!!! จับตาพายุลูกใหม่ ที่กำลังก่อตัว ณ ขณะนี้ !!!

เธออ่อนกำลังลง ได้สลายเป็นกลุ่มเมฆ 2 กลุ่มใหญ่ กลุ่มแรกมีขนาดเล็กกว่าไปทางอีสานตอนเหนือ และตอนกลางของประเทศลาว

กลุ่มที่ 2 มีขนาดใหญ่ได้ม้วนลงมาจัดหนักในไทยบริเวณภาคกลาง และภาคกลางตอนล่าง มีผลทำให้กรุงเทพฯและปริมณฑลฝนตกหนักตั้งแต่เมื่อคืนเวลา 02.00 น.

ระหว่างเธอเดินทางเข้ามาไทย ก็เล่นงานภาคตะวันออก และภาคอีสานตอนล่าง มีผลทำให้ฝนตกหนัก เริ่มตั้งแต่ อุบลฯ ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา และชลบุรี ในขณะที่ปราจีนบุรี และฉะเชิงเทรา ก็ยังเต็มไปด้วยน้ำ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มมวลน้ำเข้าไปอีก

เนื่องจาก กรุงเทพมหานคร มีการป้องกันไม่ให้น้ำท่วมโดยการปิดประตูระบายน้ำตอนบน และมีระบบการระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพ อาจจะมีน้ำท่วมขังบ้าง แต่ก็สามารถระบายได้หมดในเวลาไม่นาน นอกเสียจากน้ำทะเลหนุน และน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงเอ่อล้นออกมาตามท่อระบายน้ำ หรือตามรูรั่วของกำแพงหรือคันกั้นน้ำ

 

จังหวัดชลบุรีตอนนี้ฝนตกหนักเป็นระยะๆ ตั้งแต่เมื่อคืน มีน้ำหลากและท่วมขังหลายพื้นที่ หมู่บ้านหลายหมู่บ้านในศรีราชาท่วมแล้วครับ รวมทั้งที่ผมอยู่ด้วย ที่ทำงานยังต้องลุยน้ำเลย

จบข่าว

 

จ.ชลบุรี หน้านิคมอมตะนคร(หอที่ผมอยู่นี่ล่ะ) เมื่อคืนนี้หลังจากเข้านอนช่วงดึก(ประมาณตี2มั้ง) โครมครามเลยครับ
ทั้งฝน ฟ้าร้อง หนักมาก ฯลฯ ... ตอนนี้ฝนก็ยังตกอยู่ แต่ฟ้าเริ่มๆสว่างนิดนึงแล้วครับ มีน้ำท่วมขังสูงมาก
ระบายน้ำได้ช้าครับ ... ไม่รู้ว่าตอนนี้ระดับน้ำทะเลสูงไหม? ใครรู้ช่วยบอกด้วยครับ ...

จ.ปราจีนบุรี (ที่ไปช่วยแจกของมา) ต.ดงกระทงยาม อ.ศรีมหาโพธิ บ้านหนองบัวหมู โทรไปเมื่อเช้า ณ จุดน้ำท่วม เขาว่าลงคืบนึงก่อนนั้นวันนึง แต่ตอนเช้านี้ฝนยังตกหนักอยู่ เขาว่าไม่รู้จะยังไงต่อเลย ตอนนี้เขาใช้วิธีหาปลา ฯลฯ เพื่อยังชีพกันครับ เพราะข้าวนาและอื่นๆทำกันไม่ได้ ...

จ.ฉะเชิงเทรา (บ้านเพื่อนผมเอง) ต.โยธะกา อ.บางน้ำเปรี้ยว ฝกหนักมาก แนวคันดินกั้นน้ำโยธะกาน้ำขึ้นอีกประมาณ 4 เซ็นติเมตรสูงกว่าถนนแนวกั้นน้ำไปมากแล้ว เขาบอกว่าตอนนี้น้ำมากแบบเกิดมาเพิ่งเคยเจอครับ ปกติท่วมบ่อยๆก็ไม่เคยปรากฏขนาดนี้มาก่อนครับ ...

เมื่อกี้ DTAC ส่งข้อความมาว่า
"ดีแทคห่วงใยผู้ประสบภัยน้ำท่วมเลื่อนชำระเงินถึง 24ตค.ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ" ... ก็ยังดีเนาะ ช่วยกัน มากบ้างน้อยบ้างเป็นกำลังใจ ...


