ประสบการณ์มโนมยิทธิ กรรม และเรื่องยุ่งๆของผม

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย softkid9, 18 กุมภาพันธ์ 2014.

  1. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    อนุโมทนาครับคุณน้องWhite Sage ถ้าไม่ติดงานกับโดนท่านผบ.ทบ.ใช้งาน ก็จะมาปั่นให้ได้อ่านกันเรื่อยๆครับ คิดซะว่าอ่านเรื่องของคนบวมๆคนนึง และมองในแง่ธรรมะ เผื่อจะได้ข้อคิดอะไรบ้างนะก๊าบ

    [​IMG]

    วันนี้เอาบุญมาฝากญาติธรรมครับ พอดีเมื่อครั้งล่าสุดที่ผมแวะไปกราบสมเด็จองค์ปฐมและสรีระหลวงพ่อที่วิหารแก้ว 100 เมตรมาเมื่อประมาณต้นเดือนกันยายนปีที่แล้ว ไปบูชาหนังสือธรรมะของหลวงพ่อที่ตึกรับแขกมาและได้ถวายสังฆทานกับหลวงพ่อพระครูปลัดอนันต์แล้วได้รับหนังสือธรรมะปฏิบัติ ข้างในมีใบแทรกเรื่องร่วมสร้างระฆังหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ 8 ปาง แต่ก็ทำงานยุ่งๆ อยู่ก็เลยชักจะลืมๆไป เมื่อคืนผมจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าเดือนนี้จะทำการเททองหล่อระฆัง ตอนเช้าวันนี้เลยไปค้นใบแทรกที่เก็บไว้ดู พอโทรถามทางวัดท่านได้แจ้งว่าจะทำพิธีเททองหล่อระฆังหมุนหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์สะเดาะเคราะห์รับพระเสวยอายุ 8 ปาง ในวันเสาร์ที่ 15 มีนาคม 2557 ซึ่งเป็นงานประจำปีของวัดท่าซุง พอดีเลยผมนั่งแคะกระปุกบาตรวิระทะโยมาแลกเงินไปโอนทำบุญ 108 บาท เลยนำมาให้อนุโมทนาบุญกันครับ

    วันนี้ว่าจะคุยถึงเรื่องการห้อยสร้อยพระกับครับ ญาติธรรมทุกท่านเคยได้คุยกับเพื่อนๆหรือญาติๆกันบ้างไหมครับ เรื่องการบูชาและห้อยพระเครื่อง ผมว่ามีถึงร้อยละห้าสิบเลยทีเดียวเกี่ยวกับการเถียงเรื่องการห้อยพระเครื่อง

    1. บางคนก็ว่าห้อยไว้ปกป้องคุ้มครองตัวเอง (ถ้าไม่ถึงที่ตายละก้อกันได้ครับถ้ามีความเคารพในพระรัตนตรัย)

    2. บางคนห้อยเพื่อเป็นพุทธานุสสติ (อันนี้กันตกนรกครับ)

    3. บางคนก็บอกว่าบูชาที่ใจห้อยไม่ห้อยก็เหมือนกัน (อันนี้ก็มีเหตุผลนะครับ แต่มีไว้ติดตัวดีกว่า เพราะเวลางานเข้าแบบพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกอันนี้ก็ตัวใครตัวมันเหมือนกันละก๊าบ[​IMG])

    4. บางคนก็ว่าห้อยแล้วกินเหล้าไม่ค่อยสะดวก เกรงใจพระ (อืม!อันนี้ก็ยังเกรงใจพระ)

    5. บางคนก็ห้อยไว้โชด์ว่ามีพระราคาแพงคนนิยมไว้บูชา (อันนี้เสี่ยงต่อการโดนทุบแล้วแฮบพระไปหมดทั้งคอครับ)

    6.อ้อ!เกือบลืมอันสุดท้ายนี้ครับ ถ้าขาดไปแล้วละก็ขาดรสชาติในการบ่นหมด เคยเห็นไหมครับ พระเครื่องที่เจาะรูที่กรอบด้านหน้า เพื่ออะไรรู้ไหมครับ ท่านเจ้าของท่านบอกว่าเจาะรูเพื่อให้พลังพระออกมา ไม่งั้นเวลามีอันตราย พลังของพระจะออกมาช่วยไม่ได้ อืมๆ!อันหลังนี้ผมมึนๆงงๆแฮะ แต่จริงๆแล้วอำนาจคุณพระรัตนตรัยนี้ไม่มีขอบเขต ไม่มีอะไรขวางกั้นได้ และมีอยู่เต็มจักรวาล อยู่ที่ว่าผู้ใดจะน้อมนำมาใช้เพื่อประโยชน์ของตนเองในทางสัมมาทิฏฐิโดยที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่น

    [​IMG]

    ว่ากันตามประวัติศาสตร์ก่อนนะครับ จริงๆแล้วพระพุทธรูปส่วนการสร้างพระพุทธรูปจริงๆ นั้นเริ่มมีการสร้างขึ้นมาตั้งแต่ระหว่าง พ.ศ. 500 ถึง 550 เมื่อชาวกรีกโดยพระเจ้าเมนันเดอร์ที่ 1 หรือ พระยามิลินท์ กษัตริย์เชื้อสายกรีก ยกทัพกรีกเข้ามาครอบครองแคว้นคันธาราฐ (ปัจจุบันเป็นดินแดนของอัฟกานิสถาน) จากนั้นพระองค์ก็แผ่อาณาเขตไปทั่วบริเวณด้านตะวันตกเฉียงเหนือของชมพูทวีป และสร้างเมืองหลวงเป็นที่ประทับ ณ เมืองสากล (Sakala) หลังจากที่ได้พบพระสงฆ์ท่านหนึ่งนามว่า พระนาคเสน จึงมีเรื่องราวแห่งการตั้งคำถามของพระเจ้ามิลินท์ต่อพระนาคเสน จนทำให้พระเจ้ามิลินท์ ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา (คำถามคำตอบปุจฉาวิสัชนาเรื่องนี้ก็คือ มิลินทปัญหา) ได้มีการสร้างสถาปัตยกรรม และประติมากรรมทางพุทธศาสนามากมายในแคว้นคันธาราฐ ซึ่งการสร้างพระพุทธรูปนั้นมีลักษณะต่างๆ ตามพุทธประวัติ พระพุทธรูปองค์แรกจึงเกิดขึ้นในสมัยของพระเจ้ามิลินท์ หรือเมนันเดอร์ที่ 1 ชาวกรีกที่มาครอบครองแคว้นคันธาราฐ เมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 6 หรือ 2,000 ปีที่แล้วนั่นเอง พระพุทธรูปที่เกิดขึ้นครั้งแรกจึงเรียกรูปแบบของพระพุทธรูปนี้ว่า แบบคันธาราฐ โดยช่างนั้นเข้าใจว่าเป็นชาวกรีก จึงถ่ายแบบอย่างเทวรูปที่พวกชาวกรีกนับถือกันในยุโรปมาสร้าง พระพุทธรูปแบบคันธาราฐจึงมีใบหน้าเหมือนฝรั่งชาวกรีก จีวรก็เป็นริ้วเหมือนเครื่องนุ่งห่มของเทวรูปกรีก และต่อมาในภายหลัง ราวพุทธศตวรรษ ที่ 4 - 12 มีคตินิยมสร้างพระพุทธรูปเป็นขนาดเล็กๆ (พระเครื่อง) บรรจุไว้ในเจดีย์

    [​IMG]

    สำหรับคนไทยนั้น สมัยโบราณปกติพระเครื่อง พระบูชา คนสมัยก่อนท่านมักจะนำไปไว้ที่วัดกันซะเป็นส่วนใหญ่ การที่จะนำมาติดตัวนั้นก็มักจะเป็นเวลาศึกสงคราม โดยมากจะใช้ลวดถักพระเครื่องห้อยคอ หรือใช้ผ้าประเจียดห่อมัดไว้ที่ต้นแขนบ้าง ที่คอบ้าง บางคนก็อมไว้ในปาก ก็แล้วแต่ชอบใจ แต่เวลารบกันนั้น ท่านเล่าว่าอาราธนาพระตอนก่อนออกรบ แล้วก็ออกไปรบ ถ้าใครถึงที่ตาย แล้วอารมณ์นั้นจับอยู่ที่พระเครื่องที่อาราธนาเพื่อคุ้มครองตัวเองและประเทศชาติ หลวงพ่อท่านว่าตายแล้วไปเป็นเทวดาตามกำลังของบุญ แต่ถ้าใครจิตเศร้าหมองอันนี้ก็ตัวใครตัวมันละครับ

    [​IMG]

    แต่จริงๆแล้วสำหรับตัวผมเองนั้นห้อยพระเพื่อคุ้มครองตัวเองและเป็นพุทธานุสสติ ระลึกถึงพระพุทธองค์กันการตกนรกครับ และยึดเหนี่ยวจิตใจไม่ให้ทำสิ่งที่ไม่ดี และระลึกอยู่เสมอว่าถ้ามันถึงที่ตายก็ไม่เครียด ไม่เสียใจ มันจะตายก็ช่างมัน รำคาญร่างกายสังขารจังเลยครับ เดี๋ยวก็เจ็บโน้น ปวดนี้ ปวดฉี่ ปวดอึ หิวโน้น หิวนี่ เดี๋ยวก็ทุกข์โน้น นี่ นั้น อะไรกันนักหนาว้อย โอ้ยเยอะแยะบรรยายไม่หมด สุขก็สุขนิดเดียว อ้าวเดี๋ยวทุกข์อีกแล้ว

    พระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพาน พระอรหันต์ท่านก็ละสังขารเข้านิพพาน ครูบาอาจารย์ที่สร้างพระเครื่องท่านก็ต้องตายเหมือนกัน ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า รวมความว่าทั้งคนสร้างและคนบูชาก็ต้องตายเหมือนกัน ฉะนั้นเราต้องไม่ลืมความตายที่ผมและญาติธรรมนั้นกำลังนับเวลาเดินถอยหลังไปหามันอยู่ครับ เปรียบเหมือนนาฬิกาทรายที่เหลือทรายน้อยลงทุกที

