(หน้า7) รอบที่5 มหาทานแห่งชีวิต ปล่อยปลา 9999 กิโลกรัม ถวายบุญให้บุพการี

อนุโมทนาบุญ นะคะ

 

ร่วมทำบุญปล่อยปลา ครับ
ธนาคาร กสิกรไทย
เข้าบัญชี 582-2-11312-7
จำนวนเงิน (บาท) 100
วันที่โอนเงิน 02/04/2014
เวลา 09.46 น.

ขอบคุณและโมทนาบุญกับทุกท่านครับ

 

อนุโมทนาบุญนะคะ

ขอให้เจริญทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นผู้มีมนุษย์สมบัติ หากคิดหรือปรารถนาสิ่งใด ขอให้สมพรปรารถนา นะคะ

 

ขอร่วมบุญมหาทานแห่งชีวิต ปล่อยปลา 9999 กิโลกรัม ถวายบุญให้บุพการี จำนวน 99.99 บาท

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ สาธุ

สถานะการทำรายการ
ธนาคารได้ทำรายการของท่านเรียบร้อยแล้ว
หมายเลขอ้างอิง TRTR140403821118013
รายละเอียดการทำรายการ
จากบัญชี XXX-X-XXX95-9
เพื่อเข้าบัญชี 582-2-11312-7 นพ. ศุภชัย โรจน์ขจรนภาลัย
ชื่อบัญชี ศุภชัย โรจน์ขจรนภาลัย เพื่องานพระศาสนา
จำนวนเงิน (บาท) 99.99
วันที่โอนเงิน 03/04/2014


"ข้าพเจ้าขอตั้งใจกล่าวสัจจะอธิษฐาน ด้วยผลแห่งการกระทำมหาทาน ไถ่ชีวิตสัตว์ให้หลุดพ้นจากพันธนาการ และอุปฆาตกรรมทั้งหลาย โดยตั้งใจมุ่งตรงประณตน้อมบูชาคุณบิดามารดร ณ บัดนี้นั้น

ขออำนาจพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ พรหมานุภาพ เทวานุภาพ โพธิสัตยนุภาพ ศาสนาทุกศาสนา ศาสดาทุกศาสดา จงดลบันดาลเป็นหนทางแสงสว่างไสวทุกทิวาราตรี เป็นกำลังปลดเปลื้องและสลายพันธการทั้งหลายที่เกิดจากโทสะ โมหะ โลภะ และราคะความกำหนัดใดๆ ของบิดาและมารดาของข้าพเจ้า ตลอดจนบิดามารดาในทุกภพทุกชาติ จงเป็นผู้พ้นภัยจากธาตุทั้ง 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ จากโรคภัยไข้เจ็บอันตรายร้ายแรง พ้นจากบ่วงมารทั้งหลาย

หากเกิดทุกข์เวทนาเจ็บปวดทรมานที่เกิดจากโรคร้ายแรง อุบัติเหตุ อุบัติภัย ทั้งร่างกายและจิตใจ ขอผลบุญอานิสงส์นี้จงดลบันดาล ให้บิดามารดาของข้าพเจ้า ได้ทุเลาเบาบาง และหายไป หากต้องละสังขารให้ละธาตุ 4 ขันธ์ 5 ขอให้ไปอย่างสงบและมีจิตตั้งมั่นรวดเร็ว เข้าสู่พระนิพพานในทันที

จงเป็นผู้ที่ถึงพร้อมด้วยร่างกายแข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ อันตรายร้ายแรง ให้มีร่างกายและใจสมบูรณ์พร้อมในการปฏิบัติธรรม ให้จิตใจมีความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เข้าถึงธรรมได้โดยง่าย ในชาติปัจจุบันและทุกภพทุกชาติที่ยังเวียนว่ายในวัฏฏะสงสารตราบจนเข้าสู่พระนิพพาน

หากแม้ท่านอยู่ในภพภูมิใดขอให้ท่านได้รับทราบ ว่าลูกนี้ถวายบุญนี้ให้ ให้ท่านมีสุข ให้ท่านหมดทุกข์โดยเร็วไว

ด้วยอานุภาพแห่งบุญนี้ ขอเหล่าสรรพสัตว์ ตลอดทั้งดวงจิตทุกดวงในสากลพิภพ ได้แซ่ซ้องกังวานบอกกล่าวเล่าขาน และเปล่งกังวานด้วยโมทนาสาธุการ ให้ได้บุญกุศลนี้โดยทุกทั่วด้วยกัน สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนามิ"

 

อนุโมทนาบุญนะคะ

ขอให้เจริญทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นผู้มีมนุษย์สมบัติ หากคิดหรือปรารถนาสิ่งใด ขอให้สมพรปรารถนา นะคะ

 

ปล่อยปลาถ้าไม่ใช่จังหวะเวลาช่วงที่เป็นอุปฆาตกรรม มีอานิสงส์เป็นเช่นไร ลองอ่านบทความที่หลวงพี่เล็กวัดท่าขนุนได้เคยคุยกับหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุงดูกันครับ

พระอาจารย์เล่าว่า "อาตมาปล่อยปลาครั้งแรกเมื่อ ๑ มกราคม ๒๕๒๙ เพราะหลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่า "เล็ก..แกเป็นทหารมาทุกชาติ ฆ่าเขาเอาไว้เยอะ เศษกรรมจะทำให้ป่วยบ่อย เพราะฉะนั้น ให้ไปปล่อยปลาที่เขาขายเพื่อฆ่าสักเดือนละตัวสองตัวเป็นประจำ จะช่วยให้บรรเทาเศษกรรมตรงนี้ได้"

อาตมาจึงถามว่า "ปล่อยปลามันต่ออายุไม่ใช่หรือครับ? ผมไม่อยากอายุยืน" หลวงพ่อบอกว่า "แกอย่าเพิ่งเข้าใจผิด การปล่อยชีวิตสัตว์ที่เขาจะถูกฆ่า จะเป็นการต่ออายุก็ต่อเมื่อเรามีอุปฆาตกรรมเข้ามา แต่ถ้าไม่มีอุปฆาตกรรมเข้ามา การปล่อยปลาตรงนี้จะทำให้ชีวิตสะดวกสบาย"
สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ ต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๒

 

มีคนได้สอบถามผมเกี่ยวกับการทำบุญปล่อยปลาสามารถทำแทนลูกได้มั๊ย. ขอวิสัชนาดังนี้ครับ

กรณีอยากทำบุญให้ลูกนั้นสามารถทำได้ครับ แต่กำลังบุญจะลดหลั่นไปตามลำดับ

1. ถ้าให้ดีที่สุดคือ ให้เค้าได้ทำเอง กล่าววาจาอธิษฐานเอง วางกำลังใจในการทำบุญเอง

2. ถ้าไม่สามารถกระทำการอธิษฐานได้เช่นไม่รู้สึกตัว เจ็บไข้ได้ป่วยหนัก อย่างน้อยให้เค้าได้จับเงินหรือของที่จะไปทำบุญ เช่นพระพุทธรูป ไตรจีวรแล้วกระซิบบอกเค้าข้างหูบอกเค้าว่าจะไปทำบุญอะไรที่ไหน ถ้ารู้ตัวให้เค้าได้รับทราบได้จบเองได้อธิษฐานในบุญนั้น การทำบุญที่ไม่ครบองค์3 แม้จะด้อยลงแต่ก็เกิดบุญยิ่งใหญ่ไม่น้อยอยู่ดีครับ

3. ถ้าไม่ศรัทธาที่จะทำ แต่เราอยากให้เค้าได้กุศลนั้น ให้เค้าได้จบของหรือเงินทำบุญหรือกล่าววาจาอธิษฐาน แม้เค้าจะทำเพราะสักแต่ว่าขอไปที ไม่ต้องติเตียนเค้าเพราะบางคนบุญมีแต่กรรมบัง ทำให้เคลือบแคลงเกิดความไม่ศรัทธา บางคนสั่งสมบุญบารมีมาไม่เท่ากันหรือไม่เหมือนกัน ทำให้ไม่เข้าใจในสิ่งที่ทำ เพราะจิตเราจะพลอยขุ่นมัวไปทำให้ความเมตตาแก่เขาถอยลงในช่วงนั้นได้ ความเชื่อมต่อกันจะลดน้อยถอยลง

4. ถ้าไม่ศรัทธา จบของกล่าววาจา อย่างน้อยก็ให้เค้ารับรู้ว่าเราจะไปทำบุญอะไร แบบไหนได้โมทนาบุญก็ยังดีครับ

5. ถ้าแม้แต่โมทนาบุญยังไม่ศรัทธา อย่างน้อยก็ให้เขาได้รับรู้เป็นการทิ้งอณูแห่งความดีไว้ให้เค้าเมื่อถึงเวลาหนักๆเค้าอาจนึกได้ โมทนาบุญในกุศลนี้ตามหลังก็ยังดี และเมื่อถึงเวลาดีๆ จะเป็นเชื้อให้เค้าค้นหาและเข้าใจในความดีติดตามมาในภายหลังได้

6. หากเค้าไม่ได้อยู่ในภูมินี้แล้ว เมื่อทำบุญให้เค้าถ้าจำหน้ารู้ชื่อเค้าให้กำหนดจิตให้สงบ เบาๆ อย่าสักแต่ว่าทำ หากมาเหนื่อยๆ ร้อนๆ ใจไม่สงบให้พักตัวพักใจให้ดีก่อน จิตเราก็เหมือนหอส่งสัญญาณ ถ้าหอส่งสัญญาณไม่ผุๆพังๆส่งสัญญาณได้เต็มที่ (คนทำบุญพร้อม)คลื่นที่ส่งกำลังแรงมาก(บุญหนักๆ). คลื่นส่งเป็นช่องสัญญาณใกล้เคียงกัน(คนทำบุญที่ส่งบุญมีความเกี่ยวเนื่องกันเช่นเป็นญาติสายตรงอันดับ1 เช่นพ่อแม่พี่น้องบุตรภรรยาสามี). โอกาสที่ผู้รับจะได้รับก็จะสูงขึ้น การจำเพาะหน้า เอ่ยชื่อก็เป็นการล๊อคช่องคลื่นให้พุ่งตรงดุจเข็มไปยังจุดรับโอกาสถึงจุดหมายก็จะสูงขึ้นเช่นกัน

