ถ้าปรารถนาเป็นนางแก้ว แต่ว่ายังไม่มีคู่บารมี

การใช้ชีวิตคู่ คือการสร้างภาระให้กับตนเอง
ถ้าปรารถนาจะนิพพานแล้ว การจดจ่อกับเรื่องของคู่ครอง
จะทำให้ไม่สามารถบรรลุมรรคผลได้
เพราะยังคงหลงในวังวลของกามาคุณ หลงในราคะ
หากหมดราคะ จะไม่โหยหาคู่ครอง และเป็นวาระที่ดีที่จะบรรลุ
แม้พุทธองค์ก็ยังต้องละคู่ครองเสียก่อน
ต้องสละออกหมด จึงจะตรัสรู้ได้

 

ฐานะเหลือแต่คำว่า"นาง"
เป็นงั้นเหรอคะ

 

อุ๊ยส์ .. ผมยังไม่รู้ว่าเธอแต่งงานไปแล้วหรือยังอ้ะ

 

อืมจะบอกว่าค่อยๆเป็นค่อยๆไปไม่ต้องรีบคิดดีๆก่อนที่จะตั้งใจทำนางแก้ว เท่าพุทธภูมิเลยนะครับ นานนะครับ วิริยะธิกะนี่ว่านานแล้ว แต่ถ้าไปเจอแบบพิเศษด้วย นานมากเลยนะครับ อย่างผมนี่นานแบบ ชื่อครับ มหาพุทธกัป คิดเอานะครับว่านานขนาดไหน ไม่ได้ให้ท้อนะครับแต่ให้คิดว่ารอได้ไหมแค่นั้นล่ะครับ

 

ขอดันกระทู้ค่ะ พอดีว่าไปถามลูกศิษย์หลวงตาม้าให้แล้วนะคะ ท่านบอกว่านางแก้วมีแค่คนเดียวค่ะ เกิดจากการอธิษฐานและสร้างบารมี เมื่อสร้างบารมีมาถึงจุดนึงจึงอธิษฐานผูกกับพระโพธิสัตว์เพื่อช่วยท่านสร้างบารมี เมื่อท่านบารมีเต็ม นางแก้วจึงลงมาเกิดเป็นพระนางพิมพาค่ะ นางแก้วไม่มีตัวหลักตัวรองนะคะคุณครุกแชง ส่วนเราจะรู้ได้ยังไงว่าคนไหนคือพระโพธิสัตว์ ท่านบอกว่าจะรู้เองเมื่อถึงเวลาค่ะ จะรู้ตั้งแต่แรกไม่ได้ค่ะ ส่วนคู่เสพกามคู่ชีวิตเรามีได้หลายคนค่ะในชีวิตนึง แต่ไม่ใช่ไปคิดว่าคู่ปัจจุบันคือโพธิสัตว์ คือการสร้างบารมีมันต่างคนต่างธรรมค่ะ พอบารมีมากจนถึงจุดนึง บุญจะเป็นตัวนำพาให้มาพบกัน แต่อาจไม่ใช่ชาตินี้ค่ะ ทั้งนางแก้วและพระโพธิสัตว์มีคู่มาแล้วมากมายเพราะเกิดบ่อย แต่เมื่อบารมีมากขึ้นเข้มข้นขึ้น บุญจะเป็นตัวจัดสรรค่ะ เพราะก้อมีพระโพธิสัตว์หลายองค์ที่ลาพุทธภูมิ พระโพธิสัตว์มีเยอะมากค่ะคุณครุกแชง

 

ขอบอกเคล็ดลับนิดนึงนะคะ ปัจจุบันนี้เราทุกคนที่เข้ามาอ่าน ต้องเป็นมนุษย์แน่ๆใช่มั้ยคะ และเรากำลังอยู่ในยุคสมัยของพระพุทธเจ้าสมณะโคดม(ศรีศากยมุนี) ดังนั้นเราควรเอาปัจจุบันเป็นตัววัด ว่าเป้าหมายอยากเป็นอะไร อารมณ์ในปัจจุบันมันจะเข้มข้นที่สุด อย่างที่ท่านเฮียปอกล่าวค่ะ ว่าเราอ่านเจอชาดกตรงไหนแล้วสะดุด แสดงว่าเราอาจเคยตั้งความปรารถนามาแล้วในอดีต คือมีฉันทะความรักความชอบ

