ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

สวัสดีค่ะ......
นำพระมาให้ชมบ้างนะคะ อยากเห็นค่ะ

 

กราบสมเด็จหลวงพ่อทวดค่ะ...
ตามหา รุ่นจักรภัทร ปี 2544 ได้อีกหนึ่งองค์ค่ะ

พระจะถึงวันจันทร์นี้ค่ะ...

 

ครั้งที่ 2
ปกติจะขับมอเตอร์ไซด์ไปทำงาน เพราะสะดวกค่ะ....วันนั้นฝนตกแรงมาก ก็เลยจอดรถที่ทำงาน และให้ผู้ใหญ่ที่่บ้านมารับค่ะ.....ระหว่างที่จะเดินไปที่รถมอเตอร์ไซด์เพื่อจะเก็บรถให้เรียบร้อยที่โรงรถ เพราะจอดตากฝนอยู่ ก็ได้พบกับที่ที่ทำงานห้องผ้า ซึ่งท่านได้ร่วมทำบุญ เมื่อครั้งไปทอดกฐินที่วัดมะเดื่อทอง ปัตตานี ซึ่งท่านบูชาพรานบุญ ไป 3 องค์ พี่คนนี้รอลูกมารับ แต่ติดต่อลูกไม่ได้ ก็เลยขอโดยสารกลับด้วย

ท่านได้เล่าให้ฟังค่ะ ว่า เจอเหตุการณ์ เกี่ยวกับนำวัตถุมงคลพรานบุญ เข้าบ้าน....

ได้นำพรานบุญ เข้าบ้านไป 2 วัน และอยากจะอวด(โชว์) ให้ลูกสาวดู
แม่.......แม่ได้ของดีมา มาดูสิ
ลูกสาว...ของดีอะไร ตัวลูกก็มีของดีอยู่แล้ว ลูกสักยันต์ 9 แถว ก็ของดีเหมือนกัน
แม่.......มามา ขึ้นมาดูของดีนิ อยู่ข้างบน วางไว้ที่หิ้งพระ.....

ทั้งแม่และลูกก็พากันเดินขึ้นบันได เพื่อขึ้นไปชั้น 2 ของบ้าน แม่จะพาไปดูหน้ากากพรานบุญที่ได้บูชามา ระหว่างที่เดินขึ้นนันได ลูกสาวก็อุทานค่ะ

ลูกสาา.... แม่แม่ ทำไมกั้งเดินแบบนี้ คือเดินย่อง แบบนายพราน....เดินย่องย่อง

แม่........ เฮัย ไอกั้งทำไมแกเดินแบบนั้น.....แกล้งหรือเปล่า

ลูกสาว.... แม่ กั้งไม่ได้ทำนะ ทำไมกั้งเดินแบบนี้ละแม่ แม่ช่วยกั้งที ......

แม่....... สงสัยไอกั้ง...เจอดีแล้ว.......

เล่าสู่กันฟังค่ะ....หน้ากากพรานบุญ ก็เพิ่งเคยเห็นเหมือนกันค่ะ เพื่อนนำมาบอกบุญเมื่อวันทอดกฐินวัดมะเดื่อ 10 องค์

น้องอีกคน บูชาไป ก็เล่าให้ฟัง เหมือนกันค่ะว่า....เอาเข้าบ้าน พอกลางคืน ฝัน ว่า เห็นมโนราห์ ยืนอยู่บนเรือ และมาเรียก......

ส่วนตัวเก็บไว้ 1 องค์ ยังไม่เจอประสบการณ์ ค่ะ

 

กราบสมเด็จหลวงพ่อทวดค่ะ

สวัสดียามเช้า....ค่ะ.....



