ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

พรุ่งนี้ว่าจะแปล ฮิลาริออน 11-18 ส.ค. นะคะ

ส่วนตัว มีข้อสังเกตว่า เวลาแปลย้อนหลังของสัปดาห์ที่ผ่านไปแล้ว มักจะเข้าใจข้อความนั้นๆได้ลึกซึ้งกว่า เพราะเหตุการณ์บางอย่างได้เกิดกับเราแล้ว เลยทำให้เรามีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นกับเรื่องที่เข้ามาหลายๆเรื่อง สู้ๆกันต่อไปบนโลกใบนี้

catt17

 

"ข้อความจากต่างมิติ - จุดกำเนิดของจิตวิญญาณ และลำดับชั้นทางจิตวิญญาณในเอกภพของเรา"

http://palungjit.org/threads/ข้อควา...และลำดับชั้นทางจิตวิญญาณในเอกภพของเรา.326865/


"ข้อความจากต่างมิติ - การเดินทางของจิตวิญญาณ - วิญญาณ และ จิตวิญญาณ คืออะไร"

http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ิตวิญญาณ-วิญญาณ-และ-จิตวิญญาณ-คืออะไร.345161/


"ข้อความจากต่างมิติ - ภาพรวมของประวัติศาสตร์มนุษย์โลก และ เราไม่ได้อยู่โดยลำพัง"

http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ร์มนุษย์โลก-และ-เราไม่ได้อยู่โดยลำพัง.357100/


"ข้อความจากต่างมิติ - ประวัติมนุษยชาติ ข้อความสื่อสารจาก "ครายออน" (Kryon)"

http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ยชาติ-ข้อความสื่อสารจาก-ครายออน-kryon.276395/

.................................

 

บางส่วนจากข้อความล่าสุดของท่าน Hilarion

http://www.therainbowscribe.com/hilarion2013.htm

...

Many upon the Earth at this time are feeling the effects
of the higher energies and as you know, when greater Light
is absorbed what is expressed from the individual
is that which does not resonate with the higher frequency.

ในขณะนี้ มีชาวโลกมากมาย
ที่กำลังรู้สึกถึงผลกระทบของพลังงานที่สูงกว่าอยู่
และก็อย่างที่พวกคุณรู้แล้วนั่นแหละ..ว่า
เมื่อใดที่แสงสว่างที่ยิ่งใหญ่กว่าอันนี้ ได้ถูกดูดซับเข้าไปแล้ว
สิ่งที่ผู้คนเหล่านั้นจะแสดงออกมา
ก็คือสิ่งที่มีระดับความสั่นสะเทือน
ไม่สอดคล้องกับคลื่นความถี่ที่สูงกว่าอันนี้ นั่นเอง

It is important to allow these individuals to express the feelings
and thoughts which arise from within them and to not take
what they say and do personally.

This is what we call loving detachment.

มันสำคัญมากที่จะต้องปล่อยให้ผู้คนเหล่านี้
แสดงอารมณ์ความรู้สึก และ ความคิด
ที่ผุดขึ้นมาจากภายในตัวตนของพวกเขาออกมา
และโดยไม่ไปเก็บเอาสิ่งที่พวกเขาพูดและทำมาใส่ใจ

นี่แหละคือสิ่งที่พวกเราเรียกว่า "การรักแบบมีอุเบกขา" หละ

Give them your love and compassion
but do not allow their projections to enter your own auric field.
You can be of greater service in this way
as you become the role models of a humanity
expressing their Divine selves
which eventually all of humanity will emulate upon your planet.

จงมอบความรักและความเมตตาให้แก่พวกเขา
แต่ก็อย่าปล่อยให้สิ่งที่พวกเขาแผ่ส่งออกมา
เข้ามาในสนามพลังออร่าของพวกคุณได้
พวกคุณสามารถที่จะช่วยพวกเขาได้มากขึ้นได้โดยวิธีการนี้
โดยการทำตัวเป็นแบบอย่างให้แก่ชาวโลกทั้งหลาย
โดยการแสดงออกซึ่งความเป็นพระเจ้า
หรือความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเองออกมา
แล้วในที่สุด มนุษย์โลกทั้งผอง ก็จะทำตามพวกคุณ
...

...................................

 

วันก่อนฝันว่ามีบิลส่งมาเรียกเก็บเงิน ผมดูบิลแล้วก็เปิดลิ้นชักเก็บเงิน นับเงินได้ครบตามจำนวนแล้วก็ว่าจะเอาไปจ่าย จำนวนเงินในบิลก็คือ 907 บาท ตื่นซะก่อน นึกเล่นๆขึ้นมา หรือว่างวดนี้ 907 ความคิดหนึ่งก็แย้งขึ้นมาว่าวันนี้วันที่เท่าไหร่กว่าจะถึงวันที่ 16 ก็ลืมไปแล้ว ดูปฏิทินก็พบว่าเป็นวันที่ 8 กว่าจะถึงวันที่ 16 ก็คงจะลืมไปแล้วจริงๆนั่นแหละ เรื่องมันน่าจะจางหายไป แต่ว่าเมื่อคืนนี้ฝันอีกแล้ว ฝันว่า ศักยภาพของเลขหลักร้อยเหลือเพียงแค่เลข 7, 8, 9 ตื่นขึ้นมาก็สงสัยอีกมันจะเป็น 7,8,9 หรือ 7,8,9,0 กันแน่วะ แต่เลขของเราก็เข้าเกณฑ์อยู่นะ
เอามาเล่าสู่กันอ่านแบบขำๆนะ พวกคุณอย่าไปจริงจังกับมันนะ

 

http://palungjit.org/threads/สัญญาณของเทพ-ที่ผ่านมาทางตัวเลข.292813/

 

สาสน์จากฮิลาริออน
11-18 ส.ค. 2013

เธอผู้เป็นที่รัก

ในขณะที่แต่ละวันของเธอผ่านไป
โปรดรู้ว่าเธอกำลังรับใช้จุดหมายอันยิ่งใหญ่กว่าสิ่งที่เธอเห็น
เธอแต่ละคนกำลังสั่นสะเทือนด้วยความถี่ระดับสูงกว่ามวลมนุษย์ส่วนมากในเวลานี้
และสิ่งนี้นั้น บางครั้งจะสร้างความสับสนภายในร่างกายเธอ

ในการที่จะเดินบนหนทางนี้อย่างมั่นคง
เมื่อพวกเธอหลายคนมองดูโลกใบนี้ผ่านสื่อและข่าวต่างๆในเวลาปัจจุบัน
มันดูเหมือนว่าโลกและผู้คนที่อาศัยบนโลกนี้ได้คลุ้มคลั่งไปแล้ว
สิ่งนี้คือการพังทลายของโครงสร้างของระนาบเก่าที่ทำงานอยู่
และการที่เธอมุ่งความสนใจไปยังการรักษาสันติภาพและความกลมกลืน
ภายในตัวเธอและภายในขอบเขตพลังงานของเธอนั้น
ได้ช่วยสร้างโลกใหม่ให้เป็นจริงในขณะนี้
แต่สิ่งที่เรามุ่งความสนใจคือ สภาพคล้ายความเป็นจริงซี่งกำลังถูกสร้างขี้น (ผู้แปล - Reality แบบรายการเรียลลิตี้)
และผู้ที่มีอิทธิพลต่อการสื่อข่าวในขณะนี้ทราบถึงเรื่องนี้
นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมจึงเกิดการรายงานข่าวเรื่องเหล่านี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก
นี่คือเหตุผลที่เราจึงแนะนำ แสงนำทางอันเป็นที่รักแต่ละท่านว่า
มิให้เชื่อในสิ่งที่ได้ยินจากข่าวในคราวแรก

จงรักษาความเป็นตัวเธอเอาไว้
อยู่กับปัจจุบันในทุกขณะและยอมให้ภาคที่สูงกว่าหลอมรวมกับรูปแบบมนุษย์ของเธอ
หลายคนกำลังประสบความสำเร็จในการทำแบบนี้
เมื่อเธอแต่ละคนได้ย้อนกลับไปมองชีวิตของเธอเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา
เธอจะเห็นความก้าวหน้าที่เหลือเชื่อได้เกิดขึ้น
โดยเฉพาะการเจริญเติบโตภายในและศักยภาพของเธอ

