วิริยาธิกะพิเศษบันทึก

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย pco-, 7 มิถุนายน 2010.

  1. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    เรื่องทำบุญตอนนี้ก็ทันครับ เจตนาคือกองทุนทำบุญทุกอย่าง คำว่าทุกอย่างเราก็เอาแบบพิเศษที่ไม่มีในตำราไม่มีใครบอก ผมบอกเอง

    นั่นก็คือว่าสตางค์ก็ดี แรงกายก็ดี ใจก็ดี ที่ยินดีโมทนาสาธุการ กับรายการนี้มันเป็นการร่วมบุญทุกอย่างร่วมกับเขาตั้งแต่ตอนต้นที่เรายังไม่รู้ ตอนปัจจุบันที่เรารู้หรือไม่รู้ก็ตามว่าเขาทำบุญอะไรกัน ไปจนถึงอนาคตกาลไม่มีกำหนดว่าเขาจะคิด จะทำบุญอะไรกันในแต่ละที่และเป็นบุญทุกประเภท ชนิดหว่านแห ลากอวน ไฟฟ้าช๊อตกันเลย

    ที่เราได้ถือว่าเราให้ทุนเบื้องต้น สตางค์ก้อนแรกบาทแรกแม้จะเล็กน้อยนั้นเป็นสตางค์ของเราที่เป็นเจ้าของกองทุนทุกคน อันนี้ต้องการผลาอานิสงค์ ให้ทุกคนในหมู่คณะ แม้คณะผู้ที่ปรารถนาในพระโพธิญาณด้วยกัน ได้มีทุนหากจะต้องเดินทางไกลกัน ขอจงได้ไปด้วยพาหนะที่ดี ที่ปลอดภัย มีทุนรอน มีเครื่องมือทุกชนิด จะหยิบจะฉวยเมื่อไรก็ได้ ที่ไม่เกินกฏแห่งกรรม มีคนช่วยเหลือสนับสนุน มีกองรักษาความปลอดภัยพระโพธิญาณคุ้มครองรอบทิศตลอดทาง มีครูบาอาจารย์ที่ประเสริฐแนะนำชี้ทางตลอดเวลา

    คำว่าทุกอย่างพิเศษมันเป็นแบบนี้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 พฤษภาคม 2014
  2. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    โมทนาสาธุอย่างยิ่งนะครับ
     
  3. scorpion03

    scorpion03 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +816
    สวัสดีท่านทั้งหลาย

    ก่อนอื่นก็ต้องขออนุโมทนาในกุศลเจตนา ที่ท่านทั้งหลายได้กระทำแล้วด้วยดี สาธุ

    มีเรื่องหนึ่งที่เราอยากจะบอก อยากจะคุยกับท่านทั้งหลาย ที่จริงในเรื่องนี้ทุกคน ต่างก็รู้กันดีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า อาจจะหลงลืมกันไปนะ

    เรื่องที่เราว่านี้ก็คือ " เรื่องของโครงการในพระราชดำริ "

    เราจะบอกว่า สังคมไทยเวลานี้ กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลง เป็นอย่างมาก หลายๆ ภาคส่วน กำลังพยายามทำให้สังคมไทย ดีขึ้น ในหลาย ๆ ด้าน มีเรื่องแปลกอยู่อย่างหนึ่งนะ ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน ที่จิตใจของเรา จะคิดคำนึงถึง เรื่องราวต่าง ๆ ที่เป็นโครงการในพระราชดำริ ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ คือเราคิดว่า สิ่งต่าง ๆ ที่เป็นคำตอบ ของปัญหาด้านต่าง ๆ ของประเทศ

    ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาด้านเศรษฐกิจ สังคม ความเป็นอยู่ การศึกษา วัฒนธรรม ความเจริญต่าง ๆ เทคโนโลยีต่าง ๆ กล่าวโดยรวมก็คือ เราคิดว่า โครงการในพระราชดำริ ของพระองค์ท่านทั้งสอง ได้มีไว้เพื่อตอบโจทย์ และแก้ปัญหา ต่าง ๆ ไว้อย่างครบถ้วนบริบูรณ์ดีแล้วนั่นเอง

    แต่เราก็ไม่เข้าใจเลยว่า เพราะเหตุอันใด ท่านผู้ที่มีอำนาจในการบริหารบ้านเมือง ถึงไม่นำพาโครงการในพระราชดำริ เหล่านี้ ไปใช้งานอย่างจริงจัง ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของชาติบ้านเมือง

    เพราะว่าโครงการต่าง ๆ ของพระองค์ท่านนั้น เกิดขึ้นจาก ความเมตตา กรุณา อย่างแท้จริงในพระทัยของพระองค์ท่าน ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยทุกคน ทำไมถึงไม่มีใครนำไปต่อยอด และพัฒนาเป็นแนวทางในการบริหารประเทศ ให้เจริญรุ่งเรื่องสืบไป

    พระองค์ท่านทั้งสอง ทรงอ่อนล้า เพราะกาลเวลาผ่านไป ควรที่คนไทยทั้งหลาย จะนำโครงการต่าง ๆ ในพระราชดำริ ของพระองค์ ไปปรับใช้ และพัฒนาอย่างจริงจังต่อไป ควรจะกระทำกันอย่างเข้มแข็ง ให้เหมือนกับในสมัยที่พระองค์ท่านทั้งสอง เคยเสด็จไปในที่ต่าง ๆ ของประเทศไทย เพื่อได้พบเห็นความเป็นอยู่ที่แท้จริงของราษฎร

    เราคิดว่า ถ้าภาคเอกชนต่าง ๆ ก็ดี ภาครัฐ หน่วยงานต่าง ๆ ก็ดี เอาใจใส่ และนำโครงการในพระราชดำริ ไปปรับใช้ในการบริหารอย่างแท้จริง จะเกิดประโยชน์เป็นอย่างมาก ต่อประชาชนชาวไทย ไม่ต้องเสียเวลา ไปดูงานต่างประเทศที่ไหนหรอกนะ ของดีต่าง ๆ มีอยู่แล้วครบถ้วน ในโครงการของพระองค์

    ขอเพียงท่านทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นภาคส่วนเอกชนต่าง ๆ ภาคส่วนของรัฐ ราชการต่าง ๆ ให้ความสนใจอย่างแท้จริง และเข้าไปศึกษาข้อมูลต่าง ๆในโครงการของพระองค์ท่าน อย่างละเอียด ตลอดจน นำไปต่อยอดพัฒนาต่อไป จะยังให้เกิดประโยชน์สุข ของประชาชนชาวไทย อย่างอเนก อนันต์

    เราเห็นว่า อะไร ก็ชอบไปดูงานต่างประเทศกัน ทำไมถึงไม่มาดูงานในโครงการพระราชดำริของทั้งสองพระองค์ท่านดูบ้างหละ เราคิดว่าน่าจะเกิดประโยชน์มากเสียกว่า การที่ต้องเสียเงินงบประมาณของชาติ ไปกับการดูงานต่างประเทศนะ
     
  4. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ผมก็คิดแบบนี้ แล้วก็เคยคุยกับพี่ Amarmy อยู่พักหนึ่งนั่งบ่นกันสองคน เรามีโครงการในพระราชดำริอยู่แล้วที่พอจำได้กว่าสองพันโครงการ บางเรื่องอย่าง แค่เสื้อเชิ๊ตใส่รูปพี่ทองแดงเป็นตราสัญลักษณ์เข้าไป ทำเอายี่ห้อพี่ชาละวัน ซึมไปหลายวัน นี่จะเห็นว่าเรามีของดีของประเสริฐอยู่ใกล้ตัว แค่เอาเสื้อพี่ทองแดงออกมาตากแดดประชาชนทั่วไปและอย่างผมก็ดีใจในสัญลักษณ์ของตนเอง นี่หากว่าผู้ที่มีอำนาจแล้วก็วาสนา ในอดีตได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมนำโครงการหลายต่อหลายโครงการเอามาดำเนินการสานต่อ หรือสนุบสนุนโครงการ อย่างจริงใจ ไม่จำเป็นต้องหานโยบายพิลึกพิลั่น ใช้ได้แค่ชั่วครู่ชั่วยามแล้วก็ไปต่อไม่ได้ หรือไปได้สภาพก็อย่างกับแมวถูกรถทับขาหลัง ก็ลากไปถูไป ดูแล้วมันอายเขาจริงๆ เพราะมันประเภทเดียวกับคนที่ทำอะไรสักแต่ว่าทำ แม่ใช้ให้ถูบ้านก็ถูมันส่งเดช ให้มันเสร็จๆแล้วจะได้ไปเสนอหน้าต่อ จะไม่ถูก็กลัวถูกแม่ตีแม่ว่า

    ค่ามันเทียบกันไม่ได้เลยกับน้องนางบ้านนา ที่ถูบ้านเพราะความเป็นหญิงไทยรักสวยรักงามรักความเป็นระเบียบเรียบร้อย รักความสะอาด ถูด้วยเต็มใจและตั้งใจ ผลมันจึงออกมาไม่เหมือนกัน ก็อยากจะเห็นเยาวชนคนรุ่นใหม่เป็นเด็กดี ลองเอาสมบัติที่พ่อมี พ่อให้ เอาไปทำทุนต่อยอด อยากจะเห็นสักคน