ครั้งหนึ่งเคยนำเรื่องเล่า ผมเกล้านางนี มาให้อ่าน....
ลิงค์นี้ค่ะ คงจำกันได้..
http://palungjit.org/threads/ใครศรัทธา-หลวงปู่ทวด-เหยียบน้ำทะเลจืด-มาพูดคุยกันครับ.265525/page-1000

หน้า 1000

เมื่อเดือนที่แล้ว ได้ไปประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ค่ะ พอพักเที่ยงได้ร่วมรับประทานอาหารกับสมาชิก ในโต๊ะอาหาร ได้ยินคุณพี่ท่านหนึ่ง ท่านพูดเรื่องผม "คุยภาษาใต้"
ผมผีผูก.....ก็เลยแอบนั่งฟังไปด้วย.....

ท่านเล่าว่า ผมนี้ เพิ่งจะขึ้นมา ท่านก็อายุเลยเกษียณราชการ น่าจะประมาณ 62 ปี
จับใจความได้ว่า ผมนี้เพิ่งจะขึ้น ได้สัก 3 วัน และเห็นท่านก็เปิดโชว์ให้เพื่อนที่ร่วมโต๊ะอาหารดู (เป็นแบบปมเล็กๆ ม้วนเกียวกัน) เพื่อนก็ถามว่ามันขึ้นได้อย่างไร

พี่ผู้หญิงคนนั้นก็เล่า ให้ฟังว่า ฝันว่ามีผู้หญิงมาบอกว่าจะให้ของดี ให้เก็บไว้ดีๆ พอตื่นเช้าขึ้นมา ไปอาบน้ำสระผม ก็เจอปอยผมขึ้นอยู่ท้ายท้อย...ยาวประมาณ 2 เซนติเมตร....แต่เมื่อมองที่พี่เขาเปิดให้เพื่อนดู ยาวประมาณ 3 นิ้ว.....

 

เมื่อวันพฤหัสที่ 4 ธค.57 ที่ผ่านมา

มีเหตุให้ต้องไปส่งพี่สาวกับป้า ซึ่งท่านขอช่วยให้ไปส่งที่บ้านหลังหนึ่ง.....
ซึ่งไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ทำให้วันนั้นต้องลางานทั้งวัน

พาไปอาบน้ำ ทุกวันพฤหัส ให้ครบ 3 วัน
ทราบว่า ท่านโดนคนทำของใส่.....

บางอย่างสิ่งที่เหนือธรรมชาด ก็ไม่คิดว่า มันมีอยู่จริง...
สมัยนี้เทคนี้เทคโลยีก้าวไกล ทำให้คนสมัยใหม่ ไม่เชื่อเรื่องราวแบบนี้
แต่ผู้ที่เคยสัมผัสและลิ้มรสชาติ มา ได้ทราบถึง ว่าเมื่อใครโดน คือ ไม่มีความสุข
เป็นทุกข์ คือเรียกว่า มันทำกันขนาดให้ตายกันไปข้างหนึ่ง

ก็ขอภาวนาให้ผ่านอุปสรรค ผ่านความทุกข์ที่โดนเขากระทำ ให้หายในเร็ววัน
สงสารค่ะ เพราะเขาโดนมาเป็น 10 ปี ขนาดนี้ก็เดินไม่ได้แล้ว หวังว่าบุญกุศลที่เขาเคยสร้างไว้ ให้บุญนั้น ได้สงเคราะห์ให้เขาสามารถกลับมาช่วยเหลือตัวเองได้ เพราะตอนนี้ก็เป็นภาระให้กับคนรอบข้างตัวเอง ต้องดูแลช่วยเหลือ เพราะเขาไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย......หวังเล็กๆ ด้วยอำนาจแห่งบุญ ขอให้ 3 พฤหัสนี้ เขาได้ไปอาบน้ำ ทุกครั้ง ไม่ติดขัดอะไร....เป็นการถอนของก่อน ผู้ทำให้ท่านก็ไม่ได้หวังอะไร เพราะท่านอยากช่วยเหลือ .......

เราก็เป็นเพียงสะพานบุญ....ที่จะนำเขาไปที่นั่น แต่อุปสรรคมากเหลือเกิน เพราะของพวกนี้ ส่วนมากมันจะมาขวางไม่ให้เรานำพาเขาไปที่นั่นได้.......