ในขณะนี้เธอมีความสามารถที่จะสังเกตุเหตุการณ์ในชีวิตเช่นเดียวกับการเป็นผู้ลงมือทำ
และสิ่งนี้ได้นำพาเธอแต่ละคนไปสู่การมีญาณทัศนะภายในที่ยิ่งใหญ่
รวมทั้งการเปิดเผยแบบแผนของพฤติกรรมของเธอซึ่งสามารถปรับปรุงได้หรือใช้วิธีอื่นๆได้

ในขณะที่เธอทำงานนี้อยู่นั้น
เธอได้ปลดปล่อยโปรแกรมหลายๆอย่างที่ไม่ได้สอดคล้องกับความดีอันสูงสุดของออกไป
และกลายเป็นผลกระทบต่อผู้คนที่เธอรักในทางที่เป็นบวก
และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เป็นบวกภายในพวกเขาเหล่านั้น
สิ่งนี้ยังสนับสนุนความต้องการเติบโตของแต่ละคน
อย่างไรก็ตามบางคนต่อต้านการกระตุ้นนี้
โดยแสดงออกในแบบแผนที่แตกต่างซึ่งก่อให้เกิดความแปลกแยก

จงยึดไว้ให้มั่นและปล่อยให้พลังงานแห่งอวกาศทำงานในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบ
สำหรับบางคนที่เป็นที่รักของเธอ
พวกเขาต้องการความอดทนอันยิ่งใหญ่และความเมตตาจากเธอ
เรารู้ดีว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะไม่ตอบสนองต่อผู้ที่ต่อต้านวิถีแห่งรักและสามัคคี
เพียงรู้และเชื่อว่าในเวลาอีกไม่นานนักพวกเขาจะเปลี่ยนไป
ความถี่อันสูงกว่าที่มายังชั้นบรรยากาศโลกจะสร้างการเปลี่ยนแปลงรูปแบบนี้ภายในตัวแต่ละคน
และวีถีในอนาคตของพวกเธอแต่ละคนจะง่ายขึ้นและสดใสขึ้นกว่าเดิม

ในเวลานี้ผู้อยู่บนโลกนี้หลายๆคนกำลังรู้สึกถึงผลกระทบของพลังงานที่สูงกว่าและเช่นเดียวกับที่คุณรู้
เมื่อแสงที่ยิ่งใหญ่ได้ถูกดูดซับไว้
สิ่งที่จะถูกแสดงออกจากแต่ละบุคคลคือสิ่งที่ไม่สั่นพ้องไปกับความถี่ที่สูงกว่า
จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรยอมให้แต่ละคนระบายความรู้สึก
และความคิดเห็นซึ่งเกิดจากภายในพวกเขา
และไม่เก็บสิ่งที่เขาพูดเอาไว้ โดยกระทำอย่างเป็นส่วนตัว
สิ่งนี้เราเรียกว่า การปลดปล่อยด้วยความรัก
จงให้ความรักและเมตตาของเธอกับพวกเขา
แต่ระวังอย่างให้สิ่งที่พวกเขาปลดปล่อยออกมาเข้ามายังสนามออร่าของเธอ

เธอสามารถช่วยเหลือผู้คนในแบบนี้ได้ดีกว่านี้
เมื่อเธอได้เป็นต้นแบบของมนุษย์ที่แสดงออกถึงตัวตนของความศักดิ์สิทธิ์
ซึ่งมนุษยทั้งหลายบนโลกนี้จะทำตามแบบของเธอ

เมื่อเธอได้ดำเนินการปลดปล่อย
และปล่อยวางสิ่งที่ขัดขวางการเคลื่อนไหวของเธอไปยังมิติที่สูงกว่า
จะมีเวลาที่ขั้วพลังที่เคยดึงดูดมนุษย์ชาติไว้ในความขัดแย้งเป็นเวลาหลายชั่วอายุคนจะเริ่มค่อยๆหายไป

กระบวนการเติบโตต้องอาศัยเวลาและความอดทน
เพื่อให้จิตวิญญาณของแต่ละบุคคลได้รวบรวมบทเรียนทางจิตวิญญาณและญาณทัศนะภายใน
และได้รับประสบการณ์ของการสิ้นสุดของชีวิตในกายเนื้อซึ่งอยู่ในมิติที่ต่ำกว่า
เส้นทางใหม่ของกายเนื้อที่อยู่ในมิติที่สูงกว่าได้เริ่มแซงหน้าขึ้น
มันจะเป็นช่วงเวลาแห่งความเบิกบานเมื่อสิ่งนี้ได้เกิดขึ้น

พบกันสัปดาห์หน้า
เรา คือ ฮิลาริออน

Until next week…
I AM Hilarion
 NEW! Video Format! The Rainbow Scribe.com : Hilarion's Weekly Message, August 11-18, 2013 - YouTube
©2013 Marlene Swetlishoff/Tsu-tana (Soo-tam-ah) Keeper of the Symphonies of Grace
Permission is given to share this message as long as the message is posted in its entirety and nothing has been changed, or altered in any way and Scribe's credit, copyright and website is included.   WELCOME! - The Rainbow Scribe
Thank you for including the above website link when posting this message.

 

ขอบคุณนักแปลทุกท่านเลยนะครับ เป็นกำลังใจให้ทุกคนเสมอครับ

 

ขอบคุณครับ
หลังจากวันที่ 21/12/12 แล้ว ผมก็ไม่ได้แปลข้อความอีกเลย แต่ส่วนตัวก็ติดตามอ่านตลอดมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อความของขาวอาร์คทูเรี่ยน ผมติดตามอ่านไม่ได้ขาดเลย เมื่อวันที่ 12/8/13 ก็อ่านตามปกติ อ่านแล้วรู้สึกว่าเนื้อหาค่อนข้างเข้ากันได้กับบรรยากาศของกระทู้นี้ในขณะนี้ทีเดียว เลยตัดสินใจว่าจะแปลให้พวกเราได้อ่านกัน แปลเสร็จเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละครับ

 

ขอบคุณทุกๆท่านค่ะที่เมตตาสละเวลาแปลข้อความ และพร้อมนำเสนอต่อเพื่อน สมช.ให้รับทราบ เรามอบกำลังใจให้นะค่ะ แม้ว่าจะมีบางพวกขัดแย้งกัน จงพยายามวางอุเบกขาให้ได้ อย่างน้อยสิ่งที่ได้คือ เราชนะใจภายในของเราค่ะ พวกเราทุกคนจะมีความรักและผ่องใสในดวงจิต เมื่อถึงเวลาที่แต่ละบุคคลจะขจัดมันด้วยตนเองก็จะเห็นทุกสิ่งซึ่งเป็นธรรมะเกิดขึ้น ดังที่พระุพุทธองค์ส่งสั่งสอนให้เวไนยสัตว์ก้าวให้พ้นและจะพบทางแห่งแสงสว่าง...สวัสดีและขอมอบรักและปรารถนาให้เพื่อนมนุษยชาติทุกท่านนะค่ะ

 

เมื่อวานนั่งอ่านอยู่เหมือนกันคิดว่าน่าจะแปลให้ท่านอื่นๆ ได้อ่านบ้างเพราะข้อความเนื้อหาจริงประเด็นจริงๆ เราแค่คิด คุณ Mr.Empty ทำซะแล้ว

 

...ยิ่งอ่าน ยิ่งสงสัย ในใจจิต
หรือต่างดาว เขาชิด ในจิตข้า
คอยสอดส่อง มองใจ ในกายา
แล้วเอามา เขียนออก บอกเขียนเอง

...หรือเราเก่ง เรื่องโม้ แลโอ้อวด
ฝันประกวด ประชัน ขันแข่งขอ
ชอบคิดเข้า ข้างตัว มั่วไม่รอ
คิดแล้วขอ คำตอบ จากรอบตัว

...หรือเรามั่ว หัวใจ ไปแบบแถ
ไม่ตรงแต่ แถไถ ใช้ข้างถู
เลือกอ่านแค่ คล้ายตัว รั่วหลายรู
โอ้ตัวตู ถูไถ เลือดไหลซึม

...เอ๊ะเกือบลืม คนหลาย ก็คล้ายเหมือน
หรือมีเพื่อน มากหลาย ที่คล้ายฉัน
ภารกิจ หลากหลาย แต่คล้ายกัน
ทุกทุกวัน ฝันแค่ แถไถถู


วิญญานกระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง
.