    [​IMG]

    อันนี้เป็นคาถาที่ผมใช้อาราธนาพระทุกเช้าครับ


    (ก่อนจะว่าคาถาให้ ตั้งนะโม ๓ จบก่อน แล้วยกพระเครื่องขึ้นพนมมือ อาราธนาคาถาด้านล่างนี้ ก่อนจะออกจากบ้านทุกครั้ง)

    อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่ มะอะอุ นี้ด้วยเถิด

    (ว่า ๓ จบ)

    ขอบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ คุณพระธรรม พระอริยสงฆ์ ครูบาอาจารย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายอันมี หลวงปู่ปานวัดบางนมโค หลวงพ่อฤาษีลิงดำเป็นที่สุด ท่านผู้มีพระคุณทุกท่าน ท่านปู่ท่านย่าพระอินทร์ เทวดาที่คุ้มครองตัวข้าพเจ้า เทวดาที่คุ้มครองวัตถุมงคลของหลวงพ่อทุกชิ้น วันนี้ลูกไปทิศทางไหนก็ขอให้ได้กำไร ค้าขายก็ขอให้ได้เงินสด วันนี้ลูกขอกำไรซัก สามสี่พันบาทด้วยเถิด
    (หลวงพ่อท่านบอกไว้ว่าการที่เราจะระลึกถึงพระพุทธเจ้าเพื่อเป็นพุทธานุสสติหรือจะขอให้ค้าขายดีมีกำไรก็ขึ้นชื่อว่าระลึกถึงพระพุทธองค์เหมือนกัน ส่วนจะได้หรือไม่ได้นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ฉะนั้นด้วยความที่ผมเปิดร้านทำธุรกิจ เรียกง่ายๆว่าพ่อค้า ผมก็เลยทำทั้งสองอย่างเลยครับทั้งระลึกถึงพระพุทธองค์และขอให้ค้าขายดีมีกำไร)

    ถ้าท่านใดสนใจอยากทราบว่าผมห้อยพระอะไรอยู่ ว่างๆจะมาเล่าให้ฟังครับ เพราะผมก็รอดมาด้วยอำนาจพระรัตนตรัยตอนโดนรถพ่วง 18 ล้อชนนั้นละครับ แล้วพระที่ผมห้อยก็ไม่ได้มีราคาแพงด้วย แต่ผมไม่ได้มาเชียร์หรือปั่นราคาพระนะคร้าบ อย่าเข้าใจเก๊าผิดนะแค่อยากเล่าน่ะ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2014
  2. therd2499

    therd2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +3,209
    พระหางหมาก กับพระคำข้าวหรือเปล่าครับ ผมก็ห้อยคออยู่2 องค์นี้พอแล้ว

    พุทธคุณประมาณมิได้
     
  3. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    สาธุครับคุณ therd2499 ถ้าจำไม่ผิดวันที่รถผมไปชนกับรถพ่วง 18 ล้อ วันนั้นผมห้อยพระคำข้าว ลูกแก้วสารพัดนึกยุคแรก สมเด็จหลวงปู่นาควัดระฆัง พระยี่สิบห้าพุทธศตวรรษเนื้อดิน พระภูทราวดีเนื้อดิน ครับ ส่วนตอนนี้ผมห้อยผ้ายันต์พิชัยสงคราม เหรียญพระปัจเจกพุทธเจ้าวัดเขาแร่ เหรียญหลวงปู่ปานหลวงพ่อฤาษีสร้างปี2526 สมเด็จหลวงปู่นาควัดระฆัง พระคำข้าว ทุ่งเศรษฐีเนื้อดินรุ่น 100 ปี สมเด็จองค์ปฐมวัดโขงขาวพิมพ์ใหญ่

    "สัตว์โลกยังต้องเดินทางอีกไกลนัก"

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2014
  4. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    [​IMG]

    โอ้ยๆๆๆๆๆอยากกินแห้วจริงๆเลยว้อย ฮิ้วๆ ขับรถนั่งทับเลขท้าย2ตัวอยู่ทุกวัน วันนี้ขอบ่นเรื่องหวยหน่อยนะครับ ญาติธรรมทุกท่านโปรดอย่าเข้าใจว่าผมเป็นคนดี หรือ เป็นผู้ที่ทรงธรรมะนะครับ เพราะที่จะเล่าให้ฟังนี่ก็เป็นความเลวอีกอย่างของผมครับ คือส่วนตัวนี่ผมกับแฟน(ท่านผบ.ทบ.)มักจะเสี่ยงโชคซื้อสลากหรือล็อตเตอรี่เป็นประจำงวดละใบสองใบ ก็เป็นปกติของคนที่ยังต้องทำมาหากินครับ เหงื่อไม่ออกก็ไม่ได้เงินละครับ ก็ไม่รู้จะหวังอะไร จะให้เราไปจี้ ปล้น ชาวบ้านเค้าก็ทำไม่ได้ จะให้ไปโกงคนอื่นเค้าก็ไม่อยากมีหนี้กรรมกับใครแล้ว แหมปกติแฟนผมมักจะซื้อเลขท้ายรถตัวเองคือ 179 ซื้อมาเป็นปีแล้วมานก็ไม่ออกซักกะที พองวดนี้ฝันกุ๋งกิ๋งอะไรก็ไม่รู้ เลยไปซื้อเลขที่ฝัน อ้าวๆๆๆๆมานดันออก 79 เต็มๆครับ ถ้าไม่ฝัน แฟนผมก็ซื้อ 179 โลดแล้วครับ (คิดในใจว่าเอ่อชีวิตเมิงเป็นหยั่งงี้นะ เจอกันแค่ชาติเดียวนี่ละว่ะ) แล้วก็เลขท้ายรถยนต์นายกยิ่งลักษณ์ 404 ออกท้ายที่หนึ่ง (อันนี้ต้องซื้อใต้ดินนะก๊าบ) เมื่อวานนี้ผมนั่งอ่านข่าวนายกล้มที่ร้านก๋วยเตี๋ยวที่เชียงใหม่
    (ผมไม่ใช่ทั้งเสื้อแดงหรือเสื้อสีอะไรนะครับ มีสีเดียวคือสีท่าจะอยากลาโลกนี้อยู่เต็มทน ชีวิตนี้ถ้ามันจะตายเมื่อไหร่ ผมดีใจมีความสุขเมื่อนั้นละครับ)ก็เห็นเลขทะเบียนท้ายรถ 5404 แถวบ้านผมเค้าพูดกันว่ามีแต่เสาไฟกับหลักกิโลที่ไม่ถูกหวย อ้าวแล้วเราอะเป็นอะไรดีว้า นี้ก็เป็นธรรมดาของโลกมนุษย์ครับ โลกก็เป็นปกติของมันอย่างนี้ มีแต่ความไม่แน่นอน อะไรก็ไม่ค่อยจะได้ดังใจ มีอารมณ์มากระทบใจทั้งวัน ทำให้ใจเราสุขมั่งทุกข์มั่งไม่เสมอกัน

    [​IMG]

    แต่ที่จะเล่าให้ฟังนี่คือหลวงพ่อท่านเมตตาเล่าไว้ให้ฟังถึงคนที่มีโชคเค้าทำบุญกันอย่างไร
    ตัดตอนจากหนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาธรรมะ พิเศษ เล่ม 3 หน้า69-70

    หลวงพ่อกล่าวว่าสมัยบวชใหม่ๆ หลวงพ่อปานบอกว่า ถ้าจะให้ทานคนขอทานอย่าให้เขาพูดมากหมายความว่า พอมาถึงไม่ต้องให้ยกมือไหว้พูดขอ ถ้าเขาจะขอก็บอกไม่ต้องฉันให้แล้ว ฉันเต็มใจให้แล้ว คือว่าเราจะให้ใคร อย่าให้เขาพูดมาก อย่าให้เสียเวลา ให้เร็วๆ ที่สุด ตั้งใจเป็นการสงเคราะห์จริงๆ แล้วผลมันให้ชาตินี้ ฉันทดสอบมาแล้วเป็นความจริง ถ้าเกิดไปชาติหน้าจะได้ลาภสองแบบ หมายความบุญที่มีการเตรียมการ จะร่ำรวยจากการประกอบอาชีพ และที่ถือของไปตามทางเจอะที่ไหนให้ที่นั่น โดยไม่ตั้งใจไว้ก่อน จะได้ลาภลอย คือ ถูกล๊อตเตอรี่

    การให้ทานโดยไม่เตรียมการไว้ก่อน ใครมาก็ได้เราให้ได้ ถ้าทำอย่างนี้เสมอๆ คนมาขอทาน เราไม่ยอมให้พูดขอ รีบควักเลย แล้วมันจะมีผลในชาตินี้ คือสิ่งที่เราขัดข้องคิดว่าจะไม่ได้มันจะโผล่ เราก็ให้เท่าที่เราจะให้ได้ เขาไม่บังคับเรานี่ พอทำไปไม่กี่ปีก็เริ่มให้ผลของที่จะได้มามันมาการคล่องตัวมากขึ้น

    แต่เวลาให้ เราอย่างไปคิดถึงผลอันนี้นะ ต้องให้ด้วยการสงเคราะห์จริงๆ คือตัดไปเลย มันได้เท่าไรก็ช่าง ถ้าไปคิดว่าเราต้องการให้เพื่อต้องการผลตอบแทนผลจะถูกตัดเพราะเป็นการให้ทานประกอบด้วยความโลภ

    พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า ตุลิตะ ตุลิตัง สีฆะ สีฆัง ธรรมของเรามิใช่เป็นเครื่องเนิ่นช้า ต้องเร็วๆ ไว ๆ

    แฮ่ๆที่ผมมาเล่านี่ก็เผื่อญาติธรรมได้อ่านความเลวของผมแล้ว ได้ข้อคิดที่เป็นธรรมะ แก้กลุ้มตอนที่ยังอยู่ในโลกนี้ครับ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2014
  5. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    [​IMG]


