เรื่องราวหลวงพ่อพิเชฐ วัดโคกหม้อ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย สวนพลู, 18 สิงหาคม 2010.

  1. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    งดตามเคยครับ ไร้ผู้ติดตาม
     
  2. พัน

    พัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +324
    มาแล้ว ปูเสื่อ รอฟัง น่านะ จัดมาเรื่อยๆครับ
     
  3. rang551

    rang551 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,363
    ค่าพลัง:
    +3,131
    อยากเห็นรูปขององค์ปู่ฤษีนารอท ที่บ้านคุณสวนพลูจังครับ หลังจากที่คุณแม่นำองค์ฤษีมาบูชาแล้ว เป็นยังไงบ้างล่ะครับ คุณสวนพลูเคยเห็นท่านบ้างหรือเปล่า
     
  4. nopsena

    nopsena เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    1,275
    ค่าพลัง:
    +4,662
    รออ่านด้วยครับ
     
  5. arnubismummy

    arnubismummy สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +13
    รอติดตามอยู่ครับคุณสวนพลู
     
  6. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    เล่าเรื่องภาค 2 ตอน 2
    สวัสดีครับ ยังดีที่มีคนมาคุย อิอิอิ ต่อเลยละกันครับ ตอบคำถามทุกท่านก่อน หลังจากที่พาพ่อปู่ฤาษีนารอท เข้ามาในบ้าน ซึ่งเป็นแบบรูปธรรมเต็มตัวนั้น หากเพื่อนคนไหน หรือใครๆ มานอนเล่นที่บ้าน เป็นได้เจอกันประจำ ที่จะเจอก็คือ ชายชราหนวดยาว นุ่งขาว ห่มขาว ถือไม้เท้า ไม่ได้ใส่ชุดฤาษีลายเสืออะไรแบบที่จินตนาการกันแต่อย่างใด สอบถามความทุกคนที่เจอ ก็เจอมาในรูปแบบเดียวกันหมดทุกคน แม้กระทั่ง ตัวผมเอง ก็เจอแบบนี้ แต่ที่เปลี่ยนไปคือ ความเป็นอยู่ของที่บ้าน มีกินมีใช้กว่าเดิม ไม่ลำบากมากมายเหมือนเก่า คนต่อคิว ดูดวงกับแม่ผม บางทีเกือบยี่สิบคน บ้านไม่พอรองรับ แต่แม่ก็ไม่ได้ดูแพง ขั้นต่ำ 12 บาท ตามครูบาอาจารย์ที่กำหนดมา แต่ถ้าจะให้มากกว่า ก็ไม่ได้ผิดครู จนบางครั้ง แม่ไม่ได้กินข้าวกินปลา นั่งจนตาตุ่มข้างเท้าด้านนอก ด้านเป็นแผ่นๆ .............
    (ความเดิมจากตอนที่แล้ว)......เมื่อผมและลูกพี่ลูกน้องซึ่งเป็นผู้ชาย เล่นกันอยู่ใต้ต้นมะขามใหญ่ ที่ด้านล่างเป็นลานดินกว้าง และยังเป็นร่มเงาด้วย ทำให้เกิดกิจกรรมหลายอย่างบริเวณใต้ต้นมะขามนี้ยามกลางวัน แต่นี่เป็นเวลาเย็นแล้ว แล้วก็เย็นแก่ๆ เวลาโพ้เพล้ ซึ่งลูกพี่ลูกน้องคนนี้ก็เล่นง่วนอยู่กับผม ด้วยความสนุก เพราะนานๆ เจอกันทีนึง ดวงตะวัน ก็ค่อยๆ ลับขอบฟ้า จากแสงสีทองๆ ก็ลดความสว่างลง จนเป็นสีแดงระเรื่อๆ ป้าของผมก็เรียกลูกชายเข้าบ้าน ซึ่งก็คือลูกพีลูกน้องของผมเอง แต่ป้าคนนี้ค่อนข้างดุ ทำให้ลูกไม่กล้าหือ.......