 

ดีใจครับที่เห็นคุณMr emptyกลับมาแปลให้อีก
ขอบคุณมากๆครับ

 

By Suzanne Lie – AUGUST 11, 2013

Awakening with Suzanne Lie

THE OPENED CORRIDOR / Your DNA Remembers

We are the Arcturians speaking with you in the NOW. You are aware that you are in the midst of our Arcturian Corridor, which has been opened wide by the astrological/astronomical portal that opened July 29 and closes when a similar configuration is repeated on August 25. During this earth time there is a frequency of light, which is focused directly into the core of the planet and the bone marrow of your body.

พวกเราชาวอาร์คทูเรี่ยนกำลังพูดกับคุณในขณะนี้ คุณรู้ว่าคุณกำลังอยู่ในใจกลางอุโมงค์อาร์คทูเรี่ยนของพวกเรา ซึ่งเปิดกว้างขึ้นมาโดยประตูทางดาราศาสตร์/โหราศาสตร์เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม และจะปิดด้วยเงื่อนไขแบบเดียวกันในวันที่ 25 สิงหาคม ในช่วงเวลานี้ของโลกจะมีความถี่ของแสงสว่าง ที่พุ่งตรงเข้าสู่แกนกลางของโลกและไขกระดูกของพวกคุณ

Of course opening and closing are third dimensional terms, as our portals are always open. The correct, multidimensional manner to say this is that the intense energy fields as of July 29 highlight the portal. These energy fields will be active until August 25. At that time, the energies will slowly disperse. Our Corridor will still, infinitely be awaiting your entry, but the "doorway" will not be quite as obvious.

การเปิดและการปิดเป็นคำพูดในแบบมิติที่ 3 แต่จริงๆแล้วอุโมงค์ของพวกเราเปิดอยู่เสมอ ถ้าจะให้ถูกในการพูดแบบหลากมิติเราจะพูดว่า สนามพลังงานที่รุนแรงของวันที่ 29 กรกฎาคม ทำให้ประตูเด่นชัดขึ้น สนามพลังงานเหล่านี้จะถูกกระตุ้นจนถึงวันที่ 25 สิงหาคม เมื่อถึงเวลานั้นสนามพลังก็จะจางลงอย่างช้าๆ อุโมงค์ของพวกเราจะยังคงอยู่ รอคุณเข้ามาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่หนทางสู่ประตูจะไม่ชัดเจนเหมือนอย่างนี้

The incoming energy fields are focused into the core of the planet and your personal bone marrow because this light holds great transmutational abilities. As you know, transmutation begins from your core and expands into your form, then into your hologram. Those of you, who can accept this transmutation, as Earth is still a free will planet, will discover that myriad innate expanded perceptions will begin to come online.

สนามพลังงานที่เข้ามาจะพุ่งตรงเข้าสู่ใจกลางโลกและพุ่งตรงเข้าสู่ไขกระดูกของพวกคุณแต่ละคน เนื่องจากสนามพลังเหล่านี้ได้นำเอาความสามารถในการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่มาด้วย อย่างที่คุณรู้ การเปลี่ยนแปลงจะเริ่มขึ้นจากแก่นกลางของคุณและขยายเข้าสู่ร่างกายของคุณ จากนั้นก็จะขยายเข้าสู่โฮโลแกรมสามมิติของคุณ เนื่องจากโลกเป็นดาวเคราะห์แห่งทางเลือกเสรี พวกคุณผู้ที่สามารถรับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้ จะพบว่าธรรมชาติดั้งเดิมของการรับรู้ที่ขยายออกจำนวนมากจะเริ่มใช้การได้

Your expanded perceptions will assist you in activating your multidimensional thinking. With your multidimensional thinking predominant your powers of manifestation via your thoughts and emotions become greatly amplified. You higher multidimensional senses become activated and you will realize that all perceptions are your choice.

การรับรู้ที่ขยายออกของคุณจะช่วยให้คุณปลุกวิธีการคิดแบบหลากมิติของคุณขึ้นมา ด้วยการคิดแบบหลากมิติจะมีอำนาจอย่างโดดเด่นต่อพลังในการเนรมิตรของคุณผ่านทางความคิดและอารมณ์ จะทวีพลังขึ้นอย่างมาก ความรู้สึกแบบหลากมิติที่สูงกว่าของคุณจะถูกกระตุ้น และคุณจะรู้ว่าการรับรู้ทั้งปวงของคุณ เป็นเรื่องของสิ่งที่คุณเลือก

You can choose to perceive that which creates fear. OR, you can choose to perceive that which fills you with bliss and joy. These perceptions are the result of your ability to believe that you are ascended. Therefore, instead of “trying to ascend,” your focus is totally shifted to adjusting to your multidimensional consciousness, perceptions and thinking.

คุณสามารถจะรับรู้ในสิ่งที่สร้างความกลัว หรือคุณเลือกที่จะรับรู้สิ่งที่เติมเต็มคุณด้วยพรและความเบิกบาน การรับรู้เหล่านี้เป็นผลของความสามารถในความเชื่อของคุณ ว่าคุณยกระดับไปแล้ว ดังนั้นแทนที่จะ “พยายามจะยกระดับ” ให้คุณใส่ใจอย่างเต็มที่ในการยกระดับความตระหนักรู้ เพื่อปรับเข้าสู่ความตระหนักรู้หลากมิติของคุณ การรับรู้หลากมิติของคุณ และการคิดแบบหลากมิติของคุณ

For many of our Lightworkers, this has been a life-long task. Hence, this opportunity will not be novel, but greatly accelerated. As you have seen, your thoughts, sent out as manifestations hold more immediate response than ever in all your incarnations. This of course means that you must be the Master over ALL negative/fear-based thinking, as that too will manifest almost immediately.

สำหรับไลท์เวิร์คเกอร์จำนวนมากของพวกเรา สิ่งนี้เป็นงานที่ทำมาแสนนานแล้ว ดังนั้นโอกาสนี้จะไม่ใช่นิยาย แต่จะเร่งความเร็วขึ้นอย่างมาก อย่างที่คุณได้เห็นไปแล้ว ว่าความคิดของคุณถูกส่งออกไปในฐานะของการเนรมิต ที่มีการตอบสนองที่เป็นทันทีทันใดมากขึ้น กว่าที่เคยเป็นมาในชาติก่อนๆของคุณทั้งหมด สิ่งนี้หมายความว่าคุณต้องเป็นนายเหนือความคิดที่เป็นลบ ความคิดเกี่ยวกับความกลัวทั้งมวล ซึ่งความคิดเหล่านั้นจะสามารถเนรมิตรได้ในทันทีทันใดเช่นเดียวกัน

It is vital now that your desire body include all of Gaia’s inhabitants, as personal desires will lower your consciousness. On the other hand, living the FACT that YOU are the planet will allow you to maintain your newly awakened expanded consciousness/perceptions. These abilities come to you as a butterfly silently landing on your open palm.

มันมีความจำเป็นในขณะนี้ที่ความต้องทางร่างกายของคุณจะรวมเอาความต้องการของสิ่งมีชีวิตของไกอาทั้งหมดเข้าไปด้วย ซึ่งความต้องการแบบเฉพาะตัวเองจะไปลดระดับความตระหนักรู้ของคุณ ในอีกด้านหนึ่ง การใช้ชีวิตในความเป็นจริงที่ว่าคุณคือดาวเคราะห์ จะเปิดทางให้คุณรักษาระดับของการรับรู้/ความตระหนักรู้ที่ขยายตัวตื่นขึ้นมาใหม่นี้ได้ ความสามารถเหล่านี้มาสู่คุณคล้ายกับผีเสื้อที่ค่อยๆบินลงมาเกาะที่ท้องของคุณ

If you try to grab them or use them in any fashion, you will lose them. Instead, these abilities are here to guide you into your true SELF, so that eventually you can guide others. You, meaning all those who can accept these energies, are entering into Mastery Training. To remain in your expanded state of multidimensional consciousness you must be the master of your EVERY thought and emotion.

