ข้อความจากต่างมิติ - การสื่อสารในระดับจิตวิญญาณ (Soul Communication)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 8 พฤษภาคม 2014.

  1. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    มีเรื่องน่าตื่นเต้น อยากจะเล่าให้ฟังครับ

    คือ เมื่อคืนฝันไปว่า ไปอยู่ในสถานที่ทีมีการ ก่อสร้าง ปรับปรุง ภูมิทัศน์ อะไรประมาณนี้ แล้วก็เห็น กลุ่มสัตว์ พวก หมา แมว นก ปลากระเบนสีขาวดำ บินได้ พอเข้าไปดูใกล้ๆ รู้สึกว่า พวกเขาเป็นมนุษย์ต่างดาว พอเข้าไปใกล้ๆระยะประชิดตัว จะเห็นรูปร่างเป็นมนุษย์ เข้าใจว่าพวกเขาไม่ต้องการให้เรากลัว ก็เลยให้เห็นแบบนั้น เรามองนัยต์ตากัน เหมือนกับว่า มีม่านตาสีเดียวกันหมด แพทเทริ์นม่านตาก็แบบเดียว แล้วจากนั่นพวกเรา ก็เอามือมาแตะที่ตัวเรา แล้วก็พูดว่า high perforation พูดซ้ำไปซ้ำมาแบบเสียงสวดมนต์ เป็นเสียงที่เบาๆเย็นๆ แล้วเราก็รู้สึกเสียวๆวาวๆ ที่หน้าอก ประมาณจักระที่ 4 แล้วควารู้สึกเสียวๆวาบๆ นี้ก็เริ่มจะเคลื่อนขึ้นด้านบน รู้สึกอยู่พักหนึงจนทนไม่ไหว ก็เลยตื่น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2014
  2. ทิวลิปขาว

    ทิวลิปขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +1,555
    เคยอ่านหนังสือครายออนเมื่อสิบกว่าปีก่อน จำได้อ่านแล้วแทบวางไม่ลง
    แต่ชอบแนวที่คุณชยุตแปลนี้มากกว่า
    เราอ่านไปก็ขำไปยิ้มไป

    ทำให้คิดถึง คุณปู่ คุณตา ที่ทรงภูมิรู้ คุณธรรม ความรัก
    กำลังบอกกำลังสอนลูกหลาน

    ขอบคุณคุณชยุตที่ขยันแปลให้พวเราได้อ่านกัน
    คุณกำลังทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบ ดีที่สุดโดยไม่รู้ตัว
     
  3. a5g1aeka

    a5g1aeka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    728
    ค่าพลัง:
    +1,579
    ขอบคุณครับคุณชยุตที่ช่วยแปลให้อ่านมาโดยตลอด น่าจะจริงที่เหล่าเทพมักส่งโคลง กลอนลงมาให้ตีความกัน ทั้งคริสต์ อนุตฯ และอื่นๆ ขอติดตามในโอกาสหน้าครับ ขอบคุณครับ
     
  4. love_evol

    love_evol Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +87
    kryon นี่ช่างชำนาญในการใช้ถ้อยคำสื่อสารให้มนุษย์เข้าใจในสิ่งที่เข้าใจยากจริงๆ บางคำแอบฮาด้วย ไม่ใช่มนุษย์อย่างเดียวสินะที่มีอารมณ์ขัน

    เคยได้ยินมาจากที่ไหนสักที่ว่า 'พระเจ้า' น่ะมีอารมณ์ขันสุดๆ และแบบน่ารักสุดๆด้วย
     
  5. โลกสมมุติ

    โลกสมมุติ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +64
    ขอบคุณ คุณชยุตที่สละเวลามาแปลให้อ่านนะคะ

    ข้อความชุดนี้ของครายออน
    ทำให้นึกถึงพี่นักเขียนท่านโนวา อนาลัยนะคะ
    เพราะในหนังสือก็บอกไว้ว่า ทุกเล่มของท่านโนวา
    ก็ได้ถ่ายทอดข้อมูลมาในคราวเดียวกันทั้งหมด
    เสร็จก่อนที่พี่นักเขียนจะถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือเสียอีก
    ยอมรับตามตรงว่า ตอนที่อ่านหนังสือของท่านโนวา อนาลัยเป็นครั้งแรก รู้สึกปวดหัว
    อ่อนเพลีย (รู้สึกประมาณเหนื่อยเพราะเสียพลังงาน)
    และช่วงนั้น เหมือนกับตัวเองยังไม่เข้าใจในเรื่องของจิตวิญญาน
    หลายๆอย่าง ก็เลยพักไว้ ไม่ได้อ่านต่อ
    แต่พอมาถึงช่วงเวลาหนึ่งที่เหมาะสม ก็จะบอกไม่ได้อีกเหมือนกัน
    ว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมของแต่ละคนนั้น
    คือช่วงไหน มันจะรู้ด้วยตัวเอง ว่าเราพร้อมหรือยัง พร้อมเมื่อไหร่ ก็แค่นั้น
    พอถึงเวลาของตัวเองก็ได้นำหนังสือกลับมาอ่านอีกรอบ
    มีความรู้สึกเหมือนกับว่าท่านได้มานั่งสนทนา
    มันสะท้านเข้าไปถึงในจิตที่อยู่ภายในของเราเลยทีเดียว

    อนุโมทนากับจิตตื่นรู้ของทุกท่านนะคะ
     
  6. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155


    คิดถึงพี่นักเขียนเหมือนกันครับ หนังสือชุดโนวาอนาลัย อ่านกี่ทีก็อ่านไม่จบ หุหุหุ
     
  7. Vking

    Vking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2011
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +1,555