พอได้ยินเสียงป้าผมปุ๊บ ก็เผ่นกลับแนบ............เหลือเพียงแต่ผม แต่ป้าก็ยังตะโกนเรียกผมอยู่ว่า .....เอ็งด้วยนะ...ค่ำแล้ว กลับบ้านได้แล้ววว! ……… ผมก็พลัดวันประกันพรุ่งไป....สวนกลับไปว่า.....เดี๋ยว......อีกแป๊บนึง.....ก็เล่นคนเดียวไปเรื่อยๆ ....พักนึง ก็รู้สึกว่า ไม่ค่อยจะสนุก.........ก็เลยเดินกลับบ้าน ด้วยแสง สลัวๆ พอจะเห็นทางเดินได้บ้าง......พอมาถึงบันไดบ้าน.....ก็นึกขึ้นได้ว่าลืมอะไรซักอย่างนี่แหละ (อย่างว่าครับนานมากแล้วจำไม่ได้ชัด)........ก็เลยเดินกลับไปเอาที่ต้นมะขามใหญ่นั่นแหละ ไม่ได้ไกลบ้านนัก..........ก็ย้อนกลับไปเดินจะถึงต้นมะขามแล้วอีกไม่ไกล .......... ด้วยความที่มันมืดสลัวๆ ไอ้เราตอนเด็กก็นึกสงสัยทำไมมืดเร็ว .....ก็แหงนหน้าดูที่ท้องฟ้า......ไล่มองไปจากต้นมะขาม สายตาก็จับจ้องตั้งแต่ลำต้นอวบใหญ่ กิ่งก้านสาขาต่างๆ ไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงยอดของต้นมะขามใหญ่ แต่แปลก..รอบนี้จากยอด ก็มีลำต้นดำทะมึนต่อขึ้นไปอีก ไล่มองต่อขึ้นไปเรื่อยๆ กะจะได้เจอท้องฟ้า แต่ก็ต้องตะลึงงัน........นิ่งไปครู่นึง....จะนานเท่าไรก็ไม่แน่ใจครับ ลำต้นที่ต่อกับยอดมะขามใหญ่ มันไม่ใช่ลำต้นอะไรเลย แต่มันคือช่วงบั้นเอว หรือตรงสะโพก..... ไล่ดูไปเรื่อยๆ ก็มีแขน มีลำตัว มีหัว มีหน้าตา แต่ไม่ได้ดูดี แนวประหลาดๆ เป็นสิ่งที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อน เรียกได้ว่าน่าเกลียดเลยดีกว่า. แขนยาวมากๆ เป็นแขนที่ดูไม่มีกล้ามเนื้อแต่ที่หลอนคือเหมือนจะเอื้อมมือมาด้วย .......ขนาดตัวเลยไปอีกเท่าตัวของต้นมะขามใหญ่......คาตา ตะลึงจังก้าอยู่อย่างนั้น ...... ทำอะไรไม่ถูก.......เมื่อชะงักลง ตอนนั้นเด็ก นึกอะไรได้ ก็ต้อง สับ.....ตีนแตก! คือการวิ่งกลับบ้านนั่นเอง....สับไม่คิดชีวิตแล้วทีนี้...วิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่เด็กคนนึงพึงจะทำได้.......แล้วก็เจอบ้านป้าก่อนที่จะถึงบ้านตัวเอง ก็ชิงวิ่งขึ้นบันได เพื่อจะไปหาตัวช่วยข้างบนบ้าน พอวิ่งขึ้นบันได.......เสียงดัง ปึกๆๆ......ปัก...พลุกพลัก!...ป๊อก! .....แล้วตัวผม ก็จอดับ..........เหมือนปิดสวิสทีวี ......พอจอภาพเปิด คนรุมผมไม่น้อยกว่าสี่ห้าคน มาซับเลือดที่หัวผม...... ผลคือ วิ่งหนีผี......แล้วตกกะได หัวแตก ทุกวันนี้ บนหัวผม ยังมีรอยแผล จากการวิ่งหนีผีในตอนเด็กอยู่เลยครับ นี่คือครั้งแรก กับการเห็นผี...........จบก่อนนะครับ ตอนหน้า เจอกันครับ
     