7. แต่การทำบุญในสายทานที่สุดแล้วกุศลก็ไม่เท่าศีล สมถะและวิปัสสนาภาวนานะครับ เพราะทำได้ยากกว่า กำลังใจมากกว่า หากกระทำควบคู่กันไป กุศลย่อมเกิดได้ไม่มีประมาณ

8. แต่ที่สุดแล้วก็ไม่มีใครใหญ่เกินกรรม หากกรรมหนักมากๆจริงๆหรือเจ้ากรรมนายเวรไม่ยอม หรือหมดอายุขัยตามวาระโลก สิ่งสำคัญของเราคือต้องวางกำลังใจให้ดีนะครับ เพราะบุญกรรมของใครของมันทำแทนกันไม่ได้ทั้งหมด หากทำเต็มที่แล้วไม่สำเร็จ อุเบกขาเป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้และปล่อยวางครับ

บทความนี้เกิดขึ้นจากความคิดเห็นส่วนตัวหากทำให้ท่านใดขัดเคืองไม่ถูกใจก็กราบขออภัย ขอให้ท่านทั้งหลายพิจารณาตามแต่เห็นสมควรเถิดครับ..จากใจหมอหัวใจ

 

ถ้าเกิดปลาที่เราปล่อยนับหมื่นตัวนี้แค่หนึ่งในนั้นเป็นโพธิสัตย์ซึ่งบำเพ็ญบารมีอยู่ หรือกำลังใช้กรรม อานิสงส์จะขนาดไหนกัน
ลองอ่านเรื่องปลาโพธิสัตย์กับหลวงปู่จันทร์กันดูครับ
มหาทานปล่อยปลา9999กก ถวายบุญให้บุพการี
https://www.facebook.com/events/703869269652238/?ref=51&source=1

เหตุเกิดที่ จ.นครพนม ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม โดยท่านเจ้าคุณพระเทพสิทธาจารย์ ( จันทร์ เขมิโย ) ท่านเล่าเอาไว้ว่ามีอยู่คืนหนึ่งท่านกำลังทำสมาธิกรรมฐานก็ปรากฏภาพนิมิต ขึ้นในสมาธิเป็นภาพของแอ่งน้ำกำลังแห้งมีปลาอยู่หกตัว เป็นปลาหมอ ๓ ตัว ปลาดุก ๓ ตัวกำลังดิ้นรนกระเสิอกกระสนอยู่ท่านจึงกำหนดจิตถามว่าเป็นคู่เวรคู่กรรม มาทวงหนี้เวรกรรมหรือไม่ ปลาเหล่านั้นตอบว่าพวกเราเป็นพระโพธิสัตว์มาเกิดเป็นปลาเพื่อบำเพ็ญบารมีแต่ ถูกกระแสกรรมทำให้ถูกนายบุญช่วย สุวรรณทรรภจับมาขังเอาไว้ในตุ่มน้ำในสวนกล้วยติดหลังวัดตอนนี้น้ำกำลังแห้ง ถ้าตายก่อนจะหมดโอกาสบำเพ็ญบารมี

หลวงปู่จึงถามว่าเหตุใดจึงมาปรากฏในข่ายฌานสมาธิของท่าน ปลาโพธิสัตว์เหล่านั้นตอบว่า พวกเราตั้งจิตอธิษฐานว่าด้วยกุศลผลบุญที่บำเพ็ญเพียรเพื่อปรารถนาพุทธภูมิใน อนาคตขอให้เราได้ปรากฏในข่ายฌานของผู้ทรงศีลที่เคยเกื้อกูลกันมาก่อนในอดีตชาติ จึงได้มาปรากฏในข่ายวิถีฌานสมาธิของท่าน

ตอนแรกหลวงปู่คิดว่า เป็นนิมิตมายาจึงอธิษฐานจิตซ้ำว่าถ้าเป็นภาพนิมิตมายาขอให้ดับหายไป ถ้าเป็นนิมิตจริงขอให้ปลาเหล่านี้สวดพระพุทธคุณให้ได้ยินปรากฏว่า เมื่ออธิษฐานเสร็จปลาเหล่านั้นก็พากันสวดสรรเสริญพระพุทธคุณว่า นโมตัสสะ ภควโต อรหโตสัมมาสัมพุทธัสสะ ตัวละ ๓ จบเรียงกันไปจนครบหกตัว ท่านได้ยินดังนั้นจึงรับปากว่าจะช่วย

รุ่งเช้าท่านออกบิณฑบาตไปจนถึง บ้านของโยมอุปัฏฐากวันนั้นลูกสาวของโยมอุปัฏฐากชื่อเยี่ยม หอมหวล อายุขณะนั้น ๑๐ ขวบเมื่อใส่บาตรแล้วก่อนที่หลวงปู่จะไปบ้านอื่นต่อ จึงสั่งเด็กหญิงผู้นั้นว่า ตอนสายหลังกินข้าวเสร็จแล้วให้เอาขันน้ำใบใหญ่ๆไปหาท่านที่วัดด้วย

