อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ปู ท่าพระ, 26 ธันวาคม 2013.

  1. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,124
    ใช่ครับน้องกานต์...ขอบคุณที่นำมาให้ชมครับ...เนื้อผงการเกาะตัวไม่แน่นมากจึงมีการเคลือบและไม่เคลือบและมีแบบเคลือบรักดำเพื่อกันเนื้อหลุดร่อน ด้านหลังมีแบบหลังมีภาพถ่ายและหลังจีวรแบบใดๆก็หายากครับ...ใครมีขอให้รักษาไว้ให้ดีครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤษภาคม 2014
  2. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    มาแล้ว เร็วปิ๊ด ๆ ๆ
     
  3. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    น้อมกราบนมัสการ ลป.คำพันธ์ครับ
    ขอบคุณอ.โญ ที่นำมาให้ชม สวยๆทั้งนั้นครับ
     
  4. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    น้อมกราบนมัสการ ลป.เรือง

     
  5. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    ลป.ทวด โรงเรียนคณะราษฏร์บำรุง ยะลา น้องที่มอบให้บอกว่า ลป.นอง และครูบาอาจารย์สายใต้อธิษฐานจิตครับ

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  6. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,373
    ค่าพลัง:
    +53,102

    องค์นี้ถ้าจำไม่ผิด น่าจะได้ส่องกับมือมาแล้วนา สวยมากครับ :cool::cool:
     
  7. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,373
    ค่าพลัง:
    +53,102
    เรื่องที่ ๑๗

    โรงเรียนเสนาธิการทหารบก

    ๗ พฤษภาคม ๒๔๙๙

    เรียน อาจารย์ ที่เคารพยิ่ง

    เมื่อผมกลับจากทัศนาจรภาคใต้พร้อมกับคณะ ก็ได้หยุดพักผ่อนชั่วคราว โอกาสนั้นผมได้ไปเยี่ยมบ้านที่จังหวัดพิจิตร และในการเดินทางไปเยี่ยมบ้านของผมในคราวนี้ ได้ประสพอภินิหารของหลวงพ่อทวดฯ อย่างหนึ่ง กล่าวคือ ผมได้พาครอบครัวไปหมด ลงจากรถไฟเวลาประมาณ ๕ โมงเย็นเศษ แต่โชคร้ายเหลือเกิน เพราะเมื่อวานนี้ฝนตกหนักถนนรถยนต์เดินไปมาไม่ได้ ผมจำเป็นต้องเดินเท้ากลับจากสถานีเป็นระยะทางถึง ๔ ชั่วโมง ซึ่งถนนเป็นทางเกวียนและต้องผ่านทุ่งนา ในเวลาค่ำคืนฝนตั้งเค้าทำท่าจะตกหนักอีก ผมเริ่มเป็นทุกข์ใจ เพราะถ้าฝนตกลูกๆ ของผมก็จะต้องเปียกฝน อาจจะเจ็บป่วยกันเป็นแน่ เพราะเครื่องกันฝนก็มีไม่พอ หมดปัญญาเสียแล้วก็นึกถึงหลวงพ่อทวดฯ ได้ เลยขออาราธนาท่านให้ช่วยปัดเป่าลมฝนให้ ผมเดินต่อมาสักครู่ ท้องฟ้าอันดำมืดและฟ้าที่กำลังคำรามอยู่ไม่ขาดเสียงนั้น เริ่มแจ่มใสขึ้นจนท้องฟ้าสว่างมองเห็นดวงดาว ผมแทบไม่เชื่อเลยว่าจะเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ เพราะท้องฟ้าแทบจะถล่มลงมาอยู่แล้ว ทั้งพายุก็โหมลงมาอย่างแรง คล้ายๆ กับว่าแทบจะสุดกลั้นที่จะไม่ให้ฝนตก ทั้งมีละอองฝนลงมาบ้างแล้ว ผมเริ่มวิตกมากยิ่งขึ้น แต่ที่สุดฝนก็ไม่ตก ในเวลานี้ส่วนตัวผมมีความเชื่อมั่นในอภินิหารของหลวงพ่อทวดฯ ท่านเหลือเกิน

    ด้วยความเคารพอย่างสูง
    พันโท ประสิทธิ์ เวชสวรรค์
     
  8. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,373
    ค่าพลัง:
    +53,102
    เรื่องที่ ๑๘

