(หน้า7) รอบที่5 มหาทานแห่งชีวิต ปล่อยปลา 9999 กิโลกรัม ถวายบุญให้บุพการี

ปวารณาแล้ว127 กอง รวมกับที่โอนตามศรัทธา ณ ปัจจุบันประมาณ 34071บาท ถ้าเราได้ปลาต้นทางจริงบวกค่าส่งผมตีราคาสูงเผื่อไว้ที่กิโลละ45บาทไว้ก่อน เราน่าจะได้ปลา 4990กิโลกรัม หรือปลา10000-14000ตัวจะรอดตายล่ะครับ ครึงทางแล้วครับกับการเพียรพยายามช่วยชีวิตสัตว์นับหมื่นของพวกเรา สู้กันต่อครับ

ข้อความ จาก คุณหมอศุภชัย วันที่ 29/04/57

 

ปล่อยสัตว์ไม่ว่าชนิดใดก็ขึ้นชื่อว่าเป็นบุญใหญ่ต่อชีวิตทั้งสิ้นแต่การปล่อยสัตว์แต่ละชนิดมีอานิสงส์พิเศษเพิ่มเติมอย่างไรบ้าง และเวลาไปซื้อมักมีความเชื่อว่าห้ามต่อจริงหรือไม่ลองอ่านบทความที่หลวงพ่อฤาษีเล่าให้ฟังกันครับ
ถาม : ที่ หลวงพ่อฤๅษี เคยบอกว่า คนผิดศีลข้ออทินนาทาน กฎแห่งกรรมก็คือทรัพย์สมบัติที่มีจะถูกทำลายโดยภัยธรรมชาติ หรือภัยต่างๆ ในกรณีที่เพื่อน ๆ ผมที่ทำงานถูกน้ำท่วม และทรัพย์สินเสียหาย ควรจะมีการชักชวนเขามาชำระพระหนี้สงฆ์ ไม่ทราบว่าผลจะตรงหรือไม่ครับ ?

ตอบ : สิ่งที่เราทำเป็นความดีใหญ่ แต่ผลไม่ตรง เพราะว่าทรัพย์สินเสียหายเกิดจากกรรมเก่าที่เราสร้างมาในอดีต ส่วนบุญใหม่ที่เราสร้างในปัจจุบันเป็นส่วนของบุญ บุญกับกรรมนี่ต่างคนต่างอยู่ ถึงเวลาต่างคนต่างให้ผล เพราะฉะนั้น..ทำไว้ดีกว่าไม่ทำ แต่ไม่ใช่การแก้กันโดยตรง

ในเรื่องของการสูญเสียทรัพย์สิน มีเคล็ดลับง่ายๆ ว่าให้ปล่อยนกบ่อยๆ สักเดือนละตัวสองตัวก็ได้ ถ้าปล่อยนกจะป้องกันในเรื่องของการสูญเสียทรัพย์สินได้ เพราะถึงเวลานกบินไปแล้วไปลับ ก็ปล่อยนกไปแทน จริงๆ โบราณเขาเก่งเหมือนกัน การปล่อยสัตว์อย่าง ปล่อยนก จะมีอานิสงส์พิเศษคือป้องกันเรื่องข้าวของสูญหาย ทรัพย์สินเสียหาย

เรื่องของการ ปล่อยปลา ถ้าทำเป็นประจำจะมีความเป็นอยู่คล่องตัว คนอื่นเขาลำบากแค่ไหนเราก็ไปได้เรื่อย เหมือนปลาที่แถกเหงือกไปเรื่อยๆ เพื่อไปหาที่อยู่ใหม่ แต่นี่เราปล่อยลงแม่น้ำใหญ่ ก็ยิ่งสบายใหญ่เลย

การ ปล่อยไก่ จะตัดเคราะห์กรรมใหญ่ได้ แต่ถ้า เคราะห์กรรมประเภทอุปฆาตกรรมหนักจะถึงแก่ชีวิต ให้ปล่อยพวก วัวหรือควาย ที่ว่ามานี้ถ้าได้สัตว์ประเภทที่เขากำลังจะฆ่าได้ก็ยิ่งดี เพราะว่าเท่ากับใช้ชีวิตแลกกัน เรื่องของการปล่อยสัตว์นอกจากได้เมตตาบารมีแล้ว ยังมีอานิสงส์พิเศษที่ว่ามาอีกด้วย

หลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านเคยไปเจอ ปูทะเล แล้วปล่อย อาตมาเรียนถามว่ามีอานิสงส์พิเศษอะไรครับ ? ท่านบอกว่า หลวงปู่พระครูโวทานธรรมาจารย์ วัดดาวดึงษาราม ฝั่งธนบุรี เป็นอาจารย์สอนเทศน์ของหลวงพ่อท่าน เคยปล่อยปูด้วยความสงสาร ท่านบอกว่า "ไอ้ปูอีปูเอ๊ย..ข้าจะไปเกิดเป็นพระพุทธเจ้า พวกเอ็งไม่ต้องตามไปเกิดเป็นบริวารของข้าหรอกนะ ข้าปล่อยพวกเอ็งไม่ได้ต้องการให้พวกเอ็งไปเป็นบริวารของข้า ข้าปล่อยพวกเอ็งเพราะต้องการให้พวกเอ็งพ้นทุกข์เท่านั้น"

ปูโดนมัดมาทั้งวัน บางตัวพอตัดเชือกออกมาขาหลุดหมดเลย คนเรานั่งนิ่งๆ ท่าเดียวก็แย่แล้ว แต่นี่โดนมัดด้วย ปรากฏว่าพอหลวงปู่ท่านปล่อยปูไปไม่นาน อาการที่ท่านเคยปวดหลังเมื่อยเอวอยู่ๆ ก็หายไปเฉยๆ หลวงปู่ท่านก็เลยคิดขึ้นมาได้ว่า น่าจะเป็นอานิสงส์ของการปล่อยปูให้พ้นจากการโดนมัด ท่านก็เลยเอามาเล่าให้ลูกศิษย์ฟัง หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านก็จำไว้ ถึงเวลาหลวงพ่อท่านก็มาปล่อยบ้าง

เพราะฉะนั้น..เรื่องของการปล่อยสัตว์ บางทีอานิสงส์พิเศษบางอย่างก็มีชนิดที่เรานึกไม่ถึง แต่ถ้าเกี่ยวกับข้าวของที่สูญหายหรือเสียหาย ก็ให้ปล่อยนกแทน ปล่อยเดือนละตัวสองตัวก็ได้ อาตมาเองถ้าไป วัดเชียงมั่น ที่เชียงใหม่ ไปไหว้พระแก้ววัดเชียงมั่น ก็จะปล่อยนกเขา เพราะว่าตรงนั้นจะมีนกเขาให้ปล่อย ที่อื่นไม่เคยเจอ

ไปถึงก็ต่อรองราคากันสนุกสนานเฮฮา ตอนหลังเขาจำได้แล้ว ไปถึงเขาก็วิ่งมาให้ปล่อยเลย แรกๆ เขาก็ถาม "ปล่อยนกบ่เจ้า" อาตมาบอกว่า "นกชนิดนี้ไม่ปล่อยหรอก ชอบกินมากกว่า" ญาติโยมก็หัวเราะกันสนุกสนานเฮฮา แรกๆ จะขายตัวละ ๑๕๐ บาท ต่อไปต่อมาเหลือแค่ตัวละ ๘๐ บาท หายไปครึ่งหนึ่ง อย่าไปเชื่อเขานะว่าปล่อยชีวิตสัตว์แล้วต่อราคาไม่ได้ ต่อไปเถอะ..เพราะเงินที่เหลือเราเอามาซื้อปล่อยเพิ่มได้

ปล. แต่การจะปล่อยสัตว์อะไรควรจะอยู่บนพื้นฐานว่ามันสามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมนั้นๆได้ด้วยหรือเปล่านะครับจะได้เกิดประโยชน์จริงๆไว้ว่างๆจะมาเล่าแจกแจงเรื่องสถานที่ปล่อยสัตว์ต่างๆกันอีกทีครับ

มหาทานแห่งชีวิตปล่อยปลา9999กิโลถวายบุญให้บุพการี
https://www.facebook.com/events/703869269652238/?ref=51&source=1

 

โอนเงินร่วมบุญ 80 บาท วันที่ 7/5/2014 เวลา 9.53

 

อนุโมทนาบุญนะคะ

ขอให้เจริญทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นผู้มีมนุษย์สมบัติ หากคิดหรือปรารถนาสิ่งใด ขอให้สมพรปรารถนา คะ

 

ปวารณาแล้ว133 กอง รวมกับที่โอนตามศรัทธา ณ ปัจจุบันประมาณ 38410บาท

ถ้าเราได้ปลาต้นทางจริงบวกค่าส่งผมตีราคาสูงเผื่อไว้ที่กิโลละ45บาทไว้ก่อน

เราน่าจะได้ปลา 5287กิโลกรัม หรือปลา10500-15000ตัวจะรอดตายล่ะครับ

มาช่วยกันครับอีกครึ่งทางกับเวลาประมาณ3เดือน

 

ขอร่วมบุญด้วย 40 บาทค่ะ

หมายเลขอ้างอิง TRTR140516882950910
เพื่อเข้าบัญชี 582-2-11312-7
ชื่อบัญชี ศุภชัย โรจน์ขจรนภาลัย เพื่องานพระศาสนา
จำนวนเงิน (บาท) 40.00
วันที่ทำรายการ 16/05/2014 11:01:08 PM.