    พึ่งจะเกิดความคับข้องใจแบบนี้ขึ้นมา
    และในเวลานั้น ก็ไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร
    มันอายตัวเอง
    อายที่ตัวเองกลายเป็นคนมีปัญหาแบบไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้น (อีกแล้ว)
    ทั้งที่คิดว่ามันผ่านไปแล้ว ไม่มีวันจะหวลกลับมาอีก
    เหมือนแพ้ทางตัวเอง

    แต่ก็ไม่เคยลืมจุดยืนและสิ่งที่ตัวเองควรจะทำ
    ยากง่ายแค่ไหนก็ไม่เคยลืม

    แล้วเราก็รับรู้ได้ถึง...การปลอบขวัญ
    จากปรากฎการณ์ธรรมชาติที่ปรากฎขึ้นต่อหน้าที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาหนึ่ง ในสถานการณ์ที่ต้องพบเห็นแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ (กำลังขับรถอยู่)

    รู้สึกตื้นตัน และอบอุ่นนะ .... เพราะไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้รับสิ่งที่ดีดี แบบนี้มาก่อน

    ซึ่งข้อความข้างบนโดนใจมาก ๆ ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2014
  8. Broccocat

    Broccocat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    954
    ค่าพลัง:
    +4,094
    อะไรจะพอดีอย่างนี้นะ กำลังมีปัญหาคับข้องใจเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ หาคำตอบหลายทางมากๆ พอมาอ่านตรงนี้ เคลียร์เลยค่ะ อย่างไรก็ตาม...ขอบคุณมากๆ นะเจ้าคะ

    แล้วอีกเรื่องที่ว่า มีตอนต่อไปของเรื่องนี้นี่ เราจะไปหาอ่านได้จากที่ไหนคะ ขอลิงค์อ่านต่อด้วยค่ะ ตรงประโยคที่ก๊อบมานี่นะเจ้าคะ

    v
    v
    v
    ฉันเพิ่งบอกพวกคุณจบไป เกี่ยวกับคุณลักษณะต่างๆ
    ของการสื่อสารถึง และ จาก Spirit ซึ่งในการ channeling ครั้งถัดไป
    ฉันจะมาต่อในหัวข้อเรื่องใหม่ ที่ชื่อว่า “อะไรคือสิ่งกีดขวางของการสื่อสารนี้?”
    อะไรคือตัวกรองบ้าง? พวกคุณจะสามารถทำอะไรได้บ้าง เพื่อให้สื่อสารได้ดีขึ้น?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤษภาคม 2014
  9. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ต้นฉบับเขายังไม่ได้โพสต์ลงเวปเลยครับ
    เอาไว้ให้เขาโพสต์เมื่อไหร่
    ผมจะเอามาแปลให้อ่านต่อนะครับ


    ...................................
     
  10. Issara

    Issara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    505
    ค่าพลัง:
    +433

    มาแล้วครับคุณ Chayutt แปลต่อเลยนะครับ
    (smile)(smile)(smile)

    San Antonio, Texas - February 23, 2014

    "Soul Communication Part 2 "

    (kiss)
     
  11. Broccocat

    Broccocat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    954
    ค่าพลัง:
    +4,094
    เย้เย้...มาแล้วๆ แปลเร็วๆ นะเจ้าคะ คุณ Chayutt...สู้ๆ ค่ะ อิอิ
     
  12. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    เออ..จริงด้วย..สงสัยคนนี้เขาอยู่สำนักข่าวที่ไหนซักแห่งแน่ๆเลย
    ก็เลยรู้ความเคลื่อนไหวไปซะหมดทุกเรื่องเลย..

    น่าจะเป็นสำนักข่าว "จักรวาลโพสต์" ซะกระมัง 555

    เดี๋ยวจัดให้ตามคำขอครับ..เพราะว่าตั้งท่าไว้อยู่แล้ว ฮิฮิ

    ...................................................................
     
  13. Broccocat

    Broccocat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    954
    ค่าพลัง:
    +4,094
    จุ๊กกรู๊ววว...แปลเสร็จละยังเจ้าคะ รอมาสองวันแล้วน๊าา

    ตามลิงค์ไป...ยาวมากกกกก ภาษาอังกฤษก็ไม่แข็งแรง ไม่อยากเปิดดิคบ่อยๆ ด้วยอ่ะค่ะ

    รออยู่นะคะ...พลีซๆๆ ค่ะ
     
  14. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ยังครับ ยังไม่ถึงคิว น่าจะสัปดาห์หน้าโน่นแหละ
    เพราะว่าตอนนี้กำลังแปลข้อความอีกชุดหนึ่งอยู่
    ยากมาก เล่นเอาปวดหัวเลย เพราะกลัวแปลพลาดไปหนะครับ

    ....................................
     
  15. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    เพิ่งแปลตอนที่สองเสร็จไปหมาดๆ
    คาดว่าพรุ่งนี้เย็นน่าจะโพสต์ได้ครับ
    ถ้างานไม่ยุ่งจนเกินไป..

    ................................
     
