ขอถามเรื่องการเริ่มทำกสินน้ำค่ะ

แหม่ มีติ อาจารย์ด้วย ^^อาจารย์นพคงไม่มาโพสต์ช่วงนี้

ปกติโพสต์ของอาจารย์นพเป็นโพสต์ที่ละเอียดนะ คำนึงถึงคนอ่านให้อ่านง่าย เท่าที่สัมผัสได้นะเพราะเป็นแฟนคลับ จะแยกประเด็นๆไว้ แต่มุมมอง Brococat ก็ดี แยกเรื่อง แยกสี แต่เรื่องนึงก็มีประเด็นย่อยๆ สีคอมที่อ่านง่ายๆ คงมีไม่กี่สี อาจจะไม่พอใช้มั่ง จีงต้องใช้สีซ้ำสลับสี การนำเสนอ เสนอได้หลายมุมมอง หากจะให้อ่านง่าย Brococat ลองเปลี่ยนมุมมองดู ลองเคาะ Space Bar หรือ Enter อาจทำให้แยกประเด็นได้ง่ายขึ้น อ่านง่ายขึ้น อาจารย์นพบอกต้องอ่านหลายๆเที่ยว สองนิ้วตัว V สู้ๆ ^^ (วัยรุ่นเดี๋ยวนี้ไปไวจริง ฝึกไม่กี่เดือนจะได้กสิณน้ำแล่ว :O )

 

นึกถึงรูปของน้ำ ในแบบที่มันเป็นน้ำ ไม่มีอย่างอื่นปนนะครับ

ถ้านึกแล้วคุมภาพในหัวไม่ได้
เช่น นึกถึงน้ำตกแล้ว วันนี้มีแมลงบนผิวน้ำบ้าง พรุ่งนี้มีใบไม้ลอยไปมาบ้าง
หรือวันนี้น้ำตก พรุ่งนี้น้ำคลอง มะรืนนี้น้ำทะเลบ้าง

ถ้ามีอาการอย่างนี้ ให้เปลี่ยนมาใช้ น้ำในอ่างตั้งตรงหน้า แล้วนึกภาพเลียนแบบของจริงตรงหน้าแทนครับ

เดี๋ยวจะไปไม่ถึงไหนซักที

 

๕๕๕ ว่าจะไม่โพสต่อแล้วนะ.เอาเป็นว่าเด่วเล่าอะไรให้ฟังแล้วกันนะ
วัยรุ่นก็งี้หละครับ.เลยตอบไปในคำตอบสุดท้าย ว่า"เอาว่าพอเข้าใจอะไรอยู่".ส่วนตัวเขียนคำว่า วิชา ๓
ส่วนตัวเข้าใจว่าวัยรุ่นที่เข้ามาในห้อง อภิญญา-สมาธิ หรือใครที่เข้ามาในห้องนี้จะสังเกตุมุมซ้ายของหน้าจอ
หรือขวามือตัวเองบ้างที่มีรูป อาโลกสิณัง..กสิณแสงสว่าง.
และใต้คำว่า พระอรหันต์ 4 แบบ จะมีคำว่า. เตวิชโช(วิชา๓) สังเกตุนะครับ
ว่าเขียนว่า วิชา๓ ไม่ใช่ วิชา3 นึกว่าวัยรุ่นจะมองเห็น.
โดยเข้าใจเองว่าถ้าเห็นคำว่า วิชา๓ ทางด้านซ้ายของห้อง อภิญญา-สมาธิ หรือขวามือเราถ้าได้เห็น
แล้วจะกดเข้าดูก็จะได้รู้ว่าอะไรคืออะไร ๕๕๕๕
แต่ไม่เป็นไรครับ.ของที่เห็นอยู่ทุกวัน.มันอาจใกล้ไป..เลยมองไม่เห็น ฮ่าๆ ไม่ว่ากันครับ.
ผมไปเจอข้อความประโยคนี้มานะครับเลยจะเอามาให้อ่าน
เป็นคำสอนของพระอาจารย์ในดงท่านหนึ่ง.หรือที่เราเรียกกันว่า
พระครูเทพโลกอุดรนั่นหละครับท่านกล่าวกับศิษย์คนหนึ่งไว้ว่า...

'' ทำดีไม่ต้องกลัว ถ้ากลัวไม่ต้องทำ เขาว่าเราเพราะเขาสนใจเราเขาถึงว่า...เราควรดีใจ
แต่เขาไม่ว่าเรานี่สิเรื่องใหญ่ เพราะว่าเราไม่รู้ว่า
จะปรับปรุงตัวตรงไหนดี เพราะเราหาความเลวของตัวเองไม่เจอ
คนส่วนมากไม่ว่าตัวเองเลวหรอกเพราะมองไม่เห็น
ทำไปเถอะ ทำและได้ธรรม ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
จงรักษาไว้...สัจจะและทำให้ดีเท่าที่ทำได้ (ปัจจัตตัง)''