  7. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    รับทราบ จัดแล้วเด้อ

    เคยเห็นครับ ว่าจะถ่ายรูปแล้วก็ไม่ได้ถ่ายซะที สำหรับปู่นารอท

    ขอบคุณที่ติดตามครับ

    ขอบคุณในการติดตามครับ
     
  8. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    สำหรับท่านที่ ศรัทธา หลวงพ่อพิเชฐ วัดโคกหม้อ เข้าไปพูดคุยกันได้ในเฟสกลุ่มhttps://www.facebook.com/groups/269605633224498/

    กันได้นะครับ เป็นช่องทางพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันอีกที่นึง
     
  9. เสือหมอบ

    เสือหมอบ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +8
    สวัสดีครับ ผมป๋องเองครับ
     
  10. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    มายังไงล่ะป๋อง
     
  11. พัน

    พัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +324
    จัดมาเรื่อยๆครับ รอติดตาม
     
  12. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    เล่าเรื่องภาค 2 ตอน 3
    กราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้องทุกๆท่านครับ หลังจากเรื่องแรกได้จบลงไป หลังจากนั้นเวลาประมาณ มัธยม ผมก็เริ่มจะเห็นพวกของประเภทนี้อยู่บ่อยๆ และเรื่องโดนผีอำ ก็โดนกันจนชิน ไปนอนบ้านคนอื่น เป็นต้องได้เจอะ เป็นประจำ แต่ครั้งที่ผมถือว่า ทำเอาผมแกร่งขึ้นมาทันที เรียกว่าทีเด็ดในชีวิตเลยครับ คือ โดนที่บ้านตัวเอง........ มันช่างเป็นคืนที่ยาวนานสิ้นดี ไม่ได้หลับได้นอนเลยทั้งคืน.........อยู่กันจนสว่างคาตา....หลับไม่ได้เลย....... ครั้งนึง เมื่อประมาณ ม.5-6 ไม่แน่ใจเท่าไรครับ......ครั้งนั้น น้าที่อยู่ลพบุรี เป็นคนขี้เมา ได้สิ้นชีวิตลง เป็นน้าสาวใจดีแต่ขี้เมา ชอบคุยเล่นหยอกล้ออยู่เป็นประจำ และจะสนิทกับผมเป็นพิเศษ เพราะจะแกล้งผมอยู่เป็นประจำ ในวันนึง แม่ได้รับการแจ้งเรื่องราวว่า น้าแก้ว ได้เสียชีวิตลงที่บ้าน ลพบุรี ... วันรุ่งขึ้น แม่และพ่อ ก็เดินทางไปลพบุรีโดยทิ้งให้ผม และพี่ชายอยู่บ้าน เพราะโตๆ กันแล้ว ไม่ต้องห่วงอะไรมาก ....... ในช่วงเวลากลางวันก็ไม่มีอะไร ปกติดี เพื่อนๆ ก็มาเล่นอยู่เป็นปกติ....และแล้วเวลาก็เดินไปสู่ยามเย็นเป็นปกติ ........ ตกเย็นก็ไปเตะบอล พอค่ำก็รอดูบอล เป็นเรื่องธรรมดา เวลาวันเสาร์ – อาทิตย์ กิจกรรมก็จะเดิมๆ ....พอดูบอลเสร็จ เวลาประมาณห้าทุ่ม กว่าๆ ก็กางมุ้ง ปิด ไฟ เพื่อที่จะนอน........ ก็เริ่มจะเคลิ้มๆ........ยังไม่ได้หลับดี ก็นอนเล่นๆ รอเวลาที่จะหลับไปเอง.....