  16. Broccocat

    Broccocat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    954
    ค่าพลัง:
    +4,094
    ฮูเร้ แปลเสร็จแล้ววววว...วู้ๆๆๆๆ

    ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
     
  17. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: การสื่อสารระดับจิตวิญญาณ (Soul Communication)-Part2

    ผู้รับสาส์น: นาย Lee Carroll
    วันที่: 23 กุมภาพันธุ์ 2014

    ที่มา: San Antonio, Texas - February 23, 2014

    ตอนที่ 1:


    สวัสดีที่รักทั้งหลาย ฉันคือครายออนแห่งหน่วยบริการแม่เหล็ก
    บ่ายวันนี้พวกเราจะเรียกข้อความสื่อสารชุดนี้ว่า “การสื่อสารระดับจิตวิญญาณ (Soul Communication)-Part2”
    ซึ่งข้อความสื่อสารของเมื่อวานนี้ (การสื่อสารระดับจิตวิญญาณ – ตอนที่ 1) ได้เต็มไปด้วยคำสอนต่างๆมากมาย
    ที่เกี่ยวกับว่า วิญญาณจากเบื้อบน (Spirit) มีวิธีการติดต่อสื่อสารกับพวกคุณอย่างไร
    และก็ได้พูดถึงพลังงาน (สิ่งมีชีวิต – ผู้แปล) ชนิดอื่นๆที่อาศัยอยู่บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้
    ที่ไม่ได้เป็นแบบเส้นตรง หรือแม้กระทั่งอาจจะเป็นแบบหลากมิติซะด้วยซ้ำไป ไปแล้วด้วย

    ในข้อความนั้น พวกเราได้บอกพวกคุณไปแล้วว่า พวกคุณกำลังสื่อสารกับผู้อื่นหรือสิ่งอื่นๆอยู่ตลอดเวลา
    ซึ่งพวกเราได้บอกไปแล้วด้วยซ้ำว่า ผู้อื่นหรือสิ่งอื่นๆเหล่านั้นคือใครบ้าง

    เรื่องนี้ทั้งเรื่อง มันเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่าที่พวกคุณคิดเอาไว้ซะอีก
    ซึ่งมันจะมีซักวันหนึ่งที่วงการวิทยาศาสตร์ของพวกคุณ จะรู้ว่าดาวเคราะห์โลกดวงนี้
    เต็มไปด้วย “พลังแห่งชีวิต” ที่มองไม่เห็นอยู่จริงๆ
    ซึ่งบางส่วนของพลังแห่งชีวิตที่ว่านี้ก็มีรูปพรรณสัณฐานสำหรับห่อหุ้ม
    “จิตสำนึก/ความตระหนักรู้” (consciousness) ของมันเอาไว้เสียด้วยซ้ำไป
    และเมื่อถึงเวลานั้นแล้ว พวกเขาก็จะต้องมานั่งประเมินค่ากันใหม่ว่า “อะไรบ้างที่มีชีวิต”
    และบางที..ก็อาจจะต้องถึงกับมานั่งกำหนดคำนิยามกันใหม่ว่า “ชีวิต” หมายความว่าอย่างไรด้วยซ้ำไป

    เมื่อวานนี้พวกเราได้พูดกันไปแล้วว่าจะสามารถติดต่อสื่อสารกับพลังงานเหล่านี้ (รูปธรรมชีวิตเหล่านี้ – ผู้แปล)
    ได้อย่างไรบ้าง และพวกเราก็ได้พูดกันไปเยอะแยะแล้ว ส่วนในวันนี้มันจะเป็นเรื่องระดับส่วนบุคคลมากขึ้นกว่าเดิม


    การสื่อสารระดับจิตวิญญาณ – ตอนที่ 2

    ที่พวกคุณพากันมาอยู่ที่นี่ ในวันนี้ ก็เพื่อที่จะดูว่าตัวเองจะสามารถพัฒนาตัวเองด้านจิตวิญญาณได้อย่างไร
    แต่ว่าคำสอนของวันนี้นั้น จะไปไกลยิ่งกว่านั้นอีก เพราะว่ามันจะเปิดเผยสิ่งต่างๆที่พวกคุณไม่เคยเห็นมาก่อน
    ให้พวกคุณได้เห็น

    การสื่อสารระดับจิตวิญญาณ สามารถที่จะหมายถึงการสื่อสารระหว่าง “คุณกับตัวคุณเอง” ได้ด้วยนะ
    และเพราะฉะนั้นแล้ว ข้อความชุดนี้จึงอาจจะใช้ชื่อว่า “การติดต่อสื่อสารกับความเป็นพระเจ้าของตัวคุณเอง” ก็ได้ด้วย
    เพราะว่าที่รักทั้งหลาย มันไม่ใช่ความจริงหรอกหรือ ที่วัตถุประสงค์ทั้งหมดทั้งมวลของบทเรียนในวันนี้ก็คือ
    การติดต่อสื่อสารกับส่วนที่ไม่เป็นเส้นตรงของตัวพวกคุณเอง? ซึ่งนั่นแหละคือการสื่อสารระดับจิตวิญญาณหละ

    พวกคุณเคยนึกถึงความเป็นไปได้ที่ว่า
    ตัวตนของพวกคุณเอง ถูกแบ่งแยกย่อยออกมา
    เป็นส่วนต่างๆมากมาย และอยู่ในหลายหลากมิติบ้างไหม?

