ทำบาปตั้งมาก ทำบุญนิดเดียว ตายแล้วไปสวรรค์ได้หรือ

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย มันไม่แน่, 11 มิถุนายน 2014.

  1. มันไม่แน่

    มันไม่แน่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2013
    โพสต์:
    1,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +7,956
    ทำบาปตั้งมาก ทำบุญนิดเดียว ตายแล้วไปสวรรค์ได้หรือ
    หลวงพ่อฤๅษีฯ ตอบปัญหาธรรม

    "มีคนถามมาหลายคน ว่าทำบาปมาตั้งเยอะ แต่ทำบุญนิดเดียว แล้วจะไปสวรรค์ได้ยังไง อันนี้ไม่น่าเชื่อเขาว่ายังงั้น เรื่องนี้ก็ขอเอาถ้อยคำของพระนาคเสน ที่กล่าวตอบพระยามิลินท์มาให้ทราบ

    พระนาคเสนท่านเปรียบเทียบว่า บาปมีอุปมาเหมือนก้อนหิน ก้อนหินจะเล็กหรือใหญ่ก็ตาม ถ้าเราโยนมันลงในน้ำ มันก็จม แต่บุญนี้มีอุปมาเหมือนเรือ ถ้ามีเรือลอยอยู่ ถ้าเป็นเรือ ลำใหญ่ ไอ้เรือนี่ลำเล็กมันก็ไม่มี เรือที่ใช้ได้ พายได้ขี่ได้ ลำเล็กมันก็ไม่มี มันใหญ่ทั้งนั้น แต่ว่าจะใหญ่มากใหญ่น้อย ก็เป็นเรื่องความใหญ่

    บุญมีอุปมาเหมือนเรือ เอาเรือมาจอดลอยไว้ เอาหินโยนลงไปในเรือ หินเมื่อตกลงไปในเรือแล้ว หินจะจมน้ำไม่ได้ เพราะเรือขวางไว้ ข้อนี้มีอุปมาฉันใด จิตใจของคนก็เหมือนกัน ที่พระพุทธเจ้าท่านกล่าวว่า

    จิตเต สังกิลิฏเฐ ทุคติ ปาฏิกังขา
    ถ้าจิตจะออกจากร่างมีอารมณ์เศร้าหมอง ก็ไปสู่ทุคติ มีอบายภูมิ ๔ มีนรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน

    จิตเต ปาริสุทเธ สุคติ ปาฏิกังขา
    ถ้าเวลาจิตจะออกจากร่าง ที่มีความบริสุทธิ์ นึกถึงส่วนที่เป็นกุศล ก็ไปสู่สุคติโลกสวรรค์ก่อน ถ้าหมดอำนาจของความดีคือบุญ ก็จะกลับมารับโทษตามเดิม เว้นไว้แต่บำเพ็ญบารมีต่อ

    ข้อนี้จะมีอุปมาได้เหมือนกับคนเรา ถ้าเป็นหนี้เขามากๆ เจ้าหนี้เขาทวง ดีไม่ดีใช้หนี้เขาไม่หมด จะต้องติดตะรางแทนหนี้ แต่ในขณะที่เจ้าหนี้ทวงหนี้อยู่นั้น บังเอิญทีเดียว เราถูกล็อตเตอรี่เข้า รางวัลที่ ๑ สัก ๒-๓ ใบ มีทุนใหญ่ แล้วก็ใช้ทุนนั่นแหละ ไม่ใช่ชำระหนี้ หนีเจ้าหนี้ไปอยู่เสียต่างประเทศ เจ้าหนี้ก็ไม่มีโอกาสจะทวงได้ เราก็เป็นสุขสบายเพราะทรัพย์สินที่เรามีอยู่ แต่ถ้าหากว่าเราไม่ไปก่อร่างสร้างตัวให้เป็นผู้มีอันจะกินต่อไป กินทุนเก่า ถ้าหมดทุน กลับมาที่เก่าเมื่อไร เจ้าหนี้ทวงใหม่เมื่อนั้น แล้วก็จะมีโทษตามที่เราเป็นหนี้เขา ข้อนี้มีอุปมาฉันใด เรื่องบุญกับบาปก็เหมือนกันท่านพุทธบริษัท"