    เดี๋ยวมาต่อครับ
     
  5. scorpion03

    scorpion03 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +816
    สวัสดีท่านทั้งหลาย

    ก่อนอื่นก็ต้องขอกราบอนุโมทนา ในกุศลเจตนาที่ท่านทั้งหลายได้กระทำแล้วด้วยดี สาธุ

    การเกิดมาเป็นมนุษย์ แสนยากนัก หมายถึงกว่าที่จะได้เกิดมาเป็นคน เป็นมนุษย์นั้น ต้องทำบุญทำกุศลไว้มากมายหลายอย่าง ไม่ใช่ง่าย ๆ ไม่ใช่นึกอยากมาเกิดแล้วจะได้เกิด

    การเกิดเป็นมนุษย์ และมีโอกาสได้พบพระพุทธศาสนา ก็ยิ่งยากขึ้นไปอีก และเมื่อพบแล้วเกิดความศรัทธา ก็ยิ่งยากขึ้นไปอีกนะ อันนี้ก็ต้องบำเพ็ญบุญบารมีมาก นะถึงจะได้ตามที่กล่าวมา

    และการที่ได้เกิดมาในประเทศที่มีความสุบสงบ มีพระพุทธศาสนา เป็นประเทศที่อุดมไปด้วยคุณงามความดี อย่างประเทศไทย ก็จัดว่าเป็นอุดมมงคล

    และประกอบกับประเทศไทยของเราทุกคนนี้ มีพระมหากษัตริย์ ผู้ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม อย่างในปัจจุบันนี้ ก็ยิ่งเป็นอุดมมงคลขึ้นไปอีก

    เราอยากจะบอกกับคนไทยทุกคนว่า เราท่านทั้งหลายนี้ ถือได้ว่ามีโอกาส ดีกว่าผู้คน ที่อาศัยอยู่ในประเทศอื่นๆ มากมายยิ่งนัก องค์พระประมุขของเรานี้ ทรงปกครองประชาชน ด้วยความเมตตา กรุณา อย่างหาที่สุดมิได้ ทรงกระทำทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อให้ราษฎรของพระองค์มีความสุข

    น้ำพระทัยแบบนี้ จัดเป็นน้ำพระทัยแห่งพระมหาโพธิสัตว์เจ้า อย่างแท้จริง

    มีเรื่องจะเล่าให้ฟัง มีอยู่ครั้งหนึ่งในชีวิตแห่งเรานี้ วันนี้เป็นวันที่ 6 เมษายน ปีอะไรจำไม่ได้นะ (ขอโทษด้วย) เราตื่นแต่เช้า เป็นวันหยุด ไม่รู้จะไปไหน คิดว่า จะไปไหว้พระแก้วมรกต ที่วัดพระแก้ว สมัยนั้นเราไม่ค่อยได้ติดตามข่าวสารอะไร ไม่รู้แม้กระทั่งว่า ในวันนั้น ทีวัดพระแก้ว จะมีพิธีสำคัญ คือมีพระราชพิธี วันจักรี คือเรารู้ว่าเป็นวันหยุด เป็นวันจักรี แต่ไม่รู้ในรายละเอียด ว่ามีอะไรบ้าง

    เราก็ไปวัดพระแก้วแต่เช้าเลย มีความสุขจะไปไหว้พระแก้วมรกต พอไปถึงบริเวณภายในรั้วของวัด ยังไม่ได้เข้าไปในพระอุโบสถ เห็นเจ้าหน้าที่เขากำลังกั้นแนว มีการปูพรมแดง ได้ยินเขาพูดกันว่า วันนี้จะมีเสด็จฯ เราก็ดีใจ คิดในใจว่า โชคดีจัง นอกจากจะได้มาไหว้พระแก้วมรกตแล้ว วันนี้ ยังจะได้เข้าเฝ้ารอรับเสด็จ องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนารถ และพระบรมวงศ์ษานุวงศ์ด้วย

    ประกอบกับเราไปเช้ามาก ก็เลยได้ไปนั่งรอรับเสด็จอยู่ในแถวหน้า ๆ เลย เมื่อถึงเวลาอันสมควร พระองค์ก็ทรงเสด็จพระราชดำเนินมาถึง

    องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จพระดำเนิน มา และทรงหยุดทักทายพสกนิกรของพระองค์ บังเอิญมาก ที่ท่านได้มาหยุดยืนอยู่ตรงบริเวณที่เรานั่งรออยู่ ใกล้มาก เรานี้น้ำตาไหล และไม่ยอมเสียโอกาส เราได้กราบลงไปที่ฝ่าพระบาททั้งสองของพระองค์ท่าน มือของเราที่กราบลงไป ได้สัมผัส กับรองพระบาททั้งสองข้างของพระองค์ แล้วเราก็นำขึ้นมาลูบที่หัวของเรา เป็นความภาคภูมิใจ และความประทับใจตราบจนทุกวันนี้
     
  6. scorpion03

    scorpion03 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +816
    ขอเขียนต่อนะ

    และก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจอยู่เหมือนกัน พอเราโตขึ้น ทุกครั้งที่ได้ดูข่าวในพระราชสำนักทาง โทรทัศน์ ช่วงพระองค์ทรงเสด็จไปทอดพระเนตร ความคืบหน้าของโครงการพระราชดำริต่าง ๆ เราจะสนใจเป็นพิเศษ เราก็คิดว่า พระองค์ท่าน อันที่จริง ไม่ต้องทรงลำบากพระวรกาย เสด็จเยื่ยมเยียนราษฎร ตามท้องถิ่นที่ทุรกันดาร ตามที่ปรากฏในภาพข่าว ก็ได้

    เพราะเหตุอันใด พระองค์ถึงได้ทรงกระทำเยื่ยงนั้น แรก ๆ เราก็ไม่เข้าใจ คิดแต่เพียงว่า คงเป็นไปตามประเพณีนิยม พอมาหลัง ๆ ถึงได้เข้าใจ ว่า ที่พระองค์ท่านทรงลำบากพระวรกาย ทางเสด็จไปเยื่ยมเยียน ราษฎรของพระองค์ ไม่ว่าจะอยู่ไกล เพียงไร ถนนหนทาง จะยากลำบากอย่างไร ก็ทรงเสด็จไป นั่นเป็นเพราะ พระองค์ทรงมีพระเมตตา กรุณา ต่อเหล่าพสกนิกรของพระองค์ อย่างหาที่สุดมิได้นั่นเอง

    พระองค์ท่านทรงกระทำทุกอย่าง ทรงทุ่มเททั้ง กำลังพระวรกาย กำลังพระทัย เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้ประชาชนชาวไทยทุกคน

    มาบัดนี้ เวลานี้ พระองค์ท่านทรงอ่อนล้าพระวรกาย อันเป็นไปตามกาลเวลา เราคิดว่า เป็นการสมควรอย่างยิ่ง ที่คนไทยทุกคน พึงจะสำนึกในพระคุณแห่งพระองค์ ด้วยการกระทำความดี

    และสิ่งที่เป็นเหมือนกับ สมบัติที่พ่อได้ให้ไว้กับคนไทยทุกคน ก็คือ โครงการต่าง ๆ ในพระราชดำริของพระองค์ท่าน เป็นการสมควรอย่างยิ่งที่คนไทยทุกคน พึงจะรักษาไว้ และต่อยอดโครงการให้เจริญยิ่งขึ้นไป ก็เำพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม ตามที่พระองค์ท่านได้ทรงตั้งพระปณิธานไว้ ตั้งแต่ที่พระองค์ทรงเสด็จขึ้นครองราชสมบัติ นับแต่นั้นมา
     
  7. scorpion03

    scorpion03 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +816
    สวัสดีท่านทั้งหลาย

    ได้เขียนค้างไว้ วันนี้ขอเขียนต่อนะ

    ท่านทั้งหลายเคยตั้งคำถามกับตัวเองไหมว่า เพราะเหตุอันใดเล่า ที่ประเทศไทยของเรา เป็นเมืองพุทธ แต่ผู้คน โดยเฉพาะท่านผู้ที่ดำรงค์ตำแหน่ง เป็นผู้ปกครองบ้านเมือง อันได้แก่ นักการเมืองต่าง ๆ ที่รวมกันเป็นคณะรัฐบาล หรือว่าฝ่ายค้าน ก็ดี หรือแม้แต่ บรรดา ข้าราชการทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการฝ่ายไหนก็ตาม

    ยังปรากฏว่า ท่านทั้งหลายเหล่านั้น ยังมีการทุจริตต่อหน้าที่ มีการคอร์รัปชั่น ต่อเงินงบประมาณของแผ่นดิน และอื่นๆ อีกมากมาย เมื่อเรียกตัวเองว่าเป็นชาวพุทธ นับถือพระพุทธศาสนา ก็ควรที่จะทำตัวให้เป็นชาวพุทธอย่างแท้จริง หมายถึง ควรที่จะมีศีลห้า และมี หิริ โอตัปปะ เป็นพื้นฐาน

    แต่ในความเป็นจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น พอได้ตำแหน่ง มีอำนาจขึ้นมา กลับอาศัยตำแหน่ง และอำนาจนั้น ๆ ทุจริต คตโกงต่าง ๆ นานา เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สิน เงินทอง และ ยศฐาบรรดาศักดิ์ ต่าง ๆ โดยไม่คำนึงเลยว่า ก่อนที่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่นั้น ต่างก็ได้เคยให้สัตย์ปฏิญาน เอาไว้ ว่าจะ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยเห็นแก่ประโยชน์ของประชาชนในชาติโดยส่วนรวม มากกว่าประโยชน์ส่วนตน และพวกพ้อง