    ก็อย่างที่พวกเราเคยบอกพวกคุณไปก่อนหน้านี้แล้วว่า
    จริงๆแล้วพวกคุณหนะ กำลังอยู่ในหลากหลายสถานที่ในเวลาเดียวกันอยู่
    แต่ส่วนที่สำคัญส่วนหนึ่งของพวกคุณ กำลังสั่นสะเทือนอยู่
    ในระดับความสั่นสะเทือนที่สูงกว่าระดับความตระหนักรู้ของพวกคุณอยู่
    และเพราะเหตุนี้ มันจึงถูกเรียกว่า “ตัวตนที่สูงส่งกว่า” (Higher-Self)
    ของพวกคุณยังไงหละ

    ดังนั้นการรักษาความสมดุลระหว่างทุกๆส่วนของตัวตนของพวกคุณเองทั้งหมดเหล่านี้
    และการกลายเป็นเหมือนคุรุทั้งหลายของโลกใบนี้
    จริงๆแล้วมันก็คือ การติดต่อสื่อสารกับตัวตนส่วนอื่นๆที่ศักดิ์สิทธิ์ของตัวพวกคุณเองนั่นเอง
    นั่นแหละคือการสื่อสารระดับจิตวิญญาณ

    ดังนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเราจะพูดถึงต่อจากนี้ไป ก็จะเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
    ซึ่งก็คือเรื่องการติดต่อสื่อสารระหว่าง “พวกคุณ” กับ “ตัวตนที่สูงส่งกว่า” ของพวกคุณเอง

    ........................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2014
  18. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: การสื่อสารระดับจิตวิญญาณ (Soul Communication)-Part2

    ผู้รับสาส์น: นาย Lee Carroll
    วันที่: 23 กุมภาพันธุ์ 2014

    ที่มา: San Antonio, Texas - February 23, 2014

    ตอนที่ 2:การมีชีวิตรอดทางจิตวิญญาณ


    ฉันอยากจะพาพวกคุณย้อนกลับไปสักหน่อยหนึ่ง

    กี่ภพชาติแล้วที่พวกคุณเดินลุยอยู่ในยุคพลังงานเก่าแห่งนี้?
    กี่ภพชาติแล้วที่พวกคุณตะลุยฝ่ามันไปอย่างยากลำบาก?

    เพราะว่าเมื่อใดที่พวกคุณประคองตัวเองให้ลุกขึ้นมาได้แล้ว
    ยุคพลังงานเก่าของโลกใบนี้ก็จะน็อกพวกคุณให้กลับลงไปกองอยู่กับพื้นใหม่อีกครั้งหนึ่งทันที

    นี่เป็นการเปรียบเทียบถึง “การตื่นรู้” ของจิตวิญญาณเก่าแก่ทั้งหลาย
    ที่สามารถตื่นรู้ขึ้นมาสู่ความเข้าใจเกี่ยวกับวัตถุประสงค์อันศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองและของดาวเคราะห์โลกได้แล้ว
    แต่กลับต้องถูกเพิกเฉย หรือที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้นอีกก็คือ ถูกตามล่า และก็ต้องตกอยู่ในความหวาดกลัว

    จิตวิญญาณเก่าแก่ทั้งหลายเอ๋ย..มันจะเหมือนกับว่า
    แค่พวกคุณเริ่มออกเดินทางไปบนเส้นทางสายจิตวิญญาณนี้เท่านั้นเอง
    มันก็ฆ่าพวกคุณให้ตายแล้ว แล้วจากนั้นพวกคุณก็กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งหนึ่ง
    แต่พวกคุณก็ต้องถูกเกณฑ์ไปทำสงคราม แล้วมันก็ฆ่าพวกคุณตายอีก
    แต่พวกคุณก็กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งหนึ่ง และก็ตื่นรู้ขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่งด้วย
    หรือพวกคุณอาจจะเป็น shaman ซะด้วยซ้ำไป แต่มันก็ฆ่าพวกคุณตายอีกครั้งหนึ่ง เพราะโทษฐานที่รู้แจ้ง

    มีกี่ภพชาติแล้ว ที่ทั้งหมดที่พวกคุณสามารถทำได้ก็คือการหยุดชะงักตัวเองเอาไว้ก่อน
    แล้วพยายามดำรงชีวิตให้รอดในโลกที่เต็มไปด้วยความคิดที่เก่าแก่คร่ำครึและมืดบอดนี้?
    จนการเอาชีวิตรอดกลายมาเป็นคำที่มีความหมายแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงสำหรับจิตวิญญาณเก่าแก่ทั้งหลาย
    เพราะว่าการมีจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ที่สูง ในยุคพลังงานเก่านั้น
    ก็เหมือนกับการตอกหมุดรูปทรงสี่เหลี่ยมลงไปในหลุมรูปวงกลมนั่นแหละ
    และนี่แหละคือสิ่งที่จิตวิญญาณเก่าแก่ทั้งหลายคุ้นเคยกันมาอย่างดีหละ


    แต่ที่รักทั้งหลาย เรื่องแบบนี้มันกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว สิ้นสุดลงทุกอย่างเลย
    ซึ่งนี่ก็คือสิ่งที่ได้ถูกพยากรณ์เอาไว้แล้วโดยชนเผ่าพื้นเมืองของดาวเคราะห์โลกดวงนี้
    สำหรับช่วงเวลานี้ และพวกคุณก็ได้มาอยู่ที่นี่แล้ว และก็พร้อมที่จะเจอกับมันแล้ว


    แต่ว่าที่รักทั้งหลาย ดาวเคราะห์โลกดวงนี้ ก็จะยังไม่มีระดับจิตสำนึก/ความตระหนักรู้
    เพิ่มสูงขึ้นแบบพรวดพราดหรอกนะ
    แต่ว่าระบบต่างๆที่ล้อมรอบพวกคุณอยู่นั้น และพลังงานที่ล้อมรอบพวกคุณอยู่นั้น
    กำลังจะเริ่มง่ายดายมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว จนทำให้คนอย่างพวกคุณ
    สามารถที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยความสะดวกสบายมากขึ้นกว่าเดิมอย่างมาก
    เพราะว่ามันจะมีการต่อต้านน้อยลงอย่างมาก และผู้คนก็จะเปิดใจมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
    นี่คือการเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่จะเป็นไปอย่างช้าๆ ช้ามากซะด้วย

