ประสบการณ์มโนมยิทธิ กรรม และเรื่องยุ่งๆของผม

​

วันนี้หน่วยสอดแนมแว่บไปข้างบนมาครับ วันนี้วันพระตรงกับวันวิสาขบูชาด้วย ที่เทวสภาไปเจอทั้งญาติผู้ใหญ่และลูกหลานในอดีตมา วันนี้พระใหญ่ท่านเทศน์เรื่องธรรมจักรกัปปวัฒนสูตร เดี๋ยวพรุ่งนี้ถ้าว่างๆ อารมณ์ดีๆจะลงเรื่องกรรมที่เกิดจากการผิดศีลข้อ 3 ของผมมาเล่าให้ฟังกันครับ

​

 

สาธุ สาธุ สาธุ...

 

หน่วยสอดแนมกระทู้นี้ รายงานตัวค่ะ หลังจากแอบซุ่มอ่านมานาน
รอติดตามอ่านนะคะ...

อนุโมทนาในธรรมทานและกุศลผลบุญทั้งหลายทั้งปวงที่คุณ softkid9
ได้บำเพ็ญเพียรทำมาอย่างดีด้วยค่ะ

 

อนุโมทนากับคุณ tharathan ครับ ยินดีมากครับที่มีพี่ๆน้องๆลูกหลานหลวงพ่อท่านมาร่วมพูดคุยกัน กะว่าจะตั้งแก๊งค์หรือคณะได้เลยนะเนี๊ยะ น่าจะเรียกว่าคณะเบื่อโลกอะไรพวกนี้น่ะจะได้ รูปข้างล่างนี่ไอเดียดีครับ ไม่รู้ใครคิด ถ้าไม่จดลิขสิทธิ์เก๊ากะว่าจะเอามาเป็นโลโก้ของแก๊งค์เรานะครับ

​

วันนี้มีเรื่องกรรมผิดศีลข้อ 3 มาเล่าสู่กันฟังครับ ถ้าท่านใดที่ติดตามอ่านกระทู้นี้มาโดยตลอด จะทราบว่าในอดีตเมื่อนานมาแล้วชาติหนึ่งที่เกิดเป็นทหาร แล้วอีทีนี้ก็ไปรบแล้วก็ได้เมียไปเมืองละคน ไปหาเอาข้างหน้าไปเรื่อยๆ ชาตินี้กรรมเค้าตอบแทนผมยังไงทราบมั๊ยครับ ตอนผมหนุ่มๆ อายุซัก 17-18 บรรยายแค่รูปร่างหน้าตาผมก่อนก็แล้วกัน หน้าเรียวยาว หน้าออกหวานๆ ตาเยิ้มๆ เสียงพูดก็เล็กๆ หุ่นสูงโปร่ง ผมสูง 182 ซม. ฟังดูเหมือนจะหล่อจะใช่มั๊ยครับ แต่คนเข้าใจผมผิดคิดว่าผมเป็นแต๋วซะงั้น แล้วก็มีทั้งเพศเดียวกันและต่างเพศมาชอบๆผมหลายคน ขนาดผมเล่นบาสเป็นตัวแทนของวิทยาลัย ดูเหมือนจะแมนนะครับ แต่อาจารย์ยังมาชวนผมไปประกวดนายแบบ เท่านั้นยังไม่พออาจารย์ก็ดูเหมือนจะชอบพอผมด้วยซะอีก บอกตรงๆได้คำเดียวว่า“ยุ่งแล้วตรู” หรือจะเอาสามคำแบบวัยรุ่นชอบเล่นกันก็“ตรูงานเข้า”

ผมโดนเข้าใจผิดอย่างนี้มาโดยตลอด กรรมเพิ่งจะมาเบาเอาตอนเมื่อซัก 4-5 ปีมานี่เองครับ เพราะตอนนี้ผมทั้งลงพุง หัวเริ่มเถิกแล้ว ผมก็เริ่มหงอกแล้ว ผิวสองสีคือสีดำมาแทนสีขาวด้วย สรุปว่าตอนนี้ไม่มีใครเข้าใจผิดผมแล้วละ แต่ก็ยังติดอยู่นิดๆคือคารมยังดีอยู่ เวลาติดต่องานกับลูกค้าก็ยังมีสาวๆเหล่ๆชายตามองแอร์ไก่(ไอ้แก่ของท่านผบ.ทบ.)อยู่น่ะครับ แต่ไม่เป็นไรผมมีวิธีแก้ เวลาผมไปทำงานผมเอาท่านผบ.ทบ.ไปทำงานด้วยกัน เพราะผมทำอาชีพธุรกิจส่วนตัว โม้ขายอะไหล่คอมพ์ไปตามเรื่องตามราวนั้นละครับ สบายตัวไปไม่ต้องกลุ้มเรื่องสาวๆให้ปวดหัว

