เล่าประสบการณ์ค่ะ...

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย Raibliss, 28 มิถุนายน 2014.

  1. Raibliss

    Raibliss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +113
    เรื่องนี้เกิดขึ้นมาประมาณ2ปีมาแล้วได้ค่ะ เท้าความก่อนนะคะ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่เรามาสนใจปฏิบัติธรรมสวดมนต์และนั่งสมาธิ
    เวลาเราสวดมนต์นั่งสมาธิหรือทำบุญตักบาตรเราจะอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรทุกครั้ง ทำบุญบริจาคอะไรก็ตามแต่จะนึกถึงเจ้ากรรมนายเวรเสมอ
    ก่อนหน้านี้ที่ไม่เคยสวดมนต์นั่งสมาธิก็ไม่เคยฝันอะไรแนวนี้ คือมีอยู่เช้าวันหนึ่ง จำวันไม่ได้แล้ว นอนละตื่นรู้สึกตัวขึ้นมาก็มาสวดมนต์ที่ห้องพระ
    จำไม่ได้ว่าได้นั่งสมาธิต่อจากนั้นด้วยหรือเปล่า แล้วเราก็มานอนต่อค่ะ หลับตาแต่เหมือนยังไม่หลับนะคะ คือยังรู้สึกตัวอยู่ รู้สึกถึงเตียง รู้ว่าอยู่
    ในท่านอนราบอยู่ พูดง่ายๆก็คือยังไม่หลับ แต่มันก็กึ่งๆนะ แล้วที่เราหลับตาอยู่ก็เป็นมืดๆใช่ไหมคะ อยู่ๆตอนที่เราหลับตาอยู่นั่นแหละ ก็เห็นใน
    ขณะหลับตา แบลคกราวเป็นพื้นดำๆเวลาเราหลับตา ก็เห็นเป็นตัวดำๆสูงๆ เหมือนปีศาจ คล้ายๆแนวตัวbalrogในเรื่อง the lord of the
    rings ยืนอยู่ แล้วขณะเดียวกันก็มีเสียงด่า ด่าแรงมากๆๆ ด่าเรานี่แหละค่ะ "กูเกลียดมึง" "กูจะทำให้มึงชิบหายวายวอด" "กูจะทำลายมึง ไอ้..."
    แล้วด่าแบบไม่หยุดเลยอ่ะ แล้วขณะที่มีเสียงด่าไปด้วย เราก็รู้สึกเหมือนมันมีกระแสแรงอะไรสักอย่างมาดันหน้าเรา ยิ่งด่ามันก็ยิ่งมีแรงดันๆต้าน
    หน้าเราทำให้เรารู้สึกอึดอัด เราก็ตกใจเหมือนกัน แต่เราก็ท่องแผ่เมตตาอย่างเดียวเลย สัพเพสัตตา หลายจบเลยค่ะ ไปเรื่อยๆ ก็ยังด่าไม่หยุดเลย
    เราเซ้นได้ว่าเสียงด่ามาจากตัวที่เราเห็นนี่แหละ เราก็ท่องไปเรื่อยๆ