    และนี่ก็ยังหมายความว่า พวกคุณกำลังจะสามารถเข้าไปสู่ความสมดุลได้ง่ายดายยิ่งขึ้นกว่าเดิมแล้ว เห็นไหมว่าพวกเราใช้ศัพท์คำว่า “สมดุล” (balance) นี้ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะว่ามีหลายครั้งที่ผู้ที่อยู่ในระบบความเชื่อลี้ลับ (esoteric belief system) ทั้งหลาย จะเลือกที่จะดำรงชีวิตอยู่ในสถานะใดสถานะหนึ่งเป็นพิเศษ เพียงเพราะว่ามันเป็นสถานะที่บริสุทธิ์เท่านั้นเอง เช่น มันง่ายที่พวกคุณจะไปเป็นฤาษี (hermit) อันนี้ฉันพูดกับคู่หูของฉันด้วยนะ เพราะว่า ถ้าพวกคุณไม่จำเป็นจะต้อง “ส่องแสงสว่าง” ของตัวเองออกมาแล้วหละก็ มันก็เป็นเรื่องง่าย ซึ่งในอดีตที่ผ่านมานั้น ถ้าพวกคุณส่องแสงสว่างออกมาให้ใครได้เห็นแล้วหละก็ พวกคุณก็จะถูกตามล่าทันที! พวกคุณเข้าใจในสิ่งที่ฉันกำลังพูดถึงอยู่นี้ใช่ไหม? เพราะว่าเมื่อใดที่พวกคุณเปิดประตูออกมา แล้วมีแสงสว่างเล็ดลอดออกมาด้วย ทุกๆคนก็จะมองมาที่พวกคุณ เพราะว่าพวกคุณแตกต่างจากพวกเขา แล้วเรื่องนี้มันผิดปกติตรงไหนหละ? ในอดีต มันก็หมายถึง “การตาย” ของพวกคุณหนะสิ และนี่แหละคือสิ่งที่กำลังจะเปลี่ยนไปหละ แต่มันก็ยากที่จะลืม

    ............................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2014
  19. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: การสื่อสารระดับจิตวิญญาณ (Soul Communication)-Part2

    ผู้รับสาส์น: นาย Lee Carroll
    วันที่: 23 กุมภาพันธุ์ 2014

    ที่มา: San Antonio, Texas - February 23, 2014

    ตอนที่ 3: การไม่เข้าไปแทรกแซง (Non-interference)

    ดังนั้น ในพลังงานใหม่นี้ คือเมื่อผ่านพ้นช่วง precession of the equinoxes มาแล้ว
    พวกเราจึงมีอะไรใหม่ๆมาให้พวกคุณ

    (หมายเหตุ: precession of the equinoxes คือการเคลื่อนถอยไปในอดีตราศีประมาณ 1 องศาในเวลา 71.6 ปี
    หรือประมาณ 50.3 พิลิปดาต่อปี ที่เรียกว่า Precession of Equinoxes มีสาเหตุมาจาก
    แรงโน้มถ่วงของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ที่พยายามดึงแกนโลกให้ตั้งตรง
    ทำให้ส่วนบริเวณเส้นศูนย์สูตรของโลกโป่งตัวออก (Equatorial bulge)
    ดังนั้นขณะที่โลกหมุนรอบแกนและโคจรไปรอบดวงอาทิตย์ จึงทำให้แกนของโลกหมุนส่าย
    คล้ายการหมุนของลูกข่างที่เริ่มสูญเสียการทรงตัว เป็นผลทำให้การครบรอบของตำแหน่ง Equinox และ Solstic
    เร็วขึ้นประมาณ 20 นาทีต่อปีหรือใช้เวลาประมาณ 25,772 ปี จึงจะครบรอบ 360 องศา
    ดูที่มาของคำอธิบายนี้ ในลิงค์ข้างล่างนี้นะครับ - ผู้แปล)

    http://www.horawej.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538845699&Ntype=56

    ซึ่งสิ่งแรกที่พวกเราอยากจะบอกพวกคุณก็คือ สิ่งที่พวกเราเรียกกันว่า
    “กฎแห่งพระผู้สร้าง” (the rules of the creator) ทั้งหลาย
    ซึ่งตอนนี้ กฎเหล่านี้ไม่ใช่ในแบบที่พวกคุณคิดกันเลย
    ซึ่งถ้าจะพูดให้จำเพาะเจาะจงลงไปอีกแล้วหละก็ พวกเราก็จะเรียกพวกมันว่า
    “กฎแห่งพระเจ้าเพื่อมวลหมู่มนุษยชาติ” (The Laws of God Toward Humanity)

    กฎเหล่านี้ไม่สามารถที่จะละเมิดได้ และพวกเราก็ไม่ต้องการที่จะให้พวกมันถูกละเมิดด้วย
    ดังนั้น พวกเราจึงจะไม่มีวันละเมิดกฎเหล่านี้เป็นอันขาด เพราะว่าวิญญาณที่อยู่เบื้องบนจะไม่เหมือนกับมนุษย์โลก

    มันไม่มีจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ใดเลยที่เป็นเส้นตรง และจะปฏิบัติต่อกฎหรือบทบัญญัติทั้งหลาย
    ในแบบที่ว่าจะต้องทำตามหรือไม่ทำตาม (เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น – ผู้แปล)