... ทั้งหมดผมโทรไปถามข้อมูลมาจากคนในพื้นที่จริงครับ แชร์ๆข้อมูลกัน ขอให้ผ่านพ้นไปด้วยดีครับ ...



... "รักกันใว้เถิด" ...


... ^^ ...

 

คุณนารี มาพร้อมกับฝนตกทั้งวัน ที่หนองบัวลำภู อากาศหนาว 18-20 องศา

 

ที่นิคมอมตะนคร ชลบุรี ผมคิดเองว่าลำบากมากสุดๆครับ
โรงงานปิด 4 โมงครึ่งเกือบหมด(เท่าที่ทราบมา) น้ำท่วมน่าจะทั้งนิคม พนักกงานเดินลุยน้ำออกมาเอง
บางส่วนลงจากรถรับส่งเพราะรถติด แทบไม่ไปไหนเลย และน้ำท่วมสูงมากๆ
(อันนี้คุณ Falkman น่าจะทราบแล้ว) ...

ผมไปพิสูจน์มาแล้ว โดยไปนั่งดื่มกาแฟชิวๆที่ห้างพลัสมอร์หน้านิคมมา ออกจากหอ(ใกล้ห้างห่างแค่ประมาณ 1 กิโล)
ออก 4:25 ถึง 5:20 ... ขากลับนั่งแหง็กในรถ ออกจากห้างประมาณ 20:30 ถึงหอ 22:10 (อันนี้เร็วมากๆแล้วนะครับ)
คนอื่นๆบางคนยังแทบไม่ไปไหนเลยอยู่ที่จอดรถในห้างล่ะ ขณะขับผ่านหน้านิคมเหลือบเข้าไปเห็นน้ำท่วมล้อรถเก๋งสัก 2/5 ของล้อ
(อันนี้ในช่วงพื้นที่สูงใกล้ถนนหลักแล้วนะ) รถติดยาวมาก รถในนิคมจะออก รถจากถนนหลักจะเบี่ยงเข้า วุ่นวายสุดๆ
เห็นตำรวจจราจรแล้วขอชื่นชม เขาพยายามมากจริงๆ ...

พิจารณาแล้ว หากเกิดอะไรๆที่หนักๆกว่านี้ อย่าได้เฉียดเข้ามาแถวนี้เชียวครับ ไปไหนได้ยากมากๆเชียว
เอาข้อมูลมาฝากกันครับ วันนี้และเมื่อกี้นี้เอง ...


... ^^ ...

 

ฝนตกวันเดียว เล่นซะถนนขาดเลยค่ะ ภาพจากสถานที่จริง ณ หมู่ 1 อ.บ้านฉาง จ.ระยอง
ในตัวเมืองระยองเฝ้าระวังน้ำท่วมหลายหมู่บ้าน เมื่อตอนบ่ายฝนตกหนักมาก น้ำท่วมถนนหลายสาย รถวิ่งไม่ได้ก็มี เริ่มแล้วสินะ อิอิ

 

06:32 น. ไต้ฝุ่นฟรานซิสโก ในแปซิฟิก ยังคงทวีกำลังขึ้นเรื่อยๆ และจะกลายเป็นไต้ฝุ่นระดับ 4 ในไม่กี่ชั่วโมงนี้

ที่มา : เว็บภัยพิบัติ

ไต้ฝุ่นฟรานซิสโก หรือ ไต้ฝุ่นหมายเลข 26 (TY 26W) เริ่มก่อตัวบริเวณเกาะกวม และมีทิศทางแนวโน้มไปยังประเทศญี่ปุ่นตอนล่าง

ญี่ปุ่นเิองก็อ่วมจากวิภามาหมาดๆ ถ้าเจอหมายเลข 26 เข้าไปอีก จะตรงกับคำทำนายหรือไม่ ที่จะมีเกาะๆหนึ่งจมน้ำ

 

สันกำแพงเชียงใหม่ ฝนตกมาตั้งแต่ตีสี่เมื่อวานนี้
จนกระทั่งบัดนี้ วันกว่าแล้วยังไม่หยุด
อากาศเย็น

เพื่อนสมาชิกห้วยทราย อ.สันกำแพง
แม่ตาด หนองแสะ ล้านตอง สันข้าวแคบ
บ้านหม้อ ป่าตึง ดอยซิว ดอยน้อย
ปริมาณน้ำฝนตกสะสม 24 ชั่วโมง 90.5 มม.
เฝ้าระวังระวังด้วย
เชิงเขาระวังดินถล่ม น้ำป่าไหลหลาก

อ่างแม่ตะไคร้ อ่างแม่ออน
น้ำเต็มอ่างแล้วครับ
เฝ้าระวังด้วย


สำนักชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 

จับตาพายุถล่มใต้19-20ต.ค.อาจรุนแรง

posttoday 17 ตุลาคม 2556 เวลา 16:01 น.


