เปิดตำนานของวิเศษสุดยอด

เปิดตำนานของวิเศษสุดยอด

( เหล็กไหล ไพลดำ ไม้แหย่แย้ ปรอทสำเร็จ ขมิ้นขาวปัดตลอด ต้นยาใหญ่ ใครมีประสพการณ์ ความรู้เกี่ยวกับ ของวิเศษ ของลี้ลับ ขอเชิญเข้ามาแชร์กันเลยครับ)


ช่วงนี้เห็นมีคนสนใจ เกี่ยวกับของวิเศษ ของมีฤทธิ์ทั้งหลาย

จึงขอตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพื่อให้ใครหลายคนมาแชร์เรื่องราวที่ได้รับรู้

เกี่ยวกับศาสตร์ลี้ลับ ของวิเศษ ของในตำนานทั้งหลาย ที่ว่าวิเศษสุดยอด

นำมาเผยแพร่เป็นวิทยาทานกันครับ


(ขอเพิ่มเติม รายละเอียดนิดนึงนะครับ คือมีหลายคนยังไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ของกระทู้นี้

จึงต้องมาบอกเพิ่มอีกนิด คือ ที่ต้องการให้มาแชร์กันไม่ใช่ แนวสุดยอดพระเครื่องอะไรแบบนั้นนะครับ

แต่เป็นแนวของวิเศษจริงๆ ทำให้เกิด หูทิพย์ ตาทิพย์ ปากเข็ด ล่องหน หายตัว หนังเหนียว ยืดอายุ

เรียกว่าเหนือธรรมชาติปกติที่คนเรารู้จักกันไปเลยครับ

ถ้าเป็นพระก็ประมาณ พระส่อง ที่ว่ากันว่าแค่พกก็มองเห็นทะลุทะลวงกันไปเลย

ไม่ใช่แบบ เป็นมงคล เสริมดวง เสริมโชค เสริมเสน่ อะไรแบบนั้นครับ

แต่ยังไงก็ขอขอบคุณผู้ที่เข้ามาแชร์ไปแล้ว แต่ไม่ตรงกับแบบที่ว่า ก็ไม่เป็นไรครับ)

 

พระยอดขุนพลบุเรงนอง

ตามบันทึกของพระเถราจารย์ฝ่ายพม่ารามัญ ที่จดบันทึกไว้ว่า พระเจ้าบุเรงนองทรงสร้างไว้เพื่อให้มอบให้แม่ทัพนายกอง ทหารหาญ ใช้ในราชการสงคราม ภายหลังเสร็จราชกิจจึงได้นำไปบรรจุไว้ในถ้ำ พระเครื่องพิมพ์นี้สร้างจากดินผสมว่านยาวิเศษ ปลุกเสกโดยมหาฤาษีบูบูอ่อง ที่กล่าวกันว่าท่านสำเร็จอภิญญาสมาบัติ สามารถแสดงฤทธิ์ได้ เดิมได้บวชในพระพุทธศาสนาและเจริญกรรมฐานจนบรรลุอภิญญา มีญาณสมาบัติและได้สึกมาครองเพศฤาษี และใช้ฤทธิ์ในการช่วยเหลือผู้คนรวมถึงการเผยแพร่ศาสนา และพระพิมพ์นี้ได้จำลองมาจากพระมหามัยมุนี พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ทรงเครื่องมหาจักรพรรดิราช เดิมประดิษฐาน ณ อาณาจักรอาระกัน (ยะไข่) ด้านหลังคือรูปมหาฤาษีบูบูอ่อง ที่มีอิริยาบทกำลังเหาะขึ้นไปนมัสการพระมหาธาตุ ทำให้มีชื่อเสียงและสร้างความศรัทธาให้กับพระเจ้าบุเรงนอง รู้จักในวงการพระเครื่องว่า พระบุเรงนองหลังกบ กรุถ้ำ หลวงพ่ออุตตมะ วัดวิเวการาม จังหวัดกาญจนบุรี ได้มาจากถ้ำในเขตประเทศพม่า แล้วนำมาแจกสานุศิษย์ในยุคแรกๆ

พระเจ้าบุเรงนอง กษัตริย์ราชวงศ์ตองอู ผู้ปราบปรามเมืองน้อยใหญ่ทั่วภูมิภาคอุษาคเนย์ ตามคติพระเจ้าจักรพรรดิราช
เนื่องจากสมัยโบราณจะแบ่งเมืองออกเป็นสองประเภทคือ เมืองเอกราชและเมืองประเทศราช จึงทำให้ต้องมีการแข่งขันกันเช่นเดียวกับการค้าในสมัยปัจจุบัน แต่โบราณใช้การยึดครองพื้นที่และทรัพยากร ด้วยการชิงชัยด้วยกำลังและสติปัญญา ไม่ได้ใช้กลยุทธชิงชัยด้วยกลไกทางตลาดในเวทีโลกและสร้างคติชาตินิยมอย่างในปัจจุบัน

พระองค์คือผู้มีสามสิ่งครบถ้วนจึงได้ชื่อว่า “วีรบุรุษ” คือมีปัญญาเป็นเลิศ มีปณิธานยิ่งใหญ่ มีแผนการล้ำลึก ซึ่งใช้สามสิ่งนี้สร้างผลงานจนเป็นที่ประจักษ์ไม่เคยปรากฏว่ามีกษัตริย์พระองค์ใดในภูมิภาคนี้ ทั้งก่อนหน้าและภายหลังรัชสมัยของพระองค์ที่ทำเช่นนี้ได้เทียบเท่าพระองค์ คือ รวมเอาอาณาจักรใหญ่ของชนชาติต่างๆในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ ไว้ในอำนาจได้ทั้งหมด เช่น อยุธยา ล้านนา ล้านช้าง ไทใหญ่ พม่า รามัญ กัมพูชาและรัฐต่างๆที่เป็นประเทศราชของอาณาจักรที่กล่าวมา รวมทั้งสิ้นถึง133เมือง มีอาณาเขตกว้างใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์และสงบร่มเย็นตลอดรัชมัยของพระองค์