    กฎเหล่านี้เป็นกฎอีกประเภทหนึ่งที่แตกต่างออกไป ตัวอย่างเช่น กฎทางฟิสิกส์ (laws of physics) ทั้งหลาย
    พวกมันเป็นกฎที่เป็นจริงเสมอ และพวกมันก็เกี่ยวข้องกับวิธีการแสดงพฤติกรรมของสสารในโลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณ
    แต่กฎทางฟิสิกส์เหล่านี้ ไม่ใช่กฎที่จิตสำนึก/ความตระหนักรู้ใดๆจะยอมทำตามเลย เพราะว่าพวกมันเป็นกฎของสสาร

    ในทำนองเดียวกัน มันก็มีกฎต่างๆทางด้านจิตวิญญาณ (laws of spirituality) อยู่ด้วย
    ซึ่งก็คือกฎที่เกี่ยวกับว่าพระเจ้าทำงานอย่างไรนั่นเอง

    ดังนั้น ขอให้ฉันได้บอกบางส่วนของพวกมันให้พวกคุณรู้สักหน่อย
    แต่ก่อนอื่น มนุษย์ทุกคนคือผู้ที่มีเกียรติ, มีความสวยสดงดงาม และมีเมตตากรุณา
    เพราะว่าพวกคุณจะไปหวังอะไรอื่นได้จากแหล่งกำเนิดแห่งการสรรสร้างนั้นหละ?

    ต่อไปนี้คือกฎข้อหนึ่งของมัน:

    “พวกเราจะยืนอยู่ห่างจากพวกคุณ จนกว่าพวกคุณจะเชิญให้พวกเราเข้าไปซะก่อน”

    ซึ่งนี่เป็นซะยิ่งกว่า “ทางเลือกอิสระ” (free choice) สำหรับมนุษยชาติซะอีก มันคือกฎของพระผู้สร้าง

    แล้วพวกเราชอบกฎข้อนี้ไหม? จริงๆแล้ว ก็ไม่หรอก เพราะว่าด้วยความรักของพวกเราที่มีต่อพวกคุณ
    พวกเราจึงแทบอยากจะร้องตะโกนบอกพวกคุณว่า พวกเราอยู่ตรงนี้นะ แต่พวกเราก็ทำไม่ได้
    เพราะว่าพวกเราต้องเคารพในทางเลือกอิสระของมนุษย์ด้วย เพราะว่าถ้าพวกคุณรู้จริงๆว่าพวกเราอยู่ที่นี่หละก็
    พวกคุณก็จะเปลี่ยนไปทันที และการทดสอบก็จะไม่เกิดขึ้น ไม่มีเลย
    ดังนั้น ทางเลือกที่จะค้นหาพวกเราจึงเป็นของพวกคุณ และก็เป็นของพวกคุณเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้นด้วย

    ที่รักทั้งหลาย ยุคพลังงานเก่าของโลกใบนี้ เคยทำให้พวกเราทุกๆชีวิตได้รับความลำบากมาแล้ว
    เพราะว่าพวกคุณเคยตื่นรู้ขึ้นมาแล้ว แต่ก็ต้องมาตกอยู่ในโหมดการเอาชีวิตรอด
    และภายใต้ยุคพลังงานเก่านี้ชาวโลกส่วนใหญ่ก็จะไม่สนใจพวกเราและก็จะไม่เปิดใจให้พวกเราเข้าไปด้วย

    พวกคุณนึกออกไหมว่า ถ้าอยู่ๆลูกๆของพวกคุณก็เปลี่ยนไป และก็จำพวกคุณไม่ได้เลย มันจะเป็นอย่างไร?
    พวกคุณนึกออกไหมว่า ถ้าพวกเขาเดินสะเปะสะปะไปทั่วห้อง แล้วก็วิ่งชนผนังกำแพง
    เพราะว่าพวกเขามองไม่เห็น มันจะเป็นอย่างไร?

    แล้วก็ลองจินตนาการดูต่อซิว่า ถ้าตัวพวกคุณเอง มีไฟฉายอยู่ในมือและก็กำลังยืนอยู่ที่ไหนซักแห่งหนึ่งแถวๆนั้น
    แต่ลูกๆของพวกคุณกำลังอยู่ในที่มืดและหวาดกลัว แต่ว่าพวกคุณไม่สามารถที่จะส่องไฟให้กับพวกเขาได้เลย
    จนกว่าพวกเขาจะร้องขอมาซะก่อน มันจะเป็นอย่างไร?

    แต่พวกเขาก็ไม่เคยร้องเรียกหาพวกคุณเลย เพราะว่าพวกเขาไม่รู้จักชื่อพวกคุณด้วยซ้ำไป!
    และพวกเขาก็จำไม่ได้ว่าพวกคุณเป็นใคร พวกคุณคือผู้ให้กำเนิดพวกเขา และพวกคุณก็รักและห่วงใยพวกเขามาก
    แต่ว่าพวกเขากลับไม่รู้ว่ามีพวกคุณอยู่ พวกคุณนึกออกไหมว่ามันจะเป็นอย่างไร? นั่นแหละคือกฎของพวกเราหละ

    ......................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2014
  20. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: การสื่อสารระดับจิตวิญญาณ (Soul Communication)-Part2

    ผู้รับสาส์น: นาย Lee Carroll
    วันที่: 23 กุมภาพันธุ์ 2014

    ที่มา: San Antonio, Texas - February 23, 2014

    ตอนที่ 4:

    กฎอีกข้อหนึ่งก็คือ:

    “เมื่อใดก็ตามที่พวกคุณในฐานะมนุษย์โลก ยอมเปิดหัวใจ
    และยอมลงมือค้นหาด้านจิตวิญญาณแล้ว สิ่งต่างๆก็จะบังเกิดขึ้น”


