ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ผู้ท้าชิงก็รีบไปฝึกวิทยายุทธเพิ่มกำลังภายใน
แล้วค่อยมาท้าชิงใหม่ วันนั้นอาจชนะก็ได้
ไม่ว่าชัยชนะจะเป็นของใคร เพชรแท้ย่อมไม่แพ้ไฟ

 

เอ..หรือว่านี่คือสาเหตุ ที่ช่่วงนี้ เลือดบ้ากระฉูดจังแฮะ
เล่นบทซาดิสม์ ในกระทู้ของเราซะเลือดกระฉูดเลย 555

โหลดรอม ที่เก็บฟังชั่น "แค้นข้ามชาติ" มาลองใช้ดูอีกต่างหาก
ปล่อยของกันแบบไม่ต้องยั้งมือกันเลย
แต่ก็คงมีประโยชน์บ้างล่ะมั้ง นะ
โดยเฉพาะเจ้าของ "รอม" เวอร์ชั่นนั้น 555

แต่ก็สร้างความงุนงงสงสัย ให้กับผู้คนไม่น้อยล่ะมั้ง นะ
ทั้งห้องมึนตึ้บ ทำหน้าไม่เข้าใจ ทำให้ข้าเข้าใจ ว่าทั้งห้องมึนตึ้บ 555


วิญญานกระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง
.

 

ขอบคุณครับ

 

THE HILARION’S WEEKLY MESSAGE 2013
September 21-28, 2013
วันที่โพสท์ 24/09/2013
ผู้แปล: อจิตตะ


ในขณะนี้ บรรยากาศรอบ ๆ ตัวคุณ มันมีแต่ความคาดหวัง
ว่าจะมีบางสิ่งบางอย่างที่ดีกว่าที่เป็นอยู่มาปรากฏต่อหน้า
เพื่อตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตัวคุณ
เราได้บอกให้ดูภายในตัวคุณเองว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่
ซึ่งมีผลสะท้อนก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในจิตสำนึกของผู้คนด้วย
แต่ละคนได้รับการตรวจสอบและเปิดเผยถึงสัจจะกันมาบ้างแล้วในบางช่วงเวลา
และนั่นเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่พวกคุณต้องคอยสังเกตุ
และทำความเข้าใจกับขบวนการความคิด
ในด้านความร้ายกาจที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ภายในจิตของมวลมนุษยชาติ
ซึ่งเบื้องหลังทั้งหมดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนดาวเคราะห์ดวงนี้
ล้วนมาจากเหตุของพลังงานใหม่ที่กำลังรวบรวมกำลังทุกวิถีทาง
ที่จะขยับขยายย้ายทุกสิ่งทุกอย่าง
เพื่อให้มนุษย์โลกได้เริ่มต้นค้นพบความจริงกับโลกใบจิ๋วนี้ซะที...

ผู้ที่ “ตื่นรู้” จะเริ่มซึมซับถึงความสำคัญของความตั้งมั่น
และเลือกที่จะยืนหยัดอยู่ในความถูกต้องดีงาม
นี่คือบางสิ่งบางอย่างที่ภายในจิตวิญญาณแต่ละดวงรู้ได้โดยธรรมชาติ
ทุกความต้องการจะได้รับการตอบรับก็ต่อเมื่อได้มีการเรียกร้อง
ให้ที่เป็นอยู่นี้มันดีขึ้นกว่าเดิมก่อนที่แต่ละคนจะจัดการกับมัน
ที่ไหนที่มันคดก็จะตรง
ที่ที่มันท้าทายมากนักก็จะเจอแบบยิ่งกว่ามายากล
นี่เป็นความจำเป็นที่แต่ละคนควรปรับทางเดินของแสง(Light)
โดยการหายใจลึก ๆ บ่อยครั้งในแต่ละวัน… ถ้าเป็นไปได้
ก็จงยืนยันความตั้งใจนี้ด้วยการพูดออกมาดังๆ อย่างผู้ยิ่งใหญ่ว่า
“ฉันจะเดินไปตามแสงนี้ต่อไป”(I will to continue to walk in the light)
และเป็นไปได้ที่การรวมตัวของแสงที่มันอยู่รอบ ๆ ตัวคุณตลอดเวลา
จะได้นำคุณสู่ความสงบนิ่งและปลอดภัย