หน่วยศึกษาภัยพิบัติ จุฬาฯ จับตาร่องความกดอากาศต่ำบริเวณนครศรีธรรมราช อาจเกิดพายุไต้ฝุ่นรุนแรงเทียบเคียงปี 2532

ศ.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล จากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า กำลังจับตาดูสถานการณ์ที่อาจเกิดพายุในอ่าวไทย โดยเฉพาะร่องความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวไทย ที่เข้ามาที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอาจจะก่อตัวในวัน 19-20 ต.ค.นี้ ขณะนี้เท่าที่ศึกษาจากแบบจำลองอยู่ ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะรุนแรงถึงขั้นใด แค่ร่องความกดอากาศต่ำ พายุดีเปรสชั่น พายุโซนร้อน หรือพายุไต้ฝุ่น จึงเป็นแค่การเฝ้าระวังเพียงเท่านั้น

โดยในขณะนี้ ยังเป็นแค่ร่องความกดอากาศต่ำ ก่อตัวแถวบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งยังไม่ได้เข้าฝั่งอ่าวไทย แต่จากลักษณะการก่อตัวใกล้มากกับประเทศไทย ประกอบกับแนวโน้มการเกิดพายุมีมากขึ้นในหลายปีที่ผ่านมา อาทิ ที่อ่าวตังเกี๊ย ทะเลจีนใต้ อ่าวไทยหลายลูก จึงต้องติดตามเป็นพิเศษ ขณะนี้ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก เพราะเป็นแค่การคาดการณ์เท่านั้น

ศ.ธนวัฒน์ กล่าวอีกว่า ที่ต้องจับตามองเนื่องจากมีบทเรียนมาในอดีตตอนปี 2532 ที่พายุไต้ฝุ่นเข้าถล่มไทย โดยเริ่มก่อตัวขึ้นเป็นพายุดีเปรสชั่นในอ่าวไทยตอนล่าง จากนั้นก็เคลื่อนตัวขึ้นเหนือและมีกำลังรุนแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และพายุไต้ฝุ่นตามลำดับ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 3 วัน เท่านั้น

ด้าน น.อ. สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยว่า การก่อตัวขอพายุลูกใหม่บริเวณอ่าวไทย ที่มีความกังวลว่าจะมีผลกระทบรุนแรงต่อประเทศไทยนั้น ยืนยันว่า พายุลูกดังกล่าวจะไม่เข้าประเทศไทย

สำหรับพายุ "นารี" ที่ทำให้กทม. และ ทั่วประเทศมีฝนตกมาตลอด 3 วันที่ผ่านมา ขอให้ประชาชน สบายใจได้ว่า ขณะนี้ได้สลายตัวแล้ว และกทม. จะกลับเข้าสู่ภาวะปลายฝนที่มีเพียง ฝนรำคาญ ช่วงปลายฤดู แต่จะไม่ตกกระหน่ำอย่างที่ผ่านมาอีก แต่ในช่วงวันที่ 19-21 ต.ค. จะเป็นช่วงน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งอาจทำให้มีน้ำเอ่อล้นในบางจังหวัด คือ อยุธยา นนทบุรี และ ปทุมธานี

นอกจากนี้ ทางศูนย์เตือนภัย ได้ลงพื้นที่ภาคใต้ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชน ให้เตรียมรับมือในช่วงฤดูมรสุม ที่อาจเกิดภัยธรรมชาติในรูปแบบต่างๆ โดยนำเอาเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น เช่น สึนามิ พายุเกย์ มาปรับใช้ และ ซักซ้อมแผนรับมือฉุกเฉิน พร้อมทั้งให้วิทยุสื่อสารปาะจำชุมชนในการติดต่อรับข่าวสารด้วย