    [FONT=&quot] แฮะๆ[/FONT]![FONT=&quot]หายไป ไม่ได้มาบ่นในกระทู้ตัวเองเป็นเดือนเลยครับ แว่บไปโพสกระทู้น้องเฟมมา พอดีเมื่อตอนเดือนที่แล้วคุณพ่อผมท่านได้เสียชีวิตลง คืนแรกที่รู้ว่าคุณพ่อผมเสียชีวิต วันรุ่งขึ้นผมก็โอนเงินไปทำบุญสังฆทานที่วัดท่าซุงสาขาที่ 9 วังน้ำเขียว นครราชสีมา กับหลวงพ่อทวีเดช และโอนเงินร่วมทำบุญหล่อพระพุทธรูปพระพุทธเจ้า [/FONT]118 [FONT=&quot]พระองค์ ณ วัดพระพุทธบาทน้ำทิพย์ สกลนคร กับหลวงพ่อบุญมี เพื่ออุทิศให้คุณพ่อ เป็นการป้องกันคุณพ่อตกนรกและฝากปู่พระยายมท่าน ถ้าคุณพ่อผมผ่านมาสำนักของปู่พระยายมให้ช่วยบอกให้คุณพ่ออนุโมทนาบุญนี้ด้วย [/FONT]

    [FONT=&quot]นี่เป็นวิธีกันคนที่เรารักตกนรก ที่หลวงพ่อพระราชพรหมยานหรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำของพวกเรา ท่านได้เมตตาสั่งสอนไว้ ผมซึ่งตั้งตัวเองเป็นศิษย์รุ่นจิ๋วของท่านแล้วต้องฉลาดในการทำบุญครับ ซึ่งผมแน่ใจว่าคุณพ่อของผม ท่านไปสุขคติภูมิแน่นอน คนอื่นใครเค้าจะเชื่ออย่างไรก็ตามใจเขา ผมเชื่อของผมเช่นนี้ ผมก็ทำตามที่ผมเชื่อไป ซึ่งหลังจากที่เสร็จพิธีกรรมทางศาสนาตามประเพณีนิยมแล้ว เวลาผมทำบุญอะไรก็ตาม ผมจะอุทิศบุญเอ่ยชื่อให้คุณพ่อผมทุกครั้ง เพราะคนเรามีโอกาสทำบุญกุศลได้ตลอดเวลา ไม่ต้องรอให้ครบรอบวันตายหรือทำบุญ 100 วันหรอกครับ แล้วสิ่งแรกที่จะเกิดขึ้นกับตัวเราก็คือตัวเราเป็นผู้ที่จะได้บุญตามที่ได้ทำนั้น 100 %[/FONT] [FONT=&quot]ครับ แล้วผู้ที่เราอุทิศให้นั้นก็จะได้รับ 100 % เช่นกันครับ

    [/FONT]
    [FONT=&quot]เมื่อสมัยก่อนผมเป็นคนที่ชอบคิดอะไรแปลกๆ เช่นเคยได้ยินคนที่หมอดูทักว่าเป็นคนมีบุญมาเกิด ผมก็จะคิดว่าแล้วตรูละเฟ้ย ไม่เห็นทักว่าตรูเป็นผู้มีบุญมาเกิดมั่งง่ะ เก๊าก็อยากจะเท่นะ ตอนนี้รู้แล้วครับว่าอยากจะเป็นคนที่มีบุญก็ต้องทำบุญสิครับ ถึงจะเป็นผู้ที่มีบุญจริง ไม่ต้องให้ใครมาทักเรา เราทำของเราเอง เราก็มั่นใจในบุญของเรา[/FONT][FONT=&quot]

    โดยปกติแล้วคุณพ่อผมท่านมักจะเอ่ยกับผมอยู่เสมอว่า[/FONT]“[FONT=&quot]พ่อจะขอเกิดชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายแล้ว พ่อเบื่อสังขารและร่างกายของพ่อเต็มทน[/FONT]” [FONT=&quot]ส่วนตัวของคุณพ่อผมท่านเป็นผู้ที่ทรงพรหมวิหารสี่เป็นปกติ ชอบช่วยเหลือผู้คนและสัตว์ที่เดือนร้อนมาขอความช่วยเหลือจากท่าน ซึ่งท่านมีแต่ให้ ไม่เคยคิดที่จะทวงคืนจากใครเลย และคุณพ่อผมท่านเป็นคนที่ชอบสวดมนต์ไหว้พระทุกวัน วันนึงสวดได้เป็นพันจบ[/FONT] [FONT=&quot]ท่านศรัทธาหลวงพ่อพุทธโสธรและหลวงพ่อพุทธชินราชมาก ซึ่งในอดีตท่านเคยไปบวชที่วัดหลวงพ่อโสธร ส่วนหลวงพ่อพุทธชินราชนั้น ก่อนที่คุณแม่ผมจะตั้งท้อง ตอนคุณพ่อผมท่านไปอบรมที่เมืองพิษณุโลกนั้น ท่านได้บนกับหลวงพ่อพุทธชินราชเพื่อให้มีลูกผู้ชาย ซึ่งก็สำเร็จกลายมาเป็นผมในทุกวันนี้นั้นละครับ

    [/FONT]
    [FONT=&quot]ตอนที่คุณพ่อผมป่วยหนักก่อนจะเสียชีวิตไม่กี่วันนั้น ผม คุณแม่ และแฟนผม(ท่านผบ.ทบ.)ไปเยี่ยมท่านที่โรงพยาบาล ซึ่งท่านอยู่ห้อง [/FONT]icu[FONT=&quot] ตอนที่เดินทางกลับกลางทางได้กลิ่นหอมธูป หอมมาก หอมคล้ายๆธูปแขกประมาณนั้น หอมอยู่ซักพักนึงก็หายไป ผมเข้าใจว่าตอนนั้นดวงจิตของคุณพ่อผมท่านเป็นห่วงเลยตามมาส่ง ตามที่ผมทราบมานั้น ผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ถ้ากลับมาหาคนใกล้ชิดแล้วสิ่งแรกที่พอจะสัมผัสได้นั้นก็คือกลิ่น ถ้าผู้ที่อยู่ภพภูมิที่เป็นทุคตินั้น กลิ่นจะออกไปทางกลิ่นเหม็นเน่า กลิ่นสาบสาง แต่ถ้าเป็นสุขคติเช่นสวรรค์นั้นมักจะเป็นกลิ่นดอกไม้หอมเย็นๆ ส่วนถ้าเป็นพรหมนั้นมักจะเป็นกลิ่นธูปครับ[/FONT][FONT=&quot]

    [/FONT]

    [FONT=&quot][FONT=&quot][​IMG][/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]

    [FONT=&quot][FONT=&quot]วันนี้ท่าน ผบ.ทบ.ท่านนึกคลึ้มใจอะไรก็ไม่ทราบ อยากจะระลึกความหลัง สมัยจีบกันใหม่ๆ เลยชวนผมไปขี่แมงกะไซด์ทำบุญกันเถอะ เลยไปกราบรอยพระพุทธบาทตากผ้าและวิหารแก้วสมเด็จองค์ปฐมวัดป่าซางงามแล้วก็ทำบุญค่าไฟฟ้าของวัดอุทิศให้คุณพ่อผม เลยนำภาพมาฝากให้อนุโมทนากัน
    [/FONT]

    สุดท้ายนี้อยากจะฝากให้ญาติธรรมทุกท่านอย่าลืมพิจารณามรณานุสสติหรือความตายกันนะครับ อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผมนั้น เป็นลูกเผาศพพ่อ แต่มันก็ไม่แน่เสมอไป บางคนพ่อแม่เผาศพลูก บางคนก็ไม่มีใครทันเผาใครเพราะตายพร้อมกันหมด รวมความว่าอย่าประมาทในความตาย เพราะมันอาจจะเกิดกับเรา คนในครอบครัวเรา วันนี้ พรุ่งนี้ก็ได้
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    (
    รอยพระพุทธบาทตากผ้า วัดพระพุทธบาทตากผ้า จังหวัดลำพูน)[/FONT]


    [FONT=&quot][​IMG][/FONT]


    [FONT=&quot](วิหารแก้วสมเด็จองค์ปฐมวัดป่าซางงาม จังหวัดลำพูน)

    [/FONT]
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 2701_resize.JPG
      2701_resize.JPG
      ขนาดไฟล์:
      261 KB
      เปิดดู:
      1,646
    • 2711_resize.JPG
      2711_resize.JPG
      ขนาดไฟล์:
      256.7 KB
      เปิดดู:
      1,564
    • 2703_resize.JPG
      2703_resize.JPG
      ขนาดไฟล์:
      277.1 KB
      เปิดดู:
      2,045
    • 2706_resize.JPG
      2706_resize.JPG
      ขนาดไฟล์:
      229.9 KB
      เปิดดู:
      1,882
    • 2707_resize.JPG
      2707_resize.JPG
      ขนาดไฟล์:
      239.6 KB
      เปิดดู:
      1,831
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 เมษายน 2014
  6. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743
    สาธุค่ะพี่เก่ง รอพี่มาปั่นกระทู้เหมือนกัน เห็นเงียบไปนานเลยค่ะ อิอิ

    ขออนุโมทนาบุญในความกตัญญูของพี่เก่งด้วยนะคะ และขออนุโมทนาในบุญกุศลของคุณพ่อของพี่ด้วยค่ะ (อยากแสดงความยินดีที่ท่านได้ไปยังสุขคติภูมิ แต่ก็กลัวว่าอาจจะมีบางท่านที่ไม่เข้าใจก็เป็นได้ว่า เอ๊ะ มีคนเสียชีวิตแล้วทำไมถึงยินดี ทั้งนี้ก็เพราะว่าเรื่องการตายนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่จะต้องเกิดกับทุกคน แต่การตายแล้วไปยังภพภูมิใดนั้นถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญยิ่งกว่าค่ะ และท่านที่ได้ไปยังภพภูมิที่ดีนั้น ถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีบุญและความดีในตนเอง และมีโชคอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสสร้างสมบุญบารมีที่ยิ่งๆขึ้นไปจนกว่าจะหลุดพ้นค่ะ)