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะคะ

 

อนุโมทนาบุญนะคะ

ขอให้เจริญทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นผู้มีมนุษย์สมบัติ หากคิดหรือปรารถนาสิ่งใด ขอให้สมพรปรารถนา คะ

 

วันนี้(๑๘/๕/๕๗) เวลา ๑๗:๑๙ น. ข้าพเจ้านายนิธิ รัตนนาคินทร์ และคณะ ได้ร่วมบุญปล่อยปลา ๙,๙๙๙ กิโลกรัม ถวายบุญให้บุพการี เป็นจำนวน ๔๒๕ บาท โอนแล้วเรียบร้อยครับ ผ่านธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี นายศุภชัย โรจน์ขจรนภาลัย เลขที่บัญชี ๕๘๒-๒-๑๑๓๑๒-๗ ขอโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ได้ร่วมบุญนี้ครับ

 

อนุโมทนาบุญนะคะ

ขอให้เจริญทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นผู้มีมนุษย์สมบัติ หากคิดหรือปรารถนาสิ่งใด ขอให้สมพรปรารถนา คะ

 

ในนาม กองบุญรวมชุมชนมโนฯ (บัญชีวิระทะโย) ร่วมทำบุญ 300 บาทครับ..

 

อนุโมทนาบุญนะคะ

ขอให้เจริญทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นผู้มีมนุษย์สมบัติ หากคิดหรือปรารถนาสิ่งใด ขอให้สมพรปรารถนา คะ

 

ปวารณาแล้ว143 กอง รวมกับที่โอนตามศรัทธา ณ ปัจจุบันประมาณ 41781บาท ถ้าเราได้ปลาต้นทางจริงบวกค่าส่งผมตีราคาสูงเผื่อไว้ที่กิโลละ45บาทไว้ก่อน เราน่าจะได้ปลา 5695 กิโลกรัมหรือปลา11400-17000 ตัวจะรอดตายล่ะครับ ไม่รู้ว่าจะถึงเป้าหมายได้มั๊ยแต่ศรัทธาของทุกๆคนก็ช่วยชีวิตได้ไม่น้อยแล้วครับ

 

จะแน่ใจได้อย่างไรว่าสัตว์เดรัจฉานที่อยู่ตรงหน้าจะไม่ใช่ญาติหรือคนรักเราในชาติก่อนๆที่รอเรามาช่วยอยู่

เรื่องจากคนเป็นสัตว์เดรัจฉาน แม้ในพุทธกาลก็มีการกล่าวถึง มาอ่านเรื่องของพระติสสะหวงจีวรกันครับ

ท่านติสสะ ท่านบวชในสำนักขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขณะพระองค์ยังมี พระชนมายุอยู่ ต่อมาวันหนึ่งท่านเห็นเพื่อนเขาห่มจีวรแพร ท่านก็อยากจะห่มจีวรแพรบ้าง พอดีท่านมีจีวรอยู่ผืนหนึ่งรู้สึกว่าจะเป็นผ้าเนื้อหยาบสักหน่อย ท่านจึงเอาไปให้พี่สาวจัดการทำให้ พี่สาวเห็นผ้าของพระน้องชายเนื้อหยาบมาก ก็ทุบเสียไปสะไปสางไปกรอใหม่เป็นผ้าเนื้อนิ่ม ทำให้เป็นผ้าเนื้อละเอียดเย็บแล้วก็นำมาย้อมดูเป็นผ้ามีราคาสูง แล้วเอาไปให้พระน้องชาย

เวลานั้นพระติสสะท่านป่วยมากจนไม่สามารถจะครองจีวรนี้ได้ เมื่อเห็นผ้าที่พี่สาวนำไปให้เป็นผ้าเนื้อละเอียดดีมาก แต่ผ้าของท่านที่ให้ไปเป็นผ้าเนื้อหยาบ อาศัยกำลังใจที่สะอาดมากของท่านจึงบอกกับพี่สาวว่า "ผ้าผืนนี้อาตมารับไม่ได้" พี่สาวก็ถามว่า "ทำไม" ท่านก็บอกว่า "ผ้าอาตมาที่ให้พี่ไปเป็นผ้าเนื้อหยาบ แต่ผ้าผืนนี้เป็นผ้าที่มีเนื้อดีมาก ไม่ควรแก่การที่จะรับไว้เพราะผิดพระวินัย เกรงว่าจะเป็นการขโมยหรือโกงผ้าของบุคคลอื่น"