"ทางศูนย์เตือนภัยจะแจ้งล่วงหน้า 5-7 วัน หากจะเกิดภัยพิบัติรุนแรง เพื่อให้ประชาชนเตรียมการอพยพได้ทัน แต่จากการประเมินขณะนี้ ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง และจากการพยากรณ์พายุ 2-3 ลูกที่ไทยได้รับผลกระทบ ถือเป็นข้อมูลที่แม่นยำพอสมควร ดังนั้น ทางศูนย์จะรีบประกาศเตือนทันที หากภาคใต้จะได้รับผลกระทบจากพายุลูกใดๆ ก็ตาม" น.อ. สมศักดิ์กล่าว



***********************
ต้องเฝ้าระวังกันต่อครับ เพราะหากเกิดขึ้นจริงก็สุ่มเสี่ยงอยู่

แต่ที่น่าเศร้าสำหรับประชาชนชาวไทยก็ตรงที่มีผู้มีหน้าที่โดยตรงต่อความเดือดร้อนของเขาชอบประเมินอะไรแบบสบายๆตลอดไม่มีอะไรไม่ต้องกังวลตั้งแต่ไก่โห่ ทั้งๆที่ไม่จำเป็นอะไรเลยที่ต้องรีบประกาศอย่างนั้น บอกแค่ว่าทางหน่วยงานก็เฝ้าระวังและติดตามอยู่ตลอดเวลา หากมีอะไรก็จะแจ้งให้ทราบได้ล่วงหน้า 5-7 วันก็จบแล้วดูดีกว่าที่จะมาอวดเก่งกูรู้แบบนี้ " น.อ. สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยว่า การก่อตัวขอพายุลูกใหม่บริเวณอ่าวไทย ที่มีความกังวลว่าจะมีผลกระทบรุนแรงต่อประเทศไทยนั้น ยืนยันว่า พายุลูกดังกล่าวจะไม่เข้าประเทศไทย"

ไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมจ้องรีบฟันธงซะขาดกระจุยตั้งแต่หัววันอย่างนี้ทั้งๆที่ตัวเองก็ยอมรับว่ามีการก่อตัวของพายุจริง แล้วมันเกิดในอ่าวไทยน่ะนั่น ดันรีบบอกว่าจะไม่เข้าไทย กรรม

 

เขาคือ ฟรานซิสโก เมื่อ 18/10/56 เวลา 01.00 น. ที่หลายสำนักต่างเห็นตรงกันว่า มีแนวโน้มเคลื่อนที่ไปยังญี่ปุ่น

แต่ดูจากภาพถ่ายดาวเทียมแล้ว ไม่แน่เหมือนกัน อาจจะกินรวบทั้งส่วนบนของฟิลิปปินส์ ใต้หวันทั้งหมด และเกาะเล็กเกาะใหญ่ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น

ดูแล้วน่ากลัวนะครับ

 

ผมลองเข้าไปที่เว็บไซต์
http://www.songkhla.tmd.go.th/satellite/satellite.html

แล้วเข้าไปที่ ภาพชนิด IR แบบเคลื่อนไหว
แล้วลองใช้ไม้บรรทัดวัด พบว่า ฟรานซิสโก เคลื่อนที่ขึ้นไปด้านบน มุ่งสู่ญี่ปุ่น
ในเวลา 5 ชั่วโมง ฟรานซิสโก เคลื่อนที่ไปได้ 2.5 มิลลิเมตร
ญี่ปุ่นอยู่ห่าง ฟรานซิสโก 7 เซนติเมตร
ดังนั้น ฟรานซิสโก ต้องใช้เวลาเดินทาง 140 ชั่วโมง หรือประมาณ 6 วัน จึงจะถึงญี่ปุ่น

 

จากการสังเกตุภาพถ่ายทางดาวเทียม พบว่า ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดเอาความชื้น(เมฆ)มาปกคลุมทำให้ฝนตกนั้น พิจารณาแล้ว ดูเหมือนว่าช่วยปกป้องคุ้มกันและผลักดันไม่ให้ พายุฟรานซิสโก เคลื่อนเข้ามายังภูมิภาคนี้

 

ขอบคุณครับ

 