ถ้าหากคุณพยายามจับมันหรือใชัมันในหนทางใดๆ คุณจะสูญเสียมันไป แทนที่จะทำอย่างนั้น ความสามารถเหล่านี้อยู่ที่นี่เพื่อนำทางคุณเข้าสู่ตัวตนที่แท้จริงของคุณ เพื่อที่ในที่สุดคุณจะสามารถนำทางผู้อื่นได้ คุณ! หมายถึงพวกคุณทั้งหมดที่สามารถรับพลังงานเหล่านี้ได้ กำลังเข้าสู่การฝึกอบรมในระดับผู้ชำนาญการ เพื่อที่จะรักษาไว้ซึ่งระดับความตระหนักรู้หลากมิติที่ขยายออกของคุณ คุณจะต้องเป็นนายเหนือความคิดทุกความคิด อารมณ์ทุกอารมณ์ ของคุณ

This training is more of a memory than a unique experience, as you are truly remembering your SELF. Doubt is your worst enemy, as is judgment of your self or of others. If you are among the ones whose life path is to be an Opener, a living portal of light, you must know that everyone has a role and each being will perform their assigned task at the appropriate moment of the NOW.

การฝึกอบรมนี้จะเป็นเรื่องของความทรงจำมากว่าเป็นเรื่องของประสบการณ์เฉพาะใดๆ เมื่อคุณจดจำตัวตนของคุณได้อย่างแท้จริง ความสงสัยเป็นศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดเนื่องจากมันเป็นการตัดสินของตัวตนของคุณหรือของผู้อื่น ถ้าหากคุณอยู่ในท่ามกลางผู้คนที่เส้นทางชีวิตเป็นผู้เปิดประตู ประตูแห่งแสงสว่างที่มีชีวิต คุณจะต้องรู้ว่าทุกๆคนมีบทบาทและแต่ละคนจะทำงานที่ได้รับมอบหมายในเวลาที่เหมาะสมของขณะนี้

Everyone’s DNA is coded with everything they have ever known. You have specific roles that will be triggered at the appropriate moment of the NOW. You are all being activated, so it is best to relax and trust your SELF. In the manner you can more fully accept this great gift.

DNA ของทุกคนมีทุกๆสิ่งที่พวกเขาได้เคยรู้มาก่อน คุณก็มีบทบาทเฉพาะตัวที่จะเปิดขึ้นในเวลาที่เหมาะสมของขณะนี้ พวกคุณทั้งหมดล้วนได้รับการกระตุ้น ดังนั้นมันเป็นการดีที่สุดที่จะผ่อนคลายและเชื่อตัวตนของคุณ ในหนทางที่คุณสามารถยอมรับของขวัญที่ยิ่งใหญ่นี้ได้อย่างเต็มที่

It is important to release all trying and to allow your consciousness to float as a feather in a soft breeze. In the fifth dimensional world “doing” is an expression by your “being.” However, in your 3D world your “being” is defined by your “doing.” Therefore, your 3D world you became too focused on output and you forgot about you input.

มันมีความสำคัญที่ต้องปลดปล่อยความพยายามทั้งหลายทั้งปวง เพื่อให้ความตระหนักรู้ของคุณลอยขึ้น คล้ายขนนกที่ลอยอยู่ในสายลมอ่อนๆ ในโลกมิติที่ 5 “การกระทำ” เป็นการแสดงออกของ ”คุณ” อย่างไรก็ตามในโลกมิติที่ 3 ”คุณ” จะถูกกำหนดด้วย”การกระทำ”ของคุณ ดังนั้นโลกมิติที่ 3 ของคุณจะเพ่งเป้าไปที่ผลการกระทำของคุณ และลืมในเรื่องการรับรู้ของคุณ

You forgot to recognize and accept the constant inflow of the higher frequencies of energy that reminded you of your true SELF. Then, instead of believing that you created your reality, you believed that your reality created you. Hence, you were buffeted around from situation to situation like a ball in the midst of a game--the game of 3D life.

คุณลืมที่จะรับรู้และยอมรับกระแสของพลังงานของความถี่ระดับสูงที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ที่ย้ำเตือนคุณเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของคุณ ดังนั้นแทนที่คุณจะเชื่อว่าคุณเป็นผู้สร้างความเป็นจริงของคุณเอง คุณกลับเชื่อว่าความเป็นจริงของคุณต่างหากที่สร้างคุณขึ้นมา ดังนั้นคุณจึงกระเด้งกระดอนจากสถานการณ์หนึ่งไปสู่สถานการณ์หนึ่ง คล้ายกับลูกฟุตบอลในระหว่างการแข่งขัน -- เกมชีวิตแบบ 3 มิติ

That game is coming to a conclusion and none too soon. Far too many were injured in this game and far too many never even knew it was a game. Instead, they believed that the game was reality. Worse yet, too often they were observers of this game and never had the experience of being the creator of their own life.

เกมนั้นกำลังมาถึงบทสรุปและจะไม่มาถึงเร็วเกินไปนัก ยาวนานเพียงพอที่คนจำนวนมากได้รับบาดเจ็บจากเกมนี้ และยาวนานเพียงพอที่คนจำนวนมากไม่เคยรู้เลยว่ามันเป็นเกม แทนที่จะเป็นอย่างนั้นพวกเขากลับเชื่อว่าเกมนั่นแหละที่เป็นความจริง เลวร้ายอะไรอย่างนี้ บ่อยครั้งมากๆที่พวกเขาเป็นผู้สังเกตการณ์ของเกมนี้ และไม่เคยมีประสบการณ์ของการเป็นผู้สร้างชีวิตของตัวเองเลย

Victimization and loss of hope overtook those who had fallen into the illusions of the 3D Game. They became depressed--anger turned inwards--or combative--anger turned outwards. Either way, they chose anger to disguise their fear, which only created sorrow. Now with the doorway open just in front of them, they are too exhausted from the fight to even look up and see it.

ภาวะความเป็นเหยื่อและการสูญสิ้นความหวัง มองลงมายังเหล่าผู้ที่ตกลงมาสู่มายาการของเกมมิติที่ 3 นี้ พวกเขากลายเป็นคนเก็บกด -- ความโกรธหันเข้าสู่ภายใน -- หรือไม่ก็กลายเป็นคนก้าวร้าว -- ความโกรธหันออกไปสู่ภายนอก ไม่ว่าทางไหนพวกเขาเลือกใช้ความโกรธในการปิดบังความกลัว ซึ่งมันก็สร้างได้แค่ความทุกข์ระทมเท่านั้น ขณะนี้ด้วยหนทางสู่ประตูที่เปิดขึ้นเพียงแค่ต่อหน้าของพวกเขาเท่านั้น พวกเขาเหน็ดเหนื่อยจากการต่อสู้เกินกว่าที่แม้แต่จะมองหาและเห็นมัน

Therefore, it is the assignment of those who did not forget their SELF, and those who found their way to remembering, to assist those who have become so desperately lost. Some of you will assist people; others will help animals, plants, weather, world systems etc. As we remember that we chose to play the game and we can remember to BE our SELF who joined the game to assist.

ดังนั้นมันจึงเป็นงานที่มอบหมายให้ผู้ที่ไม่ลืมตัวตนของเขา และผู้ที่ค้นพบหนทางในการระลึกได้ ที่จะช่วยเหลือผู้ที่หลงทางอย่างมาก พวกคุณบางคนจะได้ช่วยเหลือคนอื่น ที่เหลือก็จะไปช่วยสัตว์ พืช ภูมิอากาศ ระบบต่างๆของโลก ฯลฯ เมื่อพวกเราระลึกได้ว่าพวกเราเลือกที่จะเล่นเกมและพวกเราสามารถระลึกได้ที่จะเป็นตัวของตัวเอง ผู้ที่เข้ามาสู่เกมเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น

Once the "helpers" are able to enliven the "helpless" changes will progress in an exponential manner. In fact, these changes have commenced. However, you see what you want to see. If you choose to see what is wrong, there is plenty of "wrong" left for you to ponder and worry about. However, if you choose to see that which is rooting towards the higher light you will find that great changes are occurring in your world everyday.

เมื่อ ”ผู่วยเหลือ” สามารถช่วยให้ “ผู้ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้” มีชีวิตชีวา การเปลี่ยนแปลงจะก้าวหน้าอย่างมากมาย อันที่จริงการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้เริ่มขึ้นแล้ว อย่างไรก็ตาม คุณเห็นในสิ่งที่คุณต้องการจะเห็น ถ้าหากคุณต้องการจะเห็นในสิ่งผิด จะมีสิ่งผิดเหลืออยู่มากมายให้คุณคิดและกังวลกับมัน ถ้าหากคุณต้องการเห็นสิ่งนั้นที่กำลังลงรากผ่านทางแสงสว่างที่สูงกว่า คุณจะพบว่าการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่กำลังเกิดขึ้นในโลกของคุณทุกๆวัน

What you chose to think about and where you place your point of perception will set your state of consciousness. If you focus on what is fearful and damaging, you will become depressed, sad, angry and helpless. On the other hand, if you focus on what is loving and transmutational, you will feel empowered, happy and purposeful.

