***ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างพระอุโบสถมหาอุตต์ วัดน้อยเจริญธรรม จ.สิงห์บุรี***

​

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2556 ได้ดำเนินประชุมสร้างพระอุโบสถมหาอุตต์ (สมเด็จพุฒจารย์โต พรหมรังษี) ขนาดพื้นที่พระอุโบสถ 128 ตรม. กว้าง 12 เมตร ยาว 16 เมตร ออกแบบโดยศิษย์เก่ากรมศิลปากร อาจารย์ชัยยศ พงศ์พูลทอง

โครงการสร้างพระอุโบสถมหาอุตต์ในครั้งนี้ ใคร่ชักชวนผู้มีจิตศรัทธาท่านใดสนใจเป็นเจ้าภาพในการซื้อวัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้าง เช่น พระประธาน พระอรหันต์ 8 ทิศ ลูกนิมิตร เหล็ก หิน ปูน ทราย เสาเข็ม แผ่นกระเบื้องหลังคา สี ฯลฯ

***ผู้มีจิตศรัทธาท่านใดสนใจเป็นเจ้าภาพสร้างพระอุโบสถมหาอุตต์ครั้งนี้ ติดต่อได้ที่ "วัดน้อยเจริญธรรม"
71/1 ตำบลต้นโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี 16000 เจ้าอาวาส หลวงพ่อเอนก อตฺตมโน โทรฯ 081-8216554***



หรือผู้ร่วมประสานงานทั้ง 9 ท่าน

1.หลวงพ่อเอนก อตฺตมโน โทรฯ 081-8216554
2.นายไชยยศ พงศ์พลูทอง โทรฯ 085-3583553
3.นายพิชัย ป เที่ยมเศวต โทรฯ 089-5145860
4.นายโอภาส พิกา โทรฯ 084-6390056,02-3960058
5.นายสติ วงศ์วิชาสวัสดิ์ โทรฯ 083-8611223,053-277988
6.นายธีรพงศ์ งามวิไลรัตน์ โทรฯ 081-9604108
7.นายอรรถพร สุปิยะ โทรฯ 081-8116009,036-530516
8.นายภิเศก สว่างพร้อม โทรฯ 081-4759973
9.นายนคร วชิรตรังสฤษดิ์ โทรฯ 089-5405405

***************************************************************************​

 

“โครงการก่อสร้างพระอุโบสถพระอรหันต์ 8 ทิศ ตามบทสวดมนต์ของสมเด็จพุฒาจารย์(โต)พรหมรังสี”

ณ.วัดน้อยเจริญธรรม(สมเด็จพุฒาจารย์(โต) พรหมรังสี) ต.ต้นโพธิ์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี

1.หลักการและเหตุผล
ด้วยวัดน้อยเจริญธรรม(สมเด็จพุฒาจารย์(โต) พรหมรังสี)วิสุงสีมามาจากทะเบียนวัดร้าง สำนักพุทธศาสนาจังหวัดสิงห์บุรีให้เป็นวัดน้อยเจริญธรรม เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2551 ซึ่งเชื่อกันว่าสิงหะพาหุเจ้าเมืองสิงห์บุรีสร้างอุทิศให้พระบิดาให้ชื่อว่า “วัดสละบาป” ตั้งอยู่ในชุมชนบนเส้นทางเดินเท้าเช้ามืดถึงค่ำมืดระหว่างเมืองสุพรรณบุรีและเมืองสิงห์บุรี เป็นเมืองลึกลับที่เรียกกันว่า ”เมืองลับแล”เมื่อเกิดศึกบางระจันถูกพม่าตีแตก ชาวบ้านบางระจันบางส่วนได้หนีตายมาหลบซ่อน ณ.บริเวณวัดแห่งนี้และได้ถูกทัพพม่าติดตามมากวาดล้าง ถูกฆ่าตายเป็นจำนวนมาก ท้ายสุดได้กลายเป็นวัดร้าง มีผู้คนมาลักลอบขุดค้นเพื่อหาสมบัติได้ไปบ้างเป็นบางส่วน ปัจจุบันไม่เหลือสภาพให้ให้เห็นซากโบราณวัตถุของวัดหลงเหลือให้เห็นอยู่เลย โครงการนี้ได้กำหนดแบบก่อสร้างพระอุโบสถพระอรหันต์ 8 ทิศ ตามบทสวดมนต์ของสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) พรหมรังสี โดยมีความเชื่อกันว่า พระองค์ได้เสด็จธุดงค์มาปักกลดพักแรม ณ.วัดร้างแห่งนี้ ในอดีต แบบโบสถ์ขนาดย่อมกระทัดรัด เน้น ประโยชน์ ขลัง ศักดิ์สิทธิ์ ปัตยกรรมแบบไทย แข็งแรง มั่นคง ประหยัด เรียบง่าย และวิจิตรกลมกลืนกับภาพภูมิทัศน์ร่มรื่น สงบเงี่ยบด้วยร่มเงาความเขียวสดด้วยต้นไม้ในพุทธประวัติที่เป็นธรรมชาติ เพื่อสนับสนุนการปฎิบัติธรรมตามแนวทางวิถีพุทธ