    ท่านทั้งหลายเหล่านั้น โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นข้าราชการการเมืองทั้งหลาย กลับไม่รักษาสัจจะวาจา ที่ได้เคยให้ไว้ แม้ว่าจะเป็นสัจจะวาจา ต่อหน้าองค์พระประมุึขของชาติ พวกเขาเหล่านั้นก็ไม่นำพา พอได้ตำแหน่งแล้ว กลับกระทำตัว ทุจริต คอร์รัปชั่น คตโกงต่าง ๆ นานา โดยไม่เห็นแก่ชาติบ้านเมืองเลย แม้แต่น้อย

    เราไม่เข้าใจเลยว่า พวกเขาทำกันไปได้อย่างไร จริงอยู่คนเรานั้น มีความอยาก มีกิเลส ก็เป็นเรื่องปกติธรรมของมนุษย์ทุกรูปทุกนาม เพียงแต่ว่า ก็ควรที่จะควบคุมความอยากนั้น ให้อยู่ภายในขอบเขตของศีล ของธรรม หมายถึง อยากได้ ก็หามาด้วยความซื่อสัตย์สุจริต สิ่งใด ที่จะพึงได้มาด้วยความทุจริต คตโกง ชาติบ้านเมือง ไม่ควรที่จะกระทำ

    ปัญหาของชาติบ้านเมืองเรา ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ มีต้นเหตุมาจาก ความอยาก คือตัณหา ที่มีมากจนเกินพอดีนั่นเอง คำว่าพอดีหมายถึง อยู่ในความสุจริต ตลอดจน ขาดความละอาย และเกรงกลัวต่อการกระทำความชั่ว ความเลวทั้งหลาย

    เราอยากจะบอกกับท่านทั้งหลายว่า ทุกหยาดเหงื่อ ที่พระองค์ท่าน ได้ทรงสละมา ในการดูแล ทุกข์ สุข ของประชาชนชาวไทย ตั้งแต่ที่ได้ทรงครองราชย์ มาจนถึงปัจจุบันนี้ เป็นความทุ่มเท เสียสละ ด้วยความเมตตา กรุณา อย่างแท้จริงของพระองค์ท่าน ต่อประชาชนชาวไทยทุกคน

    ควรแล้วหรือ ที่ท่านผู้มีอำนาจวาสนา ได้เข้าเป็นผู้บริหารชาติบ้านเมือง จะมาตระบัตรสัตย์ กระทำตัวทุจริต คตโกง ต่อชาติบ้านเมือง พวกท่านทั้งหลาย ไม่ละอายแก่ใจกันบ้างหรืออย่างไร

    ในขณะที่พระองค์ท่าน ทรงทุ่มเท ทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อให้ประชาชนชาวไทย มีความสุข แต่พวกท่าน กลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับพระองค์ฯ
     
  8. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814



    สวัสดีครับพี่ พีซีโอ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน ผมอยู่ใกล้วัดก็จริง เดี๋ยวนี้ ต้องเปลี่ยนแปลง สถานะภาพตามเหตุการณ์ ทำบุญแล้วออก ไม่ สุงสิงด้วยหมู่คณะ ยิ่ง สุงสิงมากก็เรื่อง มาก มีเรื่องมากมายก่ายกอง เรื่องของตัวเอง ก็แสนจะทุกข์ จะไปทุกข์เรื่องของผู้อื่นอีก แต่ก็ไม่วาย สิน่า จึงพยายาม หากัลยาณมิตรที่ดี การคบคน มันก็ยุ่งวุ่นวายทุกที่ มีแต่ปัญหา เพราะว่า คนไม่รู้จัก คำว่า จารีตประเพณีดีงามที่ควร หรือคำว่า ปรกติ ของศิล ถ้ารู้จักจริงๆ เราจับตัวใดตัวหนึ่ง เดี๋ยวมันก็รู้จักคำว่า ปรกติ หรือค่อยๆครบไปเรื่อยๆ จนครบ ห้าตัว ก็ว่ากันไป ตาม ขั้นหยาบ กลาง ละเอียด ถ้าผู้ใดพอรู้จัก ผมว่ามันก็รู้คำว่า ประชาธิปไตย ทุกวันนี้ ผมไม่รู้ว่า คนไทย พี่น้องทั้ง รู้จักกันหรือไม่ มันถึงได้ วุ่นวายขนาดนี้


    ตัวผมเองไม่รู้จักหรอกครับว่าประธิปไตยเป็นพันไร รู้เพียงว่า อะไรถูกผิด อย่างไร รู้ เคารพ ใน สิทธิผู้อื่น เสมอด้วยตนเอง สิ่งใดเราไม่ชอบ คนอื่นก็ไม่ชอบเช่นกัน เราเพียรพยายาม หลีกเร้น ไม่ทำ และทำในสิ่ง ที่ พ่อแม่ครูบาอาจารย์ สอน ทำในสิ่งประโยชน์ ส่วนรวม ทั้งทางโลกและทางธรรม เท่าที่ปัญญา สติกำลังกายใจ ทรัพย์ ตัวเองจะทำได้ สิ่งที่เราทำ แม้มันไม่ค่อยมี ใครสนใจ หรือชอบใจ ในสิ่งที่เราทำ ก็ไม่เคยจะแคใคร ขอให้เราได้กระทำ เท่านั้นเป็น พอ


    และในการนี้ ผมได้เดินทางไปเที่ยวที่ เมียร์ม่า ฝั่งเมืองทวายข้ามตรง บ้านวัดน้ำพุ ต.ม. กาญจนบุรี ทางไป วัดประตูด่าน หลวงพี่ติงลี่ จากเมืองกาญ น่าจะ ๕๐-๖๐ ก.ม.ไปเสียเวลา ในการทำใบ ผ่านด่านไม่นาน แต่เสียเวลารอรถ ตู้ฝั่งโน้น นานพอดู จากที่ถาม คนคนรถ นั่งรถไป เมืองทวาย ใช้เวลา ๔-๖ ชั่งโมง แต่ไปจริงๆวันนั้น ใช้เวลา ๕ ชั่วโมงกว่าๆ ไปถึง ๒ ทุ่ม กว่า ๑ ทุ่มกว่า ยังเห็นแสงดวงอาทิตย์อยู่เลย ถ้าบ้านเรา ๖ โมงกว่าๆมึดแล้ว เวลาของเขา ช้ากว่าไทย ครึ่งชั่วโมง ตั้งแต่ ด่าน ไปฝั่งพม่า เป็นป่าดงดิบ เป็น ร้อยๆกิโลเมตร จากด่าน ไปถึง เมืองทวาย ก็ ๑๖๐ ก.ม. น้อยหรือมาก กว่านิดหน่อย เป็นเขา วกวน รถวิ่งได้ ๔๐ ถึง ๘๐ เท่านั้นเอง ถาม เรื่องไม้ ยังมีหน้าไม้ ที่เรื่อยแล้วในป่า หรือไม่ได้เรื่อยก็ตาม หน้า ๓๐ ถึง ๘๐ นิ้ว ยังมีเยอะแยะ และมองดู สองข้างทาง เป็นป่าดงดิบ ล้วนๆ ซึ่ง กระเหรี่ยง เคแอลเอ กับกระเหรี่ยง เคแอลยู ปกครองอยู่ ทั่วไป


    ซึ่งกระเหรี่ยงทั้ง สองฝ่าย เป็นทั้งกระเหรี่ยง พุทธ กับกระเหรี่ยง คิตนั่งรถ ต้องผ่าน ด่าน กระเหรี่ยง ประมาณ ๓ ที่ คนขับรถบอก จ่ายให้ด่านแล้ว สบายไม่มีปัญหา ถ้าไม่จ่ายไม่ได้ เดี๋ยวโดนระเบิด ปืน แต่ไม่มีใคร เขาขัดขืนหรอกครับ ทำกินง่ายดี จ่ายแล้ว สบายๆๆๆๆๆๆๆๆไปได้ทั่วทวายเขาจะคุยกันรู้เรื่องดี มีกระเหรี่ยงผู้หนึ่ง บอกกับผมว่า มาทาง แม่น้ำ ตะนาวศรี มีหลัก เขตุ ในสมัย ร.๕ ของเรา อยู่ในป่า ดงดิบ ซึ่งห่างจากไทยไป เกือบ ๑๐๐ กิโลเมตร บางจุด มีถ้วยโถโอชาม ในสมัย สุโขทัยก็มี เรามาพูดถึงเมืองทวายกันดีกว่า ถ้าพูดถึง เมืองทวายแล้ว ต้องขอบอกว่า ต้องย้อนเวลา กับไปในอดีด ที่เมือง นครปฐมของเรา เมื่อ ๔๐ กว่าปี ไปถึง ๕๐ ปีก่อนโน้น ที่นครปฐม ถนนดีกว่า เมืองทวายแน่นอนครับ :cool:
     
