เพื่อการกุศล *★.• เปิดตำนาน มนต์เสน่ห์เขมรสูงโบราณ สายวิชา "กรูเปรี๊ยะออง" *♡ มนต์พญาลิ้นทอง ♡* อ.โอม •.★*

ดูจากหุ่นนางจัน และลักษณะขวด น่าจะเป็น รุ่น 2 (จันทร์ทอง) นะครับ แต่มวลสารในขวดนี่ น่าจะจัดพิเศษเพิ่มต่างหากเลยนะเนี่ย...

 

เรื่องนี้ขอติดไว้ก่อนขอรับ...คืนนี้เหมือนจะเบลอๆเพลียๆอ่ะคับ ขนาดพิมพ์อยู่ยังมีวูบเลยครับ...:'(

 

ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ

 

เมื่อก่อนเวลาไปหาอาจารย์ ด้วยอารมย์ที่จะไปปฏิบัติ ก็จะเลือกที่จะไปนอนวัด ก็ได้มีโอกาสนอนบ้างเป็นบางครั้ง ไม่ต้องหวงว่าจะไม่ได้ประสพการณ์พิเศษ เพราะทุกที่ๆจะสร้างกุฏิ ล้วนแต่เป็นที่ๆเคยผ่านการฌาปนกิจ มาทั้งนั้น แต่ส่วนมากอาจารย์ท่านจะให้นอนที่บ้านท่าน ท่านบอกว่า ปฏิบัติ จะนั่งทำที่ไหนก็ได้ ทำให้ได้ตลอดเวลาก็จะดี ที่วัดมีของดี เดี๋ยวจะไปช่วยไม่ทัน ขนาดเราเป็นพระยังเคยโดนเลย แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรเราหรอกน่ะ แต่คนอื่นนะ โดนมาเยอะ...

เนื่องด้วยสถานที่วัดนั้นเป็นสถานที่โบราณ ที่คนเฒ่าคนแก่ และอาจารย์เล่าให้ฟังว่าเป็นเมืองลับแล และสิ่งเร้นลับอีกมากมาย จึงยังคงความอาถรรพ์อยู่เช่นเดิม ขนาดพระอาจารย์สมชาย วัดหนองน้อย เมื่อครั้งที่ท่านได้ไปเยือนที่วัดป่าโพธิ์ศรีธาตุ ท่านถึงกับเอ่ยปากออกมาว่า สถานที่เขายังคงความอาถรรพ์อยู่เลย...

 

ทีมาของความขลัง เอ็มร้อยห้าสิบ ดื่มเมื่อไหร่ เป็นต้องนอนดึก และเป็นภาชนะที่หาได้ง่ายที่สุดในการนำมาใส่น้ำมัน พรายนางจันทร์

 

ขวดขวามือ นะรุ่นสองแน่นอน แต่ซ้ายมือที่น้ำมันข้นๆ นี่พี่จำไม่ได้ว่าเป็นรุ่นสาม หรือ รุ่นสี (ขวดซ้ายมือ) ต้องให้รังใหญ่อย่างน้องวิปัสนู ช่วยทวนความจำหน่อยจร้า

 

แต่ละขวด ระดับนางงามทั้งนั้น...

 

ขอบพระคุณขอรับท่านเจ้าเมือง...

 

ถ้าเป็นน้ำมันข้น...ก็เป็น รุ่น 3 (กามจร) ครับ...รุ่นนี้มีเรื่อกแปลกเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนเสกเลยเชียวครับ...

 

วัดโพธิ์ศรีธาตุ เป็นวัดที่ผมไปบวชไปปฏิบัติธรรมกับครูบาอาจารย์มาตั้งแต่ปี37 ครับ เรียกได้ว่า ขนาดเข้ามาเรียนต่อที่กรุงเทพ ก็ยังกลับไปแทบจะทุกเดือน เดือนละ 7 วันบ้าง 10 วันบ้าง หรืออยู่เกือบเดือนเลยก็มี

กุฏิในวัดโพธิ์ศรีธาตุ ส่วนใหญ่จะสร้างบริเวณที่เคยเป็นที่ฝังศพ จนกว่าญาติพี่น้องของผู้ตายจะมีความพร้อม จึงจะขุดศพขึ้นมาประกอบพิธี และเผาตามประเพณี ฉนั้นบริเวณตรงนั้นจึงโล่งเพราะถูกถากถางเพื่อเตรียมสถานที่ในการเผาศพ

เมื่อทางวัดจะสร้างกุฏิขึ้นใหม่ ก็เลยมักจะเลือกเอาบริเวณที่ที่เคยเผาศพนี้สร้างกุฏิ เพราะจะได้ไม่ต้องไปถากถางป่า ตัดต้นใม้ใหม่ และเพื่อเป็นการรักษาสภาพป่าไว้ด้วยครับ

ฉนั้นกุฏิแต่ละหลังของวัดโพธิ์ศรีธาตุ จึงไม่ธรรมดาครับ...

 

ผมเองก็ไปอยู่ปฎิบัติที่วัดนี้ เรียกว่าไปอยู่เกือบทุกกุฏิเลยครับ เว้นแต่กุฏิเจ้าอาวาส กับกุฏิแม่ชีเท่านั้นที่ผมไม่เคยไปพัก

แต่จะมีอยู่กุฏิหนึ่งที่ขึ้นชื่อมาก นั่นก็คือ กุฏิ 6 อยู่ในป่าท้ายวัด จริงๆแล้วผมไปอยู่กุฏินี้ก็บ่อย เพราะเป็นกุฏิที่อยู่ลึกที่สุด เงียบดี ไม่ค่อยมีใครเข้ามารบกวนทั้งกลางวัน และกลางคืน...