    ร.ร. เสนาธิการทหารบก

    ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๐๐

    เรียน อาจารย์ ที่เคารพ

    อาจารย์ครับ ผมมีเรื่องเกี่ยวกับอภินิหารหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดที่ผมได้ประสพมา และอยากจะเล่าให้อาจารย์ฟัง กล่าวคือ เมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๐๐ ทางโรงเรียนได้พาคณะอาจารย์ออกเดินทางไปตรวจภูมิประเทศทางภาคอีสานโดยทางรถยนต์ พร้อมกับนำนักเรียนนายร้อยชุดปัจจุบันไปทำการฝึกภาค วันที่ ๑๑ ตุลาคมเป็นวันเดินทางออกจากขอนแก่น จะไปพักแรมที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อรถยนต์แล่นมาถึงสถานีบ้านไผ่ประมาณ ๘ กิโลเมตร รถคันที่ผมนั่งมาด้วยนั้นเกิดพลิกคว่ำลงอย่างแรง เพราะรถแล่นลงตามทางลาดต่ำและวิ่งไปด้วยความเร็วสูง รถจะต้องเลี้ยวโค้งเป็นมุมฉากเพื่อตัดข้ามทางรถไฟ เนื่องจากคนขับไม่เคยทาง จึงไม่ทราบลักษณะของโค้ง จึงขับด้วยความเร็ว ๕๐ ถึง ๖๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง เลยพลิกคว่ำลงอย่างไม่เป็นท่าลงตรงนั้นเอง รถพลิกคว่ำลงข้างถนนอันเป็นที่ลาดต่ำมากสี่ล้อชี้ฟ้าไปเลย ครอบเอาพวกเราไว้ในกะบะรถนั่นเอง ขณะรถทำท่าจะพลิกคว่ำนั้นผมตกใจมากร้องตะโกนโดยไม่รู้สึกตัวว่า "หลวงพ่อทวดช่วยด้วย" สิ่งที่น่าอัศจรรย์ก็คือ รถนั้นน่าจะพลิกต่อไปตามทางลาดต่ำอีกหลายทอด แต่ก็ไม่พลิก น่าอัศจรรย์ที่สุดก็คือ พวกเราคลานออกมาจากใต้กะบะรถทีละคนๆ ด้วยความปลอดภัยไม่มีใครเป็นอะไรเลยก็ว่าได้ เพราะอย่างมากก็มีแผลฟกช้ำดำเขียวเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น

    พวกขับรถโดยสารมาพบเข้าหยุดถามว่า "ตายกี่คน" จึงบอกเขาว่าไม่เป็นไร เขาบอกว่าเมื่อรถคันใดพลิกตรงนี้ จะไม่มีคนตายนั้นไม่เคยมี เมื่อพวกเราตรวจดูรถที่คว่ำแล้วก็ปรากฏสิ่งที่น่าแปลกใจอีกว่า ที่รถไม่พลิกลงตามลาดอีกต่อไปเป็นเพราะถังน้ำมันเบ็นซินขนาด ๒๐๐ ลิตร ๓ ถัง ที่บรรทุกอยู่ในรถคันนี้ มีอยู่ ๒ ถังตกลงไปรองรับขอบกะบะรถด้านลาดต่ำข้างหน้า ๑ ถัง ข้างหลัง ๑ ถัง อีกถังหนึ่งกระเด็นกลิ้งไปไกลจากเรา มิฉะนั้นคงจะทับพวกเราบี้แบนไปหมดแน่ น่าคิดว่ามีอภินิหารอะไรที่เอาถังน้ำมันไปรองรับขอบกะบะมิให้รถพลิกต่อไปถึง ๒ ถัง และตั้งรับไว้ในที่อันเหมาะสมเช่นนี้ ทำให้พวกเราปลอดภัยได้น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก นายทหารทุกคนโจทย์กันว่าในจำนวนพวกเราคงมีของดีแน่ๆ และในขณะรถวิ่งเร็วได้แฉลบมาหลายครั้ง ผมตกใจอาราธนาให้หลวงพ่อทวดฯ ช่วยทุกครั้ง และขณะรถพลิกคว่ำครั้งนี้ผมก็กำลังตกใจมากจึงร้องตะโกนว่า "หลวงพ่อทวดช่วยด้วย" นี่แหละครับเรื่องที่ผมประสพมา

    เคารพยิ่ง
    พันโท ประสิทธิ์ เวชสวรรค์
    (ขณะนี้เป็นอาจารย์วิทยาลัยกองทัพบก
     
  9. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,373
    ค่าพลัง:
    +53,102
    เรื่องที่ ๑๙