    จากหนังสือ : ไตรภูมิ
    พระราชพรหมยานมหาเถระ (หลวงพ่อฤๅษี)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      78 KB
      เปิดดู:
      80
  2. iamtheds

    iamtheds เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +364
    คัดลอกพระไตรปิฎกตัดตอนมาเฉพาะที่คิดว่าเข้าใจ ทั้งที่ต่างสถานะการณ์ที่พระท่านทรงสอน ทำไปเพื่ออะไร ถ้าทำไปด้วยใจดำมืด
    คนโง่ ที่คอยคัดลอกอันโน้น มาจับผิดอันนี้ แต่หัวจิตหัวใจดำมืด ปรามาสพระรัตนตรัยบ่อยๆซ้ำๆซากๆ ทำตัวเป็นหนอนตำราที่กินได้แค่กระดาษ แต่ไม่เข้าใจไม่เข้าถึงพระธรรม หาความเจริญอะไรได้
    ความเข้าใจที่ถูกต้องจนได้มรรคได้ผล ดับทุกข์ร้อนในหัวใจตัวเองก็ทำไม่ได้
    ใช้ชีวิตสิ้นเปลืองและเบียดเบียนชีวิตอื่นให้แตกแยกแตกสามัคคี ด้วยข้อความที่ลอกมาไปวันๆ
    น่าสงสาร
    ขอเชิญท่านทั้งหลายแผ่เมตตาอุทิศกุศลให้สัตว์โลกที่ทำแบบนั้นได้สำนึกโดยเร็วไม่ต้องตกนรกให้ลึกให้นานเหมือนที่ปรามาสพระให้ตกนรกอยู่ทุกวัน
     
  3. sorboonsongsil

    sorboonsongsil เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    343
    ค่าพลัง:
    +3,050
    ไม่อยากให้มีปัญหากันนะครับ ผมจะบอกเฉพาะที่ผมคิด ห้องนี้เป็นห้องหลวงพ่อฤาษีฯ ถ้าเห็นต่างก็อย่าดู อย่าเข้ามาเลยครับ ไปดูในห้องพระไตรปิฎก ไปโพสในห้องพระไตรปิฎกเถอะครับ ธรรมะมีไว้ใช้ประหารกิเลส อย่าเอาธรรมะมาทะเลาะเลยครับ คุณเข้ามาโพสอย่างนี้ คนอื่นเข้ามาอ่านก็จะทำให้จิตใจเค้าแย่ด้วยนะครับ ผมคนนึงแหละ อ่านแล้วรู้สึกแย่มากๆ เก่งแค่นี้พอแล้วครับ ขอเถอะครับ คนด้วยกันนะครับ ขอเถอะครับ

    แล้วก็ อย่าอ้างพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระจอมไตรมาอะไรกับผมเลยนะครับ ผมขี้เกียจอ่าน และ ผมก็กลัวที่จะลงนรกอยู่ ผมยังชั่วอยู่ ผมรู้แค่ พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณังฯครับ นอกนั้นผมไม่รู้จริงๆครับ
     
  4. งามในใจ

    งามในใจ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +40
    เอ ผมว่าเป็นเอามากนะเนี๊ยะ "ปังกธา" รู้สึกว่าจะมีปัญหากับการที่พระรับเงิน งั้น เอางี้ผมไม่ได้มีเจตนาจะลบหลู่ หรือปรามาสพระรัตนตรัยแต่อย่างไร แต่สิ่งที่ผมนำมาโพสนี้ตั้งใจจะชี้ให้เห็นถึงพระอริยท่านหนึ่งที่เราๆท่านๆ รู้จักกันดี ท่านก็รับทั้งเงินและทองเหมือนกัน แต่ท่านบริจาคเข้าคลังหลวงของชาติหรือก็คือโครงการผ้าป่าช่วยชาติของหลวงตามหาบัว ผมจะรอดูเหตุผลของ "ปังกธา" อีกสิว่าจะยกอะไรมาหักล้างอีก


    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]


    “โครงการช่วยชาติโดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน” หรือ จะรู้จักกันดีในโครงการผ้าป่าช่วยชาติ ย้อนหลังไปเมื่อวันหนึ่งในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2540 ในขณะที่หลวงตาได้เดินทางไปแจกสิ่งของให้กับโรงพยาบาลในท้องถิ่น กันดาร อันเป็นกิจวัตรที่หลวงตาได้ปฏิบัติอยู่เป็นเนืองนิตย์ ในวันนั้นจึงได้ทราบว่าโรงพยาบาลมีหนี้สินเป็นอันมาก จนไม่สามารถจะชำระหนี้ให้แก่บริษัทหรือร้านค้าที่ซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ได้ ทั้งที่มิได้ก่อหนี้สินใดๆ ขึ้น หากแต่เป็นหนี้อันเกิดจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่เปลี่ยนไปเอง ซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตทางการเงินของประเทศ

    ทำให้หลวงตารู้สึกสลดใจ เป็นอันมาก ท่านจึงดำริที่จะช่วยชาติช่วยแผ่นดิน โดยทุ่มเทน้อมนำพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศให้ร่วมกันบริจาคเงิน เพื่อช่วยชาติบ้านเมืองของเรา โครงการช่วยชาติจึงได้เกิดขึ้นตั้งแต่บัดนั้น โดยได้รับเงินบริจาคประเดิมรายแรกเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2541 เป็นเงินจำนวน 2,500 เหรียญสหรัฐ เป็นปฐมฤกษ์ และเริ่มดำเนินการอย่างจริงจังตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน ปีเดียวกันเป็นต้นมา ซึ่งถือเป็นวันเปิดโครงการ โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ได้ทรงพระกรุณาเสด็จไปเป็นองค์ประธานเปิดโครงการ


    หลังจากนั้นพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทก็ได้เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ไปยัง สำนักสงฆ์สวนแสงธรรม เพื่อถวายพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ร่วมในโครงการช่วยชาติกับหลวงตา นับว่าเป็นมหาอุดมมงคลอันยิ่งใหญ่ต่อโครงการช่วยชาติของหลวงตา ด้วยแรงศรัทธาจากทุกสารทิศต่อหลวงตามหาบัว และด้วยความรักชาติรักแผ่นดินของชาวไทยทุกหมู่เหล่า เป็นเหตุให้ทองคำ เงินเหรียญสหรัฐ เงินตราสกุลต่างประเทศ รวมทั้งเงินบาท หลั่งไหลเข้าสู่บัญชีช่วยชาติอย่างต่อเนื่องมิได้ขาดสาย และหลวงตาก็ได้รวบรวมส่งมอบให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อนำเข้าบัญชีฝ่ายออก บัตร หรือคลังหลวง

    อย่างไร ก็ตาม 12 เมษายน 2547 สมเด็จพระนาง เจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีปิดโครงการช่วยชาติโดยพระธรรมวิสุทธิ มงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) ในวันจันทร์ที่ 12 เมษายน 2547 ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร พระราชวังดุสิต ระหว่างเวลา 17.30 - 19.15 น. โดยมีสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี โดยเสด็จด้วย ซึ่ง นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้แทนรัฐบาลและประชาชนรับพระราชทานทองคำแท่ง จำนวน 95 แท่ง น้ำหนัก 1,187.50 กิโลกรัม และเงินดอลลาร์ สรอ. จำนวน 2,004,600 ดอลลาร์ สรอ. เพื่อส่งมอบให้ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยนำเข้าคลังหลวงของประเทศไทยต่อ ไป

    ทำให้ตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม 2541 ถึงวันที่ 12 เมษายน 2547 ธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับมอบทองคำและเงินบริจาคเข้าคลังหลวงแล้วทั้งสิ้น 12 ครั้ง โดยมียอดรวมทองคำแท่ง จำนวน 825 แท่ง น้ำหนัก 10,312.78 กิโลกรัม และเงินดอลลาร์ สรอ. จำนวน 10,214,600 ดอลลาร์ สรอ.

    อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีการทำพิธีปิดแล้ว หลวงตามหาบัวก็ยังดำเนินการนำทองคำ ที่ได้รับบริจาค เข้าคลังหลวงต่อเนื่องอีก 3 ครั้ง ดังนั้นตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงวันที่ 9 ม.ค.2553 มีการดำเนินตามโครงการนับได้ 15 ครั้งเ ป็นทองคำแท่ง 967 แท่งรวม 12,079.8 กิโลกรัม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มิถุนายน 2014
  5. งามในใจ

