เรื่องเด่น แชร์เล่าเรื่องหลวงปู่มีชัย กามฉินโธประสบการณ์ในสามจังหวัดชายแดนใต้ครับ

สาธุครับ..

 

สวัสดียามดึกครับ พี่ประกิจ พี่หญ้าแห้ง พระสารถะ พี่Pattana พี่ นายน้ำ5 คุณ นวธาตุ
คุณ เอกรถไฟ คุณ ae hatyai คุณ เดินตามพระ คุณ pong_06 คุณthitaree_pud คุณ surasit_c คุณ rungaranคุณ chaythoungคุณ watchdog คุณ นอร์ และพี่ทุกๆท่านครับ เข้ามารับพรหลวงปู่ด้วยครับสาธุ สาธุ สาธุ
พุทธัง โลกัง ยัสสะ สิกขัง
เมตตา ลาโภ นะโส วิยะ อาหะ พุทโธ
ชัยยะ ชัยยะ ชัยยะ ไชโย

 

ขอบคุณครับสารวัตร คำสอนของสมเด็จพุฒาจารย์ (โต)
บทนี้ผมอ่านแล้วชอบมาก เป็นคำสอนง่าย ๆ ที่ไม่ต้องแปลครับ

จากที่ผมไปบวชมา ผมได้ถามถึงเรื่องกรรมฐาน
และขอแนวปฎิบัติจากพระอาจารย์ที่เคารพท่านหนึ่งมาครับ

พระอาจารย์ท่านได้เมตตาสอนกรรมฐานง่าย ๆ ให้กับผม
นั้นคือการรู้จิต ท่านได้สอนมาว่ากรรมฐานไม่ใช้การนั่งสมาธิอย่างเดียว
การรู้ตัวเอง การตามดูจิตตัวเองขณะที่เราดำเนินชีวิตนั้นก็คือกรรมฐาน

นั่งอยู่ก็รู้ว่านั่งอยู่ พูดคุยอยู่ก็รู้ว่าพูดคุยอยู่ ทำอะไรก็รู้ตัวอย่างนั้น
หากเราตามจิตทันแล้วเราก็จะเห็นจิตที่ละเอียดในระดับต่อไป

ไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมได้ไปเรียนรู้มาจะเป็นการทำสมาธิแบบเดียวกับที่หลวงปู่ทำขณะพูดคุยกับญาติโยมหรือป่าวนะครับสารวัตร

ปล.พระอาจารย์ท่านได้พูดไว้ว่า
กรรมฐานนั้นทำง่ายเป็นสิ่งที่ทุกคนทำได้ แต่ทุกคนไม่ทำเพราะคิดว่ามันยาก

 

ถูกส่วนหนึ่งครับน้องโอ๊ตนั่นคือสติครองจิตอยู่ทุกขณะครับ

 

ครับสวัสดีตอนเช้าๆของวันพุธ ครับอากาศที่พุนพินสดชื่นนะครับ ทานนมร้อนๆสักถ้วยครับ ตื่นมาสวดมนต์ไหว้พระ แล้วมาขอ พรหลวงปู่กัน ครับ ขอพรหลวงปู่ให้ลูกมีโชค มีชัย ชัยยะ ชัยยะ ชัยยะ ไชโย ครับท่านผู้อ่าน

 

สวัสดียามเช้าครับ พี่ประกิจ พี่หญ้าแห้ง พระสารถะ พี่Pattana พี่ นายน้ำ5 คุณ นวธาตุ
คุณ เอกรถไฟ คุณ ae hatyai คุณ เดินตามพระ คุณ pong_06 คุณthitaree_pud คุณ surasit_c คุณ rungaranคุณ chaythoungคุณ watchdog คุณ นอร์ และพี่ทุกๆท่านครับ เข้ามารับพรหลวงปู่ด้วยครับสาธุ สาธุ สาธุ
พุทธัง โลกัง ยัสสะ สิกขัง
เมตตา ลาโภ นะโส วิยะ อาหะ พุทโธ
ชัยยะ ชัยยะ ชัยยะ ไชโย

 

พุทธัง โลกัง ยัสสะ สิกขัง กราบรับพรหลวงปู่
มีโชคมีชัย ชัยยะ ชัยยะ ไชโย...