  9. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    สวัสดีครับพี่ พีซีโอ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน มาว่าต่อ ตอนที่ ๒ การไปเมืองทวาย คราวนี้ แค่ ๒ คืน ๓ วัน น้อยมาก แต่ได้ ประสบการณ์ มาฝาก พี่น้องได้เยอะเลยครับ การไปทวาย ถือว่า ได้กลับไปบ้านในสมัยก่อนโน้น ใช่หรือไม่ใช่ ถึงจะไม่มี ทิพยจัขุญาณ อตีจังสญาณ ก็ตาม ผมถือได้กลับ ได้ไปเที่ยวบ้านเกิดในอดีด ที่นี่ น่าอยู่ น่าลงทุน สมองโลดแล่น คิดไปหลายด้าน ส่วนใหญ่ ที่นี่ ปลูกบ้าน เป็นเรือน ๒ ชั้น หลังคาจากส่วนใหญ่ ถึงครึ่งหรือเกิน เมื่อออกจาก ตัวเมืองไป ปลูกบ้านกลมกืน กับต้น หมาก มะพร้าว มะม่วง ต้นไม้อื่นๆ ไม่เอาออกเหมือนคนไทยเรา ถ้ามองไกลๆ จะเป็นต้นไม้หมด มองไม่ค่อยเห็นบ้าน ปลูกเรียงราย สวย แต่ถนนไม่กว้าง เหมือนบ้านเรา วิ่งเลนเดียว เรียกว่า หลีกรถกันแทบไม่ได้ ต้องหยุดหลีกกัน ถ้าบางช่วงถนนไม่กว้าง ที่นี่ ยังใช้ คนทุบหิน เป็นก้อน ทำถนนอยู่เลย ใช้แรงงานคน เต็มเกือบร้อยเปอร์เซ็น เพียงใช้แม็กโค ขุด รถเข็นหิน ของจีนแดง ตอนนี้ พม่า คงมีบริษัท สัมปทานปลูกยางพารา มากมาย อายุได้ ๑ ปี ๒-๓-๔-๕ ปีกำลังเยอะมาก คิดว่าต่อไปในอนาคต ยางคงถูก เพราะว่า จีนได้ สัมปทาน ที่ลาว หลายหมื่นไร่ ยางของไทยต่อไป น่าเป็นห่วง


    ผมเอง ถ้าไม่แก่ หรือป่วย ที่นี่ น่าลงทุน ในหลายๆเรื่องครับ เรื่อง ป่าไม้ เรื่อง พาคนท่องเที่ยว เรื่องรถ ทำเกษตร เรื่องการประมง นี่ผมใช้ก้องส่องทางไกลดู มีเรือไม่กี่ลำ ลำเล็ก หาปลา ใช้ก้องส่อง ดูเกราะ ไม่มีบ้านคนเลย เกราะใหญ่กว่าเกราะสีชังอีก แบบเกราะล้าน ถ้าเป็นบ้านเราไม่มีเหลือ ผู้คนเต็ม เมือง สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร นี่ผมว่าใครทำก่อนรวยก่อน ค่อยๆไป ถ้าเปิด โอเอซี ปีหน้านี่ แล้วอีกอย่าง ใครมีเงิน ลงทุน โรงแรม ตามแนว ชายทะเล ผมว่าพวกนี้รวยเร็ว โอยอธิบายไม่หวาดไหว ที่นี่เมืองนี้ ปลูก ต้น


    หมาก มะพร้าวบนเขายาวเป็น สิบๆกิโลเมตร ยิ่งหมาก มีทั่วไปทั้งเมือง น่าอยู่มาก เดี๋ยวว่างๆ ผมถ่ายรูปรถกำลังวิ่ง จะนำภาพมาให้ชมกันครับ น้ำในแม่น้ำตะนาวศรี ใกล้ ตลาดทวาย ขุ่นๆไม่ใส แต่ในป่าดงดิบ ใสเหมือน น้ำแม่กลอง ในเขื่อนครับ บางที่ ไปกินอาหาร ในเมืองทวาย ในร้านค้า ใช้น้ำ บ่อน้ำ บ่อโพรง ใช้ปั้ม ขึ้นมาใช้ ไม่ห่างจาก ส้วมเท่าใด มันยังไม่สอาดเท่าที่ควรครับ แต่มีโรงแรม หลายที่ หลายหลัง ๔ ชั้นถึง ๗ ชั้น เสร็จใหม่ๆ หรือกำลังสร้าง มีคนในพม่า เริ่มมีกับบ้าน ไป พัฒนาบ้านเขา บ้างแล้ว เมืองทวายนี่ หลวงพี่ ติงลี่บอกว่า ใหญ่กว่าเมืองกาญจนบุรี ถึง ๓ เท่า แต่ว่าที่นี่ มีต้นตาล เยอะมากๆ เหมือนเมืองเพชร บุรีของเราเลยครับ ถนนบางสาย มีต้นตาล แถบละแถว เรียงรายสวยงาม แต่ไม่ค่อยมีใครทำน้ำตาลกัน มีบ้าง ก็นิดหน่อยเอง ถ้าใครหัวสมองดี ไปสอนทำ น้ำตาลโตนด กับน้ำตาลปิ๊บ มีหวังรวยครับ ทำก่อนรวยก่อนครับ มีหุ้นส่วนกับเขาน่ะครับ แค่นี้ก่อนนะครับ สวสัดี


    ต่ออีกนิดครับ ผมไปเที่ยว วัดอะไรจำไม่ได้ หนักใจครับ ที่ไม่มีคน พูดไทยไปด้วยไปกันตามลำพัง เลยถามเขาไม่รู้เรื่อง อาจารย์ที่ไปด้วย ใช้ภาษาอังกฤษ ไม่ค่อยรู้เรื่องแต่พอได้ บางที่ไปเจอคนที่พูดไทยได้ ที่เคยมาทำงานในไทย ก็พอได้อาศัยน่ะครับ น่าเรียนภาษาพม่าจะไพดกันรู้เรื่อง แต่ผมเอง สมองไปไม่ไหว เพราะยังว่า โรคมันเยอะครับ ผมไปวัดนี้ เขาจำลองวัดมาคล้าย เจดีย์ชเวดากองครับ ผมเลยเอาเงิน ทำบุญใส่ตู้ อธิฐาน ขอบารมีของนายหลวง แพร่ขจรขจายคุมไปถึงที่นั่น น่ะครับ แค่นี่แหละครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2014
  10. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814



    ({):cool: สวัสดีท่าน ๐๓ ครับพี่ๆน้องๆทุกๆท่าน ผมอ่านของคุณ ในข้อความนี้ ผมน่ะไม่รู้หรอก โครงการพระราชดำริ แต่ผมน่ะ ได้ ทำสวน ๓๐ ถึง ๕๐ ไร่ ได้ปลูก ผลไม้เกินกว่า ๓๐ ชนิด เมื่อปี ๓๘ จะว่าให้ฟังดังนี้ มะกูด ๒-๓ ต้น มะนาว เป็นพันต้น ปลูกทะยอยรุ่น ถัดๆไป มะพร้าวกิน เนื้อ ๑๐๐ กว่าต้น มะพร้าวน้ำหอม เกือบ ๑๐๐ ต้น พู ๒-๕ ค้าง ชะพู ๒ ค้างพริกไทย ๒ ค้าง ส้มโอ ๒๐ -๓๐ ต้น ทั้งมีลูกและยังไม่มี มะขามเทศ ๘ ต้น ออกฝักตลอดปี ชมภู่ ทัพทิมจันทร์ ๔๐-๕๐ ทูลเกล้า เกือบ ๑๐ เมืองเพช ๕ ต้น มะม่วง ทะวาย ๕๐-๖๐ ต้น เขียวเสวย ๑๐ กว่า แก้มแดง อกร่อง แก้ว พันต่าง รวม ๒๐ กว่าต้น ลำใย อีดอ ๒๐๐ ถึง ๓๐๐ ต้น กระโหลก ทะวาย สีชมภู อีกไม่เกิน ๕๐ ต้น



    ผมอยากจะปลูก ส้มเขียวหวาน สัก ๒๐ ไร่ เพราะมีญาติทางแฟน ปลูกแถวกำแพงเพชรผมเลยไปหาพระ หลวงพ่อพยุง อยู่วัดบรรลัง อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณ ท่านบอก ปลูกกล้วยสิ,ลูก ปลูกส้มไม่เมาะ จริงๆในสวนผม ปลูก ส้มไว้ ๓๐ กว่าต้นแล้วยังไม่ได้ผล นอกนั้นมีลูกสลับกัน มีกินทั้งปี ผมเชื่อท่าน ปลูกกล้วยน้ำว้า ๓๐ ไร่ ปนเป ไปกับ ผลไม้ต่างๆ เดือนหนึ่ง ผมมีรายได้เกี่ยวกับกล้วยอย่างเดียว ประมาณ ๒,๐๐๐ บาทถึง ๔๐๐๐ บาท ต่อเดือน หวีหนึ่งพ่อค้ามารับถึงที่ หวีละ ๒ บาท สิบสลึง ถึง ๓-๔-๕ บาท โอยถูกเอาเปรียบตลอด มาซื้อเขาแดก ในเมือง ๑๐ กว่าบาท ถึง ๓๐-๔๐ บาท ต่อหวี ปลูกกล้วย ไข่กล้วยหอมไว้กินอีก ๓๐ ถึง ๕๐ กอ