อะไรที่คุณเลือกจะคิดเกี่ยวกับมันและที่ไหนที่คุณจะวางจุดของการรับรู้ของคุณเอาไว้ จะสร้างสถานะของความตระหนักรู้ของคุณ ถ้าหากคุณเพ่งไปในสิ่งที่เป็นความกลัวและการทำลายล้าง คุณก็จะกลายเป็นคนเก็บกด เสียใจ โกรธ และช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ในอีกด้านหนึ่ง ถ้าหากคุณเพ่งไปในความรักและการเปลี่ยนแปลง คุณจะรู้สึกมีพลังอำนาจ มีความสุข มีความมุ่งมั่น

Many of you have forgotten that you are the creators of your life, in fact many never realized that you were the creators of your reality. Instead, you believed the illusion. You believed in what you feared because you were on the edge of survival. When you are on the edge of survival adrenalin takes over and your brains differ to the fight/flight behavior of a wounded animal.

พวกคุณจำนวนมากลืมไปว่า คุณคือผู้สร้างชีวิตคุณเอง อันที่จริง คนจำนวนมากไม่เคยรู้เลยว่า คุณคือผู้สร้างความเป็นจริงของคุณเอง พวกเขาเลยเชื่อในมายาการ คุณเชื่อในสิ่งที่คุณกลัวเพราะว่าคุณอยู่ที่แนวปะทะของการเอาตัวรอด เมื่อคุณอยู่ที่แนวปะทะของการเอาตัวรอด อะดรีนารีนก็จะเป็นใหญ่ และสมองของคุณก็จะเข้าสู่โหมดของพฤติกรรม สู้/สู้ ของสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บ

Fortunately, more and more of you are realizing that being a wounded animal is a choice. The only thing you have to change to alter your perspective of realty is your state of consciousness. Once you raise your consciousness enough to feel the higher frequencies of light around you, you will be able to believe that you can shift your perspective from victim to victor.

โชคดีที่มีพวกคุณมากขึ้นเรื่อยๆ ที่รู้ว่าการเป็นสัตว์ที่บาดเจ็บเป็นทางเลือก มีสิ่งเดียวที่คุณต้องเปลี่ยนแปลงก็คือ เปลี่ยนการรับรู้ความเป็นจริงของคุณให้เป็นสถานะของความตระหนักรู้ของคุณ เมื่อคุณยกระดับความตระหนักรู้ของคุณได้เพียงพอที่จะรู้สึกถึงความถี่ของแสงสว่างระดับสูงรอบๆตัวคุณ คุณจะสามารถเชื่อได้ว่าคุณสามารถยกระดับมุมมองของคุณจากเหยื่อให้กลายเป็นผู้ชนะ

From this perspective of reality, you have the courage and ability to change everything. Your earth vessel will still live in "time," so patience is important. However, if you really think about it, time is always just NOW. The past in which you were wounded is over and the future has not occurred.

จากมุมมองความเป็นจริงนี้คุณจะมีกำลังใจและสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆได้ทุกสิ่ง ร่างกายโลกมนุษย์ของคุณใช้ชีวิตอยู่ใน “เวลา” ดังนั้นความใจเย็นจึงเป็นสิ่งสำคัญ อย่างไรก็ตาม ถ้าหากคุณคิดเกี่ยวกับมันจริงๆ เวลามักจะเป็นขณะนี้อยู่เสมอ อดีตที่คุณได้รับบาดเจ็บได้จบลงแล้ว และอนาคตก็ไม่ได้เกิดขึ้น

However, if someone enjoys the role of being the victim they can curl up in their fear and sorrow and be angry at anyone who tries to show them the light. All Lightworkers have had experiences of people being angry at them when they attempt to show a higher perspective of their life. Why?

อย่างไรก็ตาม ถ้าใครบางคนเพลิดเพลินกับบทบาทของการเป็นเหยื่อ พวกเขาก็สามารถขดตัวอยู่ในความกลัวของพวกเขาได้ แล้วก็เศร้าโศก แล้วก็โกรธใครบางคน ที่พยายามแสดงให้เขาเห็นแสงสว่าง ไลท์เวิร์คเกอร์ทุกคนมีประสบการณ์ที่คนอื่นโกรธพวกเขา เมื่อพวกเขาพยายามที่จะแสดงมุมมองที่สูงกว่าของชีวิตพวกเขา ทำไม?

Why do people get angry when others are trying to assist them? It is because they have lost HOPE and are so beaten down that they are afraid to try. These people cannot be helped--yet. They have become their sorrow and will need many role models of transmutation before they can find the courage to come out from undercover and see a better world.

ทำไมคนจึงโกรธเวลาผู้อื่นพยายามที่จะช่วยเหลือพวกเขา มันเป็นเพราะว่าพวกเขาสูญสิ้นความหวังและถูกบดขยี้จนกลัวที่จะพยายามต่อไป ผู้คนเหล่านี้ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ – ในตอนนี้ พวกเขาจะกลายเป็นคนทุกข์ระทมและจะต้องการแบบอย่างของการเปลี่ยนแปลงเป็นจำนวนมาก ก่อนที่พวกเขาจะหากำลังใจที่จะออกจากผ้าคลุมและเห็นโลกที่ดีขึ้น

ปล. น่าเสียดายที่มีแต่พวกเราที่ได้อ่าน เค้าคงอ่านมาไม่ถึงตรงนี้หรอก…ต่อดีกว่า

Yes, the world is better if you look for better. If you look for worse, you will find that too. In fact, that is how you create your life.

ใช่แล้ว โลกจะดีขึ้นถ้าหากพวกคุณแสวงหาสิ่งที่ดีขึ้น ถ้าหากพวกคุณแสวงหาสิ่งที่เลวลง คุณก็จะพบมันด้วย อันที่จริง สิ่งนั้นนั่นเองที่เป็นวิธีที่คุณสร้างชีวิตของคุณ

-->Your belief sets your state of consciousness.
ความเชื่อของคุณก่อให้เกิดสถานะของความตระหนักรู้

-->Your consciousness sets your perception.

ความตระหนักรู้ของคุณก่อให้เกิดการรับรู้ของคุณ

-->The reality you perceive is the reality you live.
ความเป็นจริงที่คุณรับรู้ก็คือความเป็นจริงที่คุณอาศัยอยู่

Therefore, you need to take the risk to believe that your reality is shifting NOW into a higher frequency. If you choose (as it is a choice) to believe that you are transmuting into higher frequencies of your SELF, and hence of your world you set a state of consciousness filled with hope, joy, forgiveness, gratitude and unconditional love.

ดังนั้น คุณจำเป็นที่ต้องเข้าไปสู่ความเสี่ยงที่จะเชื่อว่า ความเป็นจริงของคุณกำลังยกระดับขึ้นสู่ความถี่ระดับสูงในขณะนี้ ถ้าหากคุณเลือก(ซึ่งมันก็เป็นทางเลือก)ที่จะเชื่อว่าคุณกำลังเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ความถี่ระดับที่สูงกว่าของตัวตนของคุณเอง และของโลก คุณได้สร้างสถานะของความตระหนักรู้ ที่เต็มไปด้วยความหวัง ความเบิกบาน การให้อภัย การสำนึกขอบคุณ และความรักที่ไม่มีเงื่อนไข

Within this state of consciousness your body releases, not adrenaline, but endorphins. Your Pineal Gland is signaled to open to higher frequencies of light, which further stimulates your inner pharmacy of consciousness expanding and joyful "drugs." You feel "high on life" as your body is calibrated to that experience by your own inner pharmacy.

ภายในสถานะของความตระหนักรู้นี้ ร่างกายของคุณก็จะปลดปล่อยแอนโดรฟีนออกมา (ไม่ใช่ อะดรีนารีน) ต่อมไพนีลของคุณก็จะได้รับสัญญาณให้เปิดออกสู่ความถี่ระดับสูงของแสงสว่าง ซึ่งจะไปกระตุ้นสารเคมีของความตระหนักรู้ที่ขยายออกมากขึ้น และสารเคมีแห่งความสุข คุณรู้สึกอย่างสูงในชีวิต เมื่อร่างกายของคุณปรับตัวเข้าสู่ประสบการณ์นั้นด้วยสารเคมีในร่างกายของคุณเอง

Because you feel so joyful, elated and focused, you find that you focus only on that which fills you with love and joy. Because of this choice of perception you begin to see and hear solutions, creations and new ideas for how to improve your life. Your creative channel into the higher frequencies of reality is turned on. Thus you dedicate yourself to helpful and creative endeavors.