 

มารับพรหลวงปู่มีชัยครับ

 

กราบ พระคุณเจ้า
หลวงปู่มีชัย กามฉินฺโท ด้วยความเคารพ​

สวัสดี เพื่อนสมาชิกทุกท่าน

 

มารับพรด้วยคนครับ

 

ได้อ่านเรื่องของหลวงปู่ก็เกิดศรัทธาอย่างแรงกล้า ในพ.ศนี้ยังมีพระขลังจริงอยู่ ประเทศไทยอยู่รอดพ้นภัยแน่ๆ กราบขอบพระคุณท่านประกิจที่นำเกียรติคุณของหลวงปู่มาเผยแพร่ให้รับรู้ และขอสมัครเป็นศิษย์หลวงปู่ด้วยคน กราบหลวงปู่ครับ

 

ยินดีครับมาตามรอยหลวงปู่กัน;41

 

ความจริงยังมีพระอริยเจ้าอีกมากมายแต่ไม่มีใครพบเจอและนำเรื่องราวมาเผยแพร่ให้ท่านผู้อ่านได้รู้กัน พระอริยเจ้าท่านก็ไม่แสดงตนหวังแต่นิพพานไม่สนใจทางโลก เรื่องราวของหลวงปู่มีเรื่องเล่าอีกมากมายแต่ผมเองเขียนในเชิงปาฎิหาริย์และความเป็นจริงไม่แต่งเติม จนดูเกินเลยความเป็นจริงไป ท่านที่ดูหนังไทยที่เขาแสดงก็มีการแต่งเติมให้เหนือโลกสุดจะบรรยาย แต่เรื่องราวของหลวงปู่กันเป็นปาฏิหาริย์ที่สัมผัสได้จริงซึ่งต้องเชื่อและศรัทธา ทั้งสองอย่างนี้ผมได้บรรยายอย่างละเอียดแล้วในกระทู้ที่ผ่านมานะครับ

 

สวัสดียามดึกครับ พี่ประกิจ พี่หญ้าแห้ง พระสารถะ พี่Pattana พี่ นายน้ำ5 คุณ นวธาตุ
คุณ เอกรถไฟ คุณ ae hatyai คุณ เดินตามพระ คุณ pong_06 คุณthitaree_pud คุณ surasit_c คุณ rungaranคุณ chaythoungคุณ watchdog คุณ นอร์ และพี่ทุกๆท่านครับ เข้ามารับพรหลวงปู่ด้วยครับสาธุ สาธุ สาธุ
พุทธัง โลกัง ยัสสะ สิกขัง
เมตตา ลาโภ นะโส วิยะ อาหะ พุทโธ
ชัยยะ ชัยยะ ชัยยะ ไชโย

 

กราบ พระคุณเจ้า
หลวงปู่มีชัย กามฉินฺโท​

สรุปคำสอนวิธีปฏิบัติธรรม

ของ

พระราชวุฒาจารย์ (หลวงปู่ดูลย์ อตุโล)

วัดบูรพาราม อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์

...............................

1. เริ่มต้นของการภาวนา ให้บริกรรม เช่น “พุทโธ” เพื่อรวมอารมณ์ให้เป็นหนึ่ง แล้วสังเกตว่าใครเป็นผู้บริกรรม "พุทโธ" โดยอาจตั้งฐานของจิตไว้ในบริเวณใดก็ได้ในกายนี้ ตามแต่จะถนัด เช่นบริเวณกลางทรวงอก เมื่ออารมณ์สงบแล้ว คำบริกรรมจะขาดหายไปเอง ไม่ต้องบริกรรมอีก ให้สังเกตดูความรู้สึกที่ฐานกำหนดอยู่เช่นนั้นอย่าเผลอ