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ก็ทรงเจริญรอยตามพระเจ้าชนะสิบทิศบุเรงนอง หากนิยมพระนเรศวรมหาราช ก็ต้องมองว่า ใครคือต้นแบบของพระองค์ ซึ่งก็คือพระเจ้าบุเรงนอง พระองค์นี้นี่เอง

พระเจ้าบุเรงนองพระองค์ ทรงนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญสองสิ่งและจะสักการะก่อนออกทำสงคราม คือพระมหามัยมุนี เมืองยะไข่และพระมหาธาตุมุเตา เมืองหงสาวดี เชื่อกันว่าทรงบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองสิ่งนี้ เพื่อให้ได้ชัยชนะและก็เพราะอำนาจบารมีของทั้งสองสิ่งทำให้พระองค์สามารถปราบปรามและมีชัยชนะในการสงครามทุกครั้ง คำบนบานที่เชื่อกันว่าทำให้พระองค์สัมฤทธิ์ผลก็คือ ทรงบนบานขอให้ชนะศึกเพื่อจะได้สร้างเอกภาพให้กับแผ่นดิน จะได้ไม่ต้องมีใครทำการแย่งชิงรบพุ่งทำสงครามให้ได้เดือดร้อนกันอีก เช่นเดียวกับจิ๋นซีฮ่องเต้ ที่รวบรวมแผ่นดินจีน ยุติสงคราม 7 แคว้น ที่รบพุ่งกันยืดเยื้อยาวนานถึง 255 ปีได้สำเร็จ ซึ่งหากพระนเรศวรมหาราชไม่ทรงสิ้นเสียก่อนเวลาอันควร ราชอาณาจักรศรีอยุธยา อาจเป็นมหาอำนาจที่สานต่อเจตนาของพระเจ้าบุเรงนองก็เป็นได้

พระบุเรงนองหลังกบ พระพิมพ์นี้ได้รวมเอาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และปณิธานของยอดคนไว้ ดังนั้นผู้ที่ได้ครอบครองหรือหามาได้ไว้ในครอบครอง จึงเชื่อได้ว่า ต้องเป็นคนที่มีจุดมุ่งหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่ไม่เหมือนคนทั่วไป หากทว่าการได้มาซึ่งการครอบครองนั้น เป็นผลมาจากการได้ทราบประวัติและเจตนาการสร้างที่ชัดเจน

 

ไม้แหย่แย้ของวิเศษสุดยอด

(คุณวิเศษพอๆกับไพลดำ น้องๆเหล็กไหลชั้นสูง)

ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่า ที่เลือกเล่าเรื่องไม้แหย่แย้ก่อนเป็นอันดับแรก

แทนที่จะเป็น เหล็กไหล ไพลดำ

เพราะ เป็นสิ่งที่ผมเคยตามหาอยู่พักนึง จึงเป็นของที่ผมรู้มากที่สุดในบรรดา ของ 3 อย่างนี้

ไม้แหย่แย้ ที่ผมจะเล่าให้ฟัง ไม่ใช่ไม้แหย่แย้ที่เจอกันได้ทั่วไป

ไม่ใช่ก้านไม้ที่เป็นปล้องๆ นำมาตัดทำเป็นวัตถุมงคลที่เห็นกันมากมาย

ไม่ใช่ต้นไม้ประเภทหนึ่งที่เรียกว่าเปล้าตองแตก

ขอออกตัวก่อนเพื่อไม่ให้เกิด ความเข้าใจกันผิดภายหลัง

ผมไม่ได้บอกว่า ก้านไม้ หรือ เปล้าตองแตก เป็นของปลอมนะครับ

แต่ผมจะบอกว่ามันไม่ใช่ ไม้แหย่แย้ แบบที่ผมจะเล่าให้ฟังครับ


ไม้แหย่แย้ ที่เป็นสุดยอดจริงๆ ที่ผมจะเล่าให้ฟัง

มีลักษณะดังนี้ครับ

1. เป็นไม้ตรง เรียว เล็กคล้ายก้านธูป
2. ผิวเป็นเกล็ดเล็กๆ คล้ายหางแย้
3. ไม้ไม่แข็ง งอได้โดยไม่หัก
4. มีดธรรมดา ของมีคมทั่วไป ตัดไม่ขาด
5. มีกลิ่นหอม
6. มีฤทธิ์ที่เห็นกันชัดๆ คือ ทำให้สัตว์เลื้อยคลานลุ่มหลง มาตามเกาะติดไม้

และด้วยฤทธิ์แบบนี้เองจึงทำให้คนเรียกว่าไม้แหย่แย้ เพราะคนที่ไม่รู้วิชา

หาประโยชน์จากไม้นี้โดยการนำไปจับแย้ขาย จับแย้กิน หารู้ไม่ว่าความวิเศษของมันสุดยอดแค่ไหน

ไม้ที่ชาวบ้านใช่ในการจับแย้ หรือไม้ที่ชาวบ้านเรียกว่าไม้แหย่แย้นั้น

เท่าที่รู้มามีมากถึง 11 ชนิด ที่หาง่ายสุดในตอนนี้ก็คือเปล้าตองแตก

ส่วนไม้ที่นำมาทำวัตถุมงคล เมื่อก่อนที่ยังไม่เป็นที่นิยมก็หายากนิดหน่อย แต่เดี่ยวนี้ก็หาไม่ยากแล้ว