หลังจากนั้นเด็กหญิงก็เอาขันน้ำไปที่วัดตามที่หลวงปู่สั่งเมื่อไปถึง หลวงปู่ก็สั่งว่าให้เอาน้ำใส่พอประมาณและให้ไปขอปลาหกตัวกับนายบุญช่วย ที่ขังเอาไว้ในตุ่มน้ำในสวนกล้วยติดกับหลังวัดซึ่งเด็กหญิงผู้นี้ก็รู้จัก พร้อมกำชับไว้ด้วยว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตามต้องเอาปลามาให้ได้

เมื่อเด็กหญิงไปถึงพบนายบุญช่วย จึงบอกว่าเจ้าคุณปู่ให้มาขอปลาหกตัวเป็นปลาหมอ ๓ ตัวปลาดุก ๓ ตัวที่ขังไว้ในสวนกล้วย นายบุญช่วยแปลกใจแต่ก็บอกว่า ไม่รู้ว่าปลามีหรือไม่ถ้าไม่มีให้กราบเรียนหลวงปู่ด้วยว่าไม่มีแล้ว เมื่อไปที่สวนกล้วยพอไปถึงกระต๊อบท้ายสวนนายบุญช่วยก็นึกได้ว่าตนเคยไปหาปลาและได้นำมาขังไว้จริงแต่นานแล้วจนลืม จึงอุทานว่าหลวงปู่เก่งจังที่รู้ว่าตนขังปลาไว้จนลืมไปแล้ว จึงรีบไปดูที่ตุ่มกลางกอกล้วยปรากฏว่าเห็นปลาอยู่หกตัวตามที่หลวงปู่บอกมาจริง

จึงจับปลาใส่ขันให้เด็กหญิงแล้วตามมาจนถึงวัด เมื่อพบหลวงปู่จึงบอกว่าหลวงปู่เก่งที่รู้ว่ามีปลาถูกขังจนลืม หลวงปู่บอกว่าท่านไม่เก่งปลาเหล่านี้ต่างหากที่เก่ง เพระสามารถส่งกระแสจิตไปขอความช่วยเหลือจากท่านได้ โชคยังดีที่ยังไม่ได้เอาไปทำอาหารเพราะจะเดือดร้อนทั้งครอบครัว จากนั้นหลวงปู่ก็ทำน้ำมนต์พรมให้ปลาแล้วอธิษฐานให้ปลานั้นปลอดภัยสามารถบำเพ็ญบารมีต่อได้จนหมดอายุขัยแล้วนำไปปล่อยที่แม่น้ำโขง น่าแปลกคือเมื่อปล่อยปลาลงน้ำแล้วแทนที่มันจะรีบว่ายหนี กลับพากันกระโดดขึ้นเหนือน้ำ สามครั้งเหมือนกับจะแสดงการคารวะหลวงปู่จากนั้นก็พากันว่ายน้ำหายไป

เรื่องนี้จัดว่าเป็นเรื่องแปลกเรื่องหนึ่งแสดงให้เห็นว่าการมาเกิดเพื่อบำเพ็ญบารมีนี้มีจริงแท้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเกือบ ๗๐ ปีมาแล้ว ขณะนี้หลวงปู่ก็ล่วงลับดับขันธ์ไปนานแล้ว เด็กหญิงเยี่ยมก็คงจะเป็นคุณย่า คุณยายไปแล้ว ถ้าใครไป จ.นครพนม ก็อย่าลืมแวะไปกราบนมัสการรูปปั้นของหลวงปู่ที่วัดศรีเทพประดิษฐาราม อ.เมืองเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองด้วย …

(ทราบมาว่าท่านเจ้าคุณพระเทพสิทธาจารย์(จันทร์ เขมิโย) ท่านก็เป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง)

 

มาปล่อยปลาตัดอุปฆาตกรรมกันครับ
https://www.facebook.com/events/703869269652238/?source=1
อุปฆาตกรรม

ผู้ถาม : "หลวงพ่อคะ อุปฆาตกรรม หมายความว่าอย่างไรคะ...?"

หลวงพ่อ : "คำว่า อุปฆาตกรรม หมายถึงว่า กรรมที่มาตัดรอนระหว่างชีวิต คือมันยังไม่หมดอายุขัยก็ตายเสียก่อน แทนที่จะมีอายุครบ 60 ปีตามอายุขัย
แต่อายุ 30-40 ปี กรรมที่เป็นอกุศลกรรมคือที่เราทำบาปไว้แต่ชาติก่อน ด้วยจากปาณาติบาต มาตัดเสียชีวิตก่อน"

ผู้ถาม : "มีวิธีที่จะพ้นกรรมประเภทนี้ไหมคะ อย่างเช่นถ้าเราปล่อยปลา หรือสะเดาะเคราะห์ อะไรพวกนี้แหละค่ะ...?"