พี่สาวจึงบอกว่า "ความจริงผ้าผืนนี้เป็นผ้าของท่าน เมื่อท่านนำผ้าเนื้อหยาบมาให้ ฉันก็เลยทุบทำเสียใหม่ เอาด้ายมากรอเสียใหม่ ทำใหม่หมดเป็นด้ายเส้นเล็กๆ เนื้อถึงได้บางสวยแบบนี้" ท่านก็ยอมรับเห็นว่าไม่ผิดพระวินัย เมื่อพี่สาวกลับไปแล้ว ท่านก็อยากจะห่มจีวรผืนนี้เต็มที แต่ห่มไม่ไหวเพราะป่วยจนลุกไม่ขึ้น จิตใจก็มีความรู้สึกรักจีวรผืนนี้มาก แต่ไม่นานนักไม่ทันได้ห่มจีวรท่านก็ถึงแก่ความตาย ก่อนจะตายจิตแทนที่จะนึกถึงพระรัตนตรัย จิตท่านไปกระหวัดนึกถึงจีวร แทนที่จะไปเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ กลับไปเกิดเป็นเล็นตัวเล็กๆ อาศัยอยู่ในตะเข็บของจีวรอยู่ ๗ วัน

ตามพระวินัยถ้าพระตายไปแล้ว ทรัพย์สมบัติที่มีอยู่ทั้งหมดต้องตกเป็นของสงฆ์ ญาติพี่น้องจะถือว่าฉันมีสิทธิ์เป็นทายาทผู้รับมรดกไม่ได้ ถ้าจะให้กันต้องให้ก่อนตาย ถ้าไม่ให้ก่อนตายตกเป็นของสงฆ์หมด เมื่อพระติสสะตายแล้ว บรรดาพระทั้งหลายก็ไปจัดการว่าทรัพย์สมบัติของพระติสสะมีอะไรบ้าง ก็หยิบโน่นหยิบนี่ตามที่มีอยู่ หยิบอย่างอื่นไม่มีเรื่อง พอพระองค์หนึ่งไปจับจีวรแพรผืนนั้นเข้า เล็นติสสะร้องตะโกนเสียงดังว่า "ไอ้ขโมยปล้นจีวร ไอ้ขโมยปล้นจีวร" แต่เป็นการบังเอิญจริงๆ พระที่ไปนั้นไม่มีพระหูทิพย์เลย เลยไม่ได้ยิน พระพุทธเจ้าประทับอยู่ในพระคันธ กุฎีได้ยินเสียงเล็นตะโกนแบบนั้น ทรงบอกพระอานนท์ว่า "ไห้รีบไปที่กุฏิท่านติสสะเดี๋ยวนี้ บอกพระทั้งหลายว่าจีวรผืนนั้นให้วางไว้ก่อน ภายใน ๗ วันนี้ห้ามมาแตะต้องเด็ดขาด วันที่ ๘ จึงแตะต้องได้" พระอานนท์กราบทูลถามพระพุทธเจ้าว่า "เป็นเพราะอะไร" พระองค์ก็ตรัสว่า "พระติสสะก่อนที่จะตายห่วงจีวร และมีความรักในจีวรผืนนี้มากเพราะเนื้อดีมาก ดีกว่าทุกผืนที่เคยมีอยู่ เธอตั้งใจจะครองผ้าผืนนี้แต่ว่าโอกาสไม่มีมาตายเสียก่อน ก่อนจะตายจิตใจก็นึกถึงจีวรผืนนี้ ตายแล้วก็ต้องมาเกิดเป็นเล็นเฝ้าจีวรอยู่ ๗ วัน" เพราะเล็นมีอายุแค่ ๗ วัน หลังจากนั้นวันที่ ๘ เล็นตัวนี้ก็จะตาย อายุขัยของเขาแค่นั้น มีอายุขัยแค่ ๗ วันเหมือนกับยุง