จากรูปภาพถ่ายทางดาวเทียมที่ผมนำมาลงให้ดูในโพสนี้นั้น
ผมพิจารณาแล้วเหมือนกับว่าอ่าวเบงกอลในอดีตกาลนานมานั้น
เคยเป็นผืนแผ่นดินที่เชื่อมติดต่อเป็นผืนเดียวกันระหว่างประเทศอินเดียหรือทวีปเอเชียใต้ กับ ดินแดนสุวรรณภูมิหรือทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ผมเคยคิด ถ้าประเทศไทยมีเรือดำน้ำที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยใช้ในการสำรวจ ก็คงจะพบผืนแผ่นดินอารยธรรมที่จมอยู่ใต้ทะเล และเป็นผืนแผ่นดินที่พระโพธิสัตว์ได้ท่องเที่ยวเวียนว่ายตายเกิดในการสร้างบารมีภพแล้วภพเล่า

 

อันนี้ต้องช่วยกันตามต่อนะครับ จำไพลินได้ไหมเป็นซุปเปอร์ไซโคลนนะ! เกิดใกล้ๆโชนนี้ล่ะ!
ลองดูภาพแผนที่อากาศดูครับ"หย่อม L" มากๆทีเดียวเริ่มๆรวมตัวกันแล้ว ตามๆดูนะครับมันใกล้บ้านเราช่วยกันจับตามอง
ไม่เกิดอะไรก็แล้วไปเนาะ ตามดีๆจะได้ปัญญาจากการเฝ้าระวังด้วยเป็นของแถมด้วยจากข้อมูลที่เราดูๆกันนี่น่ะ
แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็"เราๆท่านๆนี่ล่ะเตือนกันเองนี่ล่ะ" เตือนคนใกล้ตัวเตือนคนไกลตัว พ่อเราแม่เราพี่น้อง เพื่อนๆเรา
กระจายไปในหมู่ชนได้ครับ อันนี้"มากคนน้อยคนก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลยครับ" วิเคราะห์กันเองแบบง่ายๆแบบตรงไปตรงมา เอาข้อมูลมาอ้างอิงกัน ...

ยังจำได้ไหม ท่านFalkman เคยโพสส์บอกเพื่อนๆทุกๆคนว่า มีหลุมยุบแถวอมตะนครไม่นานมานี้ ผมเองอ่านแล้วรู้ก่อน"ก็ยังสามารถเลี่ยงทางไปได้"แบบนี้เป็นประโยชน์ไหม?
แน่นอนว่าเป็น เพราะผมไม่ต้องเสี่ยง ฯลฯ ต้องขอขอบคุณทุกๆท่านที่เอาข้อมูลดีๆมาบอกกัน ช่วยกันต่อๆไปครับ "ด้วยใจด้วยจิตที่เป็นไปในสาธารณะประโยชน์"
กลั่นกรองร่วมกันแล้วให้พิจารณาย่อยกันเองในท้ายที่สุด "มีประโยชน์มหาศาลทีเดียว" ...

"แต่เมื่อเตือนกันไปแล้ว ก็ให้กลับมาเพียรระวังรักษาจิตตนให้เป็นปกติเสมอๆใว้ด้วย"
ผมขอยกธรรมะมาฝากหลายๆท่าน บางท่านรู้แล้วผมขออนุโมทนา บางท่านอาจจะยังรู้ไม่สุดสายคือเรื่องของ"พรหมวิหารธรรม" 1.เมตตา 2.กรุณา 3.มุฑิตา
อย่าลืม! องค์สำคัญคือ"4.อุเบกขา"ด้วยนะครับ ... ที่ช่วยก็ช่วยไป เมื่อเขามีความสบาย/หรืออย่างไรแล้วเราต้องปล่อยวางด้วย ต้องทำจิตให้มีอุเบกขาด้วย
เพราะในท้ายที่สุด"สัตว์โลกมีกรรมเป็นของๆตน" หากเราตั้งเจตนาดีและกระทำดีโดยการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วย"จิตที่ปล่อยวาง"เช่นนี้แล้ว
เราย่อมได้รับผลที่ดีเสมอไป ในการกระทำนั้นๆ"ทุกๆครั้งที่ได้ทำ"นั้นเลยทีเดียว ...


... "รักกันใว้เถิด" ...


... ^_^ ..
... _/\_ ...

"แผนที่อากาศกรมอุตุนิยมวิทยา"








.......... .......... ..........