เนื่องจากคุณรู้สึกเบิกบาน ร่าเริง และมีสมาธิอย่างมาก คุณพบว่าคุณใส่ใจเฉพาะเพียงสิ่งที่เติมเต็มคุณด้วยความรักและความเบิกบาน เนื่องจากทางเลือกของการรับรู้นี้ คุณเริ่มเห็นและได้ยินทางออก การสร้างสรรค์ และความคิดใหม่ๆ เกี่ยวกับวิธีที่จะปรับปรุงชีวิตของคุณให้ดีขึ้น การสร้างสรรค์ของคุณจะสื่อสารเข้าสู่ความถี่ระดับสูงของความเป็นจริงที่เปิดออก ดังนั้นคุณจะอุทิศตนเพื่อทำในสิ่งที่ช่วยเหลือผู้อื่นและการสร้างสรรค์

Instead of stealing time to have fun or be creative, you grab a moment in your wonderful day to take care of whatever remaining 3D tasks call you. We move to the place you love. You quit the job you hate. You see the people you enjoy being with and share your joy with the very atmosphere of the planet.

แทนที่จะต้องขโมยเวลาเพื่อจะมีความสุขหรือทำสิ่งสร้างสรรค์ คุณหยิบฉวยชั่วขณะในวันที่อัศจรรย์ของคุณ เพื่อเอาใจใส่งานใดๆก็ตามที่เหลืออยู่ในโลก 3 มิติ ที่ร้องขอต่อคุณ พวกเราจะไปในที่ที่คุณรัก คุณออกจากงานที่คุณไม่ชอบ คุณจะได้เห็นผู้คนที่คุณมีความสุขที่ได้อยู่ร่วมด้วย และแบ่งปันความสุขกับทุกๆบรรยากาศของโลก

Solutions to problems are found inside and patiently waited for knowing that you are infinitely guided. At this point you KNOW you are protected because you commune and communicate with your inner guidance, which you realize is higher frequencies of your Multidimensional SELF.

ทางออกของปัญหาจะค้นพบในภายในและรอคอยที่จะรู้อย่างใจเย็น ซึ่งคุณจะได้รับการแนะนำอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ณ จุดนี้คุณรู้ว่าคุณได้รับการปกป้องเพราะว่าคุณเข้าร่วมและติดต่อกับผู้แนะนำในภายในของคุณ ซึ่งคุณรู้ว่าเป็นความถี่ระดับสูงของตัวตนหลากมิติของคุณ

Yes, fear threatens to take you down into victimization. However, you have the map that shows you the way to be your SELF. You remember how easy it is to just give up and be a victim of your "awful life." But, since we have traveled the path, you also know the way back into your SELF.

ใช่เลย ความกลัวจะคุกคามเพื่อทำให้คุณตกลงสู่ความเป็นเหยื่อ อย่างไรก็ตาม คุณมีแผนที่ที่แสดงหนทางแก่คุณที่จะเป็นตัวของตัวเอง คุณจำได้ว่ามันง่ายเพียงใดที่จะยกเลิกมัน และเป็นเหยื่อของชีวิตที่น่ากลัวของคุณ แต่เนื่องจากพวกเราเดินในหนทาง คุณรู้หนทางที่กลับไปสู่ตัวตนของคุณเช่นกัน

From the peak you have created, you remember to remember to choose love. You remember to go inside your SELF for guidance and reassurance. Most important, you remember that YOU are great multidimensional beings who took a form HERE in the NOW to assist with planetary ascension.

จากจุดสูงสุดคุณได้สร้างการจดจำ ที่จำได้ว่าจะเลือกความรัก คุณจำได้ที่จะเข้าไปในภายในตัวตนของคุณ เพื่อนำทางและรับประกัน ที่สำคัญที่สุด คุณจำได้ว่าคุณคือรูปธรรมหลากมิติผู้ยิ่งใหญ่ ผู้มาอยู่ในร่างกายมนุษย์ที่นี่ในขณะนี้ เพื่อช่วยเหลือในการยกระดับของดาวเคราะห์

You remember that:

คุณจำได้ว่า

You are NOT your body.

คุณไม่ใช่ร่างกายของคุณ

You are NOT your job or your chores or your bills.

คุณไม่ใช่งาน หรือสิ่งน่าเบื่อต่างๆ หรือบิลเรียกเก็บเงินต่างๆ

YOU ARE New Earth--NOW!

คุณคือโลกใหม่ – ขณะนี้ !

ด้วยรักที่ไม่มีเงื่อนไข ขอบคุณครับ

 

ข้อความชุดที่คุณ Mr Empty แปลมานี้ผมก็อ่านแล้วเหมือนกันครับ
ก็รู้สึกว่าดีมากเหมือนกัน และก็อยากจะแปลเหมือนกัน

แต่เพราะว่ากำลังแปลข้อความอื่นอยู่ ก็เลยไม่ไหวหนะครับ

และก็..อย่างที่ผมพูดมาโดยตลอดว่า ถ้าใครสังเกตให้ดี
และปะติดปะต่อเนื้อหาของข้อความจากต่างมิติทั้งหลายติดหละก็
ก็จะพบว่า มันเป็นไปในแนวทางเดียวกันทั้งหมดเลย อย่างน่าอัศจรรย์
ไม่ว่าจะสื่อสารมาจากรูปธรรมชีวิตไหนก็ตาม

โดยเฉพาะช่วงหลังนี้ ผมพบว่าข้อความจากชาว Acturian
กับของท่าน AA Michael นี่ สอดคล้องและต่อเนื่องกันอย่างมาก
จนแทบจะใช้ศัพท์คำเดียวกันเลยด้วยซ้ำไป..ซึ่งผมกำลังแปลอยู่ครับ
ดังนั้น เดี๋ยวท่านจะได้อ่านแล้วเปรียบเทียบกับข้อความชุดที่
คุณ Mr Empty โพสต์ให้อ่านไปแล้วข้างบนนี้หนะนะครับ

ผมใช้เวลาแปลข้อมูลของท่าน Michael ชุดนี้นานกว่าปกติ
เพราะว่า จะว่าไปแล้ว..ก็กับทุกๆข้อความจากต่างมิตินั่นแหละครับ
ที่พักหลังมานี่ ภาคทฤษฎี กับ ปฏิบัติ ของผม มันจะไปด้วยกันมากขึ้น
ดังนั้น มันเลยดูเหมือนว่า พอทฤษฎีมา มันจะต้องใช้เวลาคิดใคร่ครวญ
และดูดซับเอาความเข้าใจในเรื่องนั้นๆเสียก่อน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติต่อไป

ดังนั้น ถ้ายังไม่เข้าใจมากพอ ผมก็จะสะดุดอยู่ตรงนั้น หรือตรงบรรทัดนั้นๆ
ค่อนข้างนานหนะนะครับ

อดใจรอหน่อยนะครับ ผมยังมีข้อความที่ส่งถึงนาง Blossom อยากจะแปลอยู่อีกด้วย

...................................................