    กองบินน้อยที่ ๗ สัตตหีบ ชลบุรี

    ๘ ตุลาคม ๒๔๙๘

    เรียน อาจารย์ ด้วยความเคารพ

    ผมขอเล่าเรื่องอัศจรรย์เกี่ยวแก่อภินิหารหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดมาให้อาจารย์ทราบคือ
    ผมต่อเรือยนต์ให้ พลเรือตรี หม่อมเจ้ารังษิยากร ใช้ในสัตตหีบ ๑ ลำ ต่อมาท่านให้นักบินกับช่างเครื่องนำเรือลำนี้เข้ากรุงเทพฯ โดยมีเรือยนต์ของตำรวจเป็นพี่เลี้ยงคุ้มกันระหว่างทางเพราะเป็นเรือใหญ่ ส่วนเรือที่ผมต่อยาวเพียง ๑๘ ฟุตเท่านั้น การนำเรือจากสัตตหีบเข้ากรุงเทพฯ จะต้องแล่นฝ่าคลื่นลมไปกลางทะเลราวๆ ๑๔ ชั่วโมง จึงจะถึงกรุงเทพฯ ก่อนนำเรือเล็กเดินทางผมเป็นห่วงเกรงว่าจะเกิดอันตรายเสียกลางทะเล ผมจึงอาราธนาหลวงพ่อทวดฯ และขอน้ำมนต์พรมเรือ ขอให้แคล้วคลาดปลอดภัย

    ต่อมาหลายวันนักบินและช่างเครื่องกลับมาถึงสัตตหีบ ได้เล่าให้ผมฟังว่า เมื่อเรือทั้ง ๒ ลำ แล่นไปถึงเกาะสีชัง ท้องทะเลเกิดพายุและฝนตกหนักละลอกคลื่นใหญ่โตมาก นักบินและช่างเครื่องเห็นภัยจะเกิดขึ้นเช่นนั้น ก็เตรียมตัวถอดเสื้อและกางเกงนอกออกเหลือแต่กางเกงใน นั่งถือชูชีพมั่นอยู่ เรือทั้ง ๒ ลำได้โต้คลื่นและพายุมากลางทะเลอย่างแรง เป็นเวลานานถึง ๒ - ๓ ชั่วโมงจึงสงบ ปรากฏว่าละลอกคลื่นสาดขึ้นท่วมเรือ แต่น้ำไม่ได้เข้าไปในลำเรือจึงปลอดภัย ส่วนเรือตำรวจซึ่งเป็นเรือพี่เลี้ยงคุ้มครองเรือเล็กต้องเสียหายคือ เพลาใบพัดหัก หางเสือบิด ไม่สามารถแล่นต่อไปได้ เรือเล็กจึงกลับต้องเป็นเรือพี่เลี้ยงเรือลำใหญ่ลากจูงเข้าสู่กรุงเทพฯ พิจารณาดูเอาเองเถอะครับว่า อภินิหารของพระเครื่องหลวงพ่อทวดฯ มีอภินิหารอย่างไร

    ด้วยความเคารพอย่างสูง
    บุญเกิด กู้เกียรติ
     
  10. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,373
    ค่าพลัง:
    +53,102
    เรื่องที่ ๒๐

    จ.นราธิวาส

    ๑๙ มิถุนายน ๒๔๙๙

    คุณอนันต์ คณานุรักษ์ ที่นับถือ

    ผมได้เดินทางไปเยี่ยมญาติที่จังหวัดชุมพร เมื่อวันที่ ๒๘ เมษายนปีนี้ ผมได้มอบพระเครื่องหลวงพ่อทวดฯ ให้แก่เด็กของผมคนหนึ่งชื่อนายเขียว เขารับพระจากผมไปแล้วได้เอาพระแขวนไว้กับเสาหลัก ห่างจากตัวประมาณ ๗ - ๘ วา เขาเตรียมจะยิง ผมมองเห็น ร้องห้ามว่าอย่า แต่ทันใดนั้นเขาน้าวไกปืนเสียงดังแชะ เขาน้าวไกปืนครั้งที่ ๒ อีกที กระสุนจึงระเบิดขึ้น ปรากฏว่าปืนแตกหักเป็น ๒ ท่อนทันที แต่นายเขียวไม่ได้รับอันตรายใดๆ เขาจึงเสียปืนแก๊ปกระบอกนั้นไป ๑ กระบอก ข่าวนี้เล่าลือกันมากในจังหวัดชุมพร เพราะมีผู้รู้เห็นมากคน จึงเล่ามาให้คุณทราบ

    ด้วยความนับถือ
    ขุนเจนเวชศาสตร์

     
  11. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,373
    ค่าพลัง:
    +53,102
    เรื่องที่ ๒๑