หลวงพ่อ : "ปล่อยปลานี้เขาถือว่าตัดอุปฆาตกรรมได้ เราปล่อยสัตว์ให้รอดนี่มันจะกันได้แต่ที่ให้หมอดูไปสะเดาะเคราะห์ หมอบอกว่าจะต้องเสียเท่านั้น เท่านี้พอสะเดาะเคราะห์เสร็จ หมอหมดเคราะห์ไป 3-4 หมื่น คนที่สะเดาะเคราะห์เพิ่มเคราะห์ไป 3-4 หมื่น เป็นไง เราก็เอาแบบของเรานั่นแหละ ได้ผลแน่นอนกว่า"

ผู้ถาม : "ปล่อยปลาอะไรดีคะ...?"

หลวงพ่อ : "เขาไม่จำกัดว่าปลาอะไร แต่ว่าปลานั้นมันจะต้องตาย ต้องเป็นปลาที่มีชีวิต"

ผู้ถาม : "บางคนเขาก็บอกว่า ปลาที่เราปล่อยแล้วจะทานไม่ได้ ใช่ไหมคะ...?"

หลวงพ่อ : "ถ้าปลานั้นมันจะต้องตาย เราก็เอาไปปล่อยเพื่อเป็นการช่วยชีวิต จะเป็นปลาอะไรก็ตาม สัตว์อะไรก็ตาม เราปล่อยให้มันรอดชีวิต เป็นเมตตาจิตใช่ไหม จะต้องไปนั่งเลือกทำไม บางคนเลือกปล่อยปลานั่น ปลานี่ บางทีไอ้ปลาไม่ค่อยจะตายก็ปล่อย"

ที่มา : หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม 1

 

การต่ออายุมีจริงหรือไม่ ลองมาอ่านประวัติของ "อายุวัฒนกุมาร". ซึ่งมีกล่าวไว้ในอรรถกถาธรรมบท (ธัมมปทัฏฐกถา). กันครับ

สามีภรรยาคู่หนึ่ง สามีเป็นอดีตฤๅษีชีไพร มีบุตรชายเล็กๆ รูปร่างน่าเกลียดน่าชัง สามีพาภรรยาและบุตรไปเยี่ยมหลวงพ่อ เพื่อนเก่า เวลาตนหรือภรรยาไหว้ ท่านฤๅษีก็อวยพรให้มีอายุมั่นขวัญยืน แต่พอให้เด็กไหว้ท่านบ้าง ท่านกลับนั่งเฉย ไม่อวยพรอะไร ทั้งสองจึงถามว่า ทำไมเวลาให้เด็กไหว้ ท่านไม่อวยพรอะไรเลย

“เด็กคนนี้จะอายุไม่ยืน” หลวงพ่อฤๅษีกล่าว ทำให้ทั้งสองตกใจมาก

“จะอยู่ได้มากน้อยแค่ไหน หลวงพ่อ” ผู้สามีถาม

“ไม่เกินเจ็ดวัน เด็กนี้จะต้องตาย” ฤๅษีผู้เคร่งฌานฟันธง

“จะให้ทำอย่างไรครับ ลูกชายผมถึงจะมีชีวิตยืนยาว” เขาถามท่าทางกังวลมาก

“อาตมาไม่ทราบ รู้แต่ว่าอายุจะไม่ยืน แต่จะทำอย่างไรจึงจะต่ออายุได้ ข้อนี้ไม่ทราบ แต่มีท่านผู้หนึ่งอาจช่วยได้” ฤๅษีบอก ความหวังที่ริบหรี่ค่อยเรืองรองขึ้นมาบ้าง

“ท่านผู้นี้คือ พระสมณโคดมพุทธเจ้า” หลวงพ่อฤๅษีบอก

ทั้งสองสามีภรรยาจึงพาบุตรชายไปไหว้พระสมณโคดมพุทธเจ้า ขณะทั้งสองไหว้ พระพุทธองค์ก็ตรัสอวยพรให้มีอายุมั่นขวัญยืนแบบเดียวกับฤๅษี พอให้เด็กไหว้ พระองค์กลับประทับนิ่งไม่ตรัสอะไร เมื่อกราบทูลถามก็ได้รับคำตอบเช่นเดียวกับที่ฤๅษีบอก ทั้งสองจึงกราบทูลขอให้ทรงต่ออายุให้บุตรชายของตน

พระพุทธองค์ทรงรับสั่งให้พระสงฆ์เตรียมปะรำพิธีสวดพระปริตร เอาด้ายสายสิญจน์ขึงเป็นวงกลม 7 ชั้น ให้เอาเด็กนอนภายในวงสายสิญจน์ พระสงฆ์เปลี่ยนกันสวดพระปริตรเป็นชุดๆ ไม่ขาดตอน ตลอดเจ็ดวันเจ็ดคืน ว่ากันว่ายักษ์ที่จะมาเอาชีวิตเด็กไม่มีโอกาสคร่าชีวิตเด็กได้ เพราะขณะพระสงฆ์สวดพระปริตร บรรดาเทพน้อยใหญ่พากันมาฟังการสาธยายพระปริตร เทพที่มีศักดิ์น้อย เมื่อเทพผู้มเหสักข์ (มีศักดิ์มาก) พากันมา ก็ถอยออกไปยืนอยู่รอบนอก แล้วที่นี้ยักษ์ซึ่งไม่มีซีอะไรสักขั้นไม่ว่ามากหรือน้อย ยิ่งต้องถอยออกมาห่างๆ หาโอกาสไปจับเด็กกินไม่ได้ ก็เลยอดว่าอย่างนั้นเถอะ