ระหว่าง ที่ท่านผู้ทรงศีล กำลังทำการอาบน้ำ ให้ เราก็พูดกับท่านว่า เกือบจะไม่ได้พามาแล้ว เพราะติดอะไรหลายอย่างกว่าจะได้ออกจากบ้าน.....

ท่านผู้ทรงศีล ท่านก็พูดขึ้นมาค่ะว่า ทำไมจะไม่ได้มาล่ะ ในเมื่อมากับหลวงพ่อทวด
ใช่ค่ะ ตลอดเวลาที่นำเขามาเราก็สวดคาถาหลวงพ่อทวดตลอด ว่าให้ไปได้สะดวก.....

เมื่อทำการอาบน้ำแล้ว ก็คิดว่าคงจะได้กลับ และคงเสร็จพิธี แต่ไม่อย่างนั้น....
ท่านบอกว่าช่วงบ่ายจะมีต่อ....ทำยังไงดี เพราะต้องพาพี่กับป้ากลับ พิธียังไม่เสร็จ
ก็เลยตัดสินใจอยู่ร่วมพิธีในช่วงบ่ายต่อ (ลางาน 1 วัน ทั้งที่ทำงานมันยุ่งมาก).....

บางครั้ง เราก็ต้องเลือก....เราทำงานมากจนไม่มีเวลาช่วยเหลือเขาเลยหรือ.....เขาก็ไม่ได้รบกวนบ่อย....เรื่องของเขาสำคัญก่ว่า มันเกี่ยวกับความเป็นความตาย (แต่เราก็เสี่ยงเหมือนกัน ถ้าหากงานวันนั้น เป็นงานในหน้าที่ที่สำคัญ) ก็ตั้งจิตว่า หากวันนี้ลูกมาช่วยงานบุญ ที่ให้เขาพ้นจากกรรมของเขา ให้เบาบาง ก็ขอให้ลูกสะดวกไม่ติดขัด ขอให้งานในหน้าที่ของลูก ก็เบาบางด้วยเถอะ ขอกำลังพระอีกแล้ว.......

 

ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่สุดยอด...
พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ในเรื่องความเชื่อ...

ระวังสับสนกับ กามสูตร
กาลามสูตร คือ พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ หมู่บ้านเกสปุตตนิคม แคว้นโกศล (เรียกอีกอย่างว่า เกสปุตตสูตร ก็มี[1])
กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ มีอยู่ 10 ประการ ได้แก่

มา อนุสฺสวเนน - อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามๆ กันมา
มา ปรมฺปราย - อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบๆ กันมา
มา อิติกิราย - อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ
มา ปิฏกสมฺปทาเนน - อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์
มา ตกฺกเหตุ - อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเดาว่าเป็นเหตุผลกัน
มา นยเหตุ - อย่าปลงใจเชื่อ เพราะการอนุมานคาดคะเน
มา อาการปริวิตกฺเกน - อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเดาจากอาการที่เห็น
มา ทิฎฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา - อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้ากันได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว
มา ภพฺพรูปตา - อย่าปลงใจเชื่อ เพราะผู้พูดมีลักษณะน่าเชื่อถือ
มา สมโณ โน ครูติ - อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้ เป็นครูของเรา
เมื่อใดสอบสวนจนรู้ได้ด้วยตนเองว่า..ธรรมเหล่านั้นเป็นอกุศลหรือมีโทษเมื่อนั้นพึงละเสีย และเมื่อใดสอบสวนจนรู้ได้ด้วยตนเองว่า..ธรรมเหล่านั้นเป็นกุศลหรือไม่มีโทษ เมื่อนั้นพึงถือปฏิบัติ



ที่มา: หนังสือ "พระไตรปิฎก ฉบับดับทุกข์" จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์สุขภาพใจ (หน้า 41-42), หนังสือ "พระไตรปิฎกสำหรับประชาชน ย่อความจากพระไตรปิกฉบับบาลี 45 เล่ม" (หน้า 510) จัดทำโดย สุชีพ ุญญานุภาพ, หนังสือ "ธรรมาธิบาย หลักธรรมในพระไตรปิฎก" (หน้า 620 - 621) เรียบเรียงโดย อาจารย์ปัญญา ใช้บางยาง และคณะ