​

สมัยผมยังรุ่งๆริ่งๆ วัยสะรุ่นอยู่ กิ๊กผมเคยตบกันกลางสี่แยกไฟแดงกับสหกรณ์วิทยาลัยมาแล้วก๊าบ แต่ตัวผมหนีหายจ้อยเลย แฮะๆ ถือคติโบราณท่านว่าถ้าสาวๆตบกันเพราะเรา อย่าอยู่ใกล้ จะเป็นภัยกับตัวเราครับ เป็นไงกันบ้างสำหรับความเลวผม ตอนนี้ผมก็ยังไม่ใช่คนดีนะครับ เพราะยังมีอารมณ์กิเลสต่างๆอยู่ครบ ทั้งรัก โลภ โกรธ หลง ยังเห็นสาวๆขาวๆหมวยๆว่ายังสวยอยู่นี่ แสดงว่ายังคบความเลวเป็นเพื่อนอยู่ แต่ก็ว่าจะเลิกคบมันแล้วละครับ ตอนนี้พยายามบังคับตัวเองให้อยู่ในศีล จะเว้าๆแหว่งๆมั่งก็ชั่งมัน บ้านใหม่ก็สร้างไว้แล้ว กะว่าถ้าตรูตายเมื่อไหร่ สบายเมื่อนั้นละก๊าบ

​

 

อนุโมทนาครับพี่เก่ง...


ถ้านี้เป็นผลกรรมจากการผิดศีลข้อ3ของพี่ ผมคงทำไว้มากกว่าพี่เป็นแน่ ฮ่ะๆ แต่ไม่เป็นไรครับ ตอนนี้ผมปลงแลัวล่ะ ใช้ชีวิตแบบนี้ก็มีความสุขดี ถึงแม้ว่าตอนม.ปลายเพื่อนร้วมห้องที่เป็นผู้ชายเพียงหยิบมือเดียว(ผมเรียนศิลป์ภาษาญี่ปุ่นน่ะครับ เลยมีผู้ชายน้อย ทั้งห้องถ้านับรวมผมก็มีผู้ชายแค่7คน) จะสร้างบาดแผลทางใจให้ผมก็เถอะ แต่ผมพยายามไม่นึกถึงมัน...ตอนนั้นมันเป็นความผิดของผมเองด้วยส่วนนึง แต่ช่างเถอะครับ ผมถือว่ามันเป็นกรรมเก่าของผมเองด้วย แหะๆ

 

เพราะอย่างนี้ละครับ ผมถึงอยากจะลาออกจากการเป็นคน รอวันกลับบ้านเก่า ถึงเวลาของผมเมื่อไหร่ละก็ มีความสุขเมื่อนั้นละครับ

​

 

พูดถึงเรื่องศีลนี่ ชาตินี้ผมก็จัดไปหนักเหมือนกัน ไอ้เศษกรรมชาติที่แล้วที่ส่งผลมายังปัจจุบันเล่นงานอยู่เหมือนยังไม่สะใจ ชาตินี้แส่หาเรื่องผิดศีลซ้ำๆ

ช่วงนี้ก็ยังพยายามแบบหัวเต่า ผลุบๆโผล่ๆ

ขออนุโมทนาในคุณความดีของพี่เก่งนะครับ

 

แฮะๆ รู้สึกว่าแก๊งค์นี้จะมีกรรมคล้ายๆกันนะครับ

 

ช่วงนี้เก๊านึกอะไรมะออก เอาอย่างงี้ละกัน ผมจะนำเอาคำพูดของนักวิทยาศาสตร์ นักฟิสิกส์ นักปรัชญาและอีกหลายๆศาสตร์ในยุโรป ซึ่งหลายคนหันมาศึกษาสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสั่งสอนไว้ในศาสนาพุทธ ผมจะทะยอยนำมาให้อ่านกันเรื่อยๆ ระหว่างที่เก๊ายังคิดอะไรไม่ออกนะครับ จะได้แบ่งปันความคิดของผู้ที่ประสบความสำเร็จระดับโลก ว่าเค้ามีความคิดเห็นอย่างไรกับพระพุทธศาสนา