    จนอยู่ๆภาพตัวดำๆนั้นหายไป กลายเป็นเราเห็นเป็นตัวเรายืนอยู่ในสถานที่นึงสว่างเหมือนกลางวันปกติ ลักษณะของสถานที่คล้ายโรงเรียนมัธยมที่เราเคยเรียนอยู่เลย
    ตอนแรกเรายืนอยู่เฉยๆมองๆไปมา สักพักเราก็หันหลังมา พอหันหลังมาเราเห็นมีผู้หญิงคนหนึ่งก้มอยู่กับพื้น ลักษณะเหมือนเวลาคนนั่งกับพื้นแล้วก้มกราบหันมาทางเรา
    เราก็เลยเดินไปที่หน้าเค้า เค้าแต่งตัวเหมือนในละครย้อนยุคเด๊ะๆเลยค่ะ นุ่งกระโจมอก โจงกระเบน ทั้งชุดเป็นสีน้ำตาลทึมๆ ผมเป็นแบบทรงที่เราเห็นในละคร
    ไม่รู้เรียกว่าอะไร เป็นสั้นๆ หวีเสยขึ้นมา แต่เรายังไม่เห็นหน้าเค้า เราก็ก้มลงไปใกล้ๆเค้า แล้วเค้าก็มองขึ้นมา แต่ก็ยังคงทำท่าเหมือนกราบอยู่ หน้าเค้าเลอะๆเปื้อนๆ
    ไม่ได้หน้าตาน่ากลัวอะไรนะคะ หน้าเหมือนคนปกติ แต่เลอะๆ ผมข้างหน้านี่กระเซิงมาก ยุ่งเหยิง เหมือนโดนยีหัว ผมก็ตกๆมาบังหน้า เราเห็น
    ปุ๊ปเรารู้สึกเลยว่าคนๆนี้คือคนเดียวกันที่มาด่าเราเมื่อกี้ มันเป็นความรู้สึกขึ้นมาเองว่าเป็นเค้าที่มาด่าเรา แต่ดูเค้าไม่ค่อยกล้ามองหน้าเราเท่าไหร่
    แบบก้มๆหลบๆ เราก็พูดว่า"เธอใช่มั้ยที่มาด่าเรา ทำไมต้องมาด่าเรา" เค้าก็ทำหน้าแหยๆเหมือนรู้สึกผิด แต่หน้าเค้าดูเศร้ามาก ดูเศร้ามาตั้งแต่แรกเลย
    แล้วเค้าก็ตอบมา แต่เราจำไม่ได้ว่าเค้าเรียกเราใช้คำว่าอะไรนะคะ แต่ประมาณว่า เค้ากับเราเคยรู้จักกัน เราทำกับเค้าไว้มาก เค้าเจ็บปวด
    เค้าทั้งรักทั้งแค้นทั้งเกลียดเรา พอเค้าพูดมาแค่นั้นปุ๊ป เรารู้สึกแย่มากๆ เรารู้สึกผิดมากๆ รู้สึกเหมือนเคยไปทำเค้าไว้หนักมากๆๆ มันเป็นความรู้สึก
    ขึ้นมาเองว่าเราเคยไปทำเค้าให้เค้าเจ็บปวด ทำให้เค้าเกลียด ณ ตอนนั้นเราก็รู้สึกผิดมากๆ เราก็บอกเค้าว่า เราเสียใจ เราขอโทษ แล้วเค้า
    ก็มีสีหน้าดูดีขึ้นนิดนึง แต่ตรงนี้แปลกอยู่อย่างนึงค่ะ มันไม่เหมือนฝันตรงที่ว่าบางทีความฝันมันเป็นเรื่องเป็นราวใช่ไหมคะ แบบเรื่องมันดำเนินไปเอง
    เราพูดไปเองตามบท แต่อันนี้มันเหมือนเรารู้สึกเลยว่าเราอยากพูดแบบนี้ แบบเราคิดเองว่าเราจะพูดอะไร