ที่มา
Th.wikipedia.org/wiki/กาลามสูตร

 

ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ทันสมัย

ก่อนจะถึงเวลาในช่วงบ่าย

วันนั้นจะมีบรรดาลูกศิษย์หรือคนใกล้ชิดทะยอยกันมาเรี่อยๆ ...เมื่อถึงเวลา....
ก็มีเทพ มาผ่านร่าง เมื่อท่านมา ท่านก็พูดทักทายกับบรรดาลูกศิษย์ สิ่งที่เคยให้ไปปฏิบัติทำแล้วหรือยัง....

แต่สิ่งที่ท่านเน้นที่สุดคือ เรื่อง สัจจะวาจา

ทุกครั้งที่ได้ไปสัมผัส ก็มักจะจดธรรมะ ไม่นั่งฟังเปล่าๆ ข้อความที่น่าสนใจ บางครั้งฟังแล้วท่านได้สอนข้อคิดให้ บางครั้งก็เกี่ยวโยงมาโดนตรงๆ ถ้าเราใช้สติคิด.....
ในขณะที่เรานั่งฟัง เราได้ข้อคิดว่า ไม่ว่าท่านจะเป็นเทพ เป็นครูบาอาจารย์ แต่ลูกศิษย์บางคน ความสนิทสนม บางครั้งท่านลืมไปหรือเปล่า การคุยเล่น การต่อปากต่อคำมันเสมือนเป็นการปรามาส โดยไม่รู้ตัว โดยที่ท่านไม่ตั้งใจ.....แต่บทสุดท้ายรู้สึกประทับใจค่ะกับเหตุการณ์ที่ได้ไปสัมผัสและมีส่วนร่วมโดยไม่ตั้งใจก็คือ

ได้ทำบุญ
ฟังธรรมะ
ท่านสอนให้รู้จักบาปบุญคุณโทษ
และให้ปฏิบัติเท่าที่ทำได้

ตราบใดที่หลายท่านบอกว่าตัวเองยังไม่บริสุทธิ์
อย่างน้อยก็ขอให้เป็นคนดี ไม่ทำร้ายผู้อื่น หากมอบความสุขหรือทำให้คนอื่นมีความสุขบ้าง ก็ทำไปเถอะ....

อีกข้อที่สำคัญ ที่ท่านสอนธรรมะ คือว่าด้วยการหมิ่นเบื้องสูง
ให้เพิ่งระวัง เพราะกรรมมันติดจรวด.....ผู้กระทำยอมได้รับผลแห่งการกระทำนั้น

เมื่อย้อนกลับมา การหมิ่นคนอื่นเป็นเรื่องใกล้ตัวเหมือนกัน
หากไม่รู้จริง ให้ใคร่ครวญฟังด้วยความมีสติ....
พูดให้คนอื่นเสียหายอย่าทำ.....

 

เมื่อ ท่านคุยกับบรรดาลูกศิษย์เรียบร้อยแล้ว

ก็หันมามองตรงที่เรานั่งอยู่ แล้วพูดว่า ไปสัจจะวาจาอะไรไว้ ก็ให้ทำให้เขาเสียนะ
ทำได้แล้ว...

สิ่งแรกที่นึกถึงตอนนั้นก็คือ (ภาพสถานที่พักพระศพของหลวงปู่มันลอยมาทันที)
เคยกล่าวกับสมเด็จหลวงปู่ทวดว่าลูกจะข้ามฝั่งไปมาเลเซีย ณ สถานที่แห่งนั้น แต่ยังไม่มีโอกาส ไปเพราะไม่มีคนนำทาง.....