มหาตมะคานธีกล่าวสุนทรพจน์ในงานพิธีพุทธชยันตี ณ เมืองกัลกัตตา อินเดีย พ.ศ.2496
​

"หลักคำสอนของพระพุทธองค์สามารถนำมาใช้ได้ในชีวิตจริง ข้าพเจ้ามั่นใจอย่างไม่หลงเหลือความเคลือบแคลงสงสัยเลยแม้แต่น้อย ว่าพระองค์จะทรงดำรงอยู่ในฐานะปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติ"

​

 

เจ โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์(J. Robert Oppenheimer)ผู้อำนวยการสำนักวิจัยลอสอลาโมส สถานที่ใช้พัฒนาระเปิดปรมาณูลูกแรกของสหรัฐฯและหัวหน้าโครงการระเบิดปรมาณู เขาได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งระเบิดปรมาณู:"กว่าที่นักฟิสิกส์จะเข้าใจว่าพระพุทธเจ้าทรงพยายามบอกอะไรก็ล่วงเลยมาจนถึงศตวรรษนี้"

​

 

ฟริตจ๊อบ คาปร้า (Fritjof Capra) นักฟิสิกส์ปริญญาเอกชาวออสเตรีย ผู้เข้าใจปรัชญาของโลกตะวันออกอย่างลึกซึ้ง ปัจจุบันสอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเบิร์กลีย์ สหรัฐอเมริกา ผู้เขียนหนังสือฟิสิกส์แห่งเต๋า

:"ปัญญาญาณไม่ได้เกิดจากการคิด แต่เกิดโดยอาศัยกำลังสติไปขยายความรู้สึก (สัมปชัญญะ)"

"การค้นพบความจริงทางธรรมชาติในคริสต์ศตวรรษที่ 21 เป็นความรู้ที่มีอยู่แล้วในโลกตะวันออกนับพันปี แต่อยู่ในรูปของศาสนา"

​

 

ร่วมสร้างพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์ปฐมต้น

สวัสดีครับพี่เก่งและพี่น้องญาติธรรมทุกๆท่าน วันนี้ผมมาบอกบุญต่อครับ (แหะๆไม่รู้ว่าจะรกกระทู้พี่เก่งรึเปล่า)

คณะทานบารมีและพี่สมาชิกเว็บพลังจิตท่านหนึ่งกำลังจะทำการหล่อพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์ปฐมต้น (พระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์แรกของโลกธาตุ พระองค์ทรงพบเจอสมเด็จองค์ปฐมต้นซึ่งในขณะนั้นพระองค์ทรงเป็นพระราชา และได้ตั้งปณิธานต้องการจะบรรลุปัจเจกโพธิญานและใช้เวลาในการบำเพ็ญบารมีนานกว่าพระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์อื่น เนื่องจากเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์แรก) การหล่อพระปัจเจกพุทธเจ้าหน้าตัก21นิ้ว นั่งบนพญานาคแม่ลูกรวมความกว้างของฐานแล้ว 34 นิ้วครับ เพื่อนำไปเป็นพระประธาน ณ พิพิธภัณฑ์ต้นแบบพระสังฆราช จังหวัด เลย ครับ จะมีการหล่อพระในวันอาทิตย์ที่25 พฤษภาคมนี้แล้วครับ อยากให้ทุกๆท่านร่วมด้วยช่วยกันครับ

โดยร่วมบุญได้ที่
ชื่อบัญชี นายนิรันดร์ เริ่มกลาง
เลขที่บัญชี 269-2-780-313
ธนาคาร กสิกรไทย สาขาบางใหญ่ ประเภท ออมทรัพย์
http://palungjit.org/threads/ร่วมสร้างพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์ปฐม25-5-57-ลูกแก้วพิศดารโลกอุดร-แก้ดวงชะตาทำกรรมฐานได้.530455/

ขออนุโมทนาครับ

 

ไม่เป็นไรครับน้องกฤษณ์ ตามสบายเลย พี่ๆน้องๆกันทั้งนั้น เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ร่วมทำบุญด้วย 200.- ครับ

 

ฮ่าๆๆ เรื่องกรรมผิดศีลข้อ 3 นี่ เฟมก็ไม่ต่างกันหรอกค่ะพี่ เลยกะว่าจะเขียนไว้ในกระทู้ของตัวเองสักหน่อย เพราะไหนๆก็มีประสบการณ์มาแล้ว เผื่อจะเป็นประโยชน์แก่หลายๆท่านค่ะ อิอิ

 

อนุโมทนาครับพี่เก่ง

 