โอบกอดแสงนี้เอาไว้ คุณคุณที่รักทั้งหลาย
ไม่ว่าคุณจะได้รับข้อมูลข่าวสารจากสื่อใด ๆ ที่มันทำให้เกิดอาการโศกสลด
ก็จงเตือนตัวเองว่า มันเป็นเพียงภาพลวงตา
อย่าได้ไปปรุงแต่งเรื่องราวเหล่านี้เข้าไปสู่จิตสำนึก
จงให้จิตมุ่งอยู่ที่แสงที่คุณโอบกอดไว้ก็พอ
เพราะแสงนี้มันมีกำลังเหลือหลายและฉลาดเกินกว่าที่คุณจะจินตนาการได้
และนี่คือเวลาที่คุณจะปรากฏตัวต่อโลกใบนี้
คุณไม่ต้องเที่ยวบอกหรือพิสูจน์ให้ใครรู้หรอกว่าคุณเป็นใคร
แค่คุณรู้ตัวดีกว่าคุณเป็นใครก็เพียงพอแล้ว
และจงมุ่งมั่นที่จะนำสัจจะเข้าสู่อาณาเขตของจิตใจคุณ
จิตของมนุษย์มันมีความสามารถที่จะขยับขยายให้มันดีได้
และนี่คืองานชิ้นใหม่ของคุณในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

จงเชื่อในความสามารถของตนเองในการที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลง
ให้เกิดขึ้นกับโลกใบนี้ด้วยแค่แสงธรรมดาๆ ที่คุณมีอยู่เถอะนะ
และจงตั้งมั่นในการใช้จิตที่สงบนิ่งและเมตตาของคุณในการเยียวยาผู้คน
จงจำไว้ว่า ในขณะที่คุณได้ “รู้” มันเป็นอย่างไร
กับการผสมผสานของ “พลังงาน”ที่มีประสิทธิภาพมันเป็นอย่างไร
และนี่คือสิ่งที่คุณต้องใช้ความอดทนในการให้ความช่วยเหลือและเป็นกำลังใจ
ให้แก่ญาติพี่น้องและคนที่คุณรักที่กำลังประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้
พวกเขาต้องการความสงบนิ่งและความมั่นใจของคุณ
พวกเขาต้องการรู้กระบวนการที่จะเป็น “หนึ่ง” (จิตเป็นหนึ่ง=ผู้แปล)
ที่ทุกคนในโลกนี้ต้องผ่านและที่พวกเขาต้องทำให้มันผ่านให้ได้ด้วย...

นี่คือสิ่งที่คุณได้รับการฝึกให้มาต่อสู้กับการล่อลวงและต้องเอาชนะ
กับ “ความเป็นคู่”ของดาวเคราะห์ดวงนี้ให้ได้...ซึ่งคุณก็ทำได้ดีทีเดียว
และก็ถึงคราวที่คุณจะต้องนำ “ปัญญา” และ “ประสบการณ์”
มาทำให้ความเป็นอยู่มีความแตกต่าง
และเกิดการเปลี่ยนแปลงให้กับคนรอบๆตัวคุณด้วยแสงสว่างในตัวคุณ
พวกเขาจะรู้ได้ และจะตามหาคุณเอง
จงพร้อมที่จะให้เวลาและเดินเข้าไปสู่อาณาจักรพรแห่งสวรรค์ที่คุณได้ร้องขอ
จงฟังเสียงตัวเองให้มากขึ้นและทำตามแรงดลใจที่เกิดขึ้น
จงเชื่อว่าเส้นทางแห่งการเรียนรู้ และ “ปัญญา”
ที่มันได้หลบซ่อนอยู่ในส่วนลึกๆในความเป็นคุณนั้น
แท้จริงมันเพียงเพื่อให้คุณได้มีโอกาสส่องแสงเจิดจ้า
ออกมาให้ผู้คนได้เห็นในครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น...