สิ่งที่ 2 คือเรื่องงาน งานในหน้าที่ปัจจุบันเยอะจริงๆ ยังค้างส่งอยู่หลายชิ้น


จากนั้นเทพองค์นั้นก็เล่าเรื่องหลวงพ่อทวดขึ้นมาทันที ตั้งแต่ประวัติเมื่อก่อน
จนบรรดาลูกศิษย์ตรงนั้นต้องนั่งรับฟังเรื่องราวของสมเด็จหลวงพ่อทวดไปด้วย...

ท่านถามกลับว่า เคยเห็นหลวงพ่อทวดหรือเปล่า....เราก็ไม่พูด...
เพียงแต่ถามท่านกลับไปว่า แล้วประสบการณ์ที่พบเจอเหตุการณ์เรื่องราวของหลวงพ่อทวดที่ผ่านมาเป็นจริงหรือคิดไปเอง....
ท่านก็ตอบกลับมาว่า อย่าคิดว่าไม่เป็นจริง....ให้เชื่อมั่น....

ท่านเล่าผ่าน ถึงสมัยหลวงพ่อทวดได้กู้แผ่นดินไทย
ย้อนถามวันเกิด เขียนตามที่ได้จดมานะคะ เราก็อ่านตามประวัติบ้าง
ท่านว่า วันพฤหัส ปีฉลู และปีพ.ศ.

พูดถึงเรื่องพราหมณ์ ทั้ง 7 (ที่เป็นเรื่องเล่า)

ตัวอักษร สะ กะ ยะ มะ ปะ ริ กะ ไม่แน่ใจจดถูกหรือเปล่า ยังไม่ได้กลับไปอ่านประวัติอีกครั้ง หายจากพระไตรปิกฎ

-การเกิดโรคระบาด

-พระสมนศักดิ์ พูด 3 ครั้ง ราชิกาสามีราโม

-โจรปล้น

-ดอกมนฑาทิพย์

-ศุกร์ที่ 3 ปีระกา การสมโภชน์เจดีย์วัดพะโคะ

-ลูกแก้ว(อาจเป็นจำลอง) ที่วางหน้าหลวงพ่อทวด
เมื่อมีเหตุไม่สบายใจ ให้นำมาสรงน้ำ แล้วเอาน้ำนั้นมาพรหมหัว
ใส่ในรถเดินทางไกล


จดได้แค่นี้ค่ะ ลองหาประวัติหลวงพ่อทวดอ่านดูนะคะ....

ส่วนเรื่องฝั่งมาเลเซีย ท่านพูดว่ามี 7 แห่งที่มีไม้ปัก

แต่จะมี 3 แห่ง ที่มีความสมบูรณ์อยู่ อีก 4 แห่งนั้นมองไม่เห็น

คิดอยู่ในใจว่า อาจจะได้เดินทางไปฝั่งมาเลเซียกับคณะนี้
เพราะท่านก็ถามว่าพวกเราไปตามรอยหลวงพ่อทวดกันดีไหม

และท่านก็ถามว่าที่ขนอมไปแล้วหรือยัง.....
ยังไม่ได้ไปเลยค่ะ จะหาโอกาสไปสักครั้ง....

 

ท่านบอกเรื่องทำบุญไว้ 3 อย่าง

คือ
- ทำบุญพระพุทธเจ้า (บำรุงพระพุทธศาสนา)
- ทำบุญกับบุพการีพ่อแม่ ผู้มีพระคุณเลี้ยงเรามา
ให้ล้างเท้าให้ท่าน หากท่านใดยังมีพ่อแม่อยู่.....(จะดีมาก)
- ข้อ 3 จำไม่ได้...

และท่านก็หยิบหนังสือพระไตรปิฎก เปิดหน้าให้อ่าน

ให้ท่องนะโมตัสสะก่อน

ว่าด้วยเรื่อง
-นรกภูมิ
-เดรัจฉานภูมิ

และได้ร่วมบุญมอบหนังสือไตรภูมิพระร่วง 1 เล่ม มอบหนังสือให้กับวัด ซึ่งเป็นสถานศึกษาของสามเณรหลายรูป
ที่นั่น จะนำไปให้วัด จำนวน 90 เล่ม

 

