ยังโทรมาหาเรานะคะโทรมาคุยเหมือนเดิมโทรทุกวัน และ เขาเริ่มคิดว่าเขาคงโดนทำของแน่แหละเพราะตอนแรกเขาเหมือนจะทำอะไรก็คิดถึงแต่คนนี้ ใครพูดอะไรเรื่องที่เขามาคบคนนี้เขาจะหงุดหงิดอารมณ์เสีย เขาอยากกลับมาหาเราแต่เราว่าในเมื่อเลือกแล้วก็จงทำตรงนั้นให้ดียังคิดอยู่ว่าดีนะที่ยังไม่เป็นอะไรกันไม่งั้นเราคงเสียใจมากกว่านี้ .. เขาบอกว่าเธอคนนี้เพิ่งมาบอกว่า " ปู่ของเธอคนนี้เป็นคนเขมรเป็นหมอผีที่เขมรที่เก่งมาก " ... แถมเขาโทรมารายงานเราว่าตอนไปบ้านเธอคนนี้ เธอให้ไปพักที่บ้านเพื่อนพ่อเพื่อนเป็นหมอผีประจำหมู่บ้านคะ .. เรียกว่าตอนนี้เขากลัวมากคะไม่อยากอยู่แล้วไม่เอาแล้วจ้องหาทางกลับท่าเดียว .. เราเองก็ช่วยอะไรไม่ได้เสียด้วยสิ .. และ คิดว่าถ้าเขาโดนของอะไรเหรอที่ล้างของให้เขาถึงได้คิดได้ได้สติแบบนี้ เพราะเวลาเขาคุยโทรศัพท์กับเราเธอคนนี้มายืนร้องไห้ต่อหน้าเขาก็ไม่สนใจ เขาบอกมันรู้สึกเกลียดมากกว่ามันหงุดหงิด ... เรื่องนี้เราเองก็คิดแค่ว่าดีนัที่เราออกจากตรงนั้นมาได้ เพราะถ้าเราไม่ปล่อยเขาไปยื้อกันอยู่เราอาจมีอันตรายก็ได้ ...

 

ตอนที่ 5 ... ก็บอกว่าอย่าทำอะไรไม่ดีในห้องนี้ ...

.... เรื่องเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วนี้เองคะ .. น้องคนสุดท้ายที่เรายกห้องให้เขาไปคนนี้เขาก็มาแบบแปลก ๆ นะ รู้จักกันในเน็ตนี้แหละคะ แล้วเขาก็เคยช่วยเราจากภพภูมิหลายครั้ง ในฝันอะนะ .. เขาสามารถมองเห็นอะไรแปลก ๆ ได้ คือเห็นผีนั้นแหละ เราก็ไม่รู้ว่าเขาพูดจริง หรือ หลอก แต่เราเชื่อนิมิตเราซึ่งจะเอามาเล่าอีกตอนเพราะอันนั้นมันยาวมากเกี่ยวพันหลายคน ...

... เขาอยู่ห้องนี้เราก็ไม่ค่อยจะสนใจว่าเขาทำอะไรบ้าง แต่เราก็แจ้งเขาแล้วว่าถ้าอยู่ห้องนี้ต้องปฏิบัติอะไรบ้าง .. แล้วเราก้ไม่ติดตามสะด้วยสิว่าเขาทำตัวยังไง เป็นเรื่องแปลกระหว่างเรากับห้องนี้คือเวลาที่คนที่มาอยู่ทำอะไรไม่ดี หรือ มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นในห้องเราจะมีลางบอก หรือ นิมิตบอกเรา ตั้งแต่มีคนมาบอกให้ย้ายห้องอันนี้เจอบ่อย ฝันว่ามีผีจะเข้ามาอยู่ในห้องบ้าง และ แฟนเราเองจะบอกว่าโทรไปถามน้องแกดิมันทำอะไรไม่ดีที่ห้อง หรือ เปล่า อันนี้ก็บ่อยแต่เราก้พยายามไม่ถามถ้าไม่จำเป็น .. จนวันหนึ่งเราพาเพื่อนไปเอาของที่ฝากไว้ที่ห้องนั้น แฟนเราบอกว่าเขามองเห็นเป็นภาพว่ามีทอมตัวใหญ่อยู่ในห้อง มีผู้หญิงนั้งบเตียงกำลังทำอะไรไม่รุ้ตรงใกล้ประตูที่สำคัญห้องรกมากแฟนเราบอกว่าหงุดหงิดไม่ชอบไล่มันออกไปเลยนะ ... เชื่อไหม๊คะพอเราไปห้องเราเจอภาพแบบที่แฟนเราพูดจริง ๆ และเราก้แค่บอกน้องว่าจัดการให้เรียบร้อย ... และ ไหว้ขอขมาเขาสะ .. แต่ไม่รู้เขาทำไมนะคะ ..