    ทีนี้เราก็เลยอยากรู้ว่าเรารู้จักกับเค้าสมัยไหน เราก็ก้มไปถามเค้า เค้าก็ยังอยู่ท่าเดิมนะคะ เราก็ถามว่า เรารู้จักกันตั้งแต่สมัยไหน เค้าบอก นานมาก
    เราถามปีไหน เค้าบอก จำไม่ได้ นานมาก เราก็อยากรู้สมัยไหน เค้าก็ตอบแต่นานมาก เราก็เลยถามว่าสมัยนั้นใครเป็นกษัตริย์ เค้าก็ตอบมา แต่เพราะเสียงเค้าเบา
    แล้วก็ไม่มองหน้าเราตอนพูดด้วย ก้มหน้าอย่างเดียว แต่เราได้ยินตอนท้ายประโยคที่เค้าพูดว่า".....รามาธิบดีที่1" เราจำคำนี้ได้ชัดเลย จนทุกวันนี้ก็ยังจำได้
    แล้วสักพักเค้าก็ลุกขึ้นมายืน เราก็มองเค้า รู้สึกสงสารอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกตัวเองเลวยังไม่รู้ รู้สึกผิดไปหมด เค้าก็ไม่มองสบตาเราอยู่ดี เหมือน
    เค้าก็เกรงๆไม่กล้ายังไงไม่รู้ ทำหน้าเหมือนรู้สึกผิดที่มาด่าเรา หรือเราคิดไปเองไม่รู้ค่ะว่าเค้ารู้สึกผิด555 แล้วตอนนั้นก็มีผู้หญิงอีกคนหนึ่งเป็นใคร
    ก็ไม่รู้เดินมา ใส่ชุดขาว มายืนข้างๆผู้หญิงโจงกระเบนคนนี้ เค้าก็เหมือนจะยิ้มให้เรานะคะ เราก็จำไม่ได้เหมือนกัน แต่ความรู้สึกเหมือนเค้าจะมาพา
    ผู้หญิงโจงกระเบนคนนี้ไปแล้ว ตอนนั้นเราก็รู้สึกสงสารเค้ามาก เราก็เอามือไปแตะไหล่เค้าเบาๆแล้วเราก็บอกเค้าว่า"เราจะช่วยให้เธอไปเกิด"
    คำนี้มันยังตราใจเราอยู่ทุกวันนี้เลยค่ะ ณ เวลาตอนนั้นที่เราพูดคำนี้ไป เรารู้สึกดีใจปลื้มใจสงสารผสมปนเปกัน บอกไม่ถูก พอพูดปุ๊ป เค้าก็ยิ้ม
    ให้เรานิดนึง แล้วพยักหน้ารับ หน้าเค้าดูมีความสุขขึ้น แล้วผู้หญิงชุดขาวคนนั้นพร้อมเราและผู้หญิงโจงกระเบนก็เดินไปพร้อมกันขึ้นบันไดเลื่อน
    เหมือนคล้ายๆบันไดเลื่อนตามห้างเลยค่ะ เลื่อนขึ้นไปข้างบนอีกชึ้นนึง ก็เห็นมีคนหลายคนเหมือนทำกิจกรรมตามปกติ เดินไปมา มีขายของด้วย
    แล้วเราก็มารู้ตัวอีกทีหันไปไม่เจอผู้หญิงชุดขาวกะผู้หญิงโจงกระเบนแล้ว กลายเป็นเรายืนอยู่คนเดียว เราก็งงเค้าหายไปไหนกัน ก็มองๆหา
    ละอยู่ๆเราก็ตื่นลืมตาขึ้นมาทันทีเลยค่ะ ทุกอย่างก็จบลงแค่นี้

    แต่ตอนลืมตามาเรายังจำทุกอย่างได้แม่นมากๆ เหมือนเพิ่งไปเจอเหตุการณ์มาเอง
    ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันคือความฝันมั่วๆซั่วๆทั่วไปหรืออะไร เพราะมันพิสูจน์ไม่ได้ แต่ในใจเราลึกๆเราเชื่อว่าเค้าคือเจ้ากรรมนายเวรเรา ตั้งแต่วันนั้นมา
    เราก็ยังนึกถึงเค้าเสมอ ไม่ว่าจะเป็นของจริงหรือเป็นฝันมั่วๆก็ตาม เวลาทำบุญหรือนั่งสมาธิเราก็จะอุทิศให้เค้า อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรในทุกๆภพ
    ทุกๆชาติ แต่เรารู้สึกเสียดายมากที่เราไม่ได้ถามชื่อเค้าไว้ เวลาเราอุทิศเราจะได้เจาะจงชื่อเค้าได้ จากเหตุการณ์นี้ทำให้เรารู้สึกสงสารเจ้ากรรม
    นายเวร เค้าก็เป็นทุกข์มากเหมือนกัน ไม่ใช่แค่มนุษย์ที่คิดว่าชีวิตตัวเองไม่มีความสุข เป็นทุกข์ และคิดว่าเราจะต้องหมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศล
    ให้เจ้ากรรมนายเวรเสมอ เราก็เคยคิดในใจนะคะว่าเค้าเป็นยังไงบ้างตอนนี้ ไม่รู้ว่าเค้าได้รับมั้ย เค้ายังอยู่มั้ย แต่ก็ไม่เคยฝันถึงอีกเลย ทำให้ไม่รู้ว่า
    เวลาทำบุญเรายังต้องเอ่ยเจาะจงถึงเค้าอยู๋มั้ย และถ้าเค้ามีอยู่จริง เราก็ขออุทิศผลบุญจากการที่เราได้นำเรื่องนี้มาเล่าเป็นประสบการณ์ให้ทุกๆท่านฟัง
    ให้แก่เค้าด้วยค่ะ
    ขอบคุณนะคะที่ทนอ่านมาจนจบ แหะๆ ไม่รู้ลงผิดบอร์ดป่าวcatt26
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มิถุนายน 2014
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ทำบุญได้รับไปแล้วนานแล้วครับ..และไม่แปลกครับการที่เค้าจะไม่มาปรากฏ
    ให้เราเห็นอีกเพราะเป็นเจ้ากรรมนายเวรถือว่าจบแล้วจบไป..ส่วนบุญที่เค้ายัง
    ได้รับอยู่เค้าจะเอาไปแปรเป็นอะไรก็สุดแล้วแต่เค้าและจะไม่เหมือนกรณี
    ที่เป็นบุคคลใกล้ชิดหรือญาตสนิทเรารวมทั้งบุคคลที่เคยผูกพันธ์กันมาในชาตินี้
    ถึงจะมีโอกาสเห็นได้อีกไม่ว่าในฝัน ในนิมิตร หรือเวลามีเหตุคับขันแล้วไปช่วย
    บุคคลที่เค้าผูกพันธ์เป็นพิเศษหรือว่าสามารถสื่อถึงเค้าได้..