 

"พูดจากภาพ ทราบแล้วเรียน เพียรทำไป"

เอาตัวอย่างการเชื่อมต่อข้ามมิติ มาให้ชมกันครับ
ไม่รู้ใช่รึเปล่า แต่ถึงไม่ใช่ ก็ใกล้เคียงล่ะครับท่าน




ถ้าตุ๊กแก กับกันดั้มไม่ช่วยยืนยัน ในเวลาที่ฉับพลันทันที คงไม่แน่ใจ ว่าใช่แน่
เพราะปกติจะเชื่อนิมิตร ต้องใช้การยืนยันสองครั้งต่อเนื่อง เป็นอย่างน้อย
การโจมตี จะมีจริงหรือไม่มี ก็ดูจะไม่ใช่เรื่องสำคัญซะแล้ว ในกรณีนี้
ที่น่าสนใจกว่า คือการเชื่อมต่อ ดูเหมือนจะเพิ่มความซับซ้อนขึ้นมาอีกขั้นนึง

เรื่องฝันร้ายก็ดูจะมีมาเป็นระยะ หรือจะเป็นการฝึกฝนและค้นหากันหว่า???
แต่ทุกครั้ง ในฝันก็รับมือได้ดีนะ ไม่เคยต้องเข้าสู่จุดอับเลยซักครั้ง รับมือได้ดี
ส่วนใหญ่จะตื่นทัน ลืมตาขึ้นมานอนนิ่งๆ ไม่มีอาการตื่นเต้นหรือตกใจให้เห็น
แต่บางครั้งก็มีเหนื่อยบ้าง ที่เป็นบ่อยคือปวดเมื่อยเนื้อตัวจังแฮะ
ตื่นมาต้องใช้โยคะหลายท่า กว่าจะยอมลุกจากที่นอน ไม่งั้นไม่สบายตัวเลย





อีกสิบวันต่อมา ก็มีการแสดงผลการฝึกฝนออกมาให้ชม น่าจะใช่นะจ๊ะ นะจ๊ะ
จากท่านั่งกินข้าว แต่ตาจ้องไปที่ครุฑ ซึ่งหลวงพ่อผูกติดไว้กับเสาศาลาวัด
บังเอิญจ้องแล้ว เพ่งให้เกิดแสงสว่างขึ้นมา ทดลองเพิ่มพลังให้เค้าน่ะครับ
ปากก็เคี้ยวข้าวอยู่ แต่อีกใจก็อยู่ในสมาธิ หรือฌาน เพ่งไปกินไป เก่งจังเรา
(วิชาแบ่งจิตเป็นสอง เรียนจากท่านจิวแป๊ะทง ตั้งแต่ก่อนวัยรุ่นอีกมั้ง นะ)

ทันใดนั้น เจ้านกกางเขนก็บินโฉบเข้ามาในศาลาวัด ปกติไม่เคยมีนะ ตอนเที่ยง
โผมาเกาะที่ม้านั่ง แทรกอยู่ระหว่างเรากับครุฑ แนวแทบจะตรงเป๊ะเลยนะ
เฮ้อ..บังเอิญอีกแล้ว บังเอิญครั้งที่ล้าน จดจำกันไม่หวาดไม่ไหวแล้ว

และแล้วในทันทีทันใด ทีวีก็ส่งสัญญานเชื่อมมิติออกมาให้ ในเสี้ยววินาที
เป็นโฆษณาเป๊บทีนรึเปล่า ไม่ทันได้ฟังแฮะ แต่ได้ยินว่าสื่อสารมหัศจรรย์
จับใจความได้แค่นั้น ในใจก็แว่บ แล้วก็ปิ๊งๆ เหมือนฟ้าแลบในหัวเลยล่ะ
เข้าใจทุกอย่างได้ในพริบตา บ้าดีไม๊เนี่ย แต่เราหายบ้าแล้วนะ
โชคดีจังที่ชิงบ้าไปก่อนแล้ว เมื่อหลายเดือนก่อน ไม่งั้นคงบ้าแน่ๆ 555
บ้าได้ก็หายเอง ดีจังเลย สงสัยทำวัคซีนแก้บ้าได้สำเร็จ บ้าอยู่เป็นเดือนล่ะมั้ง นะ



แสงสว่างตราค้างคาว / โคนันกะโคแนน
.

 

เรื่องพระผู้สร้างนี่เข้าใจยากมาก มันต้องมีคำถามแบบนี้ในหัวสมองขึ้นมาตลอดเลยว่า
"หากพระเจ้ามีจริง แล้วใครสร้างพระเจ้า"
สงสัยว่าความคิดเราถูกจำกัดด้วยมิติรึเปล่า

 

บางส่วนของข้อความสื่อสารจากแมทธิว วาร์ด
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2013
ผ่านทางนาง Suzanne Ward

ที่มา: Matthew Ward - August 15, 2013

...

แต่ว่า..ยังมีพวกคุณหลายคนที่คอยแต่จะถามคำถามว่า
พวกคุณได้ทำหน้าที่ของตัวเองหรือยัง

มันมีความรู้สึกที่แสดงออกมาจากหลายๆคน
ผ่านทางอีเมลที่ส่งถึงคุณแม่ของผมอยู่หลายฉบับ
ซึ่งโดยสรุปรวมๆแล้ว ก็จะได้ประมาณว่า:

"ฉันไม่รู้ว่าภาระกิจของฉันคืออะไรเลย
และฉันก็ไม่รู้ว่าการเป็นผู้ชี้ทางให้กับคนอื่นนั้นเป็นอย่างไรด้วย

ดังนั้น ฉันจึงทำได้แค่ "ส่งแสงสว่าง" ของฉันออกไปเท่านั้นเอง
แต่นั่นฉันว่า มันยังไม่พอหรอก
เพราะว่าแค่นั้นหนะ จะไปช่วยเปลี่ยนแปลงอะไรได้"

(ปล.คำว่า "ส่งแสงสว่าง" ออกไป ในที่นี้หมายถึง
เวลาเรานั่งสมาธิ หรือ มีจิตใจสงบดีแล้ว
เราจินตนาการถึงความรักและแสงสว่าง
แล้วแผ่มันออกไปจากตัวเรา สู่สรรพสัตว์ทั้งหลาย
สู่โลกทั้งโลก สู่จักรวาลทั้งจักรวาล หนะนะครับ - ผู้แปล)

"ที่รัก..เรื่องที่เกี่ยวข้องกับ "แสงสว่าง" หนะ..
มันไม่มีคำว่า "เพียงแค่" หรือ "แค่นั้น"
หรือ "เฉยๆ" หรอกนะ!

เพราะว่าแสงสว่างหนะ คือพลังงานชนิดเดียวกันกับ "ความรัก"
และก็เป็นพลังงานที่มีพลังอำนาจมากที่สุดในเอกภพด้วย
ดังนั้น แสงสว่าง จึงไม่ได้เป็นแค่
สิ่งที่มีความจำเป็น ที่จะสามารถทำให้เกิด
การเปลี่ยนแปลงขึ้นได้อย่างแท้จริงเท่านั้น
แต่แสงสว่าง คือทุกสิ่งทุกอย่าง
ที่โลกกำลังต้องการอยู่ต่างหากหละ!

เพราะว่าความรักและแสงสว่าง
คือกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่สันติสุข, ความปรองดองกัน,
และความยุติธรรมในโลกของพวกคุณ!

มันคือกุญแจสำคัญสู่การมีชีวิตที่มีความสุขและพรั่งพร้อมสมบูรณ์,
คือกุญแจสำคัญสู่การเจริญเติบโตด้านจิตวิญญาณและจิตสำนึก
และคือกุญแจสำคัญสู่ความน่าพิศวงอันเลอเลิศทั้งหมด
ของยุคทองของโลกอีกด้วย!"

พวกคุณทุกๆคนคือผู้ที่ทำให้เกิดความแตกต่างขึ้น!
และพวกคุณทุกๆคนก็คือผู้ชี้ทางให้กับคนอื่นๆด้วย!

...

ตัวอย่างเช่น พวกคุณอาจจะทำอาหารอะไรซักอย่าง
ไปมอบให้ครอบครัวที่ยากจนรับประทาน

หรือช่วยดูแลลูกคนโตให้คุณแม่ซักคนหนึ่ง
เพื่อที่คุณแม่คนนั้นซึ่งมีลูกน้อยอีกคนอยู่ จะได้มีเวลาพักบ้าง

หรือการที่พวกคุณกล่าวคำทักทายเพื่อนบ้านใหม่อย่างอบอุ่น
หรือมอบดอกไม้ให้กับใครบางคนที่กำลังป่วยอยู่
หรือการหาที่อยู่อาศัยให้กับสัตว์เลี้ยงซักตัวที่กำลังต้องการที่อยู่อยู่
หรือการยื่นมือเข้าไปให้ความช่วยเหลือเพื่อนฝูง
หรือสมาชิกในครอบครัวบางคนที่กำลังต้องการความช่วยเหลืออยู่

หรือพวกคุณอาจจะเข้าไปโอบกอดใครบางคนที่กำลังร้องไห้อยู่
หรือการให้ใครยืมเครื่องมือเครื่องใช้อะไรบางอย่าง
หรือการช่วยขับรถไปส่งใครบางคน
หรือการปลอบโยนเด็กน้อยที่กำลังหวาดกลัว
หรือการใช้เวลาซัก 2-3 ชั่วโมงเพื่อช่วยดูแลใครซักคน
เพื่อให้ผู้นำครอบครัวของเขาได้มีเวลาพักบ้าง