    วันนี้ได้พาคุณแม่ไปทำบุญที่วัดท่าซุง จ.อุทัยธานีเหมือนกันค่ะ ได้ทำบุญหลายอย่างเลย และก็ได้ชมวัดอย่างเป็นทางการครั้งแรกในชีวิตด้วย สุดยอดมากๆค่ะสำหรับศิษย์ปลายแถวอย่างเฟม อิอิ :p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 เมษายน 2014
  7. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    อนุโมทนากับน้องทั้งสองคนครับ ขอบคุณน้องเฟมด้วยนะครับ ปกติคนไทยเค้ามักจะถือกันเรื่องคนใกล้ชิดที่เสียชีวิต จะกล่าวคำที่แสดงความเสียใจ แต่พวกเราน่าจะจัดเข้าแก๊งส์ขาดๆเกินๆเลยไม่ค่อยจะถือธรรมเนียมประเพณีนิยมครับ อนุโมทนากับน้องเฟมที่พาคุณแม่ไปกราบพระที่วัดท่าซุงด้วยจ้า แค่ได้เห็นสถานที่ที่หลวงพ่อท่านได้สร้างและรวมศรัทธาของบรรดาศิษย์พี่ศิษย์น้องก็ชื่นใจแล้วครับ

    โดยปกติเวลาผมไปวัดท่าซุง อย่างแรกที่จะทำ นั้นคือไปกราบสมเด็จองค์ปฐมในวิหารแก้วก่อนแล้วนำเงินในบาตรวิระทะโยที่ผมใส่บาตรทำบุญทุกคืนก่อนนอน คืนละบาทสองบาท ห้าบาทสิบบาทมั่ง ไปใส่ในตู้ที่วิหารแก้วร้อยเมตรและตึกรับแขก มีประมาณ 20 ตู้ เรียกได้ว่าไปที่เดียวบุญครบทุกอย่าง และที่ขาดไม่ได้คือแลกเหรียญทองที่นำไปหยอดใส่พานหน้าพระจุฬามณีจำลองซึ่งพลังบุญแรงมากครับ เวลาเราทำบุญแสงบุญที่เกิดขึ้นนี้จะพุ่งไปยังพระจุฬามณีที่ดาวดึงส์ ซึ่งเข้าใจว่าหลวงพ่อท่านอธิฐานจิตไว้ มีบันทึกที่คุณชาโดว์ลูกศิษย์ของหลวงพ่อท่านเขียนไว้ว่า

    "...พลังบุญเหรียญทอง หรือทำบุญด้วยทอง เป็นการสละของที่มีค่ามาก พลังบุญจะแรงมาก และพระยายมราชท่านจะบันทึกชื่อผู้ที่ทำบุญด้วยทองนี้ไว้ในบัญชีทอง ผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีทองนี้ เมื่อสิ้นชีวิตให้รับผลบุญก่อนเลย โดยไม่ต้องสอบสวนหรือลงโทษ"

    อย่าเพิ่งเชื่อพี่นะครับ ลองทำดูก่อนแล้วพิสูจน์ด้วยกำลังใจดูว่าจริงมั๊ย มีผู้ที่เขียนหนังสือประสบการณ์
    วิญญานและการอุทิศบุญซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อเหมือนพวกเรานี่ละครับ กล่าวถึงการทำบุญเหรียญทองไว้ด้วย

    เสร็จแล้วก็ไปทำบุญสังฆทานชุดละ 100 บาท ต่อด้วยกราบสรีระของหลวงพ่อท่านแล้วก็ไปตึกรับแขกเป็นที่สุดท้ายที่ผมจะแวะก่อนเดินทางกลับ ซึ่งสิ่งที่มีค่าที่สุดนั้นก็คือหนังสือธรรมะที่หลวงพ่อท่านได้ทิ้งไว้ให้เป็นมรดกธรรมครับ ผมไม่เคยเห็นที่ไหนที่หนังสือธรรมะจะถูกกว่าค่ากับข้าวอีกแล้ว เช่นหนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาธรรมะเล่ม 1 - 11 เล่มละ 10 บาท ย้ำว่า 10 บาท จริงๆครับ ส่วนเล่มอื่นก็มีราคาตั้งแต่
    15 - 75 บาทซึ่งพิมพ์ด้วยกระดาษธรรมดา แต่ถ้าพิมพ์ด้วยกระดาษอย่างดีปกแข็งอาบมันก็มีราคาตั้งแต่ 100 -200 บาทซึ่งจะมีหนังสือประวัติหลวงปู่ปาน ครูบาอาจารย์ที่หลวงพ่อพระราชพรหมยานนับถือ สมบัติพ่อให้ เป็นต้น เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดของผม เวลาผมไปทีไรก็ไปบูชามาทีละสิบยี่สิบเล่ม พออ่านจบก็แบ่งให้เพื่อนๆผมที่ศรัทธาได้อ่าน ถ้าเล่มไหนผมมีซ้ำกันสองสามเล่ม ผมก็ไปบริจาค
    โลด ให้เรือนจำที่จังหวัดลำพูนมั่ง จังหวัดเชียงใหม่มั่งได้บุญธรรมทานอีกด้วยครับ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ตุลาคม 2014
  8. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743
    55 จริงค่ะพี่เก่ง เรียกได้ว่า่ขาดๆเกินๆจริงๆค่ะ เพราะเรื่องแบบนี้ส่วนใหญ่คนเค้าจะถือกัน ถ้าเป็นกระทู้อื่นไม่กล้าเขียนค่ะ กลัวโดนว่า - -*

    จริงๆตอนแรกลังเลอยู่เหมือนกันว่าจะพิมพ์ดีไหม แต่เดาเอาว่าพี่น่าจะเข้าใจค่ะ แฮ่ๆ ถ้าผิดพลาดอันใดต้องขออภัยด้วยนะคะ (กันเหนียวไว้ก่อน)

    ตอนคุณพ่อเฟมเสีย เฟมก็รู้สึกมีปมอยู่ในใจนิดๆเหมือนกันค่ะ เพราะก่อนท่านเสียเราทะเลาะกับท่านไว้ เรียกได้ว่าก่อนท่านจากเราดันไปทำไม่ดีกับท่านไว้

    แต่พอได้พบกับท่านแล้วตอนฝึกมโนมยิทธิครึ่งกำลัง บอกตรงๆเลยว่าดีใจมากที่เราได้พบท่าน ได้กราบขอขมาท่านเพื่อลบสิ่งที่ค้างคาใจ จนหลังๆรู้สึกดีใจแทนที่คุณพ่อซึ่งเสียชีวิตกระทันหัน(เดาว่าน่าจะอุปฆาตกรรม) ได้อนุโมทนาบุญไปสวรรค์แทน ซึ่งเป็นบุญใหญ่ที่ลูกคนนี้จะกระทำเพื่อตอบแทนคุณของท่านได้แล้วค่ะ

    ส่วนเรื่องเหรียญทอง พลาดจริงๆค่ะ ไม่ได้ไปทำเลย ได้แต่อนุโมทนาบุญของพี่แทนค่ะ

    และเรื่องความประทับใจนี่ เป็นอย่างที่พี่บอกมาจริงๆค่ะ ท่านสร้างวัด สร้างถาวรวัตถุต่างๆเพื่อให้เราลูกหลานได้มีโอกาสมาสร้างสมบุญบารมีแห่งการหลุดพ้นจริงๆค่ะ ถึงแม้ว่าจะเกิดไม่ทันท่าน แต่ได้มีโอกาสปฏิบัติตามคำสอนของท่าน ที่ทำให้เราได้ใกล้กับความดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เราได้ใกล้ชิดกับท่านยิ่งกว่าการอยู่ใกล้กับขันธ์ 5 ของท่านเสียอีก แค่นี้ก็ภูมิใจแล้วค่ะ
     
  9. choto

    choto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +330
    ขออนุโมทนาในกุศลกรรมของพี่เก่งกับพี่เฟมนะครับ

    ไม่กล้ามาตอบกระทู้ช่วงนี้เสียท่าพญามารไปเยอะ รู้สึกอายๆ พี่ๆก้าวหน้าไปมาก แต่ผมนี่สิ นับวันยิ่งจะถอยหลังเข้าคลอง ไอ้ปกติก็ไม่ค่อยจะมีดีอยู่แล้ว นี่เสียท่าพญามารโดนปู้ยี่ปู้ยำซะเละเทะ

    วัดท่าซุงผมยังไม่มีโอกาสไปเลยครับ ตั้งใจจะไปปีที่แล้วแต่ก็ไม่ได้ไป อยากไปกราบสมเด็จองค์ปฐมองค์จริงเสียเหลือเกิน เห็นในรูปแล้วพระรูปพระโฉมของพระองค์ช่างงดงาม ทำให้กิเลสที่ปกคลุมหัวใจพลอยระงับลงไปบ้าง วันนั้นที่ไปฝีกมโนมยิทธิที่ศูนย์พุทธศรัทธา สมเด็จองค์ปฐมที่วิหารของที่นั่นก็ช่างสวยงาม เห็นแล้วรู้สึกเอิบอิ่มใจ ตราตรึงใจมากเลยครับ ผมมักจะนึกถึงพระรูปโฉมของพระองค์ให้เป็นพุทธานุสติ ถ้ามีโอกาสเมื่อไหร่จะไปกราบพระที่วัดท่าซุง

    ส่วนเรื่องหนังสือของหลวงพ่อ ผมไปที่บ้านสายลม วันก่อนฟาดไป ๖ เล่ม เรื่องจริงอิงนิทานเล่ม๑ - ๓ ไตรภูมิ ตายไม่สูญ...แล้วไปไหน กับมงคล ๓๘ และอุทุมพริกสูตร ที่จริงอยากได้มากกว่านี้ แต่โรคทรัพย์จางมันรักษาไม่หายเลยได้มาแค่นี้
     