    ถ้าสงสัยว่าไปเกิดหรือยัง..ก็บอกว่ายังครับ.ใส่ชฏาและเครื่องทรงออกสีเขียว
    ดูคล้ายๆมีหงอนยกที่ไหล่แล้วช่วงล่างชุดคล้ายๆผ้าถุงยาวๆ ไม่รู้เค้าเรียกว่า
    ชุดอะไรเรียกไม่ถูกเหมือนกันครับ..ส่วนจะไปต่อยังไงเนี่ยไม่ทราบครับ..
    เวลาเค้าตอนนี้ ๑ วันในความรู้สึกเค้าจะประมาณ ๑๐๐ ปีเราได้ครับ
    และชื่อไม่ใช่เรื่องจำเป็นครับ..แค่นึกอะไรก็ได้ที่สื่อถึงเค้าก็ได้หมดครับ..

    ปล.ฟังหูไว้หูนะครับ...และก็ไม่ผิดบอร์ดครับ..
     
  3. Raibliss

    Raibliss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +113
    อ่านแล้วน้ำตาไหลTT อย่างนี้คืออยู่ไหนภพภูมิไหนหรอคะ ใช่นางฟ้าไหม ถ้าเค้ายังไม่ไปเกิดแล้วเค้ายังอยู่กับเราอยู่ไหมคะ แล้วเราควรจะทำบุญให้เค้าไปตลอดเลยไหมคะ หรือว่าถือว่าช่วยเหลือเค้าได้เท่านี้ เค้าจะไปเกิดเมื่อไหร่ก็อยู่ที่เค้าแล้ว อย่างนี้ไหมคะ เจ้ากรรมนายเวรที่จะมาสื่อให้ทราบแบบเข้าฝันแบบนี้เป็นเพราะอะไรหรือคะ ขอบพระคุณคุณnopphakanมากเลยค่ะ และขอโทษด้วยค่ะที่ถามเยอะเลย><
     