อนุโมทนา ด้วยนะครับ คุณนวล
ผมนี่ยิ่งอยู่ยิ่งห่างวัด สงสัยต้องกลับไปตั้งต้นใหม่บ้าง

 

เมื่อกลับจากบ้านหลังที่พาไปอาบน้ำ....นั้น

เมื่อวานเป็นวันพระ ...ก็หยิบภาพหลวงพ่อทวดมาปักต่อ
พอปักไปสักพัก ....ป้าก็โทรเข้ามาค่ะ ว่าไปวัดมาและได้รับหนังสือ
ท่านเอามาฝาก.....ท่านบอกว่าท่านผู้มอบให้จะมอบให้กับคนที่สนใจและปฏิบัติธรรม
ก็รับปากท่านว่าจะแวะเข้าไปรับหนังสือ

เมื่อเช้ามีเวลาก็ได้มาเล่าเรื่องราวในเวปนี้.....
พอเล่าเสร็จคิดว่าจะไปหาป้าและแวะไปเอาหนังสือ......
แค่นึกถึงเท่านั้นป้าก็โทรเข้ามาหา ว่าให้ไปเอาหนังสือได้แล้ว.....

และฝากให้ทำหนังสือ บท่สวดธรรมโลกุตระ สัจจะ ธรรม

 

กราบสมเด็จหลวงพ่อทวดค่ะ
ครบรอบ 50 ปี
ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำนักงานภาคใต้

ได้มอบเงิน 300,000 บาท สมทบทุนซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับตึกมะเร็ง
โรงพยาบาลหาดใหญ่....
และทางธนาคารได้จัดทำเหรียญที่ระลึก 50 ปี

 

กราบสมเด็จหลวงพ่อทวดค่ะ....

พรุ่งนี้จะเดินทางไปกราบสถานที่ สำคัญของหลวงพ่อทวด และข้ามฝั่งไปประเทศมาเลเซีย....

(จากที่เคยตั้งใจว่าจะต้องไปกราบสถานที่ ประวัติของหลวงพ่อทวดที่ฝั่งประเทศมาเลเซีย ได้ไปสมดังที่ตั้งใจไว้แล้วค่ะ พรุ่งนี้เดินทางจากหาดใหญ่ 07.00 น.
แล้วจะนำภาพมาให้ชมนะคะ...)

 

กราบสมเด็จหลวงพ่อทวดค่ะ
สวัสดียามดึกค่ะญาติธรรม

เมื่อวานหลังจากเข้าไปเคลียงานประมาณ 2 ชม. ก็ได้แวะไปซื้อดอกมะลิ และหมากพูลค่ะ เพื่อนำไปสักการะ ยังสถานที่ ประวัติศาสตร์ที่หลวงพ่อทวดท่านธุดงค์ ไปยังประเทศเพื่อนบ้านมาเลเซีย.....

ก่อนนอนก็เข้า fB(เฟสบุค กระทู้น้องตู้เก้ ลงภาพหลวงพ่อทวด....).....

 

ตื่นเช้าเตรียมตัวไปยังจุดนัดพบ เพื่อไปขึ้นรถตู้เข้าไปยังชายแดนประเทศมาเลเซีย โดยผ่านด่านปาดังเบซาห์.....