    ปลูกสมุนไพรไว้อีก ๕ ไร่กว่าๆ มีสมุนไพรใกล้เคียงเกือบ ๒๐๐ ชนิด มะขามหวาน อีกเกือบ ๑๐ ต้น มะเฟือง ๒ ต้น มะไฟ กำลังให้ผล อีก ๒๐ กว่าต้น มะละกอ ปลูกทุกๆปี ๆละ ๒๐๐ ถึง ๕๐๐ ต้น หลายสายพัน นึกไม่ออกอีก หลายชนิด ผมน่ะ ไม่ประสบความสำเร็จในด้านการเงิน แต่ทุกๆอย่างมีกินทั้งปี สัตว์กิน คนลักขาย แต่ไม่มีใครเอาไปได้ ที่เอามาทำบุญ งานธุดงค์ปีหนึ่งๆติดต่อกัน เป็นสิบปี ปีหนึ่ง ๒ ถึง ๓ คันรถปิกอัพ ทุกปี เดี๋ยวนี้เลิกหมดแล้ว หลังจาก ทำมาได้ ๒ ปี โครงการ พระราชดำหริ พึ่งพาตนเอง ออกมา แหม ที่ไปถามหลวงพ่อพยุงเรื่องปลูก ส้มท่านให้ปลูกกล้วยสิลูก ขี้ตรงล่องอีกแล้วเรา



    อย่าให้ผมต้องเล่ารายละเอียดอีกเลยนะ ขี้เกียจเล่า มันทำมาจนมือไม่มีขนแล้วเบื่อ เรื่องนานี่ ทำมาแล้ว ร้องให้ในใจมานาน มันจนร้องไม่ออก มาเดี๋ยวนี้พอกายได้สบาย แต่โรคเสือกรุมเร้า จนกายแทบละเบิด ออกเป็นเสี่ยงๆ ถ้าจะคุยกันเรื่องนี้แล้ว คุยกัน ๓ วัน ๓ คืนไม่จบแน่นอนครับสวัสดี
     
  11. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ใครที่เข้าข่าย ตระบัตรสัตย์ ต่อนี้ไปเป็นการเริ่มกันใหม่ ขออย่าตระบัตรสัตย์อีก ลูกผู้ชายคำใหนก็คำนั้น ทำไม่ได้ ก็บอกว่าทำไม่ได้ อะไรที่เกินวิสัย ก็อย่าเสนอหน้าเข้ามาอีก ขอฝากเทพเจ้าเหล่าเทวาที่ดูแลบ้านเมืองไทย หากว่าท่านมีหน้าที่ดูแล และรักษา ก็ขอให้พวกที่เคยให้สัตย์ปฏิญานตน หากว่าวาสนาดีได้กลับเข้ามาทำหน้าที่ เพราะเคยทำบุญมาดีในอดีตอันนี้ห้ามไม่ได้ ก็ไม่ว่า แต่เมื่อวาสนาของคนมันส่งผลเข้ามา

    ก็ให้ช่วยดลจิตดลใจ ให้ใฝ่ดี อย่าให้ความมีวาสนาดีนั้น แต่ความรู้ความสามารถไม่ถึง คุณธรรมความดีไม่ถึง ไปทำให้คนที่วาสนาไม่ดี แต่เขาจิตใจดี มีความตั้งใจดี ตอนนี้ต้องเดือดเนื้อร้อนใจ ต้องมาทนฝืนทุกทรมาน ทั้งอับอายขายหน้าชาวบ้านเขา อันนี้ชาวบ้านอย่างผมนี่ใจมันมันไม่ยอม ชาตินี้ไม่เป็นไร ถือว่าสู้ไม่ได้ จะไม่สู้ แต่ชาติต่อๆไปอย่าว่ากัน

    คนที่จะเป็นกัปตันพาเรือใหญ่ฝ่าไปในมหาสมุทร อย่าไปเอาเด็กเพิ่งจะหัดขับเรือหางยาวรับส่งแค่ข้ามแม่น้ำได้มาเป็นกัปตัน มันเหนื่อยลูกเรือ

    ในทางกลับกันเด็กเพิ่งจะขับเรือหางยาวได้ ก็อย่าเพิ่งคิดจะขับเรือเดินสมุทร

    เด็กในที่นี้ไม่ใช่เด็กโดยอายุอย่างเดียว แต่หมายรวมฝากไว้แม้จะแก่โดยอายุใกล้จะตายหากความรู้ความสามารถไม่ถึงก็จงปล่อยให้คนที่เขาอาวุโสโดยความรู้ และความสามารถ รู้อย่างเดียว ก็ขอให้ทำหน้าที่แค่แนะนำ ให้คนทีเขามีทั้งความรู้และความสามารถ ที่จะควบคุมมันได้ให้เขาทำหน้าที่ ตัวเองจะเป็นผู้แนะนำก็ไปหัดอ่านฝึกฝนเรื่องคุณธรรมจริยธรรมมาให้มาก ใส่มันลงไปในใจ ให้มันอยู่ในในใจในสายเลือด เมื่อมีคุณธรรมที่ดีในสันดานแล้ว ค่อยเป็นผู้แนะนำ เพราะแค่ความรู้ มันแค่ว่า ใครรู้ก่อนรู้หลัง ซึ่งใครก็สามารถรู้กันได้ ชาตินี้ไม่รู้ชาติต่อไปเดี๋ยวก็รู้ ไอ้ความสามารถทำจนเกิดผลสำเร็จนี่มันต้องลงปฏิบัติฝึกฝนกันมาแต่เล็กแต่น้อย ฝึกกันมาตั้งแต่เริ่มหัดหายเรือเล็กให้เป็นซะก่อน

    เรือลำนี้เขาบอกว่าว่าเป็นเรือโดยสารใหญ่ที่สุดในโลก แต่ใหญ่อย่างไรก็เล็กกว่าประเทศไทยมาก ความสำคัญก็น้อยกว่า บรรทุกคนก็ไม่ได้มากเท่าไร แต่ประเทศไทยของเรามูลค่ามันมหาศาล ผู้คนพลเมืองก็มากกว่าเรือลำนี้ ทรัพยากรดิบเช่นข้าวเปลือก ยังไม่เป็นข้าวสารก็เยอะ ข้าวสารยังไม่เป็นข้าวสุกก็เยอะ ข้าวสุกยังไม่ราดแกงก็เยอะอีก และวัตถุดิบอื่นๆอย่างเดียวก็มีค่ามากกว่าเรือลำนี้ ฉะนั้นขอกับเทวดาพระภูมิจ้าวที่ก็แล้วกัน ขอเอาเป็นแบบเดียวกับพระมหาชนก หรืออย่างท่านพระเจ้านันทราช ท่านนอนหลับของท่านอยู่ในสวนดีๆแต่เพราะบุญนำพาวาสนาส่งผล ราชรถมาหยุดรออัญเชิญท่าน ผมจะขอต่อเทวดาอย่างนี้เช่นกัน ขอให้มีคนที่ถึงพร้อมจริงมาเป็นกัปตัน ขับได้แค่เรือหางยาว นี่รอไปก่อนไปฝึกฝนมาซะใหม่ ก่อนจะมองในระดับเรือเดินสมุทร ได้ไม่ได้ ไม่ใช่ผม ผมเป็นคนขอ ได้ไม่ได้ เป็นเรื่องของเทวดา ต่างคนต่างทำหน้าที่ นี่หน้าที่ของผม คือขอจากเทวดา ผมทำแล้ว
    เดี๋ยวมาต่อครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 พฤษภาคม 2014
  12. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    พี่บุญทรงวันนี้ผมโอนสตางค์จากกองทุนเข้าขัญชีพี่อีกครั้ง ซื้อเครื่องมือช่างถวายไว้ในพระพุทธศาสนา เป็นอะไรก็ได้ วัดใหนก็ได้ เป็นการจองพระขรรค์พิเศษ วันก่อนพระขรรค์ประจำกาย วันนี้เอาอีกเล่มไว้แขวนโชว์ข้างฝา เล่มต่อไปเอาไว้ตอนมาเกิดรอบต่อๆไป เกิดเมื่อไรมีอาวุธพิเศษมันเมื่อนั้น

    มัวยุุ่งๆไม่ได้คุยกับพี่หลายวัน ในตอนนี้หากใครตายไปก่อน เผลอไปเป็นเทวดาเข้าก็จะได้มีพระขรรค์ประจำตัวคนละเล่ม นั่นเตรียมเข้าไว้ก่อน แล้วตอนนี้ก็เพิ่มอีกคนละเล่มสองเล่มเอาไว้แขวนโชว์ข้างฝาแบบพิเศษ คือเป็นเทวดาชั้ันไหน เมื่อไร ชาติใหนก็ตาม มีมันซะทุกชาติไป จนกว่าจะเข้าถึงซึ่งพระนิพพาน มันจะเป็นไรไป


    แล้วต่ออีกหน่อยประสาทำอะไรก็เอาพิเศษไว้ก่อนนั่นก็คือเกิดเมื่อไรเราก็มีอาวุธพิเศษของเราตามวาสนาบารมีเมื่อนั้น เอาแบบพวกที่เขามาจากโลกสูตูนั่นแหละ ไฟฉายที่ฉายแสงไปกระทบอะไร สิ่งนั้นละลายหายไปเลยอย่างที่เบอร์มิวด้า ไม่รู้ว่าแอร์มาเล บินไปโดนแสงนี้เข้าหรือปล่าวถึงได้หายไปแบบหาซากไม่เจอจนทุกวันนี้