สมมุติว่าเราแน่ใจว่าปรารถนาเป็นนางแก้วตอนอายุ20 แบบตั้งมั่นศรัทธา เราควรใช้ชีวิตที่เหลือในโลกเพื่อให้เจอพระโพธิสัตว์ที่ศีล สัทธา จาคะ ปัญญาเสมอกัน ให้ได้ในชาตินี้ค่ะ แต่ไม่ใช่ไปหาค่ะ มันเป็นการเร่งรัดค่ะ หลังจากอายุ20 คุณต้องประพฤติพรหมจรรย์ รักษาศีล5 ไม่นอนกับใครมั่ว สวดมนต์ อธิษฐาน ตลอด ทางที่ดีอย่ามีแฟนค่ะ มุ่งเลยว่าขอเจอคู่โพธิญาณในชาตินี้ เมื่อคุณทำจริงประมาณ10-20ปีให้หลัง ครูบาอาจารย์จะดลให้เจอค่ะ สำคัญที่วิธีอธิษฐานและการสร้างบารมีของคุณเอง เช่น อยากเป็นนางแก้ว แล้วมัวแต่ทำงานหาเงิน ไม่ได้เป็นหรอกค่ะ นางแก้วต้องสละอะไรหลายอย่าง เช่น สมบัติที่หวงมาทั้งชีวิตสละได้มั้ยคะ ยิ่งทำบารมีขั้นปรมัตถ์ได้บ่อย จะยิ่งเจอคู่โพธิญาณเร็วค่ะ อีกอย่างคือไม่ควรปักความหวังว่าจะเป็นประเภทวิริยาธิกะ ศรัทธาธิกะ หรือปัญญาธิกะค่ะ เพราะพุทธภูมิแต่ละองค์ศักดิ์ศรีเท่ากันค่ะ บางทีเราอยากเป็นวิริยาธิกะ แต่มาเจอคู่โพธิญาณปัญญาธิกะ ก้อต้องเนื่องด้วยสามีค่ะ ไม่เอาตัวเองเป็นหลัก เพราะพุทธภูมิแต่ละองค์จะช่วยกันอยู่แล้ว ภาษาชาวบ้านคือภรรยาคล้อยตามสามีค่ะ นางแก้วต้องเนื่องด้วยสามีค่ะ พูดบ้านๆคืออยากเป็นวิริยาธิกะแต่ต้องคู่กับท่านที่ปัญญาธิกะ แสดงว่าเคยเกื้อกูลผูกพันกันมาก่อนค่ะ อดีตเกิดกันมานานแล้วเป็นอสงไขย การเป็นนางแก้วคือใจรักในการเกิดเป็นหญิง หน้าที่ความเป็นผู้หญิงต้องไม่บกพร่องค่ะ...

 

จะให้ความกระจ่างอีกนิดนึงตรงที่ว่าทำไมใจรักวิริยาธิกะแต่ไปคู่กับปัญญาธิกะ เราต้องตั้งสติกันนิดนึงค่ะ ว่าทุกคนในนี้ที่เข้ามาคงยังไม่มีใครเป็นพระอรหันต์ ดังนั้นการสร้างบารมีบางทีเราทำมาเยอะแล้วค่ะแต่จำไม่ได้ เพราะทำๆหยุดๆ พอมาชาติปัจจุบันนี้ บารมีมันเริ่มรวมตัว มันจะมีทางแยกค่ะว่าจะตัดกิเลสเข้านิพพานในสมัยของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันมั้ย หรือไปต่อ ถ้าไปต่อ ก้อต้องดูว่าชอบ เป็นปัจเจก อัครสาวกหรือพุทธภูมิ