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ๕๕๕ จะพยายามตอบให้ครบทุกประเด็นนะครับ..ลองอ่านดูนะครับ
    ก็อยู่ชั้นเทวโลกนี้หละครับ เป็นนางฟ้าอยู่ครับ เหาะได้แบบขางอๆ
    คล้ายภาพวาดตามพนังนั่นหละครับ..ส่วนเค้าจะไปเป็นอะไรก็แล้ว
    แต่เราไม่ต้องสนใจครับถูกแล้วครับ..ขอออกตัวก่อนล้อฟรีนะครับว่าปกติ
    ไม่ชอบแนวเข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องทำนองนี้เท่าไร.ไม่มีชำนาญและ
    เกินวิสัยเครื่องรู้ของตนเองที่จะลงรายละเอียดครับ
    .แต่พอดีถามเลยเล่าให้ฟังเฉยๆ
    .ส่วนทำบุญให้เจ้ากรรมนายเวร
    เป็นเรื่องการทำบุญส่วนหนึ่งที่ควรทำเป็นปกติครับ.ไม่เกี่ยวกับ
    ประเด็นนี้..เพราะนอกจากจะทำให้เจ้ากรรมนายเวรเข้ามาใกล้
    เราได้ยาก.จิตจะมีความเมตตาเพิ่มขึ้น.เป็นเหตุให้เป็นที่รักของ
    ภพภูมิระดับสูง.ซึ่งเป็นเหตุส่งเสริมทั้งเรื่องการปฏิบัติ.เรื่องปัญญา
    ทางธรรม.เรื่องความเข้าใจในส่วนนามธรรมต่างๆอย่างคาดไม่ถึง ฯลฯ.

    เรื่องของกรรมเรื่องของเวรในอดีตชาตินะครับ
    .เราเชื่อว่าเป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นกับจิตดวงปัจจุบันที่อยู่ในร่างกายเรา
    ณ ปัจจุบันนี้.และก็ถือว่าเป็นเรื่องหนึ่งในหลายๆเรื่องๆนอกจากอวิชชาทั้งหลาย
    ที่ยังเป็นเหตุทำให้ดวงจิตที่อยู่กับเรานี้ ยังต้องเวียนว่ายอยู่ในวัฏสงสารนี้..
    การที่ยอมรับตามความเป็นจริง และการอุทิศส่วนกุศลที่ได้ผลเป็นเหตุอย่าง
    หนึ่งที่ทำให้เราสามารถตัดเรื่องกรรมเวรที่ดวงจิตนี้เคยอาศัยอยู่ในร่างอื่นๆ
    ในอดีตชาติที่ผ่านได้ส่วนหนึ่ง..พูดง่ายๆว่าเป็นการตัดสัญญาที่เคยเก็บไว้
    ในดวงจิตออกได้นั่นเอง..หรือพูดง่ายๆว่าคลายออกจากจิตได้.ถ้าเราจะมี
    โอกาสที่จะไม่กลับมาเกิด นอกจากเรื่อง ทาน ศีล สมาธิ ปัญญาเพื่อมาหนุน
    แล้วก็ยังจะต้องคลายทุกๆเรื่องออกจากจิตให้ได้..จนจิตเห็นว่าทุกๆเรื่องมัน
    เป็นสาเหตุให้กลับมาเกิดเพราะจิตจะเห็นว่ามันเป็นทุกข์ แม้กระทั่งตัว
    จิตเองสุดท้ายก็ต้องวางการเกิด.ถึงจะถือได้ว่าพ้นแล้วจากวัฏจักสงสารนี้..
    เพราะฉนั้นหากเราได้ตัดเรื่องใดออกไปแล้วจากจิตได้..เราเก็บเพียงแค่
    ความภูมิใจไว้ก็เพียงพอ.อย่างน้อยก็พิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่เราทำมันได้ผล..