ผมเคยได้สัมผัสมา 4 ชนิด ซึ่งก็ยังไม่ใช่ตัวที่ตามหา


ไม้แหย่แย้ ที่ผมหานั้น ไม่ใช่แค่เรื่องเล่า แต่เป็นตำนานที่ทั้ง ผู้เคยได้ครอบครอง และผู้ที่ครอบครองอยู่นั้น ยังมีชีวิตอยู่

เหตุผลที่ผมเลือกตามหา ไม้แหย่แย้ นี้เพราะว่า เป็นของวิเศษสุดยอดที่คนธรรมดาสามารถครอบครอง เพียงแค่ต้องรู้วิชาในการนำมาใช้เท่านัันเอง

ต่างจากเหล็กไหลชั้นสูงที่แค่รู้วิชาไม่ได้ แต่ต้องมีวิชา มีบุญบารมีพอ จึงจะได้ครอบครอง

เรียกได้ว่าถ้าคุณเกิดมาไม่มีญาณวิเศษอะไร ไม่มีบุญบารมีที่เคยสั่งสมมา จะมาอาศัยฝึกปฏิบัติกันในชาตินี้ คงจะเป็นไปได้ยากมากที่จะได้ครอบครอง เหล็กไหลชั้นสูง

แต่ไม้แหย่แย้ ไม่จำเป็นต้องมีวิชา แต่ต้องรู้วิชาในการทำ พร้อมกับทุนประมาณล้านต้นๆ

หลังจากนำไม้แหย่แย้ที่ว่ามาผ่านพิธีกรรมบางอย่าง ไม้แหย่แย้นี้จะกลายเป็นของวิเศษสุดยอด

นอกจากไม้แหย่แย้แล้ว ไพลดำก็เป็นอีกสิ่งนึงที่นำมาใช่้ได้เหมือนกัน เมื่อผ่านพิธีกรรมที่ว่า ก็จะกลายเป็นของวิเศษสุดยอดได้เหมือนกัน

ความวิเศษของมัน ไม่ใช่แค่อยู่ยง คงกระพัน ฟันแทงไม่เข้า แต่มีฤทธิ์มากกว่านั้นเยอะครับ

เมื่อนำไม้แหย่แย้ หรือ ไพลดำ มาผ่านพิธีการแล้ว จะกลายเป็นของวิเศษสุดยอด

ที่ทำให้ผู้ครอบครองนั้นมีอำนาจวิเศษหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ ตาทิพย์ ครับที่พอจะบอกได้

ส่วนอำนาจวิเศษอย่างอื่น ผมขอไม่บอกนะครับ

เนื่องจากมีอำนาจวิเศษบางอย่าง ที่ไม่ควรบอกให้รู้กันเป็นสาธารณะ

เอาเป็นว่าบอกให้ได้ เฉพาะ ผู้ที่มีในครอบครองแต่ ไม่รู้ว่าต้องเอาไปทำยังไงให้เป็นของวิเศษสุดยอด ติดต่อผมมาได้ครับทาง PM

ถ้าหากมีเวลาจะมาเล่าเรื่องของวิเศษอย่างอื่นอีกครับ เหล็กไหล ไพลดำ ปรอทสำเร็จ

และถ้ามีใครมีความรู้ มีประสพการณ์ เกี่ยวกับของวิเศษพวกนี้ก็มาแชร์กันได้นะครับ

 

หว่านสากเหล็กครับ มีดีทางด้านอยู่ยง คงกระพันครับ มีพละกำลังดี..

มีสรรพคุณทางด้านอย่างที่ว่า แต่ยังไงดีล่ะ คือสรรพคุณจริงๆก็คือ ใชอมหรือเคี้ยว

ไว้ในปาก พละกำลังจะมีมาก หมัดหนัก ล้มคู่ต่อสู้ด้วยพลังกำปั้น

เป็นพืชหว่านมีใบสีเขียวนี่ละครับ ลักษณะหัวจะอยู่ใต้ดิน

มีลักษณะเหมือนสากตีพริก เอาตรงหัวมันนั่นแหลครับ เอามาใช้ประโยชน์ของดี

อยู่ตรงนั้น หว่านสากเหล็กครับ (สมัยก่อนหาง่ายนะ ไม่ยาก มีอยู่ตามป่าเขา)

 

พึ่งจะรู้คุณประโยชน์ของไม้แหย่แย้ เรามีเป็นน้ำมันช่วยเรื่องเสน่ห์ดีมากๆ

 

ในน้ำมันมีไม้อยู่หรือเปล่าครับ แล้วไม้มีลักษณะใกล้เคียงกับที่ตามหามั้ย

ถ้าใช่ขอบอกว่าเสียดายไม้มาก เอามาทำวิชากับผมดีกว่าครับ

เรื่องเสน่ห์เป็นเพียงฤทธิ์เล็กๆ น้อยๆ ที่จะได้จากไม้ครับ

 

ได้คตมะขามมาโดยบังเอิญ

ช่วงต้นปี 2557 ไปดูดอกทานตะวันบานแถบสระบุรี มีมะขามขายเป็นถุงๆข้างทางละแวกนั้น เราก็ซื้อติดมือมามาถุงนึง ก็แกะกินไป บางฝักแข็งแกะไม่ออกก็ทิ้งไป

พอกลางคืนก็ฝัน น่าจะเป็นเทพหรือเทวดามากันสามท่าน มาบอกเราว่ามีของกายสิทธ์เป็นมะขามให้เก็บไว้
ตื่นขึ้นมาก็นึกถึงมะขามที่เราทิ้งๆไปเพราะมันแข็งมากเหมือนหินเลย

ก็เลยมาดูในถุงมะขาม ยังเหลืออยู่อีกบางส่วน มีสามฝักที่แข็งมากบีบไม่แตก ก็เลยเก็บไว้ ตอนนี้ก็ยังอยู่

 

พอจะมีของพิเศษที่ใช้รักษาโรคทุกอย่างมั้ยครับ คืออยากศึกษาถ้าบุญบารมีผมมีจะอธิฐานจิตเพื่อนำมารักษาพ่อและย่า อยากจะศึกษาดูครับ