กลับมาเรื่องคู่บารมี เปรียบเหมือนสังคมฝรั่งเค้าจะให้อิสระรักชอบกันเองลองผิดลองถูกกันเองถึงจะใช้ชีวิตร่วมกัน แต่เอเชียเช่นไทยกับจีนไม่ใช่นะคะ การเลือกคู่ต้องดูความเหมาะสม ต้องให้พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายทาบทามตกลง ต้องมีพ่อสื่อแม่สื่อค่ะ อยากเจอคู่บารมีโพธิญาณเร็วๆ ต้องอธิษฐานจิตขอกับพระพุทธเจ้าและพระโพธิญาณบารมีมากๆค่ะ รวมๆคือขอกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั่นแหละค่ะ และท่านจะจัดสรรให้ แต่อาจใช้เวลาเร็วสุด20-30ปีค่ะในชาตินี้ ต้องเป็นผู้หญิงที่เด็ดเดี่ยวมั่นคงในธรรมะจริงๆค่ะ จะรอไหวรึเปล่า... ยิ่งเจอคู่บารมีเร็วยิ่งดีค่ะ จะได้รู้ว่าบารมีส่วนไหนขาดจะได้รีบทำไม่เสียเวลา มีอะไรคู่บารมีเราก้อจะเป็นคนช่วยเตือนค่ะ ไม่เป็นภาระครูบาอาจารย์(ทุกคนที่สนใจธรรมะมีครูทั้งนั้นค่ะ เพราะเกิดกันมานาน ครูท่านจำได้ ท่านก้อมาช่วย)

 

แล้วผู้หญิงคนไหนบอกว่าบำเพ็ญมาทางพุทธภูมิแล้วต้องมาเกิดเป็นหญิง ใกล้จะแต่งงานแล้วไปนอนกับเด็กหนุ่มอีกคนนึงก่อน อันนี้อย่าไปเชื่อค่ะ ขนาดคนอยากเป็นพระอรหันต์ยังต้องรักษาศีล5ศีล8ศีล10 ตามลำดับ แล้วใครไปเข้าข้างอีกว่านางแก้วมีนายขวดเยอะ ตรงนี้ต้องระวังในคำพูดให้มากค่ะ เพราะเป็นการปรามาสพระรัตนตรัย พระโพธิสัตว์ต้องปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าค่ะ เพียงแต่เป้าหมายไม่ใช่ดับทุกข์ แต่เป็นผู้สอนหนทางพ้นทุกข์ เห็นในพันทิปเอาเรื่องนางแก้วมาพูดหาคู่กันหยอกล้อกันไปมา มันบาปมากนะคะ เพราะบางท่านท่านทำบารมีขั้นสละอวัยวะกันแล้วค่ะ

 

สิ่งที่ผู้หญิงหวงและรักหลักๆจะมีอยู่3อย่าง
1.เยื่อพรหมจรรย์
2.ลูกสาว
3.สามี

-ถ้าเธอโดนกระทำโดยไม่ยินยอมกลายเป็นคนไม่บริสุทธิ์ แต่เธอยังให้อภัยไม่โกรธ และอยู่กับปมนั้นมาได้ เธอก้อเป็นนางแก้วได้ (เท่ากับสละอวัยวะและชีวิต)... เป็นเพียงการยกตัวอย่างแต่นักโทษก้อต้องได้รับโทษทางกฏหมาย
-ถ้าลูกสาวเธอจากไปอย่างไม่มีวันกลับแล้วเธอหักอาลัยได้ เธอก้อเป็นนางแก้วได้ (ก้อยังปฏิบัติธรรมอุทิศบุญให้ลูกได้) เท่ากับ สละอวัยวะและชีวิต
-ถ้าเธอมีสามีและสามีนอกใจ มีผู้หญิงมาขอแบ่งไปร่วมชีวิต เธอสละสามีที่เป็นที่พึ่งให้ได้ เธอก้อเป็นนางแก้วได้ (เท่ากับสละอวัยวะและชีวิตเช่นกัน)