    พลตำรวจ รวย ดำรักษ์ อายุ ๒๔ ปี ประจำการค่ายอิงคยุทธบริหาร (บ่อทอง) จ.ปัตตานี ทางการตำรวจส่งตัวไปสมทบกับกองตรวจ เพื่อปราบผู้ร้ายในจังหวัดพัทลุง ในคืนของวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๔๙๙ พลฯ รวย ได้แยกจากพวกออกไปตรวจทางเรือในตำบลดอนพนางตุง ใกล้หมู่บ้านทะเลน้อย อ.ควนขนุน มีนายศรีและนายเสริฐสองพี่น้องช่วยเป็นผู้พายเรือร่วมไปด้วย เวลาประมาณ ๒๐.๐๐ น. พบเรือลำหนึ่งล่องสวนทางลงมาตามลำน้ำและส่องไฟฉายมาที่เรือพลฯ รวย พลฯ รวยจึงตะโกนบอกว่า "เราตำรวจโว้ย" เรือนั้นได้ลอยลำใกล้เข้ามา พลฯ รวยจึงส่องไฟฉายดูบ้าง ปรากฏว่าชายฉกรรจ์อยู่ในเรือลำนั้น ๖ คน มีปืนลูกซองวางอยู่ที่ท้องเรือ ๒ กระบอก พลฯ รวยเห็นผิดปกติก็ระวังตัว แต่เรือก็ได้ล่องเข้ามาเทียบชิดกัน พลฯ รวยตัวคนเดียวเห็นว่ามีทางเสียเปรียบหากมีเหตุเกิดขึ้น จึงใช้มือทั้ง ๒ ข้างผลักดันเรือลำนั้นให้ออกห่างไป แต่ทันใดนั้น พลฯ รวย ดำรักษ์ ก็ถูกยิงจากชายกลุ่มนั้นด้วยปืนสั้น ๑ นัด กระสุนปืนได้ถูกที่คิ้วซ้าย พลฯ รวยสลบตกน้ำไป เพิ่งมารู้สึกตัวเมื่อขึ้นมานั่งอยู่ริมน้ำแต่กำลังงงอย่างหนัก เพราะประสาทและสมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนัก ปืนเล็กยาวของพลฯ รวยก็หายไปพร้อมๆ กับเรือทั้ง ๒ ลำ

    ข้าพเจ้าถามว่าใครเอาตัวพลฯ รวยขึ้นจากน้ำในเมื่อกำลังสลบอยู่ เขาตอบว่าไม่ทราบ ข้าพเจ้าถามว่ามีใครอยู่ใกล้เคียงที่นั่นบ้าง เขาตอบว่าไม่มีใครเขานั่งอยู่คนเดียว ข้าพเจ้าถามว่าเขารอดชีวิตจากกระสุนที่สำคัญแต่ไม่เข้าและสลบจมอยู่ในน้ำอีก ทั้งสองครั้งนี้เป็นเพราะอะไรและมีอะไรติดตัวอยู่บ้าง เขาตอบว่าผมมีพระเครื่องหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ได้ขอจากท่านอาจารย์ทิมฯ ที่วัดช้างให้ อยู่ในกระเป๋าเสื้อ ๑ องค์ ผมจึงเชื่อแน่ว่าหลวงพ่อทวดฯ ได้กรุณาคุ้มครองชีวิตผมไว้ จึงรอดตายมาทั้ง ๒ ครั้ง

    หลังจากข้าพเจ้าสอบถามปากคำ พลฯ รวย ดำรักษ์ ประมาณ ๑๕ วัน ข้าพเจ้าพบกับ พ.ต.ท.วิชิต รักษนาเวศ ผกก.ต.ช.ด. เขต ๘,๙ เรียนถามเรื่องของพลฯ รวย กรุณาตอบว่า เรื่องของพลฯ รวยนั้นเป็นความจริงในเรื่องถูกผู้ร้ายยิง ท่านผู้กำกับซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาพลฯ รวย ท่านได้รับรายงานไว้แล้ว ปืนพลฯ รวยก็เพิ่งได้คืนจากผู้ร้ายเมื่อเร็วๆ นี้

    อนันต์ คณานุรักษ์ บันทึก
     
  12. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,373
    ค่าพลัง:
    +53,102
    เรื่องที่ ๒๒

    วัดดอนแย้ สงขลา

    ๔ มิถุนายน ๒๔๙๙

    เรียน คุณอนันต์ คณานุรักษ์ ที่นับถือ

    เมื่อเดือน ๖ ขึ้น ๑๕ ค่ำ ฉันไปเทศน์มหาชาติที่วัดตะเคียนทอง อ.ยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ตอนกลับแวะเยี่ยมคุณที่บ้านไม่พบ เด็กบอกว่าไปเหมืองแร่ ฉันจึงกลับสงขลา วันรุ่งขึ้นไปเทศน์มหาชาติที่วัดในเมืองไทรบุรีอีก ขณะนั่งรถอยู่นั้นก็นึกถึงพระเครื่องหลวงพ่อทวด ตั้งแต่คุณให้มายังไม่เคยได้ชมอภินิหารของท่านเลย ได้รับฟังแต่ข่าวเขาเล่าลือกันมากมายเท่านั้น ครั้งนี้ฉันคิดว่าจะลองดูบ้าง จึงนึกอาราธนาในใจว่า ขออย่าให้คนรถเก็บค่าโดยสารรถเลย เมื่อถึงหน้าวัดฉันบอกคนรถให้เขาหยิบปัจจัยค่ารถในย่ามนั้นเถิด คนรถว่านิมนต์ครับไม่ต้อง แล้วเขาก็ขับรถจากไป คนรถก็ยังไม่รู้จักกับฉันเลย ฉันโดยสารรถมามากเคยเสียค่าโดยสารทุกครั้ง ครั้งนี้จึงแปลกใจ

