รบกวนถามเรื่องการนั่งสมาธิครับ (นั่งสมาธิจนรู้สึกว่าไม่มีร่างกาย)

ขอรบกวนถามท่านผู้รู้ว่าถ้านั่งสมาธิจนรู้สึกว่าไม่มีร่างกายอย่างนี้คืออะไรครับ

 

ความหมายตามนั้นเลยครับ

คือ มีตัวตนของเราอยู่ แต่ตัวตนของเรานั้น ไม่ใช่ร่างกายมนุษย์
สภาพความเป็นตัวของเรานั้น ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับร่างกายมนุษย์อีกต่อไปแล้ว ไม่มีรับรู้ความรู้สึกจากร่างกายมนุษย์อีกต่อไปแล้ว จึงรู้สึกเหมือนร่างกายหายไปครับ

 

ถ้าพอทราบคำตอบแล้ว.ไม่ว่าจะจากทางแหล่งข้อมูล
ใดก็ตาม.ก็ไม่ต้องเก็บมาคิดนะครับ.ปฏิบัติต่อไป
เรื่อยๆครับ.มีอะไรรออยู่ข้างหน้าอยู่ครับ..สู้สู้ต่อไปครับ​

 

อารมณ์ฌาน เป็นอารมณ์ที่ยากจะอธิบาย
ไม่รู้จะเปรียบเปรยถูกหรือเปล่านะครับ
มันเหมือน โลกทั้งโลกไม่มีเลยทีเดียวครับ

 

เป็นระดับฌานที่4 ต่อเนื่องฌานที่5 ครับ ตรงนี้มีหลายท่านมาติดเนื่องจากจะปฏิบัติตามแนวเดิมต่อไปได้ยากหรืออาจจะไม่ได้เพราะไม่มีร่างกายไม่มีลมหายใจก็ไม่รู้ว่าจะกำหนดอย่างไร ไม่รู้จะดูอะไร
ความจริงมันก็มีอยู่คือความรู้สึกว่าเป็นเราปรากฏอยู่ตรงใบหน้าหรือที่ศรีษะ หากต้องการให้รู้ยิ่งต่อไปก็ให้ดูตรงนี้ ดูเฉยๆไม่ต้องกำหนดอะไร ตรงนี้จะเห็นความคิดชัดเจนมาก ต่อเนื่องเป็นสายอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
การดูตรงนี้ ก็ดูอยู่ 2 ลักษณะคือดูความรู้สึกหรือดูความคิดครับ ต่อไปความคิดจะเปลี่ยนรูปเป็นนิมิตร(เหมือนกับความฝันแต่ชัดเจนกว่า) หากเจอรูปนิมิตรก็ดูรูปนิมิตร รูปนิมิตรหายก็ดูความรู้สึกหรือความคิดต่อไป
เจริญในธรรมครับ

 

คือ เพียงความรู้สึกว่ามันหาย แต่จริงๆมันไ่ม่หาย ลืมตาดูได้ มันจะทำให้ผู้ปฏิบัติฟุ้งซ่าน คิดพล่านไป

วิธีปฏิบัติต่อสภาวะที่รู้สึกว่าร่างกายหาย อันดับแรกค่อยๆลืมตาพิสูจน์ได้ จริงๆก็ยังนั่นที่เดิม รู้แล้วค่อยๆหลับตาปฏิบัติแบบเก่า รู้สึกว่าร่างกายหายอีก ก็จับอารมณ์ใดก็ได้ ที่รู้สึกเด่นชัดในตอนนั้น เกาะอารมณ์นั้นภาวนาไป เมื่อร่างกายคืนแล้วก็ว่าไปตามเดิม

 

น่าจะเป็นฌาน 2 ละเอียดครับ วิตก วิจารย์หายไป ก็คือคำภาวนาหาย เพิกลมหายใจ เสียงยังได้ยินเหมือนอยู่ไกลๆ
เพราะถ้าฌาน 3 จะกลับเห็นว่ากายเราเป็นกล่อง จิตเราอยู่ในกล่อง ไม่รับเสียงแล้วครับฌานนี้้ แต่เห็นกายกับจิต แยกกันเด็ดขาดว่านี่กาย นี่จิต
พอฌาน 4 จิตจะแน่วแน่ กล่องร่างกายนี้จะกลายเป็นแค่โครงร่างบางๆ ไม่มีผลอะไร แต่รับรู้ว่ามีอยู่ แต่ไม่สนใจ มาตอนนี้ลมหายใจดับละครับ เลิกรับรู้ภายนอกทุกอย่าง รู้แต่ว่าจิตนิ่งเฉยๆ

การทำสมาธิ ให้ทำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพอใจ แล้วก็พอ ถ้ามากไป จะแก้ยาก อารมย์เยอะครับ
หากเวลาจะได้มันได้เอง แล้วก็จำเอาอาการ อารมย์ ไว้ แล้ววันต่อๆไปก็ ทำใหม่ ทำอย่างเดิม