 

เป็นน้ำมันสำเร็จรูปมาแล้ว คนที่เราทดสอบยืนมองเหมือนโดนสะกดเลย ปัจจุบันเก็บขึ้นหึ้งไปละไว้บูชาเรียกเงินเรียกทอง

เลิกเรื่องแนวนี้แล้ว ตอนนี้หันมาเดินตามหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่าน กลัวตกขบวนไม่ได้ไปกะเค้า catt14

 

น่าเสียดายครับ แสดงว่านำไปทำวิชาสายเสน่ห์เรียบร้อยแล้ว

จากอาการของผู้ถูกทดสอบ ที่คุณบอก เป็นไปได้สูงมากที่จะเป็นน้ำมันที่ทำมาจากไม้แหย่แย้แบบที่ผมหา

เก็บไว้ดีๆนะครับ ของทางเสน่ห์รุนแรงเนี้ย ถ้าจะให้ใครไปใช้ ยังไงก็ผิดศีลข้อกาเมแน่นอน

แต่อย่างน้อยก็ห้ามผิดเมียผู้อื่น และใช้กับใครก็ต้องดูแลรับผิดชอบด้วยนะครับ

อย่าลืมว่ามันเป็นอกุศลกรรมทั้งกับผู้ให้และผู้ใช้ครับ ต้องระวังให้ดี

และขออนุโมทนาบุญกับความตั้งใจที่จะร่วมขบวนหลวงพ่อฤาษีลิงดำด้วยครับ

ขอให้ท่านประสพความสำเร็จในธรรมครับ

 

ไม้แหย่แย้ ไพลดำ ล้วนสามารถนำมารักษาโรคได้ครับ แต่ทุกโรคมั้ยไม่แน่ใจครับ

และ ต้องมีอาจารย์ผู้รู้วิชารักษาครับ จึงจะทำได้


และถ้าจะหาของรักษาอย่างอื่น ก็ต้องเป็นของแนวอายุครับ

ถ้าแบบพื้นๆหน่อย มีฤทธิ์ในการรักษา ดูดพิษ ก็ปรอทฤทธิ์ครับ

ผมไม่เคยสัมผัสนะครับ แต่ได้รับรู้มาว่า

วิชาปรอทฤทธิ์ มีคุณสมบัติอย่างหนึ่ง คือ ช่วยในการรักษา ดูดพิษ ในร่างกายผู้ใช้ทำให้แก่ช้า ร่างกายไม่เป็นโรคครับ

ปรอทที่ใช้ต้องเป็นปรอทดักตามป่านะครับ ไม่ใช่ปรอทวิทยาศาสตร์

และต้องมีอาจารย์ผู้มีวิชาฆ่าพิษปรอท และทำให้ปรอทแข็ง จึงจะนำมาใช้ได้

เมื่อพูดถึงปรอทก็เป็นอีกหนึ่งสิ่ง ที่นำไปทำของวิเศษสุดยอดได้ครับ แต่ต้องรู้วิชาการทำครับ

ตามที่ได้รับรู้มา วิชาการทำปรอทมีมากมายหลายวิชา แต่ที่เป็นสุดยอดก็ คือ วิชาปรอทสำเร็จ

ผู้ที่ครอบครองจะบังเกิดฤทธิ์ในตัวเหมือนกันครับ แต่ไม่เหมือนไม้แหย่แย้ ไพลดำ

ไว้มีเวลาจะรวบรวมข้อมูล ปรอทสำเร็จมาให้อ่านกันครับ น่าสนใจไม่น้อยเหมือนกัน แต่วิธีการทำนั้นยากมาก


เอาเป็นว่าถ้าต้องการรักษาโรค ผมแนะนำว่าหาคนดีกว่า หาของครับ

มีสองทางครับที่จะแนะนำ

1. ลองปรึกษา อ.ขาว ที่เว็ปญาณทิพย์ดูครับ เผื่อช่วยได้

2. ลองตามหาผู้ฝึกวิชาพลังจักรวาลให้ช่วยครับ ต้องหาผู้ที่มีระดับสูงหน่อยนะครับจึงจะเห็นผลชัดเจน

ในการให้ผู้อื่นช่วย เราต้องช่วยตัวเองด้วยนะครับ

มั่นทำบุญปล่อยสัตว์ ละเว้นการฆ่าสัตว์ ละเว้นการกินเนื้อสัตว์ได้ยิ่งดี

เกี่ยวกับโรคนี้ ส่วนนึงมาจากกรรมเก่าด้วยครับ ถ้ากรรมไม่หนักจริงๆ คนที่แนะนำให้ไปหาเค้าก็จะช่วยได้ครับ

ขอให้หายจากโรคไวๆ สุขภาพร่างกายแข็งแรงนะครับ

 

เครื่องราง ของขลัง เรื่องจริง ของจริง รู้จริง ขอโมทนาบุญ

ขออนุญาตครับ

ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับท่าน ที่มีประสบการ จากของจริง
และนำมาเผยแผ่ เพื่อ เป็นวิทยาทานจริงๆ

เนื่องจากผมเป็นผู้มี ครูบาอาจารย์มาก ก็แบบผ่านๆบ้าง จริงจังบ้าง เพราะผมจะเน้นว่า

"ขอให้รู้ว่า อะไร อยู่ที่ไหน"
"ครูบาอาจารย์ท่านใด มีอะไร เก่งทางไหน เด่นทางไหน"

ก็พอแล้ว เพราะชีวิตมันสั้น เรียนรู้ได้ไม่หมด

ส่วนเครื่องรางของขลังที่สะสมไว้ มีมาก จนบอกเล่าไม่หมด ส่วนมากเป็นพระเครื่อง

จนครูบาอาจารย์พระเถระผู้ใหญ่สายธรรมยุติ ท่านถึงกับบอกออกมาว่า

"พระสมเด็จวัดระฆัง ต้อง คนนี้"

"พระสมเด็จบางขุนพรหมที่ให้มา พวกลูกศิษย์ ถวายบูชาไป ๑ ล้านบาท องค์คู่กันไปไหนแล้ว?"