แหม.....บรรยากาศมันช่างเหมือนหนังผีจริงๆ หมา ที่อยู่หน้าบ้าน มันก็หอนรับกัน เป็นเสียงที่ชวนสยิว แต่นานๆ มันจะหอนกันที แต่เห็นว่า เวลามันหอน ก็ไม่เห็นจะมีอะไร........เป็นเรื่องปกติ ....... คืนนี้ก็อีกเช่นกัน พวกมัน หอนรับกัน ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย ก็นอนๆไป มันเรื่องปกติ เวลาลุเข้าเกือบๆเที่ยงคืน....... การนอนผม กับพี่ชาย คือพี่ชายนอนบนโซฟา กระผมนอนข้างล่าง แล้วกางมุ้งคลุมโซฟาพร้อมกับด้านล่างก็ปูผ้าปูเสื่อเพื่อลดความแข็งของพื้นไม้และการเป็นรอยเสื่อที่ตัว........ หลังจากหมาหอนจบไปหนึ่งบทเพลง ร่างกายผมก็เริ่มจะม่อยลง เคลิ้มๆเข้าสู่ภวังค์เกือบหลับ แล้วก็สะดุ้งตื่น...ด้วยอะไรบางอย่างที่ปลายเท้า นอกมุ้ง.......ลืมตาเพ่งมองไปที่ปลายเท้า......ด้วยร่างกายที่ขยับเขยื้อนไม่ได้ เพราะอะไรก็ไม่ทราบ นอกมุ้งมันเหมือนคนกำลังติดเตาถ่าน ควันสีขาวๆลอยฉุยๆ ออกมา(นึกภาพประมาณมีไดร์ไอซ์กำลังทำงาน) ผมนอนอยู่ข้างล่างโซฟา....และโซฟาอยู่ขวามือผม ตรงนั้นเลยครับ เพราะจะนอนดูทีวีได้ ทีวีอยู่ทางปลายเท้า เมื่อเป็นควันขาวฉุยๆ ออกมา มันเริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆ มันก็มีเงาอยู่เงาหนึ่งโผล่มาในควันที่เห็น และร่างกายผมก็พยายามที่จะขยับดิ้นออกจากอาการอัมพาตชั่วคราว เนื่องจากโดนผีอำบ่อยๆ ก็เคยชินกับการดิ้นสู้ ไม่เคยจะต้องสวดมนต์ไล่ อาศัยใจสู้ ดิ้นแหลก บางทีก็มีลุกได้แล้วิ่งตาม ......แต่คราวนี้ดิ้นไม่หลุด....ดิ้นอยู่นานจนเหนื่อยเวลาผ่านไปนานพอสมควรเลยทีเดียว....ควันสีขาวๆที่กำลังเห็นคาตาอยู่ ก็เริ่มจางลง....จางลง.....เรื่อยๆ ภาพในเงาดำ ก็เริ่มจะปรากฏให้เห็นเป็นรูปร่าง ยืนที่ปลายเท้า และชี้นิ้วมาที่หน้าผม....ท่ามกลางควันจางๆ และเงาดำๆนั้น ..แล้วก็บอกด้วยเสียงที่ดุและกังวาลว่า....................จบเด้อพี่น้องเด้อ วันหน้ามาต่อกันอีกครับ
     
  13. lively

    lively เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +755
    รอตอนต่อไปครับ 555
     
  14. หมวดฤทธิ์

    หมวดฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +5,933
    สวัสดีครับท่านเจ้าบ้าน ขออนุญาตมาแอบอ่านด้วยนะครับ อิๆๆ:cool:
     
  15. rang551

    rang551 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,363
    ค่าพลัง:
    +3,131
    เอ...สงสัยครับ เพราะที่บ้านคุณสวนพลูมีองค์ปู่ฤษีนารอทคุ้มครอง แต่ทำไมถึงยังมีสิ่งเหล่านี้มารบกวนได้ล่ะครับผม
     