เช้าๆ พี่ต้องซื้ออาหารไปให้ทางบ้านแม่ก่อน เพราะไม่อยากให้แม่เดินข้ามถนน ไปซื้อเองเพราะท่านเริ่มเดินไม่ไหว ทุกครั้งเวลาจะเดินทางไปไหน ก็จะบอกท่านเสมอค่ะว่าไปต่างจังหวัด แม่ก็จะอวยพรให้เดินทางปลอดภัย (พรของพ่อแม่เป็นมงคลค่ะ)....
จากนั้นก็แวะไปรับคุณป้า ซึ่งท่านเป็นเพื่อนของแม่ ซึ่งท่านแนะนำให้ได้รู้จักกับคณะทัวร์ที่จะเดินทางไปด้วยกัน.....ที่หาดใหญ่ฝนตกมาสองวันแล้ว วันนี้ก็ตกอีก....
ซึ่งนัดกับทีมที่จะเดินทาง ในเวลา 07.00 น. เมื่อขับรถมาถึงแยกสนามบิน ก็เห็นมีรถตู้วิ่งนำหน้าและเลี้ยวทางเดียวกัน ก็เลยคุยกับคุณป้าว่า สงสัยจะเป็นรถคันที่ทางคณะเหมาเอาไว้....ก็ขับตามรถตู้คันดังกล่าวเพื่อไปยังบ้านที่นัดขึ้นรถ พอรถตู้เปิดไฟเลี้ยวซ้ายก็ทำให้มั่นใจยิ่งขึ้น แต่ระหว่างที่เลี้ยว รถตู้ก็เบรคกะทันหัน พี่ขับตามก็เลยขับเฉียงออกไปด้านข้างถนนใหญ่.....
รถตู้หยุดให้รถ ที่จะออกมาจากซอย (ซึ่งซอยนี้รถวิ่งได้คันเดียว ซอยแคบ)........

แล้วก็เลยเลี้ยวรถถอยกลับและหันหัวรถจะเลี้ยว แต่ไม่รู้ว่ามีคู่น้ำอยู่ด้านข้าง.....

เคยขับเข้าออกในซอยนี้ 2 ครั้งไม่เคยสังเกตเห็นเลยค่ะว่ามีคู่น้ำ......

 

ระหว่างที่อยู่ในรถ รถกำลังจะไหลลง แต่หยุดนิ่งอยู่นิดนึง และจะเลื่อนไหลลงอีก ตั้งสติได้จึงรีบดึงเบรคมือ (รถเกียออโต้ค่ะ) ป้าก็เลยเปิดประตูรถออกไป ส่วนตัวเองออกทางด้านคนขับไม่ได้ต้องปีนออกทางเดียวกับป้า ช่วงนั้นตอนเช้าก็ไม่ค่อยมีคน จนมีรถมอเตอร์ไซด์ขับผ่านมา และรถกะบะสีดำ ขับมาและช่วยเหลือ (ขอบคุณน้องรถกะบะค่ะ จริงๆแล้วน้องเขาก็รีบเดินทางไปจ.ยะลา ได้ให้การช่วยเหลือโดยใช้รถของน้องเขาลากให้...และสักครู่ก็มีพี่พี่ผู้ชายหลายท่านมาให้การช่วยเหลือยกรถขึ้นมา....
ขอบคุณทุกทุกท่านค่ะ....

 

ผ่านเหตุการณ์ตื่นเต้นช่วงเช้าไปแล้ว...
ก็รีบนำรถไปจอด และขึ้นรถตู้เพื่อเข้าชายแดนมาเลเซีย...

วัดแรกที่แวะผ่านและเข้าไปกราบสักการะ คือวัดพระบาท ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วัดแห่งนี้สมัยก่อนเป็นป่า ประวัติทราบว่าหลวงพ่อทวดท่านธุดงค์ มา
และเกิดเดินเซ มาพิงที่ต้นปาบ......ที่นี่
วัดแห่งนี้มีรอยพระบาทด้วยค่ะ....

 

ออกจากวัดพระบาท ก็มุ่งตรงไปด่านปาดังเบซาห์...เพื่อเข้าผ่านประเทศมาเลเซีย
ปรากฎว่า ไม่สามารถเอารถตู้เข้าไปได้ เพราะคนขับรถตู้ เอารถที่ไม่ได้ทำประกันรถยนต์กับทางประเทศมาเลเซีย พวกเราจึงไม่ได้ไปตามรอยหลวงปู่ทวด ได้เดินเที่ยวแถวตลาดแขกแทน....
ป้าป้าเขารออยู่ฝั่งไทย ค่ะ ไหนๆมากันแล้วก็เที่ยวตลาดฝั่งมาเลเซียสักหน่อย....นั่งรถเครื่องรับจ้าง (คนไทยนี่และค่ะที่มีอาชีพขับรถมอเตอร์ไซด์รับจ้างแถวนั้น)....ทั้งไปและกลับ โดนกันไปคนละ หนึ่งร้อยบาท....ก็ไม่ได้ซื้ออะไรเลย เพราะดูราคาแล้วพวกของกินซื้อที่สันติสุข ตลาดกิมหยง หาดใหญ่ แพงกว่าไม่กี่บาท แต่เสื้อผ้า กิ๊ฟช๊อบ และของหลายอย่างที่ขายที่นั่นก็เมดอินไทยแลนด์ มาจากประเทศไทย แพงกว่า 100 เปอร์เซ็น...
กลับมาซื้อฝั่งไทยดีกว่า.....