    ต่อมาถึงเดือน ๗ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เขานิมนต์ฉันไปเทศน์ที่เมืองไทรบุรีอีก เมื่อลงจากรถโดยสารสายหนึ่งและจะรอรถโดยสารอีกสายหนึ่งที่ฉันจะไป ฉันยืนคอยท่ารถบัสอยู่ที่หน้าวัดบากามาตาในไทรบุรี เพื่อจะไปที่ปลายละมัย รถบัสผ่านไป ๔ คันคนนั่งแน่นทุกคัน เวลาก็เย็นลงมากแล้ว ถ้าพลาดรถก็ไปไม่ได้ ฉันร้อนใจมากเกรงจะเสียงานของเขา จึงระลึกถึงหลวงพ่อทวดขึ้นมาได้ จึงอธิษฐานแต่ในใจว่า ขอให้หลวงพ่อทวดดลบันดาลให้รถยนต์คันหนึ่งคันใดมารับสักทีเถอะจะได้ไปทันรถเมล์สายไปปลายละมัย ฉันคอยอยู่ประมาณ ๕-๖ นาที ก็มีรถเก๋งคันหนึ่งเจ้าของผู้ขับก็ไม่เคยเห็นหน้ารู้จักกันเลย แล่นมาจอดตรงหน้าที่ฉันยืนอยู่ เขาถามว่าจะไปไหน ฉันบอกความประสงค์แก่เขา เขาว่าขึ้นรถเถอะจะพาไปส่ง เมื่อเขาส่งถึงที่แล้วก็ไม่เรียกร้องอะไรจากฉันเลย ฉันรู้สึกอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง จึงแจ้งมาให้คุณทราบและควรจะบันทึกไว้

    พระภิกษุ ประลอง จุลมุสิก
     
  13. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,029
    [​IMG]
     
  14. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,373
    ค่าพลัง:
    +53,102
    เรื่องที่ ๒๓

    ปีนัง

    ๑๑ มีนาคม ๒๔๙๘

    คำนับ คุณอนันต์ ที่นับถือ

    นานแล้วไม่ได้ส่งข่าวอะไรติดต่อกัน แต่ยังระลึกถึงความใจดีของคุณที่ได้ส่งพระเครื่องหลวงพ่อทวดไปให้ผมตามความประสงค์ ตั้งแต่ผมได้รับพระไว้แล้วยังไม่มีอะไรเกิดให้เป็นที่อัศจรรย์ นอกจากผมอาราธนาท่านทำน้ำมนต์และเวลาต้มยา น้ำมนต์นั้นผมได้รับรักษาคนป่วยซึ่งเป็นผู้หญิงมลายูได้ผลดีมาก เขารักษามาด้วยยาแผนใหม่มากแต่ก็ไม่หาย ผมจึงใช้ยาต้มและน้ำมนต์หลวงพ่อทวด รักษาไม่กี่วันอาการป่วยก็หายลงตามลำดับ ขณะที่ผมเขียนจดหมายนี้ เขาก็เกือบจะสบายดีอยู่แล้ว ต่อไปผมตั้งใจว่าจะรักษาคนป่วยด้วยยาสมุนไพรประกอบด้วยน้ำมนต์หลวงพ่อทวดรักษาคนไข้ต่อไป จึงแจ้งให้ทราบ

    ขอนับถืออย่างสูง
    ตันม้าขุ่น
    (เดิมเป็นชาวภูเก็ต)
     
  15. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,373
    ค่าพลัง:
    +53,102
    เรื่องที่ ๒๔