2. วัตถุประสงค์
การดำเนินการบูรณะปฎิสังขรณ์วัดร้างในยุคโบราณกาล ให้คืนสภาพเป็นสมบัติของพระพุทธศาสนา ในนามสมเด็จพระพุฒจารย์(โต) พรหมรังสี มอบถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสืบต่อไปในอนาคตตราบนานเท่านาน

3. ระยเวลาดำเนินงาน
ใช้เวลาออกแบบแปลน หาปัจจัยการก่อสร้างและก่อสร้างไม่เกิน 3 ปี

4. วิธีดำเนินการ
ตั้งคณะผู้ก่อการร่วมประชุมปรึกษาหารือทุกด้าน ทุกรูปแบบเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ โดยรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อผลสัมฤทธิ์ของโครงการเป็นประการสำคัญ

5. บุคคลผู้รับผิดชอบ
ผู้ปรากฎนามในโครงการทุกท่านคือ
5.1 เจ้าอาวาสวัดน้อยเจริญธรรม (สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) พรหมรังสี ประธาน
5.2 นายชัยยศ พงศ์พลูทอง บัณฑิตมหาวิทยาลัยศิลปกร ผู้ออกแบบและตกแต่ง
5.3 นายพิชัย เทียมเศวต นักศึกษาเก่าวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯ ผู้ประสานงานก่อสร้าง
5.4 นายนคร วชิระตรังสฤษดิ์ ประธานชมรมนักเรียน อ.น.ศ. จว. สิงห์บุรี ผู้ประสานงานก่อสร้าง
5.5 นายโอภาส พิลา ศิษย์เก่าอนศ. คณะผู้หาปัจจัยการก่อสร้าง
5.6 นายสติ วงศ์วิชาสวัสดิ์ ข้าราชการบำนาญ จ.เชียงใหม่ คณะผู้หาปัจจัยการก่อสร้าง
5.7 นายธีระพงศ์ งามวิไลรัตน์ ข้าราชการบำนาญ จ.เชียงใหม่ คณะผู้หาปัจจัยการก่อสร้าง
5.8 นายภิเศก สว่างพร้อม ข้าราชการบำนาญ จ.ชัยนาท คณะผู้หาปัจจัยการก่อสร้าง
5.9 นายอรรถพล สุปิยะ อดีตพนักงานรัฐวิสาหกิจ(โทรศัพท์) คณะผู้หาปัจจัยการก่อสร้าง
5.10 พ.ต.ท.จีรัตน์ ทัศนพันธ์ อดีตข้าราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คณะผู้หาปัจจัยการก่อสร้าง
5.11 นายชัยยะ มงคลวิทย์ อดีตพนักงานอัยการ คณะผู้หาปัจจัยการก่อสร้าง
5.12 นางจิตลดา คำดี ข้าราชการกรมประชาสัมพันธ์ จ.สิงห์บุรี ฝ่ายประชาสัมพันธ์
5.13 นายอรรถพร สุปิยะ ข้าราชการบำนาญ จ.สิงห์บุรี ผู้ประสานงานทั่วไป

6. เหรัญญิก (ไวยาวัจกร)
ผู้มีสิทธิเบิกจ่ายเงินบัญชีธนาคารของวัด โดยบุคคลที่วัดและคณะกรรมการ(พิจารณา)แต่งตั้งให้รับผิดชอบร่วมกันเป็นการเฉพาะกิจตามจำนวนที่เหมาะสม