  10. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    น้องต๋องไม่ต้องคิดมากครับ พี่ก็ยังไม่ได้เป็นคนดีนะก๊าบ เพราะพี่ยังเห็นสาวๆขาวๆหมวยๆว่าสวยอยู่นี่แสดงว่ารัก โลภ โกรธ หลง นี่มีครบ และก็ยังเดินเล่นปากบ่อนรกอยู่เป็นปกติครับ แต่ก็พยายามให้อยู่ในศีล 5 น้องต๋องอย่าเครียดเน้อ เรื่องทางโลก เราก็ปล่อยให้เป็นไปตามเรื่องของโลก แต่ศีล 5 จะเว้ามั่งแหว่งมั่งก็ช่างมัน พยายามรักษาไปเรื่อยๆครับ ผมนี่สมาทานศีล 5 ทุกวัน แล้วก็พยายามตรวจดูว่าในแต่ละวัน ก่อนจะนอน เราศีลขาดตรงไหน แล้วพยายามควบคุมตัวเองให้ได้ แรกๆจะขาดๆเกินๆก็ไม่เป็นไรนะครับ เวลาเราใจคอไม่ค่อยจะสบายนักก็นึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและหลวงพ่อของเรา ใจเราช่วงนั้นก็สงบและเป็นสุขแล้ว ฮ่าๆๆส่วนโรคทรัพย์จางนี่พี่ก็เป็นอยู่ปกติครับ โรคนี่เป็นโรคติดต่อรักษาไม่หาย เวลาเป็นแล้วอยากจะไปอยู่บ้านใหม่ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย
    [​IMG]

    [​IMG]

    อ้อ!ลืมถามน้องต๋องไปแล้วนี่น้องยังปรารถนาพุทธภูมิอยู่รึเปล่าหรือลาแล้ว พี่นี่ลาเรียบร้อยแล้วครับ เพราะสายนี้เวลาเจออะไรหนักๆรู้สึกว่าจะต้องเจอมากกว่าคนปกติเค้า ต้องใช้คูณสองคูณสามเข้าไป เนื่องด้วยเป็นสายที่เรียนวิชาครูเพื่อไปสอนคนอื่นเค้าต้องโดนหนักเป็นพิเศษครับ แปลกและจริงอย่างที่หลวงพ่อท่านเคยบอกไว้รวมความว่าพุทธภูมินี่จะพูดถึงพระนิพพานยังไงก็ยังไม่อยากจะไป เพราะต้องรื้อขนสัตว์โลกเสียก่อน แต่พอลาปุ๊บใจจะจับอยู่ที่พระนิพพานจนกว่าจะตายกันไปข้างนึงละครับ ที่พูดได้นี่เพราะใจผมก็เป็นแบบนี้เปี๊ยบเลย

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 เมษายน 2014
  11. choto

    choto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +330
    ขออนุโมทนากับพี่เก่งครับ

    เรื่องปรารถนาพุทธภูมินี่ผมยังไม่ลาครับ อธิษฐานหลังสวดมนต์ทุกครั้ง เมื่อก่อนก็คิดว่าจะทำกิจของพระนิพพานให้เสร็จสิ้นเสียแต่ชาตินี้ไปเลย เพราะบางทีรู้สึกเบื่อหน่ายกับความวุ่นวายของโลกเหมือนกัน แต่คิดไปคิดมา ไม่ขอลาดีกว่า ขอบำเพ็ญบารมีเพื่อที่จะเป็นนาถะของโลก ผมอยากเหนื่อยครับ (ช่วงนี้ก็เหนื่อยพอตัวอยู่แล้วครับ) ฮ่าๆๆ เตรียมใจไว้แล้วว่าจะต้องเจอของหนัก หนักแค่ไหนก็ต้องสู้ครับ ขออนุโมทนาในกุศลจิตที่พี่ได้ลาแล้วนะครับ
     
  12. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    สาธุกับน้องต๋องและน้องเฟมนะครับ ถ้าถึงเวลาไปบ้านใหม่ของผมเมื่อไหร่ และพุทธภูมิทั้งสองท่านยังไม่ลาแล้วละก็ จะช่วยเหลือสนับสนุนโพธิญาณของทั้งสองท่านครับ


    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]-->
    [FONT=&quot]ท่านพ่อพระโพธิสัตว์ศรีอาริยเมตไตรย

    [/FONT]
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 เมษายน 2014
  13. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743
    สาธุ อนุโมทนาบุญกับพี่เก่งและน้องต๋องด้วยนะคะ เรื่องบททดสอบของพุทธภูมินี่ หนักจริงๆ ตั้งแต่เกิดมาเจอแต่ละอย่างเล่นเอาเพลียเหมือนกัน แม้จะเห็นอายุแค่ 26 ก็ตาม แต่ชีวิตที่ผ่านมาทั้งกรรมที่เข้ามากับตัวเองโดยตรง เข้ามากับครอบครัว เรียกได้ว่าไม่น้อยเลย แต่ขอไม่พูดละกันนะคะ

    พอคิดขึ้นมาดีๆ ก็พบว่า บารมี(กำลังใจ)ที่มีอยู่ในตัวเราจะเป็นตัวช่วยให้เราสามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆไปได้จริงๆ รวมถึงบุญกุศลที่ได้เคยทำมาด้วย ทั้งสองสิ่งนี้จะเป็นตัวช่วยในการบำเพ็ญบารมีพระโพธิญาณ

    วิธีที่เคยทำๆมาก็คือ ทรงพรหมวิหาร 4 และอาศัยการพิจารณาในวิปัสสนาญาณ พิจารณาร่างกายของเราว่าไม่ใช่ตัวเรา จนเห็นว่าสิ่งต่างๆที่เกิดกับตัวเรานั้นเป็นเพราะจิตไปยึดกับร่างกายและเกิดการปรุงแต่งในขันธ์ 5 ตามมา เมื่อจิตเห็นอย่างนี้และตัดร่างกายของตัวเองไปแล้ว เราก็จะเกิดปัญญาในการเผชิญหน้ากับปัญหาที่เข้ามาค่ะ ว่าจะต้องแก้ไขอย่างไร รักษากำลังใจคนในครอบครัวอย่างไร สรุปว่าใช้ทั้งสมถะและวิปัสสนาญาณเกื้อกูลกันเท่าที่ทำได้ค่ะ

    แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่าทำได้เพียงเล็กน้อยนะคะ บารมียังไม่มากพอที่จะทรงไว้ได้ตลอดทั้งฌานและวิปัสสนาญาณ แต่ก็พอให้ผ่านบททดสอบที่ผ่านมาได้แบบมีพรหมวิหาร 4 และอโหสิกรรมให้อภัยคนเหล่านั้น ทั้งนี้สิ่งที่แปลกอย่างหนึ่งก็คือ เวลาเกิดเหตุอะไรขึ้นมา มักจะมีความคิดหรือจิตใจที่แปลกๆอยู่เสมอ

    เช่นตอนที่คุณพ่อเสียในขณะที่มีวิกฤติรุมเร้าครอบครัว (ตอนอายุ 14 และยังไม่ได้ปฏิบัติธรรม) ขณะที่ร้องไห้อยู่ อยู่ดีๆจิตมันก็เอ๊ะขึ้นมาและมองดูอารมณ์ตัวเองว่าทำอะไร ร้องไห้ทำไม แล้วจิตก็นึกไปถึงสิ่งที่เคยอ่านว่า "คนเราที่เกิดมานั้น เคยร้องไห้เพราะโศกเศร้าเสียใจให้กับความพลัดพรากของบุคคลอันเป็นที่รัก ซึ่งรวมหยดน้ำตานั้นแล้วได้มากกว่าสี่มหาสมุทรเสียอีก" พอนึกขึ้นได้เท่านั้น เลิกร้องไห้ทันที คิดอย่างเดียวว่าต้องมองไปข้างหน้าว่าจะทำอย่างไร และหลังจากนั้นเราก็ไม่ร้องไห้อีกเลยในงานศพคุณพ่อ จนจะเผานั่นแหละคุณแม่ถึงต่อว่าเรื่องที่เราไม่ร้องไห้ (คือแม่คิดว่าเราไม่รักพ่ออ่ะค่ะ เหอๆ) - -*
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 เมษายน 2014
  14. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743
    แต่ว่ากรรมบางอย่างก็เกินกำลังใจของเราจริงๆค่ะ พยายามทรงพรหมวิหาร 4 ก็แล้ว วิปัสสนาญาณก็แล้ว แต่กรรมก็ขวางกำลังจิตไม่ให้รวมตัว และอีกอย่างตัวเฟมเองก็มีอิทธิบาท 4 ไม่เพียงพอด้วย พอเห็นดังนี้แล้ว เลยนึกขึ้นมาได้ถึงความสำคัญของบารมีและบุญที่จะช่วยเราในการปรารถนาพุทธภูมิ และรู้แล้วว่ากรรมบางอย่างถ้าเกินวิสัยของเรา เราก็ต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนกว่าบารมีจะเพิ่มขึ้นและผ่านวิบากกรรมต่างๆได้ดังเช่น หลวงปู่ปานและหลวงพ่อค่ะ (ซึ่งก็คงอีกนาน ก็ค่อยๆทำสะสมทีละเล็กทีละน้อยค่ะ)

    ส่วนเรื่องการปรารถนาพุทธภูมิกับพระนิพพาน ยอมรับว่าช่วงแรกๆที่ปรารถนาพุทธภูมิ ใจเรายังคิดว่าต้องเกิดอีกเยอะ แต่รักพระนิพพาน เลยคิดว่าปรารถนาไปพระนิพพานชาติหน้าในอนาคตกาล(คือตอนที่บรรลุพระโพธิญาณ)ดีกว่าค่ะ