    เพื่อนรักของข้าพเจ้าผู้หนึ่ง (ขอสงวนนาม) ได้มาเยี่ยมข้าพเจ้าที่บ้าน ท่านผู้นี้ไม่มีความสนใจในเรื่องโชคลาภใดๆ แต่ข้าพเจ้ามีความรักและเจตนาดี จึงได้มอบพระเครื่องหลวงพ่อทวดให้ไป ๑ องค์ และกำชับว่าแม้ว่าท่านยังไม่มีความสนใจ แต่ผมขอร้องให้เชื่อผมไว้เถอะ จะไปไหนมาไหนให้ติดกระเป๋าเสื้อไว้ วันหลังจะทราบผลเอาเอง อยู่มาวันหนึ่งท่านได้พบกับข้าพเจ้าและเล่าเรื่องอัศจรรย์ที่ท่านได้ประสบโดยไม่น่าจะเป็นไปได้ คือครั้งหนึ่งท่านกลับจากจังหวัดภูเก็ตจะมาจังหวัดปัตตานีเป็นการด่วน จึงโดยสารเครื่องบินเมล์กลับมา ขณะเครื่องบินๆ มาได้ครึ่งทาง ก็ประสบกับพายุและฝนตกอย่างแรง นักบินให้สัญญาณไฟแดงแจ้งความไม่ปลอดภัย ลำเครื่องบินถูกพายุแรงโคลงตัวอย่างกับเรือถูกคลื่นใหญ่ นักบินจะนำเครื่องบินหนีพายุจึงปักหัวขึ้นสูงจะให้พ้นพายุ แต่กลับซ้ำร้ายยิ่งกว่าเดิม เพราะประสบพายุแรงยิ่งขึ้น อากาศมืดดำมองไม่เห็นทิศทางเลย ท่านวิตกและนึกถึงหลวงพ่อทวดขึ้นได้ จึงเอามือตบกระเป๋าเสื้อดูก็พบว่ามีอยู่ ท่านจึงกล่าวในใจว่า ขอให้หลวงพ่อทวดปาฏิหารย์ปัดเป่าพายุร้ายให้สงบลงเถิด ทันทีนั้นอากาศก็สว่างมองเห็นพื้นดิน ท่านจำได้ว่าเครื่องบินกำลังบินอยู่เหนืออำเภอระโนด จังหวัดสงขลานี้เอง

    ข้าพเจ้าจึงถามซักว่า ขณะที่ท่านขอให้หลวงพ่อทวดปาฏิหารย์ปัดเป่าพายุนั้นนานประมาณสูบบุหรี่หมดไปสักครึ่งมวนได้ไหม พายุจึงสงบ (ข้าพเจ้าคิดว่าสูบบุหรี่ครึ่งมวนนั้นเครื่องบินๆ เร็วอาจจะพ้นพายุได้) แต่ท่านหัวเราะแล้วตอบว่า พายุสงบทันทีนั้นเอง และท่านว่าก็เป็นที่น่าอัศจรรย์ซึ่งน่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ได้เป็นไปแล้ว เป็นที่น่าประจักษ์

    นายอนันต์ คณานุรักษ์ บันทึกและรับรองว่าเป็นจริง
     
  16. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,373
    ค่าพลัง:
    +53,102
    เรื่องที่ ๒๕

    ผู้สงวนนามท่านหนึ่ง เล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า เมื่อท่านได้รับพระเครื่องหลวงพ่อทวดฯ ไปจากข้าพเจ้าแล้ว ท่านจะไปไหนก็พกพระใส่กระเป๋าเสื้ออยู่เสมอ ต่อมาจึงได้เลี่ยมห้อยคอเป็นประจำ ต่อมาวันหนึ่งในเดือนพฤศจิกายน ๒๔๙๘ ท่านได้ทำการประชุมอบรมลูกน้อง ขณะนั้นฝนตกหนักฟ้าก็คำรามกลบเสียงที่ท่านพูด ท่านจึงให้ลูกน้องนำรถจี๊ปเข้ามาใกล้แล้วเดินเรื่องทำไฟเข้ากับเครื่องขยายเสียง เพื่อจะได้พูดให้ดังขึ้น ขณะที่พูดไปได้สักครู่ ฟ้าก็ผ่าลงมาใกล้ๆ บริเวณนั้น กระแสไฟฟ้าได้ช๊อตเข้าเครื่องขยายเสียง และขณะนั้นท่านจับไมโครโฟนอยู่ กระแสไฟได้ช๊อตเข้าตัวท่าน ปรากฏว่าหัวใจได้หยุดเต้นไปประมาณ ๒ นาที ท่านรู้สึกว่ามีอำนาจลึกลับมาปะทะหน้าอกท่านให้มือที่จับไมโครโฟนหลุดห่างออกมาได้ ท่านรู้สึกตัวจึงตบดูที่หน้าอกก็พบพระหลวงพ่อทวดที่ห้อยคออยู่ รู้สึกขนลุกซ่าไปทั่วตัว และอาการที่ทำให้ท่านใจสั่นและอ่อนระทวยนั้นก็กลับคืนดีเป็นปกติ และได้ทำการอบรมลูกน้องจนจบ หลังจากนั้นท่านต้องรักษาตัวกับนายแพทย์ที่ปัตตานีถึงสามเดือน โรคกระทบกระเทือนของท่านที่ถูกไฟฟ้าช๊อตครั้งนั้นจึงหายเป็นปกติ ข้าพเจ้าไปเยี่ยมถึงบ้านท่าน ท่านจึงเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง

    นายอนันต์ คณานุรักษ์ บันทึก
     
  17. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448

    ขอบคุณครับพี่ตี๋ ดีใจพี่ตี๋ตามอ่านทันแล้ว
    ....<a href="http://emoticon.ohozaa.com" target="_blank"><img src="http://emoticon.ohozaa.com/datas/emoticon/Onion/onion_full.gif" border="0" alt="onion_full.gif" /></a>
     