ผมก็เลยไปวัดไม่ได้ เพราะเคยถวายท่านไป ๕๐ องค์
๑ในนั้น ท่านให้ลูกศิษย์ต่อ เป็นเรื่องขึ้นมา เพราะเอาไปให้เซียนตีราคา
หลายล้านบาท

คนก็เลยพากันร่ำลือว่า ขนาดถวายพระ ถวายวัด ยังขนาดนี้
แล้วอยู่ที่บ้าน จะขนาดไหน?

แต่องค์สุดยอดจริงๆ ไม่ค่อยให้ใครดู

เพราะเนื้อ ใกล้เคียงกับองค์ ๖๐ ล้านมาก

ส่วนเซียนกำแพงเพชร บอกว่า

"เป็นพระวัดระฆัง ที่มี เศษพระกำแพงมากที่สุดเท่าที่เคยพบมา"

"องค์อื่น แค่ เม็ดเดียวยังส่องหาแทบตาย แต่องค์นี้ ตาเปล่าก็เห็นแล้ว"

กลับมาเรื่องของเราดีกว่า

เมื่อสิบกว่าปีก่อน ผมเคยไปยกขันธ์กับ ปรมาจารย์อันดับต้นๆของเมืองไืทย
(ที่รู้จักท่านมีแต่ปู่ฤๅษี คนทั่วไป รู้ แต่รู้ไม่หมด)
วันนั้นท่านจะมอบเหล็กไหลสีเงินยวงเม็ดเขื่องให้

แต่ผมไม่ได้อ้าปาก และเอ่ยปากขอ แค่คิดในใจเท่านั้น ท่านเลยให้ไม่ได้

ตอนนั้น ยกขันธ์ ๕ กับขันธ์ ๗

แม้จะคืนของรักษาของท่านไปแล้ว แต่ก็ยังเคารพนับถือท่านเหมือนเดิม
คอยติดตามข่าว ไปมาหาสู่ ตามโอกาสอำนวย

๑ เรื่องเหล็กไหล สรุปว่า ท่านให้แต่ไม่ได้รับเอาไว้
แต่ตอนนี้ ก็ ติดตามถามข่าวว่า ใครมีกันบ้าง รูปร่างลักษณะเป็นอย่างไร
เจ้าของรู้เรื่องอะไรบ้าง จะให้ช่วยอะไร ประมาณนี้

อยากแลกเปลี่ยนความรู้ แปลกๆ ที่หาที่ไหนไม่ได้

๒ เรื่อง พระปรอท ได้รับเมตตาจากครูบาอาจารย์สายพญานาค(อดีตชาติ) ท่านมอบให้ ๑ องค์
เดิมท่านไม่ให้ เพราะว่า ทำได้ยาก ถ้าไม่ห้อยติดตัวตลอด ท่านไม่อยากจะให้
แต่ไปมาหาสู่ท่านหลายปี ท่านเมตตามอบให้หมู่คณะ แล้วหลายคณะ ก็เลยขอท่านซ้ำอีก

ท่านก็งงว่า "อ้าวยังไม่ได้อีกหรือ?"

ท่านจึงให้มา ส่วนเครื่องรางที่องค์ท่านบอกว่า



"ของทำมาน้อย เราเป็นสายปฏิบัติ ไม่ใช่นักบู้ นักเลง ไม่ต้องเอา ให้พวกตำรวจ ทหารเขา"

"ยิงไม่ออก ออกก็ไม่เป็นไร"

ท่านว่าอย่างนั้น

๓ เรื่องไม้แหย่แย้ ครูบาอาจารย์สายไสย์ขาวฝั่งเขมร ท่านให้มา
ท่านบอกว่า ให้ไม้แหย่แย้ และ ไม้มหาราช พันรอบด้วยตะกรุดทองคำ ๗ แผ่น
เป็นชื่อของใครของมัน คนอื่นเอาไปใช้ไม่ได้

คนพาไปเขาอยากได้ ก็เลยชวนผมไปด้วย แต่ให้ผมออกค่าใช้จ่ายให้เขาก่อน
แต่ปัจจุบัน ท่านผู้นั้น ที่หอบหิ้วกันไปมาหลายสำนักอาจารย์

ท่านไปได้เหล็กไหลหนักเกือบๆ ๑๐ บาท จากครูบาอาจารย์(พระ) และปู่ฤๅษี สายภูเขาควาย

ตอนจะให้แค่ท่านจับดู ก็ซึมหาเข้าไปในมือ ปู่ต้องเรียกออกมาใหม่ ท่านบอกว่า

"ถ้าไปจับเหล็กไหลคนอื่น จะไม่ซึมหายเข้าไปในตัวหรือ?"