2. รู้ทันจิตสังขารแล้วดูจิตต่อไป ทำความเข้าใจในอารมณ์ความคิดนึกปรุงแต่ง สังเกตราคะ โทสะ โมหะที่เกิดขึ้น โดยให้สติจดจ่ออยู่ที่ฐานกำหนดเดิมเช่นนั้น เมื่ออารมณ์อะไรเกิดขึ้นก็ให้รู้และปล่อยวางอารมณ์นั้นทิ้งไป โดยหันมาดูจิตต่อไปอีกไม่ต้องกังวลใจ ใช้สติรู้เท่าทันอารมณ์อยู่ โดยไม่ต้องวิจารณ์กิริยาใด ๆ ของจิตที่เกิดขึ้น เพียงกำหนดรู้ไปเท่านั้น

3. อย่าส่งจิตออกนอก ระวังจิตไม่ให้หลงคิดเรื่องภายนอก และสังเกตดูความหวั่นไหวของจิตตามอารมณ์ที่รับมาทางอายตนะทั้ง 6 คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ เมื่อจิตเผลอคิดไปก็ให้ตั้งสติระลึกถึงฐานกำหนดเดิม และรักษาสัมปชัญญะให้สมบูรณ์อยู่ที่กายเสมอ ๆ

4. หยุดคิด จิตว่าง เมื่อสังเกตกิริยาจิตไปเรื่อย ๆ จนเข้าใจถึงเหตุปัจจัยของอารมณ์ความคิดนึกต่าง ๆ ได้แล้ว จิตจะค่อย ๆ รู้เท่าทันการเกิดของอารมณ์ต่าง ๆ อารมณ์ความคิดนึกต่าง ๆ ก็จะค่อย ๆ ดับไปเรื่อย ๆ จนจิตว่างจากอารมณ์ แล้วจิตก็จะเป็นอิสระอยู่ต่างหากจากเวทนาของรูปกาย อยู่ที่ฐานกำหนดเดิมนั่นเอง

5. ปล่อยวางความว่าง ถึงจิต ถึงธรรม จิตที่ว่างว่านั้น ยังไม่ว่างจริง แต่การเพียรดูจิตเรื่อยไปนั้น จะทำให้จิตสามารถรู้เท่าทันสิ่งละเอียดที่แอบแฝงอยู่ในจิตได้มากขึ้นตามลำดับ ในที่สุดจิตจะรู้โดยไม่คิด คือหมดกิริยาต่างๆ ของจิต จิตก็จะถึงความว่างที่แท้จริง จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง แล้วอยู่เหนือสภาวะสมมุติบัญญัติทั้งปวง

 

ครับสวัสดีตอนเช้าๆของวันพฤหัสบดี ครับอากาศที่พุนพินสดชื่นนะครับ ทานนมร้อนๆสักถ้วยครับ ตื่นมาสวดมนต์ไหว้พระ แล้วมาขอ พรหลวงปู่กัน ครับ ขอพรหลวงปู่ให้ลูกมีโชค มีชัย ชัยยะ ชัยยะ ชัยยะ ไชโย ครับท่านผู้อ่าน

 

กราบหลวงปู่

สวัสดีครับ สารวัตร และ กัลยณมิตร

คิดดี ทำดี พบสิ่งดีๆ ครับ

 

พุทธัง โลกัง ยัสสะ สิกขัง กราบรับพรหลวงปู่
มีโชคมีชัย ชัยยะ ชัยยะ ไชโย...

 

พุทธัง โลกัง ยัสสะ สิกขัง
เมตตา ลาโภ นะโย วิยะ อาหะ พุทโธ
ชัยยะ ชัยยะ ชัยยะ ไชโย
กราบขอพรหลวงปู่ด้วยเศียรเกล้า

 

น้อมกราบนมัสการ หลวงปู่มีชัย...มารับพรจากหลวงปู่ครับ...