  18. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,373
    ค่าพลัง:
    +53,102
    เรื่องที่ ๒๖

    ครั้งที่ ๒ ซึ่งปรากฏการณ์น่าอัศจรรย์แก่ท่านผู้นี้อีก คือวันหนึ่งท่านได้เตรียมการซ้อมยิงเป้าเพื่อฝึกความแม่นยำของลูกน้อง เมื่อตั้งเป้าเสร็จท่านได้ทดลองยิงก่อนตามเคย ท่านผู้นี้แม่นปืนดีมาก แต่วันนี้ท่านยิงไปแม้แต่แผ่นเป้าก็ยิงไม่ถูก ท่านฉงนใจ คิดว่าลำกล้องปืนท่านเสีย แต่ทันทีนั้นลูกน้องที่แอบนั่งดูอยู่ก่อนแล้วเห็นปรากฏเช่นนั้น เขาดีใจมากจึงวิ่งเข้ามาหาท่านแล้วพูดขึ้นว่า ท่านยิงไม่ถูกแน่ ขอเชิญตามผมไปดู ปรากฏว่าที่หลังแผ่นเป้านั้นมีพระเครื่องหลวงพ่อทวดห้อยอยู่โดยการกระทำของลูกน้องของท่าน เพื่อพิสูจน์อภินิหารหลวงพ่อทวดฯ ท่านบอกว่าผมเห็นแล้วตกใจ ต้องก้มกราบขอขมาโทษต่อท่านหลวงพ่อทวดไปเลย

    นายอนันต์ คณานุรักษ์ บันทึก

    ครบ 32 เรื่องแล้วครับ เรื่องต่อๆ ไป ต้องรอทุกๆท่านที่มีประสบการณ์บ้างแล้วหละ

    ลูกขอ เผยแพร่ บารมี หลวงพ่อทวด มา ณ. ที่แห่งนี้ด้วยครับ

    นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติ ภควา

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤษภาคม 2014
  19. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,029
    [​IMG]
     
  20. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    [​IMG]


    น้อมกราบพระรัตนตรัย
    น้อมกราบหลวงปู่คำพันธ์


    แต่แรกสร้างก็ไม่ตั้งชื่อวิจิตรพิศดารอะไร นอกจากจะเรียกหาตามรูปลักษณ์อย่างเรียบง่ายที่สุดแต่เพียงว่า "พระนาคปรกใบโพธิ์" เท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่ง คุณ"เง็ก บางลำพู" เซียนพระสายเจ้าคุณนรรัตน์ฯและหลวงปู่คำพันธ์รุ่นแรกๆซึ่งนับถือหลวงปู่คำพันธ์เป็นชีวิตจิตใจอย่างยิ่ง ได้เดินทางจากกรุงเทพมหานครไปกราบหลวงปู่ถึงวัดธาตมหาชัย อันเป็นกิจวัตรที่คุณเง็กได้กระทำมาโดยตลอด แทบไม่มีการว่างเว้นเลยแม้สักเดือนเดียว ในฐานที่เป็นศิษย์เก่าแก่ที่เคารพนับถือกันมานาน หลวงปู่คำพันธ์มักจะหยิบพระเครื่องรางให้คุณเง็ก บางลำพูทีละ "เป็นกำเป็นหอบ" เป็นของฝากจากนครพนมไปแจกจ่ายคนที่กรุงเทพอยู่เสมอๆ

    แต่มาคราวนี้กลับไม่เหมือนเดิมอย่างน่าประหลาดใจเพราะหลวงปู่คำพันธ์ หยิบ"พระนาคปรกใบโพธิ์"ให้คุณเง็กเพียง"องค์เดียว"เท่านั้น ไม่มีองค์ที่สองที่สามที่สี่ หรือองค์ที่สิบยี่สิบเหมือนอย่างเคยอีกแล้ว ยิ่งไปกว่านี้ หลวงปู่คำพันธ์ยังสั่งกำชับอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนอีกด้วยว่า"ปรารถนาอยากได้อะไร ลองอธิษฐานดูได้น๊ะ?" ด้วยเหตุแห่งคำสั่งของหลวงปู่คำพันธ์ดังกล่าวข้างต้น "พระนาคปรกใบโพธิ์" จึงมีอันได้เปลี่ยนมาเป็นชื่อที่ไพเราะและแฝงไว้ด้วยความนัยที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งในพระนาม"พระนาคปรกอธิษฐาน"ด้วยประการฉะนี้ฯ