พระคัมภีร์กล่าวว่า พอพ้นเจ็ดวัน เคราะห์กรรมของเด็กว่าจะสิ้นอายุก็หมดสิ้นไป เด็กน้อยจึงรอดชีวิต ไม่รอดเปล่าๆ กลับอยู่มาได้จนอายุ 120 ปี อดีตเด็กน้อยคนนี้จึงมีชื่อภายหลังว่า “อายุวัฒนกุมาร” (กุมารผู้มีอายุยืน)

เนื่องจากเป็นคัมภีร์รุ่นหลัง จึงต้องฟังด้วยโยนิโสมนสิการ คัมภีร์อรรถกถานี้แต่งสมัยพุทธศตวรรษที่ 10 ที่ศรีลังกา แต่พยายามโยงให้ถึงสมัยพุทธกาล คือให้เข้าใจว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นในสมัยพระพุทธเจ้า มีอะไรบางอย่างค้างใจผม เช่น

ธรรมเนียมขึงด้ายสายสิญจน์รอบปะรำพิธี ไม่ปรากฏว่าในสมัยพุทธกาลมีการใช้ด้ายสายสิญจน์ ยิ่งสวดพระปริตรเพื่อป้องกันภัยต่างๆ กระเดียดไปทางไสยศาสตร์ มากกว่าเพื่อเจริญพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ดังที่ปรากฏแพร่หลายในศรีลังกาจนไทยรับเอาแบบอย่างมา

เรื่องนี้มีแง่ถกเถียงกันได้มาก แต่จะไม่ถกเถียงละครับ เพราะบทความนี้เขียนไปเรื่อยๆ ตามสไตล์ มิใช่บทความทางวิชาการ

การต่ออายุในกรณี “อายุวัฒนกุมาร” เป็นการอาศัยเงื่อนไขภายนอกเป็นหลัก คืออาศัยความศักดิ์สิทธิ์ของพระปริตร มิได้เกิดจากเงื่อนไขภายในคือกรรม (การกระทำ) ของผู้นั้นเอง ถ้ามันจะศักดิ์สิทธิ์ หรือมีผลสำเร็จจริง ก็อาจเป็นเพราะเงื่อนไขอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ก็ควรฟังๆ ไว้ “ไม่เชื่อก็อย่าดูหมิ่น”

แต่ในตัวอย่างที่จะเล่าต่อไปนี้ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ก็ตาม เป็นผลของเงื่อนไขภายในตัวคนคนนั้นเอง พูดให้ชัดก็คือเป็นผลแห่งกรรมดีที่เขาทำขึ้นเอง

เล่ากันว่า เณรน้อยถูกอาจารย์พยากรณ์ตามตำราที่เรียนมาว่า จะสิ้นอายุภายในเจ็ดวัน เณรน้อยเสียใจมาก จึงหนีออกจากวัด หวังไปตายเอาดาบหน้า ระหว่างทางผ่านทุ่งนาแห่งหนึ่ง เห็นปลาหลายตัว กำลังดิ้นกระแด่วๆ ในน้ำซึ่งกำลังแห้งขอด เกิดความสงสาร จึงนำเอาปลานั้นไปปล่อยที่หนองน้ำ ด้วยอานิสงส์ปล่อยปลาที่กำลังจะตายลงหนองน้ำ เท่ากับให้ชีวิตแก่สัตว์ที่กำลังจะตาย เณรน้อยนั้นเลยไม่สิ้นชีวิต เมื่อเลยเจ็ดวันที่อาจารย์ขีดเส้นไว้แล้ว จึงกลับมาวัด อาจารย์เห็นเณรไม่ตายดังคำทำนาย จึงเอาตำรามาเผาทิ้งเสียเลย

ความจริงถ้าเณรไม่สร้างเงื่อนไขใหม่แก่ชีวิต เณรก็อาจจะตายตามวันเวลาที่หมอดูว่า แต่บังเอิญเณรได้สร้างบุญกุศลขึ้นมาใหม่ ชีวิตของเณรจึงต่อไปได้
กลวิธีเหล่านี้ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับรองก็เห็นจะมีแต่เรื่องการช่วยเหลือชีวิตสัตว์ ไม่ทรงรับรองถึงกลวิธีอย่างอื่น ดังนั้นบรรดาชาวพุทธจึงควรจะได้รู้ประวัติความเป็นมา พึงรู้กลวิธีที่หลอกลวงฉ้อฉลและสิ่งที่จะเป็นผลได้จริง จะได้ไม่เสียท่าเสียเวลาเปล่า