    แต่หลังจากเจอวิบากกรรมล่าสุดที่ไม่ผ่านนี่ ยอมรับเลยว่าจากการวิปัสสนึกและวิปัสสนาญาณแล้ว การเกิดและการรับผลของกรรมนี่เป็นทุกข์จริงๆ จิตเลยรักพระนิพพานและปรารถนาจะไปพระนิพพานมากขึ้น และเพิ่งอ่านเจอว่าหลวงพ่อท่านสอนไว้ถึงการเกาะวิปัสสนาญาณและการศึกษาการละสังโยชน์ของพุทธภูมิ เลยมานั่งทบทวนถึงตอนที่เคยฝึกมโนมยิทธิและไปพระนิพพาน จนได้คำตอบกับตัวเองว่า ถ้าเกิดพุทธภูมิไม่มีความเป็นพระอริยะจริง แต่ยังฝึกมโนมยิทธิแล้วไปพระนิพพานได้ แสดงว่าสามารถฝึกฝนและทรงอารมณ์การละสังโยชน์ได้เช่นเดียวกับสาวกภูมิที่เอาจริงเอาจังในการละสังโยชน์เพื่อไปพระนิพพานได้อย่างแน่นอน ดังนั้นสิ่งที่หลวงพ่อสอนจึงมีความเป็นไปได้ในเรื่องการเรียนรู้สมถะภาวนาและวิปัสสนาญาณในกรรมฐาน 40 และสังโยชน์ 10 ของพุทธภูมิค่ะ (อันนี้คิดเอาเองหมดเลยนะคะ)

    ดังนั้นส่วนตัวชาตินี้จึงหวังเพียงทรงพรหมวิหาร 4 และเกาะอารมณ์ละสังโยชน์ได้บ้าง 1 วินาทีก็ยังดี สะสมไปเรื่อยๆเพราะบารมี(กำลังใจ)เรายังไม่สูง และตั้งใจไว้ว่าถ้าชาตินี้ตายเมื่อไหร่ขอไปพระนิพพานเหมือนกันค่ะ เพื่อฝึกฝนกำลังใจให้เกาะในวิปัสสนาญาณและละสังโยชน์เช่นเดียวกับสาวกภูมิด้วย

    และทั้งหมดนี้ก็เป็นที่มาของคำอธิษฐานใหม่ที่ปรารถนาพระนิพพานในชาตินี้และปรารถนาพระโพธิญาณค่ะ ซึ่งส่วนตัวมองแล้วสองสิ่งนี้ไปด้วยกันได้และไม่คัดค้านกันแต่อย่างใดค่ะ

    พูดเรื่องพุทธภูมิซะยาวเลย ขออนุโมทนาบุญกับพี่เก่งที่รักษาอารมณ์ใจในพระนิพพาน และความตั้งใจที่จะมาช่วยเหลือกันด้วยนะคะ
    __________________
     
  15. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    ด้วยกระทู้นี้เป็นกระทู้ของคนที่ไม่ค่อยจะปกติ คือขาดบ้างเกินบ้าง ญาติธรรมที่ได้แวะเวียนเข้ามาอ่านและเยี่ยมชมต้องทำใจและอ่านคำเตือนนี้ก่อนนะครับ ไม่เช่นนั้นอาจจะเป็นไปด้วยกัน ตามๆกันได้ เตรียมใจไว้ก่อนจะได้ไม่เครียด วันนี้ผมมีเรื่องจะมาบ่นให้ฟังกันอีกแล้วครับ

    [​IMG]


    เนื่องจากเมืองไทยเราการใช้บริการขนส่งสาธารณะนั้นอาจจะไม่สะดวกสบายเหมือนกับประเทศในแถบยุโรป ซึ่งเค้ามีการเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายใยแมงมุม ด้วยเหตุนี้บ้านเราจึงเป็นที่ที่บริษัทรถทั้งญี่ปุ่นและยุโรปมาตั้งฐานการผลิตและลูกค้ารายใหญ่ก็พี่ไทยเรานี่ละครับ แต่ประเด็นก็คือปกติถ้าญาติธรรมที่ไม่ได้อยู่ในต่างจังหวัดแล้วละก็อาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจวัฒนธรรมหรือลักษณะนิสัยในการขับรถของผู้ที่อยู่ต่างจังหวัดนะครับ

    ซึ่งหนึ่งในนั้นมีผมอยู่ด้วย ถึงแม้ผมจะไปวิ่งงานที่จังหวัดชลบุรีมาหลายปีก็ตาม ผมก็ยังขับรถไม่เกิน 100 กม./ชม.เป็นปกติครับ มักจะมีคนแซวผมว่าเต่ากัดยางบ้าง หรือนี่รีบแล้วยังขับอยู่แค่เนี๊ยะนะ รู้มั๊ยก๊าบว่าผมต้องสู้และฝ่าฟันกับอะไรบ้าง เอาเป็นข้อๆละกัน

    1. ท่านผบ.ทบ.ท่านไม่เคยขับรถเองเลย (เพราะขับรถไม่เป็น อันนี้เป็นความฉลาดของท่านครับห้ามเลียนแบบ) เวลาถามหัดขับรถให้เอามั๊ย ท่านถามกลับมาว่าจะเอาเสาต้นไหนอะ เหนื่อยเลยครับงานนี้
    [​IMG]

    2. เนื่องด้วยผมเป็นผู้ชายและท่านผบ.ทบ.เป็นผู้หญิง เวลามีอะไรให้หวาดเสียวในขณะขับรถ เช่นรถคันอื่นเบียดแซงบ้าง ตัดหน้าบ้าง อะไรบ้าง ท่านจะต้องมีส่งเสียงเตือนก่อนเป็นปกติของท่านครับ เช่น ว้าย วี๊ด ระวัง โอ๊ย อะไรของท่านก็ไม่รู้ บางครั้งคนขับซึ่งก็คือผมส่งเสียงไม่ได้ในขณะเวลาคับขัน เพราะต้องใช้สมาธิ

    3. เนื่องด้วยจากผลการทดสอบจากสถาบันอะไรก็ไม่ทราบและนิตยสารรถยนต์รวมทั้งหน่วยงานของรัฐ ท่านโฆษณาของท่านว่าอัตราการประหยัดน้ำมันนั้นควรใช้ความเร็วไม่เกิน 80 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผมก็เชื่อ ก็ท่านว่าของท่านอย่างนั้น

    ในความเข้าใจของผม ถ้าเราขับรถเร็วกว่านี้ การที่เราจะเหยียบเบรคเพื่อให้รถหยุดนั้นจะต้องใช้ระยะทางที่มากขึ้นและเสี่ยงกับการที่รถเสียการทรงตัวหรือพลิกคว่ำและเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ถึงผมจะเบื่อสังขารผมแค่ไหนก็ตามแต่ผมคงไม่ใช้วิธีนี้ในการลดจำนวนประชากรของโลกแน่ๆครับ เพราะเกิดคนขับซึ่งก็คือผมอีกนั้นแหละ ไม่ตายจริง แต่ดันพิการ เลยต้องอยู่อีกนานเลยทีนี้ ไม่เอาดีกว่า

    แต่ประเด็นคือเดี๋ยวนี้รู้สึกว่าหลายๆท่านจะขับรถใจร้อนกันมากขึ้นกว่าแต่ก่อนนะครับ เมื่อซัก 10 ปีก่อน ขับรถมีน้ำใจและใจเย็นกันมากกว่านี้เยอะเลยครับ อาจจะด้วยปัจจัยหลายอย่างทั้งเหตุการณ์บ้านเมือง ปัญหาในครอบครัว การทำมาหากิน ราคาน้ำมัน เศรษฐกิจโลก และอื่นๆอีกมากมาย (ยิ่งถ้ามีลูกสามเมียสี่นี่คงตัวใครตัวมันละก๊าบ)

    เนื่องด้วยผมอยู่ในเขตจังหวัดเชียงใหม่ – ลำพูน ฉะนั้นเวลาขับผ่านรถยนต์ที่มาจากจังหวัดอื่น ผมมักจะสังเกตได้ดังนี้ครับ เนื่องด้วยภาคเหนือตอนบน ถ้าไม่ใช่ในแหล่งธุรกิจ หรือเขตโรงเรียนใหญ่ๆละก็ รถมักจะไม่ค่อยติดครับ แล้วถนนแถวเส้นซุปเปอร์ เชียงใหม่ – ลำปางด้วยแล้ว มีความคล่องตัวดี (ถ้าไม่เจอไฟแดงนะครับ) แต่เวลาเจอรถทะเบียนเมืองหลวงแล้วละก็ ถึงจะไม่ใช่ทุกคัน ย้ำว่าไม่ใช่ทุกคันนะครับ แต่ก็มีหลายคันก๊าบ ท่านจะทำดังนี้คือ ถนนที่เป็นวันเวย์และมีสองเลน เวลาเราอยู่เลนซ้ายมือท่านก็จะขับรถมาจ่อตูด (ตูดรถนะครับไม่ใช่ตูดผม) ถ้าเราเพิ่งจะเปิดไฟเลี้ยวขวาเพื่อจะแซงรถคันหน้าที่อยู่เลนซ้ายและขับช้า ท่านมาจากไหนก็ไม่รู้มาจ่อตูดรถอีกแล้ว และท่านก็เปิดไฟสูงใส่เราเพื่อให้เราหลีกทางไปเสียดีๆอย่าให้มีการเสียเหงื่อและเลือดเนื้อ พอเราหลีกทางให้ ท่านก็แซงเราไปแล้วก็แซงซ้ายรถคันหน้า ปาดขวา แล้วก็หายจ้อยไปเหมือนเวลาผีหลอกในโทรทัศน์น่ะครับ แว้บเดียวจริงๆ ก็ไม่ทราบว่าท่านจะใช้สโลแกนที่ว่า เป้าหมายมีไว้พุ่งชนรึเปล่า