และค่อยนัดกันใหม่ ตามรอยหลวงพ่อทวดฝั่งประเทศมาเลเซีย

ไหนๆ ก็เหมารถกันแล้ว ก็เลยตัดสินใจกัน ว่า นั้นก็ไปตามรอยหลวงพ่อทวดที่ ถ้ำตลอด..อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
วัดช้างให้ ปัตตานี หากมีเวลาเหลือ ก็วัดนาประดูอีกสักวัด ระหว่างทางฝนตกหนักตลอดค่ะ...

 

ออกจากด่านปาดังเบซาห์ เกือบ 10.00 น. รถวิ่งทางสายเก่า....ไม่ค่อยมีรถวิ่งกันเนื่องจากฝนตกหนัก...กว่าจะไปถึงวัดถ้ำตลอด ก็ใกล้เที่ยง ฝนก็ตกหนัก ช่วงที่ไปวัด ก็มีนักท่องเที่ยวมาเลเซีย ประมาณ 20กว่าคน มารอทำพิธีกัน ซึ่งชาวมาเลเซีย ส่วนหนึ่ง...ศรัทธาในพิธีการทางพุทธศาสนาของประเทศไทย เช่นการรดน้ำมนต์ การบูชาพระเครื่อง.... ก่อนที่พวกเราจะไปเที่ยวถ้ำ โดยมีฝนโปรยปราย(เสมือนได้อาบน้ำทิพย์)...ทำเอาเกือบเป็นหวัดกันทั้งคณะเปียกปอน.....ไหนๆก็มากันแล้ว....ที่นี่เคยมา3 ครั้งค่ะ แต่ครั้งนี้ได้เห็นความงดงามขององค์พระ และศึกษาประวัติความเป็นมาของวัด ได้ดียิ่งขึ้นค่ะ ได้ไกด์หนุ่มน้อย 3หนุ่มเล่าเรื่องราวให้ฟัง โดยเฉพาะน้องสำลี เป็นลูกศิษย์วัดที่ท่านเจ้าอาวาสไว้วางใจให้ถือกุญแจ ไขเปิดประตูถ้ำ ให้คณะทัวร์ของเราได้กราบสักการะ องค์พระนอน องค์พระแต่ละองค์ ซึ่งมีอายุหลายร้อยปี(องค์พระปางกดไลน์)ซึ่งช่างสมัยก่อนคงมีณาณพิเศษว่า อนาคตข้างหน้าจะมีคำว่าไลน์เกิดขึ้น มีความงดงาม ภายในถ้ำแห่งนี้.ค่ะ

 

ถ้ำตลอด....
มีทีมจากอาจารย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หาดใหญ่ ร่วมกับลุงชม รัตนะ บ้านถ้ำตลอด ซึ่งขณะนี้ได้เสียชีวิตไปแล้ว
สร้างเสาร์ปูนปั้นปักไว้เป็นเครื่องหมาย ปัจจุบันมีผู้ศรัทธาใด้สร้างสถูปรูปเจดีย์ขึ้นบริเวณดังกล่าว
จุดดังกล่าว อยู่ใกล้ถนนภายในหมู่บ้านปลักทะ ม.6 ต.เขาแดง อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา

พรุ่งนี้มาเล่าต่อนะคะ
นอนหลับฝันดี
หลวงพ่อทวดคุ้มครองให้ปลอดภัยค่ะ