    ซึ่งพวกคุณหลายคนก็มีแม้กระทั่งความทรงจำที่ตกทอดมา ที่อยู่ภายในบันทึกแห่งฟ้าของตัวเอง (Akashic record) ด้วยซ้ำไป
    ว่ามันมีความรู้สึกอย่างไร (และบางทีก็อาจจะรู้สึกถึงปัญหาที่มันนำพามาในยุคพลังงานเก่าด้วย)

    เมื่อใดที่พวกคุณเริ่มตอบคำถามด้านจิตวิญญาณที่อยู่ภายในตัวเองแล้ว ซึ่งถามว่า “มันมีอะไรมากกว่านั้นอีกหรือเปล่า?”
    นั่นแหละคือการที่พวกคุณยินยอมให้พวกเราเข้าไปแล้วหละ และในชั่วขณะนั้นเอง ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไปในทันที
    แล้วพวกเราก็จะเริ่มสื่อสารกับพวกคุณ นั่นแหละคือกฎของพวกเราหละ

    แต่เมื่อใดที่พวกคุณจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆทำสิ่งนี้ กฎข้อนี้ก็จะขยายออกไปครอบคลุมคุณลักษณะอื่นๆ (คนอื่นๆ –ผู้แปล)
    ที่อยู่รอบๆตัวพวกคุณด้วยเช่นเดียวกัน แล้วจากนั้นพวกเขาก็จะเริ่มเปลี่ยนไปด้วยเช่นเดียวกัน
    และเมื่อใดที่มีมนุษย์โลกจำนวนมากพอเริ่มต้นทำกระบวนการนี้ ดาวเคราะห์โลกดวงนี้ทั้งดวง ก็จะเริ่มยกระดับขึ้นในทันที
    มันจึงถูกเรียกว่าการใช้ทางลัด (fast-tracking)

    คราวนี้ นี่คือข้อดีของมัน การยกระดับขึ้นยังเกี่ยวข้องกับสิ่งที่พวกคุณเรียกกันว่า “ความไวต่อพลังงานของร่างกายมนุษย์”
    (the sensitivity of energy within the Human Being) อีกด้วย

    เมื่อใดที่พวกคุณเดินเข้าไปในสนามรบ ที่ๆโครงข่ายคริสตัลไลน์ของโลกได้บันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นตรงนั้นเอาไว้แล้ว
    พวกคุณก็จะรู้สึกสลดหดหู่ไปกับมันด้วย ซึ่งสิ่งนี้กำลังจะเปลี่ยนไป และพวกเราก็ได้บอกพวกคุณไปแล้วเกี่ยวกับเรื่องนี้
    แต่อย่างไรก็ตาม สมมุติว่าถ้าพวกคุณเดินเข้าไปในสนามรบแห่งนั้นพร้อมๆกับคนอื่นๆ
    พวกคุณอาจจะรู้สึกถึงมันได้ แต่ว่าพวกเขาอาจจะไม่รู้สึกอะไรเลย ดังนั้น บทสนทนาระหว่างพวกคุณ ก็อาจจะเป็นแบบนี้:

    “เป็นอะไรหรือเปล่า?”
    แล้วพวกคุณก็อาจจะตอบว่า “คุณไม่รู้สึกถึงพลังงานที่อยู่ที่นี่เลยเหรอ?”
    แล้วพวกเขาก็อาจจะตอบว่า “พลังงานอะไรเหรอ? คุณหมายถึงอะไร?”
    “มีอะไรบางอย่างเคยเกิดขึ้นที่นี่ คุณไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ?”
    “ไม่เลย ไม่เห็นรู้สึกอะไรเลย”

    แล้วจากนั้นพวกเขาก็จะมองดูพวกคุณ แล้วก็อาจจะคิดว่าพวกคุณเสแสร้งหรือเปล่า
    หรือคิดว่าพวกคุณต้องการเรียกร้องความสนใจหรือเปล่า
    หรือว่าพวกคุณกำลังแสดงบทของผู้ปฏิบัติจิตที่มีจิตสัมผัสไวอย่างมากอยู่หรือเปล่า

    แล้วอะไรคือข้อแตกต่างระหว่างพวกคุณกับพวกเขาหละ?

    คำตอบก็คือ พวกคุณยอมให้ความตระหนักรู้นี้เข้าไปได้ แต่ว่าพวกเขาสกัดกั้นมันเอาไว้อยู่
    เดี๋ยวอีกซักครู่พวกเราจะมาพูดถึงตัวสกัดกั้นที่ว่านี้กัน

    พวกคุณบางคนเมื่อเดินเข้าไปในป่าแล้ว ก็จะสามารถรู้สึกถึงมันได้
    ว่าความรักและความสวยงามของพวกมันล้อมรอบพวกคุณอยู่ ไกอากำลังพูดคุยกับพวกคุณอยู่
    ต้นไม้กำลังปล่อยก๊าซออกซิเจนออกมาโดยอาศัยกระบวนการสังเคราะห์แสงอยู่
    ซึ่งเป็นระบบที่เต็มไปด้วยความเมตตากรุณา

    พืชพันธุ์ทั้งหลายมอบออกซิเจนให้แก่พวกคุณและพวกคุณก็มอบคาร์บอนไดออกไซด์ให้แก่พวกมัน
    โอ..มันช่างเป็นระบบที่ดีจริงๆ! ลองมองดูรอบๆสิ

    แต่นักวิทยาศาสตร์ของพวกคุณอาจจะพูดว่าระบบนี้มันเกิดขึ้นมาด้วยความบังเอิญ
    หรือว่ามันเป็นปรากฎการณ์แบบสุ่ม พวกคุณเชื่อแบบนั้นไหม? มันช่างเป็นระบบที่สวยสดงดงามอะไรอย่างนี้!
    และต้นไม้ทั้งหลายก็รู้ว่าพวกคุณเป็นใครด้วย

    เมื่อพวกคุณเดินเข้าไปในป่าพวกคุณก็จะรู้สึกว่าพวกมันโอบกอดพวกคุณอยู่
    แต่ใครบางคนที่อยู่ถัดจากพวกคุณไป ที่มาพร้อมกับเลื่อยไฟฟ้าก็อาจจะไม่แคร์ก็ได้
    เพราะว่าพวกเขาไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะว่าสำหรับพวกเขาแล้วป่าก็เป็นแค่ทรัพยากรธรรมชาติอย่างหนึ่งเท่านั้นเอง
    แล้วพวกคุณทั้งสองคนนี้มีอะไรที่แตกต่างกันหละ?