    จะว่าจอดแวะตามปั๊มก็ไม่น่าจะนานขนาดนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 พฤษภาคม 2014
  13. scorpion03

    scorpion03 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +816
    สวัสดีท่านทั้งหลาย

    ก่อนอื่นต้องขออนุโมทนา ในกุศลเจตนา ที่ท่านทั้งหลายได้กระทำแล้วด้วยดี สาธุ

    คนเรานี้เมื่ออยู่รวมกันเป็นสังคม ตั้งแต่สังคมเล็ก ๆ คือ ครอบครัว ต่อมา ก็เป็นหมู่บ้าน เป็น ตำบล เป็นอำเภอ เป็นจังหวัด และหลาย ๆ จังหวัด รวมกันเป็นประเทศไทย

    อันนี้ทุกท่านก็ทราบกันดีอยู่แล้ว ทีนี้ผู้คนทั้งหลายที่อยู่รวมกันเป็นสังคมใหญ่ เป็นชาติ เป็นประเทศนั้น ก็มีอยู่อย่างหลากหลาย ความหลากหลายที่ว่า นี่ได้แก่ ความหลากหลายทางด้านชาติพันธุ์ เช่น คนไทยเชื่อสายลาว เชื่อสายเวียตนาม เชื่อสายเขมร เชื่อสายจีน และเชื่อสายอื่น ๆ อีกมาก ต่างก็มาอยู่รวมกัน และก็ยังมีความหลากหลายทางด้านขนบธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ คติความเชื่อในเรื่องต่าง ๆ อีก ที่ก็จะมีแตกต่างกัน และก็ความเชื่อทางด้านศาสนา หรือแม้แต่ลัิทธิต่าง ๆ ที่แตกต่างกัน

    แต่ไม่ว่าคนไทยที่อยู่รวมกันเป็นประเทศไทย ในทุกวันนี้ จะมีพื้นฐาน ความแตกต่าง กันในด้านใด หรือว่ามาก น้อย อย่างไรก็ตามแต่ แต่คนไทย ก็อยู่ร่วมกันได้ โดยอาศัย ความสามัคคี ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ที่ทำให้ประเทศไทยของเรา อยู่เป็นเอกราชได้จวบจนทุกวันนี้

    มาบัดนี้ สังคมมีความแตกแยกกันทางความคิด ความเชื่อ ทางด้านการเมืองการปกครอง คนไทยแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกัน ขัดแย้งกันอย่างรุนแรง จนถึงขั้นประหัตประหารกันเองได้ สรุปโดยรวมก็คือ คนไทยในเวลานี้ แตกความสามัคคีกันแล้วอย่างชัดเจน แบ่งข้างแบ่งฝ่าย กันอย่างชัดเจน

    มาถึงตรงนี้ ก็ต้องขอขอบคุณ ทหารอีกครั้งนะ ที่ยังรักษาสัจจะวาจา ที่ได้เคยให้ไว้ ต่อหน้าองค์พระประมุขของชาติ และต่อหน้าธงชัยเฉลิมพล ในการรักษาความสงบสุขของชาติบ้านเมือง ตลอดจนรักษาไว้ซึ่งเกียรติยศ เีกียรติศักดิ์ แห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และปกป้องราชบัลลังค์

    เราได้เคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ ของพระองค์ท่าน ในสมัยที่พระองค์ท่านยังทรงพระเยาว์อยู่ ที่ทรงเสด็จนิวัตพระนคร ในหนังสือเขียนว่า มีอยู่ช่วงหนึ่ง พสกนิกรของพระองค์ ได้ตะโกนว่า " ในหลวงอย่างทรงทิ้งประชาชนนะ " และพระองค์ท่านก็ได้ตรัสตอบไปว่า

    " หากประชาชนไม่ทอดทิ้งพระองค์ แล้วพระองค์จะทรงทอดทิ้งประชาชนได้อย่างไร "

    (ต้องขออภัยด้วยนะ ถ้าหากเราถ่ายทอดข้อความไม่ตรงตามหนังสือ 100 % นัก ด้วยเพราะอาจจำได้คลาดเคลื่อนไปบ้าง)

    จะเห็นได้ว่า พระองค์ท่านได้ทรงกล่าวคำสัตย์ไว้ ตั้งแต่บัดนี้ และจวบจนทุกวันนี้ คำสัตย์ของพระองค์ ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย พระองค์ได้ทรงรักษาสัจจะวาจาของพระองค์ได้อย่างครบถ้วนบริบูรณ์

    หมายถึงว่า พระองค์ทรงรักในพสกนิกร ดูแลเอาใจใส่ และทรงกระทำทุกอย่าง เพื่อให้ราษฎรของพระองค์ มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่า พระองค์ไม่ได้ทอดทิ้งประชาชนของพระองค์เลยแม่แต่น้อย

    มาในเวลานี้ คนไทยแตกความสามัคคีกัน มีคนบางกลุ่มจงใจที่จะสร้างความแตกแยกในสังคม และต้องการขึ้นมาเป็นใหญ่ปกครองประเทศ ทำได้แม้กระทั่ง การหมิ่นสถาบัน เพื่อให้คนไทยขาดความรัก ความศรัทธาเทอดทูน ในสถาบัน และจะได้หันไปศรัทธา ในการปกครองรูปแบบใหม่ ที่กลุ่มของตนพยายาม จะจัดตั้งขึ้นมา

    ที่เขียนบรรยายมานี้ ก็เพียงแต่อยากจะสื่อกับท่านทั้งหลายว่า

    ประเทศไทย เป็นของคนไทยทุกคน อย่าคิดว่าเรื่องนี้ เป็นเรื่องใหญ่เกินตัว ไม่ใช่เรื่องของเรา ไม่มีหน้าที่ หรือจะไปทำอะไรได้

    ความจริงแล้ว ในเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคนไทยทุกคน และคนไทยทุกคนก็มีหน้าที่ ในอันที่จะต้อง ร่วมแรงร่วมใจกันเข้ามาแก้ไข ซึ่งแน่นอน การแก้ไข ก็ขึ้นอยู่กับว่า แต่ละท่าน อยู่ในสถานะอะไร ก็สามารถที่จะกระทำในขอบเขต ที่ตนนั้นมีหน้าที่อยู่ได้นะ

    ความจริงก็ไม่ยากนะ แต่มันก็เป็นเรื่องที่บอกออกไปแล้ว ก็เหมือนกำปั้นทุบดินนะ คือมันก็ตรงไปตรงมา

    ในเมื่อคนไทยแตกความสามัคคีกัน ก็ต้องแก้ด้วยการ หันหน้าเข้าหากัน ปรับความเข้าใจกัน ให้อภัยกัน(เท่าที่จะให้ได้) และเริ่มต้นไปด้วยกันใหม่ ในฐานะที่เป็นคนไทยเหมือนกัน

    ต้องถามตัวเองว่า แล้วจะเอาอย่างไร ยอมรับความจริงให้ได้ว่า อะไรดี อะไรชั่ว ให้เห็นแก่ประโยชน์สุขของประชาชนในชาติโดยส่วนรวม มากกว่าประโยชน์สุขของตนเอง และพวกพ้อง

    ขอท่านทั้งหลาย ได้โปรดเห็นแก่ส่วนรวม เห็นแก่ความเป็นชาติ เป็นประเทศ คนไทยทุกคน ต้องร่วมแรงร่วมใจกัน ในการที่จะผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้ จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางฝ่ายทหารเพียงอย่างเดียว ย่อมเป็นไปไม่ได้นะ ที่จะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ ทหารเข้ามาแก้ไขสถานะการณ์ เป็นการชั่วคราว ก่อนที่จะแก้ไขไม่ได้เท่านั้น แต่หลังจากนั้น

    คนไทยทั้งหลาย ก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เราอยากให้ท่านทั้งหลายพิจารณาเรื่องต่อไปนี้ให้ดีนะ ว่าท่านเข้าใจหรือไม่อย่างไร

    ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน

    จะขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดมิได้ เป็นสิ่งที่ต้องอยู่รวมกัน เกื่อกูลซึ่งกันและกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 พฤษภาคม 2014
  14. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814




    :cool:({) สวัสดีครับพี่ พีซีโอ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน มาว่ากันต่อ แหมพี่ อยู่ๆ เงินเข้ามาในบัญชีผม ผมก็นอนเอ่ เงินใครโอนเข้ามาวะ ค่าอะไรกัน ไม่บอกอีกด้วย ๕๐๐ บาท อนุโมทนาสาธุครับพี่ จนได้เข้ามาอ่านใน วิริยาธิกะพิเศษ นี่แหละครับพี่ ถึงได้รู้ว่าพี่โอนเงินเข้ามา ดีเหมือนกันนะพี่ กันเหนียว เผื่อยังไปพระนิพพานไม่ได้ เกิดมาใหม่ จะได้ไม่เป็นเหมือนในชาตินี้ มีมันทุกๆอย่าง ชาตินี้ไม่ได้เกิดมามีหน้าที่แบบพี่ว่า ปล่อยให้คนเขามีหน้าที่กันต่อไป แต่ว่า ก็ทำมาไม่น้อยนะพี่ ที่ผ่านมา มันเป็นอดีดไปหมดแล้ว เหลือแต่ปัจจุบัน ที่จะเอาอะไร มาต่อกร กับกิเลส ฟันมันให้ขาด ไม่เหลือเชื้อนี่ซิ ที่น่ากลัวที่สุด สำหรับผม