Until next week….

I AM Hilarion

 

อ่านแล้วให้ความรู้สึกที่ดีมากๆครับบ.

 

เมื่อเย็นประมาณ 17.00 น. ใครได้ดูท้องฟ้าบ้างครับ ผมเห็นเป็นแสงสีรุ้งเค้าเรียกว่าปรากฏการณ์อะไร ผมเห็นบ่อยนะถ่ายรูปไว้ด้วยแต่อัพไม่ได้ไม่รู้ทำไมเว็บฝากรูปก็อัพไม่ได้จู่ๆ เน็ตมาช้าซะงั้นเดี๋ยวตอนเช้าผมอัพให้ดูครับ รูปละ 3.6 เมกเองทำไมอัพไม่ได้

 

ตามอ่านกระทู้คุณชยุตค่ะ
ไม่ได้ตามมาซักเดือน
รู้สึกกว่าต้องตามอ่านเยอะเลย
หลังๆนี้ดูการโต้ตอบมีอะไรๆ เปลี่ยนๆเแปลกๆ (รู้สึก)
วันหลังจะต้องเข้ามาอ่านค่ะ

 

บทนี้ถูกเร่งให้เสร็จภายในเที่ยงคืน...จึงรีบส่งไปก่อน
เช้านี้จึงต้องมาอ่านทวนใหม่เพื่อตบแต่งข้อความ
แต่อ่านแล้วกลับรู้สึกเหมือนมีใครบางคนกำลังอยู่ในสภาพที่ HILARION’S ว่าไว้...
ก็ให้เข้มแข็งไว้นะ...

อจิตตะ...

 

โถ่เอ๋ย..นึกว่ารอบนี้จะรอดแล้วซะอีกนะเนี่ย
เพราะอุตส่าประคองตัวเองมาได้เป็นอย่างดี ตั้งหลายวัน
นอนแต่หัวค่ำ ดื่มน้ำมากๆ ออกกำลังสม่ำเสมอ
และอื่นๆสารพัด..แต่ก็ไม่รอดจนได้!!

เพราะว่าจู่ๆเมื่อคืนนี้ หลังจากนั่งสมาธิเสร็จ
ก็เข้านอน ตื่นมาตอนเช้า ก็มีอาการเป็นหวัดเลย
แถมมีระบบขับถ่ายผิดปกตินิดหน่อย
นี่ยังหาสาเหตไม่ได้เลย ว่าเพราะอะไร
เพราะว่าคอยระวังเรื่องกินมากอยู่แล้วช่วงนี้


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


...............................................

 

ขออนุญาตแจมด้วยคนค่ะ ปกติจะเป็นคนที่ร่างกายแข็งแรงมากไม่ค่อยเจ็บไม่ค่อยป่วยกะใครเค้าง่ายๆนอกจากปวดหัวไมเกรนเท่านั้นเอง ... แต่หลังจากไปปฏิบัติธรรมวันที่ 21-23 ที่ผ่านมา กลับมาวันที่ 23ตอนเย็นปวดหัวข้างเดียวมาก แล้วก็เจ็บคอ ก็ทานยาแล้วก็นอน พอตื่นขึ้นมาก็เริ่มไอ+เจ็บคอ +มีไข้(อันนี้คิดเองเพราะหน้าร้อนมาก)+ด้วยมีน้ำมูก ไม่รู้จะเกี่ยวกันรึเปล่า เพื่อนก็บอกสงสัยรับพลังงานเยอะแล้วร่างกายปรับสภาพไม่ไหว ปกติรับเยอะกว่านี้ยังไม่เป็นไรเลยค่ะ แต่ครั้งนี้ไม่ไหวจริงๆค่ะ ตอนเย็นนี้สงสัยต้องไปโรงพยาบาลแล้วค่ะ เพราะอัดยาไปเยอะแล้ว.......รบกวนถามคุณชยุตมันจะเกี่ยวกันมั๊ยค่ะ

 

ไม่อาจฟันธงได้ครับ
แต่ถ้าถามความคิดเห็นส่วนตัวของผม
ผมก็จะบอกว่าน่าจะเกี่ยวนะครับ

................................