    ก็อยากจะให้ญาติธรรมที่ได้แวะเข้ามาอ่านโพสนี้ได้เป็นข้อคิด
    และไม่ประมาทในการดำรงชีวิตและใช้รถใช้ถนนครับ คงไม่มีใครอยากที่จะได้ยินเสียงไซเรนไฟวาบหรือสัญญานฉุกเฉินของรถกู้ภัย EMS 1669 ที่วิ่งมารับ[FONT=&quot] ถ้า เพียงแค่ขับรถด้วยใจที่เอื้อเฟื้อ มีน้ำใจในท้องถนน เมาไม่ขับ ง่วงก็ให้จอดพัก ล้างหน้าล้างตา แวะร้านเจ็ดยี่สิบเอ็ดซะ เพียงแค่นี้ภาพเหล่านั้นก็จะไม่เกิดขึ้น แต่พึงระลึกอยู่เสมอนะครับว่าเราทุกคนมีกรรมเป็นของตัวเอง ไม่มีใครที่อยู่ค้ำฟ้าและเป็นอมตะ[/FONT]ครับ (ถ้าท่านใดอ่านเจอข้อความนี้ต้องส่งต่ออีก 999 คน ท่านจะโชคดี เอ๊ย เพลินเลยตู ไม่ใช่ครับคือถ้าท่านใดอ่านโพสนี้ ถ้าขับเจอรถญี่ปุ่นกลางเก่ากลางใหม่ สีเขียวๆ แถวเชียงใหม่ – ลำพูน และขับด้วยความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชม. ก็อย่าไปจ่อตูดเลยนะก๊าบสงสารผมเต๊อะ)

    [​IMG]

    [​IMG]

    สุดท้ายนี้นำเอาธรรมะเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก 3 สิ่งในโลกมาฝากกันครับ
    การได้เกิดมาเป็นมนุษย์เป็นของยาก การอุบัติของพระพุทธเจ้าเป็นของยาก การได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้วพบพระพุทธศาสนาเป็นเรื่องยากยิ่งกว่า

    พระพุทธองค์ทรงอุปมาเปรียบเทียบไว้ว่า
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนมหาปฐพีนี้มีน้ำเป็นอันเดียวกัน บุรุษโยนแอกซึ่งมีช่องเดียวลงไปในมหาปฐพีนั้น ลมทิศบูรพาพัดเอาแอกนั้นไปทางทิศประจิม ลมทิศประจิมพัดเอาไปทางทิศบูรพา ลมทิศอุดรพัดเอาไปทางทิศทักษิณ ลมทิศทักษิณพัดเอาไปทางทิศอุดร เต่าตาบอดมีอยู่ในมหาปฐพีนั้น ต่อล่วงร้อยปีๆ มันจะโผล่ขึ้นคราวหนึ่งๆ เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน เต่าตาบอดนั้น ต่อล่วงร้อยปีๆ มันจะโผล่ขึ้นคราวหนึ่งๆ จะสอดคอให้เข้าไปในแอกซึ่งมีช่องเดียวโน้นได้บ้างหรือหนอ?..

    ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้อที่เต่าตาบอด ต่อล่วงร้อยปีๆ มันจะโผล่ขึ้นคราวหนึ่งๆ จะสอดคอเข้าไปในแอกซึ่งมีช่องเดียวโน้นเป็นของยาก.

    พระพุทธองค์ตรัสว่า“ฉันนั้นภิกษุทั้งหลาย การได้ความเป็นมนุษย์เป็นของยาก พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าจะอุบัติในโลกเป็นของยาก ธรรมวินัยที่พระตถาคตประกาศแล้วจะรุ่งเรืองในโลกก็เป็นของยาก ความเป็นมนุษย์นี้เขาได้แล้ว พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าอุบัติแล้วในโลกและธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศ แล้วก็รุ่งเรืองอยู่ในโลก ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละเธอทั้งหลายพึงกระทำความเพียรเพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา


    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๑ สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค -ฉิคคฬสูตรที่ ๒ ว่าด้วยการได้ความเป็นมนุษย์ยาก​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 เมษายน 2014
  16. arron_chris

    arron_chris เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +155
    อ่านแล้วได้กำลังใจและแง่คิดดีมากๆเลยคับ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน รวมถึงตัวเองด้วยนะครับ รีบมาต่อนะครับ ติดตามของทุกท่านอยู่
     
  17. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    อานุโมทนาเช่นกันครับ คุณ arron_chris แฮ่ๆมีแฟนเพจเพิ่มอีกคนแล้ว เดี๋ยวจะรีบปั่นให้อ่านอีกเรืิ่อยๆก๊าบ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2014
  18. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    [​IMG]

    สวัสดีครับ วันนี้ผมมีเรื่องทุกข์ หรือทุกขังนั้นละครับ ถ้าญาติธรรมท่านใดที่ไม่ค่อยมีเรื่องทุกข์หรือบางคนก็ทุกข์บ๊อยบ่อยลองอ่านเรื่องนี้ดูอาจจะได้ธรรมะดีๆสักข้อก็ได้ครับ

    เรื่องราวที่ผมจะเล่านี้เป็นเรื่องของผู้หญิงคนนึงที่ผมและท่านผบ.ทบ.นับถือเป็นพี่สาว รู้จักกันได้สัก4-5ปีแล้วละครับ สมมุติว่าแกชื่อพี่แหม่มละกัน เมื่อก่อนพี่แหม่มแกมีเงินเก็บเยอะครับรวมบ้านและที่ดินด้วยก็เกือบๆ 10 ล้านได้ เนื่องด้วยแกไปทำงานที่ญี่ปุ่นมาเกือบ 20 ปี ไปทำงานเป็นมาม่า ไวไว เอ๊ย มาม่าซังครับ แกเป็นคนขยันและเก็บเงินเก่ง ปกติการโอนเงินแกต้องจ้างพวกใต้ดินโอนเงินกลับมาไทย แต่ต้องทำความเข้าใจซะก่อนว่า ปกติถ้าไม่ได้แต่งงานกับคนญี่ปุ่นแล้ว เราถือวีซ่าประเภทไหนก็อยู่ได้แค่นั้น นอกนั้นเค้าเรียกกันว่าหนีวีหรือวีซ่านั้นเอง เพราะถ้าตำรวจจับได้ละก็ ส่งกลับประเทศหมดครับ ก่อนที่แกจะไปทำงานที่ญี่ปุ่น แกมีลูกผู้ชายคนนึงแล้ว พอไปทำงานที่ญี่ปุ่นแกก็เจอกับคนไทยด้วยกันที่นั้นแล้วก็อยู่กินมีลูกกันอีก 2 คน ถ้าถามว่าที่เมืองไทยแกมีครอบครัวมั๊ย แกเลิกกับแฟนเก่าก่อนที่เดินทางไปญี่ปุ่นแล้วครับ แต่ตอนประมาณปี 49 พี่แหม่มแกโดนตำรวจญี่ปุ่นจับได้และส่งกลับไทย ขณะที่ลูกชายคนกลางแกอายุ 2 ขวบและลูกคนเล็กที่ยังอยู่ในท้องอายุประมาณ5 เดือน แต่ด้วยความที่แม่ของพี่แหม่มแกมีลูกหลายคนและแต่งงานใหม่หลายครั้ง นับๆดูแกมีพี่น้องประมาณเกือบๆ 10 คนครับ

    ที่ผมต้องเล่าปูพื้นไว้ก่อนเพราะจะได้ไม่งงและเข้าใจเรื่องทั้งหมด แต่เรื่องราวที่ผมตั้งใจจะเล่าให้ฟังทั้งหมดเกิดขึ้นนับตั้งแต่นี้ไปครับ คือพ่อเลี้ยงและแม่แท้ๆ รวมทั้งพี่น้องบางคนของแก ใช้วิธีสารพัดที่จะหลอกเอาเงินจากแกไป เช่นบ้านที่กรุงเทพซื้อเป็นทาวน์เฮ้าส์แล้วก็ขายเอาเงินไปซื้อบ้านใหม่ในโครงการ 3-4 ล้าน สุดท้ายก็หลุด ต้องย้ายไปอยู่บ้านน้องสาวพี่แหม่มที่ปทุมธานี บ้านและหอพักที่ภาคเหนือก็ไม่โอนคืนเป็นชื่อพี่แหม่ม เพราะตอนซื้อเค้าใส่ชื่อน้องสาวคนละพ่อแต่แม่เดียวกันของพี่แหม่ม น้องชายก็มาขอยืมทะเบียนรถไปเข้าไฟแนนซ์ สุดท้ายก็ไม่ได้ส่ง ไฟแนนซ์ก็มายึดรถไป น้องคนสุดท้อง(คนนี้เสียชีวิตไปเมื่อปี 55)น้องคนนี้มาอาศัยอยู่กับพี่แหม่มที่บ้านเอื้ออาทรที่สันทราย บอกว่าจะส่งค่าบ้านเอง แล้วก็เบี้ยวไม่ส่งค่าบ้านสามเดือนเองครับ การเคหะหรือแบงค์ ธอส.ก็ไม่ทราบ ยกเลิกสัญญา ขายต่อให้คนอื่นไปเลย ทุกวันนี้พี่แหม่มแกต้องรับเย็บผ้าโหลส่ง ตกตัวละประมาณ 4.40 บาท อ้าที่สุดยอดกว่านั้นคือลูกชายคนโตของแกอายุประมาณ 32 มาขออาศัยอยู่ด้วย ตอนมาใหม่ๆก็ดีอยู่หรอกครับ ตอนนี้ทั้งเหล้า บุหรี่ ยาบ้า ครบทุกอย่างเลยครับ ส่วนลูกชายคนกลางอยู่กับปู่ย่า ส่วนลูกคนเล็กเป็นโรคหัวใจและพูดไม่ชัด คนเล็กนี่ต้องดูแลกันไปตลอดชีวิตละครับ อ้อ!แล้วตอนนี้แกอาศัยอยู่กับคนอื่นเค้านะครับ มอเตอร์ไซต์ยังไม่มีเป็นของตัวเองเลย เฮ้อ!.....