    เอ่ได้ข่าวมาว่า มีคนเขาพูด เป็นเดือน ๒ เดือนแล้ว ว่าคนได้มโนมยิทธิ เขาดูว่า เครื่องบินมาเล ๗๗๐ พวกโลกสูตู เอาเครื่อง ยิงไปไว้ โลกเขาแล้ว จริงเท็จเป็นประการใด ผมได้แต่รับฟัง แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ และยังไม่รับรองผล ยังพิสูตรไม่ได้ ได้แต่รับฟังครับ เขาก็อ้างเหตุผลดีนะครับ อย่างสามเหลี่ยม เบอร์บิวด้าก็เช่นกัน เขาทดลองอาวุธ เขา พวกนี้ร้ายกาจเอาการ มาตอนหลัง เขาโทษ ว่าพี่ไทยกับสหรัสทดลองอาวุธซ้อมรบกัน ยิงโดนเครื่องบิน มันโทษกันส่งเดช ถ้าเป็นเช่นนั้น ต้องเห็นซากซิ นี่ซากก็ไม่เจอ ฮ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



    เอ่อพี่ ผมมีข่าวดีมาบอกครับ ที่สำนักถ้ำอาชาทอง พระครูบาเหนือชัย หรือครูบาขี่ม้า ท่านจะสร้าง สมเด็จองค์พระปฐมไพรีพินาศ สมพระสังฆราชทรงสั่งไว้ก่อนดับขันร ให้สร้างขึ้น และพระท่านมาสั่งให้สร้าง เพื่อ ชตาดวงของของประเทศไทย จะได้ดีขึ้น ชนะหมู่มารไพพาลทั้งหลาย ให้สิ้นไป สร้างปูน หน้าตัก ๑๐ เมตร ก็ ๕ วา แต่ก่อนจะสร้าง ๕ วา จะสร้างองค์เล็กก่อน ถ้าจำไม่ผิดๆขออภัยด้วย จะสร้างหล่อองค์เล็ก หน้าตัก ๓๐-๕๐ นิ้วนี่แหละจำไม่ได้ องค์ละ แสนห้าหมื่น เพื่อบรรจุลง ในองค์ใหญ่ครับ


    ขอให้ติดต่อโดยตรงเลยนะครับถ้าจะร่วมบุญ ชื่อบัญชีพระอนุวิทธิ์ เกตุสิงห์น้อย ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบิ๊กซี จ.เชียงราย เลขบัญชี 921-2-01488-1 ติดต่อเบอร์ (หลวงพี่ชื่นกมล) รองจาก ครูบาเหนือชัย 081-289-6135 บอก บุญทรง หมู่บ้านแพนด้า ไกล้วัดท่าซุง อุทัยบอกบุญมา ท่านบอก ปี ๕๘ ไป เริ่มดีขึ้น ท่านยังบอกน้ำอาจจะท่วม พอๆกับ ๕๔ หรือยิ่งกว่าอีกเยอะครับ โทรคุยกับท่านได้เลยครับ ขอบคุณครับ :cool:
     
  15. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    พี่บุญทรงผู้ปกครองใหญ่ของผมโทรมาบอกว่าโอนสตางค์ของกองทุน ไปเป็นทุนเริ่มต้น500บาทก่อนเป็นการเอาฤกษเอาชัย สร้างสมเด็จองค์พระปฐมไพรีพินาศ แล้วเมื่อสักครู่นี้เอง

    ขอทุกท่านจงโมทนาร่วมกันกับพี่บุญทรงที่นำข่าวมาบอกครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 พฤษภาคม 2014
  16. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814




    :cool:({) สวัสดีครับพี่ พีซีโอ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน ที่ไม่ได้เอ่ยนาม ก่อนอื่นต้องขออนุโทนาสาธุบุญใหญ่กับพี่ และแม่ใหญ่ พีซีโอครับ บุญใด ที่พี่และผม และขณะ พุทธภูมิ สาวกภูมิก็ตาม ที่ได้กระทำไว้ดีแล้ว และที่ท่าน ปราถนาพระนิพพานเป็นที่ไป ก็ขออ้างอิง ขอบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกะพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรมที่ทุกๆพระองค์ตรัสไว้ดีแล้ว และพระอริยสงฆสาวก อดีดถึงปัจจัจบัน ได้บรรลุแล้ว พรหม เทวดา คุณ บิดามารดา ของทุกๆท่านทั้งหลาย คุณครูอุปฌาอาจารย์เจ้าทุกๆพระองค์ อดีดถึงปัจจุบัน จงให้พี่ๆ พีซีโอ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน ปราถนาสิ่งใด ก็ขอให้ได้ สิ่งนั้น โดยทั่วหน้า กันทุกๆท่านเทอญ สา ธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมธามิ:cool:


    ผมมีรูปที่ไปเที่ยวเมืองทวายมาให้ชมกันครับ ภาพที่ ๑ ถ่ายเป็นแม่น้ำ ตะนาวศรี ป่าดงดิบ ใกล้ร้านค้า กระเหรี่ยงพม่า ที่บอกว่า มีหลักเขตุแนวของไทย เข้าไปในป่าอีกไกล ในสมัย ร.๕ มีถ้วยโถโอชา สมัย สุโขทัย จากฝั่งไทย มาถึงจุดนี้ ๘๐-๙๐ กม.เป็นป่าดงดิบทั้งหมด ภาพ ๒ แม่น้ำตะนาวศรี และเทือกเขา ป่าดิบตามลำน้ำ ภาพ ๓ ด่าน ที่ ๔ ของกระเหรี่ยง เคแอลยู ภาพ ๔ ต้นตาว ชาวบ้ายปลูกไว้สำหรับ นำใบไปมุงบ้านแทนจากครับ ภาพ ๕ ถ่ายรถกำลังวิ่ง ภาพ ๖ เช่นกัน เป็นต้นหมาก ที่ชาวมอญ กระเหรี่ยงพม่า ปลูกไว้ ตามไหล่เขา ยอดเขา ยาวหลายสิบกิโลเมตร มีผสมมะพร้าวบ้างส่วนใหญ่จะเป็นหมาก ๙๐ เปอร์เซ็น




    ภาพ ๖ เป็นภาพถ่ายจาก โรงแรมในเมืองทวาย ชั้นที่ ๕ ดาดฟ้า พึ่งสร้างเสร็จมาได้ ๗ เดือนเองเรามาพักกันที่นี่ คืนหนึ่งชั้น ๔ ราคา ๑๘,๐๐๐ จาด เงินไทย ๖๐๐ บาท ถ้าชั้น ๑-๓ มีทีวีดูตู้เย็น ราคา ๑,๒๐๐ บาท ๓๖,๐๐๐ จาด ทุกชั้นมีแอร์ครบ เตียงนอน ห้องละ ๒ เตียง หรือ เตียง ๒ คน ผมถ่าย ตอนเช้าหันหน้าไปทิศตะวันออก ในเมืองดูกลมกลืน กับธรรมชาติ มะพร้าว มะม่วงหมาก และต้นไม้อื่นๆอีกมากมายครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN2030.jpg
      DSCN2030.jpg
      ขนาดไฟล์:
      105.7 KB
      เปิดดู:
      30
    • DSCN2031.jpg
      DSCN2031.jpg
      ขนาดไฟล์:
      46 KB
      เปิดดู:
      31
    • DSCN2049.jpg
      DSCN2049.jpg
      ขนาดไฟล์:
      65.9 KB
      เปิดดู:
      31
    • DSCN2103.jpg
      DSCN2103.jpg
      ขนาดไฟล์:
      57.8 KB
      เปิดดู:
      25
    • DSCN2098.jpg
      DSCN2098.jpg
      ขนาดไฟล์:
      85.8 KB
      เปิดดู:
      31
    • DSCN2100.jpg
      DSCN2100.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45.4 KB
      เปิดดู:
      28
    • DSCN2055.jpg
      DSCN2055.jpg
      ขนาดไฟล์:
      39 KB
      เปิดดู:
      34
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2014
  17. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    มีต่ออีก ครับ ภาพถ่ายในเมืองทวาย ภาพที่ ๑ ถ่ายบนดาดฟ้าโรงแรม กินกาแฟและข้าวตอนเช้า ด้านหลังเป็นพนักงานพอพูดไทยได้บ้างครับ ภาพ ๒ และ ๓ พระมหาฟูตรงกลางที่ไปด้วยกัน ขวามือ คนขับรถชื่อไนร์ ตรงที่อยู่ เป็นท่าทราย หลังตลาด ทวาย ด้านหลังเป็นแม่น้ำตะนาวศรี ใหญ่มาก ไม่ไกลจากทะเล ห่างแค่ ๑๐ กว่ากิโลเองครับ ถัดข้ามแม่น้ำไป อีกฝั่ง เป็น ป่าต้นจาก ซึ่งเขานำมา ทำตับจาก ปลูกบ้าน นับหลายหมื่นไร่ จนเป็นแสนๆไร่ เป็นที่ราบเรียบ จรดเขา มีแค่ กระต๊อบชาวบ้านปลูกไว้ ตัดใบจากมาทำเป็นตับๆ ภาพที่ ๔ ถ่ายบนดาดฟ้าโรงแรม หลังผม จะมองเห็น วัด ใหญ่มาก เห็นเจดีย์ ลิบๆ ในกลางเมืองทวาย วัดนี้ จำลองมาจาก คล้ายชเวดากอง รถวิ่งไปวนแต่ไม่ได้แวะครับ