 

ต่างประเทศ - ตะลึง! แผ่นดินไหวในปากีฯ เกาะใหม่โผล่กลางทะเลอารเบียน

มีเกาะโผล่จากทะเล อิอิอิ

 

เป็นสัญญาณหรือเปล่า พี่แอต.......จะกลับมา

 

ดร.ก้องภพ 3 ปีมาแล้ว ผมว่าสอดคล้องกับปัจจุบันนะ
เตรียมรับมหันตภัยโลกปี 2556 - YouTube

 

โดยส่วนตัวผม..ผลเลิกเชื่อเรื่องภัยพิบัติครั้งใหญ่แล้วหละครับ
เพราะว่าตอนนี้ผมมอง และเชื่อ ในภาพรวมภาพใหญ่แทน
คือภาพรวมของกระบวนการ Ascension ที่กำลังเกิดขึ้นกับโลก
และกับมนุษย์โลกอยู่ในขณะนี้

ซึ่งเท่าที่พวกเขาบอกมา ภายในภาพรวมภาพใหญ่อันนี้
มันจะมีกระบวนการย่อยๆแทรกอยู่ในนั้นด้วยหลายกระบวนการ
เช่น กระบวนการชำระล้างในทุกระดับ
นับตั้งแต่ระดับ DNA เป็นต้นมา
จนถึงระดับโลก และ ระดับสุริยจักรวาล
อันนี้ไม่พูดถึงที่ใหญ่กว่านั้นนะครับ

นอกจากนี้ยังมีกระบวนการดาวน์โลหด, การผสานรวม
และบูรณาการเอาจิตวิญญาณของพวกเราเองเข้ามาอีกด้วย
ซึ่งก็จะนำไปสู่กระบวนการยกระดับขึ้นของจิตสำนึกของพวกเราต่อไป

ดังนั้น กระบวนการเปลี่ยนแปลงทั้งหลาย
ในทุกระดับ ทุกประเภท ทุกที่ ทุกเวลา และทุกหนทุกแห่งในโลกใบนี้
จึงกำลังเป็นไปเพราะสาเหตุนี้
และ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนี้ทั้งนั้น

ดังนั้น ถ้าภาพรวมมันเป็นแบบนี้จริง ตามที่พวกเขาบอกมา
ซึ่งโดยส่วนตัวผม ผมก็เชื่อว่าจริง มันก็ไม่น่าจะมีอะไร
ที่จะต้องเป็นห่วง หรือ วิตกกังวลจนเกินเหตุ
ว่าจะเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ขึ้น จนโลกต้องวิบัติ
หรือจนมนุษย์โลกจะต้องถูกล้างเผ่าพันธุ์ไป
หรืออะไรทำนองนั้น ที่ใหญ่เกินความจำเป็น

เพราะว่าไกอา หรือ โลก ไม่ได้กำลังแก้แค้นเรา หรือ "เอาคืน"
อย่างที่ใครบางคนกำลังคิดและเข้าใจอยู่
เพราะว่าโลก มีแต่ความรักและเมตตาให้กับเราเสมอมา
เพราะว่าโลก ก็คือแม่ของเรานั่นเอง
ดังนั้น มีหรือที่แม่จะทำร้ายลูกๆได้

แต่สิ่งที่เราเรียกว่า ภัยธรรมชาติต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้นั้น
มันเป็นส่วนหนึ่งของการชำระสะสางพลังงานด้านลบ
ออกไปจากโลกต่างหาก ซึ่งมันมีความจำเป็นจะต้องเกิดขึ้น
เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว โลกก็ไม่อาจที่จะเลื่อนระดับขึ้นไปได้
ถ้าไม่สลัดทิ้งพลังงานด้านมืด หรือ ด้านลบ ที่สะสมอยู่ออกไปเสียก่อน

และพวกเขาก็บอกเสมอว่า โลกได้เลือกวิธีการ และจุดเกิดเหตุ
ที่จำเป็นจริงๆ ที่จะมีคนตายน้อยที่สุดจริงๆเสมอมา