การไปค้นความหมายเพิ่มเติมข้อดี..ก็คือมีความพยายามใช้ได้
แสดงว่าสนใจที่จะศึกษาอย่างจริงจัง..แม้ว่าที่ใกล้ตาที่สุดจะมองไม่เห็นก็ตาม.
.ความจริงส่วนตัวไม่ใช่คนเก่งภาษาไทยอยู่แล้ว..
พยายามจะสื่อสารออกมาให้มันฟังดูง่ายๆที่สุดเป็นภาษาธรรมดาๆ
.ไม่ได้ใช้ศัทพ์แสงทางตำรามากนัก.หากที่ผ่าน
มาใครเคยได้อ่านหลายๆคำตอบจะเข้าใจตรงนี้ได้ดี..ส่วนประเด็น
ที่วัยรุ่นขอติ(มีลงท้าย แฮ่ะๆ ไม่รู้ว่าแอบดีใจหรือเป่าที่ติได้นะ ๕๕๕)
ที่บอกว่าท่านอาจารย์เขียนผิดส่วนตัวไม่ได้ซีเรียสอะไร.เพราะว่าเห็นกันละมุม
.เป็นไปได้ที่จะด่วนตัดสินใจในสิ่งที่ตนเห็น.ไม่ได้ถือสาและว่าอะไรครับ.
และพยายามเขียนตอบให้ออกแนว ฮ่าๆไว้ก่อน..
ที่นี้ คุณtorelax9เข้าใจแล้วใช่ไหมครับว่าใน Rep#16 ถึงได้ขึ้นต้นด้วยคำว่า
''ช้าๆและนิ่งๆนะหายใจเข้าออกช้าๆและลึกๆก่อนสามครั้งค่อยอ่านๆนะครับ''
ปล.เล่าสู่กันฟังนะครับ..ไม่ได้ซีเรียสอะไร ขำๆ.​

 

เค้า ติ เฉยๆ ไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย อีกอย่าง อาจารย์นพไม่โกรธเราหรอกน่า...เราสัมผัสได้ ฮี่ๆๆ

@^___^@ นี่เป็นใบหน้ายิ้มแป้นของ Broccocat

 

เข้ามาสารภาพ ตอนแรกที่เห็นประโยคนี้ ''ช้าๆและนิ่งๆนะหายใจเข้าออกช้าๆและลึกๆก่อนสามครั้งค่อยอ่านๆนะครับ'' เราหัวเราะเลยอ่ะ เสียงเป็นแบบนี้เลย...55555 55555 55555

พวกกรอบตำราความรู้ด้านบนอ่านยังไม่หมดเลยค่ะ บางหัวข้อคิดว่าเราคงยังไปไม่ถึงง่ายๆ หรอก เลยไม่อ่าน แค่กสิณยังไม่ได้เลย จะไปอ่านระดับปรมาจารย์อย่างนั้นทำไม สรุป ก็คือ ยังอ่านไม่หมด ไม่ทั่วถึงพอ แฮ่ะๆ

วัยรุ่นก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ว่า วิชา ๓ หรือ วิชชา ๓ คำไหนเขียนถูก แต่ตอนไปเซิร์ชหาความหมายของคำนี้ในเวบเซิร์ชชื่อดัง แล้วพิมพ์คำแรกไป เวบมันไม่แสดงผลอ่ะค่ะ แต่พอเติม ช อีกตัว มันก็แสดงเพียบเลยอ่า

@^____^@

 

ห้ามไปๆ...นี่เป็นประโยคคำสั่ง!!! นะคะ ท่านอาจารย์

จารย์เล่ากสิณดิน น้ำ ลม ไฟ ซ๊าา...วัยรุ่นนึกถึงหนังจักรๆ วงศ์ๆ ที่เคยดูตอนเป็นเด็กๆ เลยค่ะ ต้องสนุกแน่ๆ เลย ทำกสิณผสมๆ กัน...แล้วเกิดเป็นโกโก้ครั้นช์...แป่ววว!!! เอิ่มมม คือว่า...เอากสิณน้ำให้รอดก่อนดีกว่าเน๊าะจารย์เน๊าะ

@^___^@

 

คุณ solardust หายไปไหนมา เค้าอธิบายไปแล้ว ย้อนกลับไปอ่านอีกเที่ยวนึงนะ มันเป็นการอธิบาย "ความใสของน้ำ" น่ะ

 

หลวงพ่อฤาษีท่านเคยเล่า เรื่องทำน้ำมนต์ คลอดลูกง่าย
ท่านมองน้ำหยดเทียน ว่า อิติปิโส ฯ ภาพน้ำก็ใสกริ้ง เป็นแก้วประกายพฤกษ์ไปทั้งหมด
พอคนจะคลอดลูกกินปุ๊ป ก็คลอดกันตรงนั้นเลย

คุณที่ถามตั้งใจเบาๆ ตัดนิวรณ์ทุกอย่างไป ทำใจให้นิ่งกับน้ำนั้น เกิดความใสสว่างขึ้นเป็นแก้วประกายพฤกษ์ เมื่อไหร่เป็นอันใช้ได้ จบกสินน้ำ จะทำกสินอะไรต่อ ค่อยว่ากันต่อไปนะครับ