ท่านสั่งว่า ให้เปิดดูหลัง วันมาฆะบูชา แต่ช่วงที่เดินทางกลับ กทม เพื่อนเขาไปเปิดดูก่อนกำหนด ขณะเขาเข้าห้องน้ำ

ก็เลยหนีกลับภูเขาควาย ครูบาอาจารย์ต้องเรียกกลับมาให้ใหม่ ก็เลยคาราคาซังอยู่

แต่ก็ได้ขอท่านแล้วและท่านบอกว่า

"ให้ไปที่ สปป ลาวกับท่าน ท่านจะพาไปนั่งปฏิบัติที่ภูเขาควาย
ครบกำหนด ท่านจะเลือก องค์ที่ธาตุขันธ์เข้ากับเราได้ให้"

ปู่ฤๅษีจะข้ามมาไม่นาน เพราะท่านห่วงครูบาอาจารย์(พระ)ที่ชรามากแล้ว ของท่าน

ผมก็เลยยังไม่แน่ใจว่า จะมีโอกาส จะได้ไปหรือเปล่า

เพราะก็ไปรับปากครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆเอาไว้หลายเรื่องเหมือนกัน

เรื่องที่จะเรียนถามคือว่า

๑ ไม้แหย่แย้ ไม้มหาราช ที่พันรอบด้วย ตะกรุดทองคำ ๗ แผ่น และเป็นของใครของมัน ครูบาอาจารย์(พระ)ในเขมรเป็นผู้ทำ เป็นผู้สวดให้

มึคุณวิเศษ ประการใดบ้าง ใช้อธิฐานขออะไรได้บ้าง
ต้องบูชาอย่างไร? วันไหน ถี่ห่างอย่างไร?
ปัจจุบัน ห้อยคอเอาไว้ตลอดเวลา ไม่เคยถอด ออกเลย

๒ พระปรอท (พิมพ์หลวงปู่ทวด)ใช้ทำอะไรได้บ้าง? มีคุณวิเศษด้านไหน?

ครูบาอาจารย์ท่านบอกแค่ว่า

"ถ้าโดนพิษ แมลงสัตว์กัดต่อย ให้ใช้องค์พระถูที่ปากแผล เวลาเลี่ยม ให้เหลือ เนื้อองค์พระโผล่ออกมาบ้าง"

รู้แค่นี้เอง

๓ ได้รับ "คตขนุน" จากศิษย์องค์หลวงปู่ใหญ่มา(สายปู่โทน หลำแพร) ๓ องค์
มีคุณวิเศษ ด้านใดบ้าง บูชาอย่างไร อธิฐาน อย่างไร


ว่างๆจะลงรูปให้ดู

ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ ในจิตเมตตาของท่าน

ลุงมหา

ตัวผมเอง ในดวงมีดาวเป็น อุจจ์ ๔ ดวง อุจจาวิลาส กับ อุจจาภิมุข อีก อย่างล่ะดวง
และมีดาว ๖ เป็นเกษตรที่ราศี พฤษ อีกดวง

อันไหนบอกไม่ได้ทางหน้าจอ ก็ ขอเป็น พีเอ็มนะครับ

 

ว่านตาทิพย์...

หลังจากใช้ว่านไพลดำทำให้เกิดตาทิพย์แล้ว...ต้องใช้ว่านนี้ทาที่เปลือกตา

ให้ตากลับคืนมาอยู่ในสภาวะปกติเหมือนเดิม...ไม่งั้นตาจะบอดได้...

 

ประสพการณ์ไม่ธรรดาเลยนะครับ ลุงมหา

ผู้น้อยขอคารวะเลยครับ เรื่องที่ลุงมหาถามมา ผมขออนุญาติตอบดังนี้ครับ



๑ ไม้แหย่แย้ ไม้มหาราช ที่พันรอบด้วย ตะกรุดทองคำ ๗ แผ่น และเป็นของใครของมัน ครูบาอาจารย์(พระ)ในเขมรเป็นผู้ทำ เป็นผู้สวดให้

มีคุณวิเศษ ประการใดบ้าง ใช้อธิฐานขออะไรได้บ้าง
ต้องบูชาอย่างไร? วันไหน ถี่ห่างอย่างไร?
ปัจจุบัน ห้อยคอเอาไว้ตลอดเวลา ไม่เคยถอด ออกเลย


เรื่องตะกรุด ไม้มหาราช เอาที่เคยได้ยินมานะครับจริง เท็จจริงประการใดไม่ทราบ
ตะกรุดไม้มหาราช เป็นแนวของขลังที่ช่วยส่งเสริมแบบครอบจักรวาล
เรื่องชีวิต การเงิน อำนาจ ป้องกันตัว อะไรทำนองนั้นครับ
ส่วนเรื่องวิธีบูชานั้นผมไม่ทราบเลยครับ

จริงๆแล้วทั้งเรื่องคุณวิเศษ และการบูชา ตอนที่ลุงมหาได้รับมา ครูบาอาจารย์น่าจะบอกนะครับ

ไม่ทราบว่าตอนลุงมหารับมาท่านบอกอะไรบ้างครับ

แต่ที่ผมอยากรู้จริงๆ คือ ไม้แหย่แย้ ในตะกรุดของลุงมหานั้นใช่แบบเดียวกับที่ผมหาหรือเปล่าครับ

ถ้าใช่น่าจะเอามาทำของวิเศษแทนครับ เสียดายครับถ้าเอาไปทำแค่ตะกรุด

รบกวนลุงมหาโชว์รูปไม้แหย่แย้ข้างในได้มั้ยครับ อยากเห็นจริงๆครับ


๒ พระปรอท (พิมพ์หลวงปู่ทวด)ใช้ทำอะไรได้บ้าง? มีคุณวิเศษด้านไหน?