    งามในใจ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +40
    ฮะๆ ตกลงคุณยังตอบผมไม่ได้เลย เอาให้ตรงประเด็นสิครับ ที่คุณบอกว่าพระสงฆ์ที่รับเงินรับทอง ที่คุณไปก๊อปเอาในพระไตรปิฎกมา ยังไม่ตอบผมเลยว่าอย่างหลวงตามหาบัวท่านตั้งโครงการผ้าป่าช่วยชาติ คุณมองท่านเป็นอย่างไร เป็นแบบที่คุณต่อต้านรึเปล่า แล้วคุณไปก๊อปเอาคำกล่าวของหลวงตามาให้ผมอ่านทำไม คุณบ้ารึเปล่า ผมดูคุณก็มีการศึกษานะ คนที่จะอ่านพระไตรปิฎกได้นั้นจะต้องมีศรัทธาก่อน ผมก็เชื่อว่าคุณเป็นคนเช่นนั้น แต่คุณคงจะไม่เคยปฏิบัติสมาธิภาวนามาก่อนแน่ๆ หรือปฏิบัติแล้วไม่มีความก้าวหน้าเลย จึงไม่เข้าใจในพระไตรปิฎก แม้แต่สมาธิ อุปจารสมาธิและฌาน 1 ,2 ,3 ,4 คุณยังไม่เข้าใจเลย ผมไปอ่านกระทู้ต่างๆที่คุณไปปั่นป่วนห้องอื่นๆเค้า คนที่เค้ามีปัญหาเรื่องสมาธิก็ไปว่าเค้าขาดสติ แค่สมาธิขั้นอุปจารสมาธิเฉียดฌานขั้นที่ 1 คุณยังไม่เข้าใจ ไม่เคยสัมผัส แล้วอย่างนี้คุณจะปฏิบัติไปเพื่ออะไรครับ เพื่อละกิเลสหรือเพื่อกอดกิเลสไว้ สร้างความแตกแยกให้พุทธศาสนิกชน คุณคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีหรือ อะๆ ! คุณ ไม่ต้องบอกนะว่าเป็นหน้าที่ของคุณที่ต้องไปก๊อปพระไตรปิฎกมาให้พวกผมอ่าน เพราะพวกผมก็เคยอ่านมาแล้ว ถึงแม้จะน้อยกว่าคุณบ้าง แต่พวกผมก็ไม่เคยไประรานใครเค้า ถ้าคุณเป็นสัมมาทิฏฐิคุณจะเข้าใจและหยุดอยู่แค่นี้ แต่ถ้าคุณไม่เข้าใจไม่มีความเป็นสัมมาทิฏฐิคุณคงจะไม่หยุดแค่นี้ แค่คนที่ศรัทธาไม่เหมือนคุณ คุณยังบอกว่าอยู่ร่วมในสังคมนี้ไม่ได้ ต้องเป็นคนที่ศรัทธาเหมือนกันเท่านั้น ถึงจะอยู่ร่วมในสังคมเดียวกันได้ คุณเพ้อมากไปนะ ผมสงสารคุณ แต่ผมคงเปลี่ยนความเชื่อขั้นเพ้อของคุณไม่ได้หรอก ขอเถอะครับ ไปห้องหลุมดำหรือวิทยาศาสตร์ทางจิตโน้น ทุกคนย่อมมีทางของตนเอง ฉะนั้นคุณไม่ต้องมาสั่งสอนใครเค้าหรอก สอนใจตัวเองเสียก่อน และขอเรียกร้องให้ทีมผู้ดูแลบอร์ดแบนทั้งยูสเซอร์ ปังกธา และ ip เพราะคราวแล้วก็โลโปทีนึงแล้ว นี่ยังมามีปังกธาและผ่องเพื่อนอีก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มิถุนายน 2014
  6. งามในใจ

    งามในใจ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +40
    เอ! ดูท่าคุณนี่จะคุยไม่รู้เรื่องนะครับ ผมก็บอกแล้วว่าที่คุณโพสลงกระทู้ต่างๆเกี่ยวกับพระธรรมวินัยเกี่ยวกับที่พระ รับเงินรับทอง คุณบอกว่าอาบัติ แต่พอผมเอาเรื่องโครงการผ้าป้าช่วยชาติของหลวงตามหาบัวท่านมาลง คุณก็ไปก๊อปเอาคำกล่าวของหลวงตา คุณเอามาให้พวกผมอ่านทำไมเนี๊ยะ ผมถามคุณก็ไม่ตอบ ตอบก็ตอบไม่ตรงคำถาม แสดงว่าถ้าไม่ใช่พระที่คุณนับถือ ก็ทำแบบนี้ไม่ได้งั้นสิ คุณนี่เรียนหรืออ่านมากไปรึเปล่า บอกกี่ทีก็ไม่รู้เรื่อง ผมสงสารคุณนะที่มาทำอะไรที่มันไม่เข้าท่าเลย ใครเค้าก็ไม่เอาด้วยไม่สนใจ นี่ยังไม่ยอมรับและตรวจดูใจของตนเอง เอาแต่เถียงข้างๆคูๆ พอเถียงสู้ไม่ได้ ก็ไปก๊อปคำกล่าวของพระอริยสายธรรมยุตท่านมา ไปก๊อปพระไตรปิฏกมาให้พวกผมอ่าน ผมบอกหลายทีแล้วว่าเน็ตที่บ้านผมก็มี ผมหาอ่านเองได้ ผมถามจริงๆคุณมีปัญหาอะไรที่บ้านหรือกลุ้มอะไรเกี่ยวกับครอบครัวรึเปล่า ถึงมาระบายในห้องนี้ ระวังพวกความดันเอาไว้บ้าง เวลาอะไรไม่ได้ดังใจก็มาระบาย ผมสงสารคุณนะ เพลาๆบ้างนะครับ เดี๋ยวเส้นเลือดในสมองจะมีปัญหา
     

แชร์หน้านี้

Loading...