    แต่ไม่ควรไปยึดติด.คือปล่อยไปเลยว่าเค้าจะเป็นอย่างไรก็ช่าง เพราะ
    หากเราไปยึด..ก็จะเสมือนเป็นการสร้างสัญญาความจำได้ให้จิตอีกครั้ง
    อย่างที่เราคาดไม่ถึงไม่ชาตินี้ครับ..เพราะว่าเรื่องทำนองนี้มันจะต้องมี
    มาอีกเรื่อยๆจนกระทั่งชีวิตเราจะหาไม่..และไม่มีคำว่าหมดเพราะเรา
    ไม่รู้ได้ว่าจิตดวงนี้เคยไปอยู่ในร่างกายอะไร แบบไหนมาบ้าง ซึ่งมันจะ
    เก็บข้อมูลไว้ในจิตทุกชาติไป..เราทำได้แค่เพียงก็คือไม่ให้จิตมันดึงสัญญา
    พวกนี้ขึ้นมาอีก..หน้าที่เราคืออุเบกขารับรู้..และก็ทำของ
    เราไปเป็นปกติ.เพราะว่าเรายังคาดคะเนไม่ได้ว่าอนาคตเราจะต้องเจอเรื่อง
    อะไรอีกบ้าง..ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา จะทำให้เราเข้าใจ ยอมรับตามความ
    เป็นจริง..และจะหนุนให้สุดท้ายจิตเรา..ไม่ไปดึงเรื่องสัญญาต่างๆในอดีตทั้งหลาย
    ผุดขึ้นมาอีก เมื่อมันไม่ผุดขึ้นมา จิตก็ไม่สามารถเกิดได้..ส่วนเรื่องไหนผุดขึ้นมา
    ถ้าจิตมีปัญญาทางธรรม.จิตก็จะพิจารณาว่าไร้ สาระ และเป็นเหตุแห่งทุกข์
    จิตก็จะเลิกคบ..พอเลิกคบก็ไม่มีเรื่องอะไรมารวมให้จิตเกิด..
    กรณีที่เจ้ากรรมนายเวรมาสื่อให้เรารับทราบได้ก่อนมีเหตุเพราะตัวเราที่สามารถ
    เข้าถึงได้.และตัวเค้าที่สามารถมาถึงได้ สองส่วนประกอบกัน.ด้วยเห็นว่าเค้ามี
    โอกาศที่จะได้รับการอุทิศส่วนกุศลจากเราได้ร่วมด้วย..กรณีที่เค้าไม่ยอมและ
    เข้าถึงตัวได้..อาจเพราะเรายังมีความดีไม่พอที่จะทำให้เค้าเกรงใจ..หรือบางกรณี
    สำหรับพระอริยะท่านก็คือท่านอยากจะจบเรื่องทำนองนี้ในชาตินี้ก็สุดแล้วแต่ท่าน..

    ปล.ยาวหน่อยแต่คิดว่าอ่านแล้วจะเข้าใจอะไรหลายๆอย่าง..;)
     
  5. Raibliss

    Raibliss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +113
    เข้าใจแล้วค่ะ :) :) ขอบพระคุณคุณnopphakanมากเลยค่ะ ยาวแต่มีคุณค่าค่ะ เข้าใจอะไรขึ้นเยอะเลย :)
     
  6. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    อ่านแล้วทำให้นึกถึง ใครก็ไม่รู้ ผู้หญิง มาหาตอนกลางคืน
    จำได้ว่า คืนนั้นรู้สึกตัวขึ้นมา ได้ยินเสียงประตูห้องปิดเบาๆ แล้วเตียงมันก็ยวบลง เหมือนมีคนขึ้นมานั่งบนเตียง ซึ่งตอนนั้นเรานอนตะแคงข้างอยู่ เธอมานั่งอยู่ข้างหลัง ได้ยินเสียงเธอเรียกชื่อใครไม่รู้ แต่เป็นชื่อโบราณๆ ยาวๆ (จำไม่ได้) แล้วเธอก็ว่า เธอขอโทษ ที่ทำให้...มาเป็นแบบนี้ (น้ำเสียงแบบเสียใจมีสะอื้น)เราก็งงซิชื่อใคร .เลยนึกถามเธอไปว่า เธอคือใคร มาขอโทษเรื่องอะไร พอเราถาม ทุกอย่างก็เงียบ ไม่มีเสียงตอบ เราก็เลยลืมตา แล้วผลิกตัวไปดู ก็ไม่เห็นอะไรผิดปกติเลย แต่ก็นึกไปว่า เราอโหสิกรรมให้.แล้วก็ไม่เคยได้ยินหรือมาหาอีก
    กับอีกเรื่องคือ ช่วงสายๆของเช้าวันหนึ่ง รู้สึกตัวแล้ว แต่ยังไม่ได้ลืมตา นอนตะแคงเหมือนกัน อยู่ๆได้ยินเสียงผู้ชาย (ชัดมาก ดังแบบรู้เลยว่ายืนอยู่ข้างเตียง)ถามเราว่า จะไปหรือยัง มารับแล้ว ซึ่งเราก็งงซิ แต่ก็ยังนอนหลับตาอยู่ แบบยังไม่ทันตั่งตัว ก็มีเสียงตอบออกจากแถวอกเราว่า ยังเป็นห่วง แม่กับน้องอยู่ แล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก เรารู้สึกตกใจและสงสัยมาก ทั้งๆที่เรามีสติอยู่ และกำลังนึกสงสัยในเสียงผู้ชายคนนั้นอยู่ ทำไมจึงมีเสียงอีกเสียงที่ดังออกจากตัวเรา เสียงที่ได้ยิน มันไม่ใช่เสียงเรา แต่เรารู้ว่าคือเรา... เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นมานานพอสมควรแล้ว แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เราเข้าใจอะไรเลย เสียงผู้หญิงยังพอเข้าใจได้ แต่เสียงผู้ชาย มันยังไงกัน บางคนว่าเป็นยมทูตมารับ แต่อยากจะถามหน่อยเถอะ ถ้าท่านยมมา ทำไมต้องถามความสมัครใจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 มิถุนายน 2014
  7. Raibliss