... แล้วพอเรากลับออกมาแฟนบอกว่ามันกับเพื่อนต้องพูดอะไรไม่ดีในห้องนี้แน่ ๆ แฟนรุ้สึกไม่ได้เอาเสียเลย ... เราก็บอกเขาไปว่าใครทำอะไรไว้ก็ได้รับแบบนั้น กฏห้องมีอยู่แล้วอย่าคิดมาก ...

... หลังจากนั้นไม่ถึงอาทิตย์เรามาดูเฟสเห็นข้อความว่าน้องกับเพื่อนและลุกของเพื่อนผู้หญิงคนนั้นประสบอุบัติเหตุ ที่ภูเก็ตเราตกใจมาก .. แฟนเราเหมือนจะทำหน้าแบบ สมน้ำหน้ามัน .. เราก็เลยตามข่าวดูก็พบว่า ... น้องคนนี้ และ เพื่อนสาวพร้อมลุกของเธอกลับไปส่งที่บ้านเพราะเธอเลิกกับสามีที่อยู่ชั้นสาม .. น้องเขาเลยพาไปส่งแล้วพากันขึ้นเขาไปไหว้พระที่วัดขากลับลงมามันเป้น " แยกทางโค้ง " ออกหักศอกแล้วเธอคนนี้เป็นคนขับมอเตอร์ไซด์น้องเราอุ้มลูกให้ ... เธอคนนี้มองไม่เห็นรถสามล้อที่วิ่งมาด้วยความเร็วถูกชนกลางลำอย่างแรง !! น้องเราก็บอกว่ามองไม่เห็นเหมือนกัน ขนาดว่ามองทางแล้วค่อยจะออกรถไป ..

.... ผล คือ เธอคนนี้บาดเจ็บสาหัสแขนหัก ขาไม่แน่ใจว่าหักไหม๊ หัวแตก ความจำเสื่อไปเกือบอาทิตย์จำอะไรไม่ได้แม้แต่ลูกของตัวเอง ลูกสาวของเธอบาดเจ็บเล็กน้อย น้องเราก็บาดเจ็บเล็กน้อยมีแค่แผลถลอกที่ขากับแขนเท่านั้น ...

... เราก็สืบถามแม่บ้าน และ คนแถวนั้นดูทั้งถามน้องเราว่า ... พวกนี้พากันรวมหัวจะทำร้ายแฟนของเธอคนนี้โดยเธอคนนี้เป้นตัวตั้งตัวตี และ มักมาสุมหัวกันในห้องของเราเพื่อวางแผน .. พาคนอื่นมานอนที่ห้องโดยที่ไม่บอกเรา ไม่รวมพากันมากินเหล้าในห้องโดยที่เราไม่อนุญาติ และ โกหกเราด้วย .. อย่างอื่นนี้ยังไม่ทราบ ...