พระผู้มีพระภาคเจ้าแม้จะทรงรับรองถึงกลวิธีช่วยชีวิตสัตว์ แต่มิได้ตรัสสรรเสริญเท่าใดนัก ที่ทรงตรัสสรรเสริญมากก็คือการประพฤติปฏิบัติธรรม นั่นคือการเจริญอิทธิบาทสี่

ปรากฏความในมหาปรินิพพานสูตรที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสกับพระอานนท์ว่า “ดูก่อนอานนท์ ผู้หนึ่งผู้ใดเจริญอิทธิบาทสี่ ทำให้มาก ทำให้เป็นประหนึ่งยาน ทำให้เป็นประหนึ่งวัตถุที่ตั้งไว้เนือง ๆ อบรมไว้ ปรารภด้วยดีโดยชอบแล้ว ผู้นั้นเมื่อปรารถนาก็พึงดำรงชีวิตอยู่ได้ตลอดกัลป์ หรือเกินกว่ากัลป์”
ขอขอบคุณเรื่อง โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก

 

ข้อความคุณหมอศุภชัย

ปวารณาแล้ว97กอง รวมกับที่โอนตามศรัทธา ณ ปัจจุบันประมาณ 30041บาท เราน่าจะได้ปลา 2925กิโลกรัม หรือปลา6000-8500ตัวจะรอดตายล่ะครับ มาช่วยกันกระจายข่าวบุญกันครับ จะได้ช่วยชีวิตกันได้มากยิ่งๆขึ้นครับ สาธุกับผู้ร่วมเป็นสะพานบุญ ผู้ร่วมบุญและผู้โมทนาบุญทุกท่านครับ ^^

 

ปล่อยปลาชื่อไหนได้อานิสงส์แบบนั้น ปล่อยปลาไหล ชีวิตจะได้ไหลลื่นจริงหรือไม่ ลองอ่านคำสอนของครูบาเพชรดูครับ

ทำไมบางคนบอกปล่อยปลาไหล ชีวิตจะได้ลื่นไหล? ความคิดเช่นนี้มันใช้หัวหรือใช้ตูดคิดก็ไม่รู้ แต่ใช้หัวคิดก็ผิดใช้ตูดคิดยิ่งผิด ถ้าใช้หัวใจคิดมันจะถูก ขึ้นชื่อว่าสัตว์ทุกชนิดปล่อยได้ทั้งนั้น อย่าปล่อยหอยขม? เห็นมั้ยชีวิตมึงขมขื่นทั้งชีวิต มันใช้ตูดคิดหรือใช้หัวคิด ชีวิตสัตว์ทุกชนิดมีค่าแม้กระทั่งยุงตัวหนึ่ง พระพุทธเจ้า

ตรัสว่าอย่าฆ่าสัตว์ไง แม้ยุงก็ไม่ฆ่า เลนก็ไม่ฆ่า แล้วเราเห็นหอยจุ๊บน่ะ หอยขมน่ะ เขาจะฆ่า เราไปปล่อย ทำไมกูต้องได้เศษกรรมจากชื่อมึงด้วยวะ? ขมขื่น? โอ้ เราเจอมาเยอะนะ บางวัดบอกว่าอย่าปล่อยหอยขมนะ ขมขื่น ปล่อยปลาไหล ลื่นไหล เงินทองไหลมาเทมาเหมือนปลาไหล ปลาไหลรอดตายบานเลย อย่าปล่อยปลาช่อน ปล่อยปลาช่อนไม่ดี ชื่อมันช่อน ช่อนมันไม่ดีตรงไหน? ก็ช่อนน่ะเข้าใจมั้ย มันช่อนแช่น ช่อนช้อย ไม่ดีเลยเหมือนมันไม่เป็นระเบียบ ถ้าจะปล่อยให้ดีนะ ปล่อยปลาตะเพียนทอง หึ ปล่อยปลาหมอ ป่วยไข้ไม่สบายน่ะ ปล่อยปลานู่น ปลานี่ ปลานั่น

เฮ้ย! การช่วยชีวิตสัตว์น่ะทำไมต้องคำนึงประเภท ถ้าอย่างนี้นะ ไอ้คนนี้กำลังใกล้จะตายเสือกชื่อเลว ไอ้คนนี้ยังอยู่ได้ชื่อรวย กูให้มึง ไอ้เลวกูไม่ให้ เพราะชื่อมึงไม่ดี เอาอย่างนั้นมั้ย? เวลาจะให้ทานคน มึงชื่ออะไร? ชื่อทองสุข เออเอาไปเลย ๓,๐๐๐ ... มึงชื่ออะไร? ชื่อควาย แม่งโง่ ไม่ให้มึงหรอก ให้ไปเดี๋ยวกูโง่ เพราะมึงชื่อควาย คนเรามันใช้ตรงไหนคิดก็ไม่รู้เนอะ ที่มันคิดแบบนี้ ที่จริงไม่มีความหมายนะ สัตว์ที่จะตายเมื่อเราช่วยนั่นคือชีวิต และนั่นก็คือราคาทางด้านจิตใจ...”