ครูบาอาจารย์ท่านบอกแค่ว่า

"ถ้าโดนพิษ แมลงสัตว์กัดต่อย ให้ใช้องค์พระถูที่ปากแผล เวลาเลี่ยม ให้เหลือ เนื้อองค์พระโผล่ออกมาบ้าง"

รู้แค่นี้เอง

เรื่องพระปรอท นี้เท่าที่รู้มานะครับ ใช้ป้องกันตัว ป้องกันภูติผีปีศาจ
(แต่ต้องรู้ไว้อย่างนะครับ ภูติผีปีศาจมีพลังหลายระดับ ถ้าเจอพวกที่พลังมากกว่าพระ พระก็ช่วยไม่ได้ครับ)

นอกจากนี้คุณสมบัติพื้นฐานของปรอทคือ ช่วยดูดพิษครับ ถ้าเป็นปรอทที่ผ่านการฆ่าพิษ และนำมาทำให้เป็นของแข็งแล้ว ไม่ว่าจะอยู่ในรูปไหน รูปลูกอม รูปพระ ล้วนใช่ได้เหมือนกัน

ว่ากันว่าถ้าเป็นปรอทฤทธิ์ที่มีพลังมาก ถ้านำมาอม ทุกวัน วันละ ชั่วโมง ครึ่งชั่วโมง จะทำให้เราสุขภาพแข็งแรง ไม่เป็นโรค และมีอายุยืน แก่ชราช้าลงครับ

ที่เวลาเลี่ยมท่านให้เหลือเนื้อองค์พระไว้เพื่อให้ ปรอทส่งพลังให้เราครับก็จะช่วยเรื่องสุขภาพเหมือนกัน

นอกจากนี้ บางสายยังใช้ปรอทเป็นตัวช่วยในการเจริญสมาธิฝึกพลังจิตด้วยครับ


๓ ได้รับ "คตขนุน" จากศิษย์องค์หลวงปู่ใหญ่มา(สายปู่โทน หลำแพร) ๓ องค์
มีคุณวิเศษ ด้านใดบ้าง บูชาอย่างไร อธิฐาน อย่างไร

เรื่องคตขนุนนี้ ผมไม่ทราบเลยครับ

 

สลับกันหรือเปล่าครับ

ที่ผมรู้มาคือ ว่านตาทิพย์ นำมาใช้ให้เกิดตาทิพย์ได้เลยครับ

แต่ต้องใช้ไพลดำในการล้างครับ ไม่งั้นตาจะบอด

ไม่ทราบว่าคุณ IStyll มีว่านตาทิพย์อยู่หรือเปล่าครับ ผมสนใจมาก

เรื่องที่ต้องใช้ไพลดำล้างผมคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ

ถ้าคุณมี ว่านตาทิพย์ อยู่เรามาจับมือกันมั้ยครับ

 

สมัยผมรุ่นๆ...เจ้าอาวาสวัดที่จ.เลย ท่านเล่าให้ฟังว่า มีพระธุดงค์เที่ยวหาของวิเศษต่างๆ มากว่า 30 ปี มาเจอไพลดำที่บ้านท่าน ซึ่งปู่ท่านเป็นคนหามาแต่เมื่อนานมาแล้ว แขวนไว้ที่ขื่อบ้าน...
ท่านเล่าให้ฟังว่า ที่ดินที่ไพลดำขึ้นนั้น ดินจะแข็งเหมือนหิน จอบฟันไม่เข้า และไม้อื่นจะขึ้นไม่ได้...มีงูใหญ่คอยดูแลอยู่ และมีสัตว์พิษอีกหลายชนิดคอยเฝ้า...
การจะขุดต้องใช้อ้อยดำ มาคั้นน้ำ ราดไปที่ดิน แล้วเอาต้นอ้อยดำที่บากเป็นปากฉลาม ขุดขึ้นมา...ซึ่งต้องมีการประกอบพิธีบวงสรวง เสี่ยงทาย ในการขอต้นไพลดำ...

ไพลดำที่ท่านมีนี้ มีดพร้า หั่นไม่เข้า ต้องผสมกับน้ำอ้อยดำเสียก่อน จึงจะหั่นได้ จากนั้นท่านก็ให้พระธุดงค์รูปนั้น เอามาบด ผสมรวมกับ ปรอทดำ และธาตุกายสิทธิ์อีกหลายชนิด ทำเป็นพิมพ์พระสมเด็จ ซึ่งทำให้พระสมเด็จมีเนื้อแกร่งเหมือนหิน หล่นลงพื้นไม่แตก มีประกายเลื่อมแววๆที่ท่านให้ดู ท่านบอกว่าคือ ปรอทดำ... คนทำได้ต้องสำเร็จวิชาปรอท จึงหุงให้เข้ากันได้...

ท่านให้ผมไว้องค์หนึ่ง บอกไว้ว่า สำหรับแก้คุณไสยของทางเขมรได้เป็นอย่างดี แต่มีข้อแม้ว่า ห้ามไม่ให้ผู้หญิงจับองค์พระ มิฉะนั้นแล้วพระจะยุ่ย...

ผมเคยใช้เพียงครั้งเดียวร่วมกับมีดหมอชาตรี ตอนที่โดนศิษย์พี่ที่วัดท่าซุงเล่นงานเข้า เมื่อหลวงพ่อตามคนที่โดนเล่นงานทั้งหมดไปเข้าพิธีถอน เวลานั้นผมติดว่าใกล้สอบ ไปไม่ได้ จึงตั้งพิธีอยู่กับบ้าน อธิษฐานในเวลาเดียวกับที่หลวงพ่อทำพิธีที่วัด...น้ำเปล่าๆที่ทำไว้เวลานั้น พอดื่มเข้าไปก็อาเจียรออกมา...จากนั้นก็หายจากอาการผิดปกติ...ประสบการณ์ก็มีแค่นี้เองครับ...

 

ผมได้มาจากเขาที่เมืองกาญจ...สรรพคุณของว่านผมฟังมาจากอาจารย์ชาว

กะเหรี่ยงครับ...เอามาปลูกไว้ 3 กระถาง..เมื่อประมาณ 4 ปีมาแล้ว ตอนนี้

ว่านตายหมดแล้ว...แต่ผมยังพอจำภูเขาที่ไปเอามาได้...คิดว่าคงกลับไปหาเจอ

 

อ่านกระทู้นี้ได้ความรู้ที่ไม่เคยรู้
เรียนถามว่า คตมะขามนี่...เราเอามาทำอะไรคะ

 

มีไม้อันเล็ก ๆอันหนึ่ง อันเล็ก๐ ไม่ใหญ่ ได้มานานแล้ว เห็นเขาบอกว่า มีติดตัวไว้จะเห็นงูก่อน....ผมก็ไม่เคยพกติดตัวเห็นเก่าแล้วกลัวจะเสียหายก่อน.