หรือการพยายามดูและต้นไม้ในกระถางหรือในสวนอย่างดี
หรือการส่งยิ้มเพื่อเป็นการขอบคุณ
ให้กับแคชเชียร์ที่กำลังเหน็ดเหนื่อยสักคน

หรือการที่พวกคุณสวดมนต์-ภาวนา หรือแผ่เมตตาอธิษฐานจิต
ให้กับใครสักคน ที่กำลังพบกับความลำบากในชีวิตอยู่ เป็นต้น

และอย่าได้หมิ่นประมาทพลังอำนาจของการสวดมนต์ภาวนา
หรือแผ่เมตตาอธิษฐานจิต เพื่อความสูงส่งดีงามสูงสุด
ของใครซักคนหนึ่ง เป็นอันขาด

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เป็นเพียงส่วนน้อยนิด
ของการกระทำจากหัวใจเท่านั้นเอง
และการดำรงชีวิตอยู่ด้วยหัวใจแบบนี้
ก็จะไปก่อให้เกิดแสงสว่างขึ้น และแผ่ขยายออกไปกว้างไกล
และไกลเกินกว่าที่พวกคุณจะจินตนาการได้!

เพราะว่าทุกๆการกระทำที่เกิดจากความใจดีมีเมตตา,
เกิดจากความเอื้ออาทร, เกิดจากความเห็นอกเห็นใจ
และเกิดจากความเข้าใจแบบนี้
จะไปก่อให้เกิดแสงสว่างขึ้นภายในตัวของ “ผู้ให้” คนนั้น

แล้วจากนั้น แสงสว่างก็จะแผ่ออกมาจากตัวของผู้ให้
ไปสู่ “ผู้รับ” คนนั้น แล้วผู้รับ ก็จะดูดซับเอาแสงสว่างอันนั้นไว้
และก่อให้เกิดแสงสว่างเพิ่มมากขึ้นไปอีก
จากการรู้สึก “ขอบคุณ” ของผู้รับคนนั้น

แล้วจากนั้น แสงสว่างอันมากมายที่เพิ่มขึ้นมาใหม่นี้
ก็จะแผ่ขยายออกไปสู่คนอื่นๆ
ที่ทั้ง “ผู้ให้” และ “ผู้รับ” ไปมีสัมพันธ์เกี่ยวข้องด้วย

แล้วจากนั้นผู้คนทั้งหมดนี้ ก็จะไปส่งผลกระทบต่อคนอื่นๆ
ต่อๆไปอีกเป็นทอดๆ ในทำนองเดียวกัน
เท่าที่พวกเขาไปมีสัมพันธ์เกี่ยวข้องด้วย

เพราะฉะนั้นแล้ว ผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แบบเป็นทอดๆ อันเกิดขึ้นจากการทำคุณงามความดีแบบนี้
จึงไม่อาจประเมินค่าได้...

....

..................................

 

เหมือนอย่างที่หลวงพ่อเกษม อาจิณสีโลท่านมองเห็นเลย
ท่านเทศน์ไว้เสมอว่า ท่านมองเห็นแสงสว่างจากภายในตัวของผู้ให้
สว่างจ้าออกมาทุกๆครั้งที่ให้ทานอะไรใครออกไป

ท่านจึงสอนให้อุทิศแสงสว่างนี้ หรือ ที่ท่านเรียกว่า "บุญ" นี้
ออกไปต่อๆไปเรื่อยๆ ซึ่งท่านบอกว่า ท่านมองเห็นว่า
ผู้รับก็สามารถได้รับแสงสว่างนี้จริงๆ

แค่แชร์สิ่งที่รู้มา หรือได้ยินได้ฟังมาหนะนะครับ
ซึ่งหมายถึงเฉพาะประเด็นนี้เท่านั้น
ไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นอื่นใด ที่เป็นข่าวกันอยู่นั้นนะครับ

ดังนั้นไม่ว่าใครจะชอบหรือจะชังท่านด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม
ก็ขอได้โปรดอย่าเอามาโต้วาทีกันในนี้เลยนะครับ
เพราะว่า ผมแค่ชี้ให้เห็นถึงจุดเชื่อมโยงอะไรบางอย่าง
ของข้อความจากต่างมิติ กับสิ่งอื่นๆ เท่าที่ผมรู้มา เท่านั้นเอง

...........................................

 

เป็นกำลังใจให้นะครับ ดีแล้วล่ะที่ปฏิบัติ
เพราะการอ่าน คือ สัญญา การปฏิบัติจริง คือ ปัญญา
และนักปฏิบัติจำนวนไม่น้อยบนโลกเข้าใจผิดว่าสัญญาคือปัญญา ทั้งๆที่มันเป็นคนละตัวกัน

การปฏิบัติจริงก่อให้เกิดปัญญา ยังไงก็อย่าย่อท้อนะครับ

 

ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยส่งข้อความต่างๆออกมา ขอบคุณคุณชยุตสำหรับแง่คิดแห่งแสงสว่าง
ตอนนี้รู้สึกว่า มีหลายสิ่งเกิดขึ้นกับตัวเองค่ะ เหมือนเป็นการปลดปล่อยสิ่งค้างคา พลังงานเก่าๆ ออกไป
เมื่อสัปดาห์ก่อน ฝันติดต่อกันหลายๆคืน ล้วนเป็นสิ่งที่รบกวนใจในอดีต เป็นปมที่ไม่เคยเอ่ยถึง
ในฝัน เราร้องไห้เสียใจอย่างสุดหัวใจกับการกระทำของตัวเอง
รู้สึกอย่างจริงใจว่า เราต่างหากที่เป็นผู้ผิด ทั้งที่หากว่ากันตามตรรกะมิติที่ 3 เราไม่ใช่ผู้ทำผิด
แต่ลึกลงไปในจิตวิญญาณ เรารู้ตัวว่าผิด
เมื่อตื่นขึ้นมา เราเข้าใจถ่องแท้และขออภัยต่อตัวเองและผู้ถูกกระทำ
ความรู้สึกเหมือนปลดปล่อยทุกสิ่งออกไป

ตอนนั้นสงสัยว่าทำไมจู่ๆ จึงเกิดความฝันปลดปล่อยกรรมหรือปลดปล่อยอดีตออกมา
จึงมาตามหาคำตอบในนี้ แล้วก็ได้พบสัญญาณจากข้อความสื่อสาร
และหลังจากที่ปลดปล่อยอดีต เรามีความรู้สึกสงบ เรามองทุกอย่างแบบเข้าใจ
อารมณ์โกรธ หงุดหงิดตามธรรมดามนุษย์ปุถุชนยังมี แต่เราจับอารมณ์เร็วมากแล้วจางหายไป
เคล็ดลับอันนี้ได้จากคุณkindred แล้วการเนรมิตร(manifest) ของเราเร็วขึ้นมาก
แบบว่า นึกวันนี้ พรุ่งนี้มาเลย
จนเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า ตกลงนี่เราmanifest หรือมันถูกกำหนดเอาไว้แล้ว

ส่วนเรื่องอธิษฐานส่งบุญ รับรู้แบบจังๆเมื่อวานนี้ค่ะ เราไปเยี่ยมพ่อจองน้องคนหนึ่ง ป่วยเป็นมะเร็ง
เราเอาแคปซูลน้ำมันฟักข้าวที่เราผลิตไปให้ ก่อนไปเรานั่งอธิษฐานจิตหน้าพระบูชาที่บ้าน
นี่เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่รู้สึกว่าตัวเองตั้งใจจริงๆ ในการอธิษฐานจิตแก่ผู้อื่นที่เราไม่เคยรู้จักหรือสนิทสนมหรือรักใคร่

แต่ขณะนั้นรู้สึกเลยว่า เราอธิษฐานให้พ่อของน้องลูกค้าหายจากความเจ็บปวดและทรมาน
ตอนที่ไปพบ เราจับมือลุงท่านนี้ไว้แล้วพูดจากใจว่า ขอให้ท่านหายจากความทุกข์ทรมาน เราเห็นแสงสว่างวาบเลยตอนนั้น พอคุณชยุตพูดแบบนี้เข้าใจเลยค่ะ

เลยนำมาเล่าสู่กันฟังค่ะ