    ภาพที่ ๕ เป็นวัด จำชื่อไม่ได้ กะว่าจะไปกราบพระ วัดไทย ในสมัย สุโขทัย แต่คนขับไม่รู้จัก พูดไทยยังไม่คล่องที่ควร เลยแวะวัด จำชื่อไม่ได้ๆจดไว้ ขี่หลงขี่ลืม กราบพระอยู่สัก เกือบ ๒ ชั่วโมงเลยไปแวะ ชายทะเลกัน วัดนี้แหละครับที่ผมอธิฐาน ให้พระบารมีของนายหลวง ครอบครุมไปถึง คนถ่ายไม่ชำนาญ เล่นถ่ายยืนแบบนอนมาให้ชมกันครับ ภาพ ๖ เป็นกุ๊กครับ แหมทำอาหารไทบเก่งจริงๆ ถ้าพูดถึง แม่ครัวคนไทยไม่ดีจริง ถ้าสีมือไม่ดี สู้แกไม่ได้แน่ๆครับ เพราะว่าให้แกมาทำอาหารให้กิน พูดไทยได้คล่องเลย จำชื่อไม่ได้อีกแหละครับ บ้านแกอยู่ชายเล ทำอาหารใช้ได้เลย เพราะแก มาเป็นกุ๊กในไทย ที่โรงแรม จ.ระนองครับ แกเริ่มกลับมาทำให้บ้านเกิดแก น่าจะไม่ถึงปีครับ





    ภาพ ๗ ถ่ายไว้เป็นที่ระฤกร่วมกันในวัดที่ไปกราบพระ มีพระองค์ใหญ่ๆ ตก ๒๐ กว่าองค์ องค์เล็กต่างหาก ด้านหลังเป็นเจดีย์ใหญ่ ภาพ ๘ รูปทะเล ผมว่าใหญ่กว่าเกราะสีชังบ้านเราครับ มองด้วยสายตาพร้อมกล้องส่องทางไกล ไม่มีบ้านคนไปอยู่และลงทุน น่าเสียดาย ธรรมชาติ สุดยอดครับ ชายเล สะอาดตา บรรยากาศดีมาก ภาพ ๘ ต้นสน ใหญ่กว่า ต้นสน วังไกลกังวลบ้านเราแน่นอนครับ เกือบ ๒ คนโอบ ยาวหลายกิโล ที่นี่คนจะมาเที่ยว วันอาทิตย์เสาร์ ร้านค้ามุงจาก คล้ายกระต๊อบบ้านเรา เมื่อ ๕๐ ปีก่อนโน้น และจากตัวเมืองไป จะปลูกบ้าน ด้วยจาก เสีย ๖๐ เปอร์เซ็น ของชาวบ้าน ภาพ ๙ เป็นต้นตาลถ่ายรถกำลังวิ่ง ที่นี่ต้นตาลไม่แพ้เมืองเพชรบ้านเราแต่มองดุหาคนทำตาลยากมากๆ เห็นน้อยพอทำไว้กินกันเองนิดหน่อย เสียดาย โอกาศครับ ยิ่งไปตามบ้านนอกยิ่งเยอะครับ ภาพ ๑๑ จาก แนวแดนไทยมา ถ้าเป็นสะพานแล้ว จะเป็นสะพานเหล็ก ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ เอามาทำเป็นสะพานพาดด้วยไม้จริงครับ ร้อยกว่าโล
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN2061.jpg
      DSCN2061.jpg
      ขนาดไฟล์:
      82.7 KB
      เปิดดู:
      39
    • DSCN2062.jpg
      DSCN2062.jpg
      ขนาดไฟล์:
      76 KB
      เปิดดู:
      32
    • DSCN2065.jpg
      DSCN2065.jpg
      ขนาดไฟล์:
      89.5 KB
      เปิดดู:
      40
    • DSCN2060.jpg
      DSCN2060.jpg
      ขนาดไฟล์:
      83.6 KB
      เปิดดู:
      35
    • DSCN2066.jpg
      DSCN2066.jpg
      ขนาดไฟล์:
      94.6 KB
      เปิดดู:
      30
    • DSCN2092.jpg
      DSCN2092.jpg
      ขนาดไฟล์:
      88.3 KB
      เปิดดู:
      31
    • DSCN2070.jpg
      DSCN2070.jpg
      ขนาดไฟล์:
      112.7 KB
      เปิดดู:
      28
    • DSCN2091.jpg
      DSCN2091.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.4 KB
      เปิดดู:
      29
    • DSCN2087.jpg
      DSCN2087.jpg
      ขนาดไฟล์:
      107.9 KB
      เปิดดู:
      37
    • DSCN2078.jpg
      DSCN2078.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.3 KB
      เปิดดู:
      33
    • DSCN2106.jpg
      DSCN2106.jpg
      ขนาดไฟล์:
      89.4 KB
      เปิดดู:
      25
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2014
  18. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    โมทนาสาธุอย่างยิ่งครับพี่
    บ้านเมืองเขาดูยังอุดมสมบูรณ์ดี
     
  19. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814




    :cool:({) สวัสดีครับพี่ พีซีโอ อาซือเจ๊ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน ทุกอย่าง ที่เมืองทวายนี้ ก็เฟอเฟ็ก ดีนะครับ ยังสมบูรณ์แบบ วิถีชีวิต ยังเรียบง่ายอยู่ แต่กำลังเข้าไปสู่ ความเจริญแบบบ้านเราอย่างเงียบๆ ผมขอเล่า ประวัติ แบบขี้ตรงล่องอีกน่ะครับ พอให้รู้ได้ว่า มันเป็นอดีดไปหมดแล้ว ผมเองไม่เคยรู้มาก่อนเลย ว่า ผมจะมีชีวิต มาคลุกคลี กับ มอญ พม่า กระเหรี่ยง โดยไม่ได้รู้เนื้อ รู้ตัวมาก่อนเลย เมื่อปี ๒๖ ผมได้ไป วัดพระบาทห้วยต้ม อ.ลี้ จ,พูน ไปครั้งหนึ่ง จะอยู่ที่นี่ ครึ่งเดือนกว่า ตอนนั้นอยาก เรียน ภาษา กระหรี่ยง ซึ่งมีถึง ๔ เผ่าด้วยกัน ไปเรียนกับ อ.ดิโบ ซึ่งเป็นไทยกระเหรี่ยง ขาพิการ แต่มีความรู้ สอนภาษากระหรี่ยง แต่ใช้ หนังสือ ภาษามอญเป็นหลัก ในการเขียนอ่าน ซึ่งคล้ายหนังสือภาษาพม่า


    ผมกะว่า ไม่เกิน ครึ่งปี ก็สามารถ เรียน จบได้ ในการพูดอ่าน แบบไทยผสม แปล เรียนได้ ๑๓ วัน ผมเลิก เพราะชีวิตมีปัญหา ในการ มาจากน้ำท่วม ปี ๒๖ ทั่วประเทศ สวนไร่นา ที่ นครปฐม พ่อตาย แม่ผัวใหม่ น้องชายถูกยิง ผมต้องไป ดูครอบครัว น้องๆ ชี้แนวทางในการดำเนินชีวิต ก่อนที่จะเข้า วัด ท่าซุง ในการเนรเทศ ตัวเอง ครั้งที่ ๑ ของชีวิตผม ผมได้ คลุกคลี ลูกหลาน หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ซึ่งเป็นเชื้อมอญ มาพอสมควร และได้มาอยู่ หมู่บ้านกระเหรี่ยงไทย ที่ บ้านกล้วย พ.ศ. ๓๕ ถึง ณ ปัจจุบัน ไม่เคยได้ รู้ภาษากระเหรี่ยงเลย ไม่เคยใส่ใจ ทั้งๆอยู่กลางหมู่บ้าน ใจกลาง พูดภาษาไทยเป็นหลัก รู้เพียงไม่กี่คำ แม้ในกระทั่งปัจจุบัน ต้องไปเมืองมอญเก่า ในทวาย ซึ่งผสม กระเหรี่ยง พม่าส่วนน้อย


    คนเรามันต้องมีส่วน ในการเกิด หรือ ทำมา ในส่วนนี้แน่นอน ไม่งั้นคงไมได้ มาสำผัส แบบไม่บังเอิญแบบนี้ แต่ชีวิตที่ไม่เคยสมหวัง มันเลย รู้แบบงูๆปลาๆบังเอิญแบบผมไง ถ้าพูดไป ก็คงไม่จบ ต้องใช้เวลา หลายวัน จึงพอเล่ามาแบบค่าวๆ พอหอมปากหอมคอ พอได้ พูดอวดชาวบ้านกับเขาว่า เฮ่อ ไปเมียร์ม่ามาแล้ว มิงกะละบาร์ เมียนม่าร์ ฮ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :cool:
     
  20. Armarmy

    Armarmy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +1,659
    เดี๋ยวมาคุยด้วยครับ รอ อีกสักวันสองวันก่อน

    จองพื้นที่ไว้ก่อน
     

แชร์หน้านี้

Loading...