จนเมื่อประมาณปี 43 ตอนนั้น อ.โอม ได้ให้ผมไปเอานางจันรุ่นแรกที่ท่านสร้างและเสกจนพอใจแล้ว(ร่วมๆสามปี)เพื่อนำมาออกให้บูชาเพื่อหาปัจจัยร่วมสร้างศาลาที่วัดโพธิ์ศรีธาตุ หลังจากไปรับสาวๆมาแล้ว ผมก็เตลิดไปอยู่วัดต่อ กะว่าจะอยู่สักสามสี่วันแล้วจึงจะกลับมากรุงเทพ...

ไปคราวนี้ ผมก็เลือกที่จะพักอยู่กุฏิ6 เหมือนเดิม แต่ก็แปลกใจ เพราะคราวนี้ ทั้งหลวงพ่อน้อย เจ้าอาวาสในขณะนั้น หลวงตาสาร รวมทั้งทายก ต่างก็พูดเหมือนกับว่าให้ผมไปพักอยู่กุฏิอื่นดีกว่า อย่าพักกุฏิ6 เลย แต่ด้วยตั้งใจไว้แล้ว แถมก็เคยพักอยู่บ่อยๆก็ไม่เป็นไร ก็เลยปฏิเสธกับทุกท่านไป

พอคืนแรก หลังจากปฏิบัติเสร็จก็เกือบๆเที่ยงคืน ผมก็นอนตามปกติ แต่ก่อนนอนก็ไม่ลืมที่จะบอกสาวๆที่ไปรับมาจาก อ.โอม และสาวสวยขวดทดลองวิชาของ อ.โอม ที่ให้ผมไว้ ว่าให้ช่วยดูแลพี่ด้วยนะ พี่จะนอนแล้ว อย่าให้อะไรมารบกวนนะ

คืนแรกผ่านไป เหตุการณ์ปกติ แต่ตอนกลางวันนี่สิครับ หลังจากนั่งปฏิบัติได้สักประมาณบ่ายโมงหน่อยๆ ผมจะมีอาการง่วง ก็เลยเอนหลังบนแคร่หน้ากุฏิ กะว่าแป๊บเดียว เดี๋ยวบ่ายโมงครึ่งก็ต้องไปเตรียมน้ำปาณะถวายพระ แต่พอเคลิ้มจะหลับ(แต่ก็ยังภาวนาอยู่)ก็จะมีอาการเหมือนถูกอำ พอรู้สึกอย่างนั้น ผมก็จะตั้งสติ แล้วอาการเหมือนถูกอำนี้ก็จะคลายออกเอง พอดูเวลา ก็บ่ายโมงครึ่งพอดี ก็เลยลุกไปเตรียมจัดน้ำปาณะครับ...

ตกกลางคืน ก็เข้านอนเวลาเดิม ก่อนนอนก็ทำเหมือนเดิมคือบอกสาวๆก่อนนอน เหตุการณ์ก็ปกติ แต่ก็จะเป็นเหมือนเดิมคือตอนช่วงบ่าย ก็จะมีอาการเหมือนเดิมและก็โดนแบบเดิม และผมก็เอาตัวรอดด้วยวิธีเดิม

เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นติดต่อกัน 3 วัน จนผมเริ่มสู้สึกแปลกใจ ตอนที่ฉันน้ำปาณะ ผมก็เลยเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับหลวงพ่อ หลวงตาฟัง คราวนี้ดุท่านจะทำหน้าแปลก พร้อมกับบอกว่าให้ผมย้ายกุฏิดีกว่า แต่ผมก็ยังคงปฏิเสธเหมือนเดิมคับ เพราะคิดว่าเรื่องอย่างนี้ไม่ใช่ว่าไม่เคยเจอมาก่อน เราน่าจะเอาตัวรอดได้(แถมมีสาวๆอยู่ด้วยเพียบ)...

 

ขอบใจจร้า จะได้เขียนใสขวดไว้ว่ารุ่นไหนเป็นรุ่นไหน ถึงอยากให้น้องวิปัสสนู เรียบเรียงทำเนียบรุ่น จะได้จำได้ เวลาค้นหาข้อมูล(k)

 

วันก่อนสั่งซื้อ .... ให้ อ.โอม เมืองสุรินทร์ เอาไว้ใช้ตามแต่เห็นสมควร ด้วยเจตนาที่อยากทำบุญ
วันนี้โชคดีแต่เช้า สงสัยจะได้ซื้อแผ่นเงินแท้ตามที่ได้อธิษฐานไว้แล้วกระมัง ^ ^

 

วันนี้เอาสีผึ้งนางจันที่ได้จากน้องโก้มาไปให้อาจารย์ที่เรียนกรรมฐานสายหลวงปู่ดู่ดู ตอนอาจารย์นั่งดูเห็นท่านสั่นไปทั้งตัว พอดูเสร็จก็บอกของดีๆแรงมากมีตัวตน แรงๆ
ปล.โปรดใช้วิจารณญาณครับความเชื่อส่วนบุคคล

 

ของผมก็มีครับ เก่าเก็บเลยได้มานานทีเดียว

 

คุณ วิปัสสนู ไปไหนแว้ววววววววว
มารออ่านต่อคร้าบบบบบบบบบ

 

ขอบคุณสำหรับประสบการณ์จริงดีๆ ที่นำมาเล่าสู่กันฟังครับพี่เก่ง

 

ขอบคุณสำหรับประสบการณ์จริงดีๆ ที่นำมาเล่าสู่กันฟังครับพี่เก่ง

 

คร้าบ....สงสัยต้องขอรบกวนขอรูปสาวๆแต่ละรุ่นจากพี่ปุ้มประกอบกับข้อมูลด้วยล่ะคร้าบ...ผมมีไม่ครบอ่ะคับ...