  16. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    นี่เป็นความเชื่อ สมัยนู้น ว่า แม่ไปไหน ปู่ไปด้วย ท่านจะให้ไปกับท่านทุกที่ คือ แม่เวลาจะเดินทางไปไหนมาไหนไกลๆ แม่จะเชิญปู่ไปด้วย ผี ก็ไม่แน่ว่าจะกลัวฤาษี เสมอไป พระยังเจอหลอกก็เยอะ นับประสาอะไรกับเด็กๆ มันอยู่ที่จังหวะ โอกาส และความสมพงษ์ในด้านต่างๆ ถ้าเป็นแบบที่ว่าคือในบ้านมีพระอยู่แล้วจะไม่มีผีกล้ำกลาย อย่างนี้ ในวัดก็จะไม่มีผีเลย แต่ในวัดนี่แหละ ผีเยอะที่สุด หากจะลองให้นอน ในวัดร้าง ซักคืนนึง โดยไม่มีไฟฟ้า ท่านคิดว่าท่านจะเจอมั๊ย ลองดูครับ ท่าน rang551 อันนี้ท่านสามารถลองได้ด้วยตัวเอง เมื่อดวงสมพงษ์ โอกาส วันปิด มาถึง ต่อให้แขวนพระดีแค่ไหน ก็สามารถโดนได้ครับ (ความเห็นส่วนตัวครับ)
     
  17. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    ขอบคุณค้าบบบบบบบบบ

    ผมไม่รู้ตัวคาถา ครับ หลวงพ่อให้ปู่ฤาษีนารอทมา บอกแค่ว่า คาถาไหนก็ได้ ตั้งจิตให้มันถึงท่านก็พอ