อนุโมทนาสาธุครับน้องเฟมและน้องกฤษณ์ ความรู้สึกของพี่ตอนวัยรุ่นนั้น ก็คล้ายๆกับน้องเฟม คือมีคนเข้าใจพี่ผิดคิดว่าเราเป็นแต๋วซะอย่างงั้น เป็นแบบนี้บ่อยครั้งจนเป็นเรืิ่องธรรมดา ทั้งๆที่เราก็เป็นผู้ชายปกติ กรรมตัวนี้ส่งผลกับผมหลายปีจนวางใจชินเห็นเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว กรรมตัวนี้เพิ่งจะมาคลายตัวเมื่อซัก 4-5 ปีมานี่เอง เมื่อก่อนหน้าเรียว ยาว ตาหวานๆเยิ้มๆ สูงโปร่ง 182 ซม. ไม่ใส่แว่น เดี๋ยวนี้หน้าหดสั้น แก้มกลมแบบส้มแป้น ใส่แว่น ผมหงอก ผมบาง เริ่มจะเถิกแล้ว ลงพุง ผิวสองสี(สีดำมาแทนสีขาว) ความสูงยังเท่าเดิม นี่ละครับสิ่งที่ไม่เที่ยง "เราก็ตามพิจารณาสังขาร ร่างกายที่เป็นเหมือนบ้านเช่า พอถึงเวลาก็ต้องคืนธรรมชาติเค้าไป ไม่เหลืออะไรที่เป็นของเราเลย เพราะร่างกายเรามันเป็นภาพลวงตาที่ไม่มีอยู่จริง เพียงแต่เป็นภาพลวงตาที่มีสภาพให้เราเห็นนานหน่อยนึงแค่นั้นเอง เมื่อ 100 ปีก่อนก็ไม่มีตัวเรา หลังจากนี้อีก 100 ปีก็ไม่มีตัวเราอยู่เช่นกัน"

สองภาพข้างล่างนี้ ให้ท่านผบ.ทบ.ดูเปรียบเทียบ ท่านยังหัวเราะเลย ท่านบอกว่าภาพเปรียบเทียบสื่อได้ใกล้เคียงแต้ๆ

อันนี้ภาพเชิงเปรียบเทียบพี่เมื่อตอนวัยรุ่น ประมาณนี้แหละครับ





อันนี้ภาพเชิงเปรียบเทียบพี่ตอนปัจจุบันเป็นแบบนี้ละครับ

​

 

สวัสดีค่ะ ชื่อเมย์ค่ะมาอ่านกระทู้นี้รู้สึกว่าตนเองนี่แย่มากขี้เกียจจริง
อยากปฏิบัติธรรมนะคะแต่เวลาตั้งใจจะรักษาศีล พิจารณาอะไร
คือทำก็ได้คิดก็ได้แต่ชอบลืมไม่ทราบว่าจะแก้ไขอย่างไรดี
เคยไปวัดท่าซุงแล้ว พระท่านที่รับสังฆทานบอกว่าเป็นลูกหลวงพ่อท่าน
ปัญหาใหญ่สำหรับตอนนี้คือ ชอบลืมว่าจะรักษาศีล
พิจารณาในทุกข์ก็ชอบลืมอารมณ์เบื่อไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรดี
อยากขอคำแนะนำค่ะ

 

​

สวัสดีและอนุโมทนากับคุณเมย์นะครับ วิธีปฏิบัติและวางใจผมทำและคิดอย่างนี้ครับ เรื่องทางโลกเราก็ปล่อยให้เป็นไปตามเรื่องของโลก ส่วนตัวเราเน้นบุญวิหารทานเป็นปกติ สิบยี่สิบบาทก็ได้ครับตามแต่สะดวกและไม่เดือดร้อนตัวเราเองสร้างอะไรก็ได้ในเขตของวัดเรียกว่าวิหารทานทั้งหมด แต่บุญอย่างอื่นก็ทำควบคู่ไปด้วยนะครับ และพยายามทำให้เป็นปกติวิสัย หลวงพ่อท่านแนะนำไว้ว่าเวลาเราทำบุญให้ตั้งจิตระลึกถึงปู่พระยายมฝากท่านเป็นพยานบุญ เป็นการกันเราตกนรกครับ