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น บางทีมันก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีคนตายบ้าง
แต่พวกเขาก็บอกว่า ผู้ที่ตายในแต่ละสถานการณ์นั้น
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพันธะสัญญาทางจิตวิญญาณของพวกเขาเอง
ที่ได้เลือกเอาไว้แล้วเช่นนั้น และส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่า
ชาวโลกบางคน ต้องเผชิญกับปัญหาอุปสรรคในชีวิต
ที่หนักหน่วงเกินกว่าที่พวกเขาตั้งใจเลือกมามี ตั้งแต่ก่อนถือกำเนิด
คือมันหนักหน่วงมากจนเกินไป จนพวกเขาได้ร้องขอไปในระดับจิตวิญญาณ
ว่าขอยกเลิกพันธะสัญญาในครั้งนี้เสีย คือเลือกที่จะขอจบเกมเสีย
ไปก่อนเวลาอันสมควร อะไรแบบนั้น

สรุปว่า ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นด้วยความบังเอิญหนะครับ
เพียงแต่ว่า ด้วยความสามารถในการรับรู้ของมนุษย์เรา
ซึ่งมีระดับความตระหนักรู้อยู่แค่ในขอบเขตของมิติที่ 3 นี้
ไม่สามารถที่จะรับรู้เหตุผล ที่อยู่ในเบื้องลึกและเบื้องหลังของมันได้เท่านั้นเอง

อันนี้ก็..ตามที่พวกเขาบอกมาหนะนะครับ
ดังนั้น โปรดใช้วิจารณญาณเอาเองนะครับ

...............................................

 

อยากให้พี่ชยุตแนะนำหน่อยครับ ผมเล่นฟุตบอลหนะครับ แล้วเวลาเล่นผมดึงฝีมือผมออกมาได้ไม่เต็มที่ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันทำไม เวลาผมแข่งผมจะไม่เป็นตัวเองเลยแต่เวลาเตะเล่นๆผมจะเป็นตัวเองที่สุด เล่นได้ตามที่ผมต้องการหมด ช่วยแนะนำทีครับ

 

เวลาแข่ง อะไรที่อยู่ในหัว เหมือนตอนเล่น มั้ยล่ะ ^^

 

มันคิดไรไม่ค่อยออก ตัดสินใจไม่ค่อยดี ไม่ค่อยกล้าเสี่ยง แต่ตอนเล่น มันทำได้หมด

 

สิ่งใดที่ทำแล้ว ไม่มีผลประโยชน์ เช่น แพ้ ชนะ ได้หรือเสีย จะทำได้ดีกว่า
เพราะไม่มี "ความกลัว"...
หายใจลึก ๆ แล้วพ่นออกทางปาก...ให้จิตผ่อนคลาย สบาย ๆ...ในขณะเล่นจริง
แล้วคิดซะว่าเล่น ๆ ......

การขจัด "ความกลัว" ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ทำไม่ได้...
(เราว่า...คุณทำได้นะ)

 

จริงดังว่าครับ..และถ้าจะ apply ข้อมูลจากต่างมิติไปใช้ในเรื่องนี้หละก็
คุณก็จะต้อง เปลี่ยนคลื่นความถี่ของสมองของคุณในขณะที่เล่น
จากคลื่นระดับ Beta ไปเป็นระดับ Alpha ให้ได้มากที่สุดหนะครับ
แล้วเมื่อนั้น ความเครียด ความกลัว ความวิตกกังวล มันก็จะลดลง
หรือถ้าชำนาญแล้ว มันก็อาจจะหายไปเลยก็ได้นะครับ

เพราะว่าคลื่นสมองระดับ alpha จะเกิดขึ้นได้ในขณะที่เราผ่อนคลาย
หรือกำลังเพลิดเพลินอยู่กับกิจกรรมที่เรารัก/ชอบ และสร้างสรรค์