ตอนหนึ่งของพระธรรมเทศนาต่อคณะศิษย์ ณ บ้านธรรมยอดไกรศรีพระราม ๒ เวลาประมาณเที่ยงคืนวันเสาร์ที่ ๑ มิถุนายน ๕๖
โดย พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงพ่อครูบาเจ้าเพชร วชิรมโน

 

โอนเงินแล้ว 300 บาทคะ เวลา8.32 อนุโมทนาบุญด้วยคะ

 

อนุโมทนาบุญนะคะ

ขอให้เจริญทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นผู้มีมนุษย์สมบัติ หากคิดหรือปรารถนาสิ่งใด ขอให้สมพรปรารถนา นะคะ

 

ร่วมบุญ มหาทานแห่งชีวิต ปล่อยปลา 9999 กิโลกรัม 59.99 บาท
โอนเมื่อเวลา 21.29 น.
อนุโมทนา สาธุ

 

<table cellpadding="0" cellspacing="0" border="0" width="100%"> <tbody><tr><td>
</td><td>
</td></tr></tbody></table>
อนุโมทนาบุญนะคะ

ขอให้เจริญทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นผู้มีมนุษย์สมบัติ หากคิดหรือปรารถนาสิ่งใด ขอให้สมพรปรารถนา นะคะ

 

ร่วมบุญ โอนเมื่อ วันที่ 22 เมษายน 2557

ข้าพเจ้าขอตั้งใจกล่าวสัจจะอธิษฐาน ด้วยผลแห่งการกระทำมหาทาน ไถ่ชีวิตสัตว์ให้หลุดพ้นจากพันธนาการ และอุปฆาตกรรมทั้งหลาย
โดยตั้งใจมุ่งตรงประณตน้อมบูชาคุณบิดามารดร ณ บัดนี้นั้น

ขออำนาจพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ พรหมานุภาพ เทวานุภาพ โพธิสัตยนุภาพ ศาสนาทุกศาสนา ศาสดาทุกศาสดา
จงดลบันดาลเป็นหนทางแสงสว่างไสวทุกทิวาราตรี เป็นกำลังปลดเปลื้องและสลายพันธการทั้งหลายที่เกิดจากโทสะ โมหะ โลภะ
และราคะความกำหนัดใดๆ ของบิดาและมารดาของข้าพเจ้า ตลอดจนบิดามารดาในทุกภพทุกชาติของข้าพเจ้า
จงเป็นผู้พ้นภัยจากธาตุทั้ง 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ จากโรคภัยไข้เจ็บอันตรายร้ายแรง
พ้นจากบ่วงมารทั้งหลาย ขอให้ประสพแต่ความดี ปราศจากความทุกข์

หากเกิดทุกข์เวทนาเจ็บปวดทรมานที่เกิดจากโรคร้ายแรง อุบัติเหตุ อุบัติภัย ทั้งร่างกายและจิตใจ
ขอผลบุญอานิสงส์นี้จงดลบันดาล ให้บิดามารดาของข้าพเจ้า ได้ทุเลาเบาบาง และหายไป
หากต้องละสังขารให้ละธาตุ 4 ขันธ์ 5 ขอให้ไปอย่างสงบและมีจิตตั้งมั่นรวดเร็ว เข้าสู่พระนิพพานในทันที

จงเป็นผู้ที่ถึงพร้อมด้วยร่างกายแข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ อันตรายร้ายแรง ให้มีร่างกายและใจสมบูรณ์พร้อมในการปฏิบัติธรรม
ให้จิตใจมีความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เข้าถึงธรรมได้โดยง่าย
ในชาติปัจจุบันและทุกภพทุกชาติที่ยังเวียนว่ายในวัฏฏะสงสารตราบจนเข้าสู่พระนิพพาน

หากแม้ท่านอยู่ในภพภูมิใดขอให้ท่านได้รับทราบ ว่าลูกนี้ถวายบุญนี้ให้ ให้ท่านมีสุข ให้ท่านหมดทุกข์โดยเร็วไว

ด้วยอานุภาพแห่งบุญนี้ ขอเหล่าสรรพสัตว์ ตลอดทั้งดวงจิตทุกดวงในสากลพิภพ ได้แซ่ซ้องกังวานบอกกล่าวเล่าขาน
และเปล่งกังวานด้วยโมทนาสาธุการ ให้ได้บุญกุศลนี้โดยทุกทั่วด้วยกัน สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนามิ

 

อนุโมทนาบุญนะคะ

ขอให้เจริญทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นผู้มีมนุษย์สมบัติ หากคิดหรือปรารถนาสิ่งใด ขอให้สมพรปรารถนา นะคะ

 

ขอร่วมทำบุญด้วยจำนวน 200 บาทนะครับ โอนเงินให้แล้วเมื่อวันที่ 30/04/2557 เวลา 19.12 น. เข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทยฯ ครับ

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ

สาธุ อนุโมทนามิ

 

อนุโมทนาบุญนะคะ

ขอให้เจริญทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นผู้มีมนุษย์สมบัติ หากคิดหรือปรารถนาสิ่งใด ขอให้สมพรปรารถนา คะ