พกติดตัวแล้ว เห็นงูก่อน งูจะนิ่งเลย....ลักษณะ ไม้ มันจะเป็นเขี้ยวงูสองอัน รัดข้างไม้ไว้เหมือนเขี้ยวงู....

 

ท่านคิดว่า ของวิเศษ ของท่าน มันคืออะไรกันแน่ แล้ว ไสย์เวทย์ คือ อะไร?

ขออนุญาตครับ

ต้องขออภัย ไม่สามารถรื้อออกมาดูได้ ครูบาอาจารย์ท่านห้ามเอาไว้

ผมไม่ทราบว่า ท่านต้องการเอาไม้แหย่แย้ ไปทำอะไร
แต่สำหรับผมแล้ว ตลับว่านที่ปู่ฤๅษีให้มานั้น กว่าจะทำได้หมดไปหลายล้านบาท
ผมก็ไม่เคยลองใช้ทำอะไร คนในวงการต่างก็รู้ว่าเป็นว่านอะไร เอาไปใช้ประโยชน์อะไร

จนป่านนี้ผมก็อดภูมิใจนิดๆเมื่อพวกฤๅษี ถามผมว่า

"ท่านเป็นลูกศิษย์อาจารย์ผมหรือ?"

หรือแม้แต่เพื่อนร่วมรุ่น ถามผมว่า

"เอ็งเป็นลูกศิษย์ ของอาจารย์ ของอาจารย์ข้าเลยหรือ?"
"ไปหาท่านเจอได้อย่างไร? ขนาดผมได้ยินแค่ชื่อเท่านั้นเอง"

แต่ปู่เล่าให้ฟังว่า มีศิษย์เอาไปเล่นที่บ่อนที่เขมร
กินเขามา ประมาณ ๑๒๐ ล้านบาท
เพราะความโลภมากเกินไป ไม่มีขั้น ไม่มีเชิง
เลยโดนจับตัวไว้ ท่างบ่อนหาว่าไปโกงเขา
ญาติพี่น้อง ต้องหาเงิน ๒๐ ล้านบาทไปไถ่ตัวกลับมา จึงรอดมาได้
นี่ขนาด มีพ่อเป็นนายทหารยศพันเอก นะครับ ยังแทบจะเอาตัวไม่รอด

ปู่ฤๅษีระดับปรมาจารย์ รับศิษย์ที แจกเหล็กไหล ๕ บาท ผมยังไม่เอา
แค่ไปดู ไปรู้ ไปเห็น เท่านั้น

ไม่คิดจะส่งเสริมใครด้วย เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องของบุญบารมีเดิม ของใคร ของมัน

ใครมีบุญ บารมี ที่จะไปสายนั้น เขาผู้นั้น ก็จะมีสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม เหนี่ยวนำไปเอง

ผมไม่เคยคิดที่จะส่งเสริมใครให้ไปทางนั้นด้วย ใครอยากจะไป ก็ไปกันเอาเอง

ถ้าท่านอยากได้ ถ้าท่านอยากลอง ก็ขวนขวายช่วยตัวเอง

ครูบาอาจารย์มีมากหลาย หาไป หามา ก็จะเจอ ที่เหมาะสมกับตนเองได้

ว่าแต่ว่า หาของมาได้ ค่าทำพิธีเท่าไร ใครออก หรือ หาร สอง หาร สาม

ถ้าเชื่อมั่นในบุญบารมีของตน ครูบาอาจารย์สายธรรมยุติ ท่านบอกว่า

"แก้วสารพัดนึก ดีที่สุด ขออะไรก็ได้"

ผมมีลูกหนึ่ง เป็นของสายหลวงปู่ใหญ่ ตั้งแต่ได้มา ๑๐ กว่าปี ไม่เคยขออะไรเลย

คิดจะเล่นของพวกนี้ ต้องศึกษาให้รอบคอบ ต้องคิด ต้องพิจารณาว่า

ทำไมคนที่เขามี เขาถึงมีไว้เฉยๆ ทำไมเขาไม่ทำอะไรเลย

เคยดูหนัง ก๊อดฟาเธอร์ไหม ที่เขาบอกว่า

"แค่ให้คนเขารู้ว่าเรามีปืนก็พอแล้ว ไม่จำเป็นไม่ต้องเอามาอวดใคร"
"แค่ให้เขารู้ว่าเรามี ก็พอแล้ว"

กฏแห่งความสมดูล ก็กฏแห่งกรรมนั่นล่ะ

"ไปเอาของเขามา ก็ต้องใช้เขาคืน"
"ไม่ว่าชาตินี้ หรือ ชาติหน้า"

เอาเวลาไปสร้างกุศลผลบุญ ไม่ดีกว่าหรือ?

เราชาวพุทธ มีแนวทาง สร้างกุศลผลบุญมากมาย

สายพระธรรมบริสุทธิ์
สายพระโพธิ์สัตว์

ขอให้สายไสย์เวทย์ สายปู่ฤๅษี เป็นเรื่องของคนที่มีความเหมาะสมเถิดครับ
หลบได้หลบ เลี่ยงได้เลี่ยง
เพราะถ้าเขาไปพัวพัน ก็มีทางเดียว ถลำลึกขึ้นๆ

ตัวใครตัวมันละ่ทีนี้

คนที่เข้าไปแล้วออกมาได้มีน้อยแสนน้อย และผมก็เป็นหนึ่งในนั้น

ใครอยากจะเข้าไปก็คิด ก็พิจารณากันเอาเอง

ได้จะคุ้มเสีย หรือ ไม่?

ขอบคุณครับ

ลุงมหา