    สวัสดีครับพี่หมวด ยินดีอย่างยิ่งขอรับ
     
  18. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,064
    ค่าพลัง:
    +52,162
  19. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    เล่าเรื่องภาค 2 ตอน 4
    กราบสวัสดี พี่ๆ ทุกๆท่าน จัดกันต่อครับ เด้อพี่น้อง...........ย้อนความกันนิดนึงนะครับ เพราะเดี๋ยวจะขาดอรรถรสในการอ่าน หรือไม่ก็ไปอ่านโพสก่อนหน้านี้นะครับ .......... ภาพในเงาดำ ก็เริ่มจะปรากฏให้เห็นเป็นรูปร่าง ยืนที่ปลายเท้า และชี้นิ้วมาที่หน้าผม....ท่ามกลางควันจางๆ และเงาดำๆนั้น ..แล้วก็บอกด้วยเสียงที่ดุและกังวาลว่า............ทำไมมึงไม่ไป! ………..ทำไมมึงไม่ไป! .............และก็พูดอยู่แบบนี้ ไม่หยุด......ด้วยเสียงที่ดุ และมีความแค้นนิดหน่อย และในตอนที่เงาดำทะมึนนั้นพูดมา ร่างกายที่นอนนิ่งลืมตาค้างอยู่........ก็ยังขยับเขยื้อนไม่ได้ ...เหมือนถูกสะกด โดนตรึง ทั้งแขนและขา นอนดูภาพที่น่ากลัวอยู่อย่างนั้น ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไรเหมือนกัน แต่ในช่วงนั้นรู้สึกว่า มันนานแสนนาน พยายามจะดิ้นสู้อย่างเต็มที่ หายใจก็ติดๆขัดๆ พยายามจะยันตัวขึ้นมาให้พ้นจากสภาวะดังกล่าว ในตอนที่เงาดำทะมึนนั้นได้เริ่มปรากฏขึ้นมา ก็ได้ตะลึงงันอยู่แป๊บนึง และต่อมาก็โดนสะกด ให้ลืมตามองภาพนั้น......และเห็นชัดเลยว่า เงาดำทะมึนนั้น ชี้มือมา ท่ามกลางควันขาวๆ คล้ายสายหมอกและไดร์ไอซ์ คือต้องมองผ่านม่านหมอกขาวๆ ก่อนจะเจอเงาดำที่ปลายเท้า บริเวณนอกมุ้ง คำว่า ....ทำไมมึงไม่ไป! ทุกครั้งที่เงานั้นเปล่งเสียงออกมา มันเป็นเสียงที่ดุกึ่งตะคอกและมันยะเยือกชอบกล ขนก็ลุกเกรียวทุกครั้ง......เป็นภาพที่คาตาอยู่อย่างนั้น......จากนั้นก็เพิ่มแรงดิ้นยิ่งขึ้น เพื่อให้ตัวเองหลุดจากการโดนสะกด ..แต่ก็หาได้มีผลไม่........ร่างกายก็นิ่งอยู่เหมือนเดิม ตาก็ยังเบิ่งค้างอยู่ ลมหายใจเริ่มแรงขึ้น เหมือนคนหายใจติดขัดแต่พยายามออกแรง เหนื่อยเอาเรื่องเลย สำหรับคนบ้าพลังแบบผม (เพราะสมัยมัธยมก็เตะบอล และเป็นพวกวิ่งตลอดเกมส์...ถือว่าฟิตมาก) แต่อันนี้เหนื่อยมากๆ แทบขาดใจเลยทีเดียว.........ภาพเงาดังกล่าว ก็ยังชี้หน้ามาที่ผม และยังกล่าวคำนั้นอยู่เรื่อยๆ .......... เวลาผ่านนานเท่าไรก็ไม่ทราบ แต่ผมมองจนภาพเงานั้นค่อยๆเลือนถอยออกไปเรื่อยๆ ควันหรือหมอกนั้นก็จางลง และผมก็ลุกขึ้นพรวดพราดขึ้นมาได้.......เหมือนคนดำน้ำแล้วพรวดขึ้นมา......ลุกขึ้นนั่ง....เวลาในใจตอนนั้น เวลาแต่ละวินาที มันช่างนานแสนนาน........เมื่อนั่งได้ ก็นั่งหอบแฮกๆ อยู่คนเดียว โดยที่มีพี่ชายที่นอนบนโซฟา ด้านขวามือผม ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย มันยังนอนนิ่งอยู่เป็นปกติสุข ......... จึงนั่งนึกในใจว่า เอ.......ใครว่ะ.....แม่งเล่นกูโหดจัง หรือว่าจะเป็นน้าสาวที่ตายไป ....เพราะว่าเราไม่ได้ไปงานศพ ก็เลยมาตาม.......ก็สันนิฐานในใจตัวเอง ก็สบายใจได้เปราะนึง เพราะคงไม่ได้ทำอะไรเรามากกว่านี้แน่นอน จากนั้นด้วยความกลัว ก็ลุกมาเปิดไฟ......เพื่อที่จะนอนต่อ เพราะมันดึกมากแล้ว........แต่เรื่องไม่ได้จบเพียงแค่นี้ซิครับ..........เมื่อเปิดไฟนอนในมุ้ง......ก็หงายตัวลงไปนอนปุ๊บ ......ก็นอนนึกเรื่องราวที่ได้เจอเมื่อซักครู่ แล้วก็หลับตา........ทำท่าจะหลับใหม่ .......ทีนี้มาแบบจัดหนักและจัดเต็ม...........ขอจบตอนก่อนนะครับ วันหน้าจะมาอีก ขอพระสยามเทวาธิราชคุ้มครองทุกท่านครับ
     
  20. pasteque

    pasteque เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2014
    โพสต์:
    566
    ค่าพลัง:
    +4,687
    ปูเสื่อไว้ก่อน เดี๋ยวกลับมาจะได้มีที่นั่ง :cool::cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...