กรรมกำหนดทุกจริงแต่เราสามารถเปลี่ยนแปลงได้

ดิฉันแสวงหา ผู้มีญาณมาแล้วหลายคน ส่วนใหญ่ได้คำตอบว่าเขายังอยู่ด้วย แต่ดิฉันตองการคำตอบที่แน่ชัด ถึงสภาวะความเป็นอยู่ ผีนั้นทำอะไรในวันนึงๆ เบื่อใหม่ หรือถ้ายังอยู่กะดิฉัน ในฐานะผี เขาทำอะไรในวันนึๆ ต้องนอน ต้องกินไหม และภูพภูมินั้น อยู่เพื่ออะไร.....อะไรพวกนี้ดิฉันยังไม่ได้รับคำตอบพวกนั้น แม้แต่กับ พระอาจารย์ ท่านนึงที่ดิฉันค่อนข้าง ศรัทธา ท่านเคยทำให้ดิฉันประหลาดใจตอนที่ดิฉันเอารูปเขาตอนยังไม่ตาย ให้ท่านดู ท่าน ก็พูดขึ้นมาเองเลยว่า เขาเป็นอะไร จะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน แถมยังรู้ประวัติในอดีตอีกด้วย ว่า เขาเคยเจออะไรมาบ้าง แม้แต่ดิฉัน เองก็ไม่รู้มาก่อน พอดิฉันกลับไปถามเขาก็เป็นจริงตามที่พระท่านพูดไว้ และพระอาจารย์องค์นี้ยังรู้เกี่ยวกับเรื่องที่ดิฉัน กับพี่สาวนั้นไม่ถูกกันอีกด้วย รู้แม้กระทั้งว่าเราคิดอะไร และสามารถบอกรายละเอียดบ้านที่อยู่ว่า มีสระน้ำใส่บัวมีปลา มี อะไรบ้าง บ้านเป็นแบบไหน

แต่พอดิฉันถามถึงว่าเขาตายแล้วเป็นยังไงบ้าง อยู่ที่ไหนพระท่านกลับไม่ยอมบอก แต่บอกครั้งนึงตอนแรกว่ายังอยู่ที่บ้านของดิฉัน แต่ให้แม่ดิฉันไปถามรอบหลัง ท่านก็บอกแต่ว่า เขาย้ายภพภูมิแล้ว อย่าไป อยากรู้หรือ ห่วงอีกเลย ดิฉันไม่เข้าใจทำไมรอบนี้พระท่านไม่ยอมบอกก็ไม่รู้คะ



แต่ดิฉันก็ไปหาร่างทรงฝรั่งที่ทักเรื่องเขาเอง ปรากฏพอวันนัด ร่างทรงก็เกิดอุบัติเหตุ แลติดต่อกับมาทีหลังนานมากว่า ไม่รับดูแล้ว แรงอะไรทำนองนั้น ดิฉันยังรู้จักอีกคน ที่เก่งมากชนิดว่า บอกชื่อ เราได้ แต่คนนี้เอาแพงมากคะ และอยู่อีกประเทศหนึ่ง และเธออกทีวีบ่อยๆ แต่ก็เหมือนคนอื่นๆ รู้อดีตคนตาย แต่ไม่พูดว่าตายแล้วไปอยู่ไหน

 

ไม่มีใครสามารถหยิบยื่นความทุกข์ให้ใครได้..ถ้าคนๆนั้นไม่ยอมเป็นทุกข์..คุณ Duchess คงต้องปล่อยให้กิเลสของความอยากรู้ครอบงำไปอีกซักพัก จนกว่าที่ท่านจะวางใจได้เองหมดความสงสัยแล้ว เมื่อนั้นท่านคงเบากายเบาใจ

ภิกษุผู้มีศีลสมบูรณ์แล้ว ..ผู้มีศีลต้องไม่เป็นทูตนำข่าว (มัชฌิมศีล) ส่วนในหมวดมหาศีล...ผู้มีศีลไม่เป็นหมอทายโชคลาง..ไม่ทายสิ่งของ..ไม่เป็นหมอโหราศาสตร์..ไม่เป็นหมอทำนายดินฟ้าอากาศ..ไม่เป็นหมอดูฤกษ์ยาม..ไม่เป็นหมอผีและหมอยา...เพราะศรัทธาก่อให้เกิดกิเลสแห่งความหวัง ความคิด ความอยากรู้เช่นนี้เสมอๆ ไม่มีใครมีสิทธิ์ที่จะบอกเล่าถึงความลับของสวรรค์หรือกฏของธรรมชาติได้หรอกนะคะ ..เพราะกฏก็คือกฏ^^

 