... เราเลยให้น้องเราเอาดอกไม้ไปขอขมาที่ห้อง และ เจ้าที่ที่นั้นสะและอย่าทำอีก เพราะเราไม่รู้ว่าเพื่อนน้องเขาจะเชื่อเรื่องพวกนี้มากน้อยแค่ไหน และ เราก็คิดเอาเองว่าเพราะพวกเขาทำไม่ดีในห้องนี้เลยต้องเจอแบบนี้ ...

 

โห.. ตามมาอ่าน ถ้าเจอแบบคุณกาลี มีหวังไม่กล้านอนแน่ๆ
เรื่องผีอำ หรือฝันนิ เป็นเหมือนกันค่ะ ตั้งแต่สมัยเด็กๆล่ะ
ในฝันไม่ค่อยกลัวผี ส่วนใหญ่จะต่อสู้ จับหักคอซะ ส่วนมากผีจะแพ้
ยกเว้นบางที โดนอำ ชนิดมานอนข้างๆ แต่มันแปลกที่ว่า ในฝันเราไม่กลัว แต่พอสะดุ้งตืนนิซิ... ข่มตานอนไม่หลับทุกที 55

ตอนเด็กๆ ก็เคยจมน้ำ คือเล่นซนกับลูกพี่ลูกน้องอีกคน (เป็นผู้ชาย)
จะข้ามขอนไม้ แต่ไม้มันลื่น ร่วงลงไปในน้ำซะ พี่ชายก็ไม่ช่วย เพราะกลัวโดนผุ้ใหญ่ดุ ว่าไม่ดูแลน้อง ตอนนั้นก็เขาน่าจะ 7-8 ขวบได้ สระน้ำลึกมาก แต่เราลอยตัวขึ้นมาแบบ งงๆ รุ้สึกตัวอีกที เห็นกิ่งไม้ก็เลย ยื่นมือจับแล้วพยายามปีนขึ้นมา แต่ขึ้นไม่ได้เพราะสูง เราเด็กกะเปี๊ยกเองอ่ะ

ส่วน คุณพ่อรีบวิ่ง กำลังจะกระโจนลงมาช่วย เราเรียก "พ่อ" แกหันมาตามเสียง เราจับกิ่งไม้ ลอยอยู่ในน้ำอ่ะค่ะ เลยอุ้มขึ้นมา
ชีวิตตอนเด็กๆ รอดตายหลายครั้งเหมือนกันค่ะ
เด่วตามไปอ่านเรื่องอื่นๆต่อก่อนนะค่ะ กำลังลุ้นเลยทีเดียว

 

.... 555555 ทำให้นึกถึงการรอดตายของกาลีนะเหมือนกัน เยอะจัดจนจำไม่ไหว แต่ก็รอดมาได้ทุกครั้ง แถมมีแบบตายแล้วฟื้นด้วย 5555 แต่ก็จะเอามาลงเรื่อย ๆ เก็บไว้เผื่อแก่มาจะได้จำได้ ว่าชีวิตนี้เจออะไรมาบ้าง อิอิ

 

ตอนที่ 6 .. สาวสวยในซอยเปลี่ยว ..

.. สมัยนั้นเราทำงานห้างต้องกลับดึกทุกวัน .. อย่างที่เคยกล่าวไว้ในซอยมีแต่บ้านคนรวย และ ผู้ดีเก่าจึงมีรั่วรอบขอบชิดกำแพงสูง .. มีเพียงกลางซอยด้านขวามือเท่านั้นที่เป็นที่รกร้างแต่มีกำแพงล้อมรอบไว้ทุกด้าน เราเคยได้ยินคนแถวนั้นบอกว่าที่ตรงนี้เคยเป็นโรงงานมาก่อนแต่ไม่รู้ทำไมจึงเลิก และ ปล่อยให้รกร้างจนทุกวันนี้ ... น่าคิดไหม๊