***เป็นเพียงการยกตัวอย่าง การสร้างบารมีขึ้นอยู่กับกำลังของใจ เพราะนางแก้วอนาคตต้องเป็นแม่เมือง ไม่ต้องไปหาคู่บารมีโพธิญาณที่เก่งๆค่ะ พอสร้างบารมีหนักขึ้นเข้มข้นขึ้น จะมีผู้ปรารถนาเราเองค่ะ บวกกับที่เราขอจากพระพุทธเจ้าด้วย การสร้างบารมีสำคัญคือความยากถ้าสอบไม่ผ่าน บารมีก้อไม่เกิดค่ะ บางท่านจริตจึงหนักทางตัดภพชาติเป็นพระอรหันต์ดีกว่า... อย่าเข้าใจเพียงว่านางแก้วสำคัญตอนพระโพธิสัตว์สละลูกเมียค่ะ เพราะในชาติที่พระโพธิสัตว์เกิดเป็นกษัตริย์ นางแก้วต้องช่วยปกครองบ้านเมืองด้วยค่ะ นางแก้วต้องช่วยบำรุงพระพุทธศาสนามานานนับอสงไขย และดูแลประชาชนมาตลอดค่ะ ยิ่งบารมีของทั้งคู่เข้มข้น ทั้งพระโพธิสัตว์และนางแก้วจะไม่ไปเกิดในตระกูลต่ำเลยค่ะ เพราะตระกูลนั้นจะเป็นบาปทั้งตระกูลค่ะ ความดีมีไม่พอรองรับค่ะ***

 

บางตำนานบอกว่านางแก้วต้องอยู่โดดเดี่ยวเพราะพระโพธิสัตว์ออกบวช หรือนางแก้วต้องบวชตาม อันนี้สำคัญมากที่สำนวนภาษา อยากให้เลิกคิดว่าผู้ปรารถนาพุทธภูมิเห็นแก่ตัว เพราะบางสถานการณ์นางแก้วกับพระโพธิสัตว์ต้องแยกกันทำหน้าที่ค่ะ ยกตัวอย่าง่ายๆนะคะ แม่ทำงานบ้านล้างจานหลังครอบครัวทานอาหารเสร็จ ในเวลานั้นพ่อก้อขับรถพาลูกไปส่งโรงเรียน ไม่มีคู่คนไหนอยู่ติดกันตลอดค่ะ ยิ่งการทำบารมีตอนแรกๆจะยิ่งไม่เจอกันเลยค่ะ แต่พอพบคู่บารมีของตนแล้ว มันจะมีภาระกิจที่ต้องทำร่วมกันค่ะ อย่างบางท่านบอกว่าต้องอนุโมทนาบุญของพระโพธิสัตว์ ตรงนี้ยังเป็นเรื่องพื้นๆค่ะ เพราะคู่บารมีที่ศีล สัทธา จาคะ ปัญญา เสมอกัน เค้าจะยินดีในความดีทุกประการของกันและกันอยู่แล้วค่ะ ยิ่งนางแก้วขยันสร้างบารมี10 โพธิสัตว์คู่บารมีจะยิ่งรักค่ะ เพราะรักในความดี การอนุโมทนาจึงเป็นเรื่องอัติโนมัติ... ประเด็นสำคัญคืออย่ารีบหาคู่บารมีถ้าบุญยังไม่ถึงค่ะ เพราะจะตกเป็นทาสกิเลสและคนชั่ว... เริ่มแรกต้องอธิษฐานและทำบุญ ทานศีลภาวนา บารมี10ทัศไปเรื่อยๆสัก10-20ปีก่อน จึงแน่ใจว่าไม่ลาจริงๆ เพราะยิ่งทำบารมีนานมันจะเข้มข้นไปเองโดยอัตโนมัติค่ะ...