เล็นติสสะตายแล้วก็ไปเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นดุสิต

การที่องค์สมเด็จพระทรงสวัสดิโสภาคย์ทรงแนะนำให้เจริญพระกรรมฐาน ทำสมาธิจิตและวิปัสสนาญาณก็เพื่อจิตมุ่งอะไร ใจจะไปอย่างนั้นตามกำลังของใจเมื่อตายไปแล้ว ขณะทรงชีวิตอยู่ให้มีความรู้สึกนึกถึงความตายไว้เป็นปกติและไม่ประมาทในชีวิต อย่าไปหลงใหลใฝ่ฝันกับสิ่งที่ไม่มีประโยชน์เกินไป ให้คิดถึงความจริงของคนว่า ถ้าตายไปแล้วไม่มีโอกาสที่จะครองทรัพย์สมบัติใดๆ ได้อีก ทุกสิ่งทุกอย่างปล่อยมันไว้ ตายแล้วก็เลิกกัน ถ้าอารมณ์จิตของท่านเป็นอย่างนี้ จิตใจก็จะผ่องใส ถ้าจิตใจของเราในระหว่างเป็นมนุษย์จับพระนิพพานเป็นอารมณ์ ตายเมื่อไรก็ไปพระนิพพานเมื่อนั้น

หากปลาที่เราปล่อยหนึ่งในนั้นเป็นพ่อแม่ผู้มีคุณ คนรักเราในอดีตชาติที่รอเรามาช่วยเหลืออยู่ ถ้าเค้ารอดตายคงดีไม่น้อย

มหาทานแห่งชีวิต ปล่อยปลา 9999กก ถวายบุญให้บุพการี

 

ปวารณาแล้ว151 กอง รวมกับที่โอนตามศรัทธา ณ ปัจจุบันประมาณ 47,017.77บาท ถ้าเราได้ปลาต้นทางจริงบวกค่าส่งผมตีราคาสูงเผื่อไว้ที่กิโลละ45บาทไว้ก่อน เราน่าจะได้ปลา 6078กิโลกรัม หรือปลา12,000-18,000ตัว. ที่จะส่งไปตลาดคลองเตยและทั่วกรุงเทพ เพื่อนำไปฆ่าจะรอดตายล่ะครับ เข้าสู่4ตันสุดท้าย กับเวลา72วันที่เหลือ มาช่วยชีวิตนับหมื่นให้พ้นอุปฆาตกรรมกันนะครับ
https://www.facebook.com/events/703869269652238/?ref=51&source=1

 

บันทึกบุญ
ข้าพเจ้าทั้งหลาย
นางสาวน้ำฝน แซ่ลิ้มและครอบครัว
นายวิฑูรย์ เลิศล้ำนภากุลและครอบครัว
ดช.ชัยชาญ เลิศล้ำนภากุล
นางปราณี ริยาพันธุ์และครอบครัว
นางสาวน้ำผึ้ง แซ่ลิ้มและครบครัว
นายวิรุจน์ แซ่ลิ้มและครอบครัว
บจก.อ้อมใหญ่เซียงกง
นส.ศิริรัตน์ ตันฮวดเจริญและครอบครัว
นายสุรพล แซ่ลิ้ม
หลวงพ่อดำ

ข้าพเจ้าทั้งหบายร่วมทำบุญ99.99บาท วันนี้

 

อนุโมทนาบุญนะคะ

ขอให้เจริญทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นผู้มีมนุษย์สมบัติ หากคิดหรือปรารถนาสิ่งใด ขอให้สมพรปรารถนา คะ

 

ข้าพเจ้าสิรินันท์ ณ นคร ครอบครัวและญาติ ขอร่วมทำบุญมหาทานแห่งชีวิต ปล่อยปลา 9999 กิโลกรัม ถวายบุญให้บุพการี

เป็นเงิน 200 บาท โอนเข้าธ.กสิกรไทย วันที่ 1/6/57 เวลา 13.45 น.

ขออนุโทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ

 

อนุโมทนาบุญนะคะ

ขอให้เจริญทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นผู้มีมนุษย์สมบัติ หากคิดหรือปรารถนาสิ่งใด ขอให้สมพรปรารถนา คะ

 

ขอร่วมบุญมหาทานแห่งชีวิต ปล่อยปลา 9999 กิโลกรัม ถวายบุญให้บุพการี
โอนเงิน 250 บาท ธ.กสิกรไทย มีผลวันที่ 04/06/57 ครับ..
อนุโมทนาบุญ..สาธุ..สาธุ..สาธุ..

 

อนุโมทนาบุญนะคะ

ขอให้เจริญทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นผู้มีมนุษย์สมบัติ หากคิดหรือปรารถนาสิ่งใด ขอให้สมพรปรารถนา คะ