    สำหรับปฐมเหตุแห่งการอุบัติแห่ง"พระนาคปรกอธิษฐาน"รุ่นนี้ เกิดจาก"บอล"เด็กหนุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นปี 1(ประมาณปี 2541) ซึ่งสนใจศรัทธาพระสายกรรมฐานเป็นพิเศษ ได้ให้เพื่อนไปหา"กรวดแม่น้ำโขง"ถุงใหญ่ น้ำหนักประมาณ4กิโลกรัม ให้ถวายหลวงปู่คำพันธ์เสกเพื่อเอาไว้"กันนิวเคลียร์"ตามกระแสนิยมในยุคนั้นที่สถานการณ์บ้านเมืองและโลกค่อนข้างที่จะร้ายแรง เสี่ยงที่จะเกิดสงครามใหญ่มิใช่น้อย โดยเมื่อเสกเสร็จบอลก็กราบเรียนถามหลวงปู่คำพันธ์ทีเดียวว่า "หลวงปู่ครับ ถ้าเอาปฐวีธาตุนี้ไปบดสร้างเป็นองค์พระแล้ว จะกันนิวเคลียร์ได้เหมือนกันหรือเปล่าครับ?" หลวงปู่คำพันธ์ตอบทันทีว่า"ได้ แต่ต้องเอามาให้หลวงปู่ปลุกเสกอีกทีหนึ่งน๊ะ"

    และภายหลังจากที่ได้สนทนาธรรมกับท่านจนพอสมควรแก่กาลเวลาอย่างยิ่งแล้ว ก่อนที่จะลาหลวงปู่คำพันธ์กลับ บอลก็ล้วงเอาปฐวีธาตุออกจากถุงมากำมือหนึ่งด้วยหมายใจจะนำไปแจกจ่ายเพื่อนสนิทมิตรสหายเป็นการส่วนตัว พร้อมกราบเรียนท่านว่า "ปฐวีธาตุส่วนที่เหลือ ผมขอถวายหลวงปู่นะขอรับ" ในทันใดสิ่งที่ไม่คาดคิดก็พลันเกิดขึ้นเมื่อหลวงปู่คำพันธ์ผลักถุงปฐวีธาตุทั้งหมดนั้นออกมา พร้อมกับออกปากทีเดียวว่า
    "เอ้า..เอาไป จะเอาไปสร้างพระมิใช่หรือ?" และนี้เองก็คือปฐมเหตุแห่งการสถาปนา"พระนาคปรกอธิษฐาน" ซึ่งตามรูปแบบภายนอกทั่วไปแล้ว ไม่น่าจะมีความสลักสำคัญอันใด ด้วยเป็นเพียง "พระเครื่องเด็กสร้าง" เท่านั้น แต่ไปๆมาๆ"พระนาคปรกอธิษฐาน"กลับกลายมาเป็นอีกหนึ่งในพระเครื่องดีที่หลวงปู่คำพันธ์"รักและโปรดปรานสงวนรักษามากที่สุดชุดหนึ่ง”

    ในกาลต่อมาอย่างเหนือความคาดหมายอย่างยิ่ง เพราะหากไม่นับ"ศิษย์ต้น"ที่ตามปกติ หลวงปู่จะเทย่ามแจกพระให้ทีละเป็นกำเป็นหอบเป็นปกติอย่าง"เง็ก บางลำพู" แต่ท่านกลับให้เพียงองค์เดียวอย่างน่าฉงนอย่างที่กล่าวไว้แต่เบื้องต้นแล้ว ที่สุดแม้แต่นายทหารชั้นผู้ใหญ่บรรดาศักดิ์สูงท่านหนึ่งไปกราบท่าน แทนที่จะให้พระเหรียญพระกริ่งพระบูชาราคาสูงๆ มาแจกให้สมกับศักดิ์ศรีทหารใหญ่อย่างที่น่าจะเป็น แต่คราวนั้น หลวงปู่คำพันธ์กลับเลือกหยิบ"พระนาคปรกอธิษฐาน"นี้ให้ทหารไทยใจหาญเพียงโดดๆองค์เดียว ไม่มีองค์ที่สองที่สามที่สี่นอกเหนือจากนี้เป็นอันเด็ดขาด และแม้แต่"ศิษย์ใกล้ชิด"คนอื่นๆ หลวงปู่ท่านก็มิได้แจกพร่ำเพรื่อแต่อย่างใดทั้งสิ้น แต่ท่านจะเลือกให้เฉพาะผู้ที่"นับถือกันจริง"แต่เพียงสถานเดียวและเพียง"องค์เดียวเท่านั้น" สงวนรักษาอย่างยิ่งถึงขนาดนี้จริงๆ


    ปล.
    ๑.คัดลอกเนื้อความมาจากเวป เว็บ-พระ.คอม

    ๒.พระนาคปรกอธิษฐานเนื้อผงปฐวีธาตุ ปกติผู้สร้างไม่ได้แช่น้ำมนต์ แต่องค์นี้ผมแช่น้ำมนต์ในบาตรน้ำมนต์หลวงปู่ที่บูชามาไว้ที่บ้านครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...