    ในกรณีนี้พวกเราจะไม่ไปตัดสินชี้ถูกผิดใคร ฉันแค่ถามดูเฉยๆ พวกคุณคิดว่าอะไรคือข้อแตกต่างที่ว่านั้น?

    คำตอบก็คือ: เพราะว่าพวกคุณยินยอมให้ความตระหนักรู้แบบหลากมิติเข้ามาได้ แต่พวกเขาไม่

    พวกคุณเห็นไหมว่า พวกคุณกำลังกลายเป็นคนที่สามารถรับรู้ถึงการสื่อสารแบบหลากมิติระดับจิตวิญญาณมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว
    ซึ่งในกรณีนี้ มันคือพลังงานจากจิตวิญญาณอันใหญ่โตมโหฬารของพวกคุณเอง กำลังสื่อสารกับส่วนอื่นๆของดาวเคราะห์โลก
    ซึ่งก็เป็นหลากมิติด้วยเช่นเดียวกันอยู่

    เมื่อใดที่พวกคุณได้ตัดสินใจลงไปแล้วว่า มันก็ OK ที่จะรู้สึกถึงพลังงานนี้ พลังงานนี้มันก็จะไปอยู่ที่นั่นทันที
    แต่มนุษย์โลกส่วนใหญ่ไม่ยอมที่จะตัดสินใจแบบนี้กัน พวกเขาบล็อกมันเอาไว้ ซึ่งกฎมันก็มีอยู่ว่า

    “การสื่อสารนี้จะเกิดขึ้นกับพวกคุณได้ ก็ต่อเมื่อพวกคุณยินยอมให้มันเกิดขึ้นได้เท่านั้น”

    ในชั่วขณะที่พวกคุณเปิดประตูแห่งการยินยอมออกมา พวกคุณก็อาจจะเริ่มรู้สึกถึงมันได้ในทันที
    นั่นแหละคือกฎบางข้อของพวกเรา

    มันไม่ใช่แค่การยินยอมให้การสื่อสารจากต้นกำเนิดแห่งการสรรสร้างเกิดขึ้นได้เท่านั้นนะ
    แต่มันยังรวมถึงการสื่อสารจากสิ่งที่พวกเราเรียกกันว่า “พลังงานที่เต็มไปด้วยกุศลเจตนา” ชนิดอื่นๆ
    จำนวนมากมายก่ายกองอีกด้วย ซึ่งพลังงานอื่นๆที่ว่านี้ก็มีหลายกลุ่มหลายชื่อ ตามที่พวกคุณได้ตั้งให้แก่พวกเขานั่นแหละ
    พวกเขาก็จะยังไม่สามารถที่จะผ่านเข้ามาหาพวกคุณได้ด้วยนะ ถ้าพวกคุณไม่ยินยอม
    เพราะว่านั่นก็เป็นกฎของพวกเขาด้วยเช่นกัน

    ซึ่งชื่อที่พวกคุณตั้งให้แก่พวกเขาก็ได้แก่ ชาวกลุ่มดาวลูกไก่, ชาวอาร์คทูเรี่ยน, ชาวซีรีอุส, Hathors
    หรือ ผู้ที่มาจากดาว Orion เป็นต้น แต่พวกเขายังมีอีกมากมาย แต่ถ้าพวกคุณไม่เปิดโอกาสให้แก่พวกเขาก่อน
    พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะติดต่อสื่อสารกับพวกคุณได้

    มนุษย์โลกส่วนใหญ่จะยืนถัดจากพวกคุณไป ในขณะที่พวกคุณกำลังสื่อสารกับพวกเขาอยู่
    และมนุษย์เหล่านั้นก็จะคิดว่าพวกคุณไม่ค่อยสบาย เพราะว่าพวกเขาจะเห็นว่ามันเป็นอย่างนั้น

    แต่จงฟังให้ดีนะที่รักทั้งหลาย กลุ่มของรูปธรรมที่เต็มไปด้วยความเมตตากรุณาเหล่านี้
    คือที่มาของสารัตถะของ DNA ของพวกคุณ (คือผู้ที่บ่มเพาะร่างกายชีวภาพนี้ของพวกคุณขึ้นมา)
    และพวกเขาก็รู้ดีว่าพวกคุณเป็นใครด้วย และพวกเขาก็มีอยู่มากมายหลายกลุ่มด้วย
    ดังนั้นความช่วยเหลือที่พวกคุณมีอยู่บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้จึงมีอยู่อย่างเกลื่อนกลาด
    เพียงแต่ว่าชาวโลกส่วนใหญ่ จะไม่ยอมรับรู้ถึงการมีอยู่ของมัน
    หรือไม่ยอมเปิดโอกาสให้มันเข้าไปอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงของพวกเขาได้เท่านั้นเอง

    .......................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2014

แชร์หน้านี้

Loading...