 

ทีนี้จะมายกกรณีตัวอย่างง่ายๆ เช่น การสละทรัพย์สิน เราเป็นผู้หญิงจริตต้องชอบของสวยงาม วันดีคืนดีเราสะพายกระเป๋าใบสวยที่สุดรักที่สุด และในกระเป๋ามีเงินจำนวนหลายพันด้วย ไปวางลืมไว้แล้วหาไม่เจอ แน่นอนว่ายุคนี้มีกล้องวงจรปิด แต่ลองถามใจตัวเองว่าเราจะหนักแน่นมั้ยหากกระเป๋าตามกลับมาไม่ได้ หรือไม่ได้กลับมาในสภาพเดิมหรือจำนวนเงินหายและไม่ครบ ตรงนี้เป็นการวัดกำลังใจที่ง่ายที่สุดในการเป็นนางแก้วค่ะ

 

มาพูดให้แง่ของการให้บ้างนะคะ เผื่อจะเข้าใจง่ายขึ้นไปอีก
การให้ทาน มีอามิสทาน ธรรมทาน อภัยทาน

นางสาวมะลิอยากซื้อหนังสือธรรมะถวายวัด นางสาวมะลิต้องพิจารณาว่าควรแจกหนังสือธรรมะหมวดใดเนื้อหาใด ต้องคำนึงถึงผู้อ่านว่ากลุ่มผู้อ่านคือใครเกิดประโยชน์แค่ไหน เช่น กลุ่มเด็กนร.ต้องแจกการ์ตูนธรรมะ กลุ่มคุณยายชอบถือศีลอุโบสถต้องแจกบทสวดมนต์ เป็นต้น ทีนี้นางสาวมะลิต้องคำนวณด้วยว่าต้องแจกกี่เล่ม เล่มละกี่บาท และจะเรี่ยไรเงินผ่านทางช่องทางไหนที่จะรวบรวมเงินให้ได้มากที่สุด ตรงนี้ถ้านางสาวมะลิปรารถนาจะเป็นนางแก้ว ก้อจะได้อานิสงส์ด้านธรรมทานและปัญญาในบารมี10ทัศด้วยค่ะ

 

ต่อมาที่อามิสทานนะคะ เช่น ภัตตาหารคาวหวาน
นางสาวแก้ว ที่บ้านเธอทำอาชีพขายอาหาร เธอเป็นผู้หญิงหัวโบราณ เงียบๆเรียบร้อย เธอเรียนไม่เก่งแต่ชอบทำทานมาก

ประเด็นคือ นางสาวแก้วทำอาหารได้หลายประเภท ทุกท่านคิดว่านางสาวแก้วจะปรารถนาเป็นนางแก้วจากการถวายภัตตาหารแก่พระภิกษุสงฆ์ได้มั้ยคะ

นางสาวแก้วเธอความรู้น้อยค่ะ เธอจึงขยันศึกษาหาข้อมูลว่าอาหารใดที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามพระสงฆ์ฉัน และเธอยังหาข้อมูลอีกว่ายุคนี้คนนิยมถวายอาหารอะไร เมื่อเธอได้ข้อมูล เธอก้อมาดูวัตถุดิบที่มีอยู่ในครอบครัวของเธอเองและราคาไม่แพง เพราะกิจการทางบ้านเธอก้อไม่ได้ร่ำรวย

ตกลงนางสาวแก้วตัดสินใจทำน้ำปาณะเช่น น้ำมะตูม เก็กฮวย ตะใคร้ ใบเตย กระเจี๊ยบ ถวายพระค่ะ เพราะเธอคำนึงถึงสุขภาพของพระภิกษุสงฆ์ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานกันมากจากการทานขนมหวาน และประเทศไทยอาการร้อน น้ำจึงเป็นโภชนาหารที่ดับกระหายได้ดีค่ะ

จะเห็นได้ว่านางสาวแก้วเธอก้อปรารถนาเป็นนางแก้วได้ ด้วยความพยายามหมั่นเพียรจนเกิดความรู้หรือปัญญาค่ะ

 

ช่วยอะไร สาวน้อย?

ฮ่าๆๆ

 

ช่วยอยู่ห่างๆใง
55555+

 

ลองพิจารณาดู จากหลาย ๆ ท่าน สิ่งสำคัญ คือกำลังใจ ของผู้ปราถนาเป็นนางแก้ว
( ช่วงนี้ระวัง โควิด ) ด้วย นางแก้วก็ติดโควิดได้