    Raibliss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +113
    อาจจะเป็นใครที่เราเคยสัมพันธ์กันมาแต่ก่อนหรือป่าวคะ ยังมีความผูกพันกันอยู่ แต่ลักษณะของคุณdawlongเค้ามาดีแน่ๆเลยค่ะ ลักษณะเตียงยุบลงไปแบบนี้เราเคยเป็นครั้งนึงค่ะ นอนปิดไฟล็อคประตูเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่หลับสนิท ได้ยินเสียงเหมือนคนเข้ามาในห้อง ตอนนั้นเราก็งงๆว่าล็อคประตูแล้วเข้ามาได้ไง ตอนได้ยินเสียงคนเดินเข้ามามีความรู้สึกว่าเป็นผู้ชายวัยรุ่น เราก็นึกว่าเป็นน้องชายเรา ตอนนั้นทำไมไปคิดว่าเป็นน้องชายก็ไม่รู้ แล้วเราก็รู้สึกเหมือนเค้าข้ามตัวเราไปนอนด้านซ้ายเรา แบบเอามือยันหัวตะแคงหันมาทางเรา เราก็ไม่ได้ลืมตาเลยนะคะ แล้วเราก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาเป่าๆที่หู เท่านั้นแหละเรารู้สึกกลัวขึ้นมาทันที อยู่ๆเค้าก็หัวเราะออกมา หึๆๆ เหมือนรู้ว่าเรากลัว เราก็เลยรวบรวมความกล้าลืมตาละหันไปทันที ปรากฏว่าง ไม่มีอะไรเลย ประตูก็ล็อคเหมือนเดิมตามปกติ...
     
  8. pealogin

    pealogin สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +21
    สิ่งที่เห็นภายนอกอย่าไปเอามาเป็นประเด็นสนใจมากจะพาคุณหลงทางและการปฏิบัติจะไม่กัาวหน้า การเห็นสิ่งข้างนอกนะเห็นจริงแต่สิีงที่เห็นไม่จริง กลับไปกำหนดใหม่นะจะหายไปเองทั้งฝันและนิมิตที่เห็นระหว่างสมาธิ
     
  9. pealogin

    pealogin สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +21
    อย่าไปหลงเชื่อฝัน อย่าไปเชื่อคนอื่นให้เชื่อ ธรรม ของจริงไม่มีตัวตน แต่รู้ในจิตจ๊ะ
     
  10. samzuzaa

    samzuzaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +501
    แปลกจัง...สมัยนั้นไม่น่าจะเรียกพระมหากษัตริย์เหมือนสมัยนี้หรอกนะ...รามาธิบดีที่๑ เพิ่งจะมาจัดลำดับเรียกพระองค์แบบนี้กันทีหลัง พระองค์ท่านชื่อ พระเจ้าอู่ทอง ถ้าวิญญาณมาจากสมัยนั่นจริงไม่น่าเอ่ยพระนามแบบหนังสือเรียนสมัยนี้...คาดว่า น่าจะเป็นจิตใต้สำนึกลึกๆของคุณมากกว่า... จิตนิวรณ์ หรือ ธาตุโขป สักอย่างมั้งครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...