***ผู้รับผิดชอบโครงการ เจ้าอาวาสวัดน้อยเจริญธรรม (สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) พรหมรังสี)

 

ประวัติวัดน้อยเจริญธรรม (สมเด็จพุฒจารย์โตพรหมรังษี)

ชีวประวัติวัดโดยย่อปรากฎหลักฐานทะเบียนวัดร้างของสำนักพุทธศาสนาจังหวัดสิงห์บุรี เป็นวัดเก่าดั้งเดิม แต่โบราณไม่ทราบประวัติการก่อสร้างเมื่อใดสมัยใด แต่มีเรื่องเล่าสื่บต่อกันมาเมื่อ 200 กว่าปี เดิมเป็นชุมชนสำคัญ ระหว่างเมืองสิงห์บุรีกับเมืองสุพรรณบุรี ใช้เวลาเดินทาง 6 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น พื้นที่ลึกลับซับซ้อนชาวบ้านเชื่อว่าเป็นเมืองลับแล เป็นส่วนหนึ่งของค่ายบางระจัน มีซากกองกระดูกมากมาย สันนิฐานว่าเป็นสุสานชาวบ้านค่ายบางระจันมีซากโบราณวัตถุเป็นท่อนหิน, ทราย, กระดูกช้าง,กระดูกม้า มากมายอยู่ในบริเวณวัดและมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิหลายองค์ ไปปรากฎอยู่ในวัดต่าง ๆ หลายแห่ง ถูกชาวบ้านแสวงหาวัตถุโบราณขุดขุ้ยจนเป็นบ่อน้ำลึก และสระน้ำบริเวณโดยรอบได้ถูกบุกรุกปรับพิ้นที่ป่าเพื่อทำเกษตรในปัจจุบัน ไม่เหลือร่องรอยของหมู่บ้านโบราณแต่อย่างใด และเชื่อว่าเป็นแหล่งหลบซ่อนผู้คนและทรัพย์ของมีค่าจากภัยสงครามพม่าศึกบางระจัน เมื่อค่ายแตกชาวบ้านได้หนีมาหลบซ่อนตัว ณ.วัดแห่งนี้ และถูกฆ่าตายจนหมดสิ้นเช่น ค่ายบางระจันที่ 1

 

ชีวประวัติ พระเอนก อตฺตมโน

มารดาชื่อนางผัน เสริมเกษม ภูมิลำเนาหมู่บ้านพระงาม ตำบลพระงาม อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี อาชีพค้าขาย ได้เสียชีวิตสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 บิดาชื่อนายสนิท นาคพุ่ม ภูมิลำเนาอยู่อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี อาชีพรับราชการทหารกองทัพบก สมัยอินโดจีน สงครามโลกครั้งที่ 2 (เสียชีวิตในสนามรบ) ทั้งสองท่านมีบุตร 1 คน คือ ด.ช.เอนก นาคพุ่ม เกิดเมื่อปีพ.ศ.2485 ด.ช.เอนก นาคพุ่ม เป็นเด็กกำพร้า เมื่ออายุ 7 ขวบ สมัยเด็กเรียนหนังสือวัดเกษไชโยชั้นอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 หลังจากเรีบนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ได้ศึกษาต่อวิศวกรรมศาสคร์ สาขากรมชลประทาน เมื่อปีพ.ศ.2500 และพร้อมเข้ารับราชการหน่วยงานกรมชลประทาน เมื่อปีพ.ศ. 2500-2512 ระยะเวลาทำงาน 12 ปี ลาออกจากกรมชลประทานไปทำงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ปีพ.ศ.2512-2514 ระยะเวลา 2 ปี หลังจากนั้นออกมาทำธุรกิจส่วนตัวระยะเวลา 10 ปี ลาบวชปี 2528 จนถึงปัจจุบัน รวมพรรษา 29 ปี (บวชที่วัดกลางท่าข้าม ตำบลท่าข้าม อำเภอค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี พระอุปฌาย์ พระครูวิริยสาร เจ้าคณะอำเภอค่ายบางระจัน)

***ปัจจุบันจำพรรษาอยู่วัดน้อยเจริญธรรม (บูรณะวัดร้าง เดิมชื่อวัดน้อยหรือวัดสละบาป ต่อมาเปลี่ยนเป็นชื่อวัดน้อยเจริญธรรม)

​

 

ภาพบรรยากาศการประชุม เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2556