ศีล 5 จะเว้ามั่งแหว่งมั่งก็ช่างมัน พยายามรักษาไปเรื่อยๆครับ ผมนี่สมาทานศีล 5 ทุกวัน แล้วก็พยายามตรวจดูว่าในแต่ละวัน ก่อนจะนอน เราศีลขาดตรงไหน แล้วพยายามควบคุมตัวเองให้ได้ แรกๆจะขาดๆเกินๆก็ไม่เป็นไรนะครับ ตั้งใจไว้ที่พระนิพพานลูกเดียว แล้วก็ตั้งจิตอธิษฐานในตอนเช้าตั้งแต่ตื่นนอน และตอนก่อนจะนอน ตั้งจิตไว้ว่าถ้าเราตายในวันนี้ จะไปพระนิพพานไปอยู่กับพระพุทธองค์และหลวงพ่อ และถ้าคุณได้ตายในเวลาใดเวลาหนึ่ง ในเวลา 24 ชั่วโมง รับรองว่า ได้ไปสู่สถานที่ตามที่จิตได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้แน่นอนครับ สำคัญอยู่ที่ว่าเมื่อตั้งจิตอธิฐานแล้ว จงอย่าสงสัยในความดีที่ได้ตั้งสัจจะไว้ดีแล้ว ให้มีความมั่นใจสูงสุด ส่วนมันจะไปได้หรือไม่ได้ไม่ต้องไปสนใจ ถ้ากำลังใจมันไม่พอขาดเหลือนิดหน่อย ไปต่อบนสวรรค์ก็ได้ครับ จะได้ไม่ต้องมาเกิดอีก

ถ้าคุณเมย์จะพิจารณาอารมณ์ทุกข์ที่มักจะลืม ก็ลองนึกดูว่าการที่คุณเมย์เกิดมาเป็นคนนี่มีความทุกข์อะไรบ้าง ตอนเป็นเด็กมีความทุกข์มั๊ยทุกข์แบบเด็กๆ ตอนเรียนหนังสือมีความทุกข์มั๊ย พอจบเป็นผู้ใหญ่มีความทุกข์มั๊ยทุกข์แบบผู้ใหญ่ เป็นเพศหญิงมีความทุกข์อะไรบ้าง แม้แต่ผมซึ่งเป็นผู้ชายก็มีความทุกข์แบบผู้ชายที่มีครอบครัวแล้ว ต้องดูแลทั้งตัวเอง แม่ แฟน(ท่านผบ.ทบ.) ต้องทำมาหากิน ต้องเหนื่อยเพื่อให้ได้เงินมาเลี้่ยงดูตัวเองและครอบครัว ร่ายกายตัวเราเองก็ต้องดูแล ไม่อาบน้ำล้างหน้าแปลงฟันวันนึงก็เหม็นแล้ว ต้องดูแลเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายเพื่อให้เข้าสังคมได้ ของที่อยากได้ก็ยังมีอยู่เพราะผมยังเป็นคนเต็ม 100 % ยังมีกิเลสอยู่ และต้องเจอกับปัญหาสารพัดทุกวัน เวลาสุขจริงๆไม่ค่อยมี มีแต่ทุกข์ซะเป็นส่วนมาก เวลาออกไปทำงานในแต่ละวันไม่รู้ว่าวันนี้จะมีโอกาสกลับมาบ้านอีกมั๊ย วันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายของเราก็ได้ เห็นคนตายเยอะแยะ แต่อย่าลืมว่าตัวเราก็ต้องตายเหมือนกัน รวมความแล้วโลกนี้หาความดีไม่ค่อยได้ครับ และอารมณ์ที่มากระทบใจในแต่ละวันมันไม่เท่ากัน สุขมั่ง ทุกข์มั่ง ต้องพิจารณาจากตัวทุกข์ของเราแล้วจะเห็นภาพตามความเป็นจริง

แต่ผมยังเอาดีไม่ได้เลยซักกะอย่าง ฉะนั้นโปรดอย่าเพิ่งเชื่อผมเต็ม 100 % นะครับ ลองไปปฏิบัติดูก่อนแล้วค่อยเชื่อนะก๊าบ ตัวเราทำตามใจกิเลสมานานแสนนานแล้ว ก็ต้องเคาะสนิมกันนานหน่อย

​

 

ทำทุกวันเลยค่ะช่วงนี้ แนะนำให้ท่านผู้อ่านลองทำดูน้าคะ

 

อยากทราบจังเลยค่ะ สำหรับคนที่ไม่มีทิพยจักขุญาณ และยังไม่ได้มโนมยิทธิ
เราจะทราบได้อย่างไรว่า สิ่งที่เราสัมผัสและรู้สึกถึงนั้น คืออะไร
เช่น ผี วิญญาณ อสูร เปรต เจ้าที่ เทวดา หรือครูบาอาจารย์
ส่วนใหญ่จะเป็น เวลาสวดมนต์ หรือนั่งสมาธิ จะรู้สึกแปลกๆ ตลอดเลยค่ะ