ดิฉันไม่ได้อยากรู้อยากเห็นคะ แต่จำเป็นต้องทำเพราะดิฉันเป็นห่วงเขา และสงสารเขานะคะ เขาเป็นคนที่ดีมาก ตั้งแต่เกิดมา แม้แต่คุณแม่ของดิฉันแท้ๆ ที่นับถือพุทธและปฏิบัติดี ความมีพรหมวิหารสี่ ยังน้อยกว่า เพื่อนคนนี้ของดิฉัน
ดิฉันเคยเล่าไปแล้วว่าเขามีความดีเกินมุษย์ธรรมดาขนาดไหน เขาไม่เคยเอาความผิดให้คนอื่น ไม่ประจารณ์แม้แต่กับคนที่ไม่ดีกับเขา

ดิฉันไม่เคยเจอมนุษย์ที่เป็นคนดีขนาดนี้มาก่อนเลย ขนาดเขามาเที่ยวเมืองไทย ไปที่สวยสนุก และมีคนมาเชียร์ ให้เราซื้อตั๋วเล่นเกมส์ สาวน้อยตกน้ำ เขาเห็นเข้ายังพูดว่า "ทำไมเธออยากจะไปเล่นหรอเกมส์แบบนั้น ปาคนให้ตกน้ำ มันสนุก ตรงไหน ทำไมถึงมีเกมส์ที่ดูถูกเหยียดหยามคนอืนให้น่าอับอายแบบนี้"


ใครมาขอยืมเงิน มาขออะไร อาหารเพิ่งซื้อมาก็ให้คนอื่นไปเลยโดยไม่คิดมาก มาขอให้ช่วยเหลือ อะไรก็ช่วยหมดทุกคน และมีศีลธรรม สัจจะ มากกว่าผู้ชายทั่วไป ชนิดเทียบกันไม่ได้ สัญญาอะไรก็ทำตามคำพูด, ไม่เคยโกหกและก็โกหกไม่เป็น แต่กลับมีอายุสั้น ถ้าดิฉันวางอุเบกขา ดิฉันก็คงจะเป็นคนที่เลวมาก หรือที่ฝรั่งเขาเรียกว่าพวก ignorant

 

กรรรมเป็นตัวกำหนดหลายอย่างในชีวิตจริง แต่มันไม่ได้กำหนดให้เราสุข หรือทุกข์หรอก เราเป็นคนกำหนดเองว่าจะสุขหรือทุกข์ ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถเลือกให้ชีวิตเป็นไปตามแบบที่เราต้องการทุกอย่าง แต่เราเป็นคนเลือกเองว่าเราจะให้ความสำคัญกับการได้สิ่งที่เราต้องการ หรือให้ความสำคัญกับการมีความสุขมากกว่ากัน ควรส่วนมากให้ความสำคัญกัับการได้สิ่งที่ตัวเองต้องการอย่างมาก แต่ให้ความสำคัญกับตัวความสุขน้อยมากๆ สำหรับคนส่วนมากประเด็นสำคัญเหมือนจะอยู่ที่ว่า ได้หรือไม่ได้ มากกว่าสุขหรือทุกข์ เพราะถ้าเราให้ความสำคัญกับความสุขจริงมันก็ง่ายมากที่จะมีความสุข เพราะความสุขเป็นของสากล สุขของเราก็สุขเดียวกับของคนอื่น มันไม่มีความสุขของคนรวย ไม่มีความสุขของคนจน ไม่มีความสุขของคนฉลาด ไม่มีความสุขของคนโง่ ไม่มีสุขของคนโชคดี ไม่มีสุขของคนโชคร้าย ไม่มีสุขของเรา ไม่มีสุขของเขา มันเป็นความสุขเดียวกันหมด ทำไมคนอื่นเขาไม่มีเหมือนเราทำไมเขามีความสุขได้ ทำไมกับบางสิ่งเราได้มาก็รู้สึกเฉยๆ แต่กับบางคนกลับมีความสุขมาก ของสิ่งเดียวกัน ความสุขเดียวกัน แต่เพราะแต่ละคนตั้งเงื่อนไขต่างกันออกไป ตั้งเงื่อนไขว่าต้องได้สิ่งนี้ ต้องได้เท่านั้นเท่านี้เราถึงจะมีความสุข ถ้าไม่ได้สิ่งนี้ไม่ได้เท่านี้เราจะไม่มีความสุข เป็นเพราะตัวเราเองเป็นคนสร้างเงื่อนไขของความสุขให้กับตัวเราเอง

 

จริงเหรอคะ

จริงเหรอคะ

 

เปลี่ยนแปลงได้อย่างแน่นอนครับ แต่ต้องรู้สองข้อ
1.ต้องทำกรรมที่ดีมากๆถึงเปลี่ยนได้
2.ต้องรู้เหตุการ์ล่วงหน้าที่จะเกิดขึ้นก่อนถึงเปลี่ยนได้ครับ
อนุโมธนาสาธุแก่ทุกๆท่านครับ