... แล้วเวลากลางคืนหลังสามทุ่มไปแล้วจะน่ากลัวมากเพราะมันเงียบและดูเปลี่ยวมาก แล้วเราทำงานกว่าจะกลับมาถึงหน้าซอยก็ปาไปเที่ยงคืนเข้าไปแล้ว ... เรียกได้ว่า " สาวสวยในซอยเปลี่ยว " เลยก้ได้ อิอิ ( คิดเอาเองนะว่าสวยเพราะเราเดินกลับห้องคนเดียว ) .. ระยะทาง 500 เมตรมันช่างดูไกลเหลือเกิน .. แต่เราต้องเดินแบบนี้ทุกคืน เวลาเดิม คือ เที่ยงคืนถึงตีหนึ่ง ... คิดแค่นี้ก็ให้หายใจไม่ทั่วท้องได้เลย ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศรอบข้าง หรือ สัมผัสที่รับรู้ได้ว่ามันชวนขนลุกแค่ไหน ...

... เหตุเพราะว่าทุกครั้งที่เราย่างเท้าเข้ามาในซอยแค่ " ปากซอย " แล้วมองเข้าไปในซอยแค่ทางตรง ๆ 500 เมตรนี้ก็เหมือนมี สิ่งที่มองไม่เห็นเยอะแยะอยู่ร่วมถนนสายนี้ที่ข้าพเจ้าต้องเดินเข้าไป .. เห้อ ๆ คิดแล้วให้ปวดใจจริง ๆ แต่ก็ต้องเดินเข้าไป เพราะถ้าจ้างแท็กซี่ไปส่ง หรือ วินมอเตอร์ไซด์มันก็สิ้นเปลืองอยู่มากเพราะตอนนั้นความรับผิดชอบเราเยอะพอสมควร จึงต้องตัดใจเดินเข้าซอยทุกคืน .. และ มักจะเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เราไม่กล้ามองไปทางไหนนอกจากต้องเดินตรง แล้ว ก้มหน้าอย่างเดียว ..

... มันทรมานจิตใจมากที่ทุกอย่างก้าวที่เดินเข้าซอยนั้นมันจะต้องรู้สึก " อึดอัด วังเวง อึมครืม ขนลุก เหมือนมีคนเดินตามตลอดเวลา หมาเห่า หอนในบางครั้ง " .. แล้วพอเดินมาถึงช่วงกลางวอยตรงที่เคยเป้นโรงงานเก่านั้นจะรู้สึกเหมือนมีภพภูมินั้งห้อยขาบ้าง ยืนบ้าง .. บนกำแพงกำลังมองเราอยุ่ด้วยความสนใจ และเหมือนบางตนจะเดินตามเรามาด้วย .. แบบว่าเหมือน " มาส่งเราถึงหน้าที่พัก " เลยทีเดียว .. ช่างดูมีน้ำใจมาก !!

... ยิ่งวันไหนวันพระวันโกนจะยิ่งระทึกกว่าปกติ เพราะหมาในซอยจะเริ่มเห่า และ หอนตามเราจนถึงหน้าหอพักทุกครั้ง แถมพอเรามาถึงหน้าหอพักทุกสิ่งทุกอย่างจะสงบลง ทั้งอาการต่าง ๆ ที่เกิดก็หมดไปรวมทั้งความรู้สึกเหมือนมีคนเดินตามก้หมดไปด้วย .. แต่เหมือนสิ่งที่ตามมาเขาจะมองดูเราจากตรงริมถนนหน้าหอทุกครั้งอันนี้เราไม่เข้าใจเหมือนกัน .. พี่แม่บ้านบอกเราว่า " ตี่จูเอี๊ยะที่นี้แรงมากนะเป็นตายาย " แต่เราเชื่อว่าจริงเพราะเราเจอมาแล้วกับตัว อย่างที่เล่ามานี้แหละคะ

 

กราบขออภัยคนที่ตามอ่านเรื่องของกาลีนะ นะคะ

.... เนื่องว่าเกิดข้อผิดพลาดทางเทคนิคทำให้เขาใช้ชื่อเดิมไม่ได้ขออนุญาติใช้ชื่อนี้แทนไปก่อนนะคะ ..