ดังนั้น คำตอบมันชัดอยู่แล้วว่า เวลาที่คุณทำเล่นๆหนะ
ตอนนั้นหนะคุณกำลังสนุก - เพลิดเพลิน ไม่ได้มีความเครียดอะไร
เพราะไม่ได้หวังเรื่องแพ้-ชนะอะไรมาก เหมือนตอนแข่งจริง
ดังนั้น ศักยภาพที่คุณมีอยู่ มันจึงออกมาได้เต็มที่มากกว่ายังไงหละครับ

ส่วนตอนที่คุณแข่งจริงนั้น ใครๆก็คงจะเดาออกว่า มันเครียด
มันเต็มไปด้วยความคาดหวังของทั้งตัวเราเอง และของคนอื่นๆด้วย
โดยเฉพาะถ้าคุณมี sense เรื่องการรับรู้อารมณ์ความรู้สึกของคนอื่นได้
(มีแต่ไม่รู้ตัวเองว่ามีหนะนะครับ) คุณก็จะได้รับอารมณ์ความรู้สึกเหล่านั้นมา
และคิด หรือ เข้าใจผิดว่าเป็นของตัวคุณเอง ดังนั้น คุณก็เลยเครียดไปใหญ่เลย

ดังนั้น ถ้าจะให้ผมแนะนำหละก็ ผมก็จะแนะนำเรื่องการฝึกสมาธิ
เพื่อเปลี่ยนระดับคลื่นสมองของคุณเองนี่แหละครับ

และถ้าคุณทำได้ในสมาธิแล้ว ซึ่งจะเป็นสมาธิแบบไหนก็ได้
จะนั่ง เดิน ยืน นอน ก็ได้ทั้งนั้น จะฟังดนตรีช่วยกระตุ้นด้วย ยิ่งดีใหญ่
คุณก็จะเอามา "ฝึก" ปรับใช้กับตอนที่คุณไม่ได้นั่งสมาธิต่อไป
แล้วถ้าคุณสามารถฝึกทรงอารมณ์ หรือ คลื่นสมองของตัวเอง
ให้อยู่ในระดับแอลฟ่า หรือ ก็คือ ให้อยู่ในอารมณ์ผ่อนคลายอยู่ตลอดเวลา
หรืออย่างน้อยก็ไม่เครียด หรือ เครียดน้อยที่สุด-สั้นที่สุด ได้หละก็

ผมว่า..นั่นหละคือคำตอบของคุณแล้วหละ..

อันนี้พูดในแง่ของการลดความเครียด
เพื่อดึงศักยภาพที่แท้จริงของตัวเองออกมาหนะนะครับ
(อันที่จริงต้องพูดว่า เพื่อไม่ให้ความเครียดมาบดบัง
ศักยภาพที่แท้จริงของตัวเราเองได้ต่างหากหละครับ)

อันนี้ไม่ได้พูดถึงการฝึกเรื่องทักษะ หรือ เทคนิกทางด้านฟุตบอล
เพราะอันนั้นหนะ ละไว้ในฐานที่เข้าใจนะครับ

แต่ก็อย่าคาดหวังว่า เราจะสามารถฝึกฝนได้ภายในระยะเวลาสั้นๆนะครับ
ต่างมิติเขาถึงพูดไว้ในข้อความชุดหนึ่งไงหละครับว่า
จงอดทนกับตัวเอง จงเข้าใจตัวเองว่า กำลังอยู่ในข้อจำกัดของมิติที่ 3 อยู่
ดังนั้น เราจึงมีข้อบกพร่องตรงโน้น ตรงนี้ เป็นธรรมดา

ดังนั้น จงอดทนกับตัวเอง จงเข้าใจตัวเราเอง
และจงยอมรับ ให้อภัย และ รักตัวเอง อย่างที่กำลังเป็นอยู่นี่แหละ
อย่างไม่มีเงื่อนไข อย่าไปโมโหโทโสกับตัวเอง
ถ้าฝึกแล้วยังไม่ดีขึ้น หรือถ้ามันไม่เชื่อฟังเรา ว่าอย่าเครียด อย่าหวั่น
แต่มันก็ยังเป็นอยู่ของมันอยู่อย่างนั้น อะไรแบบนั้น..
................................................