    [​IMG]

    เป็นไงกันบ้างครับ อ่านดูแล้วยังอยากเกิดกันอยู่อีกมั๊ยเอ่ย ผมและท่านผบ.ทบ.ก็คอยช่วยพี่แหม่มอยู่ห่างๆ ที่เราพอช่วยได้ ที่ไม่เกินความสามารถของตัวเราครับ เพราะผมก็ยังไม่สบาย และเหนื่อยกับอีกหลายๆอย่าง อีกทั้งคุณพ่อผมเพิ่งจะเสียเมื่อเดือนที่แล้ว ยังมีเรื่องอีกเยอะ แค่ทรัพย์สินของคุณพ่อก็ยังไม่ได้แบ่งแยกชัดเจนเลย พี่น้องคนละแม่ของผมที่เหลืออยู่ประมาณ 7 คน แต่ท้องผมนี่คุณแม่ของผมมีผมคนเดียว ยังมีเรื่องสนุกรอผมอยู่อีกเยอะครับ ถ้าเกิดผมตายก่อนก็สบายเราละ เพราะถึงตอนนั้นเราไม่มีกายหยาบแล้ว ก็ต้องทิ้งไว้ให้เป็นสมบัติของโลกละก๊าบ ตอนนี้ก็วางใจให้ไม่เครียด ทุกวันนี้แค่ทำมาหากิน ดูแลครอบครัว และใช้ชีวิตประจำวันก็เอือมและระอาเต็มทนแล้วครับ ก็ไม่เป็นไร ถ้าถึงเวลาย้ายบ้านใหม่ของผมเมื่อไหร่ละก้อ สุขเมื่อนั้นละครับ อิๆ
    [​IMG]

    วันเวลาในโลกนี้เรายังเหลือกันอีกซักเท่าไหร่


    [​IMG]

    ลากันด้วย พระพุทธเจ้าสอนว่า นัตถิ โลเก อนินทิโต คนที่ไม่ถูกนินทาเลยไม่มีในโลก ถึงเราจะถูกนินทาถ้าเราเป็นคนดี เขานินทาว่าเราเป็นคนชั่ว เราก็ไม่ชั่วไปตามคำเขาพูด ถ้าเราเลว เขาสรรเสริญเราว่าดี ก็ไม่ดีไปตามเขาพูด ดีไม่ดี ชั่วหรือดีมันอยู่ที่ใจเรา เวลานี้เราทรงศีลบริสุทธิ์ เรามีความเคารพในพระรัตนตรัย เราไม่ลืมความตาย รักพระนิพพานเป็นอารมณ์:หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ตุลาคม 2014
  19. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    เอ!ถ้าไม่เอ่ยถึงมโนมยิทธิซะเลยก็กลัวว่าจะหลุดแนวไป ขอกล่าวถึงซะหน่อยละกันนะก๊าบ เพิ่งจะถามท่านผบ.ทบ.เมื่อกี๊นี้เอง เรียนถามท่านว่าตอนนี้วิมานที่สวรรค์เป็นยังไงมั่งอ่ะ

    [​IMG]

    [​IMG]

    ภาพประกอบการบรรยายครับ อันที่่ท่านผบ.ทบ.ผมเห็นคล้ายๆแบบนี้ละครับ

    ท่านเมตตาตอบสามีอย่างผมว่าตอนนี้วิมานของท่านผบ.ทบ.นั้นในจิตบอกว่าอยู่ที่ชั้นยามา มีรั้วเป็นแก้ว วัสดุตอนนี้เห็นเป็นแก้วที่มีประกาย 5 สีทั้งหมด มีพระพุทธรูปตั้งอยู่ข้างหน้าวิมานด้วย อันนี้เข้าใจว่าแฟนผมชอบทำบุญสร้างพระพุทธรูป เลยมีปรากฏให้เห็นนะครับ ที่มุขหน้าหน้าจั่วมีซ้อนกันสามชั้นแล้วก็มีฉัตรประดับด้วยพวงแก้วคริสตัลตั้งอยู่ตรงหน้าจั่วทุกจั่วเลย พอเข้าไปข้างในมีโคมไฟเป็นแก้วคริสตัลใหญ่มาก ตัวของวิมานดูจากภายนอกเหมือนจะมีฝาเป็นแก้ว แต่พอเข้าไปข้างในแล้วฝาผนังหายไปกลายเป็นเหมือนห้องโถงกว้างใหญ่มาก บรรยากาศโปร่ง เบา สบาย มีสระน้ำในสระก็มีดอกบัวสีคล้ายๆแก้วใส ขนาดของสระกว้างขวางพอประมาณไม่เล็กไม่ใหญ่แต่สวยงามมากครับ แล้วอธิษฐานขอดูเสื้อผ้า ในจิตที่เห็นเป็นชุดของนางฟ้าสีขาว ซึ่งอันนี้ผมเข้าใจว่าเป็นสีพื้นฐานของชั้นยามา เนื้อของผิวกายเหมือนสีของมุก ซึ่งส่วนมากแล้วผู้ที่จะมาอยู่ชั้นนี้ได้นั้น ในความเข้าใจของผมนะครับ ต้องเป็นผู้ที่ชอบสวดมนต์ เจริญภาวนาหรือนั่งสมาธิ จึงจะมีสิทธิ์อยู่ชั้นนี้ได้ หลวงพ่อฤาษีท่านกล่าวว่าสวรรค์ทุกชั้นเค้ามีกฎมีเกณฑ์ของเค้า ซึ่งเทวดานางฟ้าชั้นนี้เป็นชั้นที่ท่านปู่พระอินทร์ท่านไม่เรียกใช้งาน มีข้อความที่หลวงพ่อท่านเมตตาเล่าให้ฟังไว้ในหนังสือตอนนึงว่า

    ตัดตอนจากหนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาธรรมะ เล่ม 8 หน้า33
    คุยกับเทวดาองค์นี้นะ คุยไปคุยมาเทวดาอีกองค์มา หันไปคุยกับองค์นั้น องค์นี้นั่งปุ๊บเจริญกรรมฐานแล้ว ไปแล้ว.. เผลอไม่ได้ พวกชอบสวดมนต์ก็เหมือนกัน เผลอหน่อยนั่งปุ๊บสวดมนต์แล้ว ก็เป็นอันว่าเขามีหน้าที่ต่อบุญบารมีของเขา ชั้นยามากับชั้นดุสิตมีสภาพคล้ายคลึงกัน ชั้นดุสิตเหมือนกับพระโดยตรง เวลาพระอินทร์ต้องการฟังเทศน์ ก็ไปเชิญเทวดาชั้นดุสิตมา แต่ชั้นยามาพระอินทร์ก็ไม่ใช้งานเหมือนกัน ถือว่าเป็นพระเหมือนกัน

    [​IMG]

    แต่ญาติธรรมอย่าถามวิมานผมของนะก๊าบ เพราะไม่เห็นอะไรเลย แต่ท่านผบ.ทบ.ท่านบอกว่าของผมก็อยู่ข้างๆกันนั้นแหละ แต่ตอนนี้มีแค่ความรู้สึกอย่างเดียว คือเค้าอยากไปอยู่บ้านใหม่เต็มทนแล้ว อยากจะลาออกจากการเป็นคนตอนอายุซัก 60 ปีนี่กำลังดีเลย จะได้ไม่ต้องกลุ้มตอนเวลาซ่อมแซมและรักษาร่างกาย เพราะมันก็ไม่ใช่ของเราอยู่แล้ว เดี๋ยวก็ต้องคืนเค้าไปซึ่งก็คือธรรมชาตินั้นเองครับ หลวงพ่อท่านเปรียบร่างกายเราว่าเป็นเหมือนบ้านเช่า พอถึงเวลาก็ต้องคืนเจ้าของเค้าไป แล้วคุณละครับ มีบ้านใหม่เป็นของตัวเองกันรึยัง อย่าช้านะครับ ของอย่างนี้รอกันไม่ได้ คุยกันอยู่แป๊บๆ อ้าวกลับไปบ้านเก่าซะแล้ว อันนี้เห็นมาเยอะเลย อย่าประมาทในการใช้ชีวิตกันนะครับ สาธุสวัสดีญาติธรรมทุกท่านครับ

    [​IMG]


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2014
  20. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743
    สาธุอนุโมทนาค่ะพี่เก่ง อ่านแล้วรู้สึกมีกำลังใจมากขึ้นเลยค่ะพี่ (กำลังต๊อแต๊อยู่เลยเชียว ;))

    อ่านเรื่องพี่แหม่แล้วรู้สึกสงสารมากค่ะ เห้อ การเกิดเป็นทุกข์จริงๆ ไม่รู้ว่าเกิดมาแล้วจะต้องมารับกฎแห่งกรรมอะไรบ้าง (ซึ่งตัวเรานี่แหละที่เป็นผู้ทำไว้เองแท้ๆ แต่ดันจำไม่ได้ซะนี่)

    ทุกวันนี้ก่อนนอนและตอนตื่น ก็พยายามนึกถึงพระรัตนตรัย นึกถึงร่างกายว่าไม่ใช่ของๆเรา และนึกถึงความตายว่า หากวันนี้เราตายเมื่อไหร่ขอไปพระนิพพานทันที จากนั้นก็อธิษฐานทำสังฆทานหยอดกระปุก 1 บาท และอาราธนาพระเท่านั้นเองค่ะ แต่ระหว่างวันก็นิวรณ์กินใจไปตามระเบียบ...

    และวันนี้ก็เพิ่งอ่านเจอคำสอนของหลวงพ่อท่านประมาณว่า คนที่ขยันคือคนที่มีบารมีเต็ม อ่านแล้วก็ได้แต่รำพึงในใจว่าคงอีกนานเลยตู T^T กำลังใจเราไม่มั่นคงอ่ะค่ะ (คนขี้เกียจแบบนี้อย่าเลียนแบบนะคะ)

    ดังนั้น หากท่านใดมีเทคนิควิธีการดีๆในการจัดการกับนิวรณ์ 5 และทรงอารมณ์ใจเคารพในพระรัตนตรัย เห็นว่าร่างกายไม่ใช่ของเรา ไม่ลืมความตาย และอารมณ์ใจรักในพระนิพพานก็รบกวนช่วยแชร์ด้วยน้าคะ เฟมจะได้เอาไปปฏิบัติด้วยค่ะ ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ /\ ^__^
     

แชร์หน้านี้

Loading...